ตอนก่อนหน้า
Lucky Man ไอ้หนุ่มจอมโชคดี

ตอนที่ 2 น้องสาวคนหนึ่ง


หลังจากวันที่หำเอกได้สัมผัสช่องปากคนเป็น ๆ ครั้งแรก เอคนที่ทำให้เอกได้รับรู้เช่นนั้นก็ได้ของขลังดังหวัง เอกจึงขอห่างเธอออกมาสักสองอาทิตย์เพื่อไปเล่นอยู่บ้านต่างอำเภอในฝั่งพ่อ คนละอำเภอกับบ้านของครอบครัวที่กำลังสร้าง แต่ก็เป็นอำเภอใหญ่ทั้งคู่ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของปู่ย่า ที่มีครอบครัวของอา หรือน้องสาวของพ่ออยู่ด้วย

บ้านของปู่ย่านั้นมีหลายห้อง เป็นบ้านขนาดใหญ่มีทั้งเป็นไม้ ทั้งเป็นปูนผสมปน ๆ กันไป แต่หากแยกส่วนกันจริง ๆ ก็เหมือนมีบ้านสามหลังอยู่ด้วยกัน ที่นี่เอกเอาไว้ใช้ทดลองทำนั่นทำนี่ไปเรื่อย โดยเฉพาะระบบโซลาร์เซลล์ ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องที่ชอบทำ แต่ยังเป็นอีกสิ่งที่ทำเงินให้เขาด้วย กำไรรวม ๆ ต่อปีตกอยู่สามถึงห้าหมื่นเลยทีเดียว บ้านของปู่ย่าที่ต่อเติมออกมาเป็นเหมือนบ้านหลังที่สามนั้น ก็คือห้องที่เขาใช้ทดลอง และหลับนอน

พร้อมติดระบบโซลาร์เซลล์ระดับที่ว่าเปิดแอร์ได้ตลอดทั้งวัน บอกเลยว่าไม่คุ้มอะไรเลย แต่แค่ความชอบของเอกเท่านั้น บ้านของปู่ย่าเลยพลอยได้ติดแอร์แทบทุกห้องไปด้วย พร้อมมีระบบโซลาร์เซลล์ของเขาเสริมอีกค่าไฟเลยน้อยลงมาก ส่วนห้องที่เขาอยู่พึ่งพาโซลาร์เซลล์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีแบตเตอรี่รวม ๆ เกือบ 2000 Ah เขาหมดเงินสร้างสิ่งเหล่านี้ไปหลายแสนเลย ค่อย ๆ ซื้อมาเสริมมาต่อเติมเรื่อย ๆ แต่เรื่องที่ว่าน่าสนใจน้อยกว่าอีกเรื่อง อย่างเรื่องของน้องสาวลูกของอาเขานั่นเอง

น้องสาวที่ว่านั้นมีด้วยกันสองคน คนหนึ่งอายุ 25 ชื่อข้าวเป็นครูสอนคณิตฯ ชั้นมัธยมโรงเรียนประจำอำเภอ แต่งงานแล้ว แต่ตัวผัวกำลังหาทางย้ายมาอยู่ด้วยกันอยู่ เป็นครูทั้งคู่ อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรเลย เธอเป็นคนขาว สูง 168 มีน้ำมีนวลพอตัว เมื่อครั้งช่วงวัยรุ่นเธอยังตัวเล็ก ๆ ผอมแห้งอยู่เลย ตอนนี้ได้ส่วนมากเมื่อผ่านมุมมองของเอก

อีกคนวัย 18 ชื่อ นา กำลังจะเดินทางไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัย แล้วก็เป็นที่เดียวกันกับเอกที่เคยเรียนเสียด้วย นี่จึงเป็นเหตุให้เอกได้กลับมาเล่นที่บ้านปู่ย่าแห่งนี้ เพื่อพาน้องคนนี้ไปรายงานตัว

ในช่วงของการรายงานตัว สอบสัมภาษณ์ต่าง ๆ นั้น เอกได้พาครอบครัวของอากับปู่ย่าไปด้วย พร้อมกันนั้นก็ได้ถือโอกาสพาไปเที่ยวพักผ่อนแถวนั้นด้วยเลย ทุกอย่างไปได้สวย เอกเก็บภาพความน่ารักสดใสของสองสาวไว้ในใจเพื่อเป็นอาหารตา แต่ที่แน่ ๆ ในอนาคตอันใกล้ ๆ เอกกับสาวน้อยวัยสิบแปดนั้นจะได้ไปมหาลัยตามลำพังต่อไป

แล้ววันนี้ก็มาถึงเป็นอีกเดือนให้หลัง เป็นวันรายงายตัวเข้ามหาวิทยาลัย รวมถึงการเข้าหอด้วย การเดินทางราวชั่วโมงก็จบลงด้วยการที่นานั่งหลับตลอดทางเป็นเพื่อนเอก มีบ้างที่ตื่นมาคุยหยอกล้อกับผู้เป็นพี่แต่ก็หลับไปอีก กระทั่งถึงที่หมาย อันดับแรกเอกได้พาน้องไปรายงานตัว จากนั้นก็พาไปส่งตัวเข้าหอพักหญิงของมหาวิทยาลัย พร้อมขนของขึ้นให้ด้วยพร้อมสับ ตกบ่ายมีกิจกรรมของมหาลัยที่จัดโดยรุ่นพี่ที่เรียกว่า กิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ ที่จะจัดเช่นนี้ทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนจะเปิดเทอมในสัปดาห์หน้า และเอกเองก็จะอยู่เล่นที่นี่อีกเป็นอาทิตย์ เพื่อระลึกความหลัง แถมยังอยู่เพื่อแนะนำที่ทางให้น้องด้วย

ตกเย็นหลังกิจกรรมเลิก เอกก็ได้ไปรับน้องเพื่อไปแนะนำในส่วนของหลังมหาวิทยาลัยก่อนสำหรับวันนี้ จากนั้นจึงไปจบที่ร้านชาบูร้านหนึ่ง ก่อนจะกลับโรงแรม แต่ปัญหามันอยู่ที่นา ดันตามกลับมาด้วย เธอให้เหตุผลว่า ขอตากแอร์เย็น ๆ ให้ถึงที่สุดก่อน

"แหล่วเสื้อผ่าเด๋ บ่เอาบ่ บ่อาบน้ำเฮี๊ยบ่ยอมให้นอนนำเด๊"
(เสื้อผ้าเราล่ะไม่ไปเอาเหรอ ถ้าไม่อาบน้ำเฮียไม่ยอมให้นอนด้วยนะ) เอกเอ่ยขึ้นขณะขับรถพานากลับจากฝั่งหลังมหาวิทยาลัย เมื่อรู้ว่านาต้องการนอนโรงแรมด้วย

"อ้าว กะยู้เบาะหลังนี่เด๋ ... อ้าว บ่มี"
(ก็อยู่นี่ไง เบาะหลัง อ้าว ไม่มี) นาอธิบาย

"แมนอันกระเป๋าสีน้ำเงินบ้อ กระเป๋าเฮี๊ยให่แมนบ่"
(ใช่กระเป๋าสำน้ำเงิน กระเป๋าที่เฮียให้ใช่ไหม) เอกพยายามปะติดปะต่อ

"แมน"
(ใช่)

"ซั่น เฮี๊ยคงสิถือขึ้นไปเทิ้งหอเบิดแล้ว"
(ถ้างั้นเฮียคงถือไปบนหอให้แล้ว)

"เอ๋า เฮี๊ยแหม บ่ทันแล้วยามนี่ สิสี่ทุ่มแล้ว หอสิปิด บ่เอา สินอนห้องแอร์"
(เฮียนี่นะ ไม่ทันเวลาละตอนนี้ จะสี่ทุ่มละ หอจะปิดละ ไม่เอาอ่า จะนอนห้องแอร์) นาไม่ยอม

"เฮี๊ยพอติดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมาอยู่ เอาเถาะ นอนกะนอน"
(เฮียพอจะมีเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมาอยู่ ไม่เป็นไร ไปนอนโรงแรมก็ไป) เอกก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจขัดลูกสาวคนนี้ของเขาได้ เพราะนาเป็นคนที่ติดเขามาก ส่วนใหญ่เป็นเขาที่ชอบพานาไปนั่นไปนี่เสมอ ตามใจมากกว่าทุกคน น้องคนนี้จึงเสมือนลูกสาวเขาก็ไม่ผิด

รถมุ่งหน้าตรงเข้าในตัวเมือง ห่างจากตัวมหาวิทยาลัยราวสองกิโลเมตรก็ถึงโรงแรมที่หมาย

"โรงแรมนี่ติ"
(โรงแรมนี้เหรอ) นาเอ่ยซักถาม ก่อนที่ผู้เป็นพี่จะพยักหน้ารับ

"เที่ยงคื้นหากินลูกซิ่นปิ้งกั๋น ฮ่านนี่แซบหลาย"
(งั้นเที่ยงคืนมากินลูกชิ้นปิ้งกันเรา ร้านนี้อร่อยมาก) เอกอธิบายเพิ่มเติม พลางชี้ไปจุดที่ร้านลูกชิ้นจะมาจอดขาย ฝ่ายน้องสาวก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะตามเอกขึ้นไปบนโรงแรมต่อ

"คื้นจักบาทหนิ"
(คืนละกี่บาทล่ะ) นาเอ่ยถามเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว

"เหยียบสี่พัน"
(เกือบ ๆ สี่พันน่ะ)

"บะ ยู้เป็นอ๋าทิตย์สิบ่ทุกข์บ้อ"
(โอ้ อยู่เป็นอาทิตย์แบบนี้ไม่เปลืองแย่เหรอ)

"บ่แหล่ว เฮี้ยร้วย"
(ไม่หรอก เฮียรวย) หลังสิ้นคำนาก็เบ้ปากให้ พลางกระโดดลงไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ กับชุดนักศึกษาติดกาย ที่ใส่กระโปรงแบบทรงจีบ หรือทรงพรีทถูกระเบียบของมหาวิทยาลัย เอกได้แต่ส่ายหัว

แต่ภาพที่เอกมองตอนนี้มันทำให้ไอ้นั่นเขาเริ่มคับกางเกงในเสียแล้ว ภาพของนักศึกษาปีหนึ่งนอนแผ่บนเตียง ทำเอาจิตอกุศลเขาคิดฟุ่งซ่าน ก่อนที่ตัวเขาจะสยบมันด้วยการไปนั่งบนเตียงอีกฝั่ง พร้อมพิงหัวเตียงเพื่อเล่นโทรศัพท์สำหรับคลายความคิด

"สิอาบน่าม เสื้อผ่ากะในกระเป๋าฮั่นเด้อ ลองหาเบิ่ง"
(ถ้าอยากอาบน้ำ เสื้อผ้าอยู่ในกระเป๋านั้นนะ ลองค้นดู) เอกแนะนำ

"จ้า ๆ" ผู้เป็นน้องขานรับ ก่อนจะลุกพรวดทะยานไปที่กระเป๋าของผู้เป็นพี่

นาเปิดกระเป๋าผ้าใบใหญ่ออกดูก่อน แต่ไม่พบสิ่งที่ตามหา ก่อนจะไปค้นอีกกระเป๋าที่ใบเล็กกว่าจึงได้พบเจอ เป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีดำตามที่ผู้เป็นพี่ได้ว่าไว้ เมื่อได้เห็นดังนั้นเธอก็ตรงไปที่ห้องน้ำทันที ไม่นานนักเธอก็เดินออกมาในชุดหวิว เป็นกางเกงขาสั้นตัวในกระเป๋า และเสื้อกล้ามซับในที่ต้องใส่ก่อนถึงชั้นใน เดินออกมาเพื่อเอาชุดนักศึกษาไปแขวนในตู้ตากผึ่งลมไว้

"เฮี๊ย นานแนเด้อ เห็นอ่างน่ามแล้ว ขอแซน่ามจักนอย"
(เฮีย นานหน่อยนะ พอดีเห็นว่ามีอ่างแช่น้ำด้วย) ก่อนจะเข้าห้องน้ำกลับไปดังเดิม

"เฮี๊ย ซื้อแปรงสีฟันให้แน"
(เฮีย ซื้อแปรงสีฟันให้หน่อย) หายไปในห้องน้ำได้อีกระยะ นาก็แง้มประตูโผล่หน้ามาส่งเสียงบอกผู้เป็นพี่ เมื่อเห็นแบบนั้นเอกได้แต่ส่ายหัว แต่ในใจมันฟุ้งซ่านเกินคำบรรยายไปแล้ว เพราะได้คิดถึงภาพสาวเปลือยเปล่าหลังประตูบานนั้นอยู่

"นา เครื่องอาบน่ามในกระเป๋าเด้อ ถ่าบ่อยากใช้ของโฮงแฮม"
(นา เครื่องอาบน้ำก็อยู่ในกระเป๋านะ ถ้าไม่อยากใช้ของโรงแรมน่ะ) เอกทิ้งคำส่งท้ายก่อนจะไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

"นา ... นา" เอกเรียกน้องสาวอีกหน

"หยัง ..."
(อะไรเหรอ)

"เปิดประตูก๊อน"
(เปิดประตูก่อน) เอกไปหยุดรอหน้าห้องน้ำ ในมือก็ถือโทรศัพท์ของนาไว้ด้วย

เช่นเคย นาได้แต่แง้มประตูเปิดออก โผล่เพียงหัวออกมาให้คนรอได้เห็น

"โทรศัพท์ เอาไปไว้ในห่องนำ ฮ่าเฮี๊ยโทรหาให้เปิดห่องให้"
(โทรศัพท์ เอาไปไว้ในห้องด้วย เผื่อเฮียโทนหาให้เปิดห้องให้) เอกอธิบาย แต่ผู้เป็นน้องยังทำหน้างง แต่ก็รับโทรศัพท์ไป

"คีย์ก๊าดเด๋ อย่าลืมวามันเสียบไว้ให้ไฟติดยู้เด้อ"
(ก็คีย์การ์ดไง อย่าลืมว่าตอนนี้มันเสียบไว้ให้ไฟใช้ได้อยู่น่ะ) เพียงเท่านั้น นาก็เข้าใจในทันที จากนั้นเอกก็ออกจากห้องมา

แม้ในเมืองเช่นนี้จะไม่คุ้นเคยเท่าบริเวณแถวมหาวิทยาลัย แต่ย่านนี้มันก็ผ่านตาเอกบ่อยเช่นกัน ร้านสะดวกซื้อที่ต้องการอยู่ห่างไปด้วยการเดินราว 10 นาที บวกการเลือกของต่าง ๆ ด้วย จึงต้องกินเวลาไปอีก

จนขากลับก่อนจะเข้าสู่โรงแรม เขาก็เล็งเห็นได้ทันที ร้านขายลูกชิ้นมาถึงแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาอะไร เลยไปทำการซื้อขึ้นไปกินเสียเลย แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย เพราะร้านเพิ่งมา ต้องทำการปิ้งเสียก่อน แต่ไม่ใช่ปัญหาเขารอได้ และเมื่อเรียบร้อยทุกอย่างก็กลับห้อง

ลุก! ลุก! ลุกชันขึ้นมาทันใด หำในกางเกงคับแน่นไปหมด เอกเห็นภาพตรงหน้าที่นาใส่ผ้าขนหนูออกมาต้อนรับ ภาพในหัวเขาคิดไปต่าง ๆ นานา อยากให้ผ้าหลุดมั้ง หยากเข้าไปป๊าบสักครั้งมั้ง แต่นั่นมันก็แค่ความคิด ก่อนที่จะรีบเรียกสติกลับมา

"ไส ซื่อหยังมาแน"
(ไหน ซื้ออะไรมาบ้าง) นาถามขึ้นพลางมองดูของในมือเอก เมื่อปิดประตูห้องเข้ามาแล้ว ล่องนมนั้นที่ผู้เป็นน้องก้มลงมองของในมือ ทำเอาจิตวิปริตพลางจะเริ่มทำงานอีกแล้วสำหรับเขา

"ไป ไปหาแต๊งโต๋ให่เรียบร้อยก๊อนไป๋ คอยม๊ากิ๋น"
(ไป ไปหาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน ค่อยมากิน) เอกรีบตัดบท นาก็เชื่อฟัง เดินไปซอกเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วตรงเข้าห้องน้ำไป

โต๊ะเก้าอี้ติดกระจกใสที่มองออกไปเห็นวิวยามค่ำคืนตัวเมือง เป็นจุดที่สองพี่น้องนั่งกินของที่ซื้อมาอย่างเอร็ดอร่อย แต่สายตาของผู้เป็นพี่นั้นมองอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกเสียจากหน้าอกที่มันนูนออกมาอย่างชัดเจน ภายใต้เสื้อกล้ามสีขาวซับในแบบผู้ชายที่นาเลือกมา แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นแบบผู้หญิงแล้วล่ะก็ เอกไม่อาจจะทนทานไหวเป็นแน่

เอกไม่แม้แต่จะไล่ให้ไปเปลี่ยน แม้ว่าจะมีเสื้อยืดก็ตาม หัวนมที่มันเป็นจุดสีชัดเจนเด่นออกมา ทำเอาอวัยวะเจ้ากรรมของเขาแข็งอยู่ตลอด แต่มันเป็นเพียงสายตาอ่านกินเท่านั้น ไม่ได้เกินเลยมากกว่านั้นแต่อย่างใด และแม้ว่าเขาสามารถคุมอวัยวะตรงนั้นได้ แต่หากปล่อยไปตามอารมณ์ก็แข็งได้ตลอดแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

หลังจัดการกับข้าวของทุกอย่างจนหมด เอกก็ขอตัวไปอาบน้ำ พร้อมรีดน้ำอันนั้นให้ออกมา ก็เผื่อไว้ว่าจะได้อึดถึกทน และเป็นการทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่านด้วย เพราะเมื่อเอาออกแล้วอย่างน้อย ๆ สักน้ำหนึ่ง มันก็ทำให้ไม่ค่อยแข็งนัก แล้วยังช่วยให้อารมณ์ไม่พุ่งพล่านด้วย

เมื่อเสร็จธุระต่าง ๆ ในห้องน้ำแล้ว เอกก็พร้อมออกมาเผชิญโลกแห่งการทดสอบ ผ้าเช็ดตัวที่คล้องคออยู่เอาไปแขวนไว้ จากนั้นจึงเดินพ้นจากมุมทางห้องน้ำมายังโซนที่นอน ภาพด้านหน้านั้นทำเอาผู้มองตกตะลึง ภาพของหญิงสาวที่ไร้ชุดชั้นในแต่ยังสวมเสื้อผ้า ภาพของตัวเอ็มของทรงขาของนาทำเอาเอกแข็งโด่ทันที

พอเป็นเช่นนั้น เอกจึงรีบกลับตัวคืนมายังมุมห้องโซนฝั่งตู้ และห้องน้ำ เพื่อกลับมาเอาเสื้อไปใส่ ดูเหมือนอากาศในห้องนั้นเย็นเกินไปที่จะไม่ใส่เสื้อนอน แต่นั่นก็เพียงเหตุผลรอง หากเสียแต่เหตุผลหลักจะเป็นเพื่อกลับมาตั้งสติก่อน ด้วยภาพที่เห็นนั้นมันเป็น อวัยวะสำคัญ จุดแห่งความน่าสนใจของหญิงสาว

ภาพของขนสีดำมันยังคงติดตราตรึงในหัวไม่จางหาย เพราะนาไม่ได้ใส่ชั้นในใด ๆ ทั้งนั้น กางเกงที่ใส่มันก็สั้นอยู่แล้ว พออ้าขาเช่นนั้น ประกอบกับมุมองศาของสายตาที่สอดรับของเอก จึงได้เห็นของดีเข้าให้ ในแบบที่ไม่เคยเห็นของจริง ๆ แบบนี้มาก่อน

แต่ด้วยเหตุผลกลใดอีกนั้น จิตใจที่เริ่มไม่มั่นคงของผู้เป็นพี่ เขากลับมาถอดกางเกงของตนออก เพื่อจะถอดกางเกงในออก ให้เหลือก็แต่กางเกงก็พอ ก่อนจะเดินช้า ๆ เพราะกลัวน้องจะเห็นว่าตอนนี้พี่ชายของเธอกำลังหำโด่อยู่ ไม่นานก็กระโดดลงที่นอนฝั่งซ้ายที่ว่างอยู่ เพื่อแกล้งผู้เป็นน้องให้คลายจากโทรศัพท์ชั่วครู่ แต่การกระทำนี้ก็เพียงแค่สะกิดให้น้องหันมามองเท่านั้น ก่อนเจ้าตัวหันกลับไปมองหน้าจอแล้วเล่นต่อไป ผู้เป็นพี่ได้แต่เอาตัวซุกในผ้าหุ่มแล้วหลับตาไปเท่านั้น

รุ่งสางช่วงเวลาตีห้าเศษ ฟ้าที่มืดมิดกำลังแปรเปลี่ยนเป็นสว่าง แต่ยังคงมืดอยู่เมื่อมองไปยังนอกบานกระจก ความฝันที่หมกมุ่นเรื่องอย่างว่าทำเอกตื่นขึ้นมาในเวลานี้ พร้อมกับหำท่อนแข็งโด่พร้อมความเสียวซ่านที่ยังคงอยู่ มันยังคงรับรู้ได้ชนิดที่ว่าเหมือนมีคนกำลังลูบไล้มันอยู่ไม่ต่างจากในความฝัน แต่สักพักเขาก็เริ่มเอะใจ

เชี่ย! คำอุทานของเอกดังขึ้นในความคิด มีวัตถุบางอย่างกำลังวางอยู่บนบริเวณเป้ากางเกงเขา มันคือมือข้างซ้ายของผู้เป็นน้องที่วางอยู่ บางจังหวะก็ขยับไปมาด้วย ยิ่งทำให้ท่อนเจ้ากรรมนั้นแข็งไปใหญ่ และนั่นจึงเป็นเหตุให้จิตอกุศลเกิดขึ้น แทนที่เขาจะยกแขนออกไป แต่เข้ากลับทำอะไรที่มากกว่านั้น

เอกพยายามจัดท่าทางการนอนใหม่ทั้งหมดของทั้งคู่ ดูเหมือนว่านานั้นจะนอนดิ้นจนผ้าห้มหลุดออกจากตัวไปบางส่วน นั่นเองจึงเป็นเหตุให้มือข้างหนึ่งมาวางแบบนี้ได้ เขาค่อยเลื่อนตัวเองออกจากผ้าห่ม จากนั้นก็ดึงเอาผ้าห่มออกจากตัวของนา แต่นั่นก็ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง

เสื้อกล้ามซับในที่นาใส่อยู่นั้นมันล่นขึ้นไปข้างหนึ่ง เนินหน้าอกนั้น หัวจุกสีออกชมพูแดงคล้ำปรากฏให้เห็นด้วย ผู้เป็นพี่ที่ยืนมองถึงขั้นสติหลุด ยืนนิ่งมองแบบนั้น พร้อมมือข้างหนึ่งก็ล้วงลงไปในกางเกงเพื่อสาวช้า ๆ ที่ลำท่อนของตน แต่ไม่ช้าเขาก็เริ่มปรับตัวได้ และกลับคืนสู่จุดหมายที่วางไว้ก่อนหน้า

ผ้าห่มในมือเอกเอากลับไปคุมบนร่างทั้งหมดของนาไว้ พร้อมกับที่เขาก็ลงไปนอนใต้ผ้าห่มเช่นเดิม แต่ครั้งนี้เขาค่อยจับเอามือข้างซ้ายของเธอมาไว้บนหน้าท้องของตน จากนั้นก็พยายามจัดให้มือนั้นสอดลงไปในกางเกง เท่านั้นแหละความเสียวซ่านก็ทวีคูณทันที

โปรดติดตามตอนต่อไป ...


เรื่องอื่น ๆ ที่ผมแต่ง
1. เพศศึกษาสื่อรัก (ยังไม่จบ)


2. วางแผนเพื่อพิชิต (ยังไม่จบ)


3. วางแผนเพื่อพิชิตเดอะซีรีส์ เวอร์ชั่นศิษย์เอก (ยังไม่จบ)


4. สมุดโน้ตกระชากพรหมจรรย์ (ยังไม่จบ)

 ดำเนินเรื่องดีครับ ค่อยๆปูความรู้สึกตัณหากับ น้องสาว ลูกญาติ   หวังว่า จะได่ น้องสาวที่เเต่งงานเป็นครูด้วย อุตส่าห์เกริ่นมาแล้ว ด้วย
ปล.3สาวข้างบ้าน พึ่งจัดคนพี่เอง ยังเหลือ อีก2 นะ

จัดฉากวางแผนเล่นน้องสาว

เร้าใจได้ลุ้นตอนเช้า

น้องสาวแกล้งไม่รู้ตัวด้วยไหมนิ

โอ้ยอยากโชคดีมีสาวมานอนที่ห้องแบบนี้

ค่อยๆวางแผนกับน้องสาว อย่าลืมสามสาวข้างบ้านด้วย

 ขอบคุณครับ ไม่รู้ว่าตอนต่อไปจะได้เปิดประสบการณ์กับลูกพี่ลูกน้องอะป่าวรอเสพตอนต่อไปเน้อ 

  โชดจริง นะครับท่าน