ใจจร้า

ส่งสัญญาณว่าโดนแน่

 

มีจับมีคลึงเผยอปาก สิคโดนผีเข้าแล้วล่ะ

เอาตัวพิงกำแพง ชุดเลอะกันพอดี
โธ่... พี่ตากล้องไม่มืออาชีพเอาซะเลย ทำชุดเลอะได้ไงเนี่ย...

 

  กลับมาเก็บตอนเก่าๆ ไม่มีตอนใหม่เลย

ใครที่กำลังรออ่านแฟนผมเป็นคนดีอยู่ ในที่สุดก็กลับมาแล้วนะครับพร้อมตอนจุใจถึง 10 ตอน อ่านให้ตาแฉะกันไปเลย ราคาไม่แพง ถือว่าช่วยเหลืออุดหนุนกันนะครับ

วางจำหน่ายแล้ว! แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 2 ราคาเพียง 69 บาท มีให้อ่านจุใจถึง 10 ตอน เนื้อเรื่องยังคงเร้าร้อนซ่อนแอบตามแบบฉบับแฟนผมเป็นคนดี สามารถกดเข้าไปอุดหนุนกันได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ เลยครับ



หรือสามารถเข้าไปพูดคุยติดตามข่าวสารกันได้ที่เพจ





--------------------------------------------------------------------------------------------------------

อันที่จริงเทศกาลฮาโลวีน เป็นเทศกาลของฝรั่งที่เชื่อกันว่ามิติของคนตายและคนเป็นจะเชื่อมต่อกัน วิญญาณที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมาก็จะหาร่างสิงสู่ ฟังแล้วขนพองสยองเกล้าชอบกล แต่นอกจากเรื่องน่ากลัวแล้ว วันฮาโลวีนก็ยังมีเรื่องน่ารักอยู่ นั่นก็คือ การคอสเพลย์

 

วันนี้ผมและสิคว่างจากทั้งงาน ทั้งการเรียน เราสองคนจึงตัดสินใจมาร่วมงานคอสเพลย์ฮาโลวีนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมาเข้าร่วม แต่ก็ไม่ถึงกับแน่นจนเดินไม่ได้ มีทั้งคนไทยทั้งคนต่างประเทศแต่งตัวเป็นผีมา ส่วนใหญ่ก็ออกแนวสวยงาม แต่บางส่วนนี่ผมหลอนยิ่งกว่าผีเสียอีก

 

มิวสิค แฟนสาวคนสวยของผมเองก็ไม่พลาดที่จะแต่งมา สิคสวมชุดสาวรับใช้สีขาวดำเกาะอกที่ผมต้องดุให้ดึงขึ้นสูงหลายครั้งเพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องอก กระโปรงสั้น สวมถุงน่องสีขาว มีที่คาดผมตามสไตล์สาวรับใช้ในนิยาย เข้ากับผมบรอนซ์สั้นประบ่าของเธอเหลือเกิน

 

ไฮไลท์ที่ทำเอาผมอารมณ์พุ่งพล่านสุดคือโซ่คล้องคอที่สื่อถึงความเป็นทาส สิคสวมมันเอาไว้ ผมมองทีไรก็อยากดึงทุกที วันนี้สิคดูมีความสุขมาก เพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้มีโอกาสคอสเพลย์แต่งตัวแฟนตาซีเท่าไหร่ เนื่องจากงานและการเรียนที่หนักหน่วง ครั้งนี้ก็เหมือนให้เธอได้ปลดปล่อยเต็มที่คืนนึง

 

"ต้อมๆ ถ่ายรูปให้สิคตรงนี้หน่อยนะ" เธอชี้ไปที่ฉากสแตนด์ที่ถูกเซ็ทให้เป็นแนวฮาโลวีน

"อื้อ ได้สิ"

 

ผมรับหน้าที่เป็นตากล้องจำเป็นให้ ถึงจะถ่ายไม่เก่งแต่ก็พยายามเต็มที่ ผมกดชัตเตอร์ไปเรื่อย ในขณะที่สิคเองก็เปลี่ยนท่าโพสตามใจชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวน่ารักสดใส ไม่นานก็มีตากล้องคนอื่นเข้ามาร่วมแจมด้วยอุปกรณ์ครบครัน ทำเอากล้องของผมดูกระจอกไปเลย

 

"สวยครับน้อง แบบนั้นล่ะ ก้มนิดนึง"

 

พอตากล้องเริ่มเข้ามาเยอะขึ้น บางคนก็สั่งให้สิคโพสท่าต่างๆ หลายท่าทำเอาผมหึงหวงเช่น โก้งโค้งมาด้านหน้า มันทำให้เสื้อที่เกาะอกอยู่เกือบเผยอออก ทุกคนมองสิคไปในทางเซ็กซี่ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย ดูรอยยิ้มที่มีเขี้ยวเสน่ห์นั่นสิ สายตาที่สดใส ท่าทางที่ออดอ้อน ผมมองว่าสิคเป็นสาวสวยสไตล์น่ารักคิกขุมากกว่า

 

"ลองดูรูปว่าโอเคมั้ย"

 

ตากล้องคนนึงกวักมือเรียกให้สิคเข้าไปดูแบบใกล้ๆ ใกล้จนแขนทั้งสองคนแนบกัน ทำไมมันไม่ยื่นกล้องให้สิคดูรู้แล้วรู้รอดไป จะต้องมาเอียงแบบนั้น แฟนของผมยิ่งตัวเล็กอยู่ เธอก็ต้องเขย่งชะเง้อไปดู ตากล้องคนเดียวไม่พอ ยังจะมีอีกคนมาขนาบอีกข้าง ท่าทางสิคดูมีความสุข แต่ผมรู้ว่าเธอกำลังแสดง เพราะเธอแคร์ความรู้สึกคนอื่น ไม่อยากทำให้ใครเสียใจ

 

ระหว่างที่เราสองคนเดินเล่นกัน ก็มีทั้งตากล้อง คนคอสเพลย์มาขอถ่ายรูปด้วยมากมาย ยิ่งวงโคฟเวอร์ของสิคเริ่มดังในเน็ต ก็มีคนที่รู้จักเธอมาถ่ายรูปด้วยไม่น้อย ใจนึงก็ดีใจที่มีคนมาสนใจแฟนของเราเยอะ แต่อีกใจก็รู้สึกหมดความเป็นส่วนตัวอย่างไรชอบกล

 

"ขอโทษนะครับ น้องสนใจมาถ่ายรูปกับพวกพี่มั้ย?"

 

ทีแรกผมนึกว่าจะหมดแล้ว ยังมีคนมาอีก คราวนี้เป็นชายสามสิบแต่งตัวดูดีมีกล้องใหญ่โตมาคู่กับผู้ชายอีกคนนึงตัวสูงมาก แต่งตัวเป็นฆาตกรโรคจิตที่สวมหน้ากากสีขาว ใส่ชุดหมีสีน้ำเงินเข้ม มีซิบรูดยาวถึงเป้า ผมไม่สามารถเดาอายุหรือเชื้อชาติของคนที่อยู่ใต้หน้ากากได้ แต่บอกได้เลยว่าแต่งได้เนียนจนน่ากลัว

 

"อื้อ ได้สิคะ" สายตาสิคมองชายร่างสูงอย่างสนใจ เธอคงชอบที่อีกฝ่ายแต่งตัวได้เหมือนขนาดนี้

"ไปถ่ายกันตรงนู้นมั้ย คนไม่เยอะ" ตากล้องชี้ไปที่มุมมืดหลังเวทีและแสตนด์

"ได้ค่ะ ต้อมรอตรงนี้ก็ได้นะเดี๋ยวสิคมา"

 

ผมไม่ทันจะพูดอะไร สามคนนั้นก็เดินหายเข้าไปในมุมมืด มีหรือผมจะปล่อยสิคให้ไปกับคนแปลกหน้าตามลำพัง ผมเข้าใจว่าสิคคงไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการถ่ายรูป ผมจึงแอบตามไปดูในระยะไม่ไกลนัก ไปถึงผมก็เห็นทั้งสามยืนพูดคุยตกลงอะไรสักอย่าง

 

"พวกพี่ถ่ายรูปแนวนี้ น้องสนใจมั้ย" ตากล้องเปิดรูปในมือถือให้สิคดู 

"เอ่อ..ขนาดนี้เลยเหรอคะ"

"มันแค่ท่าทางน่ะ สนใจมั้ย? รับรองถ้าน้องกล้าถ่ายนะ มีงานตามมาอีกเพียบ"

"จริงเหรอคะ.."

"สนุกด้วยนะ ลองมะ"

"ค..ค่ะ ได้ค่ะ"

 

สิคลังเลนิดหน่อยก่อนจะตอบตกลง การถ่ายภาพได้เริ่มขึ้น โดยท่าแรกตากล้องสั่งให้นายแบบที่สวมชุดฆาตกรโอบสิคจากด้านหลัง โดยมือของเขาวางอยู่ตรงช่วงไหปลาร้า ให้ความรู้สึกน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก จากมุมผมนั้นเห็นหลังตากล้องเสียส่วนใหญ่ 

 

"ดีมาก เอามือลงนิดนึง แบบนั้นล่ะ ดี"

 

คำว่าเอามือลง ผมเองก็ไม่รู้ว่าลงมากน้อยแค่ไหน แต่คงไม่มาก เพราะสิคจะไม่ยอมแน่นอน ผมเองก็แสตนบายเอาไว้ หากสุดที่รักของผมร้องขอความช่วยเหลือ ผมก็จะรีบเข้าไปช่วยทันที แต่ทุกอย่างก็ยังคงราบรื่น สิคไม่พูดอะไรแม้ตากล้องจะสั่งให้เอามือลงเรื่อยๆก็ตาม

 

"จับแบบนั้นล่ะ ดี เบาๆครับ น้องสิคทำหน้าได้ดีมาก อืมมมม มองมาทางพี่ ดีครับ คลึงไป ช้าหน่อย ดี... น้องสิคเผยอปากนิดนึงครับ"

 

ตากล้องสั่งเป็นชุด เสียดายว่าผมไม่เห็นว่าสิคโพสท่ายังไง ผมเห็นแต่สีหน้าที่ดูเคลิบเคลิ้มของสิค ปากของเธอเผยอเล็กน้อย โชว์เขี้ยวเสน่ห์ ตาหยี บางจังหวะสิคก็มีอาการสะดุ้ง ยิ่งถ่ายแฟนของผมยิ่งหายใจแรง หัวของเธอแนบไปกับอกของชายร่างใหญ่ที่ยืนซ้อนหลังอยู้

 

"ดีมาก มาเปลี่ยนท่ากันนิดนึง"

 

คราวนี้ตากล้องจับสิคพิงกำแพง แล้วให้ชายร่างสูงมายืนประจันหน้าเอามือยันกำแพง ท่าทางคล้ายกับภาพในการ์ตูนญี่ปุ่นระหว่างพระเอกนางเอก แต่นี่กลับเป็นฆาตกรกับสาวใช้แทน ถือว่าครีเอทพอสมควร นายแบบค่อยๆยกมืออีกข้างขึ้นมาเชยคางสิค แล้วใช้นิ้วโป้งลูบไล้ริมฝีปากสิค

 

"ดีมาก สวย"

 

แสงแฟลชกระพริบขึ้นมาเป็นระยะ ผมแอบมองด้วยความหัวร้อน ริมฝีปากที่นุ่มนิ่มของสิคตอนนี้กลับถูกชายที่ไหนไม่รู้มาลูบไล้ แถมมันยังสอดนิ้วเข้าไปในปากของสิคอีก มันน่าโมโหนัก แต่ที่ต้องชมเชยเลยคือสิค แทนที่เธอจะขัดขืน แฟนผมกลับดูดนิ้วของมันเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่ดวงตาของหน้ากาก เพิ่มความสวยของรูปได้หลายเท่าตัว

 

"เก่งมาก สวย แบบนั้นล่ะ ลองเปลี่ยนตำแหน่งมือดูนะ"