ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_lustlow

โรงพยาบาลร้อนซ่อนรัก(บทของ ป้อง) - Lustlow R Zuse

เริ่มโดย lustlow, พฤศจิกายน 25, 2024, 09:44:51 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

lustlow

สวัสดีครับ ผมป้อง ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ในโรงพยาบาลรัฐ ที่นี่ชีวิตของผมเต็มไปด้วยการทำงานและความพยายามในการหาความมั่นคง แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของผมซับซ้อนกว่าที่คิดก็คือความสัมพันธ์ที่ผมมีอยู่

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรู้สึกเหมือนโดนคำสาปให้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่มีแฟนหรือสามีแล้วเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแฟนของเพื่อนร่วมงาน แฟนรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง ทุกครั้งที่ผมเริ่มมีความรู้สึกพิเศษกับใครสักคน มักจะพบว่าผู้หญิงคนนั้นมีคนรักอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดแต่ในใจลึก ๆ ผมกลับชอบมัน

แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เคยเจอรักแท้ และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกแยกและสับสนในชีวิตส่วนตัวของผมเอง

ในตอนนี้ ผมตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวของผู้หญิงเหล่านั้นให้คุณได้ฟัง เพื่อที่คุณจะได้เห็นว่าชีวิตของพวกเธอและผมมีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยความท้าทายยังไง  ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ของผมถึงมักจะเป็นแบบนี้ และมันส่งผลต่อชีวิตของผมอย่างไร

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

เรื่องของ กุ๊ก

วันนั้นเป็นงานเกษียณของคนเก่าคนแก่ที่เราทำงานร่วมกันมาหลายปี งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเกษียณอายุของบุคลากรที่มีความสำคัญต่อโรงพยาบาลมากมาย ตั้งแต่เริ่มงานจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความสุข
การตกแต่งในงานเรียบง่ายแต่ดูมีสไตล์ พื้นที่จัดงานเต็มไปด้วยการตกแต่งดอกไม้สดและป้ายแสดงความขอบคุณสำหรับการทำงานที่ยาวนานของพี่ที่เกษียณ อาหารและเครื่องดื่มถูกจัดเตรียมอย่างดี มีทั้งอาหารคาวหวานหลากหลายชนิดและเครื่องดื่ม
เสียงหัวเราะและการสนทนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานได้เต็มที่ทั่วทั้งห้อง ผู้ร่วมงานต่างยิ้มแย้ม แลกเปลี่ยนเรื่องราวจากอดีตและเหตุการณ์ที่น่าจดจำได้ถูกนำมาพูดถึงอย่างสนุกสนาน บรรยากาศนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงความผูกพันและความรักที่มีต่อกัน
ผมมาที่งานเพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณพี่ที่เกษียณ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับพี่กฤษณ์ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานร่วมกันมานาน เราอยู่กลุ่มภารกิจเดียวกันแม้ว่าจะไม่ได้อยู่แผนกเดียวกันโดยตรง แต่ก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคย
พี่กฤษณ์มีแฟนอยู่คนนึง เธอชื่อ กุ๊ก
กุ๊กเป็นคนสวยที่มีความน่าหลงใหลและเต็มไปด้วยพลัง มีความมั่นใจในตัวเองและมีบุคลิกที่โดดเด่น พูดได้เลยว่าเธอเป็นคนที่มีเสน่ห์และมักดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง
สำหรับผม กุ๊กเป็นคนที่ค่อนข้างสนิทสนมกับผม เราเรียนมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกัน เธอเป็นเพื่อนของเพื่อนร่วมห้องของผม ทำให้เราคุ้นหน้ากันพอสมควร เธอทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกับที่ผมทำงาน เมื่อเรามาทำงานที่นี่ก็ถือว่าคุ้นเคยกันมากกว่าปกติ อาจเพราะรู้สึกผูกพันธ์จากการเป็นคนรู้จักกันมาก่อน
มันดีกว่าเมื่อเราเข้ามาในที่ทำงานใหม่แล้วมีคนรู้จัก มันช่วยลดความประหม่าให้เรา นั่นคือความรู้สึกของผมที่มีต่อกุ๊ก

ในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน กุ๊กเดินมาหากฤษณ์ที่โต๊ะ เธอทักทายพี่เขาก่อนจะหันมามองผมพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น

"อ้าว ป้อง ไม่เห็นหน้าเลย นึกว่าลาออกไปแล้วนะเนี่ย?" เธอทักทายด้วยการแหย่เช่นเดียวกับที่เคยเป็นมา
"อ้าว ไล่ออกกันซะงั้น มันยุ่งเรื่องงานนั่นแหละ วุ่น ๆ น่ะ ไม่ได้เจอกันเลย แกเองก็ยุ่งใช่ป่ะ?" ผมหัวเราะให้กับอารมณ์ชวนหัวของพยาบาลสาว พลางทักตอบไป
"เออสิ ช่วงนี้ที่วอร์ดคนไข้แน่นมากจนแทบไม่ได้หายใจเลย ต้องรีบเคลียร์งานแล้วแวะมานี่แหละ ไม่งั้นคงไม่ได้มา" เธอหัวเราะเล็ก ๆ ก่อนจะหันไปมองพี่กฤษณ์ที่กำลังคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นอยู่ เธอหันกลับมาหาผมพร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นกันเอง
"แกนี่งานยุ่งตลอดเลยนะ มีอะไรให้ช่วยบ้างไหมเนี่ย?" เธอเริ่มบทสนทนาต่อ
"ไม่หรอก แค่ได้เจอแกนี่ก็โอเคแล้วนะ อย่างน้อยก็ทำให้ไม่เบื่อหน่ายกับงานมาก" ผมแอบหยอดเหมือนอย่างที่เคยทำ
"จริงเหรอ? แอบดีใจนะเนี่ย...คิดถึงสมัยเรียนเนอะ แกเคยแอบไปก๊งเหล้ากับเพื่อนหลังเลิกเรียนนี่" กุ๊กรำลึกถึงวันเก่า ๆ

 "เฮ้ย นั่นเรื่องเก่าแล้ว จะไปรื้อทำไม" ผมหัวเราะ "แต่ก็คิดถึงแหละ ยิ่งมาเจอกันที่นี่มันก็แบบ...ดีนะที่เรามีใครสักคนที่คุยกันได้แบบนี้"
 
กุ๊กยิ้มเบา ๆ หันไปมองพี่กฤษณ์แป๊บหนึ่งก่อนจะหันกลับมาคุยกับผมต่อ ความเป็นกันเองของกุ๊กทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ มันเหมือนกับว่าเราได้กลับไปเป็นเด็กมัธยมอีกครั้งในบรรยากาศที่คุ้นเคย

"เออนี่ แก...เวลาได้คุยเรื่องเก่า ๆ นี่ก็รู้สึกเหมือนกันนะ แกก็เป็นแบบนั้นใช่ป่ะ?" เธอเอ่ยพลางส่งของเหลวสีเหลืองในแก้วเข้าปาก
"ใช่เลย บางทีได้เจอแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ" ผมก็กระดำตามเธอไปด้วยเช่นกัน

กุ๊กส่งสายตายิ้ม ๆ ให้ก่อนจะหันไปคุยกับคนอื่น ๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความผ่อนคลาย

ไม่นานนัก ผมสังเกตเห็นว่ากุ๊กเริ่มมีท่าทีไม่ค่อยสบายใจนัก เธอเดินไปมาระหว่างโต๊ะของพี่กฤษณ์และกลุ่มคนอื่น ๆ อย่างไม่มีสมาธิ ช่วงเวลาที่เหลือบตาไปทางเธอ ผมเห็นว่าเธอมักจะมองไปรอบ ๆ ห้องเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ บางครั้งก็ถอนหายใจเบา ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ผมรู้จักกุ๊กดีพอที่จะเข้าใจว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ผมเดินเข้าไปหากุ๊กที่นั่งอยู่คนเดียวที่มุมหนึ่งของห้อง ห่างไกลจากเสียงหัวเราะและบรรยากาศรื่นเริงที่กำลังเกิดขึ้น

"เป็นอะไรวะ? ดูเหมือนว่าแกมีเรื่องคิดมาก" ผมเอ่ยถามเสียงเบา พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เธอในท่าทางที่แสดงความเป็นห่วง
พยาบาลสาวเงยหน้ามามองผมด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความเครียด เธอพยายามจะยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ดูไม่เต็มใจนัก "อืม...ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองลืมบางอย่างไว้ที่โต๊ะพี่กฤษณ์ แต่เห็นพี่กฤษณ์กำลังสนุกอยู่กับเพื่อน ๆ เลยไม่อยากกวน"

เธอถอนหายใจอย่างหนัก น้ำเสียงที่ใช้พูดเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นมากกว่าการลืมของธรรมดา กุ๊กดูเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ในใจ บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกที่เธอไม่กล้าแสดงออกในที่สาธารณะ

"อืมก็นะ กำลังกรึ่มได้ที่เลยนี่ แกลืมอะไรไว้ที่โต๊ะล่ะ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้กำลังใจพลางมองไปที่พี่กฤษณ์

กุ๊กยิ้มบาง ๆ อย่างขอบคุณ แต่นัยน์ตายังคงสะท้อนความรู้สึกหนักใจอยู่ "กุญแจล็อคเกอร์ที่วอร์ดน่ะ...แล้วก็...ถ้าไม่รบกวนแกมากไป แกช่วยเป็นเพื่อนขึ้นไปที่โต๊ะของพี่กฤษณ์ด้วยกันได้รึเปล่า?"

คำขอของเธอฟังดูง่าย แต่มีอะไรบางอย่างในน้ำเสียงที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของการลืมของ ความลังเลและความไม่มั่นใจในท่าทางของกุ๊กทำให้ผมตัดสินใจได้ทันที ผมพยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิดนาน

"ได้สิ ไม่มีปัญหา" ผมยักไหล่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ "ไปกันเถอะ"

กุ๊กยิ้มให้ผมอีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นรอยยิ้มที่ยังไม่เต็มที่นัก แต่ผมก็รู้สึกว่ามันดีกว่าเดิม และเราทั้งคู่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงและตรงไปยังโต๊ะทำงานที่อยู่ชั้นสามของอีกตึกหนึ่ง

กุ๊กและผมเดินขึ้นไปยังโต๊ะทำงานของพี่กฤษณ์ ซึ่งตั้งอยู่ในมุมเงียบสงบของโรงพยาบาล บริเวณนี้เป็นส่วนของสำนักงานที่มักจะคึกคักในเวลาทำงาน แต่พอเลิกงานทุกอย่างก็เงียบสงบลงทันที แผนกต่าง ๆ ปิดหมดแล้ว เหลือเพียงแสงไฟที่ริบหรี่จากหลอดไฟนีออนบางดวงที่ยังคงเปิดทิ้งไว้เพื่อความปลอดภัย บรรยากาศนี้ทำให้รู้สึกอึมครึมและชวนให้รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนความเงียบที่เข้ามาแทนที่เสียงคุยและความเคลื่อนไหวที่เคยคุ้นเคย

ผมเดินตามกุ๊กมาติด ๆ พร้อมกับเหลือบตามองรอบ ๆ ห้องที่เงียบสงบนี้ พื้นที่ที่ผมเคยทำงานเป็นประจำกลับดูแปลกตาไปอย่างไม่น่าเชื่อในตอนกลางคืน ความรู้สึกมันต่างจากตอนกลางวัน ราวกับว่าแม้แต่กำแพงก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำและเรื่องราวที่ไม่มีใครรู้

เมื่อถึงโต๊ะทำงานของพี่กฤษณ์ กุ๊กเริ่มค้นหาของที่ลืมไว้ เธอเปิดลิ้นชักแล้วค้นหาทุกซอกทุกมุมอย่างขะมักเขม้น "นึกว่าจะอยู่ที่นี่ แต่ไม่เห็นมันเลย" เธอบ่นออกมา น้ำเสียงเจือความกังวลเล็กน้อย ผมมองเธอที่กำลังพลิกแฟ้มและเอกสารบนโต๊ะอย่างกระวนกระวาย

ผมพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงด้วยการพูดแซวเล็กน้อย "เอาน่าครับ ไม่เป็นไร พี่กฤษณ์อาจจะเอาไปแล้วก็ได้"
กุ๊กหันมายิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนล้า "อืม...ก็เป็นไปได้ ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่านั้นเอง" เธอพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือที่กำลังค้นหาของอยู่ชะงักลงเหมือนเริ่มจะยอมแพ้กับการหา

ผมสังเกตเห็นท่าทางที่กระวนกระวายของเธอและก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่ลึก ๆ "มีอะไรเหรอ? อย่างกับกลัวอะไร?" ผมถามด้วยความสงสัยและเอื้อมมือไปแตะไหล่เธอเบา ๆ เธอสะดุ้งตัวเล็กน้อย

กุ๊กเงยหน้ามองผม แววตาเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ไม่สามารถบรรยายได้ในคำพูด "อืม...ก็แค่นิดหน่อยค่ะ" เธอพูดเบา ๆ "ฉันไม่อยากมาคนเดียว กลัวผีอ่ะ บรรยากาศที่นี่ตอนกลางคืนมันน่าขนลุก ฉันไม่เคยมาคนเดียวเลย เลยอยากให้แกมาด้วยไง"

คำพูดของกุ๊กทำให้ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย "เข้าใจเลยครับ บรรยากาศมันดูเงียบเกินไปจนรู้สึกแปลก ๆ ฉันก็เคยรู้สึกเหมือนกัน"

กุ๊กหัวเราะเบา ๆ แม้ว่าจะยังมีแววตากังวลอยู่บ้าง "ขอบใจนะที่มาด้วย ไม่งั้นฉันคงไม่กล้าขึ้นมาหาอะไรตรงนี้คนเดียวแน่ ๆ"

เราทั้งสองคนยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานของกฤษณ์ในความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งความหวาดกลัว ความคุ้นเคย และความสบายใจที่ได้รับจากการมีเพื่อนอยู่เคียงข้าง

หลังจากที่เราหาของที่กุ๊กลืมไว้ที่โต๊ะของพี่กฤษณ์ไม่พบ ความเงียบสงบและบรรยากาศที่วังเวงของห้องทำงานที่มืดสลัวทำให้ความรู้สึกต่าง ๆ ในใจของผมทวีความเข้มข้นขึ้น ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เราดื่มกันก่อนหน้านี้ทำให้ความคิดยับยั้งชั่งใจของผมเริ่มเลือนลาง ความปรารถนาที่ถูกกดทับไว้กลับรุนแรงขึ้นทุกวินาทีที่เราอยู่ใกล้กัน
กุ๊กยืนอยู่ที่โต๊ะของพี่กฤษณ์ มองไปรอบ ๆ เหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกขัดแย้งในใจมากกว่า ผมเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังลังเล และพยายามคุมความคิดของตัวเอง
"กุ๊ก" ผมเรียกเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะที่ผมขยับเข้าไปใกล้เธอ ความปรารถนาที่คุกกรุ่นอยู่ในตัวผมกำลังผลักดันให้เข้าใกล้มากขึ้น "ฉันว่า..."
"อะไรนะ?" กุ๊กหันมามองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและลังเล เธอถามด้วยเสียงเบา แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความไม่แน่ใจที่เธอไม่สามารถปกปิดได้
ความรู้สึกของผมที่เก็บกดไว้พร้อมกับแอลกอฮอล์ที่ทำให้การควบคุมตัวเองอ่อนลง ผมค่อย ๆ ยื่นมือไปจับมือของเธอเบา ๆ สัมผัสนั้นเหมือนเป็นแรงดึงดูดที่เพิ่มขึ้นในทันที ผมเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น จนระยะห่างระหว่างเราหายไป
เมื่อผมโน้มตัวเข้าหาและประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ กุ๊กสะดุ้งและพยายามดันผมออก "ป้อง...อย่า" เธอพยายามขัดขืนเล็กน้อย ท่าทีของเธอสับสนราวกับกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ เธอขยับตัวถอยหลังเล็กน้อย พยายามรักษาระยะห่าง
"กุ๊ก ฉันขอโทษ... แต่ฉันหยุดไม่ได้" ผมกระซิบบอก ขณะที่มือยังจับมือเธอไว้แน่น ความร้อนแรงและความปรารถนาในตัวผมมันทำให้ผมไม่อยากถอยห่าง ความรู้สึกที่อัดแน่นมานานนั้นทำให้ผมค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้เธออีกครั้ง

กุ๊กหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เธอเหมือนกำลังสับสนและคิดหนัก แต่เมื่อริมฝีปากของผมสัมผัสกับเธออีกครั้ง แรงต้านทานของเธอเริ่มอ่อนลง จูบที่เริ่มจากความลังเลกลายเป็นจูบที่ตอบรับอย่างช้า ๆ ราวกับว่าทั้งสองฝ่ายต่างกำลังปลดปล่อยความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึกในใจ ความร้อนแรงของการจูบครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างรอบตัวดูจางหายไป เหลือเพียงแค่เราสองคนที่กำลังเชื่อมโยงกันในค่ำคืนที่ไม่อาจลืมลงได้
กุ๊กเริ่มผ่อนคลายและจูบตอบอย่างหลงใหล ท่าทีขัดขืนค่อย ๆ จางหายไปเมื่อเราทั้งคู่ปล่อยใจไปกับความรู้สึกที่เกินจะต้านทานได้ ความลังเลที่เคยมีกลายเป็นความลึกซึ้งที่เชื่อมเราเข้าด้วยกันในจังหวะที่ห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
เหมือนกับว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในตัวของกุ๊กจะผุดขึ้นมาอีกครั้ง ความขัดแย้งในใจของเธอชัดเจนในสายตาและท่าที การขัดขืนของเธอทำให้ความรู้สึกของผมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ภายในและความใกล้ชิดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ทำให้ผมไม่สามารถหยุดตัวเองได้
"ไม่ควรทำแบบนี้" กุ๊กพูดเสียงต่ำพร้อมกับพยายามดันผมออก ท่าทางของเธอแสดงออกถึงความรู้สึกสับสนและขัดแย้งภายใน เธอหายใจหนักและพยายามรวบรวมสติ แต่ความอ่อนแอที่แฝงอยู่ทำให้การขัดขืนของเธอดูอ่อนลง
ผมรู้สึกถึงความตึงเครียดและการขัดขืนที่เกิดขึ้น แต่ความรู้สึกที่ผมมีมันรุนแรงจนไม่สามารถหยุดได้ ผมมองเข้าไปในตาของเธอที่เต็มไปด้วยความลังเลและสับสน "ขอเถอะนะ" ผมพูดอย่างจริงจัง น้ำเสียงของผมมีความจริงใจและแรงดึงดูดที่ยากจะห้ามใจ
ขณะที่ผมจูบเธอและเริ่มสัมผัสร่างกายของเธอมากขึ้น กุ๊กเริ่มรู้สึกถึงความดึงดูดที่มีเพิ่มขึ้นในร่างกายของเธอ เธอสั่นไหวเล็กน้อยแต่ความขัดขืนเริ่มลดลงทีละน้อย เมื่อมือของผมลูบไล้ผ่านผิวของเธอ สัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความปรารถนาทำให้เธอเริ่มคล้อยตาม ความอบอุ่นจากการสัมผัสของผมทำให้ความต้านทานในใจของเธอเริ่มอ่อนแรงลง
"ฉัน... ฉันไม่รู้" กุ๊กพูดขณะสูดลมหายใจลึก สายตาของเธอเริ่มหม่นลงด้วยความอ่อนแอและความต้องการที่ซ่อนอยู่ เธอยังพยายามคุมตัวเองแต่เสียงที่สั่นเครือนั้นแสดงถึงความอ่อนไหวที่ไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป มือของเธอที่เคยผลักผมออกเริ่มผ่อนคลายและปล่อยให้ผมสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนขึ้น
การสัมผัสที่อ่อนโยนและจูบที่ลึกซึ้งเริ่มทำให้บรรยากาศรอบตัวเราผ่อนคลายลง ความรู้สึกของการดึงดูดเริ่มเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ความตึงเครียดในห้องหายไปแทนที่ด้วยความร้อนแรงที่เติมเต็ม ผมรับรู้ได้ถึงการตอบสนองของกุ๊กที่เปลี่ยนไป จากความลังเลกลายเป็นความเต็มใจที่เริ่มตอบรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเรา
เสียงหายใจของเราทั้งคู่เริ่มหนักขึ้น จังหวะของหัวใจที่เต้นรัวบ่งบอกถึงความตื่นเต้นและความปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ในตัว การขัดขืนกลายเป็นความปรารถนาที่ทั้งคู่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป กุ๊กเริ่มสัมผัสผมกลับ จูบของเธอเปลี่ยนจากความลังเลเป็นความหลงใหล เธอปล่อยใจให้กับความรู้สึกที่เก็บกดไว้และยอมรับในสิ่งที่เราทั้งสองไม่อาจต้านทานได้
ขณะที่ความใกล้ชิดระหว่างเราทวีความรุนแรงขึ้น จูบของผมกับกุ๊กค่อย ๆ เปลี่ยนจากความอ่อนโยนเป็นความเร่าร้อนรุนแรงที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ผมกดจูบเธออย่างหิวกระหาย ปากของเราแนบสนิทกันแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ ลิ้นของเราพัวพันกันอย่างไม่รู้จบ เสียงลมหายใจที่หอบหนักและจังหวะหัวใจที่เต้นรัวสื่อถึงความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุมได้
+=
ริมฝีปากของเธออบอุ่นและนุ่มนวล แต่เมื่อสัมผัสกับผมก็กลายเป็นการจูบที่ร้อนแรง ลิ้นของผมแทรกเข้าไปในปากของเธออย่างรวดเร็วและกระหาย เธอสัมผัสตอบอย่างเต็มใจจนรู้สึกได้ถึงการเต้นของหัวใจที่เร่งเร็วขึ้น รสชาติของเธอทำให้ผมไม่อยากหยุด เธอเริ่มตอบรับจูบอย่างเร่าร้อน ลิ้นของเธอเคลื่อนไหวอย่างกล้าหาญและกระตือรือร้น การสัมผัสที่รุนแรงขึ้นทำให้เราทั้งสองรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่มากขึ้นในทุกวินาที
มือของผมจับที่หลังศีรษะของเธอ พลิกเธอให้เข้ามาใกล้ขึ้น จังหวะของการจูบเริ่มเร็วและลึกซึ้งมากขึ้น เธอครางเบา ๆ ในลำคอราวกับเป็นเสียงตอบรับ ความเร่าร้อนจากการจูบทำให้เราทั้งคู่ลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ริมฝีปากของเธอเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่เข้มข้นและหยาบคายมากขึ้น เราทั้งสองไม่อาจทิ้งสัมผัสนี้ได้ ผมจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยความรุนแรงที่ทวีคูณ ในทุกครั้งที่ปากเราพบกัน มันเป็นการย้ำเตือนถึงแรงดึงดูดและความปรารถนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป
จูบของเราไม่ใช่เพียงการสัมผัสของริมฝีปาก แต่เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บกดอยู่ภายใน การจูบที่เร่าร้อนนี้ทำให้ทุกอย่างรอบตัวเงียบหายไป เหลือเพียงความรู้สึกของเราทั้งคู่ที่หลอมรวมกันอยู่ในจังหวะเดียวกัน
"กุ๊ก" ผมเรียกเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความรู้สึกอ่อนโยน นิ้วมือของผมไล้ไปตามเส้นผมของเธออย่างเบามือ ราวกับต้องการถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ภายใน "ขอโทษนะ ถ้ารู้สึกไม่ดี แต่ฉันไม่อยากหยุดเรื่องนี้" ผมพูดพลางสบตาเธออย่างจริงใจ คำพูดของผมไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง แต่เป็นความรู้สึกที่สะท้อนถึงความต้องการที่ซื่อตรง เธอเป็นมากกว่าความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม เธอคือแรงดึงดูดที่ผมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

คำพูดของผมค่อย ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น การสัมผัสที่ผมมีต่อเธอเริ่มเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและอบอุ่น มือของผมเคลื่อนไปตามลำคอและไหล่ของเธอในท่าทางที่แสนอ่อนโยน ราวกับว่ากำลังปลอบโยนเธอให้คลายจากความรู้สึกหนักใจที่ค้างคาอยู่
กุ๊กพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าของเธอยังคงมีความเขินอายอยู่ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความยอมรับ "อืม...ทำต่อเถอะ" เธอกระซิบเบา ๆ ราวกับกำลังปลดปล่อยความลังเลที่มีในใจ การตอบสนองของเธอเริ่มเปลี่ยนไปจากการขัดขืนเป็นการยอมรับอย่างช้า ๆ มือของเธอค่อย ๆ วางทับบนมือของผม สัมผัสของเธอเริ่มแนบแน่นขึ้น ราวกับว่าเธอต้องการความอบอุ่นจากผมเช่นกัน
ความตึงเครียดที่เคยมีระหว่างเราค่อย ๆ คลายลงทีละน้อย เธอหลับตาและเอนตัวเข้ามาหาผมอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าเธอกำลังปล่อยใจไปกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น การสัมผัสที่อ่อนโยนเริ่มกลายเป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความพอใจ เราทั้งคู่จมอยู่ในความรู้สึกของกันและกัน ไม่ต้องการคำพูดใด ๆ มากไปกว่านี้ แค่สัมผัสที่อบอุ่นและลึกซึ้งก็เพียงพอที่จะสื่อถึงความต้องการที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป
ผมอุ้มกุ๊กขึ้นไปนั่งบนโต๊ะของพี่กฤษณ์ ซึ่งตอนนี้ถูกทิ้งไว้ในความเงียบสงบ กระโปรงชุดเดรสของเธอถูกรวบขึ้นไปเหนือเอว เผยให้เห็นบั้นท้ายที่สะอาดสะอ้าน ขณะที่ผมค่อย ๆ ถอดกางเกงในของเธอออกจนมันกองอยู่ที่พื้น
การจูบกันอย่างดูดดื่มยังคงดำเนินไป เราทั้งคู่เต็มไปด้วยความต้องการที่ท่วมท้น ผมค่อย ๆ ปลดเข็มขัดและกางเกงแสล็คออก ปล่อยให้แท่งเนื้อของผมที่ตื่นเต็มที่ปรากฏออกมา
"ค่อย ๆ ทำนะ" เธอกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย แต่พร้อมที่จะรับประสบการณ์นี้ "เหมือนมันจะใหญ่กว่าของพี่กฤษณ์เยอะเลย" กุ๊กพูดพร้อมกับลอบมองแท่งเนื้อของผมที่จรดอยู่ที่ปากทางเข้ากลีบบางของพยาบาลสาว
ผมค่อย ๆ ขยับเข้าไปในตัวกุ๊กด้วยความระมัดระวังและเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ ทุกการเคลื่อนไหวของผมช้าและมั่นคง เพื่อให้มั่นใจว่าการเริ่มต้นนี้เป็นไปอย่างนุ่มนวลและไม่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด ผมรู้ดีว่าการใส่ใจในความรู้สึกของเธอเป็นสิ่งสำคัญ ขณะที่เราสองคนสูดลมหายใจเข้าออกพร้อมกัน
เอวบางของกุ๊กเริ่มบิดส่ายไปมาด้วยความรู้สึกที่กระตุ้นจากการเคลื่อนไหวของผม ร่างกายของเธอตอบสนองอย่างอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความพอใจ การบิดและส่ายของเอวเธอเพิ่มความรู้สึกของการเชื่อมโยงระหว่างเรา พยาบาลสาวเริ่มครางออกมาอย่างพอใจ เสียงครางของเธอเป็นสัญญาณของความสุขและการตอบสนองที่ดี เธออ้าขาต้อนรับการมาเยือนของผมอย่างลืมตัว

"โอเคมั้ย?" ผมถามด้วยเสียงต่ำและเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ขณะท่อนเนื้อถูกดันเข้าไปได้ครึ่งหนึ่ง
กุ๊กหลับตาและพยักหน้าช้า ๆ ขณะที่ครางออกมาเบา ๆ "อืม...รู้สึกดีมาก" เธอตอบด้วยเสียงกระเส่าที่เต็มไปด้วยความพอใจ "มันคับแน่นมากเลยแก"
"งั้นกดให้สุดเลยนะ" ผมพูดพร้อมกับเพิ่มความลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนสุดลำ การเคลื่อนไหวของผมยังคงเป็นไปอย่างช้า ๆ และมั่นคง เพื่อให้เธอรู้สึกถึงความเต็มอิ่ม
ขณะนั้น ผมพบกับรูปคู่บนโต๊ะ ผมมองไปที่รูปคู่บนโต๊ะของกุ๊กกับพี่กฤษณ์ รูปนั้นแสดงให้เห็นพวกเขากอดกันอย่างอบอุ่นพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข ในขณะเดียวกัน ผมก็มองไปที่กุ๊กที่อยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน รอยยิ้มของเธอขณะที่ถูกลำเอ็นล่วงล้ำเข้าไปเป็นรอยยิ้มที่ดูเต็มไปด้วยความพอใจและความสุขจนล้นออกมา รอยยิ้มที่เคยเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นในภาพกับพี่กฤษณ์นั้นเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มที่เอ่อท่วมไปด้วยความรู้สึกพอใจอย่างเต็มที่ในขณะนี้ แม้ผมจะรู้สึกผิดแค่ไหนแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความรู้สึกที่มีต่อเธอได้
"ลึกมากเลย" กุ๊กพูดด้วยเสียงกระเส่าพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ขณะที่ลืมตาขึ้นมองผม เราทั้งคู่ได้รับการเติมเต็มซึ่งกันและกัน แรงตอดหนึบตลอดลำเอ็นทำเอาผมเสียวซ่านไปทั้งตัว
"ของแกก็ยังฟิตอยู่นะ" ผมยิ้มกลับอย่างพอใจ ตั้งใจคงสภาพนี้ไว้เพื่อให้เธอชินกับขนาด
จากนั้น ผมค่อย ๆ ขยับเอวออก การเคลื่อนไหวของผมเป็นไปอย่างช้า ๆ และมั่นคง นั่นทำให้ความรู้สึกที่แผ่ซ่านในตัวกุ๊กมีความลึกซึ้งและเข้มข้นมากขึ้น กุ๊กยิ้มด้วยความพอใจ ขณะที่ครางออกมาเบา ๆ
กุ๊กหันมามองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง "เป็นอะไรไป?" ผมถาม
"มันรู้สึก..." เธอหยุดพูดและมองไปที่รูปคู่ของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ "มันรู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกดี..."
ในขณะที่เราเคลื่อนไหวกันบนโต๊ะ กุ๊กมองไปที่รูปคู่ของเธอและกฤษณ์ที่วางอยู่ด้านข้าง การมองไปที่รูปภาพนี้ทำให้เกิดความรู้สึกของความขัดแย้งและความพอใจที่ผสมผสานกัน รอยยิ้มในรูปคู่กับพี่กฤษณ์เปรียบเสมือนภาพสะท้อนของความรักและความผูกพันที่เธอมีอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเราในขณะนี้ก็เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งและรุนแรง
"ป้อง... ฉัน...ไม่รู้ว่าฉันจะทำยังไง" กุ๊กพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ขณะที่เธอพยายามจะควบคุมความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความรู้สึกดีพร้อมกัน
"แค่ปล่อยตัวตามความรู้สึก" ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเข้าใจ "เราทั้งคู่ต้องการมัน"

คำพูดของผมทำให้กุ๊กปลดปล่อยมากขึ้น การสัมผัสที่เรามีเริ่มกลายเป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความพอใจเมื่อการเคลื่อนไหวเริ่มรุนแรงขึ้น ความรู้สึกของการปลดปล่อยและความพอใจที่เกิดขึ้นนี้กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ และทำให้การสัมผัสของเราเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและรุนแรง
กุ๊กเริ่มตอบสนองต่อความรู้สึกอย่างรุนแรงมากขึ้น เสียงครางของเธอเริ่มดังขึ้นตามจังหวะการเคลื่อนไหวของผม เสียงนั้นเป็นการแสดงถึงความพอใจที่เพิ่มขึ้น และทุกการเคลื่อนไหวของผมเริ่มเร่งขึ้นในจังหวะที่เข้ากันอย่างดี
ผมขยับเอวตามจังหวะแบบเน้น ๆ ทำให้ความรู้สึกของการสัมผัสเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน การขยับที่มีจังหวะและความเข้มข้นทำให้พยาบาลสาวเริ่มรู้สึกถึงความร้อนแรงที่ทวีขึ้น ขณะที่เธอส่ายร่านอย่างลืมตัว การเคลื่อนไหวของเอวเธอเริ่มมีความรุนแรงและเหมือนไม่สามารถควบคุมได้
ความรู้สึกของการมีความสุขที่สูงสุดทำให้เธอไม่สามารถหยุดตัวเองได้ ร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองอย่างรุนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ และทำให้บรรยากาศรอบตัวเรายิ่งร้อนแรงและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
"อืม... โอ๊ะ... มันรู้สึกดีมาก" เสียงครางของกุ๊กดังขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เธอเริ่มเร่งจังหวะการตอบสนอง เธอเริ่มจับหลังของผมอย่างแรง รู้สึกถึงความเสียวซ่านจนทำให้เธอเกร็งตัว "อ๊า... แรงกว่านี้หน่อย... ทำให้ฉันรู้สึกถึงมัน" กุ๊กกระซิบเสียงต่ำพร้อมกับขยับตัวเข้าหาผมและเร่งจังหวะการเคลื่อนไหว เสียงครางของเธอดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ด้วยความพอใจที่ล้นออกมา
การเคลื่อนไหวของเรายิ่งเร่งเร็วขึ้น โต๊ะที่เราทั้งคู่กำลังร่วมรักอยู่เริ่มเคลื่อนที่ไปมาพร้อมกับจังหวะการเคลื่อนไหวของเรา เสียงของโต๊ะที่ครูดพื้นดังขึ้นเป็นระยะตามจังหวะการร่วมรัก เสียงดังนี้เพิ่มความเร่งเร้าและความรู้สึกถึงความกระตุ้นในบรรยากาศรอบตัวเรา
การสัมผัสที่อ่อนโยนของผมเริ่มเพิ่มความลึกและความเร็วขึ้นตามการตอบสนองของกุ๊ก เธอเริ่มเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกที่ตึงเครียดและล้นหลาม การปลดปล่อยของเราทั้งคู่เกิดขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมกับเสียงครางของกุ๊กที่แสดงถึงความพอใจอย่างสุดยอด
จังหวะถูกเร่งเร้าจนถึงจุดไคลแม็กซ์ กุ๊กเริ่มมีอาการถึงจุดสุดยอดอย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวของเธอเปลี่ยนไป เธอเริ่มมีอาการสั่นกระตุกและเสียงครางของเธอเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงครางที่เต็มไปด้วยความพอใจแสดงให้เห็นถึงความสุขที่เต็มเปี่ยมในตัวเธอ
"โอ๊ะ... ป้อง... ฉันจะ... อ๊า..." กุ๊กครางออกมาเป็นระยะ ๆ ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น ขณะที่ความรู้สึกของความปลดปล่อยที่เกิดขึ้นกับเธอเริ่มพุ่งสูงสุด
ความรู้สึกนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอรุนแรงและร้อนแรงขึ้น เธอเริ่มเกร็งตัวและจับหลังของผมอย่างแรง ร่างกายของเธอเริ่มสั่นกระตุก ทุก ๆ การเคลื่อนไหวของเราในตอนนี้มีความรู้สึกของความกระตุ้นและความสุขที่เต็มเปี่ยม
แรงตอดของช่องคลอดของกุ๊กเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอบีบตอดหนักหน่วงกว่าปกติ ซึ่งสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนผ่านการเคลื่อนไหวของผม เสียงเนื้อกระทบกันเริ่มดังขึ้นเป็นระยะ เสียงนี้เริ่มจากการกระทบที่ช้าและอ่อนโยน ก่อนจะเพิ่มความเร็วและความรุนแรงขึ้นในจังหวะที่เราสองคนสูดลมหายใจเข้ามาพร้อมกัน
เสียงของโต๊ะที่ครูดพื้นก็ดังขึ้นตามจังหวะของการเคลื่อนไหว เสียงดังนี้ผสมผสานกับเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครางของกุ๊ก สร้างบรรยากาศที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจ เสียงของความสุขและความปลดปล่อยที่เกิดขึ้นทำให้บรรยากาศรอบตัวเรายิ่งเข้มข้นและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ผมเพิ่มความลึกและความเร็วอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กุ๊กถึงจุดสูงสุด แรงบีบของโพลงสวรรค์ที่บีบหนักหน่วงยังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจน เสียงของการหายใจที่หนักหน่วงของเธอแสดงถึงความพอใจที่ถึงขีดสุด และการสัมผัสที่เรามีทำให้ความรู้สึกของความสุขและความปลดปล่อยเพิ่มมากขึ้น

เธอลืมตาขึ้นมองผมด้วยความพอใจที่เต็มไปด้วยความสุข

ในช่วงที่ผมรู้สึกถึงการหลั่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ความตึงเครียดในร่างกายของผมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมพูดกับกุ๊กด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเครียดและความรู้สึกที่รุนแรง

"กุ๊ก... ฉันกำลังจะเสร็จแล้ว" ผมพูดด้วยเสียงต่ำและเต็มไปด้วยความตึงเครียด

กุ๊กมองมาที่ผมด้วยความวิตกกังวลและพยายามควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่ "ป้อง... อย่าแตกใน!" เธอร้องออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและความพยายาม
แม้ว่าเธอจะพยายามห้าม แต่ร่างกายของเธอกลับไร้เรี่ยวแรงจากการถึงจุดสูงสุด เธอทำได้เพียงพูดด้วยเสียงกระเส่าที่แผ่วเบา "ป้อง... ฉัน..."


ผมอัดลำเอ็นเข้าไปจนมิดลำด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม ก่อนที่การปลดปล่อยจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง น้ำรักระลอกใหญ่ทะลักเข้าสู่มดลูกของกุ๊กอย่างเต็มที่
กุ๊กแอ่นสะโพกขึ้นจากโต๊ะ ร่างกายของเธอเริ่มสั่นกระตุกด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน แม้ว่าเธอจะพูดห้ามให้หยุด แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างตรงข้าม เธออัดกลีบให้แน่นและยอมรับการสอดใส่อย่างเต็มที่ ความร้อนและความชุ่มฉ่ำที่ถูกเติมเต็มในตัวเธอทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขที่ยากจะอธิบาย การเคลื่อนไหวของกุ๊กเริ่มช้าลง เธอส่ายสะโพกเบา ๆ ราวกับยินดีที่ได้รับน้ำรักเข้าไปเติมเต็ม
ผมถอนลำเอ็นออกมาช้า ๆ ด้วยความระมัดระวัง กุ๊กขยับสะโพกตามการเคลื่อนไหวของผม ราวกับเสียดายที่มันกำลังจะออกไปจากตัวเธอของเหลวขาวขุ่นไหลออกมาเป็นสายตามปลายท่อนเนื้อ เส้นทางของของเหลวที่ยืดเยิ้มลากยาวเป็นหยดน้ำที่ตกลงมาที่พื้น
"ทำแบบนี้ทำไม?" กุ๊กเอ่ยถามด้วยเสียงเหนื่อยหอบและเต็มไปด้วยความกังวล "ทำไมถึงแตกใน?" เธอพูดด้วยความวิตกกังวลที่ชัดเจนในน้ำเสียงของเธอ
"ขอโทษ" ผมตอบอย่างจริงจังและเสียใจ "แต่มันอดใจไม่ได้จริง ๆ" ผมรู้สึกถึงความผิดและความรู้สึกของการกระทำที่อาจทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากนั้น ผมก้มลงไปเก็บกางเกงในของกุ๊กขึ้นมาอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งจัดการให้ดูเรียบร้อย จากนั้นผมค่อย ๆ สวมกางเกงในให้กับเธออย่างอ่อนโยน โดยเริ่มจากปลายเท้าของกุ๊กแล้วรูดขึ้นไปจนถึงเอว การเคลื่อนไหวของผมเต็มไปด้วยความใส่ใจและความระมัดระวัง
ขณะที่กางเกงในถูกสวมใส่กลับไป กลีบบางของกุ๊กยังคงประดับด้วยรอยน้ำสีขาวข้นที่เยิ้มวาว ร่องรอยของความพอใจและการหลั่งที่เหลืออยู่ยังคงเป็นที่ชัดเจน


ขณะที่ผมกำลังจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย เสียงโทรศัพท์ของกุ๊กดังขึ้น เธอหลบไปคุยอยู่ครู่นึงก็จะกลับมา "พี่กฤษณ์โทรมาถามว่าหายไปไหน" กุ๊กพูดขณะจัดแจงชุดเดรสของเธออย่างรีบร้อน "พี่กฤษณ์บอกว่ากุญแจล็อคเกอร์อยู่ที่รถ"
"อ้าว" ผมอุทานด้วยความตกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้
"เอาเป็นว่า..." ใบหน้าของกุ๊กเต็มไปด้วยความกังวลและความเครียด "เรื่องคืนนี้ไม่เคยเกิดขึ้นนะ"
"จะเอาแบบนั้นเหรอ?" ผมถามพร้อมกับเอียงคอ สงสัยว่าทำไมต้องทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น
"มันน่าจะดีกว่าถ้าเป็นแบบนั้น" เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังความรู้สึกที่ไม่สบายใจได้
=+
เราเดินกลับไปที่งานด้วยความเงียบ การพูดคุยระหว่างเราหยุดลงไปโดยสิ้นเชิง ผมสังเกตเห็นว่าเธอเอามือกุมท้องน้อยของตัวเองเป็นบางครั้ง ทำให้รู้ว่าเธออาจรู้สึกไม่สบายตัวหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความกังวลยังคงอยู่ในอากาศ ท่าทีของกุ๊กทำให้ผมเข้าใจว่าการปิดเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราในขณะนี้

==========โปรดติดตามตอนต่อไป==========

Tag : Fiction เรื่องราวทั้งหมดที่ปรากฏในผลงานนี้เป็นเรื่องแต่งที่สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงและจินตนาการเท่านั้น บุคคล เหตุการณ์ สถานที่ หรือเนื้อหาใด ๆ ที่กล่าวถึงในเรื่องนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่ใดในชีวิตจริง หากมีความคล้ายคลึงหรือสอดคล้องกับความเป็นจริง เป็นเพียงความบังเอิญโดยมิได้มีเจตนาจะพาดพิงหรือสร้างความเสียหายแก่ผู้ใดทั้งสิ้น
ติดตามผลงานอื่นได้ที่
FB กลุ่มเรื่องเสียวดารา ->
Fictionlog ->

vigoblack

แต่งเรื่องได้ดีมากครับ วางเนื้อหาได้ละเอียดน่าติดตามครับ

peddo

หนุ่มคอมไม่เนิร์ดเลย เริ่มจากพยาบาลสาว น่าจะได้เจออีกหลายวิชาชีพ ตอนแรกนึกว่า พี่กฤษณ์จะเล่นไม่ซื่อทำให้กุ๊กไม่สบายใจ แต่ที่เล่ากลับเหมือนไม่มีอะไร น่าจะยังไม่จบ ต้องมาเฉลยความนัยอีกสักหลายยกนะครับ

txxt30

ความสัมพันธ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร  มีครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆ ไปคงตามมา

Thank30

บรรยาย​ได้ดีครับ​ เข้าถึงอารมณ์​ความรู้สึก​เลย


Bounce

เขียนแนวนิยายอิโรติคเลยฮะ ได้ความเรียลดี ไม่โฉ่งฉ่างเกินไป ถ้ามีตอนต่อไปที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจขึ้นตะดีมาก รอติดตามนะครับ