ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 09 ] ตอนที่ 154 ภาคทะเลดวงดาว ตอนที่ 4

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มิถุนายน 27, 2024, 12:45:31 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

ขอต้อนรับเข้าสู่ ทะเลดวงดาว ครับ

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ







ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ







ปล.3 ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมหลังอ่านจบด้วยการดูที่มุมขวาล่างของคอมเมนต์ที่ท่านแสดงความคิดเห็นไว้

เลือกที่เพิ่มเติมและเลือกแก้ไข


★★★★★★★★★★★

ความเดิมตอนที่แล้ว

เฮ้อออ หลังจากดินเนอร์กับดาวแล้ว

ระหว่างทางกลับก็เจอร้านดีๆเลยเข้าไปนั่ง

ที่ไหนได้เป็นร้านของพี่อาร์มเฉยเลย

พี่อาร์มเป็นลูกแม่อร

จนผมต้องชิ่งออกมา พาดาวมาเดินเล่นริมทะเล

และสิ่งที่ผมเคยคิด แต่ไม่คิดว่าจะเกิดจริงๆก็เกิดขึ้น

เมื่อมุมมันได้ บรรยากาศมันได้ ดาวกำลังจะบ๊วบแบบ Out Door ให้ผมคร๊าบบบ



★★★★★★★★★★★

นายโดนไดอารี่ 154
ทะเลดาว ตอนที่ 4

ไม่ ๆ ๆ ไม่ดีแน่ๆ ผมเคยคิดนะว่า เออ.. ถ้าทำแบบกลางแจ้ง เหมือนกับที่ดูในหนังฝรั่งหลายเรื่อง มันจะรู้สึกยังไง ตอนนี้รู้สึกแล้วครับว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลย เอาง่ายๆ สถานที่ท่องเที่ยวระดับนี้ มันต้องมีกล้องวงจรปิด ในทุมที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ ซึ่งจังหวะที่ดาวลงไปนัวกับเป้ากางเกง


ผมลูบหัวดาวเบาๆ และย่อตัวลงไปดึงขึ้นมา  มายืนพิงกำแพงท่าปกติ ดาวก็คงงงๆ ดาวหันมาถามผมว่าไม่ชอบให้ทำเหรอ หรือดาวทำแรง ผมบอกไม่ใช่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  แต่เราไม่รู้ว่าตรงนี้มันมีกล้องตรงไหนบ้าง... ดาวคงไม่อยากไปอยู่ในคลิปในข่าวใช่ม๊าาา


ดาวก็สะดุ้งแล้วส่ายหัวเลยครับ ผมกอดเอวดาวมาแนบตัวไว้ กระขยับไปกระซิบข้างๆหูว่า.. พอถึงห้องแล้วจัดให้พี่หน่อยนะ เธอเม้มปาก มองผมด้วยสายตาสุดเย้ายวนและบอกว่า เดี๋ยวน้ำหมดตัวหรอกพูดแบบนี้น่ะ อื้อหืออออ โดนขู่คร๊าบ คุนรำตวจผมโดนขู่คร๊าบบ


เราสองยืนอยู่แปปนึงจึงขยับขึ้นมานั่งที่ขอบเขื่อน ตอนดึกน้ำทะเลขึ้นมาเยอะเลยล่ะครับถ้าเทียบกับตอนกลางวัน  ณ จุดที่ผมกับดาวยืนรับลมนั้น เอา ณ ช่วงเวลานั้นนะ ไม่มีเสาไฟสีสมสาดส่องครับ ไม่มีเลย จะมีแค่หลอดไฟ ตรงสองข้างฝั่งถนน ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดที่ผมกับดาวยืน มันก็ถูกต้นมะพร้าวบังหมดแล้ว

และหลอดไฟข้างถนนตรงนั้นเป็นสีขาวด้วย ไม่ใช่สีส้มเพราะงั้นเลยดูสบายตาเอามากๆเลยล่ะ  เอ่อเจ็บตูดว่ะ ผมเลยบอกดาวว่าไปเซเว่นกัน ดาวก็บอกว่าพี่โทนเบียร์ยังไม่หมดเลย กินนิดเดียวพอนะ ผมก็บอกว่าไม่ช่ายๆจะไปซื้อของและผมกับแม่เสือดาวก็เดินข้ามฝั่งเข้าร้านสะดวกซื้อ

และนี่แหละคือสิ่งที่ผมบอกว่า ร้านสะดวกซื้อตามต่างจังหวัด หรือ สถานที่ท่องเที่ยวมันจะมีอะไรหลายๆอย่างที่กรุงเทพฯไม่มี ที่นี่ก็เหมือนกันเพราะสิ่งที่ผมจะมาซื้อนั่นก็คือเสื่อ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


ใช่ครับมันคือเสื่อ !!!  เสื้อผืนใหญ่แบบเย็บเชื่อมและสามารถพับเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆได้ มีสายเย็บไว้เพื่อสะดวกกับการหิ้ว นี่ไงล่ะ ผมถึงบอกว่าร้านสะดวกซื้อตามต่างจังหวัด หรือ สถานที่ท่องเที่ยว มักจะมีอะไรที่กรุงเทพฯ ไม่มี ผมข้ามมาฝั่งตรงข้ามไว้ๆเลย

ข้างๆเองก็เริ่มมีกลุ่มคนเล็กๆมานั่ง คือผมกับดาวนั่งบนพื้นปูนนั่นแหละครับไม่ได้ลงไปนั่งที่ผืนทราย เพราะเอาตรงๆก็ไม่รู้ว่าลงไปได้มั้ย และมันผิกกฎอะไรรึเปล่า ผมปูเสื่อ ปูๆๆ อูยยย ลมพัดแรงแท้ดาวรีบมัดรวบผมเป็นหางม้าเหมือนเดิม อื้อหืออ ทรงนี้ก็ยังยอด

ผมกับดาวนั่งบนเสื่อ มองไปที่ทะเลมืดๆตรงหน้า มีต้นมะพร้าวเอนไปมาตามแรงลม ดาวยกกระป๋องเบียร์ยกเบาๆ ส่วนผมเองก็เหมือนกัน... เฮ้อ พอเบียร์ไม่เย็นรสมันเฝื่อนจริงๆแฮะ ลมพัดมาเสียงคลื่นซัดชายหาดก็ดังประกอบไปเรื่อยๆ เฮ้อออ ส่วนดาวก็นั่งมองทะเลไม่วางตาเลย

ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆกอดเอวแล้วถามว่า มองไม่หยุดเลยนะ ดาวเธอเอียงคอมาซบเบาๆ แล้วบอกว่าชอบจังพี่โทน เธอก็ถามว่าพรุ่งนี้อยากตื่นมาเดินเหยียบทรายเล่นจัง ผมก็บอกว่าได้เลยย คือมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยครับคุณผู้อ่าน เพราะว่าจากโรงแรมมาชายหาดเนี่ย เดินกันแค่ 5 นาทีเอง สบายๆเลย

อื้ม เสียงรถวิ่งผ่านไปๆ มาๆ มันก็เริ่มน้อยลง เข้าใจแล้วที่เข้าบอกว่าโซนพัทยาใต้เป็นโซนพักผ่อนคือแบบนี้สิ่นะ คือก็มีผับบาร์ ที่เปิดให้นั่งให้ดื่ม แต่มันจะเป็นฟิลแบบเปิดเพลงฟังชิลๆ เหมือนที่ร้านพี่อาร์มนั่นแหละครับ พูดยังไงดี ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงจะเป็นชานเมืองล่ะมั้ง


อีกกลุ่มข้างๆก็เหมือนจะเป็นพ่อแม่ลูก ที่มานั่งปูเสื่อกินข้าวมื้อค่ำกันแหละครับ ผมแอบๆเหล่แล้วอื้อหือ หมูทอด ข้าวเหนียว น้ำจิ้มแจ่ว ถึงจะไม่ได้กลิ่นเพราะลมมันแรง รวมถึงมืด แต่ผมรู้ได้ทันทีว่าแจ่วแน่ๆ อื้อหือออ อย่างกิน แต่ว่าก็นั่นแหละครับไม่ได้หิวโหยอะไรขนาดนั้น

สาวสวยข้างๆผมยังคงนั่งกอดขา และพิงผมไว้ตลอดในขณะที่สายตาเธอก็มองไปในทะเลมืดๆนั้น เธอกระดกเบียร์หมดป๋องและบอกว่าพีโทนจ๋า อยากนั่งต่อจัง ผมก็บอกเอ๊าก็นั่งสิ่ครับไม่ได้ว่าอะไรเลย ดาวบอกว่าพี่จะไม่เบื่อเหรอ ผมบอกไม่เลย เอาจริงๆถ้าพี่อยู่ห้องคนเดียว บางทีพี่ก็นั่งนิ่งๆนี่แหละ

แต่ต่างกันที่ตอนนี้นั่งริมทะเลนี่แหละ ดาวบอกอื้อออ เอาตรงๆนะ ทะเลตอนกลางคืนมันก็มืด มืดเลย เราไม่มีทางรู้เลยว่าภายใต้น้ำตอนกลางคืนนั้นมันมีอะไรบ้าง


นี่แหละมั้งที่เขาเรียกความลึกลับของท้องทะเล เอาตรงๆผมก็ยังสงสัยนะว่า ชาวเล หรือ ชาวประมงที่เขาออกเรือหาปลาตอนกลางคืน เขากล้าแบบนั้นได้ยังไง คือคิดตามผมนะ มืด แล้วรอบตัวมีแต่น้ำ ไฟที่มีก็แค่ไฟในตัวเรือคือแบบโหว แล้วมันไม่เหมือนในป่าบ้านย่า หรือ ในสวนที่ผมคุ้นเคยไง


อย่างน้อยเราก็ยังได้เหยียบผืนดิน ยังรู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลง และที่สำคัญมันมั่นคงด้วย พวกชาวเล คือใจต้องได้จริงๆแหละยอมใจพวกเขาเลย แล้วอยู่ดีๆ แปะๆ ๆ เสียงใครมันปรบมือวะ แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็มา บราโว่ บราโว่ โรแมนติดดีแท้น้องพี่ ผมกุมขมับเลย พอหันกลับไปแล้วเจอพี่อาร์มยืนอยู่

ดาวก็สะดุ้งกลับมานั่งท่าเดิมเลยล่ะครับ ผมถอนหายใจแล้วหันไปมองเลย ผมถามว่าตามมาทำไมเนี่ยพี่อาร์ม ซึ่งอย่างที่บอกครับว่า ผมกับพี่อาร์มเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ จะน่ารำคาญตรงที่เขาชอบโอ๋ และ ทำเหมือนผมเป็นเด็กนี่แหละ พี่อาร์มบอกอะไรๆ ๆ พี่แค่มาเดินเล่นเฉยๆ บังเอิญมาเจอน้องชายนั่งจู๋จี๋กับสาวอยู่ แล้วตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยชอบแฮะกับคำพูด ผมเลยบอกพี่อาร์มไปว่า

" ผมไม่ชอบประโยคเมื่อกี้เลยว่ะพี่อาร์ม "

พี่อาร์มก็บอกโอ้โย๋ น้องพี่หงุดหงิดซะแล้ว และพี่อาร์มก็เอียงตัวแล้วพูดว่า ยกโทษให้พี่ชายได้ป่ะล่ะ แล้วเขาก็พูดอีกว่า น้องดาวตรงนั้นยกโทษให้หน่อยได้มั้ยครับ ผมก็ฮึ๊ !!! สะดุ้งเลย ผมบอกเฮ้ยพี่อาร์มเมื่อกี้พูดว่าไงน่ะ พี่อาร์มบอกเอ๋าอะไรล่ะ หรือว่าห้ามแม้กระทั่งเรียกชื่อเลย


ผมบอกเดี๋ยวๆปัญหาไม่ใช่การเรียกชื่อ แต่พี่รู้จักชื่อดาวได้ไง พี่อาร์มบอกแหม ๆ ๆ ๆ มันใช่เรื่องสำคัญหรือไง ผมเลยเดินไปหาพี่อาร์ม เพื่อจะบอกว่ามันโคตรสำคัญ แต่ว่าตอนมันก็มีมือยื่นมาคว้ามั่บที่คอเสื้อผม แล้วเหมือนว่าผมตอบสนองไปเอง ผมโยกตัวช่วงบนหลบและคว้ามั่บจับบิดเลย จนพี่อาร์มบอกเฮ้ยๆๆๆๆ ใจเย็น ผมรีบคลายล็อคและผละตัวออกมา


ผมมองไปทางนั้นก็เป็นคนของพี่อาร์มแหละครับ พี่อาร์มเขาเข้าไปถามคนของเขาว่าเป็นอะไรมากมั้ยพี่ เขาก็บอกไม่เป็นไรครับคุณอาร์มเห็นว่าจะเข้าไปใกล้ตัวเลยเข้ามา พี่อาร์มบอกเอ่อ ถ้าไอ้เด็กคนนี้มันจะซัดหน้าผมจริงๆผมลงไปกองละ ไม่เป็นไรพี่ พี่น้องคุยกันเฉยๆ ผมมองหน้าเขม็งเลยนะ


ไม่รู้สิ่ แต่ผมรู้สึกว่าตอนนี้ต้องข่มขวัญนิดหน่อย แล้วดาวก็มาสะกิดแขนๆ ๆ ผมก็เอ่ออ อื้อโอเคใจเย็นก็ได้ พี่อาร์มเขาก็เท้าเอวแล้วบอกว่า ชักจะเหมือนอาทศกับน้าทิพย์เข้าไปทุกวันแล้วนะเอ็งเนี่ย ไหนบอกว่าเป็นแค่นักยูโดไงวะ ผมก็บอกว่าก็นักยูโดนั่นแหละ พี่อาร์มบอกเออๆ แล้วเอาไง มาเที่ยวนี่วางแผนกันหรือยัง ผมก็สะตั๊นไปเลยครับ

พี่อาร์มก็บอกนั่นไงไอ้นี่ไม่ได้วางแผนไว้ใช่มะ ผมก็เกาหัวแกร่กๆเลย แล้วพี่อาร์มก็โยนอะมาให้ ผมก็เอื้อมมือไปรับ ผมก็รับมาแล้วก็... อ่าว คนแถวนั้นเป็นอะไรกันไปหมด ทำไมมองแปลกๆ

** ดาวขอเล่าในจังหวะนี้เองนะ **

ที่นิ่งกันไม่ใช่อะไรหรอก ก็คุณอาร์มเขาโยนแผ่นพับมาใช่มั้ย ลมทะเลมันแรงมาก แผ่นพับมันปลิวตามแรงลม แต่พี่โทนเขาแบบยังไงดี ก้าวสองก้าว โยกตัวหยิบ แล้วท่าสวยด้วยนะปัญหา ก็ไม่แปลกใจหรอกที่คนแถวนั้นจะมอง รีเฟรคหรือปฏิกิริยาของพี่โทนไวมากกกก


ผมเล่าต่อ อันจริงๆมันไม่ใช่พลังเหนือมนุษย์หรอกครับ คนที่ออกกำลังหายบ่อยๆ หรือ เล่นกีฬาที่ต้องอาศัยสัญชาตญาณหรือ sense เยอะๆ ก็จะทำได้กันทุกคน อ่ะตอนนั้นก็งงว่ามองไรกัน แล้วผมก็หยิบแผ่นพับมากางออก ดาวก็ขยับมาดูด้วย ในนั่นเป็นแผนที่ย่อๆ มีกากบาทเอาไว้ว่าตรงไหนคืออะไรยังไง


พี่อาร์มบอกว่า เอาไว้ดูซะว่าจะเที่ยวอะไรยังไงตรงไหน พาสาวมาเที่ยวทั้งทีอย่าให้เสียชื่อดิ่ ฮู๊วว พี่อาร์มพูดแบบนั้นผมก็บอกอ้าวอะไรล่ะพี่อาร์ม ก็คนมันงานยุ่งนี่หว่า พี่อาร์มบอกว่าอย่าๆ อย่าเอาเรื่องไม่มีเวลามาอ้าง หรือ จะมาทำงานกับพี่ล่ะ ผมบอกว่าไม่เอาขอปฎิเสธ ผมชอบอยู่ในสวนมากกว่า พี่อาร์มบอกอื้มก็คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนั้น


ผมตั้งใจจะยื่นกระดาษคืนให้ครับ แต่พี่อาร์มก็พูดมาคำนึง ลดอีโก้ลงหน่อย แล้วอะไรๆมันจะง่ายขึ้น ผมก็ชะงักเลยตอนนั้น พี่อาร์มถามว่าแล้วนี่มารถอะไรกัน ผมก็เลยบอกว่าขับรถมาเอง พี่อาร์มบอกอ้อแล้วไป พี่อาร์มบอกว่าตอนเช้าร้านพี่มีขายพวก Break Fast จะมานั่งกินก็ได้

ตอนนั้นดาวก็กอดแขนผมแน่นเลยครับ แล้วผมรู้ได้ทันทีเลยว่าดาวอยากมากิน ผมบอกอ่าครับๆ พี่อาร์มบอกอืมตามนั้น ก่อนเขาจะขึ้นรถ เขาก็บอกว่าอย่าลืมโทรหาแม่พี่บ้างไอ้โทน ผมก็... นิ่งไปพี่อาร์มไม่พูดอะไรต่อก็ขึ้นรถเก๋งไปเลย แต่ก่อนจะปิดประตู ผมบอกเอ้าเฮ้ยไหนบอกมาเดินเล่นไง พี่อาร์มก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่าเอ้าเหรอ อื้มไปละ


ผมก็เอ๊าอะไรวะน่ะ แต่ดาวก็กอดแขนผมไว้แล้วก็อ่ะจ้ะๆ แล้วก็พากันไปนั่งที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดาวบอกเอ่อพี่โทน เอ่ออ ผมก็พูดสวนไปว่างั้นตอนเช้าลองไปร้านพี่อาร์มกันมั้ย ดาวมองหน้าแล้วยิ้ม โอเค๊ ผมรู้คำตอบโดยที่ดาวไม่ต้องพูดละ คือจริงอยู่แหละครับว่าที่โรงแรม เขามีอาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์ให้ แต่ว่าถ้าอยากได้บรรยากาศดีๆก็คงต้องร้านพี่ชายแหละครับ


เรากลับมานั่งอีกครั้งดาวบอกว่า ถ้าพี่โทนไม่สบายใจเราย้ายโรงแรมกันมั้ย ผมก็หืมอะไรเหรอ ดาวบอกว่าก็ดูพี่โทนอึดอัดเวลาเจอพี่ชายคนเมื่อกี้มากเลยอ่ะ ผมก็บอกว่าเอ่อ ก็ดูแต่ละอย่างที่พี่อาร์มทำดิ่ พี่อยากพาดาวมาเที่ยวแต่ดูพี่แกเขาดิ่ จี้แต่ข้อเสียพี่ทั้งนั้นเลย โถ่วว แล้วตอนนั้นดาวก็หัวเราะครับ เธอขยับมานั่งจ้องหน้าผมแล้วบอกว่า ถ้าทำทุกอย่างจนเพอร์เฟคไปซะทุกอย่างนั้นแหละที่ไม่ปกติ

ดาวบอกว่าพี่โทนเองก็พึ่งอายุเท่านี้เอง พลาดบ้าง ลืมคิดไปบ้าง ตกหล่นไปบ้างมันจะเป็นอะไรไป เธอหยิกแก้มผมเบาๆแล้วจู๊ปปปปป เบาๆ ซึ่งผมก็พยายามนั่งหันหลังบังมุมแหละครับ เพราะว่าข้างๆมีเด็กอยู่ด้วย แต่ว่าพอดาวจูบเสร็จเธอบอกอิอิ น้องเดินเข้าไปมุมรถพอดี อ๋าวนี่ดาวเธอรอจังหวะเหรอเนี่ย

เบียร์หมดไปแล้ว วู่บบ แว๊ปนึงผมรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆครับ ผมเลยสะกิดดาวว่าอยากไปเดินเที่ยวไหนต่อมั้ย ดาวส่ายหน้าแล้วบอกอยากนั่งเล่นต่อ ผมเลยบอกว่ากลับห้องกันเถอะฝนจะตก ดาวบอกอื้อ.. อยากกลับเหมือนกัน ผมก็หืมไม่อยากนั่งต่อเหรอ ดาวก็กอดแขนแล้วบอกว่า ก็พี่บอกว่าฝนจะตกนี่นา และผมพูดยังไม่ทันขาดคำละอองฝนก็มาทันที ผมกับดาวรีบลุกเลยครับ พับๆๆ เสื่อ แล้วก็รีบลุกและเดินออกมาทัน



แต่ว่ามันไม่ทันละครับเพราะว่าฝนนั้นตกลงมาในชนิดที่ว่าถ้าไม่ใช่หนังโรแมนติกก็ไม่ควรเดินออกไป หรือ ว่าต่อให้เป็นหนังโรแมนติก ถ้าออกไปตอนนี้ผมว่าไข้ขึ้นแน่ๆ ผมกับดาวมองหน้ากันแหะๆๆๆ แล้วก็คิดว่า... แย่เลยแฮะ ผมทำบรรยากาศเสียมั้ยเนี่ย แต่ดาวเธอก็จับมือผมไว้แล้วบอกว่า ฝนมาไวเนอะพี่โทน แล้วก็มองหน้าผม แต่ผมคือแบบเอ่อ แย่เลยแฮะ กะจะทำตัวเท่ส์ซักหน่อย ทำเสียบรรยากาศเลย

** ดาวเล่าต่อ **

โหยยยยยยยย เนี่ยยยยย ชอบคิดอะไรไปเองนักหนา แค่บอกว่าฝนมาไวจังเลย ฝนตกแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติมันไม่ได้เสียบรรยากาศอะไรเลย มีเสียอย่างเดียว จะเสียตัวอ่ะดิ่บรรยากาศแบบนี้ถ้ากลับไปในห้องตอนนี้ไม่อยากจะคิดเล๊ยยย คือทุกอย่างอ่ะดีมากกก ทุกคนลองคิดดูนะ


ดาวได้เดินเล่นตากลมเย็นๆ ในขณะที่ได้ยินเสียงคลื่นทะเล แล้วทะเลที่ซัดคลืนๆเข้าหาชายหาดเนี่ย อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร คือแทบจะเอื้อมไปได้ตลอดเวลา พี่โทนอ่ะชอบคิดว่าทำให้เสียบรรยากาศ เฮ้อ ข้อเสียของพี่โทนข้อเดียวเลยนะ คือไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัว ทั้งๆที่ก็ทำออกมาได้ดีมากๆเลยนะ

ก็พอหลังออกจากร้านคุณอาร์มมา สิ่งแรกที่ดาวคิดเลยว่า ควรกลับเลยดีมั้ย บอกตรงๆว่าเสียดายถ้าต้องกลับ แต่ว่าถ้าอยู่ต่อแล้วพี่โทนต้องไม่สบายใจ ดาวยอมชวนกลับกรุงเทพฯดีกว่า ค่อยไปหาที่เที่ยวใหม่ๆในกรุงเทพฯก็ได้ แต่พอถามไปแบบนั้นพี่โทนเขาก็บอกว่าอยู่ต่อได้ ไม่มีอะไรต้องกังวล

คือดาวก็ค่อนข้างสับสนนะว่า พี่โทนเขาดูไม่สบายใจเวลาเจอคุณอาร์ม แต่ว่าการแสดงออกหลังออกมาจากร้านคือคนละเรื่องเลย คือเอาง่ายๆถ้าคนกังวลหรือไม่อยากจะเจออะไร ก็พยายามเอาตัวเองออกจากจุดนั้นบริเวณนั้นถูกมะ แต่กับพี่โทนไม่ใช่เลย น้องเขาจับมือดาวพาเดินเล่นมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ

แล้วก็เล่าเรื่องให้ฟังอย่างที่เล่าไปในตอนที่แล้วนั่นแหละ อื่มมม ทำไมพอยิ่งฟังแล้ว เริ่มรู้สึกว่าครอบครัวพี่โทนไม่ใช่ธรรมดาๆเลย มันมีอีกหลายอย่างที่พี่โทนเล่าให้ฟัง แต่ว่าไม่สามารถเล่าไปได้ นั่นเลยทำให้ดาวรวบรวมอะไรหลายๆอย่างที่ได้ฟัง รวมๆกันและได้ข้อสรุปได้ว่า

" พี่โทนเป็นคุณชายตกยาก ตัวจริงเสียงจริง "

และไม่เหมือนกับในละครหลายๆเรื่องที่จะจบอย่าง Happy Ending  สิ่งที่ดาวจะบอกก็คือครอบครัวพี่โทนไม่สามารถกลับไปอยู่ ณ จุดๆเดิมได้อีก ด้วยองค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างด้วยแหละมั้ง แต่สรุปตรงๆเลยนะ คนตรงหน้าดาวคือ คุณชายตกยาก ที่กัดฟันสู้จนมาได้ขนาดนี้

ถึงแม้พี่โทนจะเสียฐานะเก่าไป แต่ที่ดาวรู้เลยเนี่ยคือกัลยาณมิตรต่างๆของครอบครัวพี่โทน ไหนจะแม่เล็กของพี่โทน ไหนจะครอบครัวคุณอาร์มอีก และดาวเชื่อว่าต้องมีอะไรอีกแน่ๆ ที่ดาวยังไม่รู้ ยังคอยค้ำชูครอบครัวพี่โทนไม่ให้แย่ไปมากกว่าที่เคยได้ยินๆมา ถึงจะเป็นคุณชายตกยาก แต่ดาวว่านะสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันช่วยหล่อหลอมให้พี่โทนเป็นพี่โทนแบบนี้ในปัจจุบัน

แต่ว่าเดี๋ยวก่อนที่พี่โทนเล่าๆให้ฟังมาคือ แม่อรของพี่โทนนี่ออกแนวผู้มีอิทธิพล และ นักธุรกิจท้องถิ่นเลยนี่นา หูยยย แล้วมารู้อีกว่า พ่อทศก็พาสาวๆเข้าบ้านหลายคนเหมือนกันนะเนี่ย พี่โทนเขาก็เล่าอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับแม่อรของเขาให้ฟัง หึ้หึ้หึ้ รู้สึกภูมิใจ ได้มีเรื่องเอาไปอวดนางหนูสองคนที่กรุงเทพฯละแบบนี้

พอฟังพี่โทนเล่าก็พอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมคุณอาร์มถึงดูเอ็นดูพี่โทนจัง ครอบครัวรอบๆตัวที่ยังไปมาหาสู่กับครอบครัวพ่อทศดูเหมือนว่า ในบรรดารุ่นลูกพี่ลูกน้อง พี่โทนจะเป็นคนที่อายุน้อยสุดแฮะ งื้มๆเข้าใจละน่าเอ็นดู น่าทะนุถนอม คือเอาจริงๆพี่โทนก็ยังเด็กมากจริงๆ อายุ 23 เอง ไม่แปลกหรอกที่พี่ๆจะห่วง

และเอาตรงๆ รอบๆตัวดูมีแต่คนที่มีฐานะ บางทีดาวก็ห่วงว่าจะคิดมากมั้ยเนี่ย เอาง่ายๆเลยอย่างคุณไฮโซหมิวเนี่ย เฮ้ออ รวยเกิ๊นไม่รู้ชาติก่อนทำบุญด้วยไรมาช่างเถอะๆไม่อยากพูดถึงเสียบรรยากาศหมด แต่ว่าเพราะแบบนี้แหละมั้งพี่โทนเขาถึงเป็นพี่โทนคนนี้แบบนี้

ชะตาคนเรามันก็แปลกแค่พลาดไปก้าวเดียวก็ไปคนละเส้นทางเลยล่ะ ช่างเถอะๆแต่ตอนนี้บรรยากาศดีจัง เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่โทนถึงบอกว่าอยากพามาตรงพัทยาใต้ มันดูเงียบๆ รถมีนะ รถยังแล่นไปมาตลอด แต่ว่ามันไม่ได้คับคั่งจนติดหนึบเหมือนตอนอยู่พัทยาเหนือ แต่ก็ไม่รู้นะว่าตอนนี้พัทยาเหนือคนจะเยอะมั้ย


พอเลยมาตรงจุดนี้ชายหาดจะเริ่มกว้างขึ้นไม่เหมือนตรงจุดที่ไปทานมื้อเย็น ตรงนั้นนี่เรียกติดกับทะเลเลยล่ะ แต่ตอนนี้เริ่มใช้คำว่าชายหาดได้แล้ว เพราะว่ามีพื้นที่ตั้งโต๊ะ ตั้งพวกร่ม ให้มาใช้บริหารเช่าเพื่อนั่งเล่นกันน่ะแหละ แต่ว่าดึกแบบนี้เขาก็พับร่มเก็บร่มหมดแล้ว จนกระทั่งเดินมาถึงตรงที่พี่โทนบอกนี่แหละ


มันคือที่พักรถที่จอดรถนั่นแหละถ้าพูดกันตรงๆ แต่ว่าตอนนี้เหลือรถอยู่แค่คันเดียวที่จอดอยู่ ตอนนี้อยากลงไปเหยียบทราย พอบอกแบบนั้นพี่โทนก็ตามใจอีกแล้ว ดาวลงมาเดินตรงหาดนิดเดียว รู้สึกได้เลยว่าน้ำทะเลขึ้นมาสูงมากๆ เพราะว่าจุดที่นั่งมองกันตอนกลางวัน ตอนนี้หายไปเหลือแต่น้ำทะเลเข้ามาใกล้


พี่โทนเขาก็ยืนพิงกำแพงนั่นแหละ ดาวก็เข้าไปหานะแล้วก็คุยเล่นๆกัน น้องเขาก็คุยไปหลายๆเรื่อง ชอบบ่นว่าทำไมทุกคนต้องทำเหมือนว่าเขาเป็นเด็ก ดาวก็บอกว่าก็เพราะน่ารักไงเลยมีคนเอ็นดูดาวก็กอด ก็หอมตามปกติ ก็บอกแล้วไงว่าทะเลอ่ะ ดาวจะไม่กั๊กเลย ถ้าอยากทำอะไรก็อยากทำ แล้วพี่โทนเขาก็พูดทะลึ่งๆแหย่กลับมาว่า หรืออยากดูเอ็นล่ะ


โหย ท้าทายมากอ่ะ ด๊ายยย ท้าทายใช่มะ ดาวก็มองซ้ายมองขวาคนน่ะมีแต่ว่าถ้าคะเนจากความสูงของกำแพงตอนนี้คน ไม่น่าจะมีคนมองเห็นดาวคว้ามั่บไปไอ้ตรงนั้นแหละ ท้าทายเหรอ ด๊ายย เอาจริงๆก็เขินๆประหม่าแหละ เกิดมาก็ไม่เคยทำไรโจ่งแจ้งแบบนี้ แต่ว่าพอดาวนั่งลงไปแล้ว ใจดาวเกิดฝ่อแฮะ ตอนนั้นคือพึ่งมาคิดได้ว่าจะมีกล้องมั้ย จะมีคนแอบถ่ายมั้ย

ใจอ่ะลังเลแต่มือก็ยังจะแก้กระซิบกางเกง แล้วในตอนนั้นแหละพี่โทนก็ช้อนแขนและดึงดาวขึ้นไปยืน ดาวก็ตกใจนะคือ... ด้วยอารมณ์ผู้ชายน่ะจะค้างหรือเปล่านะ หรือไม่พอใจหรือเปล่า ดาวก็เลยถามไปว่าไม่ชอบเหรอหรือแรงไป แต่พี่โทนส่ายหัวแล้วบอกไม่ๆๆ เอ่อก็ไม่รู้ว่ามันจะมีกล้องรึเปล่าไง

ตอนนั้นใจดาวยิ่งเต้นแรงกว่าเดิมอีก คือจากที่หวั่นๆนิดตอนนี้มันโล่งจังเลย แต่ดาวอื่มม ตอนนั้นคิดในใจทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย โหยย เกือบแล้วมั้ยล่ะดาว แล้วพี่โทนก็พูดขึ้นมาว่าดาวคงไม่อยากไปอยู่ในคลิปเนอะ ดาวส่ายหัวเลยไม่ๆๆๆ โห พอพี่โทนพูดมาแบบนี้ดาวก็ยิ่งใจเสียเลย เมื่อกี้ทำอะไรเนี่ย และตอนนั้นคือระหว่างที่แอบใจเสียอยู่

พี่โทนก็ดึงเอวดาวเข้าไปหาแล้วบอกว่า แต่ว่ากลับไปห้องแล้วจัดชุดใหญ่ให้หน่อยนะ จากที่แอบกังวลตอนนี้ใจเต้นตุ้บๆๆเลย ขอกันแบบนี้... ใครจะกล้าปฎิเสธล่ะ และเรื่องก็นั่นแหละเป็นตามที่พี่โทนเล่ามาจนฝนตกนี่แหละ เฮ้อ ทำไมกันน๊าต้องคิดมากด้วย ตัวพี่โทนเขาไม่ได้ทำให้บรรยากาศเสียอะไรเลยสักนิดชอบคิดมาก

ดาวก็เลยกอดแขนเขา แล้วบอกว่าฝนตกแบบนี้มันก็ดีไปอีกแบบเนอะ พี่โทนเขาก็อื้มๆ ดาวก็เลยกอดคอเขาแบบว่าคล้องคอด้วยแขนข้างนึงเหมือนกอดคอเพื่อนอ่ะ อยากทำให้พี่โทนผ่อนคลายมากขึ้น พี่โทนก็กอดเอวดาวนะ รู้สึกดีจังแต่ว่า ไอ้การจะยืนหลบฝนแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่จะเดินตากฝนไปก็ไม่ใช่เรื่องดียิ่งกว่า

ก็คงต้องหาซื้อเสื้อกันฝนนั่นแหละ เงินที่ป๋าให้มา 3 พันที่บอกเงินรับขวัญ ดาวก็ตั้งใจจะใช้ให้หมดที่นี่แหละ อยากช่วยพี่โทนจ่ายบ้าง เฮ้ออ ฝนตกลำบากจังหอมแก้มพี่โทนสักทีดีกว่า

** ผมเล่าต่อ **

เอ๋าอยู่ดีๆ ดาวเธอก็หอมแก้มผมเฉยเลย โอเครู้แล้ววว ผมหันไปมองอีกที ดาวก็บอกว่าบรรยากาศดี๊ดีเยอะ ผมก็ค๊าบแล้วกอดเอวเธอเอาไว้แบบนั้นแหละ ไม่ดีแน่ผมคิดในใจยังไงก็ไม่ดี มองเข้าไปในเซเว่น เสื้อกันฝนก็น่าจะได้ซื้อแหละ แต่ว่า... ดาวก็พูดว่ากางร่มเดินกลับกันมั้ยพี่โทน ผมก็บอกได้สิ่ แต่ว่าร่มมันเล็กวุ๊ย


แล้วตอนนั้นดาวสะกิดๆผมแล้วชี้นิ้วจึ้กๆๆ ไปตรงข้างๆเซเว่น มันมีร้านขายพวกเก้าอี้ชายหาดอยู่ ผมก็เอ้อนั่นไง ผมก็เล็งล่ะ ร่มชายหาดปกติมันก็ใหญ่กว่าทั่วไปนั่นแหละผมก็เล็งๆไว้ แต่ว่าดาวเธอก็ทำในสิ่งที่เอาผมเหวอซะละ เธอชี้ไปที่ร่มอันใหญ่ๆ คือร่มร้านค้าครับ กว้าง 40 กว่านิ้วนู่น ผมก็มองดาวว่าเดี๋ยวดาวๆ


ดาวก็ชิงพูดกับคนข่ายก่อนเลย พี่คะร่มอันนี้เท่าไร พี่เขาก็บอกโอ้ยน้องจะเอาไปทำอะไร ถ้าจะเอาไปกันฝน เอาอันนี้ไปก็ได้ 200  แหม่คำพูดเหมือนจะดูดี 200 บาท ในเซเว่นอันแบบเดียวกันขายอยู่ 100 กำไรมึนครึ่งต่อครึ่งเลยนี่หว่า แต่ดาวบอกว่าหนูอยากได้อันนี้ ผมก็ฮึ๊ อะไรของดาวล่ะนั่นทำไมอยากได้ไอ้ร่มนั่นล่ะ แต่คนขายก็ถามนะว่าน้องจะเอาไปทำไร

ดาวบอกหนูจะเดินเข้าซอยค่ะพี่ แต่กลัวร่มมันเล็กไปอยากได้แบบใหญ่ๆ แปปนึงดาวก็หันไปมองป้ายอะไรสักอย่างแล้วบอกว่า เช่าก็ได้พี่ หนูอยากใช้แค่แปปเดียว พี่เขาก็พูดแบบไม่อยากจะให้เช่าแล้วบอกก็ได้แหละน้อง จะคืนเมื่อไรล่ะ ดาวบอกพรุ่งนี้เช้าออกมาก็คืนแล้วค่ะพี่


พี่เขาก็มองๆแล้วบอกคิดค่าเช่า 100 ละกัน ค่ามัดจำ... เอามา 300 ผมก็ห๊ะ !!! อะไรวะน่ะ แล้วดาวก็หยิบเงินจ่ายทันทีเลย พี่เขาก็เขียนบิลล์มัดจำมาให้ แล้วบอกว่าเลือกเอาเลย เขาก็ถามว่าน้องพักตรงไหน ดาวก็บอกชื่อโรงแรมไปแล้วบอกซอยนี้เองค่ะพี่ พี่ก็อืมๆ รับเงินไป 400 ให้บิลล์มาใบนึง


ผมก็เอ่อคิดในใจอิหยังวะน่ะ แต่ก็ช่างเถอะผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการแบกร่ม 40 นิ้วนี่อยู่แล้ว เพราะลมมันก็ไม่ได้แรงมากด้วย ดาวหันมามองแล้วบอกว่าพี่โทนจ๋ากลับโรงแรมกัน ผมก็... อะไรหว่า แต่ช่างเถอะนานๆจะได้เห็นดาวเอาแต่ใจบ้างแบบนี้ก็แปลกดี


พี่เขาถามเฮ้ยน้องแบกไหวแน่นะ ผมก็บอกไม่เป็นไรครับ พี่เขาจะช่วยกางแต่ผมก็กางเสร็จแล้วและแบกมันขึ้นบ่า เหมือนตอนแบกไม้พลองลูกเสือ หันไปมองอีกทีพี่เขาก็ยกนิ้งโป้ง กดLike ให้เลย ดาวก็ยิ้มใหญ่เลย หือยิ้มอะไรหว่า อ่ะผมกางร่มอันเท่าบ้านเดินเข้าซอย บอกเลยว่าฝนนี่แทบไม่ได้แตะต้องเลยครับ ดาวก็เดินข้างๆ นั่นแหละ เธอยิ้มไม่หยุดเลย ผมก็ถามอารมณ์ดีอะไรหืม

ดาวส่ายหัวแล้วบอกเปล่านี่ไม่มีอะไรหรอก ซอยโรงแรมที่ผมพักน่ะ โชคดีตรงที่รถเข้าออกไม่บ่อยเท่าไรนักเท่าที่เดินมา 2 รอบ อีกอย่างก็ต้องขับช้าๆด้วย ถึงรถจะมาจากด้านหลังผมก็สังเกตจากไฟหน้ารถที่สาดส่องมาได้ เพราะงั้นไม่มีอะไรที่ต้องห่วง แต่เพื่อความชัวร์ ผมก็เดินฝั่งนอกแหละให้ดาวเดินฝั่งใน

ผมแบกร่มพาดที่ไหลซ้าย ดาวอยู่ฝั่งขวาก็จับมือผมบีบซะแน่นเลย แล้วก็ยิ้มตลอดทาง แล้วอยู่ดีๆดาวก็เดินมาข้างหน้านิดนึงและจับหน้าผมจู๊ป บดริมฝีปากนิดนึง และจูงมือเดินกันต่อ ผมถามอารมณ์ดีอะไรหืม ดาวบอกว่า มีคนกางร่มให้ก็ดีแบบนี้แหละ ผมก็คิดในใจแค่กางร่มให้เอง ไม่เห็นต้องดีใจอะไรขนาดนั้น


 





เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Au Nanma

ไม่อยากบอกเลยว่า ตามอ่านมา150กว่าตอน มีความใฝ่ฝันว่าจะได้เป็นเม้นต์แรก
วันนี้สมใจแล้ว5555

ดาวน่ารักเสมอ เวลาตื่นเต้นก็เหมือนเด็กๆเลย

peddo

ฝนตกอย่างนี้ บรรยากาศชวนเสียตัวมาก กางร่มตอนเดิน แต่ตอนลุยไม่ต้องใส่เสื้อกันฝนนะครับ จะได้เสียวๆ

Blackhawkz


mcgide


ryg123456



Slave

สรุปคือมาฮันนีมูนนั่นเอง อิจฉาคนได้เที่ยวจัง... ขอบคุณครับ


aum691


chapter11

ฝนมาสร้างบรรยากาศอีกนะครับเนี่ย กลับไปโดนแม่เสือขย้ำแน่ แต่จะตื่นมากินอาหารเช้าไหวมั้ยน้อ

Channarong Saekow

แค่กางร่มเองเหรอ แต่ร่มที่กางนะมันไม่ได้เป็นร่มคนทั่วไปเค้ากางเดินเวลาฝนกันเมื่อไรล่ะ

Roam/Z/l3



n_neng