ถ้าจะให้ผมเล่าความลับที่สังคมไทยยังไม่ยอมรับ ถ้าเล่าผ่านกลุ่มเว็บบอร์ดหรือเว็บล็อกเพจ ที่ไม่ให้ลงชื่อจริง นามสกุลจริง ก็โออยู่นะครับ ผมติดตามมาจากลิงค์ของกลุ่มเว็บบอร์ดนี้ที่แชร์จากคนในกลุ่ม LINE เลยเข้ามาดู พอเข้ามาแล้ว ผมก็มีความสนใจหรือมาสะดุดกับข้อความและคอมเม้นต์อันหลากหลาย ผมก็มีความลับแบบเดียวกันนั่นแหละ ถึงเข้ามาอ่านจนก็รู้สึกว่าอยากจะแชร์เรื่องของผมให้ทุกคนได้อ่านบ้าง

ในอดีตผมก็ต้องเก็บความลับนี้เอาไว้อย่างมิดชิด แม่เองก็กำชับหนักหนาว่า "อย่าให้ใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัว พี่สาวและน้องสาว แม้แม้แต่พ่อก็ตาม..." นั่นแหละคำกล่าวขอของแม่ผม เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ปัจจุบันนี้ผมอายุ 32 แล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นผมเพิ่งจะอายุ 17 ย่าง 18 ปี เพิ่งจะจบ ม. ปลายพอดียังไม่ได้ไปทำงานที่ไหน

ตอนนั้นผมเลือกที่จะเรียนต่อมหาภาค วันเสาร์-อาทิตย์ในจังหวัด ไม่ห่างจากอำเภอที่ผมอยู่เท่าไหร่ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ผมก็ก็ว่างช่วยงานแม่ขายของชำโชห่วย ก็พอที่จะแบ่งเบาแม่ได้ส่วนพ่อขับรถบรรทุกพ่วงขนสินค้าไปส่งทั่วประเทศไทย ส่วนพี่สาวก็มีครอบครัวแยกออกไปแล้ว ก็ยังเหลือแต่น้องสาวยังเรียน ม. ปลาย

ก็เป็นความใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกชายนี่แหละ ที่ทำให้ผมสนิทกับแม่แต่เล็กๆ เรียกได้ว่าสนิทเสียยิ่งกว่าพี่สาวกับน้องสาวที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกับแม่เสียอีก ขนาดที่ว่า...ผมจะไปทำงานในจังหวัด เพื่อส่งตัวเองเรียนต่อมหาลัย แม่ก็ห้ามเอาไว้... พูดได้คำเดียว แม่เป็นห่วง ส่วนพ่อก็ห้ามเหมือนกัน บอกประมาณว่า...ครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอยู่ห่างไกลแม่หรอก

ก็เพราะความสนิทสนมใกล้ชิด ระหว่างแม่กับผมนี่แหละ หลายๆ ครั้งแม่จึงชอบนอนแกล้งหยอกล้อผมอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็กอดคลอเคลีย จนผมขนลุกไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ ก็มาจากผมที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น และก็เคยมีอะไรกับเพื่อนสาวที่คบกันในมหาลัยเดียวกันมาแล้ว หลายๆ จุดในร่างกายผม มันก็เป็นจุดสยิวที่แม่ไม่เคยรู้ว่า...ด้านอารมณ์แล้ว มันไวต่อการสัมผัสกอดรัดตัวลูกชาย

เอาจริง ๆ ตอนนั้นผมก็ชอบด้วยเพราะลึกๆ แล้ว มันก็รู้สึกสุขๆ อุ่นๆ ดีมาก ยิ่งถ้าเป็นตอนที่แม่กอดแบบแนบชิดตัว... จนทรวงอกแม่มาชิดตัวผมด้วยแล้ว มันสยิวลงตับลงติ่ง เสียวจริงๆ ครับ จนผมก็เริ่มหาช่องทาง... หาเศษหาเลยกับแม่ดู

เผื่อจะมีช่องทางหรือโอกาสที่ผมจะได้ทำอะไรเกินเลยกับแม่ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ อยากลองรักแนวต้องห้ามดูสักครั้ง เพราะก็เคยอ่านเจอเรื่องเสียวแนวนี้อยู่บ่อยครั้ง

จนในที่สุดการกอดของแม่ ก็มีการกอดกับผม และการจูบหอมของแม่ ก็มีการจูบแม่กับผม แต่อยากให้รู้ว่าการจูบกับของผม คือจูบมุมปากแม่ ดูดริมฝีปากแม่ ซึ่งมันก็ทำให้แม่ถึงกับหยุดแกล้งผม มองหน้าผมตาดูนิ่งๆ ผมก็ไม่ยอมให้โอกาสเสียไปเปล่าๆ ผมจูบแม่อีกครั้ง พรางเอนตัวแม่นอนลง ทุกอย่างก็ขึ้น
หลังจากนั้น มันเป็นไปแบบอัตโนมัติจริงๆ

แม่ก็มาร้องห้าม ตอนที่ผมกำลังใช้มือดึงกางเกงในแม่ออกจากตัว แม่บอกว่าไม่เอา เอาแค่ภายนอกก็พอ แต่แม่ห้ามผมไม่ได้หรอก ผมลุกคืบเอาศอกไปเรื่อยๆ จนในที่สุด แม่ก็เคลิ้ม...ถึงขั้นยินยอมให้ผมใช้อวัยวะเพศของผม แทรกชำแหละกลางร่องเพศ ของแม่ได้สำเร็จ แล้วแม่ก็ยอมให้ผมทำอะไรๆ ไปตามที่ผมต้องการโดยดี ในเมื่อแม่เป็นคนมีเลือดมีเนื้อคนหนึ่ง ที่ยังมีความต้องการอยู่

บริบททางเพศของแม่กับผม มันช่างดีจริงๆ มันมีความอบอุ่น มันมีมีความสุขที่ผมเองก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ และพอมีครั้งแรกแล้ว ก็มีครั้งที่สอง พอมีครั้งที่สอง ก็มีครั้งที่สามสี่ จนเราสองคนแม่ลูก ก็พยายามมองหาโอกาสแบบนี้เรื่อยๆ มา ตามแต่โอกาสเหมาะๆ จะอำนวย จนกระทั่งผมเรียนจบสายครูกีฬา แม่ผมอายุ 41 ปีพอดี

ในวันที่ผมจะเดินทางไปบรรจุเป็นครูสอนกีฬาของโรงเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองหลวง แม่ก็ผู้สอนทุกอย่างการใช้ชีวิต พลางกำชับว่าให้เรื่องความลับที่แม่มอบความสุขให้ลับๆ ที่ผ่านมาว่า "อย่าให้ใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัว พี่สาวและน้องสาว แม้แต่พ่อก็ตาม..."

เมื่อผมได้ไปทำงานในเมืองหลวง ห่างไกลแม่แล้ว ได้หยุดก็ช่วงปิดเทอม ถึงจะได้กลับไปหาแม่ จนทุกวันนี้ ผมอายุ 32 ปีแล้ว ส่วนแม่ก็ 50 ปีได้แล้ว แต่ยังเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจอยู่เสมอ พี่มีแม่ที่ดี เข้าใจลูก กล้ามอบสิ่งดีๆ ให้ลูกจดจำ แบบที่แม่หลายๆ คนไม่กล้าทำ ไม่กล้าให้ลูกแบบแม่ผม

แม่มักจะพูดเสมอว่า " คำว่าแม่...อะไรดี ทำแล้วมีความสุข ลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุขไปด้วย แม่ยอมได้หมดเพื่อลูก..." จนทุกวันนี้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้กลับไปหาแม่ แต่ผมก็แชท LINE โทรคอลหากันทุกวัน ตามยุคสมัยที่มือถือสมาร์ทโฟนจะทำได้ทุกอย่าง

สำหรับผม การสมยอมในครอบครัวที่แม่เข้าใจลูกและรักลูก มันเป็นผลดีกับลูกทั้งนั้น ยิ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ ไม่หึงหวง ไม่ยึดติด เอาไปใช้ชีวิตกับคนที่เราคบหาได้ ถ้าเขาไม่รักก็ไม่ต้องไปเสียเวลา ถ้าเขานอกใจก็ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน แค่หาผู้หญิงแฟนใหม่

สำหรับผม ได้ประสบการณ์และวิชาทางเพศ ได้เข้าใจอารมณ์ทางเพศเรื่องพวกนี้ ผมเข้าถึงกว่าใครๆ แน่นอนทำให้ทุกวันนี้ ผมมีความสุขดี ทำงานก็สนุกสนุก ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด แม่มีความเข้าใจลูก มีความลึกซึ้งที่ดี เก็บเอาไว้กับแม่ตลอดกาล เหมือนดังอ้อมกอดแม่ที่มอบให้ลูกครั้งนั้น ลูกทิ้งแม่ไม่ลง ลืมแม่ไม่ลง ยังไงก็ต้องดูแลกันในฐานะแม่ลูก จนตายไปจากกันตามกาลเวลา ลูกจะเป็นคนแข็งแกร่งต่อโลกภายนอกได้ดีมากๆ

แต่ก็แปลกนะครับ!! ในประเทศไทยเรา ยังไม่มีนักวิจัยคนไหนมาศึกษาผู้คนในกลุ่มรักสมยอมในครอบครัวนี้เลย จะมีก็แต่ในต่างประเทศ บางประเทศถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว อนุญาตให้อยู่กันอย่างมีความสุขได้ เช่นบางรัฐสหรัฐอเมริกา

ส่วนตัวผมเอง ความลับลึกซ่อนเร้นในใจที่เคยมีอะไรกับแม่ มันลืมไม่ลงแน่นอน มันต่างกับหญิงอื่นๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่พอเลิกกันไปก็ไม่เคยเก็บมาคิดทำลายตัวเอง ไม่เคยเศร้าใจ ไม่ว่าผมจะจะผิดหรือจะถูก แม่ก็ไม่เคยตัดขาดจากกันกับผมที่เป็นลูกได้ หวังว่าผมคงไม่ได้เขียนหยาบนะครับ..

ถ้าจะให้ผมเล่าความลับที่สังคมไทยยังไม่ยอมรับ ถ้าเล่าผ่านกลุ่มเว็บบอร์ดหรือเว็บล็อกเพจ ที่ไม่ให้ลงชื่อจริง นามสกุลจริง ก็โออยู่นะครับ ผมติดตามมาจากลิงค์ของกลุ่มเว็บบอร์ดนี้ที่แชร์จากคนในกลุ่ม LINE เลยเข้ามาดู พอเข้ามาแล้ว ผมก็มีความสนใจหรือมาสะดุดกับข้อความและคอมเม้นต์อันหลากหลาย ผมก็มีความลับแบบเดียวกันนั่นแหละ ถึงเข้ามาอ่านจนก็รู้สึกว่าอยากจะแชร์เรื่องของผมให้ทุกคนได้อ่านบ้าง

ในอดีตผมก็ต้องเก็บความลับนี้เอาไว้อย่างมิดชิด แม่เองก็กำชับหนักหนาว่า "อย่าให้ใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัว พี่สาวและน้องสาว แม้แม้แต่พ่อก็ตาม..." นั่นแหละคำกล่าวขอของแม่ผม เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ปัจจุบันนี้ผมอายุ 32 แล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นผมเพิ่งจะอายุ 17 ย่าง 18 ปี เพิ่งจะจบ ม. ปลายพอดียังไม่ได้ไปทำงานที่ไหน

ตอนนั้นผมเลือกที่จะเรียนต่อมหาภาค วันเสาร์-อาทิตย์ในจังหวัด ไม่ห่างจากอำเภอที่ผมอยู่เท่าไหร่ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ผมก็ก็ว่างช่วยงานแม่ขายของชำโชห่วย ก็พอที่จะแบ่งเบาแม่ได้ส่วนพ่อขับรถบรรทุกพ่วงขนสินค้าไปส่งทั่วประเทศไทย ส่วนพี่สาวก็มีครอบครัวแยกออกไปแล้ว ก็ยังเหลือแต่น้องสาวยังเรียน ม. ปลาย

ก็เป็นความใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกชายนี่แหละ ที่ทำให้ผมสนิทกับแม่แต่เล็กๆ เรียกได้ว่าสนิทเสียยิ่งกว่าพี่สาวกับน้องสาวที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกับแม่เสียอีก ขนาดที่ว่า...ผมจะไปทำงานในจังหวัด เพื่อส่งตัวเองเรียนต่อมหาลัย แม่ก็ห้ามเอาไว้... พูดได้คำเดียว แม่เป็นห่วง ส่วนพ่อก็ห้ามเหมือนกัน บอกประมาณว่า...ครอบครัวไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอยู่ห่างไกลแม่หรอก

ก็เพราะความสนิทสนมใกล้ชิด ระหว่างแม่กับผมนี่แหละ หลายๆ ครั้งแม่จึงชอบนอนแกล้งหยอกล้อผมอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็กอดคลอเคลีย จนผมขนลุกไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ ก็มาจากผมที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น และก็เคยมีอะไรกับเพื่อนสาวที่คบกันในมหาลัยเดียวกันมาแล้ว หลายๆ จุดในร่างกายผม มันก็เป็นจุดสยิวที่แม่ไม่เคยรู้ว่า...ด้านอารมณ์แล้ว มันไวต่อการสัมผัสกอดรัดตัวลูกชาย

เอาจริง ๆ ตอนนั้นผมก็ชอบด้วยเพราะลึกๆ แล้ว มันก็รู้สึกสุขๆ อุ่นๆ ดีมาก ยิ่งถ้าเป็นตอนที่แม่กอดแบบแนบชิดตัว... จนทรวงอกแม่มาชิดตัวผมด้วยแล้ว มันสยิวลงตับลงติ่ง เสียวจริงๆ ครับ จนผมก็เริ่มหาช่องทาง... หาเศษหาเลยกับแม่ดู

เผื่อจะมีช่องทางหรือโอกาสที่ผมจะได้ทำอะไรเกินเลยกับแม่ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ อยากลองรักแนวต้องห้ามดูสักครั้ง เพราะก็เคยอ่านเจอเรื่องเสียวแนวนี้อยู่บ่อยครั้ง

จนในที่สุดการกอดของแม่ ก็มีการกอดกับผม และการจูบหอมของแม่ ก็มีการจูบแม่กับผม แต่อยากให้รู้ว่าการจูบกับของผม คือจูบมุมปากแม่ ดูดริมฝีปากแม่ ซึ่งมันก็ทำให้แม่ถึงกับหยุดแกล้งผม มองหน้าผมตาดูนิ่งๆ ผมก็ไม่ยอมให้โอกาสเสียไปเปล่าๆ ผมจูบแม่อีกครั้ง พรางเอนตัวแม่นอนลง ทุกอย่างก็ขึ้น
หลังจากนั้น มันเป็นไปแบบอัตโนมัติจริงๆ

แม่ก็มาร้องห้าม ตอนที่ผมกำลังใช้มือดึงกางเกงในแม่ออกจากตัว แม่บอกว่าไม่เอา เอาแค่ภายนอกก็พอ แต่แม่ห้ามผมไม่ได้หรอก ผมลุกคืบเอาศอกไปเรื่อยๆ จนในที่สุด แม่ก็เคลิ้ม...ถึงขั้นยินยอมให้ผมใช้อวัยวะเพศของผม แทรกชำแหละกลางร่องเพศ ของแม่ได้สำเร็จ แล้วแม่ก็ยอมให้ผมทำอะไรๆ ไปตามที่ผมต้องการโดยดี ในเมื่อแม่เป็นคนมีเลือดมีเนื้อคนหนึ่ง ที่ยังมีความต้องการอยู่

บริบททางเพศของแม่กับผม มันช่างดีจริงๆ มันมีความอบอุ่น มันมีมีความสุขที่ผมเองก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ และพอมีครั้งแรกแล้ว ก็มีครั้งที่สอง พอมีครั้งที่สอง ก็มีครั้งที่สามสี่ จนเราสองคนแม่ลูก ก็พยายามมองหาโอกาสแบบนี้เรื่อยๆ มา ตามแต่โอกาสเหมาะๆ จะอำนวย จนกระทั่งผมเรียนจบสายครูกีฬา แม่ผมอายุ 41 ปีพอดี

ในวันที่ผมจะเดินทางไปบรรจุเป็นครูสอนกีฬาของโรงเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองหลวง แม่ก็ผู้สอนทุกอย่างการใช้ชีวิต พลางกำชับว่าให้เรื่องความลับที่แม่มอบความสุขให้ลับๆ ที่ผ่านมาว่า "อย่าให้ใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัว พี่สาวและน้องสาว แม้แต่พ่อก็ตาม..."

เมื่อผมได้ไปทำงานในเมืองหลวง ห่างไกลแม่แล้ว ได้หยุดก็ช่วงปิดเทอม ถึงจะได้กลับไปหาแม่ จนทุกวันนี้ ผมอายุ 32 ปีแล้ว ส่วนแม่ก็ 50 ปีได้แล้ว แต่ยังเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจอยู่เสมอ พี่มีแม่ที่ดี เข้าใจลูก กล้ามอบสิ่งดีๆ ให้ลูกจดจำ แบบที่แม่หลายๆ คนไม่กล้าทำ ไม่กล้าให้ลูกแบบแม่ผม

แม่มักจะพูดเสมอว่า " คำว่าแม่...อะไรดี ทำแล้วมีความสุข ลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุขไปด้วย แม่ยอมได้หมดเพื่อลูก..." จนทุกวันนี้ ถึงแม้ผมจะไม่ได้กลับไปหาแม่ แต่ผมก็แชท LINE โทรคอลหากันทุกวัน ตามยุคสมัยที่มือถือสมาร์ทโฟนจะทำได้ทุกอย่าง

สำหรับผม การสมยอมในครอบครัวที่แม่เข้าใจลูกและรักลูก มันเป็นผลดีกับลูกทั้งนั้น ยิ่งทำให้เกิดการเรียนรู้ ไม่หึงหวง ไม่ยึดติด เอาไปใช้ชีวิตกับคนที่เราคบหาได้ ถ้าเขาไม่รักก็ไม่ต้องไปเสียเวลา ถ้าเขานอกใจก็ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน แค่หาผู้หญิงแฟนใหม่

สำหรับผม ได้ประสบการณ์และวิชาทางเพศ ได้เข้าใจอารมณ์ทางเพศเรื่องพวกนี้ ผมเข้าถึงกว่าใครๆ แน่นอนทำให้ทุกวันนี้ ผมมีความสุขดี ทำงานก็สนุกสนุก ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด แม่มีความเข้าใจลูก มีความลึกซึ้งที่ดี เก็บเอาไว้กับแม่ตลอดกาล เหมือนดังอ้อมกอดแม่ที่มอบให้ลูกครั้งนั้น ลูกทิ้งแม่ไม่ลง ลืมแม่ไม่ลง ยังไงก็ต้องดูแลกันในฐานะแม่ลูก จนตายไปจากกันตามกาลเวลา ลูกจะเป็นคนแข็งแกร่งต่อโลกภายนอกได้ดีมากๆ

แต่ก็แปลกนะครับ!! ในประเทศไทยเรา ยังไม่มีนักวิจัยคนไหนมาศึกษาผู้คนในกลุ่มรักสมยอมในครอบครัวนี้เลย จะมีก็แต่ในต่างประเทศ บางประเทศถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว อนุญาตให้อยู่กันอย่างมีความสุขได้ เช่นบางรัฐสหรัฐอเมริกา

ส่วนตัวผมเอง ความลับลึกซ่อนเร้นในใจที่เคยมีอะไรกับแม่ มันลืมไม่ลงแน่นอน มันต่างกับหญิงอื่นๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่พอเลิกกันไปก็ไม่เคยเก็บมาคิดทำลายตัวเอง ไม่เคยเศร้าใจ ไม่ว่าผมจะจะผิดหรือจะถูก แม่ก็ไม่เคยตัดขาดจากกันกับผมที่เป็นลูกได้ หวังว่าผมคงไม่ได้เขียนหยาบนะครับ..