ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Victor19

เรื่องของวี 25 – โควิดอลเวง 1

เริ่มโดย Victor19, พฤศจิกายน 19, 2024, 05:32:51 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

sos-sos


basset


st3323liap


vinai

อ้างจาก: Victor19 เมื่อ พฤศจิกายน 19, 2024, 05:32:51 หลังเที่ยงคำเตือน เนื้อหาในเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงเท่านั้น อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

เรื่องของวี 1 - เมียนักบิน
เรื่องของวี 2 - เลี้ยวซ้ายแวะข้างทางแป๊ป
เรื่องของวี 3 - ในห้องน้ำ
เรื่องของวี 4 - เลี้ยวซ้ายเจอทางตัน
เรื่องของวี 5 - เลี้ยวซ้ายสั่งลา
เรื่องของวี 6 - หมูกระทะใต้ดิน
เรื่องของวี 7 - นางฟ้านักวิ่ง
เรื่องของวี 8 - ผลที่ตามมา
เรื่องของวี 9 – นางฟ้ามาโปรด
เรื่องของวี 10 - Rehab บำบัดพักฟื้น
เรื่องของวี 11 - เรียวกังสวาท
เรื่องของวี 12 – พิชิตสุรานารีสยบ
เรื่องของวี 13 - แซนวิชแอนวา
เรื่องของวี 14 - สยบสองนารี
เรื่องของวี 15 - เสียวเล็ก ๆ อำลาเรียวกัง
เรื่องของวี 16 - การกลับมาของวี และน้ำนารีสยบปฐพี
เรื่องของวี 17 – กู้ชีพกัปตันนักบิน
เรื่องของวี 18 – NTR หฤหรรษ์
เรื่องของวี 19 – ซาโยนาระนิปปอน ซาโยนาระแอน
เรื่องของวี 20 – สวรรค์ของเหล่านางฟ้า1
เรื่องของวี 21 – สวรรค์ของเหล่านางฟ้า2
เรื่องของวี 22 - สมภารไม่กินไก่วัด
เรื่องของวี 23 – กู่ไม่กลับ
เรื่องของวี 24 – ฉลองแชมป์สุดมันส์


หลังจากที่ได้แชมป์บอล วันสองวัน ผมเริ่มมีอาการเจ็บคอเล็กน้อย อาการคล้ายเป็นหวัด แต่ไม่มีไข้ ตอนนั้นยังไม่มีชุดตรวจโควิด ได้แต่สงสัยตัวเอง จึงบอกวาว่า ขอแยกตัวไปนอนที่ห้องแขกก่อน เพราะว่าไปอยู่ในคนหมู่มาก แต่จริง ๆ ก็ไม่มากนัก พอวันที่ 3 ได้รับการเตือนจากเพ็ญทางไลน์ว่า พิมเพื่อนร่วมห้องติดโควิดจากคนไข้ที่โรงพยาบาล ให้คอยสังเกตอาการ

ผมได้แจ้งให้วารู้ แต่ก็ได้แต่ระวัง ช่วงนี้โรงเรียนหยุดทำการสอนแล้ว เด็ก ๆ อยู่บ้านกันหมด ที่ทำงานผมยังทำงานอยู่ ได้แต่ออกประกาศให้พนักงานสังเกตอาการตัวเอง และงดการปฏิสัมพันธ์เป็นกลุ่มใหญ่

วันที่ 4 ผมเริ่มท้องเสียอ่อน ๆ แล้ววันที่ 5 ก็รู้สึกปวดข้อต่อ อ่อนเพลีย ได้แต่นอนพักในห้อง และได้เริ่มกั้นห้อง โดยเอาโต๊ะมาวางขวางห้องนอนแขกที่ผมอยู่ แล้วให้วางอาหารและน้ำที่หน้าห้อง วาใช้โทรศัพท์มาถามอาการเป็นระยะ จนตกเย็น เพ็ญโทรไลน์มาบอกด้วยอาการตื่นเต้นว่าตัวเองติดโควิด และกำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ตัวเองสังกัดอยู่ ส่วนอาการพิมนันเพ็ยเล่าให้ฟังว่า ตอนหลังพิมไอหนัก และเริ่มหายใจลำบาก

วันต่อมา ผมเริ่มรู้สึกว่าจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และเริ่มมีไข้ แล้วก็เริ่มไอ จนไอต่อเนื่อง ปวดตัว ผมได้ติดต่อไปที่เพ็ญ เพ็ญบอกว่าจะพยายามหาห้องให้เพื่อเข้ารับการรักษา โดยตัวพิมและเพ็ญเอง ได้สิทธิเข้ารับการรักษาก่อน เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

หลายชั่วโมงต่อมา มีสายที่ไม่รู้จักเรียกเข้ามาที่มือถือผม หลังจากรับโทรศัพท์ก็ได้ความว่า เป็นแพทย์หญิงอุราวรรณ แต่เสียงที่ฟังผมคุ้นหู แต่นึกไม่ออกว่าเหมือนเสียงใคร คุณหมอได้โทรมาสอบถามอาการ โดยแจ้งว่าได้รับการประสานจากคุณพยาบาลเพ็ญ การพูดคุยเป็นไปด้วยความลำบากเพราะผมไอเกือบจะตลอดเวลา เมื่อสอบถามอาการเสร็จ คุณหมอได้แจ้งว่า มีความเป็นไปได้สูงที่คุณติดโควิด เพราะอาการที่แจ้งมาล้วนแต่เป็นอาการของโรคทั้งนั้น ทั้งนี้คุณหมอแจ้งว่า ตอนนี้ห้องเต็ม จะได้ประสานเพื่อลงคิวรอห้อง
หลังวางสายผมก็เลยโทรบอกวาว่ามีคุณหมอโทรมา สอบถามอาการแล้ว และบอกว่าน่าจะเป็นโควิดแล้ว วาตกใจมาก เสียงสั่น ผมได้แต่ปลอบใจว่า ว่าผมมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่น่าจะมีอาการหนักนัก และได้บอกเบอร์โทรหมอที่โทรเข้ามาเอาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้โทรไปคุย

เช้าวันต่อมาซึ่งเป็นเช้าวันที่ 7 ผมรู้สึกปวดหัวและปวดตัว แถมยังไอไม่หยุด ทำให้นอนไม่ค่อยได้ ต้องเอาหมอนพิงหลัง และเอนหลับไปทั้งท่านั่ง ไข้เริ่มขึ้นตลอดเวลา วาพยายามจะเข้ามาหา แต่ผมได้ล็อกห้องไว้ ไม่ให้เข้ามา ตอนเย็นผมนอนซม และเริ่มรู้สึกแน่นหน้าอก จึงได้โทรบอกวาให้โทรถามหมอเรื่องห้อง และอัพเดตอาการ คุณหมอรับทราบและได้บอกวาว่าจะหาห้องให้ได้โดยเร็วที่สุด

เช้าวันที่ 8 ผมเริ่มหายใจลำบาก นอนซม ไข้สูง วาได้เอากุญแจไขเข้ามาในห้อง ผมพยายามห้าม แต่พบว่ามีคน 2 คนใส่ชุดห่อหุ้มคล้ายชุดนักบินอวกาศเข้ามาในห้อง (ทราบภายหลังว่าชุดนี้เรียกว่าชุด PPE) ได้พยุงผมขึ้นเตียงฉุกเฉินที่มีล้อ เมื่อเข็นออกมา ได้พบว่าทุกคนยืนใส่หน้ากากอนามัย รออยู่ข้างหน้า ทุกคนได้รับแจ้งก่อนแล้วว่าไม่ให้สัมผัสและเข้าใกล้ ทราบภายหลังว่า พยาบาลให้สอนให้ทำความสะอาดห้องอย่างไร ซึ่งวาได้ขอลูกน้องที่บริษัทนำแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ แบ่งมาใช้เช็ดทำความสะอาด

ไปถึงโรงพยาบาล คุณหมออุราวรรณในชุด PPE ได้เข้ามาตรวจ ผมซึ่งลืมตาไม่ค่อยขึ้น ได้แต่พนมมือขอบคุณคุณหมอ หมอบอกว่า ไม่ต้องห่วง จริง ๆ หมอยังหาห้องให้ไม่ได้ เลยขออนุญาตให้ผมเข้าไปอยู่ในห้องเดียวกับพยาบาลเพ็ญที่ออกความเห็นอาสาให้ผมไปอยู่ด้วย โดยบอกว่าที่ผมติดก็เพราะเธอ เลยอยากให้ผมได้ห้องเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลบุรุษพยาบาลเปลี่ยนชุดผมออกเป็นชุดผู้ป่วย จากนั้นพยุงผมยืนเอ็กซ์เรย์ปอด เจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ เจาะน้ำเกลือเข้าเส้นเลือด แล้วพาเข้าห้องพัก ผมพบว่าเพ็ญนอนอยู่อีกเตียงนึง แล้วก็หลับไป

ในห้องผู้ป่วยโควิด จะไม่มีพยาบาลเข้ามาเลย นอกจากผู้ป่วยที่อยู่ด้วยกัน โดยพยาบาลทางด้านนอกจะโทรศัพท์เข้ามาถามอาการ และให้วัดไข้ และปริมาณออกซิเจน แล้วแจ้งค่าทางโทรศัพท์ ส่วนตัวผมที่ตอนนี้ไข้กำลังไต่ระดับขึ้นสูง แทบจะลุกไม่ไหว เมื่อมีสายเรียกเข้า พยาบาลเพ็ญจึงเป็นผู้ลุกขึ้นมาตอบคำถาม รวมถึงวัดไข้ และออกซิเจนให้ผม

ผมบอกเพ็ญไปว่า รู้สึกหนาว เพ็ญก็เลยเดินลากเสาน้ำเกลือไปปิดแอร์ แล้วมาจับตัว แล้วบอกว่า ไข้ขึ้นสูงมาก เพ็ญจึงเดินไปที่ห้องน้ำ เอาผ้าชุบน้ำในกะละมังมาเช็ดตัวให้ ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลนี้เป็นแบบกระโปรงปิดด้านหน้า มีเชือกผูกที่ด้านหลัง เพียงแค่จับผมตะแคงปลดหรือผ่อนเชือกด้านหลัง เพ็ญก็ดึงเสื้อออกทางแขนได้เลย

เพ็ญเช็ดตัวให้ผมตามสเต็ปการลดไข้ แต่จะวนเวียนที่ด้านหลังนานกว่าปกติหน่อย แต่ผมในตอนนี้ได้แค่น่วม ๆ ไม่อาจแข็งมากนัก เพ็ญเช็ดไปยิ้มไป ก่อนจะเอาเสื้อตัวใหม่มาใส่ให้ผม ตะแคงผูกเชือกด้านหลัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำอีกผืนมาเช็ดหน้า แล้วแปะไว้ตรงหน้าผาก แล้วเอากะละมังไปเก็บในห้องน้ำ เพ็ญหายไปห้องน้ำนานพอสมควร น่าจะไปจัดการธุระของตัวเองด้วย

หลังจากออกมาจากห้องน้ำ เพ็ญเข็นเตียงนอนผู้ป่วยของตัวเองมาอยู่ติดกันผมแล้วล็อกล้อ โดยบอกว่าอยู่ตรงโน้นแอร์เย็น อยากมาอยู่ใกล้ผมที่อยู่ใต้แอร์ ทีนี้พอเอาเตียงมาติดกัน ทั้งผมและเพ็ญต่างก็ติดเข็มน้ำเกลือที่มือขวา ก็จะมีเสาน้ำเกลือของผมขวางอยู่ตรงกลาง เพ็ญเลยเดินไปที่ตู้เก็บเครื่องมือ/ชุดปฐมพยาบาลหน้าห้อง ที่แต่ละห้องจะมีเก็บเอาใช้เพื่อใช้กับผู้ป่วยในห้องนั้นในยุคโควิด โดยปกติจะเป็นรถเข็น เข็นไปตามห้อง แต่ยุคโควิดแยกของห้องใครห้องคนนั้น ไม่เข็นรถมาปนกัน

เพ็ญขอผมถอดเข็มน้ำเกลือย้ายไปมือซ้าย ผมพยักหน้า แล้วเพ็ญก็เอาแอลกอฮอล์ชุบสำลีมาทำการถอดสาย แล้วค่อยย้ายไปใส่ที่มือซ้าย พอเรียบร้อยผมก็หลับยาวไปเลย โดยมาเพ็ญที่อยู่มาก่อนและอาการดีขึ้นกว่าผมนอนอยู่ข้าง ๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น คุณหมอโทรเข้ามาและคุยกับเพ็ญ เพ็ญได้แจ้งว่า หมอจะให้ยา IVERxxxxxx ที่เพ็ญที่ได้รับมาแล้วให้ผมทาน แต่ผมจะต้องเซ็นชื่อในแบบฟอร์มรับการรักษา ซึ่งเพ็ญสนับสนุนให้ผมทาน เพราะเพ็ญทานแล้วรู้สึกว่าดีขึ้น ผมจึงเซ็นแล้วเพ็ญนำไปมอบให้หมอที่หน้าห้อง วัดไข้วัดออกซิเจนตามระยะเวลา แล้วแจ้งคุณหมอ หมอบอกว่าครบ 3 วันจะเอ็กซ์เรย์ปอดอีกครั้ง และได้ฝากเพ็ญย้ำให้ผมเข้าใจว่า ผมจะบอกใครไม่ได้ว่ามาอยู่ในห้องเดียวกันสองคน เพราะผิดหลักปฏิบัติในขณะนั้นซึ่งช่วงโรคติดระยะแรกจะให้ผู้ป่วย 1 คน ต่อ 1 ห้อง (เรื่องแต่งนะครับ อย่าซีเรียส)

วันที่สองนี้ผมเลยได้ยาเพิ่มอีก 2 เม็ด พอทานแล้ว เพ็ญเช็ดตัวให้ผมอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง ก่อนจะใส่เสื้อให้ผม วาฝากโทรศัพท์มือถือและสายชาร์จมาให้ ผมได้รับตอนทานอาหารเช้า เลยเปิดโทรศัพท์แล้วโทรหาวา วาสอบถามอาการด้วยความเป็นห่วง แต่ก็บอกวาไปไม่ได้ว่าอยู่ห้องเดียวกันกับเพ็ญ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ผมเดินไปมองที่หน้าต่างดูวิวริมน้ำที่แสนสงบ ไม่มีเรือวิ่งผ่านในช่วงโควิดนี้เลย แล้วก็ไปนอนพักต่อ

ตื่นมาอีกทีก็บ่ายแล้ว เพ็ญชวนทานข้าวเที่ยง แล้วนำอาหารไปอุ่น ก่อนจะเอามาวางทานด้วยกัน หลังอาหารผมเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ออกมาเพ็ญชวนนั่งดูทีวีกันที่โซฟา ผมดู ๆ ไปก็ง่วง พยายามนอนซบกับไหล่เพ็ญ เพ็ญจึงโน้มตัวผมลงนอนกับตักของเพ็ญ ไม่นานนักผมรู้สึกเมื่อย เลยพยายามลุกขึ้นเพื่อไปนอนบนเตียง แต่เหมือนจะลุกเร็วเกินไป คิดว่าตัวเองยังปกติก็เลยเซเล็กน้อย เพ็ญช่วยประคองผมขึ้นนอนบนเตียงพัก เพ็ญจัดผ้าห่มห่มให้เรียบร้อย ผมจับมือเพ็ญแล้วยิ้มบอก "ขอบคุณครับ โชคดีจังที่ได้ห้อง โชคดีที่ได้อยู่กับเพ็ญ"
เพ็ญยิ้มตอบแล้วบอก "ไม่เป็นไรค่ะพี่วี จริง ๆ เพ็ญต้องขอโทษที่เอาเชื้อไปแพร่ใส่พี่วี ให้เพ็ญดูแลพี่นะคะ"
วี : "โทษเพ็ญไม่ได้หรอก เราต่างฝ่ายต่างพร้อมใจกันมีอะไรกัน เรื่องติดน่ะไม่มีใครตั้งใจอยู่แล้ว"
เพ็ญ : " ขอบคุณค่ะพี่วีที่ไม่โกรธ แต่พอพูดถึงเรื่องวันนั้นแล้ว...." แล้วเพ็ญก็เอามือมาลูบควยผมที่นอกผ้าห่ม "ไว้อาการดีขึ้นแล้ว เพ็ญจะตอบแทนให้สาสม อิอิ" แล้วเพ็ญก็ไปปิดทีวีและไฟ มานอนเป็นเพื่อนข้าง ๆ

ผมตื่นมาอีกที มีเสียงเคาะให้ออกไปรับอาหารที่วางไว้หน้าห้อง เพ็ญลุกจากเตียง เดินลากเสาน้ำเกลือไปเอาอาหารมาวางบนโต๊ะ ส่วนผมลุกขึ้นมานั่งมึน ๆ อึน ๆ เพ็ญบอกเดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เพ็ญจะเช็ดตัวให้อีกที จะได้หลับสบาย เราสองคนนั่งทานอาหารที่จืดสนิท ไม่มีรสชาติ อาจเป็นเพราะลิ้นไม่รับรู้รสด้วย เพ็ญบอกให้พยายามทานเข้าไปเพื่อจะได้มีสารอาหารต่อสู้กับไวรัส และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ผมถามถึงอาการของเพ็ญที่ดูดีขึ้นมาก เพ็ญบอกว่าหลังจากได้ยาแล้วประมาณสองวันก็จะดีขึ้นมาก สำหรับผมพรุ่งนี้ก็น่าจะเริ่มดีขึ้น

ผมยิ้มแล้วบอกขอบคุณเพ็ญ หลังอาหารผมและเพ็ญเดินเอาจานอาหารที่อยู่ในถาดไปวางไว้หน้าห้อง แล้วเพ็ญก็จูงมือผมเข้าห้องน้ำ แล้วถอดเสื้อผ้าผมออก ก่อนที่เพ็ญจะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัว ผมที่อาการดีขึ้นมาหน่อย ส่วนล่างของผมก็เริ่มชูชันขึ้น เพ็ญยิ้มแล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้ทั้งนอกในจนเกลี้ยง ก่อนจะเอาเสื้อชุดใหม่มาใส่ให้ผม แล้วให้ผมออกไปพักที่เตียงก่อน เพื่อเพ็ญจะได้ทำธุระส่วนตัวของเพ็ญ
คืนนั้นหลังจากผมหลับไม่รู้กี่ชั่วโมง ผมตื่นขึ้นมตอนดึกเพราะรู้สึกว่าเตียงของเพ็ญที่อยู่ติดกันขยับอยู่ ผมเปิดตามองไปในความมืด เมื่อชินกับแสงแล้วพบว่าเพ็ญที่นอนกลับหัวไปทางเท้าของผมกำลังนอนติ้วหีตัวเองอยู่ พอสำรวจตัวเองพบว่าชุดนอนของผมที่เป็นเหมือนกระโปรงถูกเลิกขึ้นมาที่พุง โดยที่เพ็ญกำลังเลียควยผมที่ตอนนี้พองขึ้นมาปกติแล้ว เพ็ญนอนตะแคงตัวเองเลียซึ่งไม่ค่อยถนัดนัก แล้วอีกมือก็เอื้อมลงมาติ้วหีตัวเอง ผมรู้สึกเสียว ก็เลยเอื้อมมือไปช่วยเพ็ยติ้ว เพ็ญสะดุ้งที่ผมรู้สึกตัว ผมเลยจัดการแทงนิ้วเข้าไปในรูหีเข้า ๆ ออก ๆ เพ็ญแอ่นหีเข้ามา

ไม่นานนัก ผมรู้สึกว่าเพ็ญนอนไม่สะดวก ก็เลยเอื้อมตัวจัดท่าเอาเพ็ญมานอนบนตัวผมเป็นท่า 69 เพ็ญก็เลยอมควยผมได้เต็มปาก ส่วนผมก็แหวกหีเพ็ญออกมาชมความงาม ก่อนจะค่อย ๆ เลียแคมซ้ายขวา แล้วลงต่ำไปดูดแตด แล้วเลีย เพ็ญส่ายตูดรับ ก่อนที่ผมจะแทงลิ้นเข้าไป มือสองข้างจับก้นเพ็ญไว้ แต่กลับเป็นเพ็ญที่กดหีลงบนหน้าผมจนแทบจะหายใจไม่ออก

ผมขยับตัวลงไปหน่อยเพื่อจะได้เลียแตดได้ถนัด แล้วเอานิ้วกลางมือขวาแทงเข้าออกหีเพ็ญรัว ๆ ๆ เพ็ญดิ้นรับการแทงรัวของผม จนน้ำเพ็ญแตกรดหน้าผม เพ็ญขยับก้นออกจากหน้าผม ผมเอามือลูบหน้าที่เปียกไปด้วยหยาดทิพย์ของเพ็ญ ส่วนเพ็ญก็ก้มหน้าดูดควยผม พร้อมกับเอามือลูบไข่ของผม พร้อมกระดอกควยผมช่วย ไม่นานนักผมก็น้ำแตกใส่ปากเพ็ญตามไป เพ็ญดูดเลียควยผมจนสะอาด ก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมนำผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตัวผม แล้วดึงผ้าห่มมาห่มหน้าอกผม ก่อนจะกระซิบข้างหูผมว่า "เราน้ำแตกตัวเบากันทั้งคู่แล้ว น่าจะนอนได้สบายตัวละ ฮิฮิ" ผมยิ้มก่อนจะหลับต่อไปด้วยความเพลียในอีกไม่นาน

วันที่สาม ผมรู้สึกดีขึ้น เริ่มมีกำลังขึ้น ผมชักเป็นห่วงที่บ้าน จึงได้ใช้โทรศัพท์ในห้องโทรไปหาวา เพื่อถามข่าวคราวของวาและลูก ๆ
วา : สวัสดีค่ะ วาพูดสายค่ะ
วี : วา นี่พี่วีเอง ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง มีใครติดโควิดเหมือนพี่ไหม
วา : พี่วี พี่วีโทรมาจริง ๆ เหรอเนี่ย แล้ววาก็สะอื้นไห้
วี : ใช่สิ พี่เอง เป็นยังไงกันบ้าง
วา : พี่วี พี่ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ วาอยู่ข้างนอก มีแต่ข่าวไม่ดี คิดไปเรื่อย นอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ
วี : พี่ดีขึ้นแล้ว แต่วันสองวันแรก ไข้สูงอ่วมเลย พอได้ยาทานแล้ว ดีขึ้นมาหน่อยละค่ะ
วา : ลูก ๆ ทุกคนสบายดี ตอนนี้หยุดอยู่บ้านทุกคน โรงเรียนปิดหมด ที่ทำงาน ห้างปิดหมด กรุงเทพตอนนี้เหมือนเมืองร้างเลยค่ะ
วี : แล้วเรามีของกินของใช้ใช่ไหม
วา : มีค่ะ ที่ทำงานของพี่วีเอาของในสต๊อกออกมาแบ่งให้พนักงานทุกคนตามแต่จำนวนคนในครอบครัวของพนักงานแต่ละคน เรามีกินมีใช้อยู่ค่ะ
วี  : มีก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่หายจะออกไปช่วยคิดว่าจะป้องกันหรือหาทางรอดจากโรคนี้ได้ยังไง
วา : เราก็พอรู้บ้างแล้วค่ะ จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มาสอนวิธีฆ่าเชื้อในห้องที่พี่แยกไปอยู่ เจ้าหน้าที่บอกว่า ดีแล้วที่พี่วีแยกตัวออกไปกักตัวแต่เนิ่น ๆ
วี : จ้า พี่ก็รู้สึกว่าควรจะรีบแยกตัว จากที่ได้อ่านข่าวมาบ้าง วาอยู่บ้านคอยดูแลลูก บอกลูก ๆ ว่าพี่คิดถึงและให้พี่ดูแลน้องด้วย วีก็คิดถึงวานะคะ
วา : วาก็คิดถึงพี่ค่ะ แล้วนี่เราจะติดต่อกันยังไง รู้แต่ว่าพี่อยู่รพ.ไหน แต่ไม่รู้ว่าพี่อยู่ห้องอะไร จะได้โทรไปหาบ้าง
วี : เอ พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่อยู่ห้องอะไร ถือสายแป๊ปนึง เดี๋ยวพี่เปิดประตูออกไปดู
แล้วผมก็วางสาย แล้วเดินออกไปเปิดประตูดูหมายเลขห้อง เจอเพ็ญที่กำลังมองว่าผมเปิดประตูไปทำไม พอปิดประตู ผมก็เลยบอกเพ็ญว่าเปิดไปดูเลขห้องน่ะ แล้วก็ไปยกหูโทรศัพท์คุยต่อ
วี : ห้อง 12xx ค่ะ เอาอย่างงี้ วาให้คนเอาโทรศัพท์มือถือกับที่ชาร์จมาฝากที่โรงพยาบาล เขียนหน้าซอง ชื่อพี่ กับเลขห้อง ด้านล่างน่าจะเอาขึ้นมาให้
วา : ดีเลยค่ะ วาจะได้คุย จะได้ไลน์ไปหา อ้อ แอนก็โทรมาถามอาการพี่ตั้งหลายครั้ง แต่ติดต่อพี่ไม่ได้เพราะพี่ไม่มีโทรศัพท์ติดตัวไป
วี : ถ้าเขาโทรมาอีก ฝากบอกอาการพี่ไป บอกเขาว่าพี่อาการดีขึ้นแล้ว
วา : ค่ะ ได้ค่ะ พี่วีพักผ่อนนะคะ จะได้ออกมาเร็ว ๆ เดี๋ยววาจะรีบเอาโทรศัพท์ไปฝากนะคะ
วี : จ้า แล้วเราค่อยคุยกันใหม่นะคะ สวัสดีครับ

เพ็ญเห็นผมโทรศัพท์เสร็จ ก็ตามผมไปทานอาหารเช้า เช้านี้ผมลุกเดินไปที่โต๊ะกินข้าวไหวแล้ว เราทานอาหารเช้ารสจืดแต่เปี่ยมไปด้วยสารอาหารของโรงพยาบาลจนเสร็จ เพ็ญก็ลุกเก็บเอาจานชามลงบนถาด แล้วนำออกไปวางที่หน้าห้อง แล้วกลับมาชวนผมให้เข้าไปอาบน้ำ ผมจึงเข้าไปในห้องน้ำ พอถอดเสื้อผ้าออกแล้วเดินไปเปิดน้ำฝักบัวรดตัว เพ็ญก็ตามเข้ามาในห้องน้ำ แล้วบอกว่า "ขอเพ็ญอาบน้ำด้วยนะคะ"

วี : เดี๋ยวจะไม่ได้อาบน้ำอย่างเดียวนะ
เพ็ญ : ไม่กลัวหรอก เชอะ
วี : งั้นก็จับปล้ำก่อนเลย
เพ็ญ : ให้มันแน่เถอะ

::Glad::

kingzaso

วีนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ขนาดติดโควิดยังมีพยาบาลส่วนตัวมาดูแล

phaii


mankkk


sthanya

เพ็ญงอนแล้วคุยโทรคุยกับสาว ๆ ต้องจัดชุดใหญ่ให้หายงอน

ฺBlackBear

นี่มันอะไรเนี่ย เป็นการกักตัวที่น่าอิจฉาจริงๆ