ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มหายุทธสยบรัก ตอนที่ 11: หวังปี้สู้พรรคกระยาจก

เริ่มโดย KaohomLM, เมษายน 21, 2025, 08:33:04 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   นครปุคไฮ
   หวังปี้เดินโดดเดี่ยวเดียวดายบนถนนที่พลุกพล่าน สอดส่ายสายตามองหาขอทานพรรคกระยาจก
   ได้มาอยู่ในเมืองใหญ่ มันคิดถึงเมื่อก่อน ยามที่บิดายังเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยอยู่ในเมืองหลวงมากนัก
   หากบิดาไม่ได้รับแต่งตั้งไปเป็นนายอำเภอที่เมืองแห่งนั้น เมืองที่บัดนี้ทุกคนเรียกเมืองวิปลาส ชีวิตของมันก็คงไม่ต้องเป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้
   มันก็ยังคงใช้ชื่อหวังอี้อยู่ ไม่ใช่ชื่อสมญาหวังปี้ที่อาจารย์ตั้งให้
   ไม่ได้พบอาจารย์ แม่นางไช่อี้เหนียง
   หรือแม่นางเซียวเฟยซิง
   มันส่ายหัว จะคิดอะไรให้เปล่าประโยชน์กันเล่า
   นั่น ชายหนุ่มสภาพมอซอนัก นั่งอยู่ใต้ต้นไม้หน้าโรงเตี๊ยม
   หวังปี้จ้องมองไปที่ชายหนุ่ม นั่นใช่ขอทานหรือเปล่าหนอ หรือเป็นเพียงคนสติไม่สมประกอบมานั่งริมทาง มันพยายามมองหากะลาหรือชามขันอันตั้งวางไว้ให้ใส่เงิน
   "พี่ชายมองอันใดฤา" หนุ่มข้างถนนถาม "ข้าเป็นเพียงขอทาน หาได้ขายตัวไม่ ท่านโปรดอย่ามองข้าเช่นนี้"
   "ข้าหาได้อยากซื้อเจ้าไม่ เจ้าช่างสกปรกยิ่งนัก" หวังปี้ร้อง
   "ถ้ามีเงินสักนิดข้าคงมิสกปรกเช่นนี้หรอก" ขอทานหนุ่มตัดพ้อ "แต่ท่านพี่เอาแต่จ้องมอง หาได้ให้ทานไม่ ข้าจึงมิมีเงินไปอาบน้ำถูตัวที่หอคณิกา"
   หวังปี้เดินเข้าหาหนุ่มขอทาน มันเงยหน้าขึ้นมองอย่างหวาด ๆ
    "ข้าล้อเล่นเพียงเท่านั้น มิคิดเอาเงินไปเที่ยวหอคณิกาดอก โปรดอย่าได้ถือสา" มันบอก
   "เจ้าเป็นขอทาน ใช่ไหม" หวังปี้ถาม
   "ใช่ ข้าเตียวหลง เป็นขอทานขอรับ"
   หวังปี้ควักกระเป๋าเงินออกมา เตียวหลงตาโต
   "เจ้าเป็นคนของพรรคกระยาจก ใช่หรือไม่" หวังปี้ถามและหยิบเหรียญอีแปะออกมาเหรียญหนึ่ง
   เตียวหลงกลับผงะ ถอยกรูด ปากสั่นระล่ำระลัก "หามิได้ หามิได้ พี่ชาย ข้ามิใช่คนของพรรคกระยาจก โปรดอย่าหลอกล่อแลให้เงินข้าเลย"
   หวังปี้ชะงัก "เจ้าหมายความว่าอย่างไร เมื่อครู่เจ้ายังขอเศษเงินจากข้าอยู่เลย"
   "พี่ชายโปรดอย่าหลอกลวงข้า ท่านจักหลอกล่อให้ข้ารับเงินใช่หรือไม่"
   "ข้าไม่เข้าใจ ข้าจักหลอกล่อเจ้าไปไยเล่า"
   "นั่น!!!" เสียงดุดันร้องตะโกนมาจากไกล ๆ ชาวบ้านที่เดินขวักไขว่ต่างล้วนหันไปมอง ชายสองคนสภาพโสมมเสียยิ่งกว่าเตียวหลงชี้นิ้วมาที่เตียวหลงกับหวังปี้และร้องตะโกน "มันแอบมาขอทานในเมืองอีกแล้ว คราวนี้ต้องลงโทษเสียให้สาสม"
   "ข้าอยู่ไม่ได้แล้ว!!!" เตียวหลงร้องและลุกขึ้นวิ่งสุดฝีเท้า แต่หวังปี้ถีบเท้าลงพื้นทีเดียวก็ทะยานตามมันทัน
   "พี่ชายอย่าติดตามข้า!" เตียวหลงร้อง "ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจักไม่มาขอทานล้ำที่พวกท่านอีกแล้ว"
   จึ๊กกกกก
   นิ้วของหวังปี้สกัดเข้าที่จุดสำคัญของเตียวหลง มันหยุดนิ่งทันที
   "ฟังนะ เตียวหลง ข้าต้องการคำตอบ" หวังปี้พูด "ตอบข้ามาตามตรง สั้น ๆ ง่าย ๆ อย่าได้อ้อมค้อม"
   "เมตตาเถิด ท่านพี่จอมยุทธ ข้ายอมแล้ว..." เตียวหลงร้อง มันพยายามดิ้นแต่ร่างกายทุกส่วนล้วนแข็งนิ่งมิอาจขยับได้
   "เจ้าหมายความว่าอย่างไร ที่บอกว่าข้าจะหลอกล่อให้ทานเจ้า"
   "ท่านพี่ไม่รู้จริงหรือ" เตียวหลงถาม
   "ข้าไม่รู้ และข้าต้องหารให้เจ้าบอกข้า"
   "พี่ชายตามหาพรรคกระยาจก ใช่หรือไม่ ข้าไม่ใช่คนของพรรคดอก สองคนนั้นต่างหาก ข้าแอบมาขอทานทับที่พรรคกระยาจก หากพวกมันรู้พวกมันคงทำร้ายข้าหนักนัก"
   "พรรคกระยาจกเป็นพรรคพิทักษ์คุณธรรม ไยจึงทำเช่นนั้น"
   เตียวหลงแค่นเสียงหัวเราะ "ท่านพี่ไปหลบอยู่ที่ใดมาเล่า พรรคกระยาจกหาได้เป็นดังที่ท่านอธิบายมาร้อยปีแล้ว บัดนี้พวกมันมีแต่จะตั้งเครือข่ายขอทานหาเงิน คลายจุดให้ข้าเถิด แล้วข้าจะพาท่านไปดู"
   "หากเจ้าจะวิ่งหนีอีก ข้าจะสกัดจุดกามของเจ้า เจ้าจักมีอารมณ์ทางเพศไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต" หวังปี้เตือน
   "ข้าจักไม่หนี ข้ายังหวังจะได้ไปเที่ยวหอคณิกาสักครั้ง"
   
   "นั่น พี่ชายเห็นไหม" มันชี้ไปที่สะพานข้ามแม่น้ำขนาดเล็ก ที่บนสะพานมีเด็กน้อยวัยห้าขวบเศษนั่งอยู่ มือถือขันใบเล็กชูสูง "พี่ชายดูที่ขันดี ๆ เถิด เห็นลายรูปไม้เท้าตีสุนัขสลักอยู่หรือไม่"
   "ข้าเห็น"
   "นั่นแล สมาชิกพรรคกระยาจก พวกมันลักพาตัวเด็กมาแลวางยาให้เด็กเป็นอัมพาตช่วงล่าง มิอาจขยับตัวได้ แล้วจึงให้เด็กนั่งขอทานเพื่อหาเงินจากผู้ที่สงสาร"
   "ชั่วช้านัก"
   "แลขันสลักลายไม้เท่าตีสุนัขนั่นแล เป็นสัญลักษณ์ของคนในพรรค พวกมันเฝ้าระวังแน่นหนานัก หากผู้ใดเร่ขอทานตามเมืองใหญ่โดยมิมีขันตราพรรค เท่ากับเป็นผู้มาแย่งแหล่งรายได้ของพรรคกระยาจก สมาชิกพรรคจักไล่ฟาดมันผู้นั้นจนต้องหนีพ้นเมืองไป ตัวข้าเองถูกพวกมันไล่ตีมาสามเมืองแล้ว ด้วยข้าหาใช่สมาชิกของพรรคแลมีขันตราสัญลักษณ์ไม่"
   "ไยเจ้าไม่คิดไปทำอาชีพอื่นเล่า"
   "คนอ่อนแอด้อยปัญญาเยี่ยงข้า จะทำอันใดได้เล่า ข้าได้แต่เร่ขอทานจนพวกมันมาไล่แล้วหนีย้ายไปเมืองอื่นเรื่อยไป"
   "ทว่ามีคนบอกว่า หากอยากได้ข้อมูล ให้ข้าไปถามหาจากขอทานพรรคกระยาจก"
   "มันผู้นั้นบอกท่านมาถูกแล้ว ขอทานพรรคกระยาจกอยู่ทุกที่ ได้ยินแลได้รับรู้ทุกอย่าง ทว่าพวกมันมิเคยให้ข้อมูลผู้ใดเปล่า ๆ หากอยากรู้สิ่งใด ต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินมากนัก"
   ขณะที่หวังปี้และเตียวหลงพูดคุยกันอยู่ ก็พลันมีชายในชุดขาดรุ่งริ่ง มือหนึ่งถือไม้เท้าหยุงกายอีกมือถือขันสลักลวดลายเดินผ่านไป มันตรงไปที่สะพาน กวาดเงินราวสี่สิบอีแปะจากในขันเด็กน้อยมาสิ้นแลโยนเศษหมั่นโถวขึ้นราให้เด็กครึ่งลูก เด็กนั้นหิวนักรีบรับประทานหมั่นโถวขึ้นราจนหมด
   "ท่านเห็นหรือไม่ พรรคกระยาจกบัดนี้เลวทรามนัก.......แย่แล้ว มันเห็นแลได้ยินข้าแล้ว....."
   ขอทานเฒ่าเดินตรงมาหาหวังปี้และเตียวหลงรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ร่างของมันซูบผอมดูอ่อนแรง ทว่าหวังปี้กลับบอกได้ว่านั่นเป็นเพียงภาพลักษณ์อันน่าสงสารที่ใช้เรียกความสงสารแลเงินตราเท่านั้น
   "เตียวหลง!!!!" ขอทานเฒ่าตะโกน "เจ้าลอบมาขอทานในถิ่นพรรคกระยาจกอีกแล้วรึ ชะรอยข้าต้องหักกระดูกเจ้าเสียอีกสิบท่อนเจ้าจึงจะหลาบจำกระมัง"
   "คราวก่อนพวกมันจับข้าได้ที่ฉสองกุ๋น มันหักแขนข้าทั้งสองข้าง ช่างเจ็บปวดนัก พี่ชายโปรดช่วยข้าด้วย" เตียวหลงร้อง
   ขอทานเฒ่ามองมาที่หวังปี้อย่างไม่ไว้ใจ "เจ้าเป็นผู้เคยฝึกปรือวิชายุทธ เหตุใดจึงมายุ่งเรื่องภายในพรรคกระยาจกเล่า"
   "ผู้เฒ่า" หวังปี้คารวะ "ข้าน้อยหวังปี้ มิได้ตั้งใจจะล่วงเกินท่านดอก ทว่าข้าใคร่ทราบข้อมูล เตียวหลงผู้นี้เพียงช่วยนำข้ามาหาพรรคกระยาจก ผู้เฒ่าโปรดอย่าได้ถือสา"
   "อา เจ้าอยากรู้เรื่องอันใดเล่า" ขอทานเฒ่าเปลี่ยนท่าทีจากโกรธเกรี้ยวเป็นยิ้มแย้มทันที
   "เทพกระบี่หลิวปิงแลราชสีห์ทองคำอ้าวหลาง สองคนนี้ข้าจักหาพบได้ที่ใด"
   ขอทานเฒ่าจ้องเขม็ง "เจ้าตามหาปรมจารย์เก่งกล้านัก"
   มันยกขันขึ้น มองหน้าหวังปี้ด้วยสีหน้าชั่วร้าย
   หวังปี้หยอดเหรียญลงในขันอีแปะหนึ่ง
   ขอทานเฒ่าทำหน้ารังเกียจ
   หวังปี้หยิบเหรียญขึ้นกำมือหนึ่งโปรยลงในขัน
   "น้อยนัก เจ้าคงมิอยากทราบเรื่องผู้เฒ่าหลิวปิงแลอ้าวหลางผู้ห้าวหาญดอก"
   หวังปี้มองถุงเงินในมือตนเอง ก่อนจะยกทั้งถุงเทลงในขัน
   "ค่อยดีขึ้นหน่อย" ขอทานเฒ่าบอก "ทว่าเงินเพียงเท่านี้ ข้าคงบอกได้แต่เพียงงว่าเทพกระบี่หลิวปิงบัดนี้อาวุโสนัก เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ หากเจ้าไม่รีบแสวงหาอาจไม่ได้พบ"
   มันเก็บขันใส่ในเสื้อแล้วตั้งท่าจะเดินออกไป
   "เดี๋ยวก่อน!!!!" หวังปี้ร้อง "ท่านเอาเงินข้าไปเกือบห้าร้อยอีแปะ ไยบอกได้เท่านี้เล่า"
   "ให้ข้าอีกห้าพันซี แล้วข้าจะบอกว่าหาเทพกระบี่ได้ที่ใด" ขอทานเฒ่าหัวร่อ
   มันตั้งท่าจะเดินจากไป แต่ก็หันกลับมาจ้องเตียวหลง "ข้ารู้ว่าแท้จริงเจ้าแอบมาขอทานในเมือง หากหาเงินให้ข้าได้เพียงเท่านี้ข้าคงให้อภัยมิได้"
   ไม้เท้าในมือมันหวดฟาดรวดเร็วนัก หวังปี้พยายามเข้าสกัดแต่ไม่ทัน กะโหลกเตียวหลงแตกกระจายคาไม้เท้า ร่างไร้วิญญาณทรุดลงกับพื้นสมองแหลกเหลว
   "ผู้เฒ่า!!! ท่านช่างชั่วช้านัก!!!" หวังปี้ร้องและตบสกัดไม้เท้าที่ฟาดมา
   "แลเจ้า....เจ้าจะมาหาพรรคกระยกจกมีเงินเพียงห้าร้อยอีแปะ จงตายเสียเถิด"
   ไม้เท้าฟาดมารวดเร็วหลายครั้ง หวังปี้ปัดป้องแลนึกถึงคำพูดอาจารย์
   "วิทยายุทธ์นั้นแบ่งได้หลัก ๆ เป็นสองประเภท คือวิชามือเปล่าแลวิชาอาวุธ วิชาอาวุธนั้นได้เปรียบด้วยความยาวของอาวุธ ทว่ากลับมีจุดอ่อน ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใดสุดท้ายอาวุธย่อมเป็นเพียงไม้ ศิลาแลโลหะ ความแกร่งของมันก็ได้เพียงความแกร่งของไม้ ศิลาแลโลหะ ทว่ากายเนื้อของมนุษย์แข็งแกร่งได้ไม่มีขีดจำกัด ขอเพียงเจ้าฝึกฝนให้จงหนักแลชาญฉลาดในการต่อสู้"
   ผั๊วะ!!! หวังปี้คว้าจับไม้เท้าแลฟาดลงสุดแรงด้วยสันมือ ไม้เท้าหักกระเด็นเป็นสองท่อนทันที
   ขอทานเฒ่าตะลึงไปครู่หนึ่งแต่ก็ตั้งสติชกใส่หวังปี้สิบสี่หมัด ทว่ามันปัดป้องได้หมดแลสวนกลับไปสองสามหมัดจนขอทานเฒ่าเซถอยหลัง
   "เจ้าเป็นใคร ไยฝีมือยอดเยี่ยมเช่นนี้" มันร้องถาม
   "ข้า หวังปี้" หวังปี้ตอบ "แลข้าชิงชังคนเลวเยี่ยงท่านยิ่งนัก"
   หวังปี้ซัดมันด้วยฝ่ามือเบิกธรณี ขอทานเฒ่ารับไว้ได้ทว่าแรงซัดจากฝ่ามือก็รุนแรงจนเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งของมันฉีกกระจุยกระจาย ร่างเหี่ยวย่นยืนสั่นเทาเปลือยเปล่า
   "นี่เจ้า!!!!"
   หมับบบบบบบบบบบ
   "อื๊ออออออออออออออออออออออออออออ"
   มือของหวังปี้กำเข้าที่พวงสวรรค์ขอทานเฒ่าแน่นแลออกแรงบีบ
   "นี่มัน......วิชาทลายกล่องดวงใจมังกร......เจ้าเป็นอันใดกับเฒ่าลามกเฮี๊ยงกวยหลี่" ขอทานเฒ่าร้อง เจ็บปวดจนหน้าเขียวซีด
   "ข้าเป็นศิษย์ผู้อาวุโสเฮี๊ยง" หวังปี้ตอบ "ทีนี้ บอกข้ามาเถิด เทพกระบี่แลราชสีห์ทองคำอยู่ที่ใด"
   "โอยยย ข้าเจ็บปวดที่พวงสวรรค์ยิ่งนัก โอยยยยย อ๊าาาาา ข้าบอกแล้ว ข้าบอกแล้ว!!!" มันร้องเมื่อหวังปี้บีบที่พวงสวรรค์มันแน่นยิ่งขึ้นไปอีก "อ้าวหลางออกจากวังราชสีห์แล้ว หามีผู้ใดทราบไม่ว่าไปที่ใด แต่ แต่ แต่ โอยยยยย หลิวปิงมีสำนักเล็ก ๆ อยู่ในชนบท ณ ชานปิง โปรดไปหาเถิด ทว่า...โอยยยยย...ข่าวลือว่าเทพกระบี่ป่วยหนักนัก ทั้งอยู่ในวัยชราแล้ว เกรงว่าคงอยู่อีกไม่นาน โอยยยยย ปล่อยข้าไปเถิดดดด"
   กร๊อบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ บล 
       
      


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

peddo

ตอนนี้ก็โหดจังยุคนั้นมีแต่คนโหดและโฉด ลงทัณฑ์แบบนี้สาสมแล้วครับ

BooM_Za


navy868

เจอวิชาบีบไข่เข้าไปไม่ยอมก็ต้องยอมล่ะ โหดเกินนนน ::Horror::


ryg123456


Lordtoung


cd13579

ไม่ บีบไข่แตกกันเลยเหรออ ท่านหวังปี้อำหมิตยิ่งนัก
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

kibong






sdsawaddee

หวังพึ่งคนอื่น ไม่สู้ฝึกเอง แก่หนึ่งใกล้ตาย ไม่มีประโยชน์ที่จะขอความช่วยเหลือ

xvenomz

เสียงกร๊อบบบ นั้นช่างฟังดูโหดร้ายเหลือเกิน  ::Horror::