ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 10 ] ตอนที่ 177 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 10, 2025, 12:46:04 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

เห็นคอมเมนต์ไปไวถึง 20 หน้า++ มาทั้ง 2 ตอนแล้วชื่อใจ

จัดไปกับอีก 1 ตอนครับผม

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 มาจนถึง Part 10

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา

★★★★★★★★★★★

ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง



สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ




★★★★★★★★★★★

ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ







ปล.3 ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมหลังอ่านจบด้วยการดูที่มุมขวาล่างของคอมเมนต์ที่ท่านแสดงความคิดเห็นไว้

เลือกที่เพิ่มเติมและเลือกแก้ไข


★★★★★★★★★★★

๏๏ ความเดิมตอนที่แล้ว ๏๏

วันศุกร์แล้วเป็นวันที่ต้องไปรับคุณเคย์
ผมก็เตรียมตัวเลยล่ะ คิดว่าน่าจะไปช่วงเที่ยง
แต่แค่ 10 โมงเท่านั้น พี่รุจน์ก็มาตามและบอกว่า
ต้องไปกันได้แล้ว



★★★★★★★★★★★

นายโทนไดอารี่ 177

ผมก็อ่อ อ่าครับๆ พี่จักรก็เดินมาถามแล้วบอกไปก่อนเวลาเหรอ  ผมบอกครับพี่ เดี๋ยวผมขอเปลี่ยนชุดก่อน ผมก็จะเปลี่ยนชุดในห้องทำงานนั่นแหละ แต่เอ้ยไม่ได้ๆ ๆ ผมก็เลยถือชุดไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำของแผนก เสื้อเชิร์ตตัวใน โอเค กางเกงตัดพิเศษโอเค  เสื้อสูทตัวนอก โอเค

ผมเช็คตัวเองอีกครั้ง แล้วก็ออกมา ตอนเดินๆผมก็ลองขยับตัวนะขา แขน ไหล่ เอว ทุกอย่างโอเค แล้วไม่รู้คิดบ้าอะไร ลองขยับสลับแขน ท่าซันชิน – Zanshin ( คาราเต้ ) เพื่อจะลองเช็คหัวไหล่ แขน เอว ต้นขา ว่าจะแน่นมั้ย ฟั่บ ฟั่บ เบาๆ  ท่าเดียวสารพัดประโยชน์



อื้ม โอเคมวลกล้ามเนื้อยังสมบูรณ์ ไม่ได้น้ำหนักขึ้นจนเสื้อผ้าแน่น แฮ่ๆ SEX นี่ช่วยได้เยอะเลยแฮะ แฮ่ๆๆๆๆ ตอนนั้นพอเงยหน้ามา กึ๋ย คนมองเต็มเลย ผมก็รีบเดินเข้าแผนก แล้วก็มาเจอพี่ที่เป็นเลขาของพี่แมน คนละที่มาโปะแป้งให้ผมนะ เขาก็ถือไดร์เป่าผมมาเลย เขาถามโทนตรงไหนมีปลั๊กมั่ง ผมก็บอกห้องนั่งพักครับ เขาบอกป่ะให้พี่ทำผมให้ก่อน อ่ะผมก็ตามไป

เสียบปลั๊ก เป่าวี๊ ๆ ๆ ๆ เขาบอกโทน ผมเริ่มยาวแล้วนะ ผมบอกคร๊าบ เดี๋ยวไปตัดครับ เขาก็เป่าแปปเดียว แล้วก็ใช้แว๊กซ์ ขยี้ๆ ปาด ๆ เน้นเปิดหน้าผากแหละมั้ง เพราะรู้สึกโดนเน้นตรงนั้นพิเศษ แล้วก็มีฉีดสเปรย์แข็ง เพื่อให้อยู่ทรงอีกนิดนึง เน้นตรงปลายเส้นผม

แล้วก็ใช้ลมเป่าตรงปลาย เพื่อเร่งให้ทรงผมเซ็ทตัว แปปเดียวก็เสร็จ ผมก็ถามว่าพี่แมนมาบริษัทแล้วเหรอครับ เขาบอกมาแล้วเมื่อช่วง 9 โมง ผมบอกโอเคครับ ขอบคุณครับ เขาก็บอกอ่ะรองเท้า แล้วก็รองเท้าสำหรับสูทที่ทำงานแหละครับรองเท้าคัทชูทั่วไป พื้นจะเป็นยางแข็งๆ เอาตรงๆแค่เดินบนพื้นขัดมันลำบากละ แต่สำหรับทีมการ์ดพี่แมน จะให้เสริมพื้นยางด้านล่างครับ เน้นคล่องตัว และเพิ่มสัมผัสกับพื้น แต่แน่นอนต้องดูดีด้วย

แต่ของผมพี่แมนเขาสั่งตัดให้พิเศษแหละครับ เน้นการเคลื่อนที่ให้รวดเร็ว และเหมาะกับข้อเท้าของผม ซัพพอร์ท ตอนกระโดดด้วย ( เด็กเส้นของแท้ ) เพราะงั้นถ้าใส่คัทชูแข็งล่ะก็พังแน่ๆ และการเคลื่อนไหวมันจะทื่อลง พอผมเข้ามาในแผนก ทุกคนก็โหว ๆ ๆ ถามว่ามาทำไรอีกเนี่ยโทน.... ผมลืมปิดคอมฯครับแหะๆ ผมบอกไปแบบนั้น หลังจากเคลียร์เสร็จ และกำลังจะออกไป พี่เลขาก็บอกโทน เดี๋ยวเสื้อกับกางเกงฝากพี่ไว้ก่อนนะ ผมก็บอกครับได้ครับ

พี่เลขาเอาอุปกรณ์สื่อสารมาให้ ผมก็รับมา พี่เลขาบอกว่าคุณรุจน์บอกใช้ช่องสัญญาณนี้ๆๆ ผมก็บอกได้ครับ ตอนนั้นผมก็กำลังปรับจูนอยู่ พี่ตั้มบอกเฮ้ยโคตรเท่ส์ ผมก็อื่ยย ทำตัวไม่ถูกว่ะ ได้แต่ปรับคลื่นแก้เขินไป หัวหน้าผมก็ออกมาจากห้อง ผมก็บอกหัวหน้า ผมต้องไปก่อนเวลานะ พี่เขาบอกเออไม่เป็นไร พวกกระเป๋าสะพาย พี่เลขาก็ยกไปแล้ว อาจจะหนักหน่อยนึงเพราะมีครีมอยู่หลายหลอด


ผมเช็คสภาพตัวเองอีกครั้ง โอเคของที่จะเอาติดตัวไปก็มีแค่โทรศัพท์มือถือ แล้วก็กระเป๋าเงิน พร้อมละ ผมบอกพวกพี่ๆในแผนกว่าไปก่อนครับ พี่เขาบอกเดี๋ยวววว ถ่ายรูปก่อนนน แล้วพวกเขาก็ถือกล้องมาถ่ายรวมๆกับผมครับ ผมก็เขินชิบเลยแบบนี้ โดยเฉพาะเหมียวไม่รู้แทรกตัวมาจากไหนมาอยู่ติดผมเลย พอถ่ายเสร็จแล้ว ผมก็เลยต้องบอก ผมไปก่อนนะครับเดี๋ยวเลยกำหนดการ พี่ตั้มก็บอก โหคำพูดโคตรทางการ แล้วเขาก็เดินมาเขย่าไหล่แล้วบอกเอ็งเป็นใคร คายไอ้โทนออกมาเดี๋ยวนี้ !!!

พวกพี่เขาก็หัวเราะ ผมก็บอกขอตัวก่อนครับ คนแผนกอื่นๆที่เดินไปมา ก็คงตกใจ ว่าทำไมผมแต่งตัวเต็มยศแบบนี้ เขาก็ถามโทนเหรอเนี่ย ผมก็ผงกหัวแล้วบอกครับ แล้วพอลงมาข้างล่าง พวกพี่รุจน์ก็รออยู่แล้ว ตอนกำลังจะเดิน คงจะเพราะความบังเอิญแหละครับ พี่แมนก็เดินมาพร้อมพี่รัชต์อีกทาง เดินมาบรรจบกับผมพอดี

คือคิดภาพตามนะ ผมเดินมาทางตรงจากลิฟต์ พี่แมนก็เดินมาจากทางขวาแล้วตีโค้งมาเจอกันพอดี ผมก็ยกมือไหว้พี่แมนแล้วก็เดินสมทบกับพี่แมนไป เขาตบไหล่แล้วบอกเฮ้ยโทษทีว่ะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเวลานิดหน่อย พี่ต้องไปธุระที่อื่นก่อน เลยต้องให้ออกก่อนเวลา ผมบอกไม่ได้มากมายไรเลยพี่  ผมก็กะไว้แล้วว่าอาจจะมีเรื่องเวลาที่คลาดเคลื่อน พี่เขาบอกเยี่ยมเลย


ผมก็เดินไปพร้อมกับพี่แมน  แล้วโคตรจะบังเอิญที่พี่รุจน์กับพี่รัชต์ถอยไปเดินคุยกัน มันกลายเป็นผมกับพี่แมนเดินนำหน้าไปคู่กันและทีมการ์ดเดินตามหลังอยู่หลายคน และด้วยความเคยชินครับ เวลาที่ต้องทำงานและอยู่กับพี่แมน ผมก็ต้องมองไปข้างหน้าเพื่อสังเกตรอบๆ แล้วก็เจอคุณNB นั่นพอดี คงกำลังทำงานนั่นแหละ เริด เชิ่ด คงเป็น Concept ของเขาแหละครับ

เขาเห็นพี่แมนเขาก็รีบเดินมาเลย แต่ก็ชะงักทันทีที่เห็นผมอยู่กับพี่แมน พี่แมนก็พูดกับผมว่าโทนเดี๋ยวเอ็งจัดการได้เลย เพราะว่าทางนั้นเขาระบุชื่อเอ็งมา เดี๋ยวพี่รุจน์จะไปกับพี่ ส่วนพี่รัชต์จะให้ไปกับเอ็ง ถ้าทางนี้เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่จะตามไปสมทบ แล้วก็ให้พี่รัชต์นำทีมนะ  ผมบอกได้ครับพี่แมน ตอนนั้นก็ช่วงสายๆคนเยอะครับ พนักงานหลายคนก็หยุดแล้วมองตามเลย ก็เป็นปกติครับเวลาเจอผู้บริหารระดับสูงมากๆ โดยเฉพาะลูกชายท่านประธาน หลายคนก็จะมองแหละครับ

คุณ NB ก็ตามมาด้วย ผมกับพี่แมนเดินมาตรงหน้าบริษัทรถก็มาแล้ว ผมเปิดประตูให้พี่แมนขึ้นรถตู้ไปก่อน เขาตบไหล่ผมแล้วขึ้นไป ตามด้วยทีมงานนั่งข้างหน้ากับพนักงานขับรถ แล้วพี่รุจน์ก็ตามขึ้นไปครับ เขาพยักหน้าให้ผมทีนึงผมก็ปิดประตู

พอหันกลับมา ผมเห็นหลายคนที่ก็มองมาเลยล่ะ พี่ๆที่รู้จักหลายคนก็เรียกโทนๆแล้วโบกมือให้ ผมอยากไหว้กลับแต่ไม่มีเวลาละ ผมยิ้มแล้วพยักหน้าทักทายพวกเขากลับไปครับ ผมกับพี่รัชต์ก็ขึ้นรถ แล้วก็แล่นไปเลยตอนแรกในแผนน่ะบอกว่าจะไปสุวรรณภูมิ แต่ว่าอยู่ดีๆรถกลับวิ่งไปอีกทาง ผมก็มองพี่รัชน์ เขาบอกว่าเปลี่ยนไปสนามบินดอนเมืองน่ะ ผมก็อ้อ ลืมไปว่ามันคือการมาเป็นการส่วนตัว

และผมคิดว่าด้วยตอนนี้ที่ผู้คนแห่กันไปใช้สุวรรณภูมิ และพื้นที่บางจุดของดอนเมืองที่ไม่ค่อยมีคนเดิน คงจะสะดวกกว่า และอีกอย่าง ผมชำนาญทางในสนามบินดอนเมืองมากกว่า เราเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองใช้เวลาไม่นานครับ เอามือถือกับกระเป๋าตังส์เก็บไว้บนรถ ถ้าเอามาด้วยชุดจะดูไม่เนี๊ยบ มาถึงก็ทำตามลำดับการที่พี่รัชต์แจ้งมา ซึ่งนั่นรวมถึงเรื่องที่คุณรุกะไม่ได้เดินทางมาด้วย

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆนะ มันทั้งโล่งใจที่ไม่ได้เจอคุณรุกะ เพราะว่าถ้าเจอก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง และก็ยังมีแอบผิดหวังเพราะว่าถ้าเธอมาอย่างน้อยผมก็จะได้รู้ว่าเธอยังสบายดีมั้ย แต่งานมันก็คืองานเจ๊หมิวก็บอกแล้วว่ามารับคุณเคย์ ไม่ได้พูดสักคำว่าคุณรุกะจะมา พี่รัชต์ทำความเคารพคุณเคย์ผมก็ทำตามแหละครับเป็นเรื่องปกติ

คุณเคย์พูดเป็นภาษาอังกฤษว่าขอบใจทุกคนนะที่มาตามคำที่ขอไป พอเงยหน้ามาท่านก็มายืนตรงหน้าแล้วตบไหล่ผมแล้วพูดว่า โดยเฉพาะโทนขอบใจนะที่มา เขาพูดกับผมเป็นภาษาไทย ผมก็บอกว่าด้วยความยินดีครับท่าน อ้าวไหนในข้อมูลที่ให้มา บอกว่าภรรยาคุณเคย์ ที่ชื่อคุณเรย์โกะจะมาด้วยนี่หว่า

แต่ผมก็ไม่ได้ถามแหละครับ ตอนนั้นคุณเคย์คุยกับทีมงานที่ติดตามมาของเขา จังหวะนั้นพี่รัชต์ก็ขยับมาสะกิดผมแล้วบอกว่าโทน พี่ว่าเคสนี้ต้องสลับให้เอ็งต้องนำว่ะ ผมก็หันไปมองพี่รัชต์ เขาขมวดคิ้วแล้วพยักหน้าเพื่อบอกผมว่าเอาจริง พี่รัชต์บอกว่า คุณแมนสั่งไว้ว่า ถ้าเกิดกรณีที่คุณเคย์ยอมพูดภาษาไทยขึ้นมา

ให้สลับหน้าที่กันเอ็งต้องเป็นคนนำทีม เพราะว่าคุณเคย์จะโฟกัสแค่เอ็งละ ผมถามจะดีเหรอพี่ ผมก็หันไปมองพี่ๆร่วมทีมคนอื่นๆ เขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมา เย่ !!!  เพื่อยืนยันว่าให้ทำตาม ทีมงานนี้มีแต่ทีมรุ่นเก่าครับ เป็นทีมที่อยู่มาตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่ทีมการ์ดวันแรกเลย และเขาก็คงรู้อะไรหลายๆอย่าง เพราะงั้นแค่ภาษากายแค่นี้ก็รู้กัน และจะไม่มีความขุ่นเคืองใจ ถ้าเกิดใครได้เด่นในภารกิจนั้นๆ

คุณเคย์บอกเอาล่ะไปกันเลยมั้ย ผมก็ผายมือแล้วบอกเชิญทางนี้ครับท่าน ผมก็เดินนำไปก่อนเลย พี่รัชต์ไปเดินรั้งท้ายและสื่อสารมาว่า โอเคทางสะดวกนะ ขออนุญาตบอกท่านผู้อ่านครับว่า การมาครั้งนี้เป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางครับ เพื่อที่จะให้คุณเคย์ได้รับความสะดวกสบาย และที่สำคัญการมาครั้งนี้คือการพักผ่อนหลังจากแถลงข่าวใหญ่ไป

เพราะงั้นทุกการเคลื่อนไหวยังไงก็ต้องมีคนจับตามองแน่ๆ ถ้านักข่าวบังเอิ๊ญบังเอิญมาเจอล่ะก็ พวกผมก็มีหน้าที่ทำยังไงก็ได้ให้คุณเคย์เดินทางได้สะดวก และก็ด้วยความซวยจริงๆ น่าตบปากตัวเอง พี่รัชต์บอกว่าระวังหน่อยนะ พี่เห็นนักข่าวเจ้าประจำเลยว่ะ ผมเดินมาจะถึงตรงประตูขาออกแล้วแท้ๆ  สุดท้ายก็เลยต้องเปลี่ยนเส้นทางนิดนึง

ผมติดต่อไปหาพี่พนักงานขับให้มารอรับ ณ จุดที่เราวางแผนเผื่อเอาไว้ และมันก็ดันได้ใช้จริงๆ พี่เขาบอกโอเค  แล้วต้องแจ้งคุณเคย์ต่อ ผมลดจังหวะการก้าวลงและขยับมาอยู่ข้างๆคุณเคย์ เพื่อที่จะไม่ให้เขาต้องหยุดชะงัก ผมแจ้งไปว่าจะมีการเปลี่ยนเส้นทางราวๆ 50 เมตรครับท่าน ทางนี้ครับ ท่านก็บอกโอ้ ดูภูมิฐานขึ้นมากเลยนะโทน แค่ไม่กี่เดือนเอง ผมก้มหัวให้ท่าน และเร่งเดินขึ้นนำไปต่อ ก็ซิกแซกมาอีกทางแหละครับ

พี่คนขับรถก็บอกว่ามาถึงแล้วโทน ผมก็คำนวณระยะทางแล้วบอกอีก 20 วินาทีครับ ผมก็เดินไปตรงนั้นเป็นประตูที่ต้องเปิดเอง ผมก็ขยับเปิดจนสุดให้คุณเคย์เดินออกไป แล้วผมก็เดินตาม ตอนนั้นคนก็มองเต็มเลย เพราะต่อให้จะเลี่ยงทางเดินยังไง แต่ว่าข้างนอกมันก็เกินการควบคุม

แต่ก็ไม่มีปัญหาครับ ผมเปิดประตูให้คุณเคย์ขึ้นไป ทีมงานก็ขึ้นไปตามครับ ในรถตู้มีผม คุณเคย์ คนขับรถ และก็ทีมงานของคุณเคย์ไปด้วย รถก็แล่นออกไปครับ ผมรู้แค่จุดหมายที่พักของคุณเคย์คือโรงแรมในกรุงเทพฯเท่านั้นแหละครับ จนมาถึงอนุสาวรีย์ชัยก็วิ่งมาทางถนนพิษณุโลก

มีการสื่อสารมาว่า โรงแรมที่พักของคุณเคย์ มีนักข่าวเต็มเลย ผมก็ถามเป็นไปได้ไงครับ  ปลายทางก็ตอบว่ามีแถลงข่าวเปิดตัว พรีเซ็นเตอร์ของเครื่องดื่มยี่ห้อนึงน่ะ ผมนี่คิดเลยความบังเอิญจะมาอะไรตอนนี้หว่า เครื่องดื่ม = ของขาย = ธุรกิจ และพรีเซ็นเตอร์ก็คือดารา ยังไงก็เจอนักข่าวแน่ๆ ไม่ว่าจะสายบันเทิงหรือสายธุรกิจ

เฮ้อออ บางครั้งอะไรหลายๆอย่างก็มีหน้างานแบบนี้ประจำเลยวุ๊ย แล้วตอนนั้นคุณเคย์ก็ถามว่ามีอะไรโทน ผมเลยบอกไปตามที่รับข้อมูลมา คุณเคย์กอด อก แล้วพูดอื้มช่วยไม่ได้นะ  ถ้างั้น มาเปลี่ยนกำหนดการสักหน่อยดีมั้ย เอาล่ะเคสหน้างานเลยครับแบบนี้ คุณเคย์ก็พูดขึ้นมาว่า ชั้นอยากไปบ้านสวนของโทนน่ะ

ผมก็ฮ๊ะ !!!  คุณเคย์บอกไปเยี่ยมทศก่อนแล้วกัน แล้วคุณเคย์ก็คือจะไปอย่างเดียวแล้ว  ตอนนั้นคุณเคย์ก็พูดกับทีมงานของเขาที่ติดตามมาด้วย พวกนั้นตอบ " ไฮ่ " แล้วก็โทรศัพท์ติดต่อไปอีกทาง ส่วนคุณเคย์ก็บอกว่าเอาล่ะรบกวนหน่อยนะโทน ผมก็มองพี่รัชน์เลย พี่รัชต์ที่นั่งอยู่หลังก็พยักหน้า

แล้วผมก็ขยับไปถามพี่คนขับว่าจำทางไปบ้านผมได้มั้ย เขาบอกได้ โอเคงั้นไปกันเลย ผมก็โทรหาพ่อ แล้วเล่าให้ฟัง พ่อบอกเอ่อ เออมาได้เลย ผมก็หืมอะไรหว่า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร คุณเคย์ก็พูดว่า เอาน่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น เพราะยังไงซะชั้นก็ตั้งใจที่จะไปบ้านของโทนอยู่แล้ว แค่ไปเร็วขึ้นแค่นั้นเอง

จากจุดนี้ไปบ้านผมก็ไม่ไกลแล้วล่ะครับ รถก็แล่นมาเรื่อยๆคุณเคย์ก็ถามว่า ช่วงนี้ทำงานเป็นบ้างโทน ผมก็ตอบไปว่ายังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ อะไรที่เคยทำได้ก็กลายเป็นว่า มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของวงจรงานแค่นั้นเองครับ คุณเคย์ก็บอกงั้นก็จงจำไว้ว่า สิ่งที่เราทำไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน ยังไงมันก็เป็นสิ่งสำคัญต่องานใหญ่ในอนาคต ผมก็ได้แต่ตอบครับไปเท่านั้น

เอาล่ะ ถึงเขตบ้านแล้วล่ะ แปปเดียวก็ถึงบ้านแล้ว หืมรถใคร พอรถจอด ผมก็เปิดประตูลง และรอรับคุณเคย์ สิ่งที่เขาทำอย่างแรกเลยคือหันไปไหว้ศาลพระภูมิแหละครับ เขาหันมาไปพูดกับทีมงานว่า เอาล่ะชั้นขอเวลาพักผ่อนเป็นส่วนตัวหน่อยนะ พี่รัชต์โค้งให้แล้วพูดครับท่าน

ตอนนั้นพ่อผมก็เดินมาพอดี คุณเคย์ยิ้มและเดินเข้าไปจับมือทักทายเลย พี่รัชน์กับพี่ทีมงานอีก 3 คนรวมคนขับก็เดินมาหาผมแล้วพูดว่า อาทศโคตรเจ๋งเลยว่ะโทน ดูคุณเคย์ดิ่ ทำตัวโคตรชิลด์ผมก็บอกแหะๆงั้นเหรอครับ ผมถามว่าเอาไงต่อดีพี่รัชต์นี่มันเกินกว่าที่เราวางแผนกันไว้อีกนะ พี่รัชต์ก็คุยกับพี่รุจน์ผ่านเครื่องมือสื่อสาร

คำตอบก็คืออนุญาตให้พักผ่อน แม่ผมก็มาพอดีเหมือนกัน ยกน้ำมาให้ ผมก็รีบเข้าไปช่วยยกเลย น้ำลอยดอกมะลิเย็นๆ แล้วมีของหวานรับแขกเป็นอัญชันมะนาวลอยแก้ว ตอนนั้นผมก็สงสัยไอ้รถที่จอดตรงลานจอดรถนี่ของใคร ผมมองๆแล้วก็ร้องเฮ้ยในใจ นี่มันรถบ้านที่ผมเคยดูบ่อยๆนี่หว่าซึ่งมันโคตรเจ๋งเลย

ผมก็รับน้ำมาช่วยเสิร์ฟ รับขนมมาช่วยเสิร์ฟ คุณเคย์ก็คุยกับพ่อผมตรงหน้าบ้านนั่นแหละ นั่งคุยกันตรงต้นลิ้นมังกรนั่นแหละ วันนี้ไม่ค่อยมีแดดครับ ลมในสวนก็เย็นๆ ภารกิจวันนี้มันก็จะงงๆหน่อย ใครมันจะไปคิดว่าต้องมาทำภารกิจที่บ้านตัวเองแบบนี้ล่ะ พี่รัชต์เดินมาหาพ่อผมแล้วพูดว่า ผมขออนุญาตใช้ตรงสวนหินพักผ่อนและรายงานเรื่องราวครับ พ่อผมก็บอกตามสบายเลย แล้วหันไปถามคุณเคย์ว่าได้ใช่มั้ย

คุณเคย์บอกตามสบายเลย พวกพี่รัชต์ก็พากันไปนั่งตรงสวยหินหลังบ้านใกล้ๆเซ็นโตนั่นแหละ  ผมก็ขอเดินไปพักตรงนั้นด้วย เซ็นโตะใกล้เสร็จแล้วล่ะท่าทาง พี่รัชต์ก็รายงานเรื่องทั้งหมดไปทางพี่รุจน์นั่นแหละครับ พอรายงานจบพี่รัชน์ ก็บอกว่าทางพี่รุจน์รู้เรื่องแล้ว ตอนนี้คุณแมนก็ทำธุระทางฝั่งนั้นอยู่ เขาบอกว่าให้ Stand By รอที่นี่ไปก่อน ผมก็บอกครับ

พี่รัชน์ก็ถามว่า ว่าแต่ไอ้ข้างหลังนั่นอะไรน่ะโทนมาคราวก่อนมาคราวก่อนไม่เห็นเลย ผมก็บอกเซ็นโตะน่ะพี่ พี่รัชต์บอกเฮ้ยเอาจริงดิ่ ผมบอกอื้อ แล้วเชื่อมั้ยครับพี่ๆทีมงานทั้งหมดหันไปมองที่คุณเคย์ที่กำลังคุยกับพ่อผมแล้วพูดว่า มันจะบังเอิญไปป้ะ คุณเคย์อยากมาที่นี่ แล้วบ้านเอ็งก็มีเซ็นโตะด้วย

ผมก็เกาหัวแกร่กๆ ๆ ๆ แล้วบอกว่าเท่าที่ผมไปทำงานที่เชียงใหม่กับเชียงรายมาอ่ะพี่ คุณเคย์เขาเสพติดธรรมชาติแบบจัดๆเลย เขาชอบที่จะอยู่ในที่ที่มีต้นไม้และดูไม่วุ่นวายน่ะครับ พี่รัชน์บอกอื้มอันนั้นเข้าใจได้ พ่อพี่ก็เป็นแบบนั้น ปลูกบ้านหลังใหม่ให้ติดกับบ้านหลังเก่า เขาก็ไม่ยอมมาอยู่ ชอบจะอยู่กับบ้านไม้หลังเก่า เพราะมีต้นไม้หลังบ้านเยอะ พี่คนอื่นก็บอกใช่ครับ แม่ผมก็เหมือนกัน

ผมก็บอกว่า งั้นพวกพี่พักผ่อนกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวผมคอยดูแลให้เอง ถึงจะบอกว่าดูแลให้เอง แต่ว่าทางคุณเคย์ก็มีผู้ติดตามมา 2 คนแหละครับ คงไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ยังไงก็ต้องคอยดูไว้ครับ เพราะถึงจะบอกว่าตามสบายแต่ก็ยังอยู่ในเวลางาน

แต่ว่าที่ผมอยากดูไอ้รถนอนท่องเที่ยวนั่นแหละ ผมเดินมา แม่ผมก็เดินมาตีไหล่ผมแล้วถามว่า เป็นไงวันนี้เหนื่อยมั้ยไอ้ตัวแสบ ผมก็บอกไม่เลยแม่ ผมถามรถไรอ่ะแม่ แม่ก็บอกนู่นน่ะรถของเคย์นั่นแหละ เห็นบอกว่าจะมาขอนอนพักที่นี่ ไอ้จะไปเตรียมที่นอนให้ก็ยังไงอยู่ ก็เลยบอกไปตามตรงว่ากลัวจะรับรองต้อนรับได้ไม่ดี อีกวันนึงก็มีรถมาจอดเลยเนี่ย

ผมสะดุ้งเลยตกลงคุณเคย์จะมานอนบ้านผมจริงๆด้วย ผมก็ถามแม่นะ แล้วเอาไงอ่ะแม่ แม่บอกทำไงได้ล่ะ เขาขอมาแบบนั้นว่าอยากพักแบบเงียบๆ พ่อเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมก็มองๆแล้วบอกอื้มครับ แม่ลูบหัวแล้วบอกว่ามีเวลาก็พักผ่อนซักหน่อยสิ่ ผมก็บอกครับ ผมมองพ่อที่นั่งคุยกับคุณเคย์ บอกตรงๆเป็นภาพที่ผมไม่คิดว่าจะเห็นเลยนะเอาตรงๆ ระดับคุณเคย์เลยนะ

ฟู่ว แต่ช่างเถอะขนาดพี่แท-โอ ยังโค้งหัวเคารพพ่อผมเลย ผมก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อผมนั้นอดีตเคยทำอะไรมา และ 3 ปีที่เข้ามารับงานที่ปรึกษาแผนก เขาสร้างบารมีอะไรไว้บ้าง แต่ดูจากสิ่งที่ผมเจอมา ยังไงก็ดูไม่ธรรมดาแหละ ผมบิดเอว อื๊บ อื๊บบบบ อ่าส์กลับบ้านทีไรโคตรสบายใจเลยล่ะ ผมมองไปที่ในสวนแล้วก็เดินเข้าไป

เพียงแค่ผ่านเขตต้นแสงจันทร์เท่านั้นแหละ ลมก็พัดมาโหมใหญ่ ผมกางแขนออกและสูดอากาศเข้าเต็มปอด กลิ่นหญ้า กลิ่นดิน กลิ่นที่คุ้นเคย มันทำให้สบายใจจริงๆนะ  พอลืมตาขึ้นมาปู่ไพรท่านก็ยืนอยู่ ผมก็นั่งลงและก้มกราบเลย พอเงยหน้ามาท่านก็ยิ้ม ผมก็บอกว่าช่วงนี้งานมันยากมากเลยครับปู่


ผมเหนื่อยจังเลยอ่ะ แล้วไหนจะมารู้ว่าตัวเองเป็น 1 ในความลับของบริษัทแบบงงๆอีก แต่แบบนี้ก็ดีแล้วครับปู่ ผมจะได้หายสงสัยสักทีว่าทำไมตลอดเวลาตั้งแต่เข้ามาทำงาน ผมถึงได้ทำงานเยอะกว่าคนอื่น

ได้โอกาสมากกว่าคนอื่น และมีห้องทำงานดีๆทั้งๆที่เป็นแค่เด็กใหม่อายุงานไม่ถึงปี แต่ผมก็สับสนอ่าครับปู่ ผมควรจะยินดีหรือว่ารู้สึกไม่แฟร์ที่โดนปกปิดดีอ่ะครับ ผมเงยหน้าไปมองปู่ ปู่ก็ยิ้มเหมือนญาติผู้ใหญ่กำลังฟังเด็กน้อยบ่นแหละครับ แล้วรอบๆปู่นั้นก็อื้อน้าๆอาๆป้าๆลุงๆ ก็เกาะเต็มเลย

เขาก็มาใกล้ๆวนเวียน ชะโงกซ้าย ชะโงกขวา ผมก็เลยบอกว่าชุดทำงานน่ะคร๊าบบ งาย ผมหล่อป่ะล่า พวกเขาก็หัวเราะกันแหละครับ ผมรู้สึกได้ถึงแรงกดเบาๆบนหัว เขาคงจะสัมผัสและบอกผมว่าไม่เป็นไรนะ ทำได้อยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้ยินคำพูดแต่ผมรู้สึกแบบนั้นนะ ลมในสวนผมพัดฟู้วววว อีกครั้ง

เฮ้ออออออ อยากกลับมาอยู่บ้านจริงๆนั่นแหละ ถ้าที่ทำงานใกล้บ้านก็คงดีสิ่นะ ขนาดผมอยู่ไปอยู่ห่างจากบ้านไม่เท่าไรผมยังอยากกลับบ้านเลย แล้วคนอื่นๆที่ต้องห่างบ้าน เพื่อมาทำงานหาเงิน เขาจะคิดถึงบ้านขนาดไหนกันนะ คุณเคย์ก็มา คุณเรย์โกะภรรยาก็มา.. แล้วคุณรุกะไม่มาเหรอ บ้าน่าแล้วผมจะคิดแบบนั้นทำไม หรือว่าผมคิดถึงคุณรุกะกันนะ


ผมมองไปที่ปู่ไพรอีกครั้งครับ ปู่ไพรท่านยิ้ม แล้วผงกหัวไปทางข้างหลังผม พอผมหมุนกลับหลังหันไปมอง ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองโดนกระแทกนิดนึงพร้อมกับเหมือนมีใครมากอดไว้ กลิ่นที่รู้จัก เหมือนเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันเลยทำให้ผมเผลอกอดไปโดยไม่รู้ตัว เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดว่า

" มาหาแล้วค่ะซารุซัง "




เธอกอดผมแล้วก็จ้องแบบนั้น ตอนนั้นความรู้สึกมัน กระอักอยู่ข้างใน นี่ผมต้องทำหน้ายังไง ควรรู้สึกยังไงดี ควรดีใจ ประหม่า หรือตกใจ ผมก็เอ่ออ คุณรุกะจูงมือผมแล้วบอกว่าไปที่ท่าน้ำกัน ตอนนั้นผมก็ทำตัวไม่ถูกเลย แต่เดี๋ยวนะนี่บ้านผมนี่หว่า ทำไมผมต้องลนลานด้วย ผมก็เดินตามที่ไปนั่นแหละครับ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวๆ ผมบอกเดี๋ยวครับ เธอบอกหือแล้วหันมามองผม

ผมจับที่แขน จับชีพจร เธอก็ถามทำอะไรคะ ผมบอกขอโทษนะครับ แล้วผมก็จับที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอ ก็มีชีพจร ไม่ใช่พวกลุงๆป้าๆจำแลงมาแน่ๆ ผมหันไปมองทางปู่ไพร ท่านก็มองผมแล้วก็ค่อยๆสลายหายไป จนคุณรุกะก็บอกมาเถอะค่ะ พอเข้ามาถึงตรงต้นก้ามปูแล้ว

ผมก็ถามเดี๋ยวครับไปท่าน้ำทำไมครับ อยู่ดีๆเธอก็กอดผมแน่นเลยแล้วบอกว่า ก็ถ้าอยู่ตรงนั้นซารุซังจะไม่กล้ากอดใช่มั้ยล่ะ กอดชั้นหน่อยยยยยยยยยย  คิดถึงซารุซังมากมากกกกก ผมก็อึกๆอักๆทำตัวไม่ถูก เฮ้ยคุณผู้อ่าน นี่สาวญี่ปุ่นเลยนะเว้ย สาวญี่ปุ่น !!! แล้วน่ารักโคตรๆด้วย เธอทำหน้าแบบหืม ๆ ๆ แล้วพูดว่า

ซารุซังไม่คิดถึงชั้นเหรอ ผมก็คิดในใจชิบหายละตอบไงดี ไม่ได้เตรียมตัวมาด้วย แล้วคุณรุกะก็กอดผมแน่นขึ้น แล้วบอกว่า อ๋อๆ รู้แล้วๆ ต้องทำแบบนี้ เธอจูบผมทีนึงแล้วพูดว่า


" โทนจ๋า คิดถึงรุกะมั้ย "



 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


olemantu

เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆจะทราบหรือเปล่าไม่รู้นะว่า ต้องไปรับผู้บริหาร หรือไปรับสาวกันแน่



เออ..น่ะ..นั่งโงก ๆอยู่ เปิดมาทันเวลาพอดี เนอะ





[email protected]




Slave

และแล้ว 1 ใน Candidate ว่าที่สะใภ้ก๊มาโชว์ตัวให้หายคิดถึงซักทีเนาะ



ryg123456


mrcat2022

โทนทำตัวไม่กูกเลย 55 โดนแแบบนี