« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2015, 04:04:42 pm »
กระแสเกมส์เคาท์เตอร์ยังแรงไม่หยุดและพี๊กส์มาก จนมีร้านเกมส์คอมผุดเกิดขึ้นอีกหลายๆร้านตามมา โบราญว่าไว้ว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก ดังนั้นผมจึงมีแผนจะ ขยายสาขาร้านเกมส์ของผมออกไปแต่ไม่ใช้ผมคนเดียวที่คิดได้ คนอื่นก็คิดได้ ก็เลยต้องวิ่งตะเวนหาพื้นที่ทำเลสวยๆ แย่งกับแบบใครเร็วใครได้ แล้วผมก็สามารถเปิดเพิ่มร้านขนาดใหญ่ได้อีก 2 แห่ง บนทำเลเยี่ยม ร้าน2 แห่งใหม่นี้ ยังใหญ่กว่า ร้านสาขาแรกที่ผมอยู่กับพี่แจงอีก
ช่วงนั้นผมต้องวิ่งดูร้านหลายที่เพราะร้านใหม่ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางดีนัก ต้องวิ่งไปดูไปคุมเองบ่อยๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาไปส่งพี่แจงที่ครอสฟิตเนตและสระว่ายน้ำซึ่งเธอชอบจะไปประจำ ก็เลยคิดว่าจะซื้อรถให้เธอคันหนึ่งให้หัดขับไปเอง แล้วก็จะพาไปซื้อโทรศัพท์มือถือจะได้ติดต่อกันได้สะดวก
วันนั้นก็เลยพาพี่แจงไปห้างมาบุญครองก่อนเพื่อไปหาซื้อมือถือ ก็ดันบังเอิญไปเจอพี่วัตรที่ย้ายร้านจากเดอะมอล์มาเปิดที่มาบุญครอง ซึ่งแกก็ขายโทรศัพท์มือถืออุปกรณ์สื่อสารเหมือนเดิมและผมก็ไม่ได้เจอแกมากว่า 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 40 ที่ผมประสบปัญหานั่นแหละ ในบรรดากลุ่มก๊วนที่คบพี่อ้วน พี่โต้ง พี่วัตร มีพี่วัตรที่คบได้ที่สุด ตอนผมประสบปัญหาก็มีพี่วัตรนี่แหละที่ติดต่อมาถามว่าจะให้ช่วยอะไรมั๊ยซึ่งผมก็ปากแข็งบอกว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าพี่วัตรรู้ว่าผมแย่หนัก อ้อก็จะรู้ด้วยผมไม่อยากมีสภาพน่าสมเพศให้ผู้หญิงที่ทิ้งผมไปแล้วรับรู้ผมก็เลยไม่เคยขอความช่วยเหลือจากพี่วัตร
แกตะโกนเรียกผมเมื่อผมเดินมาในโซนร้านขายพวกมือถือที่แกเปิดร้านอยู่แถวนั้น ซึ่งผมก็ดีใจที่เจอแกก็เลยพาพี่แจงเดินไปหา ซึ่งพี่แจงก็รู้สึกอายพี่วัตรนิดหน่อย เพราะกลัวพี่วัตรจะแซวที่เธอคบอยู่กับผม
ทันทีเข้าไปหาพี่วัตร พี่วัตรก็ยิ้มทักถามสารทุกข์สุกดิบว่า เป็นไงมั่ง ไม่เจอกันเลย ไม่ติดต่อมาหามั่ง ผมก็เล่าให้แกฟังว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน ชีวิตตอนนี้เป็นยังไง พี่วัตรฟังก็ดีใจด้วยที่ผมกำรุ่งโรจน์แซวผมว่า
"เฮ้ยอย่างนี้ต้องเลี้ยงเหล้ากูหน่อยแล้วมั่ง..เออว่าแต่ คนนี้ใครว่ะ แฟนมึงเหรอ"
ประโยคหลังพี่วัตรเปลี่ยนมากระซิบถามผมเมื่อเห็นพี่แจงยืนอยู่ข้างๆ ผมก็พยักหน้า พี่วัตรก็งง พูดว่า
"อ้าว แล้วไอ้อ้อบอกกูว่ามึงคบอยู่กับไอ้แจงมึงเลิกกันแล้วเหรอ"
"พี่ลองดูให้ดีๆสิว่าใคร"
ตอนแรกพี่วัตรมองผ่านๆ ไม่กล้าจ้องมองเต็มตาเนื่องจากกลัวเสียมารยาท เพราะพี่แจงแต่งตัวเซ็กส์ซี่มาก เธอใส่เกาะอกเอวลอยโชว์เนินนมที่ตูมเต่ง แล้วเอวที่คอดกิ่ว มีกล้ามเนื้อท้องหน่อยๆแถมยังใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นเอวต่ำ เผยให้เห็นเป็นร่องหน้าท้องกระดูดเชิงกรานเป็นรูปตัววีจนชวนให้นึกลงไปถึงเนินสามเหลี่ยมภายใต้เป้ากางเกง
พี่วัตร เมื่อมองพินิจตามที่ผมบอกก็เริ่มคุ้นหน้าจนนึกออก หัวเราะหลุดปากบอกว่า
"อ้าว ไอ้แจงนี่ว่าทำไมสวยอย่างนี้วะ ไปทำอะไรมา"
พี่แจงก็ยิ้มหัวเราะแบบเขินนิดหน่อย แล้วยกมือไหว้
จริงๆพี่แจงก็ไม่ได้ศัลยกรรมทำอะไรมากนักกับใบหน้าเพราะแต่เดิมก็หน้าตาดีอยู่แล้ว เป็นคนหน้าคมเข้มคล้ายแขกนัยน์ตาสวยเพียงแต่ก่อนจมูกจะโด่งมากไปรูปจมูกไม่ค่อยสวย ก็เลยไปเหลาแต่งรูปจมูกมานิดหน่อยให้ได้รูปรับกับใบหน้าแล้วก็จัดฟันแค่นั้น แต่นั่นก็ทำให้เธอมีเต้าโคลงหน้าที่เปลี่ยนไปมากและสวยขึ้นผิดจากเดิมราวกับเป็นคนละคน และยิ่งตอนนี้เธอแต่งหน้าแต่งตัวเปรี้ยวอย่างสาวไฮโซทันสมัยแถมหุ่นรูปร่างก็เซ็กส์เอ็กซ์แตก จากการเข้าคลอสบริหารหุ่นกระชับสัดสวนจนรูปร่างก็สวยผิดจากเดิม มันไม่แปลกเลยที่พี่วัตรจะจำไม่ได้
จากนั้นผมกับพี่วัตรก็พูดคุยกันยาวพี่วัตรก็ยังพูดถึงคนอื่นๆให้ฟังด้วย เริ่มจากอ้อ ซึ่งพี่วัตรคิดว่าผมน่าจะอยากรู้เรื่องของเธอมากที่สุดพี่วัตรก็เล่าให้ฟังว่า อ้อแต่งงานไปกับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ที่มาช่วยซื้อหุ้นเพิ่มทุนให้กับบริษัทพ่อของอ้อ ตอนมีปัญหาตอน ปี 40เพื่อกันไม่ให้บริษัทพ่อของอ้อล้มละลาย และดำเนินกิจการต่อไปได้ ตอนนี้ก็บินไปๆมาๆระหว่างไทยกับสิงคโปร์ และเวลามาไทยก็จะมาหาพี่วัตรบ่อยๆ พี่วัตรบอกอ้อดูไม่ค่อยสดชื่นไม่ค่อยมีชีวิตชีวา ดูเนือยๆอย่างไรไม่รู้ สงสัยชีวิตคู่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่
ผมฟังแล้วรู้สึกหดหูไปเหมือนกัน พี่วัตรยังให้เบอร์อ้อมาให้ผมด้วยเผื่อผมอยากติดต่อ
จากนั้นก็เริ่มเล่าถึงคนอื่นคือพี่อ้วน พี่วัตรบอกว่าพี่อ้วนแต่งงานกับพี่หน่อยแล้ว ก็มาอยู่ด้วยกันที่ร้านแล้วพี่อ้วนดันไปมีอะไรกับเด็กในร้าน จนพี่หน่อยจับได้ ก็ทะเลาะกันใหญ่โตพี่หน่อยเลยไล่เด็กคนนั้นออก แล้วลาออกมาเฝ้าร้านอยู่กับพี่อ้วนเลย เรียกว่าเฝ้าทั้งร้าน เฝ้าทั้งผัว
เรื่องนี้ผมจะขำก็ขำไม่ออกเพราะพี่แจงก็เคยตกอยู่ในสภาพนั้น ผมเผลอมองไปทางพี่แจงอย่างอัตโนมัติพี่แจงก็มีสีหน้ากระอักกระอวน ก้มหน้าหลบสายตาผม พี่วัตรยังเล่าต่อว่า แต่ตอนนี้เห็นว่าเริ่มแย่เพราะเจ๊งหุ้น แถมร้าน VDO ก็ซบเซา เพราะคนหันไปดู VCD และร้านเกมส์เพลย์ของแกก็ถูกร้านเกมส์คอม แย่งลูกค้าไปเยอะ รายได้ก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
แล้วต่อมาก็เรื่องของไอ้ธงไอ้นี่เดี๋ยวนี้เที่ยวเก่ง เป็นเสือผู้หญิง ทำตัวเป็น เพลย์บอยจีบผู้หญิงไปทั่วแต่มันก็ชอบมาถามข่าวหาอ้อบ่อยๆ ผมฟังแล้วรู้สึกไอ้ธงนี่ปักใจรักอ้อจริงๆก็สมควรแล้วที่ผมแขวะผมไม่เลิก
ผมได้เจอพี่วัตรเลยได้รู้ข่าวคราวคนอื่นเยอะแยะไปหมดก็เห็นว่าคุยนานแล้ว ก็เลยจะซื้อโทรศัพท์ของร้านพี่วัตรให้พี่แจงเลย
ตอนนั้นไม่เพียง วงการเกมส์คอมพิวเตอร์พัฒนาวงการมือถือก็เริ่มพัฒนาด้วยด้วยการพลิกโฉมรูปแบบโทรศัพท์มือถือต่างๆออกมาให้พกพาง่าย และรุ่นสุดฮิตที่สุดในปี 43 ก็คือโนเกีย 3310 เพราะเป็นมือถือรูปทรงสวยถูกใจทุกผู้ทุกวัยและราคาหลายคนก็ถือว่ายอมจ่ายไหว(ประมาณ หมื่นแปดพันกว่า รวมค่าเปิดเบอร์สมัยนั้นมีค่าเปิดเบอร์ด้วยซึงแพงเอาการ ประมาณ 5 พันบาท )แล้วก็มีอีกรุ่นที่คนปารถนาไว้ในครอบครอง คือ โนเกีย 8850 ที่มีฝาครอบปุ่มสไลด์เปิดด้านล่าง หากใครได้ใช้แล้วจะทำให้คนใช้มันจะดูเล่อค่าอย่างมาก เพราะด้วยการออกแบบที่สวยหรู และราคาที่สูงถึง4หมื่นเกือบ 5 หมื่น เลยให้ความรู้สึกได้ไฮโซสุดๆ
(สมัยนั้นใครมีมือถือก็ว่าหรูอยู่แล้ว ใครใช้ 3310 นี่ก็ถือว่ามีระดับล้ำสมัย แต่ถ้าใครใช้ 8850ละก็ อารมณ์มันยิ่งกว่า ถือ Iphone 6 สมัยนี้อีก เพราะฉะนั้น ผู้หญิงคนไหนใช้รุ่นนี้อยู่ไม่ค่อยจะเก็บเข้ากระเป๋า ต้องหาโอกาสเอาออกมาถือโชว์อยู่ตลอด เพราะมันเป็นตัวบ่งบอกฐานะเหมือนเครื่องประดับอันเล่อค่าอย่างหนึ่งทีเดียว)
ผมก็เลยอยากให้พี่แจงได้มีอย่างสาวไฮโซพวกนั้นบ้าง ก็ซื้อ 8850นี้แหละให้เธอ เพราะตอนนี้พี่แจงก็สวยเล่อค่าซะขนาดนี้ก็ควรใช้โทรศัพท์ที่ให้มันสมตัวหน่อย
หลังจากออกจากร้านพี่วัตรพี่แจงถามผมว่า ไม่ลองโทรไปหาอ้อหน่อยเหรอ ถามไถ่เขาหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างซึ่งผมก็แปลกใจพี่แจงอยู่ในใจ ว่าเธอไม่รู้สึกหึงหวงผมเลยหรือไงตอนแรกผมอาจจะชอบที่พี่แจงทำตัวอยู่กรอบของเมียเก็บที่ผมขีดไว้ให้แต่พอเราผ่านมรสุมชีวิตอะไรมาด้วยกันแล้ว เธอก็ยังทำตัวเหมือนเมียเก็บเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ผมกลับเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจและน้อยใจนิดหน่อยที่เธอไม่แสดงความหึงหวงผม มันอาจเริ่มเป็นความรักความผูกพันที่สะสมที่ละเล็กละน้อยจนผมไม่รู้ตัวก็ได้ก็เลยบอกน้ำเสียงขุ่นว่าอย่าเลย ไม่รู้จะคุยอะไร แล้วผมก็เงียบๆไป พี่แจงก็ไม่กล้าพูดเรื่องให้ผมโทรไปหาอ้ออีก
พอผมได้เจอกับพี่วัตรวันนั้นแล้วเรื่องที่ผมเริ่มมีความเป็นอยู่ที่ล่ำซำ และเรื่องพี่แจงสวยเปลี่ยนไปอย่างกับดารา ก็เริ่มเผยแพร่ออกไปในหมู่คนที่เคยรู้จักก็เริ่มมีคนที่หายหน้าหายตาไปโทรมาหา
เริ่มจากพี่อ้วนก่อน ที่โทรมาพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรขุ่นข้องหมองใจกันมาก่อน แล้วถามผมว่าผมกับพี่แจงไปได้กันยังไง พยายามถามเจาะจงรายละเอียดซึ่งผมก็ไม่ค่อยตอบอะไรเท่าไหร่ พี่อ้วนก็คงรู้สึกว่าถามละลาบละล้วงมากไป ก็คงรู้ตัวว่าไม่เหมาะเพราะผมไม่สนิทกับแกเหมือนเมื่อก่อน เลยเปลี่ยนเรื่องคุย พูดชวนผมให้เยี่ยมที่ร้านบ้างผมก็เออออไปอย่างนั้น บอกว่าถ้าว่างก็จะแวะไป
จากนั้นก็ตามมาด้วยสายพี่โต้งที่เกริ่นมาก็อยากจะขอยืมเงินเลย ก็เห็นแกสายสัมพันธ์อันเก่าก่อน จำนวนเงินที่แกจะยืมก็ไม่ทำให้ผมขนหน้าแข็งผมร่วงก็ให้ยืมไป
แล้วสายที่ผมไม่คาดคิดว่าจะโทรมาก็โทรมา แต่พี่แจงเป็นคนรับ เพราะผมกำลังเล่นเกมส์เคาท์เตอร์ติดพันอยู่ โดยกำลังฝ่าการซุ่มยิงของไอ้เด็กเกรียนป็อดคนหนึ่งที่ถือสไนท์เปอร์คอยหลบซุ่มไม่ออกมาช่วยเพื่อน ปล่อยให้เพื่อนตายห่า จนหมด และเหลือมันคนสุดท้ายก็ยังไม่ยอมออกมาลุย ยังซุ่มยึกยักๆแอบอยู่ จนคนอื่น รู้สึกเสียเวลา ทนไม่ไหวตะโกนด่าว่า แม่งป๊อดหว่ะ ออกมาสิวะ หรือ แม่งเอาแต่ซุ่ม ป๊อดฉิบหายเสียเวลานะเว้ย บางคนก็ยืนมองหาเลยว่าไอ้ป๊อดนี่มันเล่นเครื่องไหน พอเห็นก็หัวเราะพูดว่า ไอ้เหี้ย เด็ก หัวเกรียนเลย (เด็กอายุ 12) พอทุกคนรู้ว่าเป็นเด็กก็พออภัยเลิกด่า แต่พูดยุให้ออกมาแทน ว่าน้องออกมาสู้เลย อย่าไปกลัว แต่น้องก็ยังไม่ออกมา
และแล้วผมก็ได้โอกาสเจอตัวตรงที่เด็กซุ่มอยู่ผมย่องไปข้างหลัง แล้วเอาปืน 3-1 ยิงอัดกระบาล พร้อมตะโกนเสียงดังว่า
"หัวแตกกกกกกก"
เสียงเฮของคนรอให้จบเกมส์ก็ดังลั่นเป็นอันว่าจบเกมส์ เทราริส วิน
ตอนนั้นคนเล่นเกมส์ยุคแรกดีกว่ายุคหลังเยอะ พอเห็นเป็นเด็กก็ไม่ถือสา ไม่ใส่อารมณ์เพราะถือว่ามาเล่นเพื่อความสนุกกันทั้งนั้น เด็กที่มาเล่นก็ไม่ปากดีปีนเกลียวเพราะนิสัยเด็กก็มักจะเล่นอย่างนั้น แต่ถ้าผู้ใหญ่แล้วเล่นแบบนี้จะโดนด่าเกรียนเลย ถือว่าโตแล้ว ยังเสือกเล่นแบบนิสัยเด็ก
(ไม่เหมือนสมัยนี้ เด็กก็ปากดีผู้ใหญ่ก็ใจแคบ บางทีเดินไปตบหัวเด็กซะงั้น ถ้าเล่นกวนตีน)
หลังจากจบเกมส์ พี่แจงก็มายืนโทรศัพท์ให้ผมพอดีบอกว่า อ้อโทรมารีบคุยสิ สีหน้าผมจากที่กำลังสนุกสนานอยู่เปลี่ยนไปทันทีผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคุยยังไง ต้องทำใจปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพูดทักเบาๆไปว่าฮัลโหล พี่แจงก็เปิดโอกาสให้ผมคุยได้เต็มที โดยเดินห่างออกไปเพื่อผมจะได้ไม่อึดอัดเวลาคุย
เสียงของอ้อ ก็ดังจากโทรศัพท์ออกมาว่า
"ตี้ เหรอนี่อ้อเองนะ คุยได้มั๊ย"
ผมก็บอกว่าได้ อ้อรู้สึกดีใจมากเธอชวนผมคุยและถามผมเยอะแยะไปหมด ผมก็พูดคุยและถามกลับไปบ้าง จนรู้ว่าเธอตอนเพิ่งกลับจากสิงคโปร์แล้วมาหาพี่วัตร ถึงได้รู้เบอร์ผม เลยตัดสินใจโทรมาหา จนเราคุยกันนานกว่าชั่วโมง
อ้อก็ถามผมว่า จะไปทานข้าวด้วยกันบ้างได้มั๊ยซึ่งตอนนั้นผมก็รู้สึกอยากเจออ้อเหมือนกันก็เลยรับปาก ก็นัดกันไปเจอร้านที่เราเคยไปกินตอนที่ยังเคยเป็นแฟนกัน
ผมไปก่อนเวลา เกือบครึ่งชั่วโมง และเจออ้อนั่งรออยู่ก่อนแล้วผมรู้สึกตื่นเต้นและใจสั่นไปหมด อ้อยังดูสวยเหมือนเดิม เพียงแต่แต่งตัวสำรวมเรียบร้อยดูเป็นผู้ดีและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เธอเองก็ดูตื่นเต้นเหมือนกันที่เจอผมเรายิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย จนผมนั่งลง แล้วอ้อถามว่าจะกินอะไร ผมยังนึกไม่ออกแต่อ้อถามมาก่อนว่า เอาเหมือนเดิมมั๊ย ผมก็พยักหน้าเธอก็เลยสั่งอาหารที่ผมชอบทานแต่ก่อน มานั่งกินกัน
ระหว่างนั้นเราพูดคุยอย่างประหม่าและรู้สึกห่างเหินกันมากพอควร เพราะต่างคนต่างรู้ดีว่าเราตอนนี้ไม่สามารถแสดงความใกล้ชิดกันได้มากเนื่องต่างมีเจ้าของด้วยกันทั้งคู่
อ้อถามว่า
"ไม่ได้พาพี่แจงมาด้วยเหรอ"
ผมกลับโกหกเธอว่า พี่แจงติดธุระเลยมาไม่ได้
"ก็ดีนะถ้าพี่แจงมาอ้อคงทำตัวลำบาก เราคงอึดอัดกันน่าดู"
ผมฟังแล้ว นึกในใจ ว่า พี่แจงไม่หวงผมหรอกและไม่หึงด้วยเพราะจริงๆแล้วเธออาจไม่ได้รักผม ตอนนั้นผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดน้อยใจไปเรื่องนี้ได้ ทั้งที่ผมกำลังคุยอยู่กับอ้อ
เราใช้เวลาพูดคุยถึงความหลังกันพักใหญ่ระหว่างทานอาหาร จากนั้นอ้อก็บอกว่าอยากดูหนัง ที่ห้างสรรพสินค้าที่เคยไปดูกันผมก็ขับรถพาเธอไปดู ระหว่างในอยู่โรงหนัง อ้อเอาศีรษะอิงมาที่ไหล่ผม ยิ่งหนังใกล้จบมากเท่าไหร่เธอก็มสีหน้าเศร้าและเหม่อมากเท่านั้น จนน้ำตาเธอคอยๆไหล ผมตกใจอยู่ไม่น้อย ถามว่าอ้อเป็นอะไร เธอไม่ตอบ แต่บอกให้กอดเธอหน่อย ผมกอดไหล่เธอโอบเข้ามาความรู้สึกอบอุ่นมันแพร่ซ่านไปทั่วตัวถึงหัวใจ อ้อเริ่มสะอื้นแบบไม่มีเสียงแล้วบอกผมด้วยเสียงแหบพร่า ว่า
"วันนั้นอ้อไม่ได้อยากทิ้งตี้ ไปจริงๆนะ ไม่อยากเลยจริงๆ"
แล้วเธอก็เหมือนจะร้องไห้หนักขึ้นจนผมต้องกอดลูบหลังปลอบไปเรื่อยๆ และรู้ว่าเธอยังรักผมไม่เสื่อมคลาย เธอสะอื้นแบบนั้นอยู่นานมากจนหนังจบ โรงหนังเปิดไฟ เธอถึงได้พยายามข่มสะอื้นและปาดน้ำตา แล้วลุกขึ้นมาฝืนยิ้มบอกผมว่าขอโทษ แล้วเดินนำผมออกจากโรงหนัง ผมเดินตามเธอออกไป และดูเงาหลังของเธอรู้สึกว่ามันเหมือนได้เวลาจะจากกันทุกขณะแต่ผมกลับรู้สึกว่าปล่อยให้เธอไปแบบนี้ไม่ได้ ผมดึงข้อมือเธอไว้ให้หยุดรอผม เธอก็หยุดหันมามองผมสายตาที่เรามองกัน มันเหมือนเป็นการบ่งบอกความรู้สึกในใจไปหมดสิ้นเธอพร้อมจะข้ามกำแพงศีลธรรมเพื่ออยู่กับผมคืนนี้ และผมก็พร้อมที่จะรับเธอกลับมา ผมเลยกุมมือเธอเดินไปพร้อมกันออกไปยังลานจอดรถ แล้วพาเธอขึ้นรถปิดประตู แล้วดึงเธอมากอดและจูบให้หายความคิดถึงเธอเองก็ตอบสนองอย่างไม่แคร์ว่าตอนนี้ที่นี่จะเป็นบนรถ ผมเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอที่ห่างหายไปจากรสสัมผัสมือผมมานานและความปารถนาและความต้องการก็รุกโชน อย่างไม่อาจอดกั้น
"อ้อ รู้มั๊ยตี้คิดถึงอ้อทุกวัน"
ผมพูดพร้อมพรมจูบไปทั่วแก้มและใบหน้าของเธอเธอก็กอดรัดผมและรับทุกสัมผัสนั้น บอกผมพร้อมน้ำตาที่เออ
"อ้อก็คิดถึงคิดถึงใจจะขาด ถ้าอ้อต้องตกนรก อ้อก็ยอม"
คำพูดของอ้อยิ่งทำให้ผมรู้ก้นบึ้งของหัวใจเธอมากขึ้น ผมตอบแทนความรู้สึกด้วยการจูบปากและกอดเธอแนบแน่นแทบจะรวมเป็นร่างเดียวสักพักเราสองคนก็ทนแรงปารถนาแห่งความต้องการนั้นไม่ไหว ผมถอดกางเกงผมออก และอ้อก็กางเกงในออกจากชุดแซกของเธอแล้วเธอก็ขึ้นคร่อมบนตัวผมถลกปลายชุดแซกขึ้นให้พ้นไปไว้ที่เอว เราถอดเสื้อผ้ากันน้อยชิ้นแต่ไม่เป็นอุปสรรค ต่อการรวมรักกันบนรถเลยแม้แต่น้อย อ้อจับควยผมบรรจงสอดเข้าหีของเธอแล้วเธอก็กดตัวลงมา จนหีเธอกลืนควยผมจนมิดด้าม เธอผวาครางแล้วกอดคอผมไว้แน่นส่วนผมก็ก็เสียวควยจนกัดฟันซีดดดส์ปาก แล้วเอามือกอดรัดจับเอวเธอเอาไว้อ้อเริ่มโยกสะโพกเด้าหีใส่ควยผมอย่างช้าๆแต่หนักหน่วง พร้อมกับซีดดดส์ปากอย่างสุขสมเธอเหมือนเป็นคนละคนกับที่ผมรู้จัก อ้อในคราวก่อนไม่เคยเป็นฝ่ายรุกผมเพราะเธอมีความอายมากที่จะแสดงอาหารหิวเสน่หาให้ผมเห็น แต่อ้อในวันนี้เธอทิ้งความยางอายที่เคยมีเพื่อตอบสนองความปารถนาที่เธอต้องการ
"อ้อออยซีดดดส์ อ้อออย อืมสส์ "
เธอควบสะโพกและร้องครางอย่างหนักเมื่อความเสียวความเงี่ยนมันเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายผมก็ได้แต่หอบหายใจระบายความเสียวอันหนักหน่วงที่เธอมอบให้พร้อมกับความเงี่ยนครุกรุ่นสูงขึ้นเป็นลำดับ ในที่สุดผมก้ทนไม่ไหวผมปรับเบาะให้เอนลง จนผมนอนหงาย เพื่อจะได้เด้งควยใส่หีเธอได้ถนัดขึ้นแล้วผมก้ใช้เท้ายันพื้นรถช่วยขยับสะโพกเด้งควยใส่หีเธอได้อย่างเร็วสมใจ จนโหนกหีเธอกระแทกโหนกหีผมดัง ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"อ้อออออยยยยยย ตี้ตตตตต อ้อออไม่ไหวว แล้ววว จะเสร็จจจแล้วว"
"อาห์ ซีดดดดส์ตี้ ก็จะแตกแล้วเหมือนกัน อ้อเย็ดมันส์ จริงๆ เลย เสร็จพร้อมกัน อาห์ อะ อาห์"
ผมบอกเสียงเบากระเส่า กระท่อนกระแท่น และเด้าควยเร็วๆจนเธอร้องว่าเสร็จแล้วว ผมก็เลยชักควยออกมาให้น้ำแตกข้างนอก เธอก้ทิ้งตัวกอดผมไว้แน่นและหอบหายใจอย่างอ่อนแรงเราอยู่ในท่าเสร็จนานโขอยู่และพลอดรักคุยกันอยู่นาน กว่าเธอจะยอมลุกขึ้นจากตัวผมไปใส่กางเกงใน บนที่นั่งเบาะข้างๆ แล้วผมก็ขยับใส่กางเกงให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถออกไปติดตามผลงานได้ที่นี้ ไล่ตามที่ลงจากล่างขึ้นบนนะ...
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex5แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ลูกพี่ลูกน้อง 1แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex4แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ลูกกระหรี่แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex3แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex2แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex1แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
สวัสดีครับคุณครู แอม ฟราย แต็งค์กิ้ว ฟักยู แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
[/size]