ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ชุ้ง

คุณแม่ยังสาววัยแซ่บ ตอนที่ 7 โลกใบใหม่ part 1

เริ่มโดย ชุ้ง, มิถุนายน 07, 2024, 10:47:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชุ้ง


หลังจากคุยกับแยมเสร็จ ผมก็เดินออกมา แล้วก็มีหมอกควันสีดำลอยมา ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ โดยไม่ทันระวัง หมอกสีดำนั้นเข้ามาปกคลุมทั่วร่างกาย ผมรู้สึกวิงเวียนและตาพร่า จนกระทั่งทุกอย่างดับมืดไป  แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปไหน หมอกนั้นก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นเหม็นเน่าและความหนาวเย็นแผ่กระจายไปทั่ว เมื่อหายใจเข้าไป กลับรู้สึกหนาวสั่นและหัวใจเต้นแรง ผมพยายามหายใจผ่านผ้าพันคอ แต่หมอกนั้นยังคงเข้ามาทางจมูกและปาก

ในพริบตาเดียว ภาพรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไป เมืองที่เคยสว่างไสวกลับกลายเป็นเงามืด บ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพัง ต้นไม้แห้งเหี่ยวและท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงเลือด มีเสียงกระซิบแผ่วๆ ดังมาจากทุกทิศทาง คล้ายเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถระบุที่มาได้

ผมพยายามก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แต่รู้สึกเหมือนขากำลังถ่วงน้ำหนักที่มองไม่เห็น ทุกย่างก้าวนั้นหนักหน่วงและยากลำบาก ผมเริ่มมองเห็นเงาของคนเดินผ่านไปมาในหมอกควัน แต่เมื่อพยายามเรียกหาพวกเขา เงาเหล่านั้นกลับหายลับไปอย่างรวดเร็ว

ผมเริ่มสงสัยว่าตนเองอยู่ในความฝันหรือเป็นความจริงที่น่ากลัวเกินกว่าจะเชื่อได้ ขณะที่กำลังคิดหาวิธีหนีจากที่นี่ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของผม "เธอต้องหาทางออกจากที่นี่ ไม่งั้นจะติดอยู่ในหมอกนี้ตลอดไป" ผมพยายามทำตามเสียงนั้น แต่ก็พบว่าทุกเส้นทางที่เลือกเดินกลับวกกลับมาที่เดิม

ในที่สุดผมเห็นแสงเล็กๆ ส่องออกมาจากมุมหนึ่งของหมอก ผมรีบวิ่งไปทางนั้น ทันทีที่แสงสว่างนั้นจับต้องได้ หมอกควันเริ่มจางหายไป ผมเดินออกมา ผมเดิมมาอยู่ที่บ้านหลังนึง  ผมสลบไปหน้ารั้วบ้าน มีความทรงจำสุดท้ายเป็นภาพหมอกควันสีดำที่เข้ามาปกคลุมทุกอย่าง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดไป


ชุ้งอยู่โลกใบใหม่นี้มาแล้ว 7 วัน อะไรก็เปลี่ยนไปหมดเลย ทุกอย่างดูแปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็มีความกังวลเล็กน้อยอยู่ในใจของชุ้งด้วย เขาไม่เคยคิดว่าการย้ายมาอยู่ในโลกใหม่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาได้ขนาดนี้

เช้าวันนี้อากาศสดชื่น ชุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างห้องนอน เขารู้สึกหิวจึงตัดสินใจออกไปหาซื้อของกิน ชุ้งเดินออกจากประตูบ้านไปเจอคุณแม่ใหม่ที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน

"อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่" ชุ้งพูดพร้อมรอยยิ้ม

คุณแม่เก๋หันมายิ้มตอบ "อรุณสวัสดิ์จ้าชุ้ง วันนี้ตื่นเช้าจังนะ"

ชุ้งสังเกตเห็นว่าคุณแม่เก๋ใส่ชุดสายเดี่ยวผูกกากบาท ผ้าทอลายสก๊อตที่มีซิปหลัง เป็นชุดที่สวยและดูสบาย ๆ เหมาะกับการทำสวนในยามเช้า






ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าเก๋ อายุ38 ผิวขาว สัดส่วน 38-26-36 สูง 160 หนัก 50 หุ่นผอมเพรียว



"วันนี้คุณแม่ใส่ชุดสวยไปเที่ยวไหนครับ?" ชุ้งถามด้วยความสนใจ

"แม่นะมีนัดกับเพื่อนไว้ เดี๋ยวแป๊บนึงก็ไปแล้วจ้ะ ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับมา" คุณแม่เก๋ตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

"อ๋อ ผมเข้าใจครับ" ชุ้งพยักหน้า

"ชุ้งลูก ถ้าอยากใช้เวลาหาของกินก็ไปเถอะ แต่อย่าลืมกลับมาเร็วนะ" คุณแม่เก๋บอกอย่างห่วงใย

"ผมจะไปซื้อของกินครับแม่ แล้วก็เดินเล่นด้วย แม่ไปเที่ยวกับเพื่อนสนุก ๆ นะครับ" ชุ้งตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป

ชุ้งเดินไปตามถนนใหญ่ ระหว่างทางเขาไม่สามารถหยุดคิดถึงคุณแม่คนใหม่ของเขาได้ ความรู้สึกที่มีต่อคุณแม่เก๋ไม่ใช่เพียงแค่ความอบอุ่นในครอบครัว แต่ยังมีความรู้สึกประหลาดบางอย่างที่เขายังไม่เข้าใจ เขาพยายามปัดความคิดนั้นออกไปแล้วมุ่งมั่นกับการหาของกินแทน

ขณะที่ชุ้งเดินไปเรื่อย ๆ เขาเห็นร้านขนมปังเล็ก ๆ ที่ดูอบอุ่นและมีคนเข้าออกมากมาย กลิ่นหอมของขนมปังสดใหม่ลอยมาตามลม ทำให้เขาตัดสินใจเข้าไปดู

ภายในร้านขนมปัง ชุ้งได้พบกับสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังเลือกซื้อขนมปังอยู่ เธอดูคุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ชุ้งเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วกล่าวทักทาย

"สวัสดีครับ คุณชื่ออะไรครับ?" ชุ้งถามด้วยรอยยิ้ม

"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเข็ม อายุ23




" สาวสวยตอบกลับด้วยความสุภาพ "คุณล่ะคะ ชื่ออะไร?"

"ผมชื่อชุ้งครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" ชุ้งยิ้มกว้าง "คุณเข็มชอบขนมปังร้านนี้เหรอครับ?"

"ใช่ค่ะ ขนมปังที่นี่อร่อยมาก ฉันมาซื้อบ่อย ๆ" เข็มตอบ

ชุ้งรู้สึกดีใจที่ได้พบเพื่อนใหม่ในโลกใบใหม่นี้ ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และชุ้งก็ได้เรียนรู้ว่าเข็มเป็นคนอัธยาศัยดีและชอบช่วยเหลือคนอื่น ทั้งสองคนตัดสินใจซื้อขนมปังแล้วไปนั่งกินด้วยกันที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ

ในสวนสาธารณะ ชุ้งและเข็มได้นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ชุ้งเล่าเรื่องการย้ายมาอยู่ในโลกใบใหม่นี้ให้มินตราฟังเข็มก็เล่าเรื่องราวของเธอให้ชุ้งฟังเช่นกัน

"มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่ต้องปรับตัวในโลกใหม่แบบนี้" เข็มพูดด้วยความเข้าใจ


"ใช่ครับ แต่ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุด และการได้พบกับคุณแม่เก๋และเพื่อนใหม่อย่างคุณ มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก" ชุ้งกล่าว

ทั้งสองคนใช้เวลาทั้งวันด้วยกัน สนุกสนานและเรียนรู้จากกันและกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน ชุ้งรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจที่เกิดขึ้นจากการพบเพื่อนใหม่และการเริ่มต้นใหม่ในโลกใบใหม่นี้

ชุ้งเดินกลับบ้านไปแล้ว ชุ้งสังเกตเห็นมีกลุ่มของผู้คนประมาณสามสี่คนยืนอยู่ที่กลางถนน ชุ้งเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ชุ้งเดินเข้าไปใกล้ๆ และเห็นว่ามีผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงสามคนยืนอยู่ พวกเขาดูมีความทุกข์ใจและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"สวัสดีครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?" ชุ้งถามด้วยความห่วงใย

ผู้ชายคนนั้นหันมามองชุ้งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง "รถของเรามีปัญหาครับ ไม่สตาร์ทเลย เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง"

ชุ้งยิ้มให้และพูดว่า "ไม่ต้องกังวลครับ ผมพอมีความรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้าง ให้ผมลองดูหน่อยนะครับ"

ชุ้งเดินไปที่รถ เปิดฝากระโปรงและตรวจสอบเครื่องยนต์ ชุ้งพบว่าปัญหาอยู่ที่แบตเตอรี่ที่เสื่อม เมื่อรู้ต้นเหตุแล้ว เขาจึงไปที่รถของตัวเอง หยิบเครื่องมือและสายพ่วงแบตเตอรี่ออกมา เขาใช้เวลาไม่นานในการพ่วงแบตเตอรี่ให้รถคันนั้น และในที่สุดรถก็สตาร์ทติดขึ้นมา

ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจ ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณชุ้ง ถ้าไม่ได้คุณ เราคงไม่รู้จะทำยังไง"


ผู้ชายคนนั้นก็กล่าวเสริม "คุณเก่งมากเลยครับ ขอบคุณจริงๆ"

ชุ้งยิ้มแย้มและพูดว่า "ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีที่ได้ช่วยเหลือ"

ผู้หญิงอีกคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า "คุณชุ้งค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ชุ้งตอบกลับด้วยความสุภาพ "ขอบคุณครับ ผมยินดีครับ แล้วพวกคุณชื่ออะไรกันบ้างครับ?"

ผู้หญิงที่ถามเขาตอบก่อน "ฉันชื่อมีมี่ - วลันธร พิชญเดชา 24 ปี นะคะ

   มีมี่ - วลันธร พิชญเดชา 24 ปี  เป็นตัวละครต้นฉบับของคุณ Nato87 ครับ

ผู้หญิงคนที่สองกล่าวเสริม "ฉันชื่อมดแดง 24 ปี ค่ะ"



ผู้หญิงคนสุดท้ายยิ้มและพูดว่า "ฉันชื่อโบว์ 23 ปี ค่ะ"



ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ยิ้มและแนะนำตัวเอง "ผมชื่อเคน 21 ปีครับ



ชุ้งยิ้มและกล่าวทิ้งท้าย "ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ ผมจะหาเวลามาเยี่ยมเยือนแน่นอนครับ"พวกเขาทุกคนยิ้มและรู้สึกดีใจที่ได้พบกับคนใจดีเช่นชุ้ง ขณะที่

ชุ้งเดินกลับบ้าน เขารู้สึกถึงความอบอุ่นในใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น และเขาก็รู้ว่ามิตรภาพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีในอนาคต

เมื่อชุ้งกลับถึงบ้าน คุณแม่เก๋ก็กลับมาพอดี แต่สิ่งที่ชุ้งไม่คาดคิดคือ คุณแม่เก๋ดูเหมือนจะเมา กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยออกมาจากตัวเธอ ชุ้งรู้สึกเป็นห่วงและรีบเดินเข้าไปหา

"คุณแม่เก๋ครับ คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" ชุ้งถามด้วยความห่วงใย

เมื่อชุ้งกลับถึง

บ้านในเย็นวันนั้น เขาเห็นคุณแม่เก๋กลับมาพอดี แต่มีสิ่งที่ผิดปกติ คุณแม่เก๋ดูเหมือนจะเมา กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาจากตัวเธออย่างชัดเจน ชุ้งรู้สึกเป็นห่วงและรีบเข้าไปหา

"คุณแม่เก๋ครับ คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" ชุ้งถามด้วยความห่วงใย

คุณแม่เก๋หันมายิ้มให้ แต่มันเป็นยิ้มที่ไม่ค่อยมีสติเต็มที่ "แม่โอเคจ้ะ ชุ้ง แค่ไปสนุกกับเพื่อนนิดหน่อยเอง" เธอตอบเสียงอ้อแอ้

"แม่ครับ มานั่งพักก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมพาแม่ไปนั่งที่โซฟา" ชุ้งประคองคุณแม่เก๋ไปยังห้องนั่งเล่น ช่วยให้เธอนั่งลงบนโซฟาอย่างระมัดระวัง

คุณแม่เก๋นั่งลงและหายใจลึก ๆ ดูเหมือนเธอจะเหนื่อยและรู้สึกไม่สบาย ชุ้งรีบไปหาน้ำเย็นมาให้เธอดื่ม

"นี่ครับแม่ ดื่มน้ำเย็นหน่อย จะได้รู้สึกดีขึ้น" ชุ้งยื่นแก้วน้ำให้

คุณแม่เก๋รับแก้วน้ำและดื่มเล็กน้อย "ขอบใจจ้ะ ชุ้ง แม่ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"

"ไม่เป็นไรครับแม่ แค่ผมอยากให้แม่พักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าแม่รู้สึกไม่สบายใจหรือมีอะไรอยากเล่า ผมยินดีฟังเสมอนะครับ" ชุ้งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


คุณแม่เก๋เงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดขึ้นมาเบา ๆ "ชุ้ง แม่รู้สึกว้าเหว่บ้างในบางครั้ง นี่เป็นเหตุผลที่แม่ไปเจอเพื่อน ๆ และดื่มบ้าง แต่แม่ก็รู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้บ่อย ๆ แม่ขอโทษนะ"

"ผมเข้าใจครับแม่ ทุกคนมีช่วงเวลาที่รู้สึกแบบนั้น แต่อย่าลืมนะครับว่า ผมอยู่ที่นี่กับแม่เสมอ" ชุ้งปลอบโยนและยิ้มให้กำลังใจ

หลังจากนั้น ชุ้งก็ช่วยดูแลคุณแม่เก๋ให้พักผ่อนเต็มที่ เขาอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำให้บรรยากาศในบ้านผ่อนคลายขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณแม่เก๋รู้สึกดีขึ้นแล้ว เธอขอบคุณชุ้งที่ดูแลเธอในเวลาที่ยากลำบาก

"ชุ้ง ขอบใจมากนะลูก แม่รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว" คุณแม่เก๋พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น


"ไม่เป็นไรครับแม่ ผมดีใจที่แม่รู้สึกดีขึ้น ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ ผมยินดีเสมอครับ" ชุ้งตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

จากนั้น ชุ้งก็ตัดสินใจทำอาหารเย็นให้คุณแม่เก๋ เขาทำอาหารง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อย เขาก็เชิญคุณแม่เก๋มารับประทานด้วยกัน

"นี่ครับแม่ อาหารเย็น ผมทำให้แม่ทาน" ชุ้งกล่าวด้วยความภูมิใจ

คุณแม่เก๋ยิ้มรับและชื่นชมฝีมือของชุ้ง "ขอบใจจ้ะ ชุ้ง อาหารอร่อยมาก แม่รู้สึกดีขึ้นมากจริง ๆ"

เมื่อทั้งสองรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ชุ้งก็ช่วยเก็บจานและทำความสะอาดครัว จากนั้นเขาก็นั่งคุยกับคุณแม่เก๋ที่ห้องนั่งเล่น พูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของแต่ละคน การพูดคุยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชุ้งและคุณแม่เก๋แน่นแฟ้นขึ้น

เวลาผ่านไป ชุ้งและคุณแม่เก๋ก็เริ่มผ่อนคลายและหัวเราะด้วยกัน ความรู้สึกเหงาและความว้าเหว่ที่เคยมีหายไป กลายเป็นความอบอุ่นและความผูกพันที่มากขึ้น

"ชุ้ง แม่ขอบใจจริง ๆ ที่อยู่เคียงข้างแม่ในเวลาที่แม่ต้องการที่สุด" คุณแม่เก๋กล่าวด้วยความซาบซึ้ง

"ผมก็ขอบคุณแม่ที่ยอมรับผมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ผมดีใจที่ได้ดูแลแม่" ชุ้งตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก

ในคืนนั้น หลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยและหัวเราะด้วยกัน ชุ้งก็รู้สึกว่าความเหนื่อยล้าเริ่มถาโถมเข้ามา เขาลุกขึ้นเพื่อที่จะไปนอนในห้องของตัวเอง แต่คุณแม่เก๋กลับดึงแขนของเขาไว้

"ชุ้ง นอนเป็นเพื่อนแม่หน่อยได้ไหม? แม่ยังไม่อยากอยู่คนเดียว" เธอขอร้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแฝงความอบอุ่น

ชุ้งรู้สึกถึงความอบอุ่นและความต้องการของคุณแม่เก๋ที่จะมีคนอยู่ข้าง ๆ เขาตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ เตียงและจับมือของเธอไว้

"ได้ครับแม่ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนแม่จนกว่าแม่จะหลับ" ชุ้งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เวลาผ่านไป ชุ้งรู้สึกถึงความ เปลี่ยนแปลงไปของนองชายผม ที่มาจากการอยู่ใกล้ชิดกับคุณแม่เก๋ เขาสัมผัสถึงความรักและความห่วงใยที่มีให้กัน ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างในโลกนี้จะต้องดียิ่งขึ้นเมื่อมีคุณแม่เก๋อยู่ข้าง ๆ

คุณแม่เก๋ค่อย ๆ หลับตาลงและหายใจเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ ชุ้งกุมมือเธอไว้แน่น และรู้สึกถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้นในทุกวินาที

อีกโลกหนึ่ง ย้อนเวลากลับไป 3 วันที่แล้วก่อนหลุมดำดูดชุ้งเข้าไป  ห้องนอนโรงแรมมินตรานอนพักอยู่

เวลาผ่านไปจนถึง 23:30 น. บ้านทั้งหลังเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดเบาๆ ผ่านหน้าต่าง ชุ้งนัวเนียที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มหนา สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความรู้สึกกระสับกระส่าย เขาลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาสอดส่องมองรอบห้องที่มืดสลัว

"น่าจะตีสองแล้ว" เขาคิดในใจ แต่เมื่อหันมองนาฬิกาข้างเตียงก็พบว่าเพิ่งจะ 23:30 น. เท่านั้น เขารู้สึกว่าต้องไปเข้าห้องน้ำ ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

 เขาลุกจากเตียงด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เสียงดังจนรบกวนแม่เก๋นอนอยู่ ชุ้งนัวเนียเดินไปแล้วเลี้ยวไปทางห้องน้ำที่อยู่ในห้องแม่เก๋
ชุ้งเดินตรงไปที่ห้องน้ำในห้องแม่เก๋ ทันทีที่เปิดไฟห้องน้ำ ความสว่างก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขาทำธุระเสร็จแล้วก็ปิดไฟและเดินกลับไปที่นอน

ผมต้องตกใจเพราะภาพที่เห็นเป็นภาพแม่เก๋นอนชุดสายเดี่ยวผูกกากบาท ผ้าทอลายสก๊อตเปิดจนถึงสะโพก มองเห็นบั้นท้ายอวบใหญ่ขาวเนียนมาก จิตใจผมเริ่มปั่นป่วน

 ชุ้งแอบดูอยู่นานไม่เห็นมีทีท่าว่าแม่เก๋จะตื่น จึงตัดสินใจค่อยๆเดินเข้าไปที่นอน  ย่องย่องเข้าไปจนยืนอยู่ทางปลายเท้า  ช่วงนี้แม่เก๋ขยับตัว ชุ้งรีบก้มลงแอบข้างเตียง ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองช้า คราวนี้ตกใจแทบช็อก  ก็แม่เก๋ขยับขาข้างนึงขึ้นพาดหมอนข้างอีกข้างก็เหยียดยาวในท่านอนหงาย  ชุดสายเดี่ยวผูกกากบาท ที่ร่นขึ้นอยู่แล้วเลยเปิดขึ้นไปอีก ทำให้ผมขนหมอยดกดำปกคลุมทั่วทั้งเนินหีที่อวบใหญ่โหนกนูนเป็นหลังเต่า เป็นหลายครั้งแล้วผมได้เห็นหีของผู้หญิงจริงๆ ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ  มือสั่น ขาสั่นไปหมดรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แต่ควยกลับแข็งขึ้นมาจิตใจสับสนมาก ทำงัยดี กล้าๆกลัวๆ ในที่สุดความอยากก็ชนะความกลัว ตัดสินใจย่องขึ้นไปบนเตียงค่อยๆเปิดชุดสายเดี่ยวผูกกากบาทให้สูงขึ้นอีก คราวนี้หัวใจผมแทบหยุดเต้น ผมเห็นรอยแยกระหว่างร่องหีสีแดงเข้ม  ที่ปากทางเข้ามีน้ำขุ่นข้นสีขาวซึมๆอยู่ ผมดูหน้าแม่เก๋ อีกทีก็เห็นนอนหลับลมหายใจสม่ำเสมอ ดูอยู่นานพอสมควรคิดว่าคงไม่ตื่นหรอกน่า ความต้องการทางเพศมากจนทนไม่ไหว ผมจึงถอดกางเกงออก ขยับควยออกมาชัก  ตาก็ดูหีแม่เก๋มือก็สาวว่าวไปเพื่อให้หายเงี่ยน แต่กลับทำให้ยิ่งทวีความอยากหนักเข้าไปอีกรู้สึกว่า ควยแข็งมากเกินไปแล้ว  จนในที่สุด ผมตัดสินใจขอเอาหัวควยสัมผัสร่องหีแม่เก๋ดูสักทีคิดว่าเอาแค่ถูๆไถๆก็พอ ผมจึงค่อยๆย่องเข้าไปทาบตัวคล่อมตรงหว่างขาแม่เก๋ แล้วค่อยขยับจับหัวควยถูกับร่องหีโหนกนูน ในที่สุดหัวควยก็ได้สัมผัสกับหีจริงๆ ตอนนี้นแม้จะสั่นมากแต่ก็อยากเย็ดรูหีมากเช่นกัน และยอมรับว่าหน้ามืดไม่กลัวอะไรแล้วตายเป็นตาย ลองเอาหัวควยถูๆเบาๆกับร่องหีที่แฉะๆแม่เก๋ขยับตัวถ่างขาออกอีกนิดนึง ผมก็ชงักแต่แล้วก็นิ่งไป ถึงตอนนี้หัวควยผมจ่ออยู่ที่รูหีแม่เก๋ที่ดูเหมือนจะอ้ารอควยของผม ผมจึงค่อยๆดันหัวควยผมเข้ารูหีแม่เก๋ช้าๆ ในใจก็คิดว่าเอาเข้าสักนิดคงไม่ตื่นน่า รู้สึกเสียวหัวควยมาก ผมขยับเข้าขยับออกได้ 2-3 ครั้งรู้สึกลื่นๆ ตึงๆ และในรูหีมันบีบรัดท่อนควยเสียวมากกว่าชักว่าวเป็นไหนๆ แล้วก็เหมือนกับมีแรงดูดควยผมเข้าไปในรูหี ทำให้ผมลืมทุกอย่างหมดสิ้น เพิ่มแรงดันเข้าไปเรื่อยๆ พอควยผมเข้าไปได้สักครึ่งนึงเท่านั้น
แม่เก๋ก็ตกใจตื่นขึ้นมาพอดี ผมเองก็ตกใจมากจึงโถมตัวกอดแม่เก๋ไว้แล้วดันควยเข้ารูหีแม่เก๋จนสุดลำ เสียงแม่เก๋ร้อง อู๊ย...ซี๊ด... แล้วพยายามผลักตัวผมและขยับตัวออก ตอนนั้นผมไม่สนอะไรอีกแล้ว ตัวก็กดทับแม่เก๋ไว้ มือก็โอบกอดร่างขาวอวบของแม่เก๋ ตั้งหน้าตั้งตา กระเด้าควย ซอยเข้ารูหีแม่ถี่ยิบ แต่ด้วยความตกใจ
ทำให้หัวควยรู้สึกชาๆ เสียวๆ จากที่แม่เก๋พยายามดิ้นหนีก็เริ่มหยุด ยกขาขึ้นรัดรอบเอวผมบ้าง ถ่างออกบ้าง จนที่สุดเริ่มเด้งรับการเย็ดตามจังหวะ จนผมรู้สึกมีน้ำซึมออกมาจากรูหีของแม่เก๋หล่อลื่นจนควยผมชุ่มไปหมด คราวนี้ผมเริ่มขยับเด้งเอวตามที่เคยฝึกมากับแม่มินตรา ซ้ายบ้างขวาบ้างเสียงแม่เก๋คราง อูย..ๆๆ...ฮือๆๆ....ซี๊ดๆๆ... จนไม่ได้ศัพท์ ผมก็เสียวมากแต่น้ำก็ไม่ออก กระเด้าควยเข้ารูหีแม่เก๋แรงขึ้น รูหีแม่เก๋ตอดรัดควยผมรู้สึกเหมือนถูกบีบถี่ๆ แม่เก๋ร้องว๊ายย.. แล้วกอดผมแน่นจนผมทนไม่ไหวพ่นน้ำควยเข้ารูหีแม่เก๋จนล้นออกมานอกรู คราวนี้รู้สึกถึงความกลัวที่เข้ามาในใจ ตอนนี้นยอมรับว่ากลัวที่สุดในชีวิตเลย รีบใส่กางเกงแล้ววิ่งไปห้องนอนผม

Nagi

มาแล้วตอนใหม่รอมานานมาก

แม่เก๋เป็นใครกันแน่

xonly-1786

ขอบคุณมากครับ คุณแม่สวยแซ๊บมากๆๆครับ

ชุ้ง

อ้างจาก: xonly-1786 เมื่อ มิถุนายน 08, 2024, 06:53:23 หลังเที่ยงขอบคุณมากครับ คุณแม่สวยแซ๊บมากๆๆครับ
มินตรา นางเอกของงานนี้ แม่ของชุ้ง คือสาวใหญ่วัย 40 ปี ดูภายนอก เธอทำตัวสดใสและเป็นสาวทำงานจริงจัง แต่เนื่องจากเธอให้กำเนิดชุ้งแต่อายุยังน้อย เธอ ที่ยังคงความสวยได้ราวกับอายุ 20 ต้นๆ
คนนี้คนที่ 2 คนที 1



therasak

เนื้อเรื่องน่าสนใจครับ  แต่สับสนตรงที่ซุ้งเดินไปซื้อของกิน  เจอรถสตาร์ทไม่ติด ซุ้งเดินไปที่รถเอาสายพ่วงแบตเตอรี่แล้วพ่วงแบตเตอรี่  รถใครครับ


Ricebird526

ซึ้งจะกลัวทำไม แม่เก๋กำลังเหงา ต้องช่วยให้หายเหงาเยอะๆ


ijuinrei

จะหนีทำไม อีกฝ่ายสมยอมแล้วน่าจะจัดหนักจัดเต็มไปเลย