ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ศึกคุณไสย โดย AI ตอนที่ 4 คืนหรรษา ตอนต้น

เริ่มโดย chanky2007, กันยายน 09, 2024, 06:02:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

chanky2007

**ตอนที่ 4 คืนหรรษา**

มิ้นท์และลูกหว้าเมื่อมาถึงตำหนักสุขสม ก็ได้เจอกับกล้วย คนเฝ้าตำหนักในชุดซาฟารี กล้วยมีอายุ 30 ปี สูง 170 ซม. หุ่นค่อนข้างล่ำ มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เนื่องจากผ่านการทำงานหนักและใช้กำลังเป็นประจำ หลังจากกล่าวทักทายกันเสร็จเรียบร้อย กล้วยก็บอกให้ทั้งสองสาวไปนั่งพักเพื่อรอพบอาจารย์มั่นที่เรือนด้านหลังก่อน เนื่องจากขณะนี้เป็นเวลาประมาณ 17.30 น. ต้องรอให้สิ้นแสงอาทิตย์และท้องฟ้ามืดสนิทเสียก่อนจึงจะถึงเวลาทำพิธี

ทั้งสองสาวเดินตามคำบอกผ่านเรือนไทยด้านหน้าซึ่งเป็นห้องทำพิธีเมื่อครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้ความรู้สึกต่างออกไป อากาศยามเย็นที่กำลังจะย่างเข้าสู่ค่ำคืนเย็นเฉียบ ลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านทำให้พวกเธอรู้สึกหนาวสะท้าน แม้ว่าจะไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนก็ตาม ในขณะเดินผ่านเรือนด้านหน้า ทั้งสองได้ยินเสียงร้องด้วยความรัญจวนของผู้หญิงสาวเบาๆ ซึ่งทำให้ทั้งสองสาวต่างคิดถึงเหตุการณ์ในพิธีครั้งที่แล้ว พากันรู้สึกสยิวกายวูบหนึ่ง แล้วรีบเดินต่อไปยังเรือนด้านหลังอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงเรือนด้านหลังแล้ว ทั้งสองสาวนั่งพักสนทนากันครู่หนึ่ง ปรึกษากันตามประสาสาวๆ โดยเฉพาะเรื่องความครางแครงใจในตัวอาจารย์มั่น และเสียงครางที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ ทำให้มิ้นท์และลูกหว้าเริ่มกังวลใจว่าจะต้องเผชิญกับอะไรในพิธีคืนนี้

สักพักประมาณ 18.30 น. กล้วยก็มาเรียกทั้งสองสาว แล้วบอกว่า "อาจารย์มั่นให้มาตามไปคุยเรื่องพิธีกรรมคืนนี้ที่ศาลาริมน้ำ เดี๋ยวอาจารย์จะอธิบายขั้นตอนในการทำพิธีคืนนี้ให้ฟัง เชิญที่ศาลาริมน้ำครับ"

มิ้นท์และลูกหว้าตอบรับคำแล้วเดินตามกล้วยไปยังศาลาริมน้ำ เมื่อไปถึงก็พบว่าอาหารและผลไม้พื้นบ้านได้ถูกวางเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว อากาศรอบๆ ศาลายิ่งทำให้พวกเธอรู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ซ่านจากน้ำ และเสียงของแมลงกลางคืนที่เริ่มร้องดังขึ้นสร้างบรรยากาศให้ชวนขนลุกมากขึ้นไปอีก

อาจารย์มั่นเมื่อเห็นทั้งสองสาวมาถึง ก็บอกว่า "นั่งก่อนสิ คืนนี้ต้องทำพิธีกันอีกนาน ทานอะไรกันมาหรือยังล่ะ"

เสียงของอาจารย์มั่นในครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม มันมีความแฝงเร้นและน้ำเสียงที่ฟังแล้วดูเหมือนมีความหมายมากกว่าที่พูดออกมา มิ้นท์และลูกหว้ารับคำโดยที่ไม่กล้าปฏิเสธ ทั้งสองเดินไปฝั่งข้ามกับอาจารย์มั่นแล้วนั่งลง ส่วนกล้วยก็เดินไปนั่งด้านข้างของอาจารย์มั่น และตักข้าวใส่จานของอาจารย์มั่นและจานของตนเอง

เมื่อนั่งลงแล้ว ลูกหว้าตอบกลับไปว่า "ปกติไม่ทานอาหารเย็นค่ะ ทานแต่ผลไม้ เพราะต้องรักษาหุ่นค่ะ"

มิ้นท์ก็พยักหน้าแล้วบอกว่า "หนูก็เหมือนกันค่ะ"

อาจารย์มั่นกล่าวด้วยเสียงที่ฟังดูแผ่วเบาแต่หนักแน่น "งั้นหยิบผลไม้ได้ตามสบายเลย" จากนั้นก็เริ่มต้นกินข้าวพร้อมกับกล้วย ส่วนทั้งสองสาวก็เลือกผลไม้บางส่วนมากินไปเงียบๆ จนกระทั่งยี่สิบนาทีผ่านไป อาจารย์มั่นก็ทานข้าวและผลไม้เสร็จ

อาจารย์มั่นกล่าว "คืนนี้จะทำพิธีบูชาพระราหู เพื่อให้ท่านช่วยย้ายเคราะห์กรรม และเสริมดวงชะตาของพวกหนูทั้งสองคน จากที่อาจารย์ลองเอาวันเดือนปีเกิดที่พวกหนูให้มาคราวก่อน ตามดวงบอกว่า พวกหนูทั้งสองคนมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นคนเดียวกัน และเจ้ากรรมนายเวรของพวกหนูเป็นผู้หญิงวัยเดียวกัน พอจะนึกถึงใครออกบ้างล่ะ"

มิ้นท์และลูกหว้าได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจ แล้วมองหน้ากันเอง จากนั้นลูกหว้าก็พูดกับมิ้นท์ว่า "หรือจะเป็นพิม ตอนไปสัมภาษณ์งานพรีเซนเตอร์ครั้งก่อน เราเจอพิมไปงานเดียวกับเราด้วย ถ้าไม่ใช่พิม ช่วงนี้คนที่มีปัญหากับเราทั้งคู่ก็ไม่มีใครแล้วนะ"

มิ้นท์ได้ยินดังนั้น ก็ทำหน้าครุ่นคิด เพราะมาริโอแฟนของตนเองก็กำลังมีแนวโน้มจะไปไหนมาไหนกับพิมบ่อยๆ ในช่วงนี้

มิ้นท์จึงถามว่า "อาจารย์คะ แล้วพวกหนูต้องทำยังไงบ้างจึงจะผ่านเจ้ากรรมนายเวรไปได้คะ"

อาจารย์มั่นยิ้มบางๆ แล้วตอบว่า "ใจเย็นๆ อาจารย์ยังตอบไม่ได้หรอกนะ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่อาจารย์สามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ยังไงทุกคนก็ต้องชดใช้เวรกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวร จึงจะสามารถตัดเวรตัดกรรมกันได้"

มิ้นท์และลูกหว้าเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนก ความกังวลใจเพิ่มขึ้น และเริ่มผูกโยงเรื่องราวรอบตัวเข้ากับสิ่งที่อาจารย์มั่นพูด ทำให้พวกเธอเริ่มเชื่อไปเกินครึ่งแล้วว่าพวกตนจะมีเคราะห์จริงๆ และต้องชดใช้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวร

อาจารย์มั่นมองหน้าทั้งสองคนแล้วเอ่ยต่อไปว่า "เดี๋ยวพวกหนูไปนั่งพักทำใจให้สงบก่อน จากนั้นให้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยตามด้วยแผ่เมตตา 9 จบ ตามหนังสือที่วางอยู่นั่น เสร็จแล้วสองทุ่มครึ่งให้เดินไปที่ห้องทำพิธีที่เรือนด้านหน้า แล้วอาจารย์จะได้ช่วยทำพิธีย้ายเคราะห์กับพระราหูให้"

เมื่อพูดจบ อาจารย์มั่นก็ดื่มน้ำแล้วบอกกล้วยว่า "เดี๋ยวเอ็งเก็บโต๊ะอาหารให้เรียบร้อย แล้วให้ตามไปช่วยข้าเตรียมอุปกรณ์ทำพิธีที่เรือนด้านหน้า" จากนั้นอาจารย์มั่นก็หันมาบอกทั้งสองสาว "พวกหนูทั้งสองอย่าลืมอาบน้ำให้สะอาด และนุ่งชุดขาวแบบเดียวกับครั้งที่แล้วก่อนสวดมนต์ด้วยล่ะ"

เมื่ออาจารย์มั่นเดินจากไปยังเรือนด้านหน้า กล้วยก็เริ่มต้นเก็บโต๊ะอาหาร ทั้งสองสาวเห็นดังนั้นจึงเดินกลับไปยังเรือนด้านหลัง ความกังวลในเรื่องเจ้ากรรมนายเวรทำให้พวกเธอลืมเรื่องความครางแคลงใจในตัวอาจารย์มั่นไปชั่วคราว

เมื่อถึงเรือนด้านหลัง ทั้งสองจมอยู่กับความคิดของตนเองจนแล้วอ่านข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ลูกหว้าซึ่งตั้งสติได้ง่ายกว่ามิ้นท์จึงเป็นฝ่ายชวนมิ้นท์สวดมนต์และแผ่เมตตาจนครบทั้ง 9 จบตามที่อาจารย์มั่นได้บอกไว้ ซึ่งตอนนี้เวลาก็ใกล้เคียงสองทุ่มครึ่งแล้ว

ทั้งสองจึงชวนกันเดินไปยังเรือนด้านหน้า เพื่อทำพิธีกรรมบูชาราหู ในความมืดมิดที่ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ เสียงนกกลางคืนร้อง

-----------
อาจารย์มั่นหันไปทางประตูด้วยท่าทีที่ดูสงบ ประกอบกับบรรยากาศในเรือนพิธีเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและลึกลับ แสงไฟจากเทียนที่จุดเรียงรายส่องแสงสลัวสะท้อนกับภาพพระราหูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแท่นบูชา กลิ่นธูปหอมและดอกไม้ลอยอบอวลไปทั่วห้อง

เมื่อทั้งสองสาวเดินมานั่งบนเบาะกำมะหยี่สีดำที่วางอยู่บนฟูกบางอีกที อาจารย์มั่นก็เอ่ยว่า "ทำใจให้สงบนิ่ง แล้วสวดมนต์ตามข้า"
จากนั้นเสียงสวดมนต์ของอาจารย์มั่นดังก้องกังวาน น้ำเสียงต่ำลึกและมั่นคง ทำให้มิ้นท์และลูกหว้าหลับตาลงอย่างช้าๆ พวกเธอปล่อยตัวไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและความศักดิ์สิทธิ์

อาจารย์มั่นร่ายมนต์ด้วยความเคร่งครัดและตั้งใจ ทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมาเหมือนกับเรียกพลังจากสิ่งลี้ลับให้เข้ามาสถิตในพิธีนี้ เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามทิศทางที่ได้กำหนดไว้ สัญลักษณ์และวัตถุมงคลต่างๆ ที่จัดวางอย่างพิถีพิถันถูกใช้ในการบูชาพระราหูเพื่อขอพรและขจัดเคราะห์กรรมที่คอยตามหลอกหลอนทั้งสองสาว

เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงอาจารย์มั่นจึงเสร็จสิ้นการสวดมนต์และการประกอบพิธี เขาหลับตาลงเพื่อส่งจิตเชื่อมต่อกับพลังที่ถูกปลุกเสก ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพ่งมองไปที่มิ้นท์และลูกหว้า เงาสีดำที่เคยเห็นปกคลุมรอบตัวทั้งสองสาวในครั้งแรกได้เจือจางลงไปจนแทบจะมองไม่เห็น มันหายไปเกือบหมดสิ้น เหลือเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ที่ยังคงอยู่เท่านั้น แล้วจึงก่อนจะปะพรมน้ำมนต์ไปยังทั้งสองสาว ซึ่งในขณะนี้ทั้งสองสาวก็รู้สึกสบายใจและเบาตัวเหมือนกับว่าภาระหนักอึ้งที่พวกเธอแบกรับมาตลอดได้ถูกปลดเปลื้องลงแล้ว

อาจารย์มั่นนั่งลงบนเบาะนุ่มข้างๆ มิ้นท์และลูกหว้า เขาจ้องมองพวกเธอที่ยังคงหลับตาอยู่ ใบหน้าอันสงบนิ่งแต่แฝงด้วยความอ่อนหวานทำให้อาจารย์มั่นนึกย้อนถึงอดีต เขาจำได้ถึงความเชื่อมโยงที่มีระหว่างเขากับทั้งสองสาว มันไม่ได้เป็นเพียงความสัมพันธ์ในชาตินี้ แต่ยังมีเงาของกรรมที่ผูกพันกันมาหลายชาติ 

"นอกจากผู้หญิงคนนั้นแล้ว ฉันก็มีกรรมเก่าที่ผูกร่วมกันมากับทั้งสองสาวหลายชาติ" อาจารย์มั่นคิดในใจ เขามองดูใบหน้าอันงดงามของมิ้นท์และลูกหว้า พลางรู้สึกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสายตาที่นิ่งเงียบ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ความปรารถนาและความหลงใหลในความสวยงามของพวกเธอที่ไม่สามารถต้านทานได้ 

อาจารย์มั่นยิ้มบางๆ ก่อนจะคิดต่อในใจ "ชาตินี้ทั้งสองคนสวยและหุ่นดีขนาดนี้ ฉันคงต้องผูกกรรมร่วมกันต่อแล้วล่ะ ค่อยไปตัดกรรมในชาติถัดไปแล้วกัน" ความคิดของเขาเริ่มเต็มไปด้วยความปรารถนาและความยากที่จะต่อต้าน 

อาจารย์มั่นรู้ตัวดีว่าเขากำลังยืนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างความดีงามและความผิดบาป แต่ในตอนนี้ เขาไม่อาจห้ามใจได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจแล้วว่าจะผูกกรรมกับมิ้นท์และลูกหว้าต่อไปในชาตินี้ โดยไม่สนใจผลที่จะตามมา ความสวยงามของพวกเธอเกินกว่าที่เขาจะต้านทานได้

อาจารย์มั่นเริ่มร่ายคาถาขุนแผนมัดใจ คาถามหาละลวย และคาถามหาสเน่ห์ใส่ทั้งสองสาวอย่างช้าๆ คำร่ายนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งเสน่ห์ที่ทำให้ใครก็ตามที่ถูกมันสะกดต้องตกอยู่ในอำนาจของผู้ร่าย พร้อมกันนั้น อาจารย์มั่นแอบปล่อยสารระเหยบางอย่างออกมาจากเครื่องหอมที่ซ่อนไว้ในมุมห้อง มันเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำให้ทั้งสองสาวเริ่มรู้สึกมึนงงและสะลึมสะลือ มิ้นท์และลูกหว้าที่กำลังหลับตาอยู่เริ่มรู้สึกถึงความรู้สึกที่แปลกไป มันเป็นความรู้สึกอุ่นวาบที่ไหลผ่านไปทั่วร่าง ทำให้หัวใจของพวกเธอเต้นแรงขึ้น และความรู้สึกถึงความปรารถนาเริ่มคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ 

อาจารย์มั่นยืนขึ้นพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้มิ้นท์และลูกหว้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่สามารถปกปิดได้ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ "จากนี้จะเป็นพิธีมอบความสุขให้กับพระราหู ให้นอนลง แล้วปล่อยใจไปกับสิ่งที่ร่างกายสัมผัสโดยไม่ต้องฝืน แล้วทุกอย่างจะดีเอง"

หลังจากที่ทั้งสองสาวนอนลงบนฟูเหมือนต้องมนต์สะกด อาจารย์มั่นก็นำเบาะกำมะหยี่สีดำทั้งหมดออกไปจากฟูกเพื่อไม่ให้เกะกะ แล้วอาจารย์มั่นก็เดินไปเครื่องเล่นเสียงสวดมนต์ที่เขาอัดเสียงไว้ให้เล่นซ้ำ เสียงสวดมนต์ที่ก้องกังวานและต่อเนื่องสร้างบรรยากาศที่เหมือนจะพาใครก็ตามที่ฟังหลงไปในภวังค์ อาจารย์มั่นค่อยๆ หยิบแท่งศิวลึงค์ที่ทำจากไม้สักทองขึ้นมาในมือ เขาเริ่มใช้มันลูบไล้ไปทั่วร่างกายของมิ้นท์และลูกหว้าอย่างช้าๆ สัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นของไม้สักทำให้พวกเธอเริ่มรู้สึกอ่อนโยนและผ่อนคลาย ผิวหนังของพวกเธอเริ่มตอบสนองต่อสัมผัสที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ความอุ่นร้อนจากแท่งศิวลึงค์ไหลผ่านไปตามผิวของพวกเธอ ทำให้ความรู้สึกที่อยู่ข้างในถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างช้าๆ

มิ้นท์และลูกหว้าที่ตอนแรกยังคงหลับตาอยู่ตอนนี้เริ่มครางเสียงเบาๆ ออกมา เสียงที่พวกเธอครางออกมานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ต้องการปลดปล่อย อาจารย์มั่นเห็นดังนั้น จึงค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของสัมผัสโดยใช้แท่งศิวลึงค์ไล้ไปตามร่างกายของพวกเธอหนักขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของมิ้นท์และลูกหว้าสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับศิวลึงค์ เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาจากผิวของพวกเธอ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าความต้องการของพวกเธอได้ถูกปลุกขึ้นมาอย่างเต็มที่

เมื่ออาจารย์มั่นเห็นว่ามิ้นท์และลูกหว้ากำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความเสียวซ่าน เขาตัดสินใจใช้ทักษะและความชำนาญทางกามของเขาเพื่อทำให้พวกเธอได้รับความสุขสูงสุด เขาค่อยๆ เปลี่ยนจากแท่งศิวลึงค์เป็นลำลึงค์ส่วนตัวของเขาเอง แล้วเริ่มลูบคลำไปยังหน้าอกของมิ้นท์และลูกหว้า ผิวเนียนนุ่มของพวกเธอทำให้มือของอาจารย์มั่นเคลื่อนไหวไปอย่างลื่นไหล ความสวยงามและความเต็มตึงของหน้าอกพวกเธอทำให้เขาไม่สามารถยั้งมือได้ มิ้นท์และลูกหว้าที่กำลังหลับตาอยู่ตอนนี้เริ่มขยับตัวไปมาเบาๆ ตามจังหวะที่ถูกลูบคลำ พวกเธอครางเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่ซ่อนไว้ในใจของพวกเธอระเบิดออกมาอย่างเต็มที่

อาจารย์มั่นมองไปยังสองสาวและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นด้วยการส่งมิ้นท์ไปถึงเป้าหมายก่อน แล้วจึงใช้เวลาที่เหลือร่วมกับลูกหว้าซึ่งดูร้อนแรงกว่ามิ้นท์ในพิธีกรรมคราวก่อน

อาจารย์มั่นจึงเริ่มสัมผัสไปที่ส่วนล่างของมิ้นท์โดยไม่ได้ถอดกางเกงชุดขาวของมิ้นท์ออก เขาพบกับความชุ่มชื้น แต่เมื่อเขาสอดนิ้วชี้มือซ้ายเข้าไปในร่างกายของมิ้นท์ ความรู้สึกแน่นแฟ้นและอุ่นร้อนทำให้เขารู้สึกถึงความสุข ในขณะที่มิ้นท์เองก็เกิดรู้สึกที่ทั้งเสียวซ่านและหวานชื่นในเวลาเดียวกัน  อาจารย์มั่นไม่ลังเลที่จะสอดนิ้วลงไปจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว และเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็จับมือของมิ้นท์มาสัมผัสลำลึงค์ของเขาเอง

มิ้นท์ที่รู้สึกถึงความเสียวที่ได้รับ ไม่สามารถต้านทานได้ทำให้มือของเธอขยับไปตามจังหวะของนิ้วอาจารย์มั่นที่ชักเข้าออกในช่องทางรักของเธอ ในขณะอาจารย์มั่นก็หันไปใช้มือขวาลูบคลำไปที่ร่างของลูกหว้าไปด้วย เพื่อไม่ให้ลูกหว้าหมดอารมณ์ร่วม

จนกระทั่งผ่านไปสิบกว่านาที มิ้นท์ก็ตอบสนองร่างกายที่สั่นไหวอย่างรุนแรง เกร็งกระตุกและหมดสติไป

แม้อาจารย์มั่นจะเสียดายที่มิ้นท์หมดสติเร็วไปหน่อย และเขาเองก็ไม่ชอบการลักหลับสาวคนไหน อาจารย์มั่นจึงหันไปหาลูกหว้าที่กำลังคราวเบาๆ อยู่ใกล้ๆ ซึ่งลูกหว้าตอนนี้อยู่ในสภาพที่พร้อมให้เขาทำตามใจอย่างเต็มที่



ปล. -ตอนนี้ยังหาวิธี generate ให้ได้ดีๆ ไม่ค่อยได้ ให้เขียนเองหมดเลย ใช้งานไม่ได้ครับ ต้องปรับเป็นฉากย่อยๆ แล้วเอามาต่อกัน กับต้องให้รายละเอียดเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ แล้วทยอยปรับแต่งจากสิ่งที่ AI สร้างให้ไปเรื่อยๆ ภาพรวมถือว่าบรรยายได้ดีกว่าผมเขียนเองเยอะ แต่ต้องไปดูกันอีกทีว่า จะทำยังไงให้เขียนบรรยายฉากอย่างว่าได้ดูดีมีศิลปะและบรรยายได้ยาวมากกว่านี้
-กลับไปแก้ไขตอน 1 และ 2 ใหม่นิดหน่อย จะได้อ่านแล้วต่อเนื่องกัน (แก้นิดเดียว)
คิดว่าดี ก็ทำไป

chanky2007

#1
ตอนที่ 5: การตกลงและผลลัพธ์

อาจารย์มั่นมองลูกหว้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความต้องการ เขายิ้มบางๆ ก่อนเริ่มเล้าโลมลูกหว้าด้วยความอ่อนโยน เขาหยิบเสื้อผ้าชิ้นแรกออกจากร่างของลูกหว้าอย่างช้าๆ เริ่มจากเสื้อที่ห่อหุ้มร่างงามไว้ จากนั้นเขาถอดมันออกอย่างระมัดระวัง ขณะที่มือของเขาสัมผัสผิวของลูกหว้าเบาๆ ลูกหว้ารู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านจากมือของอาจารย์มั่น เธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นทีละน้อย เพราะเวลาผ่านไปครึ่งปีที่เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับใครเลย ตอนนี้การสัมผัสที่ละเอียดอ่อนของอาจารย์มั่นกำลังสร้างความรู้สึกที่เธอเฝ้ารออย่างกระหาย อาจารย์มั่นปลดกางเกงออกอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง เปลี่ยนไปเป็นการสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรู้สึก และเขามองลูกหว้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ลูกหว้าถูกปลดเสื้อผ้าออกด้วยมือที่สั่นไหวด้วยความตื่นเต้นและความปรารถนา

เมื่อลูกหว้าเปลือยเปล่าอยู่บนฟูก มือของอาจารย์มั่นเริ่มสัมผัสร่างกายของเธออย่างพิถีพิถัน เขามองเห็นความสวยงามและความยั่วยวนใจในตัวลูกหว้า ลูกหว้าไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป เธอเริ่มรู้สึกถึงความต้องการที่รุนแรงขึ้น เมื่อเธอเริ่มสัมผัสร่างกายของอาจารย์มั่นด้วยมือที่อ่อนนุ่มและเต็มไปด้วยความต้องการ เธอค่อยๆ ช่วยอาจารย์มั่นในการปลดเสื้อผ้าของเขาออกด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน การกระทำนี้ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นการสัมผัสที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความต้องการทั้งคู่ พวกเขาเริ่มสัมผัสกันในท่าทางที่อ่อนโยนและรุนแรงสลับกันไป

เมื่อเสื้อผ้าของทั้งคู่ถูกถอดออกหมดแล้ว ความตึงเครียดในห้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลูกหว้าและอาจารย์มั่นเริ่มสลับกันในท่าทาง 69 โดยที่แต่ละฝ่ายรุกรับซึ่งกันและกัน ความรู้สึกตื่นเต้นและความกระตือรือร้นระหว่างพวกเขาทำให้ความรู้สึกทางร่างกายมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งคู่ตื่นเต้นกับการกระทำของกันและกัน ในขณะที่มือของลูกหว้าสัมผัสและดูดดื่มอย่างกระหาย ความรู้สึกนี้ทำให้ความต้องการของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน ท่าทางนี้เต็มไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกที่เป็นอิสระ โดยที่ทั้งคู่พยายามตอบสนองต่อความต้องการของอีกฝ่ายด้วยความอ่อนโยนและความรุนแรงที่มากขึ้น

ในช่วงเวลานี้ อาจารย์มั่นเริ่มรู้สึกถึงความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ได้ดี เขาทำให้ลูกหว้าประสบกับจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ลูกหว้าต้องตกอยู่ในภวังค์ของความสุขอันลึกซึ้ง ก่อนที่เขาจะพลิกลูกหว้ากลับมาในท่าหมา ด้วยการทำให้เธอมีประสบการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น ขณะที่อาจารย์มั่นเสียบเข้ามาจากด้านหลัง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นทำให้ลูกหว้ารู้สึกถึงการกระตุ้นที่รุนแรง เขาใช้มือของเขาซุกไซ้ซอกคอของลูกหว้า และข้ำหน้าอกของเธออย่างรุนแรง ทำให้การกระทำนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและความสุขอย่างชัดเจน

หลังจากนั้น อาจารย์มั่นเปลี่ยนท่าเป็นท่ากวางเหลียวหลัง เมื่อลูกหว้าเสร็จไปอีกหนึ่งครั้ง เขาเร่งความเร็วในการกระทำอย่างต่อเนื่องจนตัวเองถึงจุดสุดยอด การหลั่งของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงและเสียววาบ ซึ่งทำให้ลูกหว้ารู้สึกถึงการกระตุ้นที่เพิ่มขึ้นและถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกัน ความรู้สึกของพวกเขาทั้งคู่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การหลั่งของอาจารย์มั่นทำให้ลูกหว้ารู้สึกอุ่นและร้อนรนจนถึงจุดสุดยอดครั้งสุดท้าย

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ลูกหว้ารู้สึกถึงความเหนื่อยล้าแต่มีความรู้สึกถึงการสัมผัสที่มีค่าอย่างลึกซึ้ง ขณะที่เธอเห็นมิ้นท์นอนหมดสติอยู่ด้านข้าง ความรู้สึกอายและความต้องการปกป้องเพื่อนเกิดขึ้นในใจของเธอ ลูกหว้าตัดสินใจต่อรองกับอาจารย์มั่นว่า หลังจากที่เขาได้เธอแล้ว ขอให้ช่วยมิ้นท์โดยไม่ต้องมีอะไรกับเธออีกคน ซึ่งอาจารย์มั่นเห็นความเต็มใจของลูกหว้าและยอมตกลงให้ แต่มีข้อแม้ว่าลูกหว้าจะต้องตกเป็นคู่ขาของเขาไปอีกครึ่งปี แม้ว่าลูกหว้าจะรู้สึกกังวล แต่เมื่อเห็นรูปร่างและขนาดของอาวุธประจำกายของอาจารย์มั่น ที่ใหญ่และเกินมาตรฐานชายไทย เธอก็ตัดสินใจตอบตกลง

ลูกหว้าจึงพามิ้นท์กลับไปที่เรือนด้านหลังและให้เธอนอนพัก เนื่องจากเวลานั้นดึกแล้ว พวกเธอนอนพักผ่อนร่วมกันจนกระทั่งเช้า เมื่อมิ้นท์ตื่นขึ้นและถามว่าพวกเธอกลับมาที่พักได้อย่างไร ลูกหว้าจึงอธิบายว่า มิ้นท์หลับไปในช่วงที่พิธีเสร็จสิ้น และเธอจึงพากลับมานอนพัก ทั้งสองจึงอาบน้ำแต่งตัวและนำเงินคนละ 5,000 บาทไปวางไว้ในห้องทำพิธี ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน ลูกหว้าบอกมิ้นท์ว่า ครั้งต่อไปต้องมาทำพิธีอีกครั้งในวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งถัดไป

เมื่อกลับถึงบ้าน ลูกหว้าและมิ้นท์นั่งลงด้วยกันในห้องพัก ด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ค่อยชัดเจน มิ้นท์รู้สึกสงสัยและวิตกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เพราะเธอคิดว่าเธอได้ยินเสียงการมีเพศสัมพันธ์ดังมาในช่วงที่เธอเริ่มหมดสติ ความสงสัยนี้ทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนและเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ ลูกหว้าเห็นสีหน้าและท่าทางของมิ้นท์จึงรู้ได้ถึงความกังวลของเธอ และเริ่มรู้สึกถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญ การตัดสินใจในค่ำคืนที่ผ่านมาจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาในอนาคตอย่างไร และการมีพิธีกรรมอีกครั้งในวันพระจันทร์เต็มดวงจะทำให้เรื่องราวในชีวิตของพวกเขาหมุนเวียนไปในทิศทางใด พวกเขาต้องเตรียมตัวและเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า ในขณะที่ความลึกลับและความร้อนแรงของเมื่อคืนยังคงหมุนวนในใจของทั้งสองสาว


ปล. พยายามแล้วได้แค่นี้แหละ AI บอกว่า ไม่สามารถช่วยเขียนเรื่องราวเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ แบบถึงพริกถึงขิงได้ จึงจบลงได้แค่การเป็นนิยายอีโรติกประมาณนี้
ไปต่อหรือพอแค่นี้ดี อยากได้ถ้อยคำและภาษาแบบนิยายผู้ใหญ่เต็มรูปแบบ แต่ AI ไม่เล่นด้วยซะแล้ว
คิดว่าดี ก็ทำไป

chanky2007

#2
ตอนที่ 6: พิม

หลังจากที่มาริโอได้กลับมารับส่งมิ้นท์และแสดงตัวเป็นแฟนของเธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เขาใช้เวลาช่วงกลางวันกับมิ้นท์อย่างใกล้ชิด พอตกเย็นหลังจากทานอาหารค่ำด้วยกันและส่งมิ้นท์กลับบ้านแล้ว มาริโอจะไปพบเพื่อนๆ ที่ร้านคาราโอเกะหรือผับบาร์แห่งหนึ่งเป็นประจำ นี่คือกิจวัตรที่เขาทำเพื่อรักษาสถานะของเขาและทำให้มิ้นท์รู้สึกว่าเขายังคงสนใจในตัวเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันหยุด มาริโอแจ้งมิ้นท์ว่าเขาจะไปเที่ยวกับเพื่อนในกลุ่ม มิ้นท์ไม่สงสัยอะไรเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ บ้าง

ในคืนวันเสาร์ หลังจากที่พิมเสร็จงานและกลับมาที่ห้องพักของเธอ เธอรู้สึกแปลกใจที่ช่วงนี้มาริโอหายไปจากชีวิตของเธอ เมื่อพิมเปิดโซเชียลมีเดียและพบว่ามาริโอกลับไปหามิ้นท์ เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ความรู้สึกนี้บีบคั้นหัวใจเธออย่างรุนแรง และทำให้เธอเริ่มรู้สึกถึงความไม่พอใจที่เกิดขึ้น ด้วยความรู้สึกโกรธและเจ็บปวด พิมเดินไปที่โต๊ะข้างเตียง เปิดลิ้นชัก และหยิบรูปปั้นคู่รักที่ถูกมัดรวมกัน ซึ่งเธอได้รับจากอาจารย์คง หมอผีชื่อดังด้านการทำสเนห์ เธอพนมมือและเริ่มท่องคาถาที่เธอได้รับมาจากอาจารย์อย่างเคร่งครัด

ในขณะเดียวกัน มาริโอเพิ่งอาบน้ำเสร็จหลังจากเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ เขากำลังรู้สึกถึงความคิดถึงพิมอย่างไม่คาดคิด โดยเฉพาะเมื่อได้รับข้อความจากพิมที่เชิญเขาไปทานข้าวที่คอนโด มาริโอรู้สึกถึงความเร่งด่วนในใจและรีบไปหาพิมทันที โดยไม่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหรือเหตุผลที่พิมอาจจะเรียกเขามา

เมื่อมาริโอไปถึงห้องของพิม เขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพิมที่เปิดประตูและกระโดดกอดเขาเหมือนกับว่าเขาคือคนรักของเธอ มาริโอรับกอดและตอบกลับอย่างอบอุ่น จากนั้นทั้งคู่เดินไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งพิมได้สั่งอาหารมาจัดใส่จานรอไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากทานข้าวด้วยกันเสร็จ พิมชวนมาริโอดูหนังต่อที่ห้องนั่งเล่น และตัวเองก็เขาห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอน ก่อนจะมานั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่นกับมาริโอ

หนังรักโรแมนติกที่พิมเลือกมีฉากกอดจูบกันบ่อยครั้ง บรรยากาศในห้องนั่งเล่นที่ถูกจัดให้มีความโรแมนติกทำให้ฉากในหนังยิ่งเพิ่มความรู้สึกถึงความรักและความร้อนแรง ความรู้สึกของการจูบในหนังทำให้ความรู้สึกของพิมและมาริโอทวีความร้อนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว พิมนั่งอยู่ข้างๆ มาริโอบนโซฟาที่มีผ้าห่มสีเบจปกคลุมอยู่เบาๆ แสงสลัวจากโคมไฟที่วางอยู่บนโต๊ะข้างทำให้ห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความโรแมนติก

เมื่อมาริโอเริ่มก้มลงจูบพิมอย่างเบาๆ เขาเริ่มจากการสัมผัสริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล ลิ้นของเขาค่อยๆ คลี่ออกและสัมผัสกับลิ้นของพิมอย่างละมุนละไม ความร้อนจากจูบเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พิมตอบสนองอย่างเต็มที่ มือของเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของมาริโออย่างเบาๆ พร้อมกับเคลื่อนไหวเข้าหามาริโอมากขึ้นอย่างกระตือรือร้น

ชุดนอนซาตินสีชมพูอ่อนที่พิมใส่เป็นชุดนอนแบบชิ้นเดียวที่เปิดไหล่และโอบรัดรูปร่างอย่างแนบเนียน เมื่อมาริโอเริ่มสัมผัสร่างกายของพิม มือของเขาค่อยๆ สัมผัสผ่านเนื้อผ้าซาตินที่ลื่นไหล ชุดนอนที่เธอสวมใส่ทำให้การสัมผัสของเขารู้สึกถึงความร้อนแรงและความนุ่มนวลของผิวที่แฝงอยู่ภายใต้เนื้อผ้า

เมื่อมาริโอลูบไปที่เอวของพิม เขารู้สึกถึงความเนียนนุ่มและความเต่งตึงของร่างกายเธอใต้ชุดนอน มือของเขาค่อยๆ ลากผ่านสะโพกของเธออย่างช้าๆ ความรู้สึกที่เขาได้รับจากการสัมผัสทำให้ความร้อนในตัวเขาทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พิมเริ่มเคลื่อนไหวสะโพกของเธอให้ตรงกับสัมผัสของมาริโอ ทำให้เนื้อผ้าซาตินยิ่งยืดหยุ่นและยั่วยวนใจมากขึ้น

มาริโอเริ่มใช้มือของเขาลูบไปที่สะโพกของพิมอย่างเต็มความรู้สึก ขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปตามขาอ่อนและสะโพกของพิม ความรู้สึกของการสัมผัสที่ร้อนแรงและนุ่มนวลทำให้พิมรู้สึกถึงการหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ถูกกักขังอยู่ภายในอย่างเต็มที่ เขาละเลงริมฝีปากของเขาลงไปที่เนินอกของเธออย่างเบาๆ ขณะเดียวกันมือของเขาก็ค่อยๆ ถอดชุดนอนที่คลุมกายของพิมออกไปเผยให้เห็นเนินอกที่โค้งงาม การสัมผัสของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

พิมเริ่มส่งเสียงครางออกมาอย่างเต็มที่ เสียงครางของเธอปะปนกับเสียงจูบและการหายใจที่เร็วขึ้นทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น มาริโอเริ่มบรรจงลูบไล้ไปที่สะโพกของพิมด้วยความรักและความหลงใหล การสัมผัสที่หนักแน่นและมั่นคงทำให้พิมรู้สึกถึงความตื่นเต้นที่ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อมาริโอเริ่มส่งมือของเขาไปที่พื้นที่อ่อนไหวของพิม ความรู้สึกนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่เกิดจากการสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรัก พิมเริ่มขยับตัวตามจังหวะของมาริโออย่างกระตือรือร้น การเคลื่อนไหวของเธอเป็นการแสดงออกถึงความต้องการที่รุนแรงและความรักที่มีต่อเขา มือของเขาค่อยๆ ลูบไปที่สะโพกและขาของเธออย่างละเอียดอ่อน ขณะที่พิมยกขาของเธอขึ้นไปคล้องที่สะโพกของมาริโอ ทำให้พวกเขารู้สึกถึงการหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ถูกกักขังอยู่ภายใน

พิมขยับตัวไปถอดชุดของมาริโอออกอย่างเต็มความตั้งใจ ขณะที่มาริโอเองก็จัดการถอดชุดชั้นในของพิมออกเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่แยกจากกันชั่วขณะ ก่อนที่พิมจะผลักมาริโอให้นอนลงและวางสะโพกของเธอทับลงไปตรงกลางลำตัวของเขา สะโพกของพิมขยับไปมาในแนวนอน สัมผัสกับลำลึงค์ของมาริโออย่างแนบเนียน

มาริโอมองขึ้นไปยังหน้าอกอวบอิ่มของพิมที่เริ่มแกว่งไปมาตามจังหวะการขยับสะโพกของเธอ เขาจึงยื่นมือไปจับหน้าอกข้างซ้ายของพิมอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับดึงพิมให้นอนทับลงมาบนตัวของเขา เพื่อที่จะได้จูบและเล่นกับหน้าอกข้างขวาของเธอในเวลาเดียวกัน

การกระทำของมาริโอทำให้พิมเร่งขยับสะโพกเร็วและแรงขึ้น ความเสียวที่เกิดจากการสัมผัสที่ปลายปทุมถันทั้งสองข้างส่งผลให้เธอน้ำหล่อลื่นไหลออกมา ชโลมลำลึงค์ของมาริโออย่างมากมาย หลังจากผ่านไปอีก 5 นาที มาริโอไม่อาจทนความร้อนแรงได้อีกต่อไป เขาจึงพลิกตัวกลับมายังด้านบน พร้อมกับปาดลำลึงค์ของตนให้ถูไถกับเม็ดละมุนของพิม จนพิมร้องออกมาด้วยความเสียว มาริโอจึงกดอวัยวะเพศขนาด 6 นิ้วของเขาเข้าไปในซอกหลืบของพิม

เมื่อส่วนหัวของท่อนลำผ่านเข้าไปได้ มาริโอหยุดเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ความรู้สึกคับแน่นที่ได้รับทำให้เขาไม่อาจขยับต่อไปอย่างเร่งรีบ มิฉะนั้นอาจล่มปากอ่าว พิมรู้สึกถึงความแน่นและความเจ็บเล็กน้อย ซึ่งเธอร้องครางเบาๆ ขณะบ่นเจ็บเบาๆ

แม้มาริโอจะไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก แต่เขารู้ทันทีว่าต้องเล้าโลมพิมเพิ่ม โดยการก้มลงไปจูบและลูบไล้หน้าอกของเธออย่างต่อเนื่อง เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งไปสะกิดติ่งไตน้อยๆ ด้านล่าง

เมื่อมาริโอรู้สึกว่าการบีบรัดเริ่มลดลง เขาจึงขยับตัวอีกครั้ง โดยการกดเข้าไปและดึงออกมา ทำซ้ำเรื่อยๆ 4-5 ครั้ง ก่อนที่จะดึงออกยาวๆ จนพิมกระดกสะโพกตาม เขาจึงกดสะโพกกลับไปอย่างรุนแรงกว่าเดิม และส่งท่อนลำของเขาเข้าไปจนมิดด้าม พิมมีอาการเกร็งกระตุกเล็กน้อย จากความเสียวที่เธอได้รับ ซึ่งทำให้เธอไม่ทันตั้งตัว

มาริโอก้มลงจูบพิม พร้อมกับคลึงหน้าอกทั้งสองข้างของเธออย่างมันส์มือ และเริ่มหมุนเอวเป็นวงกลมช้าๆ ผ่านไปประมาณ 3 นาที พิมเริ่มขยับสะโพกตามเขา มาริโอจึงเปลี่ยนเป็นขยับสะโพกเข้าออกเบาๆ ต่อเนื่องประมาณ 3 นาที แล้วจึงขยับมือทั้งสองข้างมาจับที่เอวของพิม และเร่งความเร็วในการขยับสะโพกมากขึ้น ในขณะที่พิมก็ขยับสะโพกร่อนตามอย่างกระตือรือร้น

ความเสียวที่ได้รับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งอีก 10 นาทีต่อมา มาริโอจึงยืนตัวเกร็งและระเบิดน้ำรักเข้าไปเต็มซอกหลืบของพิมซึ่งกำลังครางยาวออกมา เพื่อระบายความเสียวกระสันต์ที่เธอได้รับ และร่างกายของเธอเกร็งเป็นระยะๆ

มาริโอก้มลงนอนกอดพิม และปล่อยให้ท่อนลำของเขาหดตัวจนหลุดออกจากตัวของพิมเอง ก่อนจะหยิบทิชชูขึ้นมาช่วยพิมทำความสะอาดร่างกายและบริเวณโซฟา

แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว การเสร็จภารกิจเพียงครั้งเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับมาริโอ เมื่อทำความสะอาดไปจนเกือบเสร็จ ความเป็นชายของเขาก็กลับมาผงาดอีกครั้ง จากภาพเปลือยเปล่าของพิมที่แกว่งไปมาอยู่ตรงหน้า

ค่ำคืนที่เร้าร้อนจึงดำเนินต่อไป มาริโอและพิมยังคงหลงใหลในความร้อนแรงที่พวกเขามอบให้แก่กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การสัมผัสและความรักของพวกเขาค่อยๆ บรรเทาลง มาริโอกอดพิมแน่นขณะความตึงเครียดทางร่างกายเริ่มผ่อนคลาย

สิบโมงเช้าวันถัดมา มิ้นท์ตื่นจากการพักผ่อนอย่างเต็มที่และรู้สึกสบายใจมาตลอดสัปดาห์ แต่ความสงบที่เธอเพิ่งได้รับถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วเมื่อเธอเห็นภาพในโซเชียลมีเดีย ภาพที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง—ภาพที่มาริโอกลับไปอยู่กับพิมอีกครั้ง และในภาพนั้นคือคอนโดของพิมเอง ความกระวนกระวายใจและความไม่มั่นคงในใจของพิมกลับมาอีกครั้ง ขณะเธอพยายามทำใจให้สงบและค้นหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของมาริโอและความสัมพันธ์ของเขา

ปล. ต้องพิมพ์เองเยอะ AI ถึงจะยอมให้ใช้ภาษาแบบนี้ ให้สร้างเองหมดจะได้แค่คำสุภาพตลอดเวลา
คิดว่าดี ก็ทำไป


therasak

ถ้อยคำที่ใช้บางประโยคอ่านแล้วนึกถึงภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่ค่อยพบในการใช้ในภาษาไทย และเป็นนิยายอีโรติกที่สุภาพเรื่องหนึ่ง น่าสนใจกับแนวทดลองนี้ครับ

chanky2007

อ้างจาก: jojojojo เมื่อ กันยายน 11, 2024, 02:14:35 ก่อนเที่ยงใช้ AI ตัวไหนครับ น่าสนใจ
ChatGPT ลองปรับ prompt ไปเรื่อยๆ
ถ้ามีโครงเรื่อง จะได้นิยายอิโรติกแบบสุภาพ สังเกตจากตอน 2-5

แต่ถ้าอยากได้ แบบฉากอย่างว่า ต้องพิมพ์เองส่วนใหญ่ แบบตอน 6 เลือกคำมาเอง
คิดว่าดี ก็ทำไป

chanky2007

อ้างจาก: therasak เมื่อ กันยายน 11, 2024, 04:58:15 ก่อนเที่ยงถ้อยคำที่ใช้บางประโยคอ่านแล้วนึกถึงภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่ค่อยพบในการใช้ในภาษาไทย และเป็นนิยายอีโรติกที่สุภาพเรื่องหนึ่ง น่าสนใจกับแนวทดลองนี้ครับ
ลำพัง AI เอง จะได้แบบสุภาพอย่างเดียวครับ
ผมไม่ได้สังเกตเรื่องลำดับประโยคเท่าไร
ส่วนบางประโยคอาจดูเหมือนแปลภาษาอังกฤษ น่าจะมาจากข้อความตั้งต้นด้วยส่วนนึง ตัว AI ด้วยส่วนนึงครับ - เดี๋ยวค่อยสังเกตเพิ่มครับ
บางครั้ง ผมใส่ข้อความตั้งต้นให้แบบ ไม่ได้เรียงประโยคสวยๆ พอ AI มาทำต่อแล้ว เชื่อมหรือต่อเติมเนื้อหาเลยออกมาแบบที่เห็นครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป