ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_magna67t

แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 6 เฟรชชี่ปีหนึ่ง 7 พี่ใหม่ของน้องใหม่

เริ่มโดย magna67t, มกราคม 21, 2023, 09:28:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้


Boomm










dan49

สงสารเพื่อนเป็นเหมือนกันนะนายก้อง ว่าแต่โอ๋เถอะจะไหวไหมเนี่ย




เรียล

อ้างจาก: magna67t เมื่อ มกราคม 21, 2023, 09:28:38 หลังเที่ยงแปดปียี่สิบสี่คน ภาค 6 เฟรชชี่ปีหนึ่ง 7 พี่ใหม่ของน้องใหม่

แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 1 THE ORIGINAL   //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=229016.0
แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 2 วัยแห่งความรัก   //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=236192.0
แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 3 เพื่อนคุย      //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=228587.0
แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 4 โกอินเตอร์      //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=231757.0
แปดปียี่สิบสี่คน ภาค 5 ส่งท้ายวัยมัธยม   //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=249713.0

--------------------------------------------------------------------------------------------------

   คืนนั้นเราไม่ได้ทำอะไรกันอีก.... 

        คนที่พังพาบตายคาที่คือโอ๋  เธอได้กะพวกเราสองคนไปเป็นสิบครั้ง  ส่วนผมได้กะโอ๋น้ำเดียว ส่วนไอ้เอ็มล่อโอ๋ไปถึงสามที   ผมหลับจนเกือบ 8 โมง  แต่ไอ้เอ็มและโอ๋ตื่นนานแล้ว  ผมเปิดเต้นท์ไปก็เห็นสองคนยืนกอดกัน  ผมพอจะรู้แล้วว่าไอ้โอ๋เองก็น่าจะชอบเอ็มและมีใจให้มันอยู่   ผมยิ้มและมุดหัวเข้าในเต็นท์ใหม่  และเตรียมไปแปรงฟัน   พอผมออกไปอีกครั้ง  ไอ้เอ็มกำลังจูงมือโอ๋กลับมาที่เต้นท์  ผมค่อนข้างมั่นใจว่า สองคนนี่จะเป็นแฟนกัน  ผมดีใจ...ไอ้เชี่ยเอ็มไปพ้นผมได้ซะที  แต่ก็เสียดายโอ๋เหมือนกัน....

   "โอ๋เดินไปก่อนนะ จะเข้าห้องน้ำ  มันจะนาน"
   
   ไอ้เอ็มพยักหน้า และหันมาชวนผมเตรียมอาหารเช้ากัน ซึ่งมันไม่มีอะไรยาก  มีขนมปังไส้กรอก ไข่ต้ม  และกาแฟกระป๋อง   

   "ไอ้เหี้ยก้อง...เอ่อ...  กูขอคุยกะมึงนิดนึงก่อน  มึงชอบไอ้เจนใช่มั๊ย...."
   
   ไอ้เอ็มมามุขไหนเนี่ย  แต่ผมก็พยักหน้า  มันเป็นความจริง  แต่ตอนนี้อาจจะไม่จริงมากเหมือนเมื่อก่อนนั้น  ผมมีซาย่าแล้ว  แต่ผมก็ยังชอบเจนและคิดถึงเจนอยู่เสมอ

   "แล้วมึงคิดไงกะไอ้โอ๋..."
   "แล้วมึงอ่ะ  คิดไงกะโอ๋"  ผมย้อนถามมัน
   "กูชอบไอ้โอ๋..."
   "มึงก็ชอบไอ้เจนด้วยไอ้เหี้ยเอ็ม  เชี่ยแม่ง จะแย่งกะกูไปอีกนานมั๊ย..."
   "เฮ้ย  เรื่องไอ้เจนกะกูจบไปนานแล้วนะ  ตั้งกะกูเป็นแฟนไอ้ฟ้าแล้ว  กูไม่เหี้ยเหมือนมึงหรอก....คบซ้อน.."
   "กูไม่ซ้อน  กูเลิกกะไอ้ปานก่อนแล้วค่อยขอเจนเป็นแฟน..."
   "ช่างมึงเหอะ  แต่...กูขอมึงนะ  มึงช่วยอย่าจีบไอ้โอ๋ได้มั๊ยวะ  แล้วครั้งนี้กูขอให้มึงทำไอ้โอ๋เป็นครั้งสุดท้ายด้วย  กูจะจีบไอ้โอ๋และขอมันเป็นแฟนหละ"

   ผมมองหน้าไอ้เพื่อนเหี้ยของผม  สายตามันอ้อนวอนผิดปกติมากๆ  ท่าทางมันชอบโอ๋จริงๆ  ก็ควรน่าจะอย่างนั้น เพราะผมเองก็ถูกใจในอัธยาศัยใจคอของโอ๋ไม่น้อย 

   "ไอ้โอ๋มันเลือกมึงหรือเลือกกู...  ถามมันยัง  เชี่ย....พูดเองเออเอง.."
   "เหอะน่า  กูว่าไอ้โอ๋เองก็มีใจกะกู  มึงช่วยหลบกูหน่อยนะ...แล้วกูจะช่วยเรื่องเจนให้มึง"

   ผมกะไอ้เอ็มต่างกันอย่างนึงคือ  ผมมีสาวๆเต็มไปหมด  ไอ้เอ็มพอเลิกจากฟ้า..มันก็โสด  และไม่มีใคร  ตอนนี้มันมีไรกะโอ๋ มันคงหลงรักไอ้โอ๋  ผมเองก็ไม่ได้อยากจีบไอ้โอ๋... แต่ผมอยากจะแกล้งไอ้เอ็มมันมากกว่า

   "เอางี้...  มึงให้โอ๋มาบอกกูแล้วกันว่ามันจะเป็นแฟนกะมึง  เมื่อไหร่ที่ไอ้โอ๋มาบอก  กูจะเลิกยุ่งและจะคิดแค่มันเป็นเพื่อนเท่านั้น"

   ไอ้เอ็มพยักหน้า  การเที่ยวที่เหลือเป็นเรื่องของไอ้เอ็มและโอ๋  ผมเหมือนๆจะเป็นส่วนเกินทันที  ต้องเป็นคนถ่ายรูป คนขับรถ  คนเฝ้าเต้นท์  คนนำทาง  คนเฝ้ายาม (หน้าเต้นท์ตอนมันมีไรกะโอ๋) 
แต่เพื่อไอ้เอ็มเพื่อนเหี้ยของผมและโอ๋แล้วหละก็   ผม(จำใจ)โอเค....
.................................................................

หลังจากกลับมาถึงเหลืออีกเพียงอาทิตย์เดียวจะเปิดเทอมแล้ว  ผมทำตามสัญญากะพี่แอล  ผมซื้อทัวร์ไปไต้หวันกะพี่แอลสองต่อสองจริงๆ  เราไปกันห้าวันสี่คืน  จะเรียกได้ว่าฮันนีมูนก็ว่าได้   ผมรู้ดีว่า  ผมคงต้องห่างพี่แอลไปแล้ว  แม้พี่แอลจะเป็นพี่ปีสองของผมก็ตาม  ไอ้เอสมาแรงมาก  พี่แอลพูดถึงมันทุกวันจนบางทีผมก็ออกน้อยใจเหมือนกัน  พี่แอลคงชอบมันจริงๆ

"พี่แอลครับ  ผมถามจริงเหอะ  พี่จะคบไอ้เอสมั๊ย"
"บ้าสิก้อง  ถามไรบ้าๆจัง  วานนี้เธอยังปล่อยน้ำใส่พี่อยู่เลย  ก็เล่นๆไป  ไม่จริงจัง"
"ผมฟังพี่เล่าทุกวันเหมือนไอ้เอสไม่เล่นนะพี่...มันคงอยากมีเมียชื่อแอลจริงๆ"
"บ้า...เมียเมออะไร  ช่างมันดิ..  พี่พูดกะเอสมันแล้ว   มีไรได้แต่ไม่ได้ต้องเป็นแฟนกันนะ"

เรื่องราวพี่แอลกะไอ้เอสยังไม่จบจริงๆ  แต่กะผม... พี่แอลห่างไปมากๆ  พี่แอลปี 2 เปิดติวเด็กเข้ามหาลัย  และโด่งดังปานพลุแตก  พี่แอลรับติวเฉพาะนักเรียนชายและแบบตัวต่อตัว   แต่ไม่มีไรเกินเลยไปกว่านั้น  ไอ้เอสยังเป็นคนที่พี่แอลคบหา  แต่พี่แอลก็ยังไปมาหาสู่ผมบ้าง เว้นแต่ว่า...ไม่มีเรื่องนั้นอีก
........................................................................

ผมเริ่มชีวิตมหาลัยในคณะที่หลายคนใฝ่ฝัน   ช่วงของปี 1 เฟรชชี่โคตรมหาสนุกมาก  อิสระภาพเต็มเปี่ยม เรียนก็ได้..ไม่เรียนก็ได้  ไปไหนมาไหนไม่ต้องบอกใครขอใคร  การเป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยมันดีอย่างนี้เอง  ผมเรียนไปด้วยและทำทุกอย่างที่เพื่อนขอให้ทำ ขอให้ช่วย   ยิ่งรุ่นพี่ขอแล้ว ผมยิ่งไม่เคยปฏิเสธ....

"ไปเหอะน่า ก็ลองๆดู  คัดตัวเป็นหลีดงานบอล  มันไม่ยากหรอก  อย่าคิดมากดิ"
"เหยยยย...พี่แอล  ไอ้พวกหลีดเนี่ย มันอาชีพตุ๊ดป่ะพี่   ผมไปก็....เบี่ยงเบนพอดี  พี่ชอบงั้นเหรอ..."

พี่แอลเดินมาชวนผมในเย็นวันหนึ่ง   พี่แอลบอกว่าเพื่อนของเธอคณะอักษรชื่อพี่แพร กำลังคัดตัวหลีดงานบอล  สเปคต้องเป็นชายหล่อหญิงสวย  สูงยาวเข่าดีประมาณนั้น  พี่แอลนึกถึงผมมาทันทีและอยากให้ผมได้ลองเป็นหลีดสักหนนึงในชีวิต

"อย่าเลยว่ะ...พี่  ไม่ใช่ทางผมอ่ะ  ผมว่ามันตุ๊ดมากๆ  บิดมือไปมา  ไม่ไหวอ่ะ  งานอื่นดีกว่า"
"ไปก่อนดิ...อย่างน้อยเจอหน้าอีแพรมันหน่อย  มันจะได้ไม่ว่าพี่ว่ารับปากแล้วไม่หาคนมา"
"ไปแล้วพี่จะให้ไรผม..."
"เออ น่า  ไปก่อนแล้วกัน..."

เย็นวันศุกร์ พี่แอลลากผมมาจนได้  อักษรก็ไม่ได้ห่างคณะผมเท่าไรนัก  ผมเดินมาลานโล่งๆ ลานนึง   ผมว่ามีปี 1 หลายคนเลย สังเกตจากไทค์  สาวๆ โคตรน่ารักมาก  ผมลงชื่อได้รับป้ายห้อยคอมาอันนึง  รอสักพักแล้วก็มีสาวน่ารักมาคนหนึ่งเดินมากลางลาน

"สวัสดีค่ะ พี่แพร ปี 2 อักษรนะคะ  พี่ชวนมาคัดตัวลีดเดอร์มหาลัยค่า"

แล้วพี่แพรก็เล่ากติกา  เริ่มจากวัดส่วนสูง ดูทรวดทรงองค์เอว  ผมมันมีอคติกับการเป็นลีดเดอร์แต่ทีแรก  หน้าตาเลยไม่เปล่งประกาย  ออกจะหน้าบูดบึ้งอีกต่างหาก  พอพี่แพรเดินมาหน้าผม  แล้วก็หยุดดูตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเอามือมาหยิบป้ายชื่อผม

"ก้องคะ  ยิ้มให้พี่หน่อยสิ"
ผมยิ้มตามคำขอ  และเป็นครั้งแรกที่ผมได้พิจารณาพี่แพรอย่างเต็มที่  โห..หลีดมันสวยหยั่งงี้นี่เอง
พี่แพรยิ้มตอบผม 
"ก็น่ารักนี่นา  ทำไมหน้าบึ้งอย่างนี้ล่ะ  ก้องเล่นกีฬาอะไรมั่งคะ"
"หลายอย่างครับพี่  ส่วนใหญ่เล่นบอลครับ  ว่ายน้ำด้วย  บาสเล่นนิดหน่อยครับ"
"ทำไมอยากเป็นหลีดล่ะคะ..."
"พี่แอลให้ผมมาครับ  ผมไม่อยากเป็น...."

แล้วผมก็มองหาพี่แอล   อ้าว..เฮ้ย ไอ้พี่แอลหายตัวไปแล้ว  เอาผมมาทิ้งว่ะ  ทำงี้ได้ไง
"ก้องอ่ะ.... ดีแล้ว เป็นนักกีฬาตั้งหลายอย่าง ล่ำๆบึกๆแบบเนี้ย  ท่าทางจะดึงดูดคนดูนะ" 

นั่นคือเหตุผลที่พี่แพรให้ผม   พี่แพรขอเบอร์โทรติดต่อแล้วก็จดๆอะไรลงไปในกระดาษ แล้วเดินจากไปสัมภาษณ์คนต่อไป 

"เอาล่ะคะ วันนี้เราเจอกันแค่นี้นะคะ  พี่ๆชมรมเชียร์จะกลับไปรวมคะแนนกัน  แล้วพี่จะโทรไปหาน้องๆเย็นนี้นะคะ  ถ้าใครที่พวกพี่โทรไปหา  พรุ่งนี้มาเจอกันที่นี่นะคะ เราจะเริ่มกันเลย  ตอนนี้แยกย้ายกันได้เลยค่า  โชคดีนะคะ"

ผมออกมาจากคณะอักษร ชะเง้อมองหาพี่แอลตัวการทำให้ผมลำบาก   พี่แอลหายไปแล้ว...ฮึ่ม  ต้องไปหาเรื่องเก็บค่าลำบากกะพี่แอลสักหน่อย  ผมเดินยังไม่ทันพ้นรั้วมหาลัยเลย  ก็มีคนโทรมาหาผม

"พี่แพรเองนะคะ  พรุ่งนี้ก้องมาด้วยนะคะ  ที่เดิมค่ะ..."
"เอ่อออมมม  ไม่ไปนะครับพี่  ผมไม่ว่างครับ"  ก็ผมไม่อยากร่วมกิจกรรมอยู่แล้วอ่ะ
"ทำไมล่ะคะ  งั้นเอางี้  น้องก้องกลับบ้านยัง  กลับมาหาพี่ที่เดิมนะ  มาคุยกะพี่หน่อยสิคะ  ได้มั๊ยคะ"

ผมพยายามอิดออด  หาเรื่องไม่อยากเป็นหลีด  แต่สิ่งที่ผมหาเรื่องอิดเอื้อนไม่ค่อยได้คือเวลาสาวๆโทรมาหาผมแล้วขอให้ผมไปหา
"ผมอยู่ป้ายรถหน้ามหาลัยแล้วครับ แต่...เอ่อ..เดี๋ยวพี่รอผมสิบนาทีนะ"

ผมยังแปลกใจว่าก็ไม่อยากเป็น แล้วเสือกจะกลับไปหาพี่เค้าทำไม  แต่เท้าผมก็รีบพาผมเดินกลับไปหาพี่แพร  ผมยกมือไหว้พี่แพรอีกครั้ง
"เฮ้ย  ไม่ต้องไหว้  เดี๋ยวแก่  คืองี้....พี่เรียกมาคุยกันก่อนก้องจะตัดสินใจไม่เอา"  ไปคุยที่ห้องชมรมนะ...
พี่แอลพาผมไปห้องชมรม  ซึ่งอยู่อีกตึก  ในห้องยังมีคนอยู่อีกสองสามคน
"นั่งนี่..."

เสร็จแล้วพี่แพรก็บรรยายการเป็นหลีดให้ฟัง  ผมรู้จากพี่แอลว่าพี่แพรเป็นหลีดมหาลัยเมื่อปีที่แล้ว  ผมเข้าใจได้เพราะพี่คนนี้มีเสน่ห์จริงๆ  หน้าหวานและจัดว่าสวยมากห้าดาวทีเดียว  หุ่นให้ใจรัก  เอวพี่แพรเล็กมากๆ  พี่แพรให้ผมร้องเพลงมหาลัยให้ฟัง 1 เพลง  แล้วพี่แพรก็เต้นหลีดเพลงนั้น  พริ้วสวยงาม เคลื่อนไหวได้สมบูรณ์แบบสุดๆ  จากนั้นพี่แพรก็อธิบายว่ากว่าจะถึงวันนี้มันเป็นไง   การเป็นหลีดก็ไม่ยากนักหรอกครับ แต่ผมต้องสละเย็นวันศุกร์อันมีค่า (ในการไปหาสาวๆของผม) ไปซ้อมหลีด   พี่แพรบอกว่าเธอมีนโยบายว่า ปีนี้จะลองเปลี่ยนท่าหลีดทุกเพลงและต้องมาทุกศุกร์ห้ามขาด   ยิ่งใกล้ๆงาน อาจซ้อมกันถึงตีสองตีสาม  ผมยังสองจิตสองใจอยู่  ถ้าจะสมัครก็เพราะพี่แพรน่ารัก และผมก็บอกพี่แพรไปว่าผมจะลองคิดดูก่อน   แต่ถ้าถามจิตใจผมแล้ว...ไม่ชอบ   แล้ววันนั้นผมก็กลับออกมา 

พี่แพรเป็นฝ่ายโทรหา ตามตื๊อผมอีกหลายวัน  ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้จนเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น จนเย็นวันหนึ่งผมไปหาตามที่แพรนัดที่ชมรม   พี่แพรบอกให้ผมมาช่วยซ้อมในท่าใหม่   ท่าใหม่ยังไม่ครบเพลง  แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเพลง  เป็นจังหวะที่ฝ่ายหญิงจะล้มหงายลงมา  ฝ่ายชายต้องเอาแขนขวาไปรองรับไว้

"ลองดู  เหมือนเต้นรำอ่ะ  ยกแขนซ้ายขึ้นแบบนี่นะ  สวนแขนขวากางออกงี้...  ไม่สิ  กางกว้างๆ  แบบนี้  เอ้อ  นั่นแหละ  พี่จะยืนข้างหน้าแล้วเอนตัวลงมาที่แขนขวา  ทีนี้ก็วัดกันหละ  ถ้าก้องไม่แข็งแรง  พี่ก็ล้มหัวฟาด"

ผมพยักหน้ารับทราบ  แล้วพี่แพรก็เต้นท่านี้จนถึงจังหวะนี้ ผมยืดแขนขวาออกรองรับพี่แพรเอนตัวลงมา  และอยู่ในแขนผม   โอ้โห  พี่แพร ตัวหนักว่ะ  แต่แขนผมแข็งแรง  ดีที่พี่เค้ายั้งๆ ไม่งั้นต้องเรียกรถพยาบาลแน่   การลองครั้งที่สองพี่แพรเอนเข้ามาแต่ว่าจังหวะไม่ลงตรงแขน  แต่ลงตรงอกผมและทำท่าจะล้มจนผมต้องดึงเอวพี่แพรไว้  ผมเลยได้สัมผัสตัวพี่แพรเต็มๆ   พี่แพรยังคงลองต่อไป  ครั้งนี้ลงตรงแขนแต่ไม่ถูกจังหวะนัก  ผมโอบพี่แพรไว้แต่ แต่มือมันเกินเลยขึ้นมาถึงฐานนมพี่แพร  และเนื่องจากพี่แพรทำท่าจะล้ม  ผมเลยกดมือรัดแน่นไว้ทำให้เหมือนกับผมบีบฐานนมพี่แพรไว้ด้วย

"พี่แพรครับ  ท่านี้ผมว่าอันตรายนะ  คือถ้ามันไม่พอดีกัน  ฝ่ายผู้หญิงเจ็บแน่ๆเลย"
"นี่ไงที่พี่บอกเธอ  มันต้องประสานพอดี  ต้องทำหลายครั้งซ้อมหลายทีกว่าจะเห็นมันเข้ากัน"
"ผู้ชายกำไรสิพี่..."
"เธอทำอะไรพี่เหรอ....เปล่านี่   เธอก็อ้าแขนเฉยๆ  จะกำไรขาดทุนอะไรนักหนา  จริงมั๊ย..."

ก็จริงของพี่แพร    ถ้าไม่คิดอะไร...ก็ไม่มีอะไร   แต่ถ้าจะคิดอะไร...ก็มีอะไร

ผมว่ามันก็ไม่มีไรเสียหาย  ตอนนี้ผมก็ว่างๆ  พี่แอลก็หนีไปกะไอ้เอสแล้ว  ไอ้โอ๋กะไอ้เอ็มก็ชัดเจนมากขึ้น  ผมเลยยอมเป็นคู่ซ้อมให้พี่แพร  แต่ผมไม่ไปลงสนามคัดตัวเป็นหลีดรอบต่อไป  ผมอ้างพี่แพรไปว่าผมขอช่วยพี่แพรแบบนี้แล้วกัน  แต่ไอ้เต้นหลีดน่ะ  ไม่ใช่ทางผมเลย  ผมไม่ถนัดจริงๆ ผมยินดีที่จะอยู่ใกล้พี่แพรคนสวยโดยไม่รู้เลยว่าพี่แพรมีแฟนแล้ว...
.....................................................................................

"ได้ข่าวมาว่า จีบพี่แพรอักษรเหรอ..."  ไอ้โอ๋เดินสวนกะผมในโอกาสหนึ่ง
"หา...ไรนะ  แกรู้ได้ไง บ้า  ไม่มีไร พี่เค้าขอให้ไปช่วยซ้อมหลีด"
"ระวังเหอะ  พี่แพรแฟนมันอยู่ปี 4 ไอ้คณะคู่อริเราอ่ะ   คืออันนี้เตือนจริงจัง  พี่ๆปีสองเค้าฝากมา  เคยมีเรื่องกันด้วยนะ"
"ไม่ได้จีบเว้ย  พี่เค้าเอากูไปช่วยเป็นคู่ซ้อมท่า"

โอ๋ทำตาโตเมื่อได้ยินอย่างนั้น  ผมว่ามันต้องเข้าใจไรผิด
"ถึงขั้นซ้อมเล่นท่ากันแล้วเหรอ  โห...เมิง แม่ง ไวไฟไปมั๊ยอ่ะ...ระวังตายห่านะมึง"
ผมผลักหัวไอ้โอ๋เต็มแรง
"มึง...แม่ง...  กูหมายถึงไปช่วยกันคิดท่าเต้นหลีด  ไม่ได้ท่าแบบนั้น  ว่าแต่แกเหอะ วันนี้จะ "คิดท่า" กะกูมั๊ยอ่ะ"
ไอ้โอ๋ผลักหัวผมเต็มแรงเหมือนกัน
"ไอ้บ้ากาม...  " 

พี่แพรชวนผมไปวันคัดตัว  การคัดตัวหลีดกะพี่แพรนี่อย่างโหดเลย  ตามขั้นตอนแกเอาแบบหน้าตาไม่ดึงดูดออกไปก่อนเลย  รองมาเป็นไซส์ไม่ได้  ตัวใหญ่ไปตัวเล็กไป  เพศไม่ตรงพี่แพรก็ไม่เอา  ผ่านสามขั้นนี่แล้วพี่แพรก็สอนท่าพื้นฐาน ให้ทุกคนเต้น  จากเกือบสามสิบคัดอาทิตย์ละ 5  จนเหลือสิบคน   และวันนี้วันสุดท้ายแล้วที่จะเหลือสิบคน  เพราะมันก็ใกล้มิดเทอมมากแล้ว  พี่แพรลากผมมาห้องเชียร์จนได้  ผมนั่งดูพี่แพรและเพื่อนๆพี่แพรคัดตัวน้องๆออกทีละคน  ผมไม่ได้ชอบดูแบบนี้อยู่แล้ว  มันเลยน่าเบื่อเป็นพิเศษ  ซ้ำไปซ้ำมาน่าเบื่อสุดๆ  ผมเลยนอนยาวบนเก้าอี้เพื่อรอพี่แพรคัดตัวเสร็จหลับไปแค่ไหนไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีคือมีคนยืนจ้องผมอยู่   ผมลืมตาขึ้นดู พี่แพรนั่นเอง พี่แพรจ้องผมนานมาก ผมเลยแกล้งทำหลับต่อ ดูว่าพี่แกจะทำอะไร   พี่แพรไปเอามือถือมาถ่ายรูปผม แต่...พี่แกไม่ถ่ายที่หน้าอ่ะดิครับ  ถ่ายที่เป้าผมซึ่ง ผมเพิ่งรู้ตัวว่า ผมแอบแสดงอาการ"สู้" ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  ผมเดาว่ามันคงเห็นชัดเพราะวันนี้ผมใส่กางเกงบอลสีขาวที่ลื่นๆ   พี่แพรถ่ายจนพอใจแล้ว ก็ปลุกผม

"ก้องๆ  ตื่นเสียที เค้ากลับกันหมดแล้ว พี่จะปิดห้อง"
ผมแกล้งงัวเงีย ตื่นขึ้นมา   แล้วลุกไปล้างหน้าก่อนเปลี่ยนกลับกางเกงยีนส์   ผมจงใจถอดเลยครับ รู้หละว่าพี่แพรอยู่ และรู้ด้วยว่าพี่แพรกำลังมองผมอยู่

"พี่ ผมเปลี่ยนกางเกงที่นี่เลยนะ แป๊บเดียว ขี้เกียจเดินไปห้องน้ำ มันไกลด้วยมืดด้วย" 

ว่าแล้วผมก็รูดกางเกงบอลลง เหลือแต่กางเกงในที่หุ้มของผมที่ยังลดขนาดลงไม่เท่าขนาดปกติ  มันตุงแน่นทีเดียว  พี่แพรไม่ได้หันหน้าหลบหนี  แต่กลายเป็นจ้องผมตาเขม็งเชียว  เล่นเอาผมอายแทน  ผมรีบจัดการมันเข้ากางเกงผม 
"เฮ้ย ไอ้ก้อง...พี่เป็นผู้หญิงนะ"  รู้ครับ แต่ว่า..ไม่ทันแล้วครับพี่แพร  คงจะเต็มตาพี่แกเลยครับ
"ขอโทษครับพี่  กลับเหอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง"

เราเดินกันออกไป ระหว่างทางพี่แพรถามผมว่า
"พวกผู้ชายเนี่ย เค้าช่วยตัวเองกันมั่งมั๊ย" 
เห้ย.. ถามงั้นได้ไงพี่  คนที่ถามผมแบบเนี้ย จบไม่สวยนะพี่..
"พี่ถามทำไมคับ"
"เธอควรช่วยตัวเองมั่งนะ  อย่าปล่อยให้มันอัดอั้น  เดี๋ยวเธอฝันเปียกแล้วไม่มีแรงมาซ้อมกีฬานะ"
"พี่แพร..... ผมไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองไรหรอก" ไม่ได้โกหกนะครับ ผมไม่ช่วยตัวเอง แต่คนอื่นมาช่วย
"พี่แพรก็ดูแล้วกัน ผมกว่าจะกลับ....เกือบทุ่ม ถึงบ้านก็เหนื่อยตายแล้วพี่  บางทีเป็นเดือนเลย  แต่ผมฝันเปียกบ่อยนะครับ"  ก็ไม่โกหกอีกหละครับ  ผมผลิตน้ำแยะมากๆ  10 วันไม่มีเอาออก บางทีมันจะออกมาเองครับ   เอ....ว่าแต่ พี่แพรทำไมรู้เรื่องแบบนี้มากจัง

วันรุ่งขึ้นเป็นวันศุกร์ พี่แพรโทรมาเรียกผมไปเจอที่ห้องชุมนุมวันนี้พี่แพรเรียกน้องใหม่ที่เหลือ 10 คนแล้วซ้อมทิ้งทวนก่อนปิดช่วงสอบ  แล้วให้ผมรอซ้อมท่าหลังจากนั้นผมล่ะเบื่อสุดๆ ตามเคย  ผมนั่งรอพี่แพรตั้งแต่ห้าโมงจนทุ่ม เล่นมือถือจนโคตรง่วงและผมก็นอนแบบเดิม  หลับไปยาวเลย มารู้ตัวอีกที มีคนจับคลำผมอยู่  ผมแอบลืมตาขึ้นดู  พี่แพรน่ะเอง   พี่แก จับลำผม กดๆกางเกงลงให้ลำขึ้นชัดๆ  แล้วก็บอกว่า "โห .. ไมมันใหญ่งี้เนี่ย"  ผมยังหลับตาทำเป็นไม่รู้ แต่มือที่พี่แกจับอยู่ มันหนักขึ้นๆทุกที จนไอ้นั้นมันเริ่มคุมไม่ได้  มันขยายขนาดออกเรื่อยๆๆๆ  ผมกลัวว่าแกจะช้อคตายไป ผมเลยต้องตื่น

"พี่แพร มีไรครับ จะกลับแล้วเหรอ" ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ในสิ่งที่พี่แพรทำ
พี่แพรหดมือกลับอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ย ก้อง...มาช่วยพี่ซ้อมได้แล้ว..." 

เรายังคงซ้อมท่าเดิมที่พี่แพรจะต้องล้มตัวลงมาที่อ้อมแขนของผม  มันเป็นท่าที่อันตรายจริงๆ  พี่แพรพยายามหาจุดสมดุลของการล้ม  จนในที่สุด พี่แพรก็ผิดจังหวะจนได้ และล้มลงมาเร็วไป  จนน้ำหนักพี่แพรดึงผมเซและล้มลงไปด้วย  ดีที่ผมเป็นนักกีฬา เลยดึงเอาพี่แพรไว้ได้และผมล้มลงไม่ผิดท่ามากนัก  ไม่มีหัวใครฟาดพื้น  มีแต่...ตัวผมที่นอนทับด้านบนตัวพี่แพรเต็มๆ  จนรู้สึกได้ถึงความนิ่มของหน้าอกพี่แพร  ส่วนล่างนั้นสัมผัสโดนหน้าขาพี่แพรเต็มๆเหมือนกัน  ตอนนี้หน้าพี่แพรห่างจากหน้าผมไม่เกิน 20 เซ็น   ผมมองตาพี่แพร....และพี่แพรมองตาผม   อะไรไม่รู้ทำให้ผมเลื่อนปากไปที่ปากพี่แพรและจูบพี่แพรลงอย่างแผ่วเบาแต่ยังไม่ถึงขั้นล่วงล้ำเข้าปากพี่แพร  เพียงแค่ปากไปโดนพี่แพรเท่านั้น พี่แพรตาลุกโพลงและรีบผลักตัวผมออกจากตัวพี่แพร

"พี่แพร  ขอโทษครับ  ผมขอโทษ..."
ผมยกมือไหว้พี่แพร  พี่แพรยิ้ม
"พี่ครับ  ผมว่าเปลี่ยนท่าเหอะ  มันต้องพลาดแบบนี้แน่ๆ  แล้วคู่พี่อาจ...เอ่อ..."
"มันถึงต้องซ้อมไง  เจ็บตรงไหนหรือเปล่า พี่ก็ขอโทษนะ มันหมุนเร็วไปนิด  นั่งพักแป๊บแล้วกัน"

พี่แพรดึงมือผมลุกขึ้นยืนแล้วมานั่งที่เก้าอี้  พี่แพรไม่พูดถึงเรื่องเมื่อกี้เลย 
"ก้อง... มีแฟนหรือยัง  ไอ้เจ้าแอลเป็นแฟนเธอหรือเปล่า"

ถามงี้อีกหละ...  เฮ้อ จะตอบไงหว่า  ทำไมผู้หญิงต้องถามเรื่องแฟนผมทุกคนเลย
"ก็..ไม่มีครับ" ผมแอบวงเล็บไว้ว่า (แฟนคนไทยไม่มีครับ)
"ไม่น่าเชื่อ  หน้าตาก็ไม่เลวร้าย  นิสัยก็ดี  ไอ้แอลแม่งชอบกินเด็ก  คงกินก้องไปแล้วแน่ๆ"
"แล้วพี่แพรมีแฟนมั๊ยครับ"
"มี  แต่ก้องอย่ารู้จักเลย  แฟนพี่ไม่ชอบเด็กวิศวะ  เคยมีเรื่องกันด้วย  พี่ล่ะเบื่อ เจอกะเด็กวิศวะทีไรต้องของขึ้น"
"ผมเป็นเด็กวิศวะครับพี่..."
"เออ พี่รู้...ก็อย่าให้แฟนพี่รู้แล้วกัน  ว่าแต่  เมื่อกี้ทำไรพี่..."

นั่นไง....ไม่ถามก็แปลกมากแล้ว 
"อืมม์พี่.. ผมขอโทษพี่นะครับ  พี่แพรน่ารักอ่ะครับ"
"น่ารักแล้วจูบเลยเหรอ  ไม่กลัวพี่เอาเรื่องเหรอ"
"ผม เอ่อ.. ทำไปแล้วครับ  ใจผมมันสั่งงานก่อนสมองครับ  พี่จะให้ผมชดใช้ยังไงก็ต้องตามนั้นหละครับ"
"มาเป็นแฟนพี่มั๊ย..."


dee