ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

มหากาพย์ มันคือค่ำคืนที่ยาวนาน และผมเกือบจะซวย

เริ่มโดย pongwut, พฤศจิกายน 22, 2023, 07:49:34 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pongwut

        นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์จริง ที่ผมได้นำมาเล่ามาแชร์  และในเหตุการณ์ที่ผมได้พบเจอในครั้งนี้  อาจจะเรียกได้ว่า  การสานต่อก็ว่าได้   แม้จะเป็นคนหน้าเดิม แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด สถานการณ์ สภาพแวลล้อม องค์ประกอบ  ช่วงเวลา  ที่มันต่างกันออกไป 
         ในสิ่งที่ผมจะนำมาเล่าและแชร์ในครั้งนี้  มันต่อเนื่องจาก เหตุการณ์ที่ผมเลยเล่าไปแล้ว  //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=270940.msg2788053#msg2788053
จริงๆมันก็ควรจะจบตั้งแต่ในครั้งแรก  จนมันมีครั้งที่สอง  และในที่สุดก็มาถึงครั้งที่สาม (ล่าสุด)ทั้งๆที่ผู้หญิงหน้าตาก็ไม่ได้สวยขนาดนั้น  แล้วก็ไม่ใช่คนที่หุ่นดีเพอร์เฟค  และแม้แต่จะทำงานในอาชีพที่เราไผ่ฝันอยากจะได้ลอง แบบคุณหมอหรือแพทย์หญิง      พนักงานสายการบิน หรือแม้แต่พวกไฮโซ ลูกคุณหนู   แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ตัวมาตลอด  ทุกครั้งที่ผมเจอ ผมแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย  ทั้งเรื่องเงินทั้งเรื่องความเพียรพยายาม เพื่อที่จะได้มา (แต่ส่วนจ่ายอาจจะมีบ้าง เพราะผมเลือกจะให้เอง )   ถ้ามีอารมณ์ ผมก็แค่ลองทักไป  บทสรุปจะได้หรือไม่ได้ผมไม่ได้ซีเรียส  เพราะพวกเธอไม่ได้อยู่วงจรชีวิตผม ที่ผมจะต้องแคร์ หรือจะต้องไปห่วงใยทั้งนั้น           
         เรื่องราวเหตุการณ์ในครั้งนี้ จริงๆในตอนแรกผมคิดว่าจะปล่อยให้มันผ่านไป  แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมอยากจะนำมาเล่า  "เพราะสิ่งที่ผมมันช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานจริงๆ "เจอมันก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายซับซ้อน  และผมเองก็ได้เข้าไปรับรู้  กับสิ่งที่ผมเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันจึงทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน ในบางมุม บางสถานะการณ์    ผมขอเล่าแบบไปเรื่อยๆ อาจจะยาว(เหมือนเดิม ยาวมาก)

          เหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงปลายๆเดือน8ปี 66 (ที่ผ่านมา)  ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมาก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน  มันเป็นช่วงเวลาที่งานประจำในส่วนรับผิดชอบของผม ได้ถูกเครียร์เสร็จไปเกือบหมด เหลือแค่ส่วนงานเบาๆไม่ใช่งานที่ซีเรียส  รวมทั้งปัญหาส่วนตัว เรื่องครอบครัวแฟนที่แม่แฟนป่วยก็เริ่มจะหายดีและดูแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ   ทุกๆอย่างทั้งหมด  มันทำให้ตัวผมผ่อนคลาย  มีเวลาพักสมอง และได้มีช่วงเวลา ได้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยบ้าง  หลักๆในหัวผมตอนนั้น  นอกจากการดูรถในสื่อออนไลน์ต่างๆ ก็จะเป็นเรื่อง ผู้หญิง และเซ็ก  ในตอนนั้นช่วงเวลางาน ผมแทบจะนั่งหลับๆตื่นๆบนโต๊ะทำงาน  จนบางครั้งผมต้องลงมาชั้นที่ผมดูแล เป็นงาน Renovate สำนักงานให้เช่า  ซึ่งงานทั้งหมดในตอนนั้นก็เกือบจะเสร็จหมดแล้ว  เหลือแค่งานเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อย  โดยที่ผมแค่มาอาศัยเดินเล่นแก้ง่วง และมานั่งเล่นมือถือฆ่าเวลาไปวันๆ 
.............ตลอดช่วงเวลาในตอนนั้น เหมือนมันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผม ไม่มีเรื่องให้เครียดให้หนักใจ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แต่พอผ่านมาหลายๆวันเข้า  ผมเองก็เริ่มจะรู้สึกเบื่อๆกับช่วงเวลาตรงนั้น (ว่างจัด) ชีวิตที่คอยนั่งมองดูเวลาเลิกงาน แล้วกลับห้องเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นผมจะชวนน้องๆในแผนกไปนั่งชิวๆ นั่งดื่ม นั่งกิน หลังเลิกงานก็ไม่ได้ เพราะคนอื่นๆงานในส่วนรับผิดชอบ ยังเหลืออีกแยอะ และจะต้องมานั่งเครียร์เอกสาร จนต้องเลิกงานกันหลัง1-2ทุ่มกันเกือบทุกคน  ที่สำคัญตัวผมเองอาจจะเป็นแบบนี้ไปอีกเกือบๆหนึ่งอาทิตย์ จนกว่าผู้จัดการแผนก จะเรียกให้ผมไปช่วยดูงานในส่วนของคนอื่น  ในตอนนั้นเองตัวผมก็อยากจะมี
กิจกรรมเล็กๆน้อยๆแก้เซ็งบ้าง ก่อนจะถึงวันนั้น   
.............ในห้วงเวลาที่ผมเป็นอยู่ ทั้งว่าง ทั้งเบื่อ ทั้งเซ็ง  มันทำให้ตัวเลือกในหัวผมที่คิดได้แบบเร็วๆ นึกขึ้นได้ทันที ว่าสิ่งที่น่าจะทำให้ผมหายเบื่อ นั่นก็คือ สองสาว(ขสมก.)  อรและแหวนที่เป็นน้องรักเพื่อนสนิทกัน ที่ผมเคยได้ร่วมหลับนอนมีเซ็กกันในแบบ2-1 (ที่ผมเคยเล่าไป)  ที่ผมรู้สึกว่าสองคนนั้น น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น  เพราะว่าตัวผมเองไม่อยากจะไปเสียเวลา ไปเทคแคร์ และอ้อมค้อมกับตัวเลือกอื่น(มันใช้เวลาเกินไป)  และผมก็คิดว่าถ้าผมได้นัดเจออรกับแหวน ผมอาจจะไม่ต้องเหนื่อย  หรือต้องลงทุน และใช้ความพยามมากมาย  (มองตาก็รู้ใจแบบที่ผ่านมา)   รวมไปถึงเวลาที่ผมย้อนนึกถึงอรกับแหวน  ผมก็รู้มีอารมณ์ตลอด  กับการที่ได้มีเซ็กทีเดียวถึงสองคน สองสไตล์ สองขนาดเต้านม สองรูหีที่ผลัดกันเข้ามาสอดใส่  พลัดกันพัก พลัดกันเย็ด สลับกันไป-มา (มันยังตราตรึง) แม้ว่าหน้าตาสองคนนั้นและองค์ประกอบหลายๆอย่าง  มันยังไม่เพอร์เฟคก็ตาม แต่เอาแค่เรื่องเซ็กเพียวๆ  มันก็ตอบโจทษ์ แบบไม่ต้องคิดมากอะไร
.............พอในหัวผมมีเป้าหมาย ผมไม่รอช้า ผมใช้ช่วงเวลาอีก1ซม.จะเลิกงาน  หวังว่าถ้าเป็นไปในแบบที่ผมคิด หลังเลิกงานวันนั้นผมจะได้เตรียมตัวทันที  ผมจึงได้แอบลงมาจากโต๊ะทำงาน  เพื่อที่จะโทรไลน์ไปหาอร  (ตอนนั้นผมก็คิดเผื่อๆใจไว้ จะได้ไม่ได้ช่างมัน) และในจังหวะที่ผมโทรไลน์ไปไม่กี่วินาที  ก็เป็นอรที่รับสายผม พร้อมกับคำแรกที่แซวผม ในแบบที่กำลังต้องการนั่นคือ คำพูดทักผมว่า " ว่ายังไงค๊ะ ..คุณผัวขา (เธอหัวเราะ) "  ผมได้ยินผมก็หัวเราะกลับ  จากนั้นผมก็ถามเธอตาม
สเต๊ปว่า สบายดีใหม ,ทำอะไรอยู่ , อยู่กับใคร  โดยที่เธอก็ตอบว่าตอนนี้เธออยู่คนเดียว  และก็กำลังเดินซื้อของตลาดนัด แต่เธอก็บอกผมว่าเธอสะดวกที่จะคุย ในจังหวะที่ผมและอรก็คุยแซวไป-มา ออกในทางหมาหยอกไก่ สื่อไปเรื่องในเชิงๆที่ว่า  ตอนนั้นผมรู้ได้ทันทีว่าเย็นนี้มีลุ้นเลย  (ตอนนั้นผมคิดไปถึงการเตรียมซื้อถุงยางไว้เลย)
..............จังหวะที่คุยกันได้ซักพัก ตัวผมเองก็ไม่อยากเสียเวลา(ผมใจร้อน) ผมจึงถามอรไปตรงๆ ว่า " อร ..อรว่างใหม?เย็นนี้ พี่อยากจะชวนอรไปหาอะไรกินและดื่มกันนิดหน่อย"  พออรได้ยินอรก็รีบตอบผมทันทีว่า " โหยยพี่  ก็อยากจะไปอยู่นะแต่คงไปไม่ได้แล้วหละ " จังหวะที่ผมได้ยินใจผมแป๋วลงทันที แล้วรีบถามเธอกลับว่า " อ้าว!! ทำไมหละ  วันนี้อรมีธุระสำคัญหรือครับ ถึงมาไม่ได้ "  อรก็รีบตอบกลับทันทีว่า "  โทษทีค๊ะ อรลืมบอก ตอนนี้อรไม่ได้อยู่กรุงเทพแล้วนะ ที่คุยตอนนี้อรอยู่พิจิตรบ้านโยมัน(บ้านสามีเธอ) "  พอผมได้ยินก็ รู้สึกผิดหวัง( อารมณ์เสียดาย) จากนั้นอร ก็เล่าให้ฟังประมาณว่า  สามเดือนก่อน มันเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ก็เลยตัดสินใจเลิกทำกระเป๋ารถเมย์  กลับมาทำไร่มะละกอ และทำนา ที่บ้านโยสามีเธอได้ประมาณ 2เดือนแล้ว  และเธอก็บอกว่าอยู่ที่นั่น รายจ่ายไม่เปลืองและอากาศดีกว่าในกรุงเทพแยอะ พอผมฟังและได้ก็รู้แล้วว่าสำหรับอร กับผมมันจบแล้ว  ซึ่งผมเองก็พยามทำใจ
.............แต่ในตอนนั้น ผมยังมีอีกตัวเลือกหนึ่ง นั่นคือแหวนรุ่นน้องเพื่อนสนิทเธอ ปกติจริงๆผมไม่กล้าที่ถามถึงแหวน เพราะมันเหมือนจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาอร  เพราะก่อนผมจะมาได้แหวน มันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า ที่มันเกิดขึ้นแล้วเลยเถิด ไม่ใช่การจงใจตั้งแต่แรก ที่คิดจะเย็ดโดยตรงแบบอร  แต่ในวินาทีนั้นผมไม่มีอะไรจะเสีย และไม่มีอะไรจะต้องเกรงใจ ระหวางที่ผมกับอรโทรคุยกัน ผมก็เอ่ยขึ้นมาทันทีว่า " อร ครับแล้วแหวนยังอยู่ที่เดิมใหม? อรชวนน้องเขาให้พี่จะได้ใหม ?" ในจังหวะที่ผมเอ่ยปากถามไป  วินาทีนั้นอรเองได้เงียบลงไปหลายวินาที  แล้วอรก็ตอบผมกลับว่า " อรเลิกคบแล้วค๊ะ...พี่อยากรู้เรื่องจริงๆใหม?  เกี่ยวกับมัน(แหวน)  ถ้าอยากรู้เดี๋ยวอรจะเล่าอะไรให้ฟัง ทุกเรื่อง  " ตอนนั้นผมได้ยินผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ผมเดาว่าน่ะจะเป็นเรื่องเงินๆทองๆยืมไม่จ่าย  จังหวะนั้นเองอรก็บอกว่าขอวางสายก่อนเดี๋ยวเธอซื้อของเสร็จจะหาที่นั่งดีๆ แล้วจะกลับมาเล่าให้ผมฟังทุกๆอย่าง โดยที่อรจะโทรหาผมเอง ผมก็ตกลง (ผมก็อยากรูัว่ามันเป็นเรื่องอะไร)
............. ในระหว่างที่รอสายอรโทรกลับ ผมก็พยามหาตัวเลือกใหม่ๆ และก็ค้นหาเบอร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั้งผมดันมีเบอร์โทรแหวน ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าผมมี เพราะตอนที่นัดเจอกันคราวก่อน  อรได้ใช้เครื่องแหวนโทรมาเครื่องผม ถามว่าผมถึงใหน และผมก็ได้เมมเบอร์นั้นเป็นชื่อ น้อง อ.  ซึ่งนั่นก็คือเบอร์แหวน   และเวลาผ่านไป20 นาที อรก็โทรหาผมตามที่เธอบอก ผมจึงรีบรับสาย  จากนั้นอรก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับแหวน.....โอ้ววครับ.....ผมได้ฟังแค่ต้นเรื่อง ตอนนั้นผมอึ้ง และช๊อกมากกับสิ่งที่ผมได้ยินไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง.....โดยอรได้พูดเล่าเกริ่นมาประมาณว่า  ที่อรเลิกคบแหวนและพาโยกลับบ้านต่างจังหวัดเพราะว่า แหวนแอบมามีอะไรกับโย(ผัวอร)โดยที่อรเป็นคนจับได้  ในตอนนั้นผมได้ยินก็ไม่อยากจะเชื่อ  เพราะผมเคยเห็นโยมาก่อน ซึ่งผมมองโย คนอายุ40 เป็นผู้ชายถ้ามองผ่านๆ เหมือนพวกไร้น้ำยา ขี้เหล้า ตัวเล็กสูงไม่ถึง160 ด้วยซ้ำ และร่างกายก็ผอมแห้ง  หน้าตาดูเหมือนคนเมาไม่ส่างอยู่ตลอดเวลา  ที่สำคัญแม้แต่อรเมียตัวเองแท้ๆ ที่ผมยังมองว่าดูน่าเย็ดมากกว่า ก็ยังไม่ค่อยจะเย็ด  (เห็นเหล้าดีกว่าเมีย ) ส่วนแหวนก็เป็นคนอายุ24 ซึ่งก็มีคนคบอยู่แล้ว แม้เธอจะไม่สวย(แต่ก็ไม่แย่) และก็มีรูปร่างอวบตัวสูงใหญ่  จากที่ผมเคยได้สัมผัส แหวนเองจะเป็นคน ดูเงียบๆ พูดน้อย ไม่ทำตัวโดดเด่น  เป็นคนที่ดูมีสามาธิ และมีสติ คิดก่อนทำได้ดีกว่าตัวอรเองด้วยซ้ำ  เรื่องคราวก่อน ผมก็ยังคิดว่าเธออาจจะพลาด ตกกระไดพลอยโจนชะด้วยซ้ำ  ผมจึงถามกลับย้ำกับอรว่า มันเรื่องจริงหรือ? ผมถามย้ำถึง2 รอบ อรก็สวนผมกลับว่า "พี่อรเห็นกับตาค๊ะ "
...........ในจังหวะที่อรโทรเล่าให้ผมฟัง เธอเล่าด้วยอารมณ์เหมือนเธออัดอั้น อยากจะระบายกับสิ่งที่เกิดขึ้น  และพยามจะเล่าทุกๆอย่างให้ผมฟัง  เพื่อจะยืนยันว่า  มันคือเรื่องจริง และพยามอยากจะเล่าให้ผมเห็นความเลวของแหวน เธอจึงเล่ายาวและละเอียดแบบ (non stop) และผมก็ได้แต่แนบโทรศัพท์ฟังอย่างตั้งใจแบบไม่ถามแทรก.....โดยที่ผมฟังและสรุปใจความได้ว่า (เท่าที่ผมจะจำได้)  เรื่องที่เกิดขึ้นมา เพราะคนขับที่แหวนเป็นกระเป๋าอยู่ได้ลาออก และแหวนก็ได้มาจับคู่กับคนขับใหม่ที่เป็นผู้หญิงซื่ออ้อย  และอ้อยก็ไม่ค่อยถูกชะตากันกับแหวน ตัวอรเองก็รู้เรื่องนั้น เห็นเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากก็เลยอาสา เปลี่ยนไปเป็นกระเป๋าให้กับคนขับชื่ออ้อยแทน และให้แหวนมาขายตั๋วคู่กับโยสามีเธอแทน  โดยที่เข้างานช่วงกะไม่ตรงกัน ตอนแรกอรก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น เพราะนั่นคือน้อง และมันก็เรื่องปกติของการทำงาน ที่มีการสลับคู่กันบ้างถ้าจำเป็น จนกระทั้งมีคนรู้จักในอู่มาเล่าให้อรฟังว่า  ช่วงเลิกงานตอนเย็น เคยเห็นแหวนไปนั่งร่วมวงกินเบียร์กับโย และพวกเพื่อนโยที่ร้านข้างๆอู่รถอยู่บ่อยๆ แถมยังมีบางวันที่เห็นแหวนนั่งกินเบียร์กันกับโย แบบสองต่อสอง แต่อรก็บอกว่าตอนนั้นเธอเองก็ยังไม่ได้คิดอะไร  จนกระทั้งอรก็มาได้ยินเรื่องในทำนองแบบนั้นอีก จากคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าที่เธอนับถือ ว่ามีพวกกะดึกซุบซิบกันให้ฟังว่าเคยเห็นโยกับแหวน ตอนเอารถเมย์ไปจอดที่ท้ายอู่ตอนเลิกงานเกือบๆทุกครั้ง โยกับแหวนก็อยู่บนรถสองต่อสองกันนานมาก อย่างน้อยก็ครึ่งซม หรือนานสุดก็เป็นชั่วโมง ก่อนที่โยกับแหวนจะพากันเดินออกมาแบบดูมีพิรุธ และน่าสงสัย
...........จากนั้นอรก็เล่าต่อไปว่า ทุกครั้งที่มีคนอื่นกระซิบบอกให้เธอฟัง อรเธอยอมรับว่าตอนแรกๆเธอก็ไม่รู้สึก แต่เธอจะมาติดใจตรงตอนจอดรถ และอยู่กันสองต่อสองนานบนรถเมย์ ที่เป็นช่วงเวลาลับตาคนอีก หลังจากนั้นอรก็ตัดสินใจ ลองไปดูพิสูจน์ด้วยตาตัวเธอเอง โดยการที่เธอออกงานกะตอนช่วงบ่าย และกลับไปที่หอพักอาบน้ำเปลี่ยนชุด  แล้วย้อนกลับไปที่อู่รถตอน2ทุ่ม พร้อมกับเพื่อนกระเป๋าผู้หญิงอีกคน  โดยที่อรก็ได้เล่าต่อมาว่าเธอได้แอบนั่งรอที่บริเวณหลังห้องน้ำที่อู่ จนกระทั้งรถโยขับเลี้ยวเข้ามา และขับตรงเข้าไปจอดด้านในสุดที่ดูลับตาคน ตรงนั้นมีรถเมย์จอดเรียงกันเป็นแถวซ้อนกันหลายคัน   อรเธอบอกว่าเธอรอดูจนประมาณ10 นาที และก็ยังไม่มีใครลงมาจากรถกันจริงๆแบบที่เขาเล่า  เธอก็เริ่มจะรู้สึกไม่ดีแล้ว เธอจึงเดินไปที่ข้างๆรถเมย์ร้อนเหมือนกัน ที่จอดติดกับรถเมย์ที่โยกับแหวนที่อยู่บนรถ   โดยที่อรบอกว่า เธอลงทุนถอดรองเท้าขึ้นไปเหยียบบ่าเพื่อน แล้วค่อยๆลอดตัวเข้าไปในช่องหน้าต่างรถเมย์ร้อน ที่จอดติดกัน  แล้วค่อยๆก้มเดินเบาเข้าไป ท้ายรถ จากนั้นก็ก้าวขาขึ้นไปยืนบนเบาะหลังรถเมย์แอบก้มชะโยกมอง (ในจังหวะที่อรเล่าช่วงนั้น ก็เริ่มจะมีน้ำเสียงสั่น)  เพราะเธอเล่าว่าภาพที่เธอเห็น ทำเธอตกใจมาก  จนเธอทำตัวไม่ถูก....ภาพที่โยกับแหวนนั่งกอดรัดกันแน่น และกำลังดูดปากกันอยู่ที่เบาะหลัง ในขณะเดียวกันมือโยก็ได้สอดเข้าไปล้วงใต้กระโปรงกำลังลูบที่เป้าหีแหวนไปด้วย  ทำกันแบบไม่สนโลก  เธอบอกว่าขนาดเธอยืนยื่นหน้ามอง ห่างไม่ถึง2เมตรแต่สองคนยังไม่รู้ตัวอีก  อรเธอบอกว่าเธอมองดูทั้งน้ำตาอยากจะหนีไปให้ไกลๆ แต่มันขยับตัวไม่ออก เธอทนดูจนกระทั้ง เห็นภาพที่แหวนขยับตัว ลงมานั่งที่พื้นรถจับควยโยผัวเธอขึ้นมาอม  นั่นคือภาพสุดท้ายที่เธอได้เห็นคืนนั้น เพราะเธอทนดูต่อไม่ไหว
.................จากนั้นอรก็เล่าต่อมาว่า ถ้าเป็นคนอื่น  วินาทีนั้น ต้องมีคนเข้าโรงพยาลซักคนแน่ๆ แต่ตอนนั้นเธอบอกว่าเธอช๊อกจนพูดไม่ออก เธอเลยรีบกลับห้อง  และทุกอย่างก็ไปเครียร์กับโยที่ห้อง  ในตอนนั้นอรก็บอกว่า เธอก็ไม่รู้จริงๆว่าทำไม ปกติเธอต้องวีนและจะต้องเป็นผีบ้าแน่ๆ แต่ตอนนั้นเธอแค่ด่าผัว และถามว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง  โดยที่โยก็สำนึกผิด และยอมเล่าออกมามาทุกอย่าง ว่าที่มันเกิดขึ้นเพราะความเมา และเคยได้กันกับแหวน3-4ครั้ง  ครั้งแรกที่เกิด เพราะนั่งกินเบียร์ที่ข้างอู่แล้วเมามาก จนต่างคนต่างมีอารมณ์ ก็พากันไปเย็ดที่ห้องน้ำชายตอนดึกๆ  และที่เหลือก็ทำที่เบาะหลังรถเมย์  และที่สำคัญอรได้เล่าว่า  หลังจากวันที่เกิดเรื่องที่เธอมาเห็นเอง  จนหลายวันต่อมาเธอมารู้อีกทีว่า โยกับแหวนไม่ใช่แค่เย็ดกันแค่4 ครั้ง ตามที่โยผัวเธอบอก  และมันมีคนมากกว่า10คนที่รู้เรื่องสองคนนั้นมาตลอด (แต่พูดไม่ได้) แม้แต่แฟนแหวนที่คบหากัน ก็อยู่ยังรู้เลย (แฟนแหวนจึงขอเลิกกัน) และที่สำคัญเธอได้ยินมาจากปากลุง รปภ กะดึก (ที่เธอเคยให้ของฝากบ่อยๆ )  โดยที่ลุงมาเล่าให้เธอฟังว่า ก็เคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่งช่วงเวลา3-4ทุ่ม ซึ่งลุงบังเอิญเดินไปเจอสองคนนั้น  อยู่หลังรถเมย์ที่จอดด้านในสุดที่มืดๆ กำลังอยู่ในท่าถลกกระโปรงยืนกระเด้ากันอยู่ แม้จะส่องไฟฉายเข้าไป สองคนนั้นยังไม่ยอมหยุดทำเพราะดูท่าทางจะเมามาก  แถมหันมาด่า ลุง รปภ.ให้ออกไปไกลๆอีก   อรเลยพูดเล่าแบบโมโหขึ้นมาว่า แหวนมันด้านเกินที่เธอจะคิดอีก   
..........จากนั้นแหวนก็เล่าว่า ทุกอย่างก็จบตรงที่เธอเลิกคบ เลิกติดต่อทุกอย่างกับแหวน  และเหมือนตัวแหวนรู้ตัว  จึงหยุดงานบ่อย และหลบหน้าอรตลอด  แต่ก็กลายเป็นอรที่รู้สึกเจ็บและอาย ผิดหวังที่มองคนผิด ก็เลยตัดสินใจพาโยกันกลับบ้านที่พิจิตร  โดยที่อรก็พูดบอกกับผมตรงๆว่า  แม้ตัวเธอจะไม่ได้ดีไปกว่าผัวเธอ โดยที่ผมก็รู้ เพราะเธอยอมรับ การที่เธอแอบมีอะไรกับผมเธอก็เลวมันก็สมควร  และที่อรเองไม่เข้าไปต่อว่าแหวนก็เพราะเหตุผลนี้เหมือนกัน แหวนได้กำความลับของเธออยู่   และเธอก็บอกต่อว่า  ถ้าจริงๆถ้าโยผัวเธอจะไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่ทำงานตรงนั้นซัก 10 คน เธอยังพอจะรับได้ เพราะนิสัยผู้ชายมันเจ้าชู้ถ้าเอาได้ก็คงเอา....แต่ที่อรบอกผมว่าเธอรับไม่ได้จริงๆ การที่โยผัวเธอมามีอะไรกับคนที่อยู่ใกล้ตัว มันเหมือนโดนหลอก และถูกหักหลังอย่างรุนแรง  แบบเพื่อนสนิท น้องสาว หรือ ญาติพี่น้องเธอ มันยากจะให้อภัยและรับกับมันไม่ได้  แต่ในตอนนี้อรก็บอกกับผมว่า เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้น  เธอยอมรับว่า เรื่องคาวๆของที่เธอทำงาน มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะที่อยู่ตรงนั้น  มีคนร้อยพ่อพันแม่ ถูกย้ายไปย้ายมา และเข้าๆออกๆกันตลอด  บางคนก็อยู่ยาว บางคนก็2อาทิตย์  มีทั้งโสด ทั้งซิง บางคนก็มี3เมีย บางคนก็มี2ผัวกันมาก่อน  เรื่องชู้สาวมันมีให้เห็นตลอด  แบบที่ว่า ผัวเธอคือแฟนฉัน เมียมึงแฟนกู ผัวเธอกิ๊กเรา แต่ก็ไม่คิดว่าจะเธอมาเจอกับตัวจริงๆ โดยเฉพาะกับคนที่เธอไว้ใจทั้งสองคน  แต่อรเธอก็ยังยืนว่า ยังมีคนดีๆทำมาหากินดีๆก็เยอะ  แต่เธอดันมาซวยเอง 
...........ในช่วงเวลาตอนนั้น ที่ผมยืนฟังอรเล่ามาทั้งหมด  ผมยอมรับว่า ผมมีสองความรู้สึกแบ่งได้สองอารมณ์แบบชัดเจนมาก  อารมณ์แรกผมเข้าใจ และเห็นใจอรจริงๆกับสิ่งที่เธอเจอ (จากใจจริง).....แต่อีกขั่วอารมณ์ ผมรู้สึกมีอารมณ์เงี่ยนควยโด่ตาม เพราะสิ่งที่อรเล่ามาทั้งหมด ที่ยืดยาวเป็นชั่วโมงจนโทรศัพท์ผมร้อนจนหูแทบใหม้   มันละเอียดทุกฉาก ทุกตอน   จากเริ่มจนจบ แถมยังใส่อาร์มความรู้สึกขยี้  จังหวะซีนเย็ด จากที่เธอฟังผัวและคนอื่นเล่ามา รวมทั้งที่เธอได้เจอเอง (ยาวและละเอียดมากกว่าที่ผมสรุปมา) ในหัวผมตอนนั้นพยามนึกถึงหน้าแหวน คนที่ผมเคยได้สัมผัส (จากแค่ผิวเผิน จนถึงลึกซึ้ง)แม้จะไม่กี่ครั้ง    มันเป็นแบบนั่นจริงๆหรือ?  ทุกๆคำพูดของอรที่เล่ามา ผมเชื่อทุกคำ แต่ผมติดแค่ว่า ระยะเวลา5เดือน มันเปลี่ยนนิสัยคนได้ขนาดนั้นเลย  หลังจากนั้นพออรได้เล่าทุกอย่างจบ ผมก็พยามพูดให้กำลังใจเธอ และเกริ่นกับอรไว้ว่า ถ้าเธอกลับมากรุงเทพและมาทำงานที่เดิมอีก ก็บอกผมด้วย จากนั้นผมก็วางสายกัน  และผมก็ไปเก็ยของที่โต๊ะกลับหอพัก
.............ในระหว่างเดินทางกลับหอ  ผมก็นั่งคิดเรื่องที่อรเล่ามาตลอดทาง โดยที่ตัวอรผมได้ตัดออกไปเลย  เพราะความเป็นไปได้เป็นศูนย์  แต่สำหรับแหวน ผมยังชั่งใจว่า ผมจะลองโทรหาหรือไม่ก็หาตัวเลือกอื่นๆ ก่อนที่จะถึงวันจันทร์หน้าเพราะจะมีประชุมแผนก และผมอาจจะได้งานตัวใหม่มานั่งเครียด ซึ่งมันก็เหลืออยู่แค่4วัน  และสุดท้ายผมนั่งคิดไปคิดมา ผมตัดสินใจเลือกแหวนเป็นเป้าหมาย เพราะตัวเลือกแบบเด็กไซด์ไลน์ ที่ทั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่มีเงิน และมีตัวเลือกเป็นร้อยเป็นพันคน  ทั้งหน้าตา หุ่น อายุ มีให้เลือกตาม
เกรตได้ด้วยราคา  แต่ผมไม่เคยรู้สึกอิน ในชีวิตผมน้อยครั้งที่จะใช้บริการ  โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่า เด็กไม่ได้รู้สึกอยากจะร่วมเพศ หรือมีอารมณ์อยากกับเราจริงๆ  เพราะมันเป็นแค่งาน ส่วนคนอื่นไม่รู้แต่มันไม่ใช่จริตผม  และที่ทำให้ผมตัดสินใจอยากเลือกแหวน เพราะผมอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง  ว่าสิ่งที่ผมได้ยินมา มันจะจริงแค่ใหนกับภาพที่ผมเคยเห็น  สุดท้ายจะได้หรือไม่ได้อะไรเลย ก็ช่างมัน
............พอวันรุ่งเช้าอีกวัน ซึ่งเป็นวันศุกร์ต้นเดือน9 ในช่วงเวลาสายๆ ผมก็ลองโทรหาแหวนจากเบอร์ที่ผมเคยเมมไว้  ในขณะที่ผมโทรไม่กี่ตื๊ด แหวนก็รับสายทันที โดยที่เธอถามว่าใครโทรมา ผมจึงรีบแนะนำตัวผมไป และพอแหวนได้ยินก็รีบพูดว่า " อ้าว พี่เองรึค๊ะ  แหวนจำพี่ได้ค๊ะ " ตอนนั้นผมโล่งใจเลยที่เธอจำผมได้  (เพราะผมไม่เคยโทรหาเธอ และคราวก่อนก็เชื่อมไปถึงเธอผ่านอร)  และในขณะที่คุยกัน  ผมก็ถามพวกเรื่องทั่วไๆป ว่าเธอสบายดีใหม? จนกระทั่งแหวนได้ถามกลับผมว่า ผมมีอะไรถึงโทรมาหาเธอ ตอนนั้นผมก็แกล้งทำฟรอร์มตอบเธอไปว่า ผมว่างเลยอยากจะชวนไปหาอะไรทานเหมือนเดิม และครั้งนี้ผมขอเลี้ยงแต่ผมติดต่ออรไม่ได้ เลยจะชวนแหวนแทน พอแหวนได้ยินแบบนั้นเธอก็เงียบไปซักพัก (ทำเสียง อ่อ ออ เหมือนฉุดคิด) แล้วตอบผมกลับว่าผมจะนัดวันใหน ที่ใหน ......โอ้วววครับ.....คำตอบที่ได้ลุ้น  ผมจึงรีบตอบเธอกลับไปว่าเย็นนี้เลย  แหวนก็ตอบตกลงผมทันที (ง่ายกว่าที่ผมคิด) แต่แหวนก็ได้บอกผมว่าเธอไม่ได้พักที่ห้องที่เดิม  ย้ายมาพักที่บ้านญาติแถวรามอินทรา และที่ทำงานเธอไม่ได้อยู่ที่เดิม ไม่สะดวกไปเจอที่เดิมแล้ว (เธอย้ายเขตอู่รถ ย้ายสาย ผมเดาว่าน่าจะหนีจากเรื่องนั้น )  ในตอนนั้นผมจึงอาสาที่จะไปรับเธอที่อู่รถเมย์เธอ และค่อยคิดจะไปกินที่ใหน โดยที่แหวนก็ตกลง เธอบอกเลิกงาน4โมงเย็น แต่นัดกับผมเวลา 5โมงเย็น  และก่อนจะวางสายแหวนก็พูดขึ้นมาว่า " แหวนขอถามหน่อย วันนี้แค่ไปกินไปดื่มเฉยๆใช่ใหม?ค๊ะ" ผมได้ยินผมไม่ตอบตรงๆ ผมก็หัวเราะกลับแทน และตัวแหวนเองก็หัวเราะตาม (มีลุ้นเลย) จากนั้นก่อนจะวางสาย ผมก็ขอแลกไลน์เธอ
.............หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลา ที่ผมนั่งมองเวลาที่โต๊ะทำงานลุ้นให้ถึงเวลาสักบ่าย3 ผมก็จะลาไป 3ซม พร้อมกับเตรียมตัวพกถุงไปพร้อม จนกระทั้งถึงเวลาผมจึงขับรถออกไป ซึ่งอู่ที่นัดก็อยู่นอกเมืองพอมาสมควร ไกลจากที่เดิมไปแยอะเลย และพอผมไปถึงผมก็ไปจอดรถด้านนอกชิดรั้วอู่ ห่างจากประตูทางเข้าประมาณ 10เมตร  และรีบพิมพ์ไลน์ส่งหาแหวนทันที และแหวนเองก็ได้ตอบกลับโดยให้ผมเดินเข้ามาหาเธอในอู่รถเมย์ได้เลย  ในจังหวะที่ผมเดินเข้าไป ซึ่งตรงนั้นก็เป็นอู่รถพื้นที่กว้างระดับหนึ่ง และมีรถจอดแยอะพอสมควร  ระว่างผมเดินเข้าไป ก็มีพวกพนักงาน ขสมก. ก็มองมาที่ผม (เพราะไม่เคยเห็นหน้าผมมาก่อน )  เท่าที่ผมมองดูจริงๆที่เดินผ่านผมไป โดยเฉพาะพนักงาน ขสมก. ที่เป็นผู้หญิง ก็มีหน้าตาและรูปร่างหลากหลายมาก มีทั้งหน้าตาบ้านๆ  บ้างคนก็ดูดี ดูสวย แถมหุ่นดี และก็มีทั้งสาววัยรุ่น สาวใหญ่ รวมไปถึงพวกแก่ๆ  ตอนนั้นส่วนมากก็เริ่มพากันทยอยกลับบ้าน ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่ขับมอร์เตอร์ไซค์  บางคนก็กลับเป็นคู่ผัวเมีย  บางคนก็กลับคนเดียว  ที่เหลือตรงนั้นก็มีไม่เกิน15คน  จนกระทั้งแหวน ที่นั่งอยู่ก็รีบลุกขึ้นยืนโบกมือเรียกผมเข้าไป ซึ่งตรงนั้นก็มีพนักงาน ประมาณ7-8คน
..............วินาทีที่ผมไปถึง แหวนเธอยืนยิ้มหวานให้ผมก็รีบยิ้มตอบกลับ  และที่สำคัญภาพที่ผมเห็นแหวนหลังจากไม่เห็นมา5 เดือนกว่า....โอ้ววว...ครับ จากสายตาที่ผมมอง แหวนดูเปลี่ยนไปแยอะพอสมควร  เริ่มจากทรงผมที่เคยไว้ยาวด้านหลัง แล้วตัดหน้าม้าปิดคิ้ว  กลายเป็นปล่อยให้ผมหน้ายาว แล้วรวบรวบปลายผมด้านหน้า มัดจุกรัดตึงไปด้านหลัง แบบเปิดโชว์หน้าผาก จากใบหน้าใหญ่กลมกลายเป็นทรงหน้าเรียวขึ้น แต่จมูกยังโด่งเป็นแท่งจากเสริมมา (เหมือนเธอจะไปโมหน้า ฉีดหน้าผากและเสริมคางมาใหม่) ซึ่งดูแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสวยแบบเป็นคนละคน   แต่มององค์ประกอบ รวมๆเธอดูดีขึ้นจากเดิมแยอะ ดูทรงมั่นขึ้น  และที่สำคัญจากคนที่รูปร่างที่ดูตัวใหญ่ดูไม่ค่อยมีทรวดทรง  กลายเป็นเนื้อตัวกระชับ ดูแน่น มีส่วนเว้าส่วนโค้ง และบางส่วนมีขนาดที่เล็กลงจากที่มองเห็นอย่างชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะช่วงขอดเอว และหน้าท้อง รวมทั้งส่วนต้นแขนต้นขาดูเล็กลง แม้ว่าส่วนหัวไหล่ และส่วนที่ต่ำกว่าเอวช่วงสะโพกยังคงดูใหญ่ แต่เธอสูงเกิน165 เลยมองดูสมส่วน และที่จุดเด่นเธอที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คือ แหวนมีผิวตัวที่ขาวจั๊วะ (ขาวออร่า) 
...........ในตอนนั้นเธอใส่ชุดยูนิฟอร์มทำงาน  เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นใส่ทับใน ไซน์เสื้อขนาดเข้ารูป รัดตัวรัดหน้าท้องและสีข้างลำตัว รวมทั้งรัดแน่นที่สองเต้านมขนาดใหญ่ๆของเธอ (สองเต้านมดันเสื้อเห็นเป็นลูกๆ) ส่วนบนเสื้อก็ติดเครื่องหมาย บั้งสีดำขีดสีเงินติดบนสองบ่า รวมไปถึงเครื่องหมายแพรแถบและป้ายชื่อบนหน้าอก เหนือสองกระเป๋าเสื้อ  และยิ่งไปกว่านั้น ส่วนด้านล่างซึ่งผมมองว่ามันทำให้เธอดูน่ามองมากขึ้นไปอีก   ซี่งแหวนใส่เป็นกางเกงผ้าขายาวใส่ทับเสื้อขาว กางเกงเป็นสีกลมท่าอมม่วงผ้าซีดๆรอยรีดเงาๆ  เนื้อผ้ายืดและบาง  เป็นกางเกงแบบทรงเอวต่ำเป้าสั้น ทรงสอบรัดเข้ารูป ซึ่งขากางเกงรัดตั้งช่วงน่องขาขึ้นไป จนถึงสุดโคลนต้นขาอวบๆ (แน่นฟิต เปรี๊ยะ) และส่วนบริเวณด้านหน้า ตรงง่ามขาเหนือขึ้นไปที่เป้าซีป ได้ถูกเป้ากางเกงที่รัดตึงแนบตามส่วนโค้งนูนของโหนกหน้าท้อง ไปจนถึงขอบหูกางเกงช่วงบริเวณส่วนโค้งที่ใหญ่สุดของสะโพก และมีเข็มขัดหัวสีเงินรัดแน่น ส่วนมองทางด้านหลังเห็นเป็นสองง่ามตูดที่ถูกกางเกงดึงและรั้ง จนเป็นแนวเส้นแบ่งของง่ามตูดขนาดใหญ่ โดยมีสองแก้มก้นห้อยลงมา และนอกจากรอยชายเสื้อที่ใส่ทับใน ต่ำลงมาก็เห็นเป็นแนวเส้นของขอบกางเกงใน ที่นูนขึ้นมาบริเวณเหนือแก้มก้น  ชัดเจนมาก  ผมมองเห็นครั้งแรก ตัวผมเองถึงกับกลืนน้ำลายเพราะมีอารมณ์ตาม  (วินาทีนั้น ถ้าให้เลือกระหว่างอร กับแหวนผมคงเลือกแหวนแบบไม่คิดมาก)
.............ในระหว่างที่ผมยืนทักทายพูดคุยกับแหวนเสร็จ เราสองคนก็นั้งลงโดยที่ผมเองได้ก้าวไปนั่ง ชิดกับอรทางขวามือเธอ (และสิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้เลย นั่นคือกลิ่นน้ำหอมจากตัวแหวน ซึ่งมันหอมมาก) ส่วนตรงที่นั่งจะเป็นโต๊ะไม้ม้านั่งยาว แบบโรงอาหาร(นั่งได้ข้างละ3คน) ซึ่งในตรงนั้นก็มีพนักงาน นั่งๆลุกๆและเดินไป-มา ส่วนที่เหลือก็นั่งพูดคุยกันอยู่ในกลุ่มเดียวกันมี5 คนรวมตัวผมเป็น6คน  จากนั่นแหวนก็ได้รีบแนะนำพวกเพื่อนๆในกลุ่มให้ผมได้รู้จัก  โดยเริ่มจากพนักงานผู้ชายซื่อพี่ดวง ตัวเตี้ยหุ่นท้วมๆ สูงน่าจะ160ต้นๆ  หัวโล้นแบบไข่ดาว เป็นคนขับรถเมย์คู่แหวน (ที่แหวนเรียกป๋า )ซึ่งนั่งข้างๆตัวแหวนฝั่งด้านซ้ายมือเธอ  ส่วนผู้ชายอีกคนชื่อหนุ่ม อายุน่าจะเท่าๆผม40ต้นๆ ตัวผอมสูง หุ่นใหญ่ สูงน่าจะเกิน175 ผมหยักโศก ก็นั่งตรงข้ามผมสามคน และก็มีพนักงานผู้หญิงอีกสองคน คนหนึ่งชื่อแอน (เป็นเมียคนชื่อหนุ่ม) ตัวเล็กและผอม ช่วงเอวน่าจะ23-24 สูงไม่น่าเกิน158 ผมสั้น ดัดฟัน  อายุรุ่นเดียวกับแหวน และอีกคนเป็นสาวใหญ่ ชื่อพี่นาง แต่แหวนจะเรียกว่าน้า อายุน่าจะปาไปเกือบๆ40ปลายหรือไม่ก็น่าจะ50ต้นๆ  แต่รูปร่างดี  ช่วงเอวนะจะ 28 ส่วนสะโพกก็น่าจะ36-37 และสูงไม่เกิน162  ผิวตัวขาว ซึ่งดูจากภายนอก เธอเหมือนจะเป็นคนดูแลตัวเองได้ดี  และจะเป็นผู้หญิงออกแนวดูเปรี้ยว และดูทรงออกจะเซ็กซี่นิดๆ  ดูจาการแต่งหน้าทาปากที่จัด ไว้ทรง บ๊อบสั้นย้อมผมสีทองทั้งหัว และใส่แว่นสายตากลมเรียบๆ  (ถ้าเป็นช่วงสาวๆเธอน่าจะดูดี ดูสวยเลย)  และใส่กระโปรงค่อนข้างจะสั่นกว่าปกติของพนักงานทั่วไป   โดยที่ผู้หญิงสองคนนั้น ได้นั่งอยู่อีกโต๊ะถัดไปห่างกันเมตรกว่า แต่นั่งในแบบหันหน้ามาที่โต๊ะผม เอาหลังพิงโต๊ะ 
............ในระหว่างที่นั่งอยู่ แหวนก็หันมากระซิบกับผมว่าเกิด accident นิดหน่อย ยังออกไปกับผมไม่ได้เพราะว่าเธอฝากกระเป๋าเป้ ที่รถกะบะ ขอสองผัวเมียที่เธอไปซื้อของด้วยกัน ตั้งแต่เมื่อวานลืมเอากลับ  และตอนนี้รถเมย์สองคนนั้นยังเสียอยู่กลางทาง  โดยที่แหวนบอกว่าต้องรออีกซักพักเพราะเขากำลังแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งผมในตอนนั้น แม้จะกระสั่นอยากจะพาเธอไปเร็วๆ  แต่ผมยังคิดว่ายังมีเวลา ผมก็ตอบกลับว่าผมรอได้  และในตอนนั้นระหว่างนั่งคุยกันได้ซักพัก ผู้หญิงชื่อแอนก็สงสัย และพยามถามแหวนว่าผมคือใคร  และแหวนเองก็รู้งาน แหวนได้บอกกับทุกคนว่า ผมคือพี่ชาย สมัยทำงานที่ห้างตอนเข้ากรุงเทพมาใหม่ๆ แต่น้ำเสียงและคำพูดแหวนที่พูดไปยิ้มไป ทำให้4คนนั้น ยิ่งสงสัย แต่ก็ไม่มีใครถามต่อ  และระหว่างนั่นก็คุยกันปกติ ส่วนมาก5คนจะคุยกัน ผมก็แค่นั่งฟังมากกว่า
.............และช่วงจังหวะที่นั่งคุยกันอยู่  ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวแหวนเอง จากเมื่อก่อนที่ผมมองว่า เธอเป็นคนพูดน้อย  และทำตัวเงียบๆ ไม่ชอบทำตัวโดดเด่น แต่ในตรงนั้นผมนั่งแค่ไม่ถึง10นาที ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม ตัวแหวนเอง กลายเป็นคนละคน เธอกลับกลายเป็นคนคุยเก่ง  พูดเสียงดัง  อากัปกิริยาเหมือนคนที่ชอบแสดงออก   และที่สำคัญแหวน มักจะหันไปทักและหยอกล้อกับพนักงานทุกคนที่เดินผ่าน (โดยเฉพาะผู้ชาย) ต่างจากที่ผมเคยเห็นมา (ฟ้ากับเหว) และพนักงานผู้ชายแต่ละคน ที่เดินผ่านเข้ามาทักทายคุยกับแหวน  บางคนเข้ามายืนคุยแล้วยกมือขึ้นมาจับบ่าจับไหล่แหวน พร้อมกับขยับฝ่ามือนวดคลึงที่ไหล่เธอ  บางคนก็เดินผ่านมาก็เอามือมาจี้ที่เอวเธอ เดินวนแล้วทำอยู่2-3รอบ  และที่ดูแรงไปกว่านั้น จังหวะที่พนักชายงานบางคน เดินเข้ามาจากทางด้านหลังแหวน แล้วใช้สองมือคล้องไปที่คอแหวนแบบหลวมๆโดยมือล่างแทบจะวางบนเนินหน้าอกเต้านมเธอ  พร้อมกับยืนคุยแล้วดันแผ่นหลังแหวนเข้ามาแนบกับเป้ากางเกง...ภาพที่เห็นมันชัดเจนมาก...(ว่าตั้งใจทำ)...โอ้วววครับ....ผมได้แต่นั่งมองแบบทั้งอึ้งและงงมาก 
..........และสิ่งตอกย้ำความช๊อกของผมขึ้นไปอีก จังหวะที่แหวนลุกขึ้นจากม้านั่ง เพื่อไปเครียร์ตั๋วกับนายท่า ที่ห่างจากโต๊ะที่ผมนั่งประมาณ5เมตร  ในขณะที่ผมก็พยายามหันไปมองที่แหวนตลอดๆ  ในขณะที่แหวนกำลังยืนก้มโค้งโก่งตูด เอาหน้ายื่นไปคุยที่ช่องกระจกกับคนในห้อง  และในขณะเดียวกัน  อยู่ๆพนักงานผู้ชายคนเดิม (คนที่เดินเอามือมาจี้ที่เอวเธอก่อนหน้านั้น)  ได้เดินเข้าไปหาแหวน พร้อมกับเอามือสองข้างสอดเข้าไปโอบรัด กอดที่บริเวณช่วงเอวแหวนจากทางด้านหลัง (ทำเหมือนจะยกแหวนเหวี่ยงเล่น) และในท่าจังหวะนั้น ส่วนของบริเวณเป้าควยก็ได้แนบไปที่ง่ามก้นใหญ่ๆของแหวน  โดยที่แหวนเองได้หันกลับมาพูดว่า " ไอ้บ้า!! นี่พี่!!ปล่อยน่ะ น้องติดคุยงานอยู่  ปล่อยนะ!! ปล่อยยยย "  โอ้ววครับ....แทนที่แหวนจะโกรธหรือโมโหกลับทำเหมือนว่าดูเป็นเรื่องล้อเล่น  แถมปล่อยให้กอดแบบนั้น ท่านั้น อยู่หลายวินาที  แหวนถึงจะดิ้นสบัดตัวออก แล้ววิ่งไล่เอามือทุบตีคนนั้น  และและยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่แหวนเดินกลับมาที่โต๊ะ  ในจังหวะที่แหวนก้าวขาซ้ายสอดเข้าม้านั่ง และกำลังจะยกขาขวาสอดเข้ามาตาม  อยู่ๆผู้ชายคนเดิมที่เพิ่งกอดรัดเอวเธอไม่กี่นาทีได้เดินตามมา แล้วใช้ผ่ามือซ้ายยกมาตบไปที่ตูดด้านขวาของแหวน เสียงดังเพรี้ย!! (เน้นๆ)...แหวนหันไปจะยกมือไปทุบตีคืน  กลับถูกพนักงานผู้ชายคนนั้นจับมือแหวนไว้  แล้วพูดขึ้นว่า " เอาชิ!! ตีอีกชิแน่จริง...ถ้าเองตีพี่อีกที คราวนี้พี่จะหอมแก้มน่ะ  เอาแบบตบจูบ ตบจูบ แบบในหนังเลยเอามั้ย!!!! (แล้วหัวเราะ)  " โดยที่แหวนเองก็รีบสบัดดึงมือออก  แล้วพูดทีเล่นที่จริงว่า " จำไว้เลยนะ เดี๋ยวเมียพี่มา หนูจะฟ้องเมียพี่ว่าพี่มาตีก้นหนู เดี่ยวๆก่อนๆ โดนแน่" ในวินาทีนั้น.....แม่เจ้า.....จังหวะนั้น ไม่ใช่แค่ผมแปลกใจที่เห็นแหวนถูกตีตูดเล่น.....แต่ในจังหวะตอนนั้นทุกคนที่นั่งอยู่ 4 คนรอบๆตัวผม กลับพากันขำหัวเราะกันลั่น......เหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
............ในห้วงเวลาที่ผมนั่งดูมาตลอด ผมไม่ได้ติดใจหรือจะไปหึงหวง เพราะผมเองไม่ใช่แฟนหรือกำลังคบกับแหวน แต่ผมมาเพื่อจุดประสงค์เดียว "หวังเย็ด"  แต่สิ่งที่ผมก็มีคำถามในหัว จากสิ่งที่ผมเห็นว่าจริงๆ มันคืออะไร ซึ่งผมนั่งคิดได้3แบบ และแบบแรกมัน ก็แค่การหยอกล้อ จับเนื้อต้องตัว เป็นเรื่องปกติ พี่ๆน้องๆ ของคนในสังคมที่นี้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับหลายๆคน ไม่ใช่แค่แหวน แต่ผมไม่ได้มานั่งมองทั้งวัน  ส่วนแบบที่สองตัวแหวนอาจจะเป็นคนที่ไม่คิดอะไรเลยจริงๆ และพนักงานผู้ชายที่นี่ก็รู้ว่าเธอโสด ยิ่งพอรู้ว่าแหวนเล่นได้ไม่ได้ว่าหรือหวงตัว  ผู้ชายที่ใหนก็อยาก จะจับ อยากจะกอด มาลูบ มาคลำของฟรี มันมีแต่กำไรกันทั้งนั้น  และในแบบสุดท้าย อาจจะมีใครซักคนในนั้น  ที่เดินเข้ามาหยอกล้อเธอ อาจจะเคยถึงขั้นที่ได้เย็ดเธอก็เป็นไปได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้  ในระหว่างนั้นที่นั่งอยู่นั้น ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร  จนกระทั้งพี่กรแกก็ลุกขึ้นไปและหายไปซักพัก แล้วเดินกลับมาพร้อมกับเบียร์ลีโอกระป๋อง12 ป๋อง  แบ่งคนในโต๊ะได้คนละ2กระป๋อง พร้อมกับถุงคอหมูย่าง ซึ่งที่พี่ดวงเลี้ยงเพราะแกเพิ่งถูหวยออนไลน์มา และแกก็ให้เหตุผลกับทักคนว่า เป็นการเลี้ยงเพราะผมเป็นแขก
............ในระหว่างนั้นผม6 คนก็ได้นั่งยกเบียร์ พูดคุยกัน เพราะในช่วงระหว่างนั้นที่อู่ก็เริ่มเงียบ เพราะหลายๆคนก็เริ่มจะกลับ และออกรถตามคิวไป เหลือก็แค่ในกลุ่ม และพนักงานอีก2-3คนที่อยู่ระแวกนั้น ในระว่างที่นั้งดื่มกันอยู่ ผมรู้สึกได้ว่าผมได้รับความสนใจ จากผู้หญิงสองคน แอนและพี่นางมากเป็นพิเศษ อาจจะเพราะผมคือแปลกถิ่น โดยที่2คนก็รุมพลัดกันถามว่าผมทำงานอะไรพักที่ใหน รู้จักกับแหวนยังไง ซึ่งผมก็ตอบกลับทั้งจริงและก็โกหก และที่สำคัญตัวแหวนเองก็เริ่มแสดง อาการเจ้าข้าวเจ้าของกับผมมากขึ้น โดยการจิ้มป้อนคอหมูย่างป้อนให้ผมกิน ซึ่งในช่วงเวลานั้นตัวผมเองก็รู้สึกเพลินกับการร่วมวง สนทนากับ5คนนั้น  จนกระทั้งมีสายโทรเข้ามาหาแหวน โดยเป็นคนที่แหวนนั่งรอเอาของ  และได้บอกกับแหวนว่าของในรถพรุ่งนี้ค่อยมาเอา เพราะสองคนนั้นจะนั่งแท็กซี่กลับเลย เพราะรถซ่อมยังไม่เสร็จ  โดยที่แหวนเองหันมาถามผมว่าจะเอายังไง ในตอนนั้นความรู้สึกผมกำลังติดลมกับตรงนั้น และไม่อยากจะไปเสียเวลา  เพราะจริงๆเรื่องกินผมไม่ซีเรียส จะกินตรงใหนก็ได้ประหยัดได้ก็ดี แต่ตอนเวลากลับนั่นคือเป้าหมายผมแต่แรก ผมจึงบอกกับแหวนว่า หาที่นั่งดื่มแถวนี้ก็ได้ แต่ต้องกลับผมจะไปส่งเธอเอง  โดยที่แหวนก็พยักหน้าตกลง ตามที่ผมบอก  และจังหวะที่พี่ดวงได้ยินที่ผมคุยกับแหวน ก็รีบพูดขึ้นว่า ให้ผมกับแหวนลองไปที่แถวข้างๆตลาด มีร้านขายของชำร้านที่แกซื้อเพิ่งเบียร์มาก็ได้ และก็เป็นร้านตามสั่งด้วย
.............จากนั้นผมก็รีบกระดกเบียร์ที่เหลือ เพื่อจะลุกออกไป เพราะเวลาก็เลย6โมงกว่าแล้ว ในตอนนั้นผมก็เอ่ยปากชวนอีก4 คนไปด้วย  เหตุผลที่ผมชวนเพราะทุกคนก็กำลังคุยสนุกกำลังติดลม และการไปนั่งกินหลายๆคนจะได้ไม่ดูน่าเบื่อ และทุกคนก็ได้ตอบตกลงจะไปด้วย เว้นแค่คู่2ผัวเมีย ซึ่งผมรู้สึกได้สักพักว่าหนุ่มมีอาการหึงเมีย  ซึ่งมันแสดงออกจากทางสายตา (ผมเห็นอาการตั้งแต่แอนชอบมาถามนั่น นี่กับผม) หนุ่มจึงขอตัวไม่ไปด้วยและจะพาแอนกลับเลย  จากนั้นที่เหลือ 4คน พี่ดวง พี่นาง แหวน และก็ผม ก็พากันเก็บของถือกระเป๋า และเดินไปที่ร้านท้ายตลาด ซึ่งห่างจากอู่ ไม่เกิน500เมตร  พอไปถึงซึ่งตรงนั้นจะเป็นตึกแถว เป็นร้านข้าวแกงเล็กๆ  ที่มีที่นั่งในร้านแค่ 4โต๊ะ และซึ่งในข้างในร้านตรงนั้นก็มีพนักงาน ขสมก. อีกกลุ่ม และคนทำงานที่อื่นมานั่งกินเต็มร้านแล้ว  พี่ดวงเลยถามผม3 คนว่า  ถ้านั่งด้านนอกได้ใหม?  เพราะแกสนิทกับเจ้าของร้าน เดี๋ยวเขามีโต๊ะเสริมให้  ซึ่งทุกคนก็ไม่ติด ในตอนนั้นอะไรก็ได้ (ใหนๆก็มาแล้ว) แต่พี่ดวงก็ได้บอกว่า ข้อเสียของร้านนี้คือปิดเร็วเต็มที่ไม่เกิน3ทุ่ม ส่วนมากจะ2ทุ่มกว่าๆเพราะจริงร้านนี้ขายข้าวเป็นหลัก 
.........ในระหว่างนั้น ทางร้านก็ให้พวกผม4คน มานั่งตรงช่องว่างกำแพงระหว่างตึกร้านข้าว กับตึกข้างๆ ซึ่งเป็นที่กลับรถแต่ตอนนั้นกลายเป็นที่วางพวก กระถางต้นไม้เลื้อย ไม่ประดับ และก็มีรถที่จอดคลุมผ้าไว้เพราะไม่ได้ขับ จอดอยู่ด้านในสุด  โดยมีพื่นเหลือ หน้ากว้างเกือบๆ2เมตร แต่ลึกยาวเกือบๆเท่าช่วงตึกหักจากรถที่จอดก็เกิน5เมตร และตรงนั้นก็มีแสงไฟสว่างมากพอ เพราะมีไฟติดข้างพนังด้านนอก 4 จุด (รวมสองฝั่งตึก) โดยตอนนั้นโต๊ะเสริม จะเป็นเก้าอี้พลาสติกทั้วไป ที่มีพนักหลังพิงส่วนของโต๊ะกลางจะเป็นโต๊ะไม้ระแนงพับ ได้ กว้างยาวประมาณ60ซม. และสูงแค่60ซม.จากพื้น แต่ก็เพียงพอที่จะวางกับแก้ม และแก้วเบียร์พร้อมกับเหยือกน้ำแข็งได้ แม้ทุกอย่างจะดูลูกทุ่งแต่ส่วนตัวผมไม่ได้ซีเรียส ตอนนั้นผมก็นั่งคู่กับแหวนหันหลังให้กำแพงตึกอีกฝั่ง ส่วนอีกสองคนพี่ดวงกับพี่นาง ก็นั่งคู่กันหันหลังให้กระถางไม้ประดับ 
............ในระหว่างที่นั่งเสริมทุกอย่างลงตัว พี่ดวงก็สั่งเบียร์ครั้งละ3ขวด และแก้ม3-4 อย่างให้ที่ร้านค่อยๆทยอยมาเสิร์ฟ  และในวงก็เริ่มดื่มเริ่มพูดคุยกัน ซึ่งพอเวลาผ่านไป ผมเองกลับรู้สึกสนุกกับตรงนั้น เพราะในการสนทนาส่วนมาก จะเป็นเรื่องการทำงานของคนที่นั่น และแฝงกับการนินทา  พนักงานคนอื่นๆ คนนั้นคนนี้  นิสัยยังไง ใครชอบใครเป็นชู้ใคร  ผมรู้สึกว่าผมได้มารู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้ขึ้นแยอะขึ้น (ผมชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน) และที่สำคัญตัวพี่ดวงแกเล่าสนุก ตัวเสริมแบบพี่นางและแหวนก็ขยี้เรื่องอีกที  และผมก็ได้มารู้อีกทีว่าพี่ดวงอายุ 55ปีแล้ว และพี่นางก็ 50ย่างจะเข้า51 ปี และยิ่งไปกว่านั่น สิ่งที่ทำเอาผมอึ้งขึ้นไปอีก เพราะช่วงที่นินทา เฉียดไปถึงคนชื่อหนุ่มกับเมียสาวชื่อแอน ที่เพิ่งแยกวงกันในอู่  ผมเพิ่งได้รู้ว่า นอกจากพี่นางเป็นแม่ม่ายลูก2คน แต่พี่นางยังเคยคบกับคนชื่อหนุ่มมาก่อน (คบกันมา1-2ปี) ก่อนที่เลิกกับกันได้2ปี แล้วหนุ่มถึงมาเจอกับแอนและคบกัน...โอ้ววครับ  ไอ้ที่ผมเพิ่งเห็น เมียเก่ากับเมียใหม่นั่งคู่กัน ถ้าไม่บอกผมก็ไม่รู้จริงๆ  พอผมฟังๆจากที่พี่นางพูดเล่ามา และท่าทางของเธอ ดูเหมือนเธอก็ไม่ได้ซีเรียส  อยากไปก็ไป หมดรักก็จบ เพราะเธอผ่านอะไรๆมาก่อน และมีลูกติดแถมอายุเยอะ  ส่วนตัวหนุ่มแม้จะมีลูกติด1คนเหมือนกัน  แต่หนุ่มเป็นผู้ชายซึ่งอายุยังอีกไกล และแอนที่เป็นแฟนใหม่ก็อายุยังน้อย   แต่ทั้งสองคนนั้นก็จบด้วยดีและเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้โกรธอะไรกัน ภาพจึงเป็นแบบที่ผมและทุกคนตรงนั้นเห็น
............ในช่วงที่นั่งดื่มและนั่งคุยกัน จนเวลาผ่านไป1ซั่วโมง (เวลา1ทุ่มกว่า) ต่างคนก็ต่างเริ่มมีอาการมึนเมา จากการดื่ม (ช่วงหน้ากำลังตึงๆ)  และในช่วงเวลาตอนนั้น ตัวแหวนเองก็เริ่มจะแสดงออกกับผมชัดเจนขึ้น ด้วยการนั่งเอาแขนขวามาคล้องเกี่ยวที่แขนซ้ายผม(แบบคล้องแช่)โดยที่แขนซ้ายตรงข้อศอกผมก็ได้แนบสัมผัสไปกับหน้าอกเต้าใหญ่ๆของเธอแบบเต็มๆ (ทั้งใหญ่ ทั้งนุ่ม และทั้งแน่น) และแหวนก็มักจะโน้มตัวเอาปลายคางยื่นมาแนบค้างที่ไหล่ซ้ายผม เวลาตอนจะพูด จะคุย และตอบกับผม  ทำต่อหน้าต่อตาพี่ดวงกับพี่นาง  และสองคนก็นั่งมองดูตลอดแต่ไม่ได้พูดถามอะไร  และสิ่งที่แหวนทำส่วนตัวผมเองก็รู้สึกดี  และในขณะเดียวกันตัวพี่นางเองที่นั่งอยู่ตรงข้ามผม (ห่างจากตัวผมประมาณ1.20เมตร)  ซึ่งทุกครั้งในจังหวะที่เธอนั่งเอาขาลงจากการนั่งไขว้ห้าง ด้วยกระโปรงที่พี่นางใส่มันสั้นอยู่แล้ว และเธอก็ชอบนั่งแยกขาออกกว้าง(แบบที่นั่งแบะต้นขา)  ทำให้มองไปที่ช่องเปิดกระโปรงระหว่างสองต้นขา เห็นขาอ่อนขาวๆ รวมไปถึงปลายสามเหลี่ยมที่เป้าโผล่แทรกออกจากสองงามขา โดยมีกางเกงซับในขาสั้นกุดสีดำ ตะแขปขาลายลูกไม้ ที่ห่อหุ้มรัดแน่นที่เป้าและง่ามขา (ซึ่งจริงๆผมเคยเห็นแว๊บๆ ตอนนั้งอยู่ในอู่ แต่ตอนนี้ชัดเจนและใกล้ตาผมมาก) 
..........ตลอดช่วงที่ผมเหล่ตามองดูหวอพี่นาง  ถ้าไม่นับว่าเธอเป็นคนอายุ 50  และผมไม่เงยขึ้นมองหน้า ขนาดแบบมองทะลุแว่นสายตา ที่มีรอยตีนกาที่หางตานิดๆ กับเส้นแนวริ้วรอยหน่อยๆที่บนหน้าผาก แล้วมองแค่ตรงนั้น ตรงขาอ่อนขาวๆที่เนื้อหนังยังดูเต่งตึง และเป้าสามเหลี่ยมที่โหนกนูน  รวมไปถึงส่วนด้านบน บริเวณแพรแถบและป้ายชื่อบนสองกระเป๋าเสื้อ ที่มีสองเต้านมขนาดใหญ่กำลังดีที่โค้งนูนออกมา  ผมยอมรับตรงๆว่า ผมก็มีอารมณ์ตามในสิ่งที่ผมกำลังมองในสงวนของพี่นาง ...และในห้วงเวลาที่ผมนั่งดื่มนั่งสนทนากับ3คนตรงนั้น ....ตัวผมเองรู้สึกว่ามันคือ1ซั่วโมงที่มีความสูขมากจริงๆ  ทั้งกลิ่นน้ำหอมจากตัวแหวน  พร้อมกับต้นแขนและข้อศอกผมที่สัมผัสแนบไปกับเต้านมขนาดใหญ่ของแหวน...แถมยังได้มานั่งมองเป้าเจ๊นางอีก....ผมรู้สึกทั้งฟิน...และทั้งเงี่ยน.....ตรงกันข้ามกับพี่ดวงที่นั่งข้างๆพี่นาง ที่มัวแต่นั่งดื่มนั่งโม้
............พอเวลาผ่านไปเกือบจะ2ทุ่ม ผม3คนก็เริ่มจะขยับตัวน้อยลง  มีแต่พี่ดวงที่ยังคงนั่งพูดเสียงดังและยังยกแก้วมากว่าเพื่อน.....และที่สำคัญตัวแหวนจากที่นั่งคล้องมือผม ก็ได้ขยับเก้าอี้มานั่งชิดแนบติดตัวผม พร้อมกับนั่งเอียงตัวเอาหัวโน้มมาซบค้างที่ไหล่ซ้ายผม  (ในช่วงเวลาที่แอลกอฮอล์ขึ้นสมอง เธอไม่จำเป็นต้องมานั่งเหนียมต่อไป) และในขณะเดียวกัน  สิ่งผมเองไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นและไม่คิดว่าจะได้มาเจออะไรแบบนั้น ในขณะที่นั่งกันอยู่ ตัวผมเอง นอกจากจะเอียงหน้าคุยกับแหวนและสองคนที่นั่งตรงข้าม  สายตาผมก็จะพยามเหล่มองที่ช่องระหว่างขาพี่นางตลอด จนกระทั้งจังหวะที่ผมเหล่สายตาไปมองแบบเดิม ในขณะที่พี่นางเองก็หันสบตาผม และเหมือนเธอรู้ตัวแล้วว่า ผมแอบมองที่เป้าหีเธอ...(จังหวะนั่นผมพลาด)....และพี่นางเธอก็นั่งจ้องหน้าผมอยู่หลายวินาที  (ทำเอาผมทำตัวไม่ถูก) จากนั้นพี่นางก็หันหน้าไปคุยต่อ....และสิ่งที่ทำผมช๊อกมากขึ้นไปอีก  นอกจากพี่นางทำเป็นว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เธอยังเลื่อนตัวมาด้านหน้าขยับให้ก้นอยู่บริเวณปลายเก้าอี้  พร้อมกับเธอตั้งใจขยับฉีกขาออกกว้าง (ถ่างขาเปิดอ้าซ่า) และยังทำแบบเนียนๆโดยที่หน้ายังหันไปคุยกับพี่ดวงกับแหวน......โอ้วววครับ.....ภาพตรงหน้าผม  ตรงกลางเป้าสามเหลี่ยมพี่นาง ที่รัดแน่นกางเกงซับในโผล่ออกมาทั้งโหนก จากสองง่ามขา แบบไม่มีอะไรมาปิดอีกต่อไป....พี่นางเธอตั้งใจโชว์ผมแบบชัดเจนมาก
.........ในช่วงเวลาที่พี่นางตั้งใจนั่งถ่างขาโชว์เป้าให้ผมมอง  โดยระหว่างที่เธอตั้งใจปล่อยให้ผมนั่งส่องอยู่แบบนั้น ตัวพี่นางเองก็ได้มีการแอบเหล่สายตา มองกลับมาที่ผม  เราสองคนสบตากัน และในจังหวะที่นั่งสบตากันผมก็เลื่อนสายตา มองลงไปดูที่เป้าหีเธอตรงๆ ต่อหน้าต่อตาเธอ แบบให้เธอรู้ไปเลย.....ในขณะที่ผมได้แสดงออกให้เธอรู้ตรงๆ ว่าผมกำลังมองในสิ่งที่เธอกำลังโชว์  พี่นางเองก็ยิ่งพยามจะยั่วผมขึ้นไปอีก โดยการที่ทำเนียน หันหน้าไปคุยกับแหวนและพี่ดวง ในระว่างที่ปากเธอพูด มือซ้ายเธอก็ยกขึ้นมาจับชายเสื้อเชิ๊ตขาว ที่เป็นเสื้อแบบใส่ทับนอกเอวจั้ม (เสื้อทรงซาฟารี) โดยที่ใช้มือซ้ายเลิกชายเสื้อขึ้น บริเวณสีข้างลำตัวด้านซ้าย แล้วดันขึ้นสูงจนเห็นครึ่งล่างของเต้านมด้านซ้าย ที่มียกทรงสีดำรัดแน่นอยู่ แล้วเธอแกล้งเอามือซ้ายเกาที่สีข้างลำตัวทำแบบเนียนๆ.....แม่เจ้า.....ทั้งนมนั้วผิวตัวที่ขาว เธอทำเอาผมใจสั่นมาก....และพอพี่นางหันกลับ และก็เห็นว่าผมจ้องมองตามตลอด.....จากนั้นพี่นางก็ยิ้มหวานให้ผม  พร้อมกับยกแก้มขอชนแก้มกับผม  แล้วเธอก็หันแก้วไปชนกับอีกสองคน (เพื่อจะได้ไม่มีใครสงสัย)  .............ซึ่งทุกอย่างในตอนนั้น...มีแค่ผมกับพี่นางเท่านั้น ที่รู้ว่ามันคืออะไร  ในมุมพี่ดวงตัดไปได้เลยนอกจากการนั่งข้างตัวพี่นางซึ่งมุมมันไม่ได้ และแกเองก็ไม่ได้สนใจอะไร นอกจากจะพยามนั่งดื่ม นั่งบ่น และนั่งโม้ และส่วนตัวแหวนเอง ที่จริงเธอก็คงจะมองเห็นในแบบที่ผมเห็นทุกอย่าง เพราะเธอก็นั่งติดกับผม และเอาหัวมาซบไหล่ผมตลอด แต่ด้วยเพราะความคุ้นชิน และเป็นผู้หญิงด้วยกัน  และพี่นางอาจจะนั่งแบบนั้นให้เห็นตลอด และที่สำคัญแหวนเธอคงไม่คิดว่าคนอายุขนาดนั้น(อายุ50 )ผมก็คงจะไม่สนใจมอง...หรือแม้กระทั้งเธอไม่คิดว่า ตัวพี่นางเองจะตั้งใจนั่งเพื่อยั่วผมแบบนั่น....แต่มันกลับตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกเงี่ยนจนควยแข็งโด่กับสิ่งที่เห็น และพี่นางพยามทำให้เห็นแบบตั้งใจชะด้วย  และมันทำให้ภาพในหัวผม flash back  ย้อนกลับไปคิดถึงครั้งที่แล้วเมื่อ 4-5 เดือนก่อน ที่ผมได้มีเซ็กแบบแซนวิชกับอรและแหวนแบบงงๆ ภาพนั้นโผล่มาในหัวผมทันที แต่ความเป็นจริงผมยอมรับว่ามันคงเกิดขึ้นยาก เพราะสถานะการณ์  โอกาส สภาพแวดล้อม  นิสัยบุคคลซึ่งมันต่างกันมาก  เพราะครั้งที่แล้วอรเป็นตัวหลัก และเชื่อมให้แหวนติดกับภาวะจำยอม แต่ในตอนนี้ถ้าเป็นแหวน ก็คงไม่ยอมให้ทำแบบนั่นแน่ๆ  เพราะท่านี้ตอนนี้แหวนก็แทบจะไม่ปล่อยผม เธอคงแค่รอเวลาเท่านั่น 
................พอเวลาผ่านไปจนกระทั่ง2ทุ่ม45  ผมและ3คนก็ยังนั่งดื่มกันอยู่ โดยที่มือผมก็เริ่มโอบที่เอวแหวน และส่วนผมกับพี่นาง ก็แอบเหล่มองกันและกันตลอด แต่พี่นางก็เริ่มหุบขาแคบลงบ้าง  และในช่วงเวลานั่น จริงๆถ้าเป็นมันเป็นร้านที่อื่นก็คงจะเพิ่งเริ่มเปิดร้าน แต่ตรงนั้นเป็นร้านข้าวจึงต้องปิดร้านแล้ว โดยเจ้าของร้านเดินเข้ามาเครียร์บิลที่โต๊ะผม  โดยที่ผมขอเป็นคนจ่าย (แม้ทุกคนพยามจะแชร์)ค่าเบียร์และกับแกล้ม1200 มีทอน  และในระว่างที่เครียร์บิล เบียร์ยังเหลือ3ขวดครึ่ง  แต่เจ้าของร้านบอกให้นั่งต่อได้ หมดแล้วค่อยกลับ โดยเจ้าของร้านที่ได้เอาน้ำแข็งมาเติมให้  ทุกอย่างก็เหมือนจะดี แต่ติดที่ว่าห้องน้ำไม่มีให้ใช้แล้ว เพราะร้านปิดประตูเลื่อนลงแล้ว   และพอซักพักจังหวะที่พี่ดวงกำลังจะลุกขึ่น เพื่อเดินไปฉี่ที่กำแพงด้านในสุด ตรงหน้ารถที่คลุมผ้าอยู่ แต่จังหวะนั้นแกมีอาการเดินตัวเซและจะล้ม  (เหมือนแกจะเมามากที่สุด แต่ไม่รู้ตัว)  ซึ่งตอนนั้นผมสามคนก็มองว่า แกคงไม่ไหว และไม่สามรถจะขับกระบะกลับได้แน่ๆ  และตัวแกเองก็รู้ตัว จึงพูดขึ้นมาว่า " เอ้ยย  แหวนๆ ป๋ารบกวนให้เอ็ง เดินส่งป๋าขึ้นแท็กซี่ที่ถนนใหญ่หน่อย ป๋าคงไม่ไหวแล้ว"  พอผมได้ยินผมก็รีบลุกเพื่อจะอาสาพาพี่ดวงไป  แต่ตัวแหวนเองกลับขอพาไปเอง โดยให้เหตุผลว่าแกยังพอเดินได้อยู่ และตัวผมไม่รู้ที่ทางแถวนี้  ผมจึงยอมตามนั้น
..............ในระหว่างที่พี่ดวงได้เดินตัวเซนำไปก่อน และตัวแหวนเองก็เอากระเป๋าถือใบใหญ่มาวางที่ตักผม แล้วเอามือกอดผม  พร้อมกับยื่นหน้าเอาจมูกมาหอมที่แก้มขวาผม 1ครั้ง แล้วบอกว่า " รอแหวนแป๊บนะค๊ะ เดียวแหวนรีบกลับมา " .....โอ้วววครับ....จังหวะนั่นพี่นางเองก็มองผมสองคน จากนั้นแหวนก็เดินไปจับแขน และบ่า พี่ดวงเพื่อประคองตัวพี่ดวงเดินไป........ในระว่างนั้น..ตรงนั้นมีแค่ผมกับพี่นางอยู่กันสองต่อสอง ที่นั่งหันหน้าหากันห่างแค่เมตรกว่าๆ  ทุกอย่างมันเหมือนจะเข้าทางปืนผม  แต่พอเอาเข้าจริงๆ ตัวผมเองก็ไม่กล้าจะทำอะไร(ทั้งสิ้น) ผมก็ได้แต่นั่งยกแก้วเบียร์ดื่ม และแกล้งหันมองไปถนนซอยหน้าตึก แต่ก็มีสลับมามองพี่นางบ้างบางครั้ง  ทั้งๆที่ตลอด2ซมที่นั่งอยู่ ผมเองก็มั่นใจในสิ่งที่ผมรู้สึกและได้เห็นกับตาตัวเอง ซึ่งจริงๆมันก็ชัดยิ่งกว่าชัดเสียอีก ว่าพี่นางกับผมได้สื่อสารอะไรกันบ้างอย่างต่อกัน   จนกระทั่งผมนั่งคิดและเหล่มองหน้าพี่นางได้สักพัก ผมจึงตัดสินใจ เพราะโอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วในคืนนั้น  ผมแค่อยากจะทำอะไรซักอย่าง  ซึ่งอะไรก็ได้กับพี่นางขอแค่ได้ลอง  ดีกว่าปล่อยให้มันค้างคาใจ  ผมจึงเอ่ยปากถามพี่นางไปว่า " พี่นางเป็นไงบ้าง ครับ พี่ไหวใหม? เมาหรือยังคับพี่ " พี่นางได้ยินก็หันมายิ้มให้ผม แล้วตอบผมกลับว่า " ยังค๊ะ  พี่ยังใหว พี่ไม่ได้ดื่มอะไรมากขนาดนั้น  พี่คิดว่ายังเดินตรงได้อยู่ (เธอหัวเราะ) แล้วเธอหละ" ...ผมจึงรีบตอบกลับไปว่า " ถ้าพี่นางไหวผมก็ไหวครับ (ผมหัวเราะ)"   โอ้ววว..ครับ.....ในช่วงที่ผมเปิดปากถามเธอไป มันกลับได้ผลและดูเหมือนพี่นางก็อยากจะสนทนากับผม(อยู่แล้ว) ดูจากสีหน้าท่าทางและรอยยิ้มในระหว่างที่คุย  มันทำให้ควยผมค่อยๆโด่แข็งขึ้นตาม (เพราะนี่คือการสนทนากันโดยตรงกับพี่นางในแบบสองต่อสอง)
............และในช่วงที่ผมและพี่นาง กำลังนั่งคุยกัน ถามตอบกันไป-มา ในเรื่องเรื่อยเปื่อย ซึ่งผมจะพยามค่อยๆชวนเธอคุย  (และมันก็ดีเกินคาด )แต่อยู่ๆพี่นางก็กลับถามผมขึ้นมาว่า " นี่สรุปเธอกับน้อง(แหวน)คบกันใช่ใหม? ตอนแรกเห็นบอกว่าพี่น้อง พี่รู้น่ะพี่ดูออก "  ผมได้ยินตอนนั้น ผมไม่รู้จะตอบกลับเธอยังไง (จริงๆผมก็ไม่ได้คบกันจริงๆ แต่มันมีที่มาก่อนนั้น ) ผมจึงตอบกลับไปว่า " พี่นางอยากรู้จริงๆหรือครับ "  พี่นางก็ตอบสวนผมทันที่ว่า  " อ้าวไม่อยากรู้แล้วพี่จะถามเธอรึเล่ามาๆพี่สัญญาไม่บอกใคร (เธอหัวเราะ)  " ผมจึงตอบเลี่ยงๆกลับไปว่า  " พี่น้องกันจริงๆครับเราแค่สนิทกันจริงๆ(เสียงสูง) "  พี่นางได้ยินก็ตอบกลับทันทีว่า " หราา! ใช่หรือเธอ พี่น้องแบบใหนน่ะ แบบที่เขาว่าพี่น้องท้องชนกันแบบนี้รึเปล่า (หัวเราะ) " ในขณะที่ผมคุยกับพี่นาง ผมรู้สึกว่าเธอจะเล่นด้วย  ในวินาทีนั้น ผมเองก็กำลังมีอาการตึงๆ และก็มีอารมณ์กับเธออยู่แล้ว  และผมอยากจะไปให้สุดในตอนนั้น  ผมจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ที่เดิมของพี่ดวง และนั่งใกล้ๆตัวพี่นางทางด้านขวามือเธอ (แบบนั่งชิด) โดยที่พี่นางเองก็ไม่ได้พูดอะไร ผมยอมรับว่าการได้มานั่งใกล้ๆตัวพี่นางควยผมก็ยิ่งโด่งแข็งขึ้นไปอีก และตัวเธอก็หอมมากด้วย  จากนั้นผมก็หันไปถามพี่นางว่า " แล้วพี่นางได้คบกับใครอยู่ใหม?ตอนนี้ครับ"  พอเธอได้ยินก็หันมามองหน้าผม แล้วขมวดคิ้วใส่ผมจากนั้นก็พูดขึ้นว่า " เธอถามพี่ทำไมหรือ โอ้ยพี่แก่ขนาดนี้คงไม่คิดจะคบใครแล้วหละเธอ พี่โสดสนิทค๊าาา "  พอผมได้ยินเธอตอบแบบนั้น ในวินาทีนั้นตัวผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าคิดอะไรอยู่ อาจจะเพราะความเมา  โอกาสที่มันเปิด  และเวลาเท่าที่ผมจะมีในตอนนั้น  รวมทั้งเพราะตัวพี่นางเอง ที่เธอพยามจะนั่งยั่วผมตลอด จนตัวผมมีอารมณ์  ผมจึงได้ตัดสินใจรีบโถมตัวยื่นหน้าไปหอมที่แก้มขวาพี่นาง1ที (แบบที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว) โดยในจังหวะนั้นเอง พี่นางเองก็หันมามองผมแล้วขมวดคิ้วใส่ผมอีกรอบ (ทำสีหน้างงๆ)  ผมจึงรีบตอบเธอไปแบบคนหน้าด้านๆว่า " ก็พี่บอกผมว่าพี่โสด ผมก็สามารถหอมพี่ได้นี่ครับ (ผมหัวเราะ) "  พี่นางก็รีบพูดสวนผมกลับทันทีว่า "  นี่เธอ! แบบนี้ก็ได้ด้วยหรือ แล้วมันเกี่ยวอะไร พี่งง พี่ว่าเธอเมาแน่ๆเลย" แล้วพี่นางก็พูดต่อมาว่า " พี่ว่าเธอนี่มันเจ้าชู้กว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย แล้วพี่จะไว้ใจเธอได้รึเปล่าเนี่ย"   
................ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าขนาดที่ผมหอมแก้มเธอขนาดนั้น (ทั้งที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน และเพิ่งรู้จักกัน ) พี่นางเองก็ยังไม่ว่าหรือจะด่าซักคำ มีแค่ท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ ผมจึงได้ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเธออีกครั้ง  และในครั้งนี้ พี่นางเธอก็ไม่พูดเลยซักคำ แถมยังยื่นมือซ้ายยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่ม (เธอทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น)....โอ้ววคับ....เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกมั่นใจมาก....ทำให้ผมยิ่งได้ใจ ผมได้เอามือซ้ายผมยื่นเข้าไปจับกุมที่ฝ่ามือขวาพี่นาง ที่วางบนตักเหนือกระโปรง (โดยที่เธอก็ปล่อยให้จับ แบบที่ผมคาดไว้ )  และจังหวะต่อเนื่องผมก็ได้ยื่นหน้าไป หอมที่แก้มเธออีกรอบ (เป็นครั้งที่3) และจากจังหวะนั้นเอง มือซ้ายพี่นางที่ถือแก้วเบียร์อยู่ เธอก็ยื่นวางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วก็เอียงตัวหันมาที่ผม พร้อมกับยกมือข้างซ้ายขึ้นมาป้องปากแนบที่ข้างหูด้านซ้ายผม แล้วพูดแบบกระซิบเบาๆว่า  "  เธอ..เธอจะมานั่ง หอมแก้มพี่แบบนี้ ตรงนี้ ไม่ได้นะ เดี๋ยวใครผ่านมาเห็นมันจะไม่ดี คนแถวนี้หูตายิ่งกว่าสับประรด และถ้าแหวนมาเห็นตัวเธอเองก็จะซวยเอาน่ะ" 
........พอจังหวะที่พี่นางพูดจบ เธอก็หันตัวกลับมานั่งแบบเดิม  ส่วนตัวผมก็ไม่รอช้า ผมได้รีบยื่นหน้าเข้าไปบริเวณข้างๆหูข้างขวาเธอ (ผมจะกระซิบแบบที่เธอทำ) แต่จังหวะนั่น ผมก็อาศัยลูกตามน้ำ ผมได้ยกมือขวาผม ขึ้นมาวางทาบบนหน้าอกซ้ายเธอ  (วางมือแบบแนบลงเบาๆ)  พร้อมกันผมก็รีบพูดกระซิบเบาๆขึ้นว่า " แล้วถ้าผมจะชวนพี่ ไปดื่มที่อื่น พี่จะไปใหม?ครับ  " พี่นางก็เอียงหน้ามาพูดกระซิบตอบกลับผมว่า " เธอจะชวนพี่ไป ใหนรึ?  ถ้าเป็นวันนี้ พี่ไม่ไปกับเธอนะ"  จากนั้นผมก็รีบพูดตอบกระซิบเธอกลับว่า " ถ้างั้น ถ้าเป็นวันหลังหละ พี่จะไปใหม?   " เธอนั่งเงียบแต่เหล่ตามองที่ผม (เหมือนจะหยุดคิดคำตอบ) แต่ในระหว่างนั้น  ฝ่ามือขวาผม ที่วางแนบทาบบนหน้าอกเธอ ผมก็ค่อยๆเริ่มขยับฝ่ามือ  นวดคลึงเบาๆที่เต้านมข้างซ้ายพี่นาง  แบบค่อยๆบีบค่อยๆคลึง....โอ้วววครับ.....ความรู้สึกตรงนั้น เต้านมที่ทั้งใหญ่ทั้งนุ่มมือ  ในขณะที่พี่นางเองก็เหล่ตามองมือขวาผม ที่กำลังจับเค้นเต้านมซ้ายเธอ  แล้วจึงหันมาพูดกระซิบขึ้นว่า " นี่ เธอจะบีบนมพี่อีกนานใหม? เอามือเธอลงจากนมพี่ได้แล้ว  " ผมก็รีบตอบกลับเธอไปว่า " พี่ก็ตอบผมก่อนชิครับ ตอบแล้วผมถึงจะเอามือลง " (ฝ่ามือผมยังคลึงที่เต้าซ้ายเธอตลอด)  โดยที่เธอก็ตอบว่า " เดี๋ยวดูก่อนนะ งั้นเธอเอาเบอร์หรือไลน์เธอมาเดี๋ยวพี่บอก  "  จากนั้นพี่นางก็เอามือซ้ายจับดึงมือขวาผมลง จากหน้าเต้าซ้ายเธอโดยที่ผมก็ชักมือกลับที่ แล้วยกแก้วขึ้นดื่ม(ทำเป็นเนียน)
..........ในช่วงนั้น เป็นช่วงที่ผมมีอารมณ์มาก  จนผมควยโด่แข็งน้ำแทบเล็ดออก  จากสิ่งที่ผมได้ทำ และได้สัมผัสที่ตัวพี่นาง (โดยเฉพาะตอนที่ได้บีบนมเธอเล่น) ในระหว่างนั้นผมก็ไม่พยามจะไปเร้าหรือเธอมากไปอีก  แต่พยามจะพูดถึงการชวนเธอในครั้งหน้า  จนผมก็ได้แลกไลน์กับพี่นางสำเร็จ  ผมและพี่นางก็ส่งสติกเกอร์ทักหากัน  และในขณะเดียวกันนั้น ข้อความไลน์ของแหวนก็เด้งขึ้นมาบนจอมือถือผม โดยที่แหวนพิมพ์แจ้งมาว่า เธอกำลังจะเดินไปนั่งวินกลับแล้ว ซึ่งผมเองก็ต้องรีบกลับไปนั่งที่เดิม  พอจังหวะผมเงยหน้าขึ้นมา พี่นางก็ได้ลุกขึ้นมายืนข้างๆตัวผม  โดยบอกผมว่าเธอจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่อู่  แต่ในจังหวะนั้นแบงค์ร้อยและเศษเหรียญ ที่กระเป๋าเสื้อด้านล่างเธอได้ล่นลงที่พื้น และจังหวะที่พี่นางได้รีบก้มตัวลงไปเก็บ ในท่าหันหลังโก่งตูดมาที่ตรงหน้าผมพอดี  โอ้วววครับ.....วินาทีนั้น  มันทำให้ผมอยากจะทำอะไร อีกซักครั้ง ก่อนที่แหวนจะมาถึง  จังหวะนั้นเองผมได้รีบยื่นสองมือไปจับ ที่ชายกระโปรงสั่นๆของพี่นาง แล้วดึงถลกกระโปรงเธอขึ้นทั้งตัว (ขึ้นค้างที่เอว) จนเหลือแค่กางเกงซับในขาสั้นจู๋สีดำ  ในจังหวะนั้นพี่นางถึงกับตกใจ สดุ้งตังร้อง "ว๊าย"  (เสียงดัง) และลนลานทำตัวไม่ถูกกลัวคนจะเห็น  วินาทีนั้น ผมรีบใช้สองมือคล้องที่เอวพี่นาง ดึงเธอลงมานั่งที่ตักผมทันที  พร้อมทั้งมือทั้งสองข้างผม ฉวยโอกาสนัวเนีย (มือปลาหมึก) มือซ้ายก็จับและลูบไปที่กลางเป้าหีเธอผ่านกางเกงซับในสีดำ ส่วนมือขวาผมก็จับที่เต้านมเธอ  ในจังหวะที่พี่นางเองก็พยามจะขืนตัวและดิ้นจะลุกขึ้น และพยามใช้มือดึงกระโปรงเธอลงจากเอว (แต่ไม่ได้ส่งเสียงหรือโวยวายอะไร  ) พอผมรู้สึกว่าผมได้จับได้ลูบแบบที่อยากจะทำแล้ว และกลัวคนจะมาเห็น ผมจึงปล่อยมือ แล้วดันตัวพี่นางขึ้นยืน พร้อมกับดึงกระโปรงเธอลง  โดยพี่นางเองได้ยืนหันมามองหน้าผมพร้อมกับ เอาฝ่ามือตีที่ไหล่และแขนผม แล้วพูดกระซิบเบาๆกับผมว่า "นี่เธอ จะบ้ารึไง ใครเดินมาเห็นเข้าจะว่ายังไง  อย่าทำแบบนี้อีกนะ พี่ขอหละ" 
.........หลังจากนั้นพี่นางก็รีบหยิบกระเป๋า แล้วเดินออกไป ซึ่งผมไม่รู้ว่าพี่นาง คิดยังไง รู้สึกแบบใหน กับผมในตอนนั้น เธออาจจะโกรธ ไม่พอใจ หรืออาจจะแค่เฉยๆ ในสิ่งที่ผมคุกคามและจู่โจมเธอมากเกินไป   แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดมาก เพราะไม่ว่าเธอจะโกรธ หรือไม่อยากจะอะไรกับผม   แล้วก็ตาม  ส่วนตัวผมก็รู้สึกได้กำไรแล้ว เพราะอยู่ๆก็ได้ทั้งหอมแก้ม ทั้งจับนม ทั้งลูบเป้าหี  และในระหว่างที่ผมกลับมานั่งที่เดิม ที่นั่งตอนแรกได้ไม่กี่นาที  และแหวนก็มาถึงพอดีและได้จ่ายค่าโดยสารเสร็จก็เดินมาที่ผม  และสิ่งแรกที่เธอถามผมนั่นคือ "พี่นางไปใหน " ตอนนั้นผมคิดว่าพี่นางเข้าห้องน้ำคงจะกลับไปเลย ผมก็ตอบแหวนตามนั้น   ในช่วงที่ผมนั่งกับแหวนอยู่แบบสองต่อสอง กับเบียร์ที่อยู่อีก2ขวด  ผมก็ตกลงกันว่าเราสองคนจะนั่งดื่มให้หมดแล้วจะออกเดินทาง  ในระว่างที่ผมนั่งอยู่สองคน ด้วยความเมาและความเงี่ยน  และไม่ต้องแคร์สายตาใครแล้ว  ผมก็นั่งแบบเอาแขนซ้ายอ้อมตัวไปคล้องที่เอวของแหวน แล้วดันตัวชิดติดกัน รวมทั้งผมก็ได้นั่งดื่มไป ผมก็หันหน้าไปหอมที่แก้มแหวนไปตลอด โดยที่เธอก็หอมแก้มผมคืนบ้าง (ทำกันแบบเปิดเผยในแบบที่เราสองคนอยากจะทำมาตลอด)   เราสองคนเหมือนนั่งคอยเวลาให้เบียร์หมด ก็คงจะจบด้วยเซ็ก ต่างต่างรู้กัน
............ในช่วงเวลาที่เบียร์เหลือ1ขวด เป็นห้วยเวลาที่ผมสองคน ก็เริ่มนั่งจู่โจมกันมากขึ้น มือซ้ายผมก็ที่คล้องจับเอว มือขวาผมก็ยกขึ้นมาจับต้นขาขวาแหวนที่นั่งท่าแยกขากว้าง แล้วก็ลูบไลบนต้นขาขวาเธอผ่านกางเกงรัดๆผิวผ้าลื่นๆพร้อมกับแหวนเอง ก็เอามือขวาเธอมาจับต้นขาซ้ายผมคืน จนกระทั้งผมสองคน ก็เริ่มเก็บอาการไม่อยู่ และที่ตรงนั่นคนก็เริ่มจะเดินผ่านน้อยลง ผมเริ่มขยับฝ่ามือขวาที่ลูบต้นขาเธอ เลื่อนขึ้นมาแปะที่กลางเป้ากางเกงรัดๆของแหวน (ที่เธอนั่งถ่างขากว้าง) แล้วลูบฝ่ามือขวา ขึ้นลงช้าๆทำแบบตั้งใจ  พร้อมกันที่ตัวแหวนเอง ก็รีบยื่นหน้าเข้ามาเอาปากมาประกบปากผม แล้วผมสองคนก็เริ่มดูดปากกัน  ตอนนั้นเราสองคนนั่งนัวเนียกัน มือขวาผมก็ลูบเป้า มือซ้ายก็จับที่หน้าอกเต้าซ้ายใหญ่ๆของแหวน โดยที่ปากก็ประกบดูดกินน้ำลายกัน....เป็นข่วงที่ไฟในตัวผมสองคนกำลัง จุดติด  (โครตฟิน) 
.............ในระหว่างที่ผม กับแหวนกำลังนั่งนัวเนียกันเพลินๆ  ปากผมและแหวนก็ยังประกบดูดกัน มือขวาผมก็ยังลูบที่เป้าหี  รวมทั้งมือซ้ายผมก็กำลังบีบคลึงที่เต้านมแหวนอยู่.......แต่อยู่ๆ  จังหวะนั่นก็มีเสียงไออะแฮมๆขึ้นมา ซึ่งเป็นเสียงพี่นาง.....โอ้ววครับ....จังหวะนั้นผมและแหวนที่ไม่ทันระวัง....พี่นางได้ยืนมองและเห็นทุกอย่าง  ผมสองคนจึงรีบพละกันออก (แต่ไม่ทันแล้ว)  ในระหว่างนั้น พี่นางก็ยิ้มที่มุมปากแล้วลงมานั่งตรงข้ามผมสองคน (ที่เดิมเธอ)   แล้วเธอพูดขึ้นว่า " ใหนใครบอกว่าพี่น้องกัน หรือพี่นางตาฝาดไปน้าาา "  ผมสองคนพูดไม่ออก ก็ได้แต่พากันยิ้มหัวเราะรับสภาพ จนมุมต่อหลักฐาน  แต่พี่นางเองไม่ได้แซวต่อ  แหวนเองก็ชวนคุยเรื่องใหม่ตัดบท โดยเล่าตอนเธอไปส่งพี่ดวง...และก็คุยเรื่องตอนกลับจะกลับยังไง....แต่ในตอนนั้นตัวผมเอง ก็ไม่คิดว่าพี่นางเองจะย้อนกลับมาอีก  ผมคิดว่าเธอน่าจะโกรธและคงกลับแล้ว เพราะตัวผมเองก็คุกคามและลวนลามเธอไปขนาดนั้น....ตอนนั้นผมนั่งมองพี่นาง ผมก็ไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้อีก....นอกจากพี่นาง(อีป้า) เธอก็เงี่ยน และมีอารมณ์เหมือนผมกับแหวน และอยากจะให้ผมทำแบบนั้น อยากโดนจับนูนล้วงนี้อยู่แล้ว  แต่ขอเล่นตัวบ้างให้มันดูดี  เพราะไม่งั้นคงจะด่าผมก่อนหน้านั้น และคงไม่ย้อนกลับมาที่ตรงนี้
..........จนกระทั้ง ผมสามคนก็นั่งดื่มจนเบียร์ขวดสุดท้ายหมด  จากนั้นทุกคนก็ได้ลุกขึ้นเก็บของเตรียมจะเดินไปที่รถ ตอนนั้นตามแผนผมจริงๆ ผมจะไปกับแหวนแค่สองต่อสอง  แต่ตอนนั้นพี่นางก็อยู่ด้วย ปกติพี่นางจะมีลูกชายมารับ แต่เพราะเธอมาดื่มด้วยกันกับพวกผม  และจะนั่งแท็กซี่กลับเอง แต่แหวนก็บอกให้ผม แวะขับย้อนไปส่งพี่นางที่บ้านซึ่งตอนนั้นผมเองก็ไม่ติดขัดอะไร   ช่วงระหว่างเดินไปถึงหน้าอู่ รถผมที่จอดอยู่ด้านหน้าที่มีไฟส่องสว่าง และมีรถเจอดตรงนั้นแค่ไม่กี่คัน  ในระหว่างนั้นแหวนก็ขอตัว เดินเข้าห้องน้ำที่อู่ก่อน (เหมือนจะไปแต่งหน้าทาปากใหม่ด้วย ) ตอนนั้นก็เหลือผมกับพี่นางอยู่กันแค่สองคน(อีกครั้ง) และในตอนนั้นผมก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ และติดเครื่องเปิดแอร์รอ จากนั้นผมก็เรียกให้พี่นางที่ยื่นตรงหน้ารถ ให้เข้ามานั่งรอตากแอร์ในรถ โดยให้เธอมานั่งที่เบาะด้านหน้าข้างๆตัวผม  พอจังหวะพี่นางเข้ามานั่งเสร็จเธอก็ถามผมว่า " นี่ ถ้าส่งพี่เสร็จ เธอกับแหวน จะพากันไปใหนต่อหรือเปล่า " ตอนนั้นผมก็หันไปตอบพี่นางว่า "  ก็คงแค่ไปส่ง แล้วคงจะกลับเลยครับ (ผมหัวเราะ)  "  พี่นางก็พูดขึ้นอีกว่า " พี่ว่า คงไม่ใช่แบบนั่นละมั้งดูท่าทางแล้ว(หัวเราะ)  "  พอผมได้ยินสิ่งที่เธอถาม และสีหน้าท่าทางอยากรู้ อยากเห็น (อาการมันส่อ) และที่สำคัญผมดูแล้วแหวนท่าทางคงจะอีกหลายนาทีกว่าจะมา
..........ในระหว่างนั่นผมจึงตัดสินใจ อีกครั้งโดยการยื่นมือซ้ายผมจับที่บริเวณต้นขาขวาเธอ และในจังหวะนั้นเองพี่นางก็พูดขึ้นว่า " ยัง ยังจะมาจับขาพี่อะไรอีกเนี่ย เดี๋ยวแหวนก็มาแล้ว เอามือออกแล้วไปเตรียมขับรถได้แล้ว "  ด้วยความที่ผมมั่นใจ จากที่ผ่านมาทั้งหมดผมจึงพูดขึ้นว่า  " พี่อยากจะไปด้วยกันใหม ไปดูว่าผมจะไปส่งแหวนจริงใหม? "  พี่นางก็หันมาตอบผมกลับว่า " พี่จะไปทำไม พี่ไม่ไปด้วยหรอก พี่ไม่อยากรู้เรื่องพวกเธอขนาดนั้นหรอกน่ะ "   ผมก็หันไปจ้องมองหน้าพี่นาง และเธอก็หันมามองกลับ (แบบตาจ้องตา) จากนั่นผมก็พูดขึ้นว่า "  แต่ผมก็อยากให้พี่ไปด้วยนี่ (ผมพูดทีเล่นทีจริง แต่แกล้งทำหน้าจริงจัง )"  พร้อมกับมือซ้ายผมที่ค่อยๆลูบไปที่ต้นขาขวาเธอตามเบาๆ  และพี่นางก็พูดขึ้นว่า  " แล้วทำไมถึงอยากจะให้พี่ไปด้วยหละ มันมีอะไร?  " พอเธอพูดจบ ผมไม่ตอบ แต่ผมได้ยื่นเอามือซ้ายไปจับกระเป๋าถือที่วางบนตักพี่นาง ยกลงมาว่างที่พื้นวางเท้า พร้อมกับจับที่ชายกระโปรงเธอกระซากถลกขึ้นจากด้านหน้า....โอ้ววครับ....และในครั้งนี้พี่นางปล่อยให้ผมทำแบบนั่นเฉยเลย (ไม่มีสะดุ้งตัวหรืออาการตกใจ) และไม่คิดจะดึงกระโปรงลง  เธอยังคงนั่งนิ่งๆและแยกขากว้างบนเบาะ  โดยที่ชายกระโปรงด้านหน้าได้ถลกขึ้นเปิดอ้าซ่า มีกางเกงซับในขากุดตะเขปปลายขาลายลูกไม้สีดำโผล่ออกทั้งเป้า  จังหวะนั้นพี่นางก็ได้พูดขึ้นว่า " เธอนี่ ชอบเปิดกระโปรงพี่ตลอดเลยนะ  เธอชอบดูมากนักหรือไง?  งั้นก็มองเอาจนพอใจเลยน่ะ แต่ห้ามจับหละ (หัวเราะ)" พอเธอพูดจบ ....วินาทีนั้น ผมทำได้ถึงขนาดนี้แล้ว ผมไม่รอช้าและไม่สนใจจะฟังอะไรทั้งนั้น  ผมได้ยื่นมือซ้ายผมสอดเข้าไปที่สองง่ามขาพี่นาง พร้อมกับเอามือลูบไปที่กลางเป้าสามเหลี่ยมทันที พร้อมกันกับพี่นางก็รีบหุบต้นขาหนีบมือซ้ายผมตามทันที  พร้อมกับเอามือขวาเธอมาจับข้อมือผมให้หยุดลูบ   แล้วพูดขึ้นว่า " นี่ เอามือเธอออกไปนะ เดี๋ยวแหวนก็มาแล้ว เธอ!! พี่บอกว่าอย่าจับไง เธอนี่มันพูดไม่ฟัง"   และยิ่งเธอหุบขา ผ่ามือซ้ายผมยิ่งขยับถูขึ้นลงแรงขึ้น....จนพอผมลูบได้ไม่กี่ทีครั้ง ผมรู้สึกถึงผิวของกางเกงซับในที่เริ่มจะเปียกแฉะเต็มพื้นที่ จากน้ำเงี่ยนพี่นาง
............ในระหว่างที่ผมกำลังสอดมือถูที่เป้าหีพี่นาง จากที่เธอหุบขาหนีบแน่น กลายเป็นค่อยๆ คลายการหนีบของต้นขา จนมือผมลูบขึ้นลงได้แบบสะดวก.....โอ้ววครับ.....ผมไม่รูัว่าเธอกำลังได้อารมณ์ หรือเธอรู้ว่าห้ามผมทำไม่ได้แน่ๆ  แต่ที่รู้ๆเธอผมนั่งลูบเป้าหีแบบที่เธอปล่อยให้ลูบเลย  และในตอนนั้น ผมอยากที่จะล้วงไปในรูพี่นางเลย ผมจึงเงยหน้าพูดขึ้นกับเธอว่า   "พี่นางผมถอดซับในพี่ออกได้ใหม?"  ตอนนั้นเธอนั่งเอียงหันหน้ามามองผมแต่ก็ไม่พูดอะไร  ตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะห้ามหรืออนุญาตให้ผมถอด แต่ผมตัดสินใจยกมือซ้ายผมขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือขวาผมเข้าไปจับที่ขอบกางซับในทั้งสองมือ แล้วดึงกางเกงซับในลงมา....โอ้วววครับ....วินาทีนั่น  ขอบบนของกางเกงซับในได้ถูกผมดึงลงมาค้างที่บริเวณเสมอต้นขาพี่นาง  ด้านในเป็นกางเกงในสีขาวได้เลื่อนลงตาม จนเห็นขนหมอยที่ดกดำและฟู โผล่แล๊บจากขอบบนของกางในสีขาว บริเวณเหนื่อส่วนโค้งของโหนกหี  วินาทีนั้นผมจ้องมองตาไม่กระพริบ (หมอยเธอดกมาก)  จากนั้นผมรีบสอดฝ่ามือซ้ายเข้าไปที่ขอบบนกางเกงใน ล้วงจกและดันเข้าไป พร้อมกับใช้นิ้วกลาง รูดลงไปที่กลางครีบหี แล้วแหย่เข้าไปในรูหีจนสำเร็จ พร้อมกับตัวพี่นางได้กระตุกตาม1-2ครั้ง   จากนั้นผมก็เอี้ยวแขนขวาผมขึ้นไปจับที่เต้านมขวาเธอ แล้วคลึงนวดเบาๆตาม  (มือผมพันกันแทบจะเป็นหนวดปลาหมึก) พร้อมกับเสียงอ้ำอึ้งในลำคอพี่นางเบาๆ  " อื้มม......อื้มม....อื้อเฮือ....อื้มม........อื้อเฮือ......อื้มม......อื้อเฮือ......อื้อเฮือ.......อื้มมม "
..........ในช่วงเวลานั้นทีสองมือผม กำลังนัวเนียเธอทั้งล่างทั้งบนได้ไม่ถึงนาที....โอ้ววครับ...อยู่ๆพี่นางได้รีบจับที่ข้อมือซ้ายผม แล้วดึงออกจากเป้า แล้วพูดว่า " หยุดๆ แหวนมาแล้ว"  พอผมได้ยินผมหันไปมอง ตามเห็น แหวนกำลังเดินก้มหน้าผ่านประตูทางเข้าอู่ ที่ห่างจากรถผม 10กว่าเมตร  ตอนนั้นรีบชักมือทั้งสองกลับ พร้อมกับพี่นางก็รีบยกตูดขึ้นลอยแล้วดึง กางเกงในและกางเกงซับในขึ้น พร้อมกับดึงชายกระโปรงลง (เป็นวินาทีที่ผมสองคนดูลนลานมาก)  แต่ทุกอย่างก็ทัน  ก่อนที่พี่นางจะเปิดประตูลงไป เพื่อขึ้นมานั่งที่เบาะหลัง เธอก็พูดขึ้นเบาๆว่า " เธอไม่ต้องพูดอะไรนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน "  ผมได้ยินก็พยักหน้ารับ  พร้อมกับผมรีบเปิดประตูเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งให้แหวนเข้ามานั่งแทน  ในระหว่างตอนเดินทางเพื่อไปส่งพี่นาง ซึ่งผมต้องย้อนกลับไปอีกทางซึ่งไกลเกิน10 กิโลเมตร  แต่ในระหว่างที่เดินทาง ผมก็คุยแค่กับแหวน ส่วนแหวนก็หันไปคุยกับพี่นางมากกว่า (จริงๆผมเสียดายมาก เพราะว่าผมยังไม่ได้เห็นหีพี่นางเลย ได้แต่จับ)
..........จนกระทั่งผมไปส่งพี่นางถึงหน้าบ้าน  ซึ่งเป็นหมู่บ้านทาวน์เฮ้าส์เก่าๆที่มีไม่กี่หลัง และผมก็ได้เห็นลูกชายกับลูกสาวเธอ  ซึ่งลูกชายอายุไม่เกิน23ปี ลูกสาวน่าจะกำลังเรียน ป.ปลาย  หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปต่อกับแหวน สองต่อสอง ในระว่างที่อยู่ในแหวนเองก็ถามผมว่า  " พี่จะไปส่งแหวนเลยใช่ใหมค๊ะ"  ผมได้ยินผมก็ยิ้มแล้วหันไปมองแหวน (ด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเงี่ยน )แล้วผมพูดขึ้นว่า "  ใจคอจะกลับเลยรึไงห๊ะเรา ไม่เห็นใจพี่บ้างเลย ตอนนี้พี่ยิ่งต้องการแหวนอยู่นะ"  แหวนได้ยินแล้วยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า "  ต้องการอะไรจากแหวนค๊ะ  พี่บอกมาเดี๋ยวนี้น่ะ (เธอหัวเราะ) "  นาทีนั้นผมไม่ต้องลีลา เพราะผมรู้ว่าเธอรู้มันคืออะไร  ผมได้ยื่นมือซ้ายผมจับไปที่กลางเป้ากางเกงที่รัดๆของแหวน แล้วใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ขยับเลื่อนถูเบาๆ โดยที่แหวนเองก็โถมหน้าเข้ามาหอมแก้มซ้ายผม แล้วเอาแขนขวาเธอมาคล้องแขนซ้ายผม พร้อมกับนั้งเอียงหน้ามาซบไหล่ซ้ายผม ส่วนผมก็ขับไปโดยที่ปลายนิ้วมือซ้าย ยังขยับถูและลูบที่เป้ากางเกงเธอไปตลอด  แต่ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่า โรงแรมใกล้ที่สุดอยู่ที่ใหน ผมหันไปถามแหวนแต่เธอก็ไม่รู้  ผมจึงตัดสินใจจอดรถเลนซ้ายแล้วเปิดมือถือดู ซึ่งโรงแรมที่ใกล้ที่สุด อยู่ที่แถวๆบ้านพี่นางซึ่งผมได้ขับเลยมาหลายกิโลเมตร ถ้าจะไปก็ต้องวนรถย้อนกลับไป 
............ในช่วงเวลานั้น  ผมได้ถามแหวนไปว่าจะเอายังไง ซึ่งตัวแหวนเองก็ไม่รู้  ที่สำคัญแม้แต่ตอนนี้แหวนยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงใหน( เหมือนเธอไม่ค่อยจะรู้เส้นทางนอกจากที่พักและที่ทำงาน)   แต่เธอก็บอกกับผมว่า ถ้าผมจะพาไปใหน เธอก็ไปได้ทั้งนั้น....โอ้ววครับ.....พอผมได้ฟังและได้เห็นท่าทีของแหวน ในช่วงวินาทีนั้น สิ่งที่แว๊บเข้ามาในหัวผม  นั่นคือคำพูดของอร ที่เคยเล่าเกี่ยวกับตัวแหวนก่อนหน้านั้น  ซึ่งผมนึกภาพตามคำพูดของอร  ภาพที่แหวนเอากันกับโยที่ห้องน้ำที่อู่  หลังรถเมย์ที่จอด  และก็ตรงเบาะหลังรถเมย์  ซึ่งทุกๆที่เป็นแบบ out door ทั้งหมด  และผมมองว่าสำหรับแหวนเอง ถ้าผมหาแค่ที่ลับตาสักที่ก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับการเย็ดเธอ   และที่สำคัญผมเองก็อยากได้บรรกาศง่ายๆ ที่มันสร้างอารมณ์ความตื่นเต้น   ผมจึงตัดสินใจวนรถจากถนนหลัก ขับเข้าถนนในซอยไปเรื่อยๆ ระหว่างทางผมไปเจอร้านขายของชำ ผมจึงลงไปซื้อเบียร์มาอีก 6กระป๋อง  (ตอนนั้นผมอยาก กระตุ้นความกล้าเพิ่มอีก )  หลังจากนั้นผมก็ขับรถวนต่อ ขับไปมั่วๆ ลัดเลาะไปเรื่อยๆจนหลายสิบกิโล ตอนขับผมและแหวนก็จิบเบียร์กันไป  ส่วนมือซ้ายผมก็ยังทำงานตลอด ทั้งลูบเป้ากางเกงด้านล่าง สลับกับด้านบนผมก็ทั้งจับทั้งบีบเต้านมใหญ่ๆของแหวน(ผมทั้งฟินทั้งเงี่ยน)  จนกระทั้งมาเจอถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งผมดูจากmapsมือถือ มันคือเส้นฉลองกรุงแถวลาดกระบัง และถนนเส้นนั้นก็ดูออกนอกเมืองมาไกล และบรรกาศรอบๆก็เป็นพวกหอพักและบ้านเรือนที่ปลูกห่างๆ  รอบๆข้างก็เต็มไปด้วยที่ดินว่างเปล่าแบบสวนหญ้ารกร้าง  ซึ่งมันก็ดูค่อนข้างจะเปลี่ยวและรถผ่านไม่แยอะเพราะตอนนั้น4ทุ่มกว่าแล้ว 
............จนกระทั่งผมมาเจอซอยหนึ่ง ซึ่งผมมอดูแล้วน่าเหมาะที่สุดตอนนั้น เพราะไม่มีคนและรถสัญจร ผมจึงรีบเลี้ยวเข้าไปจอดชิดกำแพงเลนซ้าย  ซึ่งมีรถของคนแถวนั้นจอดอยู่แล้ว 2คันผมไปจอดด้านในสุดห่างจากถนนหลักที่เลี้ยวเข้ามา 10กว่าเมตร  และตรงนั้นเป็นถนนคอนกรีตกว้าง6เมตร ด้านหน้าเป็นถนนยาว  มองไปด้านหน้าไกลๆสองฝั่งถนนจะเป็นพื้นที่ดินว่างเปล่ามีกอหญ้าสูงปกคลุม มีไฟถนนส่องสว่างตลอดฝั่งด้านเลนขวา และตรงที่ผมจอดจะเป็นเหมือนกำแพงทึบสูงของตึกบริษัท และอีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างรกร้าง และที่ตรงนั้น100เมตรโดยรอบ  ดูเงียบมากไม่มีใครผ่านเข้ามาอะไรทั้งสิ้น ในขณะที่ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอด ตัวแหวนเองก็ยังไม่รู้ว่าผมมาจอดตรงนั้นทำไม เพราะผมไม่ได้บอกเธอ (เธอยังคิดว่าผมขับรถ เพื่อจะหาโรงแรม)  แหวนจึงถามผมด้วยควมสงสัยว่า " พี่จอดตรงนี้ทำไมค๊ะ " ผมจึงตอบเธอไปว่า  " ไม่มีอะไร พี่แค่อยากจอดนั่งดื่มเบียร์ในรถก่อนซักพัก น่ะ " แหวนก็ทำหน้างงๆแต่ก็ไม่ได้ถามผมต่อ  จากนั้นผมก็นั่งชนกระป๋องเบียร์ดื่ม ที่เบาะหน้ารถกับแหวนต่อ
............ในระหว่างที่ผมนั่งดื่มเบียร์ในรถกับแหวน  ในขณะเดียวกัน มือซ้ายผมก็ลูบคลำและถูไปที่เป้ากางเกงแหวน รวมทั้งสลับกับยกขึ้นมาบีบหน้าอกเธออยู่ตลอด ในตอนนั้น ก่อนที่ผมจะจู่โจม ผมอยากนั่งบิ้วสร้างอารมณ์ก่อน โดยการนั่งถามแหวนในหลายๆเรื่องที่ผมยังติดใจอยู่  โดยที่ผมได้ถามเธอแบบตรงๆและไม่เกรงใจ (เพราะผมเมาและก็อยู่แค่สองคน) ผมเอ่ยปากถามว่า
ผม / "แหวน คราวก่อนที่เราเคยมีอะไรกัน3คนกับอร จากวันนั้นแหวนเคยมีอะไรกับใครอีกใหม ? " 
แหวน / " ก็เคยค๊ะ 1-2 ครั้งกับแฟนเก่าค๊ะ  พี่ถามทำไมรึ "
ผม / "อ่อ เปล่าครับ พี่แค่อยากรู้เฉยๆ"
แหวน/ (เธอเงียบ)
ผม/ "นอกจากตัวพี่แล้ว แหวนเคยได้เอากับคนที่ไม่ใช่แฟนบ้างใหม ? ถ้ามีเล่าให้พี่ฟังหน่อยพี่อยากฟัง "
แหวน /" (เธออ่ำอึ่ง)  อื้ม....ก็...ก็มีบ้างค๊ะ  แต่มันน๊านนานมากแล้วค๊ะ  (หัวเราะ)"
ผม / "หรือ กับใคร? เล่าให้พี่ฟังได้นะ  เขื่อใจพี่ พี่ไม่ไปบอกใครหรอก  เรื่องเกิดขึ้นยังไงเล่ามาๆ"
แหวน/ "โหวววพี่! นานมากแล้วนะ  ก็กับคนรู้จักค๊ะเป็นรุ่นพี่ แหวนบอกไปพี่ก็คงไม่รู้จักหรอก (หัวเราะ) "
ผม /" นานขนาดนั้นเลยรึ?  แสดงว่าก่อนจะมีอะไรกับพี่วันนั้น แหวนมีอะไรมาก่อน ใช่รึป่าวเนีย!!"
แหวน/ " (แหวนเงียบสักพัก)  จำไม่ได้จริงๆค๊ะพี่ มันก็นานมากแล้วนะ "
คำตอบแหวน ตอนนั้นผมรู้ได้เลยว่า แหวนโกหก เพราะตอนเอากับผม ผมจำได้ว่านั่นคือการเปิดซิงครั้งแรกเธอ จากที่เธอเล่าและผมยังจำอาการตัวสั่นของเธอตอนนั้นได้ และสิ่งที่อรเล่าให้ผมฟัง จากที่ผมเชื่อ95%  พอผมได้ยินคำตอบของแหวน สิ่งที่อรเล่าเป็นจริง100%  แต่แหวนก็ยอมรับบางส่วนว่าเคย แต่ไม่กล้าบอกว่า คนนั่นคือโยผัวอรที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิท ซึ่งผมก็รู้จักดี
..........พอผมได้ยินที่แหวนบอก ผมก็เลิกถาม เพราะมันจะเป็นการทำให้เธอรู้ว่า ผมรู้อะไรบางอย่างมา  พอจังหวะผมเลิกถามเรื่องนั้น ผมได้บอกให้แหวนถอดกางเกงลง โดยที่แหวนหันมามองผมแล้วพูดขึ้นว่า " พี่จะให้แหวนถอดตรงนี้ ตอนนี้เลยรึ ? ไม่รอไปที่โรงแรมก่อนหรือค๊ะ  " ผมก็ตอบสวนไปว่า  " แหวนถอดเลยพี่อยากเห็นแล้ว " จากนั้นแหวนก็ปลดเข็มขัดเงินดีงออก แล้วโยนไปที่เบาะหลัง  พร้อมกับหันมาถามกับผมอีกรอบว่า " จะให้ถอดจริงๆรึค๊ะ กางเกงหนูมันถอดยากเลยนะ มันรัดมาก (หัวเราะ) รู้อย่างนี้แหวนใส่กระโปรงมาก็ดี  (เหมือนเธอจะบ่นนิดๆ)  " ผมจึงตอบไปว่า " แหวนไม่ต้องถอดออกหมด เลื่อนกางเกงลงมาแค่ต้นขาก็พอ "จากนั้นแหวนก็ปลดตะขอกางเกง แล้วรูดซิปลง พร้อมกับยกตูดขึ้นลอยแล้วดึงขอบกางเกงลง โดยที่ผมก็รีบใช้สองมือไปดึงช่วย และแหวนก็พลิกตัวไปมา (ซึ่งกางเกงเธอมันก็ถอดยากจริงๆ มันติดช่วงต้นขา)  พอจนกระทั้งขอบบนกางเกงแหวนเลื่อนมาค้างที่ต้นขา ซึ่งมันช่องเพียงพอกับการสอดมือผม  และภาพที่ผมเห็น.....โอ้วววครับ...ช่วงหน้าท้องเหนือโหนก รวมถึงต้นขาอ่อนของแหวน ซึ่งมันขาวเนียนมาก ผิวตัวเธอขาวจั๊วจนสะท้อนกับแสงไฟที่ส่องมา (ตัวเธอขาวนั่นคือจุดเด่นของเธอ) ส่วนกลางเป้าสามเหลี่ยมเห็นเป็นรูปโหนกหีที่มีขนาดใหญ่โผล่นูนโค้งออกมา จากซอกสองง่ามต้นขาที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีชมพูสด ที่มีขอบกางเกงในบนและล่างเป็นลวดลายลูกไม้  ผมเห็นแล้วโครตเงี่ยนจริงๆ   ควยผมก็ยิ่งแข็งโด่ขึ้นไปอีก
.........ในจังหวะที่กางเกงแหวนได้ถูกดึงเลื่อนลง ผมจ้องมองที่เป้าของแหวน ทำเอาผมเงี่ยนจนทนไม่ไหว ผมได้บอกให้แหวนขยับตัวเขามา และต่างคนต่างโน้มตัวเข้ากอดกัน  พร้อมกับเอาปากประกบดูดกินน้ำลายกันและกัน (ทำกันแบบที่ไม่พักหายใจ) หลังจากผมและแหวนกอดรัดฟัดปากกันได้นานหลายนาที  ผมได้พละตัวออกแล้วใช้สองมือยื่นไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตฟอร์มสีขาวเธอออกโดยมีแหวนช่วยกันปลด  จนเสื้อเชิ้ตสีขาวได้ถูกแหวกออก รวมทั้งยกทรงสีชมพูสดก็ได้ถูกดึงลงมาค้างที่ใต้ราวเต้านม....วินาทีนั้น...แม่เจ้า...ภาพที่แสงไฟสาดเข้ามา  นอกจากผิวตัวแหวนที่ขาวจั๊ว ก็เป็นสองเต้านมขนาดใหญ่และยาว โดยมีหัวนมขาดเท่าหัวนิ้วชี้ผม  และได้หย่อนลงมาทั้งสองเต้า  มองดูแล้วยิ่งกว่าลูกฟักขนาดลูกละกิโลกว่าเลย (ทั้งใหญ่และยาว)....พอผมได้เห็นหมดผมไม่รอช้า ผมรีบคล้องตัวแหวนเอนตัวลงมาจากเบาะ พร้อมกับผมยืดตัวเข้า ไปเอาปากไปดูดที่หัวนมแหวน  พร้อมกับเอามือขวามผมจับถึงกางเกงในสีชมพูสดเธอลงมาค้างที่หน้าขา  ผมมองตามเห็นบริเวณบนเหนือครีบหี มีหมอยหยิกขึ้นเต็มพื้นที่ รวมทั้งมือผมสัมผัสถึงร่องครีบหีที่ยาว จากนั้นผมก็ใช้2นิ้ว นิ้วกลางและนิ้วชี้ สอดเข้าไปในรูหีของแหวน พร้อมกับคลึงนิ้ว ทั้งชักนิ้วขึ้นลง
............ในช่วงเวลาที่ผมโน้มตัวเข้าไป ทั้งดูดทั้งเลียที่เต้านมแหวน พร้อมกับ2นิ้วมือขวาผมที่ยื่นไปแหย่เข้ารูหี และชักนิ้วขึ้น-ลง เสียงดัง แจ๊บๆๆๆ   โดยที่แหวนก็เริ่มส่งเสียงครางตามเบาๆขึ้น " โอ้ยย....หื้ออ........หื้ออ........ซื้ดดอ่า......โหยยย.....โหยย......เสียวว..........โหยยย.........หื้อ อื้อ อื้อ....โหยย......เสียววอ่า  เสียวว"  ในตอนนั้นที่ผมนั่งทำอย่างนั้นกับแหวนได้ประมาณ 2-3นาที ผมรู้สึกว่าอารมณ์แหวนกำลังมา  และผมเองก็รู้สึกเงี่ยนและอยากจะทำอะไรให้มากกว่านี้  แต่ตรงเบาะหน้าผมทำอะไรไม่ค่อยสะดวก  ผมจึงหยุดทำทุกอย่าง แล้วบอกให้แหวนไปนั่งที่เบาะหลังแทน  โดยที่ผมรีบเปิดประตูเดินออกไป  เพื่ออ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งให้แหวนก้าวออกมาจากเบาะหน้า  พอจังหวะผมจะไปเปิดประตูหลังด้านที่แหวนนั่ง แต่ช่วงกำแพงตรงนั้น มันเป็นมุมเฉียงสอบเข้า มันชิดกับประตูหลังฝั่งนั้น   ผมสองคนจึงต้องเดินอ้อมหน้ารถไปเข้าประตูหลังอีกฝั่ง....โอ้วววครับ....ซึ่งฝั่งถนนด้านนั่นมันโล่ง แม้จะมีพุ่มหญ้าสูงประมาณเอวบางช่วง แต่ถ้ามองจากถนนใหญ่ก็น่าจะเห็นเพราะไฟส่องทางสว่างมาก...แต่วินาทีนั้น ผมจำเป็นต้องทำ โดยที่ผมรีบเดินอ้อมไปก่อนเพื่อไปเปิดประตูหลังรถรอ ส่วนแหวนก็เดินตามมาติดๆ โดยที่เธอเดินในท่าทางเหมือนเป็ด เพราะกางเกงสีกลมท่ายังค้างที่ต้นขา พร้อมกับกางในสีชมพูที่ม้วนลงมา กองอยู่ที่เดียวกับขอบกางเกง ส่วนล่างได้ถูกเปลือยออก มองเห็นเป็นขนหมอยดกดำและร่องสองครีบหีชัดเจนมาก ส่วนด้านบนเห็นเป็นสองเต้านมที่ขนาดใหญ่และยาว ก็แกว่งสบัดไป-มา  ในช่วงจังหวะเธอเดิน แต่โชคดีที่ในตอนนั้นไม่มีรถวิ่งผ่าน
..........พอผมและแหวนเข้าไปในเบาะหลังรถใด้เรียบร้อย ผมรีบปลดเข็มขัดและกางเกงผ้าตัวเอง ดึงลงมากองที่เท้า พร้อมทั้งบ๊อกเซอร์ตัวในลง ในจังหวะที่ผมถอดกางเกงเสร็จ  และเป็นตัวแหวนเองที่รีบโถมตัวก้มตัวลงมาจากทางขวามือผม (โดยที่ผมเองยังไม่ทันได้ตั้งตัว).....โอ้ววครับ...แหวนก้มหัวแล้วเอาปากเข้ามาอมที่ท่อนควยผม  พร้อมกับรูดปาก ขึ้น-ลงไปที่ท่อนควยผมที่โด่แข็ง แบบช้าๆแล้วค่อยๆเร่งจังหวะเร็วขึ้น....รวมทั้งได้เลื่อนปากเอาลิ้นไปไล่เลียที่ต้นขาผม ไล่ขึ้นไปจนไปถึงหลังซอกไข่ รวมทั้งบริเวณตรงซอกง่ามขาผม....ในตอนนั้นผมปล่อยให้เธอเอาปากทำทุกอย่างที่ท่อนควยผม โดยที่ผมเองก็พยามจะช่วยแหวนกลับ ด้วยการที่ผมเอามือขวาสอดลอดใต้ท้องเธอ แล้วใช้นิ้วกลางรูดถูไปที่ร่องกลางครีบหีเธอ  ความรู้สึกผมในตอนนั้นเสียวควยมาก แหวนเธอโม้กได้เก่งและเร้าอารมณ์ได้ดีเกินกว่าที่ผมคิด  ซึ่งต่างจากคราวก่อนแบบคนละคน   แถมมีความกระหาย ทั้งดูดทั้งเลีย มีจังหวะทั้งช้าทั้งเร็ว  แถมยังอมจนเกือบสุดลำคอ จนน้ำลายเธอแตกเป็นฟอง  นองเต็มหน้าขาผม.....แม่เจ้า......ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่สามารถขยับตัวหยุดมันได้...(เสียวมาก)..จนกระทั้งน้ำเว้าผมได้แตกคาปากแหวน และน้ำเว้าผมแยอะมากพุ่งออกถึง2-3ครั้ง....มีไม่กี่ครั้งที่ผมจะพลาด (นกระจอกไม่ทันกินน้ำ) ที่น้ำเว้าผมแตกทั้งๆที่ยังไม่ได้สอด...และแหวนเป็นอีกคนที่เธอทำให้ผมน้ำแตกเร็วโดยใช้แค่ปากรูด...และที่สำคัญ  จังหวะที่น้ำผมแตกเสร็จ แหวนได้ยกหัวขึ้นมาพร้อมกลืนน้ำเว้าผมลงคอให้ผมดู...โอ้ววครับ....ภาพที่แหวนกลืนเข้าเว้าลงคอ ต่อหน้าต่อตาผม แถมยังเอามือปาดน้ำเว้าที่เลอะปากเข้าไปกลืนต่อ....มันเกินจะบรรยายจริงๆ  กับภาพนั้น
...........หลังจากน้ำผมแตก ผมก็ได้ดึงตัวแหวนมานั่งกอด  และผมได้พูดให้เธอรอสักพัก เพื่อที่ควยผมจะพื้นมาแข็งใหม่ ซึ่งตัวแหวนเองก็เข้าใจ  ในระหว่างนั้น ผมก็พยามกอด และก็หอมแก้มแหวนไปตลอด รวมทั้งสองมือผมก็จับทั้งเค้นทั้งนวด ที่สองเต้าผมเธอ โดยที่แหวนเองก็พยามเอามือขวาเธอจับลูบคลำเพื่อปลุกท่อนควยผมไปพร้อมๆกัน  จนกระทั่งผมนั่งพักได้5 นาที ควยผมก็เริ่มฟื้นตัวและแข็งขึ้นอีกครั้งตามมือแหวน ที่เธอพยามเอามือลูบและชักปลุกควยผมตลอดเวลา  จากนั้นแหวนก็ได้พูดขึ้นว่า " ของพี่แข็งแล้วพี่จะเอาต่อเลยใหม? หรือจะรออีกซักหน่อยค๊ะ " วินาทีนั้นผมรู้สึก ว่าควยผมมันยังไม่แข็งเต็มที่  แต่ผมไม่อยากให้ฟิวส์ขาดช่วง เพราะตัวแหวนเองก็อารมณ์มาเต็มแล้ว ผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเบาะ แล้วให้แหวนขยับมานั่งช่วงกลางๆเบาะหลังรถ   โดยที่ผมได้เอาถุงยางจากกระเป๋ากางเกงมาสวมใส่จนเสร็จ แล้วก้มลงจับยกขาแหวนทั้งสองข้างงอชิดขึ้น โดยให้ปลายขาสองข้างเธอพาดมาที่ไหล่ขวาผม จากนั้นผมลงไปนั่งเข่าเข้าไปประชิดตัวแหวน พร้อมกับจับท่อนควยผมชัก1-2ที จากนั้นผมก็ค่อยๆกดปลายควยสอดเข้าที่รูหีแหวนแบบช้าๆ พร้อมกับค่อยๆดันท่อนควยผมเข้าไปจนสุดลำ แล้วผมก็เริ่มร่อนเอวกระแทกควยเข้าไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงครางแหวนก็ดังขึ้น  " โอ้ยยย.....เสียววว...โอ้ยย......ซื้ดด...หื้อ.....หื้อ.....หื้อ....หื้อ......อื้อ....เสียวว.....หื้อ.......หื้อ......หื้อ.......ซื้ดดด....เสียวว.....พี่.....เสียววว.....หื้อ หื้อ หื้อ หื้อ หื้อ.....โอ้ยย..ซื้ดดด......ซื้ดด.....อ่า  " ยิ่งแหวนครางผมก็ยิ่งเร่งจังหวะกระแทกไปเรื่อยๆ
.........ในขณะที่ผมคล่อมกดควยเข้า-ออก ผมรู้สึกว่าผมยกนี้ยาวแน่ เพราะน้ำแรกผมก็เพิ่งแตกไป  และผมเองก็เริ่มจะหมดแรง ตรงกันข้ามกับตัวแหวน ที่นั่งเอนเบาะขาพาดบ่าผม ยังจ้องตาผมอ้าปากร้องครางด้วยความมันส์ที่ถูกควยเสียบ จนกระทั้งผมเหนื่อยไม่ไหวและได้หยุดทำ แล้วทิ้งตัวลงไปนั่งเบาะหลัง และบอกให้ตัวแหวนลุกขึ้นมา ยืน โดยที่มีกางเกงและกางเกงในยังค้างที่ต้นขา แล้วให้ก้าวมาช่องระหว่างขาสองข้างผม แล้วนั่งลงที่ตักผมในท่าหันหลังให้ผม แล้วเอามือเธอจับที่หมอนพิงหัวเบาะหน้า จากนั้นผมก็จับควยสอดเข้ารูแหวนอีก

Otaza

ยาวจุใจ บทบรรยายละเอียดมากๆ ราวกับว่าไปนั่งดื่มที่โต๊ะด้วยกัน
ปล.น้องอายต้องมีซ้ำนะครับ น้องยังสดใหม่ ถูกใจด้วย

Au Nanma

แล้วหลังจากเอาท์ดอร์จะเป็นต่อ รร.ม่ะ
ที่สำคัญจะไปสานต่อรุ่นใหญ่อย่างไง ให้น้ำกระจาย

1819

กำลัง เข้ามิเข้า รอบ 2 
ตัดจบต้อน ๆๆซะแล้ว ไรท์ มาต่อไวๆเลย   ค้างคามาก  และ ก็เรื่องพี่นาง จะมีสานต่อไหม    ส่วนแหวน กับ คนที่มากอด น่ะ ได้กันยัง กลับมาเรื่องแหวนคร่าวนี้ นางดู เจนจัดมาก
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า


swss2511


bmaII

มันเป็นความซวยเพราะในที่สาธารณะหรือเปล่า ลุ้นตาม หวังว่าจะปลอดภัย

sanboston





hanabombam


unclejacky