เส้นทางความรักของดิฉัน เป็นเส้นทางที่ต้องต่อสู้กับสังคมชีวิต โดยเฉพาะการดิ้นรนหารายได้เลี้ยงชีพ ก่อนหน้าที่ดิฉันจะย้ายมาอยู่ลำพังคนเดียว ดิฉันเลิกกับพี่ชัย คนรักเก่า ที่สร้างความวุ่นวายให้กับครอบครัวด้วย การสร้างหนี้ไม่รู้จบ เขายังตามรังควานดิฉัน จนกระทั่งเราแยกขาดจากกัน เมื่อดิฉันแจ้งความดำเนินคดี เขาจึงยอมยุติเลิกรากันแบบ ชาตินี้ไม่ต้องมาเผาผีกันอีกต่อไป หลังจากเลิกกับพี่ชัย ดิฉันมาได้งานทำเป็นพนักงานขายเครื่องสำอาง ประจำห้าง ดิฉันพอใจงานนี้มาก เพราะ ส่วนตัวเป็นคนรักสวยงามรักงาม ยิ่งมาได้พี่อ้อที่เป็นเพื่อนใหม่นิสัยดี การทำงานจึงราบรื่นเป็นพิเศษ

ตามจริงแล้วพี่อ้อกับดิฉันก็รุ่นราวคราวเดียวกัน อยู่ในวัยใกล้ 30 แต่เพราะเธอทำงานมานานหลายปี ดิฉันจึงให้ เกียรตินับถือเป็นพี่ในแผนก สินค้าภายในช็อปของดิฉันเป็นสินค้าขายยาก เราต้องใช้ความสามารถพิเศษของพนักงาน รวมทั้งต้องคอยเอาใจ ลูกค้าประจำ ดิฉันทำงานได้ราวเดือนเศษ ก็รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายดำรงชีพไม่พอเลี้ยงตัว จ่ายค่าแฟลต ลำพังรายได้แต่ละเดือนและ ค่าคอมมิชชั่นก็ยังหมิ่นเหม่เต็มที

เมื่อเอาเรื่องไปคุยกับพี่อ้อ เธอก็แนะนำว่า ดิฉันต้องทำงานพิเศษเพิ่มเหมือนเธอ ดิฉันส่ายหัวบอกว่าทุกวันนี้ก็ แทบไม่ได้พักอยู่แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปหางานอื่นเพิ่ม

วันหนึ่งหลังเลิกงาน ดิฉันรอรถกลับบ้านนานจนกลับบ้านช้ากว่าเวลาเดิม ระหว่างทางที่เดินเข้าแฟลตต้องผ่าน ตรอกเล็กๆ ที่ปราศจากผู้คน เมื่อเหลียวมองไปข้างหลังก็พบกับคนขี้ยาท่าทางไม่น่า ไว้ใจมองมา ดิฉันตกใจรีบเร่งฝีเท้าหนี โชคดีมีคนผ่านมาทางนั้นเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งบุคคลิกดี ดิฉันจึงรีบเข้าไปหาเขาทันที

ดิฉันบอกขอเดินไปด้วย พร้อมโบ้ยไปเขาหันไปดูคนขี้ยาข้างหลัง เขาอมยิ้มแล้วเชื้อเชิญให้ดิฉันเดินข้างหน้า เพื่อนำไป ส่วนเขาจะคอยระวังหลังให้

เมื่อเดินไปสักพักดิฉันค่อยใจชื้นขึ้น รู้สึกปลอดภัยจึงคุยกับเขาเบาๆ หนุ่มคนนั้นแนะนำตัวว่า เขาชื่ออ้น อยู่ใกล้ แฟลตที่ดิฉันอยู่ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้จบแล้ว

ดิฉันเลยให้เบอร์ติดต่อไป พร้อมกำชับว่าหากมีใครสนใจพวกเครื่องสำอางสตรีก็ให้โทร. หาดิฉันทันที อ้นก็ให้เบอร์ดิฉันเช่นกัน เขาบอกว่าหากดิฉันเดือดร้อนหรือมีเรื่องให้ช่วยเหลือ ก็สามารถโทร.หาเขาได้

หลังวันนั้นดิฉันก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท เพราะมัวแต่เร่งหารายได้เสริม จนกระทั่งพี่อ้อมาพูดเปิดอกกับดิฉันว่า อาชีพอย่างพวกเราดิ้นรนในชีวิตไม่ไหวหรอก หากอยากมีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือต้องเปลืองตัวบ้าง เพราะเรามีดีตรง ที่ร่างกายและหน้าตา จึงมาทำงานเป็นพนักงานเครื่องสำอางได้ ดิฉันยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเธอนัก เมื่อซักตรงๆ พี่อ้อก็บอกว่า เธอหาลำไพ่พิเศษแอบเป็นกิ๊กกับลูกค้าที่ดูดี มีฐานะ ยิ่งพี่อ้ออธิบายมากขึ้น ดิฉันเริ่มเข้าใจทันทีว่า พี่อ้อทำตัวเหมือนสาวขายบริการพิเศษ ดิฉันพยายามเลี่ยงไม่พูด เรื่องนี้อีกจนกระทั่งปลายเดือน เธอมาแจ้งข่าวร้ายว่า เงินเดือนงวดสิ้นเดือน ทางบริษัทประสบปัญหาขาดทุน อาจชะลอการจ่ายเงินไปหลายวัน

ข่าวนี้ทำให้ดิฉันหน้าเสียทันที เพราะดิฉันกำลังจะนำเงินไปชำระค่าเช่าแฟลตที่อยู่ แถมยังต้องเจอภาระค่าใช้จ่าย จนแทบไม่มีเงินพอมาทำงานเลยทีเดียว เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้มันเหมือนเข้าทางพี่อ้อ เธอพยายามโน้มน้าวให้ดิฉันไปเป็นกิ๊กกับเสี่ยใหญ่ที่ ขายอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ เธอย้ำว่าเสี่ยตั้งนิสัยดี สุภาพแถมให้หนัก ถ้าเขาถูกใจจริง คนที่จะใกล้ชิดเขาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เลือกที่จะให้ และไม่เอาเปรียบคนที่เขาพอใจ

พี่อ้อสนับสนุนให้ดิฉันโอเคกับเสี่ยตั้ง เธอเชื่อว่ามันเป็นวิธีเดียว ที่จะแก้ปัญหาเงินฝืดได้ เลยทีเดียว ดิฉันพยายามซักเธอต่างๆ นานา สรุปว่าหากเราไม่พอใจเขาจริงๆ ก็สามารถตีจากด้วยความพอใจทั้งสองฝ่าย ไม่ มีภาระผูกพันกัน ดิฉันจึงต้องจำใจยอม โดยขอโอกาสให้เจอหน้าและพูดคุยกับเสี่ยตั้งก่อน เสี่ยตั้งมาหาเราที่ช็อปในห้าง เขาทำตัวเหมือนคนมาเลือกซื้อน้ำหอมทั่วไป

แรกเจอและได้พูดคุยกับเสี่ยตั้งแล้ว ดิฉันยอมรับว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ดูดีมีเสน่ห์ ไม่เหมือนอย่างที่คิด เขาสุภาพกับดิฉันมาก ระหว่างที่ทานอาหารด้วยกันสองต่อสอง เขายังเอาใจ ตักอาหารและให้เกียรติดิฉันตลอด เวลา

วันรุ่งขึ้นเสี่ยตั้งมารับดิฉันหลังเลิกงาน หลังทานอาหารเสร็จ ได้เวลาห้างปิดพอดี เขาอาสาจะพาดิฉันไปส่งที่ แฟลต ระหว่างเดินไปที่ลานจอดรถด้านหลังห้าง ซึ่งเงียบสนิท เขาก็ชวนดิฉันไปนั่งหลังรถโฟร์วีลไดรฟ์ของเขา บอกอยากคุยเรื่องสำคัญกับดิฉัน เมื่อเข้าไปในรถ เสี่ยตั้งก็ดึงดิฉันเข้ามาจูบอย่างหนักหน่วง ดิฉันไม่ทันตั้งตัวจึงตกตะลึงกับการกระทำของเขา ทันที เขาจูบดิฉันจนอ่อนระทวย แถมมือเขายังซุกซน สอดเข้าในกระโปรงดิฉันต้องหลับตาพริ้มด้วยความเปี่ยมสุข

เขาพยายามจะควานหาขอบบิกินี ดิฉันจึงแกะมือเขาออก ก่อนรูดชั้นในตัวจิ๋วออกจากปลายขาด้วยตัวเอง เสี่ยตั้งมองหน้าดิฉันด้วยความหื่นกระหาย เมื่อเขาเอามือพยายามสัมผัสเนื้อใน ดิฉันก็ปล่อยตัวให้ชื่นชมอย่างเต็มที่ เขาสัมผัสถูกผืนหญ้ากํามะหยี่สีดำ ที่เป็นของรักของหวงของดิฉัน จนความรู้สึกของดิฉันเริ่มแตกกระเจิง ต้องเอื้อมมือไปรูดซิปของเสี่ยตั้งคืนบ้าง

เขารีบช่วยตัวเอง ด้วยการถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนดึงร่างดิฉันมานั่งบนตัก แล้วจับอาวุธที่พร้อมรบของเขา ใส่ไปในร่างกายดิฉันทันที ความเร่าร้อนของเราสร้างความหฤหรรษ์ในเกมรักครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ภายในรถจะคับแคบแต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรค ดิฉันโยกกายอยู่ไม่นาน เสี่ยตังค์ก็เสียท่าปล่อยของเสีย เข้าสู่ในร่างของดิฉันทันที ดิฉันรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าได้ประสบการณ์รักใหม่ ที่เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ในรถเป็นครั้งแรก

หลังวันนั้นดิฉันก็กลายเป็นกิ๊กของเสี่ยตั้ง เขาช่วยเหลือดิฉันจนมีเงินมีทองใช้อย่างไม่ขาดมือ แต่ก็ยังคงทำงาน ประจำเพราะเชื่อว่าอนาคตของคนเรา ไม่แน่นอนเสมอไป การมีงานทำย่อมมีความมั่นคงกว่าอยู่เฉยๆ

วันหนึ่ง อ้นมาหาดิฉันที่ห้าง เขาบอกจุดประสงค์ว่า อยากจะซื้อน้ำหอมให้แฟน เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ อยากให้ดิฉันช่วยเลือกให้หน่อย ดิฉันเลือกให้ในราคาที่เหมาะสมเขาบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะเอาเงินมาให้ ขอฝากไว้ก่อน ดิฉันจึงเก็บของไว้ให้เขา แต่พอถึงวันนัด เขาก็ไม่มาแล้วหายหน้าไปหลายวัน เมื่อดิฉันโทร.ไปถาม อ้นขอโทษ ที่ผิดนัด บอกว่าจะไปรับของช่วงเย็นวันนี้

ดิฉันมาเจอเขาช่วงหัวค่ำ เห็นสีหน้าของเขาดูเศร้าๆ พิกล เมื่อซักความจริงเขาก็ยอมบอกว่า เขาเพิ่งเลิกกับแฟน เพราะเธอมีคนใหม่ น้ำหอมที่ซื้อไปก็ไม่รู้จะให้ใคร ดิฉันรีบบอกว่า ไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่อ้นยังยินดีซื้อมันเก็บไว้ เขาย้ำว่าไม่อยากเสียคำพูด ที่รับปากดิฉันว่าจะซื้อแล้ว ก็ต้องซื้อ ดิฉันเห็นว่าเขาเป็นคนมีสัจจะดี ก็ยอมขายให้เพื่อไม่ให้เสียศรัทธาของเขา

อ้นยังชวนดิฉันไปนั่งดื่มกาแฟ เพื่อชวนคุยเรื่องราวต่างๆ ดิฉันเห็นว่าเป็นการฆ่าเวลารอเสี่ยตั้ง จึงยอมไปนั่งคุย ด้วย แต่แล้วระหว่างที่เรานั่งคุยกัน เสี่ยตั้งมาตอนไหนดิฉันไม่อาจทราบได้ เขาตรงเข้ามาโวยวายใส่ดิฉันจนคนหันมา มองเต็มไปหมด

ดิฉันเห็นท่าไม่ดีจึงไล่ให้อ้นกลับไปก่อน แล้วรีบจูงมือเสี่ยตั้งพ้นร้านกาแฟทันที

เขายังโวยวายไม่พอใจ หาว่าดิฉันแอบคบเด็กหนุ่ม ดิฉันพยายามอธิบายให้เขาสงบ เมื่อเข้าไปที่รถเขายังแสดงอาการฟึดฟัดฉุนเฉียวอยู่ ดิฉันจึงตัดสินใจ ที่จะทำให้เขาสงบโดยเร็ว ด้วยการล้วงเข้าไปในเป้ากางเกง นำอาวุธลับของเขา ออกมาสู่ภายนอก ก่อนส่งมันเข้าปากทันที เสี่ยตั้งไม่ทันระวังตัว ถูกดิฉันเร่งการทำมืออย่างรวดเร็ว แค่นาทีเดียวเขาก็ทนไม่ไหว ปล่อยพิษงูออกมาเต็มคอ ของดิฉันเลยทีเดียว หลังเสร็จภาระกิจ ดูเหมือนเสี่ยตั้งจะอารมณ์เย็นลง เขาเริ่มคุยกับดิฉันเหมือนเดิม เมื่อเขาฟังดิฉันอธิบายว่า อ้น เป็นเพียงคนหนึ่ง ที่เคยปกป้องดิฉันจากพวกขี้ยาแล้วรู้จักกัน เขาก็ไม่ติดใจอะไร

แต่แล้ววันรุ่งขึ้น ดิฉันเกิดความยุ่งยากในชีวิต เมื่อเสี่ยตั้งก่อปัญหามาให้ ระหว่างที่เขามาหาดิฉันที่ช็อปในห้าง มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาแสดงตัว จนเสี่ยตั้งต้องวิ่งหนี ผู้หญิงคนนั้นแท้ที่จริง ก็เป็นเมียของเสี่ยตั้ง เธอหันมามองหน้า ดิฉันแวบเดียวก็สะบัดหน้าเดินหน้าตามเสี่ยตั้งไป เรื่องของเสี่ยตั้งครั้งนี้ ทำให้ดิฉันถึงกับต้องลาออกจากงานเลยทีเดียว เพราะไม่กล้าสู้หน้าพนักงานในห้าง

ดิฉันลางานไปหลายวัน หมกตัวอยู่ในห้องที่แฟลต ด้วยความอับอายและความเศร้า เมื่อออกไปหาซื้ออาหารเย็น รับประทานก็บังเอิญไปเจออ้น กำลังทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งกลางถนน มีคนมุงดูกันแน่น จากนั้นผู้หญิงคนนั้น ก็ขึ้นรถเก๋งที่มีผู้ชายมาขับออกไป โดยที่อ้นพยายามรั้งไว้ไม่ทัน เขานั่งทรุดลงกับพื้น ไม่พูดไม่จากับใคร มีคนพยายามจะเข้าไปดูเขา แต่เขาก็โบกมือทำนองว่า ไม่เป็นไร

เมื่อปลอดคนดิฉันจึงเดินเข้าไปสะกิดเขาเบาๆ เขาเงยหน้ามองเมื่อเห็นเป็นดิฉันเขาจึงน้ำตารินออกมา ดิฉันเดินจูงมือเขาไประยะหนึ่ง พร้อมเอ่ยปากชวนเขาไปทานอาหารที่ห้อง ตอนแรกเขาพยายามจะปฏิเสธแต่ เมื่อถูกดิฉันแกล้งถลึงตาใส่ เขาจึงยอมไปแต่โดยดี อ้นยังมีอาการเศร้าอยู่ไม่น้อย ดิฉันจึงบอกให้เขาระบายความในใจออกมาให้หมด

เขาเล่าว่า แฟนเขามาบอกเลิกแบบเด็ดขาด เพราะเห็นเขาพยายามตามง้อ ให้คืนดีอยู่หลายวัน แต่เธอไม่ยอมใจอ่อน เธออยากมีแฟนใหม่ที่มีฐานะกว่า อ้นบอกว่า เขาไม่เคยมีใคร ผู้หญิงคนนี้เป็นรักแรกของเขา ที่เขาพยายามทะนุถนอมอย่างดี เมื่อเขาเล่าจบดิฉันก็เอ่ยเรื่องเสี่ยตั้งให้เขาฟังบ้าง แต่ก็ปิดเขาในบางเรื่อง ดิฉันบอกเขาไปว่าดิฉันก็เพิ่งเศร้าเรื่อง ความรักและลางานมาอยู่บ้านหลายวันแล้ว เขามองหน้าอย่างไม่เชื่อ ดิฉันจึงย้ำให้เขาเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราท้อแท้กับชีวิต แต่มันต้องผ่านไปให้ได้

หลังจากเราเปิดใจคุยกันในหลายๆ เรื่อง ดิฉันเลยถามชีวิตส่วนตัวเขาบ้าง เขาบอกว่าเขาเพิ่งอายุ 23 ปีเท่านั้น ซึ่งอ่อนวัยกว่าดิฉันถึง 5 ปี เขาจึงเรียกดิฉันว่าพี่ ดิฉันก็ไม่ขัดเพราะเห็นเป็นเด็กกว่าจริงๆ เมื่อเขาถามดิฉันบ้าง ดิฉันก็เปิดเผยให้ฟังว่า ดิฉันเคยมีแฟนแล้วเลิกกัน ก่อนที่มาคบกับเสี่ยตั้ง ถึงตอนนี้คงยังไม่ คิดคบใครเพราะยังเบื่อๆ และเข็ดอยู่ เขาบอกดิฉันว่า ถ้าไม่มีใครคบก็คบกับเขาแล้วกัน

ดิฉันตะลึงที่เขาพูดเช่นนี้ แต่เขาทำหน้าตาขึงขังจริงจัง ดิฉันจึงแหย่ไปว่า ไม่เอาหรอก เด็กกว่าหลายปี แถมท่า ทางเซ็กซ์คงไม่เอาไหนแน่ เมื่อดิฉันพูดจบก็เห็นเขาหน้าเสีย และนิ่งเงียบ จึงตกใจรู้ว่าพลั้งปากพูดอะไรผิดไปแน่ อ้นขอตัวจะกลับบ้าน ดิฉันจึงรั้งเขาไว้พร้อมขอโทษเขา ก่อนจี้ถามเขาว่า โกรธดิฉันเรื่องอะไร เขาสารภาพว่า เขายังไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน คำพูดของดิฉันเหมือนจี้ใจดำเขา

ดิฉันแอบยิ้มในใจ อ้นดูเป็นเด็กจริงๆ เขาท่าทางดูดีหลายอย่าง คิดได้ดังนั้นดิฉันจึงเอ่ยปากชวนเขานอนค้างที่ห้องของดิฉัน โดยอ้างว่ามันดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมันอันตราย

เขามองหน้าเหมือนไม่แน่ใจ แต่เมื่อดิฉันรั้งมือเขาแล้วชวนมานั่ง เขาจึงเดินตามอย่างว่าง่าย ก่อนเข้าห้องน้ำดิฉันแหย่แบบทีเล่นทีจริงว่า ''อยากคบกันไม่ใช่หรือ งั้นลองมาอาบน้ำด้วยกันก่อน'' พูดจบดิฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ได้ล็อกห้อง สักพักดิฉันได้ยินเสียงเขาเคาะประตูห้องน้ำแล้วตะโกน ถามเหมือนไม่แน่ใจ ดิฉันจึงให้เขาผลักประตูเข้ามาเลย

อ้นเข้ามาในห้องน้ำ แล้วเขาตกตะลึง ที่เห็นร่างกายดิฉันหมดจด โดยปราศจากอาภรณ์ใดๆ เขาถึงกับตบะแตกรีบ ถอดเสื้อผ้าตัวเองจนหมดเช่นกัน

ดิฉันจับมือเขา มาลูบไล้ร่างกายจนเขาหน้าแดงกล่ำ ก่อนโน้มคอเขามาจุมพิตอย่างดื่มด่ำ อ้นร่างกายสั่นระริกเหมือนคนไม่มีประสบการณ์จริงๆ เมื่อดิฉันไปจับถูกอาวุธของเขา อ้นถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ดิฉันแทบไม่ต้องปลุกเร้ามันก็พร้อมรบ อ้นถูกดิฉันกุมความเป็นชาย จนยืนแทบไม่ติดพื้น แต่แล้วเขาก็ทนไม่ ไหวปล่อยสิ่งที่มันคั่งค้างในกายออกมาจนเปรอะพื้นหมด ดิฉันตกใจที่เขาอ่อนหัดขนาดนี้ แต่อ้นกลับไม่สนใจหรืออ่อนแรง เขากอดและระดมจูบสูดดมดิฉันอย่างแรง ดิฉันต้องห้ามและแนะนำให้เขาอ่อนหวานกับผู้หญิงให้มากที่สุด

เขาจึงค่อยๆ กระทำตามคะแนะนำของดิฉัน ด้วยการใช้ปากสัมผัสเบาๆ จนทั่วเรือนร่างก่อนไล่ต่ำลงมาถึงท้องน้อย เขาหยุดจ้องมองจุดซ่อนเร้น ของดิฉันอย่างกระหาย ก่อนที่จะยอมสิโรราบ อยู่ใต้หว่างขาของดิฉัน เนินสาหร่ายที่ปกคุมอยู่หนาแน่น มันทำให้อ้นชื่นชมไม่รู้เบื่อ เขาทำอยู่นานจนดิฉันอารมณ์แตกซ่าน ต้องดึงเขาขึ้นยืนและเตรียมพร้อมมอบกายให้เขาเต็มที่

ดิฉันยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดชักโครก ปล่อยให้เขาขยับร่างเข้าใกล้ เขาเล็งอยู่นานก็ยังไม่ถนัด ดิฉันจึงจับมันดันเข้าไปเอง ดิฉันแทบไม่เชื่อว่า เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามันเพิ่งคลายพิษออกไป แต่มันก็ยังสู้ไม่อ่อนกำลังสักนิด เขาหลับตาปี๋ เมื่อสัมผัสแรกของเนื้อแนบเนื้อเสียดสีกัน จากนั้นเขาก็เริ่มขยับตัว ตามจังหวะความต้องการของตัว เอง

อ้นเริ่มคล่องขึ้น เขากระแทกจนดิฉันเสียววูบเข้าไปถึงท้องน้อย ก่อนที่จังหวะแห่งความต้องการของเราจะลงตัว ดิฉันเริ่มส่งเสียงครวญครางอย่างหนัก หลังจากที่เขาช่ วยทำให้ดิฉันเครื่องร้อน เพียงแค่อึดใจ อ้นก็ช่วยให้ดิฉันถึงแดนสุขาวดีในทันที

จากนั้นดิฉันจึงขยับร่าง เปลี่ยนท่าหันบั้นท้ายอันงามให้เขา เขาเริ่มใส่ด้วยความชำนาญขึ้น อ้นเริ่มโยกร่างของ ดิฉันให้เข้ากับจังหวะของเขาอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง ดิฉันสุดทน กับการกระทำครั้งนี้ของเขามาก จึงหวีดร้องตลอดเวลา เข้าถึงเส้นชัยติดๆ กันจนร่างอ่อนระทวยเกือบหมดแรง จนกระทั่งดิฉันเริ่มรู้ว่าอ้น ก็ตามเข้าเส้นชัยมาติดๆ เพราะ จับสัมผัสอาการสั่นกระตุกของอาวุธเขาได้

เรายืนกอดกัน ท่ามกลางน้ำฝักบัว ที่ช่วยรดเพลิงราคะให้ สงบลงชั่วขณะ ก่อนที่เราจะช่วยกันชำระล้างร่างกาย เหมือนคู่รักกัน คืนนั้นอ้นยังคึกที่จะสู้ต่อ เขายังทำได้หลายยก จนร่างกายดิฉันระบมไปหมด เขาจากดิฉันไปในตอนเช้าตรู่แล้ว นัดกันว่าช่วงบ่ายจะออกไปเที่ยวกัน ถึงตอนนี้ดิฉันยอมรับแล้วว่า การมีประสบการณ์รักกับคนที่อ่อนวัยกว่า มันเป็นเกมที่สนุกเต็มเปี่ยม ไม่มีอาการ ขาดๆ หายๆ เหมือนตอนที่คบกับแฟนเก่าและเสี่ยตั้งเลยสักนิด

เส้นทางความรักของดิฉัน เป็นเส้นทางที่ต้องต่อสู้กับสังคมชีวิต โดยเฉพาะการดิ้นรนหารายได้เลี้ยงชีพ ก่อนหน้าที่ดิฉันจะย้ายมาอยู่ลำพังคนเดียว ดิฉันเลิกกับพี่ชัย คนรักเก่า ที่สร้างความวุ่นวายให้กับครอบครัวด้วย การสร้างหนี้ไม่รู้จบ เขายังตามรังควานดิฉัน จนกระทั่งเราแยกขาดจากกัน เมื่อดิฉันแจ้งความดำเนินคดี เขาจึงยอมยุติเลิกรากันแบบ ชาตินี้ไม่ต้องมาเผาผีกันอีกต่อไป หลังจากเลิกกับพี่ชัย ดิฉันมาได้งานทำเป็นพนักงานขายเครื่องสำอาง ประจำห้าง ดิฉันพอใจงานนี้มาก เพราะ ส่วนตัวเป็นคนรักสวยงามรักงาม ยิ่งมาได้พี่อ้อที่เป็นเพื่อนใหม่นิสัยดี การทำงานจึงราบรื่นเป็นพิเศษ

ตามจริงแล้วพี่อ้อกับดิฉันก็รุ่นราวคราวเดียวกัน อยู่ในวัยใกล้ 30 แต่เพราะเธอทำงานมานานหลายปี ดิฉันจึงให้ เกียรตินับถือเป็นพี่ในแผนก สินค้าภายในช็อปของดิฉันเป็นสินค้าขายยาก เราต้องใช้ความสามารถพิเศษของพนักงาน รวมทั้งต้องคอยเอาใจ ลูกค้าประจำ ดิฉันทำงานได้ราวเดือนเศษ ก็รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายดำรงชีพไม่พอเลี้ยงตัว จ่ายค่าแฟลต ลำพังรายได้แต่ละเดือนและ ค่าคอมมิชชั่นก็ยังหมิ่นเหม่เต็มที

เมื่อเอาเรื่องไปคุยกับพี่อ้อ เธอก็แนะนำว่า ดิฉันต้องทำงานพิเศษเพิ่มเหมือนเธอ ดิฉันส่ายหัวบอกว่าทุกวันนี้ก็ แทบไม่ได้พักอยู่แล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปหางานอื่นเพิ่ม

วันหนึ่งหลังเลิกงาน ดิฉันรอรถกลับบ้านนานจนกลับบ้านช้ากว่าเวลาเดิม ระหว่างทางที่เดินเข้าแฟลตต้องผ่าน ตรอกเล็กๆ ที่ปราศจากผู้คน เมื่อเหลียวมองไปข้างหลังก็พบกับคนขี้ยาท่าทางไม่น่า ไว้ใจมองมา ดิฉันตกใจรีบเร่งฝีเท้าหนี โชคดีมีคนผ่านมาทางนั้นเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งบุคคลิกดี ดิฉันจึงรีบเข้าไปหาเขาทันที

ดิฉันบอกขอเดินไปด้วย พร้อมโบ้ยไปเขาหันไปดูคนขี้ยาข้างหลัง เขาอมยิ้มแล้วเชื้อเชิญให้ดิฉันเดินข้างหน้า เพื่อนำไป ส่วนเขาจะคอยระวังหลังให้

เมื่อเดินไปสักพักดิฉันค่อยใจชื้นขึ้น รู้สึกปลอดภัยจึงคุยกับเขาเบาๆ หนุ่มคนนั้นแนะนำตัวว่า เขาชื่ออ้น อยู่ใกล้ แฟลตที่ดิฉันอยู่ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้จบแล้ว

ดิฉันเลยให้เบอร์ติดต่อไป พร้อมกำชับว่าหากมีใครสนใจพวกเครื่องสำอางสตรีก็ให้โทร. หาดิฉันทันที อ้นก็ให้เบอร์ดิฉันเช่นกัน เขาบอกว่าหากดิฉันเดือดร้อนหรือมีเรื่องให้ช่วยเหลือ ก็สามารถโทร.หาเขาได้

หลังวันนั้นดิฉันก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท เพราะมัวแต่เร่งหารายได้เสริม จนกระทั่งพี่อ้อมาพูดเปิดอกกับดิฉันว่า อาชีพอย่างพวกเราดิ้นรนในชีวิตไม่ไหวหรอก หากอยากมีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือต้องเปลืองตัวบ้าง เพราะเรามีดีตรง ที่ร่างกายและหน้าตา จึงมาทำงานเป็นพนักงานเครื่องสำอางได้ ดิฉันยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเธอนัก เมื่อซักตรงๆ พี่อ้อก็บอกว่า เธอหาลำไพ่พิเศษแอบเป็นกิ๊กกับลูกค้าที่ดูดี มีฐานะ ยิ่งพี่อ้ออธิบายมากขึ้น ดิฉันเริ่มเข้าใจทันทีว่า พี่อ้อทำตัวเหมือนสาวขายบริการพิเศษ ดิฉันพยายามเลี่ยงไม่พูด เรื่องนี้อีกจนกระทั่งปลายเดือน เธอมาแจ้งข่าวร้ายว่า เงินเดือนงวดสิ้นเดือน ทางบริษัทประสบปัญหาขาดทุน อาจชะลอการจ่ายเงินไปหลายวัน

ข่าวนี้ทำให้ดิฉันหน้าเสียทันที เพราะดิฉันกำลังจะนำเงินไปชำระค่าเช่าแฟลตที่อยู่ แถมยังต้องเจอภาระค่าใช้จ่าย จนแทบไม่มีเงินพอมาทำงานเลยทีเดียว เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้มันเหมือนเข้าทางพี่อ้อ เธอพยายามโน้มน้าวให้ดิฉันไปเป็นกิ๊กกับเสี่ยใหญ่ที่ ขายอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ เธอย้ำว่าเสี่ยตั้งนิสัยดี สุภาพแถมให้หนัก ถ้าเขาถูกใจจริง คนที่จะใกล้ชิดเขาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เลือกที่จะให้ และไม่เอาเปรียบคนที่เขาพอใจ

พี่อ้อสนับสนุนให้ดิฉันโอเคกับเสี่ยตั้ง เธอเชื่อว่ามันเป็นวิธีเดียว ที่จะแก้ปัญหาเงินฝืดได้ เลยทีเดียว ดิฉันพยายามซักเธอต่างๆ นานา สรุปว่าหากเราไม่พอใจเขาจริงๆ ก็สามารถตีจากด้วยความพอใจทั้งสองฝ่าย ไม่ มีภาระผูกพันกัน ดิฉันจึงต้องจำใจยอม โดยขอโอกาสให้เจอหน้าและพูดคุยกับเสี่ยตั้งก่อน เสี่ยตั้งมาหาเราที่ช็อปในห้าง เขาทำตัวเหมือนคนมาเลือกซื้อน้ำหอมทั่วไป

แรกเจอและได้พูดคุยกับเสี่ยตั้งแล้ว ดิฉันยอมรับว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ดูดีมีเสน่ห์ ไม่เหมือนอย่างที่คิด เขาสุภาพกับดิฉันมาก ระหว่างที่ทานอาหารด้วยกันสองต่อสอง เขายังเอาใจ ตักอาหารและให้เกียรติดิฉันตลอด เวลา

วันรุ่งขึ้นเสี่ยตั้งมารับดิฉันหลังเลิกงาน หลังทานอาหารเสร็จ ได้เวลาห้างปิดพอดี เขาอาสาจะพาดิฉันไปส่งที่ แฟลต ระหว่างเดินไปที่ลานจอดรถด้านหลังห้าง ซึ่งเงียบสนิท เขาก็ชวนดิฉันไปนั่งหลังรถโฟร์วีลไดรฟ์ของเขา บอกอยากคุยเรื่องสำคัญกับดิฉัน เมื่อเข้าไปในรถ เสี่ยตั้งก็ดึงดิฉันเข้ามาจูบอย่างหนักหน่วง ดิฉันไม่ทันตั้งตัวจึงตกตะลึงกับการกระทำของเขา ทันที เขาจูบดิฉันจนอ่อนระทวย แถมมือเขายังซุกซน สอดเข้าในกระโปรงดิฉันต้องหลับตาพริ้มด้วยความเปี่ยมสุข

เขาพยายามจะควานหาขอบบิกินี ดิฉันจึงแกะมือเขาออก ก่อนรูดชั้นในตัวจิ๋วออกจากปลายขาด้วยตัวเอง เสี่ยตั้งมองหน้าดิฉันด้วยความหื่นกระหาย เมื่อเขาเอามือพยายามสัมผัสเนื้อใน ดิฉันก็ปล่อยตัวให้ชื่นชมอย่างเต็มที่ เขาสัมผัสถูกผืนหญ้ากํามะหยี่สีดำ ที่เป็นของรักของหวงของดิฉัน จนความรู้สึกของดิฉันเริ่มแตกกระเจิง ต้องเอื้อมมือไปรูดซิปของเสี่ยตั้งคืนบ้าง

เขารีบช่วยตัวเอง ด้วยการถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนดึงร่างดิฉันมานั่งบนตัก แล้วจับอาวุธที่พร้อมรบของเขา ใส่ไปในร่างกายดิฉันทันที ความเร่าร้อนของเราสร้างความหฤหรรษ์ในเกมรักครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ภายในรถจะคับแคบแต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรค ดิฉันโยกกายอยู่ไม่นาน เสี่ยตังค์ก็เสียท่าปล่อยของเสีย เข้าสู่ในร่างของดิฉันทันที ดิฉันรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าได้ประสบการณ์รักใหม่ ที่เกิดมาเพิ่งเคยทำแบบนี้ในรถเป็นครั้งแรก

หลังวันนั้นดิฉันก็กลายเป็นกิ๊กของเสี่ยตั้ง เขาช่วยเหลือดิฉันจนมีเงินมีทองใช้อย่างไม่ขาดมือ แต่ก็ยังคงทำงาน ประจำเพราะเชื่อว่าอนาคตของคนเรา ไม่แน่นอนเสมอไป การมีงานทำย่อมมีความมั่นคงกว่าอยู่เฉยๆ

วันหนึ่ง อ้นมาหาดิฉันที่ห้าง เขาบอกจุดประสงค์ว่า อยากจะซื้อน้ำหอมให้แฟน เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ อยากให้ดิฉันช่วยเลือกให้หน่อย ดิฉันเลือกให้ในราคาที่เหมาะสมเขาบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะเอาเงินมาให้ ขอฝากไว้ก่อน ดิฉันจึงเก็บของไว้ให้เขา แต่พอถึงวันนัด เขาก็ไม่มาแล้วหายหน้าไปหลายวัน เมื่อดิฉันโทร.ไปถาม อ้นขอโทษ ที่ผิดนัด บอกว่าจะไปรับของช่วงเย็นวันนี้

ดิฉันมาเจอเขาช่วงหัวค่ำ เห็นสีหน้าของเขาดูเศร้าๆ พิกล เมื่อซักความจริงเขาก็ยอมบอกว่า เขาเพิ่งเลิกกับแฟน เพราะเธอมีคนใหม่ น้ำหอมที่ซื้อไปก็ไม่รู้จะให้ใคร ดิฉันรีบบอกว่า ไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่อ้นยังยินดีซื้อมันเก็บไว้ เขาย้ำว่าไม่อยากเสียคำพูด ที่รับปากดิฉันว่าจะซื้อแล้ว ก็ต้องซื้อ ดิฉันเห็นว่าเขาเป็นคนมีสัจจะดี ก็ยอมขายให้เพื่อไม่ให้เสียศรัทธาของเขา

อ้นยังชวนดิฉันไปนั่งดื่มกาแฟ เพื่อชวนคุยเรื่องราวต่างๆ ดิฉันเห็นว่าเป็นการฆ่าเวลารอเสี่ยตั้ง จึงยอมไปนั่งคุย ด้วย แต่แล้วระหว่างที่เรานั่งคุยกัน เสี่ยตั้งมาตอนไหนดิฉันไม่อาจทราบได้ เขาตรงเข้ามาโวยวายใส่ดิฉันจนคนหันมา มองเต็มไปหมด

ดิฉันเห็นท่าไม่ดีจึงไล่ให้อ้นกลับไปก่อน แล้วรีบจูงมือเสี่ยตั้งพ้นร้านกาแฟทันที

เขายังโวยวายไม่พอใจ หาว่าดิฉันแอบคบเด็กหนุ่ม ดิฉันพยายามอธิบายให้เขาสงบ เมื่อเข้าไปที่รถเขายังแสดงอาการฟึดฟัดฉุนเฉียวอยู่ ดิฉันจึงตัดสินใจ ที่จะทำให้เขาสงบโดยเร็ว ด้วยการล้วงเข้าไปในเป้ากางเกง นำอาวุธลับของเขา ออกมาสู่ภายนอก ก่อนส่งมันเข้าปากทันที เสี่ยตั้งไม่ทันระวังตัว ถูกดิฉันเร่งการทำมืออย่างรวดเร็ว แค่นาทีเดียวเขาก็ทนไม่ไหว ปล่อยพิษงูออกมาเต็มคอ ของดิฉันเลยทีเดียว หลังเสร็จภาระกิจ ดูเหมือนเสี่ยตั้งจะอารมณ์เย็นลง เขาเริ่มคุยกับดิฉันเหมือนเดิม เมื่อเขาฟังดิฉันอธิบายว่า อ้น เป็นเพียงคนหนึ่ง ที่เคยปกป้องดิฉันจากพวกขี้ยาแล้วรู้จักกัน เขาก็ไม่ติดใจอะไร

แต่แล้ววันรุ่งขึ้น ดิฉันเกิดความยุ่งยากในชีวิต เมื่อเสี่ยตั้งก่อปัญหามาให้ ระหว่างที่เขามาหาดิฉันที่ช็อปในห้าง มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาแสดงตัว จนเสี่ยตั้งต้องวิ่งหนี ผู้หญิงคนนั้นแท้ที่จริง ก็เป็นเมียของเสี่ยตั้ง เธอหันมามองหน้า ดิฉันแวบเดียวก็สะบัดหน้าเดินหน้าตามเสี่ยตั้งไป เรื่องของเสี่ยตั้งครั้งนี้ ทำให้ดิฉันถึงกับต้องลาออกจากงานเลยทีเดียว เพราะไม่กล้าสู้หน้าพนักงานในห้าง

ดิฉันลางานไปหลายวัน หมกตัวอยู่ในห้องที่แฟลต ด้วยความอับอายและความเศร้า เมื่อออกไปหาซื้ออาหารเย็น รับประทานก็บังเอิญไปเจออ้น กำลังทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่งกลางถนน มีคนมุงดูกันแน่น จากนั้นผู้หญิงคนนั้น ก็ขึ้นรถเก๋งที่มีผู้ชายมาขับออกไป โดยที่อ้นพยายามรั้งไว้ไม่ทัน เขานั่งทรุดลงกับพื้น ไม่พูดไม่จากับใคร มีคนพยายามจะเข้าไปดูเขา แต่เขาก็โบกมือทำนองว่า ไม่เป็นไร

เมื่อปลอดคนดิฉันจึงเดินเข้าไปสะกิดเขาเบาๆ เขาเงยหน้ามองเมื่อเห็นเป็นดิฉันเขาจึงน้ำตารินออกมา ดิฉันเดินจูงมือเขาไประยะหนึ่ง พร้อมเอ่ยปากชวนเขาไปทานอาหารที่ห้อง ตอนแรกเขาพยายามจะปฏิเสธแต่ เมื่อถูกดิฉันแกล้งถลึงตาใส่ เขาจึงยอมไปแต่โดยดี อ้นยังมีอาการเศร้าอยู่ไม่น้อย ดิฉันจึงบอกให้เขาระบายความในใจออกมาให้หมด

เขาเล่าว่า แฟนเขามาบอกเลิกแบบเด็ดขาด เพราะเห็นเขาพยายามตามง้อ ให้คืนดีอยู่หลายวัน แต่เธอไม่ยอมใจอ่อน เธออยากมีแฟนใหม่ที่มีฐานะกว่า อ้นบอกว่า เขาไม่เคยมีใคร ผู้หญิงคนนี้เป็นรักแรกของเขา ที่เขาพยายามทะนุถนอมอย่างดี เมื่อเขาเล่าจบดิฉันก็เอ่ยเรื่องเสี่ยตั้งให้เขาฟังบ้าง แต่ก็ปิดเขาในบางเรื่อง ดิฉันบอกเขาไปว่าดิฉันก็เพิ่งเศร้าเรื่อง ความรักและลางานมาอยู่บ้านหลายวันแล้ว เขามองหน้าอย่างไม่เชื่อ ดิฉันจึงย้ำให้เขาเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เราท้อแท้กับชีวิต แต่มันต้องผ่านไปให้ได้

หลังจากเราเปิดใจคุยกันในหลายๆ เรื่อง ดิฉันเลยถามชีวิตส่วนตัวเขาบ้าง เขาบอกว่าเขาเพิ่งอายุ 23 ปีเท่านั้น ซึ่งอ่อนวัยกว่าดิฉันถึง 5 ปี เขาจึงเรียกดิฉันว่าพี่ ดิฉันก็ไม่ขัดเพราะเห็นเป็นเด็กกว่าจริงๆ เมื่อเขาถามดิฉันบ้าง ดิฉันก็เปิดเผยให้ฟังว่า ดิฉันเคยมีแฟนแล้วเลิกกัน ก่อนที่มาคบกับเสี่ยตั้ง ถึงตอนนี้คงยังไม่ คิดคบใครเพราะยังเบื่อๆ และเข็ดอยู่ เขาบอกดิฉันว่า ถ้าไม่มีใครคบก็คบกับเขาแล้วกัน

ดิฉันตะลึงที่เขาพูดเช่นนี้ แต่เขาทำหน้าตาขึงขังจริงจัง ดิฉันจึงแหย่ไปว่า ไม่เอาหรอก เด็กกว่าหลายปี แถมท่า ทางเซ็กซ์คงไม่เอาไหนแน่ เมื่อดิฉันพูดจบก็เห็นเขาหน้าเสีย และนิ่งเงียบ จึงตกใจรู้ว่าพลั้งปากพูดอะไรผิดไปแน่ อ้นขอตัวจะกลับบ้าน ดิฉันจึงรั้งเขาไว้พร้อมขอโทษเขา ก่อนจี้ถามเขาว่า โกรธดิฉันเรื่องอะไร เขาสารภาพว่า เขายังไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อน คำพูดของดิฉันเหมือนจี้ใจดำเขา

ดิฉันแอบยิ้มในใจ อ้นดูเป็นเด็กจริงๆ เขาท่าทางดูดีหลายอย่าง คิดได้ดังนั้นดิฉันจึงเอ่ยปากชวนเขานอนค้างที่ห้องของดิฉัน โดยอ้างว่ามันดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมันอันตราย

เขามองหน้าเหมือนไม่แน่ใจ แต่เมื่อดิฉันรั้งมือเขาแล้วชวนมานั่ง เขาจึงเดินตามอย่างว่าง่าย ก่อนเข้าห้องน้ำดิฉันแหย่แบบทีเล่นทีจริงว่า ''อยากคบกันไม่ใช่หรือ งั้นลองมาอาบน้ำด้วยกันก่อน'' พูดจบดิฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ได้ล็อกห้อง สักพักดิฉันได้ยินเสียงเขาเคาะประตูห้องน้ำแล้วตะโกน ถามเหมือนไม่แน่ใจ ดิฉันจึงให้เขาผลักประตูเข้ามาเลย

อ้นเข้ามาในห้องน้ำ แล้วเขาตกตะลึง ที่เห็นร่างกายดิฉันหมดจด โดยปราศจากอาภรณ์ใดๆ เขาถึงกับตบะแตกรีบ ถอดเสื้อผ้าตัวเองจนหมดเช่นกัน

ดิฉันจับมือเขา มาลูบไล้ร่างกายจนเขาหน้าแดงกล่ำ ก่อนโน้มคอเขามาจุมพิตอย่างดื่มด่ำ อ้นร่างกายสั่นระริกเหมือนคนไม่มีประสบการณ์จริงๆ เมื่อดิฉันไปจับถูกอาวุธของเขา อ้นถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ดิฉันแทบไม่ต้องปลุกเร้ามันก็พร้อมรบ อ้นถูกดิฉันกุมความเป็นชาย จนยืนแทบไม่ติดพื้น แต่แล้วเขาก็ทนไม่ ไหวปล่อยสิ่งที่มันคั่งค้างในกายออกมาจนเปรอะพื้นหมด ดิฉันตกใจที่เขาอ่อนหัดขนาดนี้ แต่อ้นกลับไม่สนใจหรืออ่อนแรง เขากอดและระดมจูบสูดดมดิฉันอย่างแรง ดิฉันต้องห้ามและแนะนำให้เขาอ่อนหวานกับผู้หญิงให้มากที่สุด

เขาจึงค่อยๆ กระทำตามคะแนะนำของดิฉัน ด้วยการใช้ปากสัมผัสเบาๆ จนทั่วเรือนร่างก่อนไล่ต่ำลงมาถึงท้องน้อย เขาหยุดจ้องมองจุดซ่อนเร้น ของดิฉันอย่างกระหาย ก่อนที่จะยอมสิโรราบ อยู่ใต้หว่างขาของดิฉัน เนินสาหร่ายที่ปกคุมอยู่หนาแน่น มันทำให้อ้นชื่นชมไม่รู้เบื่อ เขาทำอยู่นานจนดิฉันอารมณ์แตกซ่าน ต้องดึงเขาขึ้นยืนและเตรียมพร้อมมอบกายให้เขาเต็มที่

ดิฉันยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดชักโครก ปล่อยให้เขาขยับร่างเข้าใกล้ เขาเล็งอยู่นานก็ยังไม่ถนัด ดิฉันจึงจับมันดันเข้าไปเอง ดิฉันแทบไม่เชื่อว่า เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามันเพิ่งคลายพิษออกไป แต่มันก็ยังสู้ไม่อ่อนกำลังสักนิด เขาหลับตาปี๋ เมื่อสัมผัสแรกของเนื้อแนบเนื้อเสียดสีกัน จากนั้นเขาก็เริ่มขยับตัว ตามจังหวะความต้องการของตัว เอง

อ้นเริ่มคล่องขึ้น เขากระแทกจนดิฉันเสียววูบเข้าไปถึงท้องน้อย ก่อนที่จังหวะแห่งความต้องการของเราจะลงตัว ดิฉันเริ่มส่งเสียงครวญครางอย่างหนัก หลังจากที่เขาช่ วยทำให้ดิฉันเครื่องร้อน เพียงแค่อึดใจ อ้นก็ช่วยให้ดิฉันถึงแดนสุขาวดีในทันที

จากนั้นดิฉันจึงขยับร่าง เปลี่ยนท่าหันบั้นท้ายอันงามให้เขา เขาเริ่มใส่ด้วยความชำนาญขึ้น อ้นเริ่มโยกร่างของ ดิฉันให้เข้ากับจังหวะของเขาอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง ดิฉันสุดทน กับการกระทำครั้งนี้ของเขามาก จึงหวีดร้องตลอดเวลา เข้าถึงเส้นชัยติดๆ กันจนร่างอ่อนระทวยเกือบหมดแรง จนกระทั่งดิฉันเริ่มรู้ว่าอ้น ก็ตามเข้าเส้นชัยมาติดๆ เพราะ จับสัมผัสอาการสั่นกระตุกของอาวุธเขาได้

เรายืนกอดกัน ท่ามกลางน้ำฝักบัว ที่ช่วยรดเพลิงราคะให้ สงบลงชั่วขณะ ก่อนที่เราจะช่วยกันชำระล้างร่างกาย เหมือนคู่รักกัน คืนนั้นอ้นยังคึกที่จะสู้ต่อ เขายังทำได้หลายยก จนร่างกายดิฉันระบมไปหมด เขาจากดิฉันไปในตอนเช้าตรู่แล้ว นัดกันว่าช่วงบ่ายจะออกไปเที่ยวกัน ถึงตอนนี้ดิฉันยอมรับแล้วว่า การมีประสบการณ์รักกับคนที่อ่อนวัยกว่า มันเป็นเกมที่สนุกเต็มเปี่ยม ไม่มีอาการ ขาดๆ หายๆ เหมือนตอนที่คบกับแฟนเก่าและเสี่ยตั้งเลยสักนิด