ขออนุญาติตอบคุณ youang นะครับ จากความเห็น ขอบคุณคับ ^^คือว่าแอบล้วงกันบนรถ >,< เอิ่ม คือใจกล้าไปมั้ย ^^ คืออยากลองมั้งคับ อิอิ ^^เอ่อ - - ตอบแบบส่วนตัวๆเลยนะครับ ผมทำบ่อยมาก - - ครั้งแรกๆก็ตั้งแต่ม.ต้นละ มีโอกาสลองโลดครับ ไม่มีโอกาสก็สร้างมันขึ้นมาโลด [s:257] [backcolor=#ffffcc]อ่อ ยินดีสำหรับผู้ที่ผ่านมาถึงรอบนี้ด้วยนะครับ หลายๆคนไม่ได้ไปต่อ (โดนแบน) ตอนๆนึงเห็นตกรอบไปกันหลายคน [s:243] บางคนโดนแบนไม่กี่วัน หลุดแบนมา เรื่องคงจบพอดี ใครโดนแบนยาวๆก็ เรื่องอาจไปอยู่หน้าอื่นแล้วมั้งนะ เวลาจะคอมเม้นท์อย่าลืมอ่านกฏกันด้วยครับ สั้นๆซ้ำๆนี่ อันตราย[/backcolor]
[backcolor=#ffffcc] ด้วยความปรารถนาดี [/backcolor][s:257]
เคยได้ยินคำว่า ใจสลาย กันบ่อยๆใช่มั้ยครับ
ถ้าไม่เคยเจอกับตัวเอง จะไม่รู้ซึ้งถึงความหมายของมันหรอก ผมมานั่งทรุดอยู่ตรงม้านั่งหน้าแฟลช พี่ภาต้องกล่อมอยู่นานกว่าผมจะยอมกลับเข้าไปนอนในห้อง
พี่ภากลับไปแล้ว แต่ผมยังหลับไม่ลง จนไอ้เอ็มกลับมาหลับกรนไปแล้ว แต่ผมก็ยังอยู่ สุดท้ายเดินมาหน้าโรงงานได้ยังไงก็ไม่รู้ เสียง
ลุงนพ ยามโรงงานวัยห้าสิบ ร้องทักมา ผมก็ได้แต่หันหน้าไปโบกมือให้เฉยๆ ก้าวเท้าเดินไปยังอาคารที่พักวิศวกร แต่ก็ได้แต่ยืนมองไกลๆไม่มีแรงจะเดินเข้าไปใกล้กว่านั้น สุดท้ายเดินกลับมายังป้อมยาม ลุงนพก็ชวนคุย แต่ผมก็ตอบครับๆอือๆไป จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแกชวนคุยเรื่องอะไรบ้าง
" ลุง พี่แก้วกลับไปรึยัง ? " ผมถามลุงนพ
" หือ ว่าไรนะ แก้วไหน แก้วที่สวยๆน่ะเหรอ " ลุงนพถามกลับมา
" ครับ "
" พวกกะที่แล้ว กลับไปกันหมดแล้วนะ ลุงก็ไม่ได้สังเกตุ แต่คิดว่าไม่เห็นนะ " ลุงนพตอบ
" ถ้าพี่แก้วออกมา ปลุกผมด้วยนะลุง " ผมเข้าไปนั่งกับพื้นด้านในป้อมยาม เอาหัวพิงกับเบาะเก้าอี้ กะจะงีบสักนิด เพราะรู้สึกตามันหนักอึ้งเหลือเกิน
เสียงรถที่วิ่งผ่านไปมา ทำเอาผมงัวเงียตื่นขึ้นมา พอได้สติก็ลุกพรวดพราด ฟ้าสว่าง แดดยามเช้าก็เริ่มมีแล้ว มองนาฬิกาในป้อมยาม เจ็ดโมงกว่าๆ ก้าวเท้าออกมานอกป้อมแล้วยืนมึนๆ ก่อนจะหันหน้ากะเดินไปทางที่พักวิศวกรอีกรอบ ไม่รู้ว่าจะไปเพื่ออะไรเหมือนกัน
" อ่าว ตื่นละเหรอ ? " ลุงนพเดินถือแก้วกาแฟเดินเข้ามา
" พี่แก้วละลุง ? " คำถามออกจากปากของผมทันที
" อ๋อ กลับไปแล้ว " ลุงนพตอบ
" แล้วทำไมลุงไม่ปลุกผม " ผมส่งเสียงดังขึ้นมา น้ำเสียงก็มีความไม่พอใจอยู่ด้วย เหมือนลุงนพทำผิดต่อผมอย่างร้ายแรงอะไรแบบนั้น
" ลุงก็จะปลุกแล้ว แต่ไม่ทัน " ลุงนพมองหน้าผมอย่างคนผ่านโลกมามากกว่า ไม่ถือสาที่ผมขึ้นเสียงดังใส่แก
" ไม่ทันอะไรลุง " ผมไม่เข้าใจเลยถามออกไป แต่คำว่า
ไม่ทัน ทำไมมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บนะ
" รถมันวิ่งผ่านไปก่อนน่ะสิ " ลุงนพตอบ
" รถ ? "
" อืมม เห็นติดรถคุณอาร์มออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว "
สาแก่ใจหรือยัง อยากจะทำให้ตัวเองเจ็บอีกแค่ไหนถึงจะยอมเข้าใจ วันนี้พี่แก้ว ลาป่วย เป็นหวัด ในใบลาเขียนว่างั้น
หลังจากนั้นทุกคนก็ต่างรับรู้ว่า พี่แก้ว สาวสวยประจำโรงงานโดนคุณอาร์มฟันเรียบร้อยโรงเรียนคุณอาร์มไปแล้ว ไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว แต่ถึงไม่มีคนปล่อยข่าว แค่ดูจากอาการเล็กๆน้อยๆ เช่นตอนแตะตัว ดันหลัง จับบ่า แสดงความเป็นเจ้าของ ก็พอจะรู้ๆกัน
ผมก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่สุงสิงไม่พูดจากับใคร กับพี่แก้วก็ไม่เคยพูดจากันอีกเลย เหมือนต่างคนต่างเลี่ยงกัน พี่ภากับไอ้เอ็มก็เหมือนจะพยายามปลอบใจผม โดยทางตรงมั่ง โดยทางอ้อมมั่ง ไอ้เอ็มมันยังมีเป้าหมายเดิม คือต้องตีท้ายครัวคุณอาร์มให้ได้ ดังนั้นข่าวคุณอาร์มฟันพี่แก้วแล้ว ไม่ได้มีผลอะไรกับมันนัก
แต่เดิมผมก็เคยคิดว่า ต่อให้พี่แก้วจะโดนคุณอาร์มฟันแล้ว ผมก็ไม่สน ยังไงชีวิตนี้ก็ต้องเอาพี่แก้วให้ได้สักครั้ง (
เนื้อหาจากตอนที่ 4) แต่พอมันเกิดจริงๆแบบนี้ มันไม่ใช่แล้ว
ทำไมมันเจ็บ มันเสียใจขนาดนี้ ไอ้ความอยากเอาพี่แก้วมันหายไปไหนหมด
ผมรักพี่แก้วงั้นหรือ.. ไม่ใช่แค่ชอบคิดจะเอา.. แต่รัก.........................
ผ่านมาก็สองเดือนแล้ว แต่ทำไมผมยังไม่หายเจ็บอีก
................
ในที่สุดผมก็ก้าวเท้าออกจากโรงงาน .
เห็นพี่แก้วกับคุณอาร์มทุกวันๆ ผมทนไม่ไหว
พี่ภาฝากผมให้ไปทำงานกับแฟนแก งานใหม่ของผมก็คือยามที่ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ต่อมาไม่นานก็ได้งานเพิ่มอีกงานก็คือพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารปิ้งย่างแห่งหนึ่งในห้างเดียวกัน
จะว่าไปรายได้ผมเพิ่มขึ้นกว่าตอนอยู่โรงงานเสียด้วยซ้ำ มีเงินส่งกลับไปให้ทางบ้านเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น ผมไปเรียน กศน.เพิ่มให้จบ ม.6 อย่างที่พี่ภาแนะนำ ชวนไอ้เอ็มไปเรียนด้วยกัน มันก็ไม่เอา
ผมยังเจอพี่แก้วอยู่บ้าง เพราะยังอยู่ห้องเดียวกับไอ้เอ็ม ตอนเดิน เข้า-ออก ซอย ก็เคยมีสวนๆกันบ้าง หลังๆนี่ผมดีขึ้นมากแล้ว บางครั้งยังยิ้มให้พี่แก้วไปด้วย พี่แก้วทำสีหน้าแบบบอกไม่ถูก เห็นยิ้มตอบกลับมาแบบแปลกๆ
พี่ภาบอกผมหล่อขึ้นมาก ไอ้เอ็มก็พยายามชวนผมไปเที่ยวกับมัน บอกว่าเอาไว้เป็นเหยื่อล่อสาว แต่ผมก็ไม่ได้ไปกับมันบ่อยนัก กับพี่ภา ผมเลี่ยงๆที่จะฉึกๆกันอีก เพราะตอนนี้ผมสนิทกับแฟนพี่แกแล้ว พี่ภาก็เหมือนจะเข้าใจ ก็ไม่ได้รบเร้าอะไรผม
...
เวลาก็ผ่านไป...
ตอนนี้ผมอายุสิบเก้าแล้ว รูปร่างหน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากจนแทบไม่เหลือเค้าเด็กวัยรุ่นแล้ว ผมเปลี่ยนงานอีกครั้ง เปลี่ยนห้างด้วย คราวนี้ย้ายมาที่เซียร์รังสิต เป็นลูกจ้างร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อะไรทำนองนี้ และอีกงานก็เช่นเดิมพนักงานร้านปิ้งย่างแบรนด์เดิม แต่เป็นสาขาเซียร์รังสิตแทน
ร้านคอมที่ผมทำงานอยู่ เป็นของคนจีนครับ ข้ามน้ำข้ามทะเลมากันเลยทีเดียว ทั้งร้านมีแต่คนจีนพูดไทยได้บ้างไม่ได้บ้าง ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ดังนั้นร้านเลยหาลูกจ้างเป็นคนไทยเอาไว้บ้างไรงั้น ไม่ใช่ร้านใหญ่มากครับ ทำเลก็อยู่ลึกๆในๆโน่น
เจ้าของร้านจริงๆเป็นเฮียครับ แต่แกไปๆมาๆ ไทย-จีน สาม-สี่เดือนมาไทยสักทีนึง มาทีก็อยู่ไม่กี่วันก็กลับ ใน
ร้านก็มีเจ๊เง็ก(
นามสมมุติ) คุมร้านเหมือนเป็นเจ้าของอะไรงั้น นอกจากนี้ก็มีน้องชายของเจ๊เง็ก แล้วก็ลูกจ้างคนจีนหญิง 1 คน ชาย 1 คน ลูกจ้างไทยก็ผมกับพี่อีกคนก็หมุนเวียนๆกันมา แต่ทีมงานจีนนี่เค้าอยู่ประจำครับ ตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน
เจ๊เง็ก เป็นเมียน้อยเฮียครับ แต่น้อยแบบไงละ น้อยแบบอยู่บ้านเดียวกับเมียหลวงไรงั้น ก็ช่วยกันทำมาหากิน เฮียก็อายุสักห้าสิบได้มั้งครับ ผอมๆ เหมือนแกแต่งเจ๊เง็กมาช่วยทำมาหากินมากกว่า ไม่งั้นคงไม่ส่งเมียสาวมาอยู่ไกลแบบนี้ อ่อ ครับ เจ๊เง็กยังสาว อายุสักยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดได้มั้ง สวยด้วยครับ สวยแบบจีนๆเลย
ไอ้เอ็มมาเห็น มันก็ได้โปรเจคใหม่อีกแล้ว - - มันบอกมันอยากลองสาวจีน ไอ้นี่ก็เกินจะเยียวยา
เจ๊แกค่อนข้างดุครับ ขนาดลูกค้ามาซื้อของแกยังไม่ค่อยจะยิ้มเลย - - น้องชายเจ๊แกยังจะมีมนุษยสัมพันธ์ดีกว่า
ผมมาทำงานได้หลายเดือน ก็ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้น เจ๊แกบอกผมขยันไม่อู้งาน ภาษาจีนผมก็พอฟังออก พูดเป็นบ้างแล้ว เพราะทั้งร้านมีแต่เว้าจีนกันโฉ่งฉ่าง ผมนี่บางทีต้องเป็นล่ามให้เสียอีกเวลามีคนมาซื้อของ
มีลูกจ้างสาวจีนคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่จากร้านผมนะครับ จากร้านอื่นในเซียร์นี่ละ (
อ่อ ถ้าใครไม่เคยมาที่เซียร์รังสิต อาจจะไม่รู้ว่า ในนี้มีร้านของคนจีนเยอะมากครับ เจ้าของจีน ลูกจ้างจีนเต็มห้างไปหมดแล้ว - -) เรียกน้องเค้าว่า
น้องหมวย ละกันครับ
หมวยนี่อายุคงสักสิบแปด รูปร่างแบบน่ามองครับ สูงสัก 157-158 ดูเตี้ยกว่าเจ๊เง็กนิดๆ หน้าตาก็หมวยๆน่ารักๆ มีคนมาจีบเยอะครับ หมวยยิ้มเก่งด้วย กิ๊กไทยกิ๊กจีนนี่เพียบ ผิวก็ขาวแบบจีนๆเลย ก้นนี่งอนมาก ไม่ได้ผายออกเท่าเจ๊เง็กนะครับ แต่ดูงอนกว่า
สวยนี่อาจจะสู้เจ๊เง็กไม่ได้ แต่ได้น่ารักมาชดเชย รวมๆก็สูสี มั้งนะ แต่เจ๊แกนี่ไม่มีใครกล้าจีบกล้าแซวครับ คนที่เคยลองเจอเจ๊แกด่าเป็นภาษาจีนใส่เป็นชุดมาแล้ว
ที่พูดถึงน้องหมวย เพราะน้องเค้าชอบมาคุยกับผมอยู่บ่อยๆ พูดไทยพอได้ครับ คงเพราะกิ๊กไทยเยอะ มีมาจับมือเกาะแขนผมบ้างไรบ้าง ทำเอาผมที่ว่างเว้นเรื่องนี้มานานก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง แต่ก็นะ น้องเธอกิ๊กเยอะเหลือเกิน
ผมกับน้องหมวยเริ่มสนิทกันมากขึ้น มีแลกเบอร์โทร คุยไลน์กันบ้างแล้ว (
ตอนนี้ผมมีมือถือละครับ)
ก็ยอมรับครับว่า รู้สึกดี
อยากเอามั้ย ก็ยอมรับครับว่า.. ถ้าได้ ก็เอา แต่ถ้าจะให้พยายามหาทางให้ได้เอามั้ย ก็ไม่ขนาดนั้นครับ
ความสัมพันธ์เลยเหมือนค่อยเป็นค่อยไป
แต่มันเริ่มเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์แบบคุกรุ่น ก็ตอนน้องหมวยเริ่มส่งภาพสวยๆมาให้ผมดูนี่ล่ะ
............................................................
[post]
โดนแซวเรื่องซ่อนๆเยอะ - - ตอนนี้ไม่ซ่อนก็ได้
[/post]
ผมมาเห็นความเห็นของคุณ แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ว่า
[table=100%][tr][td]
มันคงจะดีถ้ามีภาพน้องหมวยประกอบ
อืมม น่าสนใจครับ ภาพเจ้าตัวคงไม่ได้แน่ๆ แต่เดี๋ยวลองถามเจ้าของเรื่องให้หาภาพสาวๆที่พอใกล้เคียงน่าจะได้ ประมาณว่าอิจเมจตรงกันไรงั้น แบบนี้ดีมั้ยครับ เอาของคนอื่นด้วยมั้ย [s:258] [/td][/tr][/table]