ครอบครัวรวมมิตร 9
ผมหลับไปนานมากตื่นขึ้นมาอีกครั้ง บนเตียงก็ไม่มีน้องอี๊ฟกับน้องจิ๊แล้ว มองดูนาฬิกาที่ผนัง..ก็รู้ว่านานจริง เพราะว่านี่มันบ่าย 2 เข้าไปแล้ว มิน่าล่ะผมจึงรู้สึกหิว ผมลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเพื่อหาอะไรรองท้อง
“ตื่นแล้วหรือคะพ่อ...” น้องอิ๊ฟทักผมเมื่อเห็นผมเดินออกมาจากห้อง
“ตื่นนานแล้วหรืออี๊ฟ...ไม่เห็นปลุกพ่อเลย...” ผมเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วหอมแก้มเธอ น้องอี๊ฟค้อนผม แล้วพูดว่า
“ก็เห็นพ่อใช้แรงไปเยอะไม่ใช่หรือคะ... ทั้งเมื่อคืน..แล้วก็ยังมาต่อกับยัยจิ๊อีก...แถมยังได้เปิดซิงก้นยัยจิ๊ด้วยไม่ใช่เหรอ...” ผมไม่รู้ว่าเธองอนอะไร ก็ในเมื่อเธอเป็นคนชักนำน้องจิ๊มาเอง
“โอ๋..โกรธอะไรพ่อล่ะ..อี๊ฟก็รู้ว่าพ่อรักหนูมากที่สุด...” น้องอี๊ฟค่อยหันหน้ามาหาผม แล้วก็บอกว่า
“ก็อี๊ฟน้อยใจ...ที่พ่อไปเย็ดก้นยัยจิ๊ก่อนอี๊ฟ... อี๊ฟกลัวพ่อจะไปหลงยัยจิ๊แล้วลืมอี๊ฟ...” ผมกอดเธอแล้วจูบเธอด้วยความรัก แล้วบอกกับเธอว่า
“โถ..นึกว่างอนอะไร...พ่อสัญญานะ... ว่าพ่อจะไม่มีทางรักใครมากกว่าสุดที่รักคนนี้โดยเด็ดขาด...” อี๊ฟจึงยิ้มออกมาได้
“อี๊ฟรักพ่อที่สุดเลยคะ...เอ่อ.. แล้วพ่อไม่รังเกียจอี๊ฟหรือคะที่อี๊ฟให้คนอื่นเอา...” น้องอี๊ฟถามผมด้วยความกังวล
“เรื่องนี้อี๊ฟไม่ต้องกังวลนะ..เราตกลงกันแล้วนี่จ๊ะ...” ผมบอกกับเธอพร้อมกับจูบเธอเพื่อเป็นการยืนยันว่าผมรักเธอมากแค่ไหน
“โอ๋..โอ๋..กอดกันกลมเชียวนะผัวเมียคู่นี้...ห่างกันบ้างก็ได้...” เสียงน้องจิ๊พูดเสียงดังจากประตูหน้าบ้าน พอผมหันไปมองก็พบว่าเธอยืนมองเราสองคนอยู่ ในมือถือของกินเต็มมือ
“อ้าวว..ออกไปซื้ออะไรมาล่ะเยอะแยะเชียว...มา..พ่อช่วย...” ผมรีบเข้าไปรับของในมือเธอ แล้วช่วยกันแกะใส่จาน นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นก็นั่งเล่นรับลมหลังบ้านใต้ต้นไม้ใหญ่ มีอยู่ช่วงหนึ่งน้องจิ๊อยู่ๆก็ถามอี๊ฟขึ้นมา ทำเอาผมกับจิ๊ถึงกับอึ้ง
“อี๊ฟ..เราอยากขออะไรอี๊ฟอย่างนึงได้มั๊ย..” น้องอี๊ฟก็ตอบไป
“จะขออะไรอีกล่ะ...เรามันเพื่อนซี้กันอยู่แล้วนี่.. ถ้าให้ได้เราให้อยู่แล้ว...” น้องจิ๊ขยับเข้ามาจับมือน้องอี๊ฟแล้วบอกว่า
“เรา..เรา..ขอเป็นเมียน้อยพ่อนัทคนนะ...เราสัญญา.. เราจะไม่คิดแย่งพ่อนัทจากเธอเด็ดขาด...เรา..ว่า..เรารักพ่อนัท...” ทำเอาน้องอี๊ฟนั่งอ้าปากค้าง
“จิ๊..เธอพูดอะไร..แล้วพ่อเธอล่ะ...เธอเอาพ่อเธอไว้ที่ไหน...” น้องอี๊ฟถามเสียงรัวเป็นชุด
“อี๊ฟ.. เรากับพ่อไม่สามารถอยู่กินกันแบบสามีภรรยากันได้เธอก็รู้ มันไม่เหมือนกับเธอ...” น้องจิ๊ยืนยันเสียงหนักแน่น จนน้องอี๊ฟต้องหันมามองผม เป็นการของความเห็น
“พ่อว่าเรื่องนี้ค่อยมาคุยกันดีกว่านะ.. เพราะว่าตอนนี้อี๊ฟกับจิ๊ก็ยังเรียนอยู่..จะมาเปิดตัวก็ดูจะไม่เหมาะ.. ไม่แน่นะจิ๊อาจจะเจอกับคนที่ใช่..แล้วเหมาะสมกันก็ได้นะ.. ยังไงเรื่องนี่พ่อให้อำนาจจัดการกับอี๊ฟนะ..อี๊ฟว่ายังไงพ่อก็เอาตามนั้น...” คำตอบของผมทำเอาน้องอี๊ฟยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนน้องจิ๊พูดออกมา
“นี่ยัยอี๊ฟ..แกมายิ้มเยาะเย้ยเราหรือไง...ใช่ซิ.. เรามันก็แค่เพื่อนที่ไม่มีรักนี่...” พูดแล้วน้องจิ๊ก็สะบัดหน้าหนี จนน้องอี๊ฟต้องเข้าไปง้อ
“โถ..เราไม่ได้ยิ้มเยาะเย้ยเธอซะหน่อย.. ที่เรายิ้มก็เพราะเราดีใจต่างหาก..ที่พ่อให้เราเป็นคนตัดสินใจ.. เพราะฉะนั้นแกต้องทำตัวดีๆหน่อย...อย่าดื้อกับพี่นะน้อง...” น้องอี๊ฟบอกกับเพื่อรัก แล้วก็ยิ้มๆ
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ..เฮ่ออ..แต่ถึงยังไงเราก็ยอม.. ก็เธอเป็นเมียหลวงนี่..ใช่มั๊ยผัวขา...” น้องจิ๊พูดพร้อมกับกระโดดเข้ามากอดผมทันที ทำเอาน้องอี๊ฟหันควับ แล้วบอกว่า
“นี่..ฉันยังไม่ได้อนุญาตเลยนะ...อย่ามามั่วนิ่ม...” น้องจิ๊ก็สวนมาว่า
“แหม..ก็พ่อนัทเย็ดเราไปแล้วนี่.. เพราะฉะนั้นเราก็เป็นเมียพ่อนัทเหมือนกัน...ถึงจะเป็นเมียน้อยก็ตาม..เรายอม...” ทั้งคู่นั่งจ้องหน้ากันนิ่ง ก่อนที่จะค่อยๆยิ้ม แล้วหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน ผมก็นึกว่าจะมีการปะทะคารมกันซะอีก จากนั้นก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นน้องอี๊ฟกับน้องจิ๊ก็ช่วยกันทำความสะอาดบ้าน จัดบ้านจัดช่อง จนกระทั่งเย็นๆน้องจิ๊ก็มาบอกว่า พ่อโทรมาบอกต้องไปเคลียร์งานเพราะมันมีปัญหา ลูกน้องแก้ไม่ได้ เสร็จงานแล้วจะมารับ คงจะเป็นพรุ่งนี้จะโทรมาบอกอีกที น้องจิ๊เลยเอาเสื้อผ้าที่ใส่ตอนมาไปซัก เพื่อที่จะได้ใส่กลับ ช่วงที่อยู่บ้านผมเธอก็ใส่เสื้อผ้าของน้องอี๊ฟไปเพราะรูปร่างพอๆกัน ช่วงเย็นๆผมชวนสองสาวไปกินข้าวข้างนอก แต่ทั้งคู่กลับบอกว่าจะทำกินเองดีกว่า ผมก็ตามใจ ทั้งหมดจึงเข้าครัวทำอาหารเย็นด้วยกัน น้องอี๊ฟนั้นเธอทำเป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา ส่วนน้องจิ๊ส่วนมากจะเป็นลูกมือน้องอี๊ฟซะมากว่า เพราะได้ยินเสียงน้องอี๊ฟสั่งทำโน่นสั่งทำนี่ตลอดเวลา พอกินเสร็จทั้งคู่ก็ช่วยกันเก็บ ช่วยกันล้างอย่างมีความสุข เพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักๆ พูดกระเซ้าเย้าแหย่กันไปมา ผมเห็นแล้วก็รู้สึกมีความสุข ที่น้องอี๊ฟได้มีเพื่อนคุยที่อยู่ในวัยเดียวกัน ไม่รู้ผมนั่งเหม่อไปนานแค่ไหน มาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ก็เพราะน้องอี๊ฟกับน้องจิ๊เข้ามาพูดกรอกที่หูผมเสียงดัง
“นั่งยิ้มอะไรคะ...หรือคิดถึงใครอยู่...” ทั้งน้องอี๊ฟและน้องจิ๊ต่างก็จ้องหน้าผมเหมือนจับผิด
“ก็คิดถึงเราสองคนนั่นแหละ...” พอผมบอกน้องอี๊ฟก็ตีแขนผม แล้วว่าผมทันที
“ไม่ต้องมาโกหกเลยค่ะ...มาคิดถึงอี๊ฟกับจิ๊ได้ไง.. ในเมื่อเราสองคนก็อยู่ในบ้าน..ไม่ได้ไปไหนซะหน่อย...” ดูน้องอี๊ฟจะไม่เชื่อจริงๆ เพราะว่าสีหน้าที่มองผมนั้นดูจะเครียดๆเอาการ
“จริงๆจ๊ะ..ที่พ่อนั่งยิ้มก็เพราะว่าพ่อดีใจและมีความสุข.. ที่เห็นอี๊ฟกับจิ๊มีความสุข.. พ่อนั่งฟังเราสองคนพูดคุยแล้วหัวเราะอย่างนี้แล้วพ่อก็อดยิ้มไม่ได้...” พอได้ยินสิ่งที่ผมบอกก็ทำให้อี๊ฟยิ้มออกมาได้
“ก็เราเป็นเพื่อนรักกันนี่คะ...อี๊ฟดีใจมากค่ะที่เห็นพ่อมีความสุข...” น้องอี๊ฟบอกแล้วเข้ามากอดผม ส่วนน้องจิ๊เดินยิ้มไปนั่งที่โซฟาอีกตัว
“อี๊ฟรักพ่อที่สุดเลยคะ...” น้องอี๊ฟหอมแก้มผมหลังจากที่กระซิบบอกที่หู ผมหอมแก้มเธอตอบเช่นกัน
“พ่อก็รักอี๊ฟมากเหมือนกันจ๊ะ...” เสียงการพูดคุยและการแสดงความรักของเราสองคนทำให้น้องจิ๊พูดขึ้นมาว่า
“แล้วจิ๊ละคะ...พ่อนัทไม่รักจิ๊บ้างเลยหรือคะ...” ผมหันไปมอง สีหน้าของเธอที่ผมเห็นมันดูเศร้าๆ ซึมๆ เห็นแล้วรู้สึกสงสาร
“จิ๊พ่อก็รัก...มานี่ซิ..ไปนั่งซะไกลเลย..รังเกียจพ่อหรือ...” พอได้ยินผมบอกว่ารังเกียจ น้องจิ๊รีบลุกขึ้นมาหาทันที ผมจึงดึงเข้ามานั่งกอดอีกข้างหนึ่ง แล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่เพื่อเป็นการปลอบใจ แต่ก็กลัวน้องอี๊ฟจะน้อยใจ ก็เลยบอกกับน้องจิ๊ว่า
“หายน้อยใจหรือยัง...ถึงพ่อจะรักจิ๊.. แต่พ่อก็รักจิ๊มากกว่าอี๊ฟไม่ได้หรอกนะ...จิ๊เข้าใจพ่อนะ...” เพียงแค่นี้น้องจิ๊ก็ยิ้มออก แล้วบอกว่า
“จิ๊เข้าใจค่ะ..ขอให้พ่อนัทรักจิ๊แค่ครึ่งของอี๊ฟ..นี้จิ๊ก็ดีใจแล้ว...” ผมโอบกอดสองสาวไว้ในอ้อมกอดอย่างมีความสุข
“อี๊ฟไม่โกรธพ่อนะ..ที่พ่อจะรักจิ๊บ้าง...” ผมหันไปถามน้องอี๊ฟ
“อี๊ฟไม่โกรธพ่อหรอกคะ...ถ้าให้พ่อมีความสุข.. อี๊ฟยอมทุกอย่างค่ะ...พ่ออย่าทิ้งอี๊ฟไปก็พอแล้ว...อี๊ฟรักพ่อมากนะคะ...” น้องอี๊ฟบอกกับผมอย่างหนักแน่น เมื่อทุกอย่างลงตัวผมก็ชวนสองสาวกินข้าว เพราะรู้สึกหิวตั้งแต่ทั้งคู่กำลังทำกันแล้ว เพราะว่ากลิ่นมันโชยมายั่วเหลือเกิน อิ่มแล้วผมก็ออกไปรับลมหน้าบ้าน ปล่อยให้สาวๆช่วยกันเก็บถ้วยจานไปล้าง พอเข้าบ้านอีกทีสองสาวก็หายเข้าไปในห้องกันแล้ว ผมจึงปิดบ้าน เข้าห้องอาบน้ำอาบท่า พอออกมาจากห้องน้ำ ก็พบกับสองสาวนั่งยิ้มดูทีวีอยู่บนเตียงแล้ว ผมกระโดดขึ้นไปแทรกระหว่างสองสาวแล้วโอบสองสาวลงไปนอนกอด สองสาวหัวเราะคิกคักๆ นอนดูละครเรื่องที่เธอชอบ ทำให้ผมต้องดูไปกับพวกเธอด้วย แต่เพราะผมไม่ค่อยชอบดูละคร ทำให้ผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ทำให้ผมไม่ได้อะไรกับสาวๆสำหรับในคืนนี้ ทำให้ตื่นมาในตอนเช้าด้วยความสดชื่น เพราะว่าได้พักอย่างเต็มที่ ผมออกไปทำงานแต่เช้าปล่อยให้สองสาวอยู่บ้านกันตามลำพัง พอกลับบ้านตอนเย็นก็พบเพียงน้องอี๊ฟอยู่บ้านคนเดียวแล้ว น้องอี๊ฟบอกผมว่าน้องจิ๊พ่อมารับเมื่อตอนบ่าย พอผมเข้าบ้านน้องอี๊ฟก็เข้ามาปรนนิบัติผม ทั้งเอาน้ำเย็นมาให้ดื่ม ถอดถุงเท้าให้ ไถ่ถามว่าเหนื่อยมั๊ยพร้อมกับเอามือมาบีบนวดให้ผม ผมจูบเธอแล้วก็บอกว่า
“แค่พ่อได้เห็นหน้าอี๊ฟพ่อก็หายเหนื่อยแล้วละ.. ไม่ต้องนวดหรอกจ๊ะ...” น้องอี๊ฟเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วบอกว่า
“แหม..ก็อี๊ฟอยากทำหน้าภรรยาที่ดีนี่คะ...พ่อไม่ชอบเหรอ...” ผมเอามือโอบตัวเธอเข้ามากอดแล้วบอกว่า
“ชอบจ๊ะ..แต่อี๊ฟไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้... พ่อไม่อยากให้อี๊ฟเหนื่อย...” น้องอี๊ฟก็บอกกับผม
“อี๊ฟไม่เหนื่อยหรอกคะ...อี๊ฟมีความสุขที่ทำเพื่อพ่อ...” ดูอี๊ฟจะมีความสุขตามที่พูดจริงๆ เพราะการกระทำของเธอนั้นเธอทำเองโดยที่ผมไม่เคยบอก และเธอก็ทำได้ดีมากด้วย นั่นหมายความว่าเธอตั้งใจที่จะทำ
“แล้วอี๊ฟนึกยังไงถึงที่อยากเป็นเมียพ่อ.. ไม่อายคนอื่นเหรอที่มีผัวแก่..” ผมถามเธอ เพราะตอนแรกผมคิดว่าเธอแค่อยากลองอยากรู้เรื่อง SEX เท่านั้น
“อี๊ฟไม่อายหรอกคะ...พ่อยังไม่แก่ซะหน่อย.. อี๊ฟมีความสุขรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่กับพ่อ...แล้วพ่อละคะ..รู้สึกยังที่เป็นสามีอี๊ฟ...” น้องอี๊ฟบอก
“จริงๆแล้วพ่อก็แอบปลื้ม..แอบชอบอี๊ฟเหมือนกัน แรกๆพ่อก็คิดว่าอี๊ฟแค่อยากลองเรื่อง SEX เท่านั้น.. พ่อยังคิดอยู่เลยว่าสักวันอี๊ฟก็คงทิ้งพ่อไปมีแฟนหนุ่มๆหล่อๆ.. แต่เมื่ออี๊ฟยืนยันกับพ่ออย่างนี้..พ่อยิ่งรักอี๊ฟมากกว่าเดิมอีก...” พอผมบอกไปน้องอี๊ฟก็ทำหน้าทะเล้นใส่ผม แล้วบอกว่า
“ฮั่นแน่..พ่อคิดจะเอาอี๊ฟทำเมียเหมือนกันใช่มั๊ย.. รู้อย่างนี้อี๊ฟปล้ำพ่อไปนานแล้ว..ไม่รอมาเป็นปีหรอกคะ..ฮิอิอิ...” น้องนั่งหัวเราะคิกๆๆ
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย.. ถ้าพ่อไม่หักห้ามใจเอาไว้มีหวังหีอี๊ฟฉีกไปแล้ว...ตอนนั้นอี๊ฟขนขึ้นไม่กี่เส้นเอง.. ยังจะมายั่วพ่อซะขนาดนั้น ไม่กลัวบ้างรึไง...” ทำเอาน้องอี๊ฟหยุดหัวเราะทันที เอามือมาตีแขนผมแก้เขิน แล้วก็ชวนผมไปกินข้าวที่เธอจัดเตรียมรอไว้ เราสองคนนั่งกินข้าว ด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม เหมือนคู่แต่งานใหม่ๆ จนผมอดคิดถึงแม่ของเธอไม่ได้ เพราะการกระทำของเธอนั้นช่างเหมือนกับแม่ของเธอซะจริงๆ หลังจากกินข้าวอิ่มผมก็ยืนหน้ารูปหน้ารูปถ่ายของแม่น้องอี๊ฟแล้วพูดออกมาเบาๆ
“ที่รัก..พี่ขอน้องอี๊ฟเป็นเมียพี่นะ พี่สัญญาว่าพี่จะดูและน้องอี๊ฟตลอดไป...” ผมยืนหน้ารูปสักครู่ก็ไปอาบน้ำ เพราะรู้สึกเหนียวตัว จากการที่ทำงานมาทั้งวัน เสร็จแล้วก็นั่งเคลียร์งานสักครู่น้องอี๊ฟก็เดินเข้ามา
“อ้าวว..พ่อนึกว่าอี๊ฟไปไหน..ไม่เห็นมาอาบน้ำ...” น้องอี๊ฟเดินเข้ามากอดผมทางด้านหลังแล้วหอมแก้มผม
“ก๊อี๊ฟเห็นพ่อกำลังอาบอยู่..ไม่อยากเข้าไปแย่งห้องน้ำกับพ่อ อี๊ฟเลยไปอาบห้องโน้นค่ะ...” ผมหันหน้าไปจูบเธอ แล้วเก็บงานที่เคลียร์เสร็จพอดี ไปนอนดูทีวีบนเตียง น้องอี๊ฟนอนหนุนแขนผมถามผมว่า
“เมื่อวานพ่อโดนยัยจิ๊ดูดพลังไปหมดเลยหรือคะ.. แถมยังได้เปิดซิงตูดยัยจิ๊ด้วย...หลับตั้งแต่หัวค่ำเลย...” ผมเลยต้องละสายตาจาดจอทีวีมาหาเธอ
“จิ๊เล่าให้ฟังเหรอ...” อี๊ฟพยักหน้าตอบรับ.. ก่อนที่จะถามผมว่า
“พ่อชอบมั๊ยคะ.. เห็นยัยจิ๊บอกว่าพ่อเย็ดจนน้ำแตกในรูตูดมันเลย แถมยังบอกด้วยว่ามันรัดแน่นดี...” ผมก็ยอมรับกับน้องอี๊ฟตามที่น้องจิ๊บอก
“อืมมม..มันก็ดีไปอีกแบบ.. แต่พ่อชอบทางข้างหน้ามากกว่านะ มันเป็นธรรมชาติดี...” น้องอี๊ฟนิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่จะบอกกับผมว่า
“อี๊ฟอยากให้พ่อลองเอาทางก้นอี๊ฟบ้างอ่ะ..ได้ไหมคะ...” ผมคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีวันนี้ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
“พ่อถามจริงๆเถอะ...ถ้าเมื่อวานพ่อไม่ได้เอากับจิ๊.. อี๊ฟคิดอยากจะลองหรือปล่าว...” ผมถามเธอตามตรง เพราะผมคิดว่าเธอคงกลัวผมจะไปหลงยัยจิ๊มากกว่า
“ก็..ก็คงไม่ค่ะ.. อี๊ฟก็เพิ่งรู้นี่แหละคะว่าทางก้นก็เอาได้..อี๊ฟกลัวพ่อจะไปหลงยัยจิ๊...ดูซิ..ให้พ่อเอาก้นตัดหน้าอี๊ฟจนได้..” น้องอี๊ฟพูดเหมือนน้อยใจ เอามือเขี่ยวนที่หน้าอกผม
“อี๊ฟไม่ต้องกลัวว่าพ่อจะไปหลงคนอื่นหรอกจ๊ะ.. เพราะว่าอี๊ฟคือคนที่พ่อรักมากที่สุด...อี๊ฟไม่ต้องทำตามคนอื่นหรอกนะ เพราะว่าเรื่องแบบนี้มันต้องเต็มใจด้วยกันทั้งคู่. ไม่ใช่ว่าทำเพราะอิจฉากัน ทำเพื่ออยากให้คนอื่นรัก.. ทำแบบนั้นมันจะมีความสุขได้ไง..อี๊ฟเข้าใจไหม...” ผมบอกับเธอ เพราะว่าผมไม่อยากให้เธอมาฝืนใจทำ
“อี๊ฟเข้าใจค่ะพ่อ...แต่อี๊ฟไม่ได้ฝืนใจนะคะ.. อี๊ฟอยากให้พ่อเอาจริงๆ...อี๊ฟอยากให้พ่อเป็นคนแรกที่ได้เปิดซิงก้นของอี๊ฟ...” น้องอี๊ฟยืนยันกับผมอย่างหนักแน่น พร้อมกับสอดมือเข้าไปจับลำควยผมรูดเบาๆ ซึ่งมันตื่นตัวตั้งแต่นอนกอดกับเธอแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้พ่อจะซื้อวาสลีนมาไว้ก่อนนะ.. ไม่งั้นอี๊ฟคงรับไม่ไหวหรอก...เพราะว่าทางก้นมันไม่มีน้ำหล่อลื่นช่วย...” ผมบอกกับเธอแล้วพลิกตัวมากอดจูบไซร้ซอกคอ ดูดปากกับเธอ ซึ่งน้องอี๊ฟก็จูบตอบโต้ทันที เสื้อผ้าชุดนอนของเราค่อยๆถูกถอดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีกับมันเลย ผมโลมเลียไปทั่ว ทั้งสองเต้าอวบอิ่มของเธอ ไล่ลงไปที่เนินสามเหลี่ยม ผมใช้ลิ้นชอนแซะไปตามร่องกลีบที่น้ำใสๆเริ่มเอ่อซึมออกมาให้ผมได้ลิ้มชิมรส
“โอ้วววว...ซี๊ดดดด...พ่อขาา...ซี๊ดดด.. พอเถอะ..เอาควยพ่อมาเย็ดดีกว่า..ซี๊ดดด...อี๊ฟอยากน้ำแตกกับควยพ่อ...โอ้ววว...” น้องอี๊ฟร้องครวญครางออกมาเสียงดังลั่นห้อง เด้งส่ายก้นเร่าๆด้วยความเสียว ผมเลยเงยหน้าขึ้นมาจากร่องหีเธอ น้องอี๊ฟรีบเอามือดึงให้ผมเลื่อนตัวขึ้นไป
“อูยยย...พ่อขา..เย็ดอี๊ฟเร็วๆค่ะ..อี๊ฟอยากได้ควยพ่อ...” พอผมเลื่อนตัวขึ้นไปทาบบนตัว น้องอี๊ฟถ่างขาอ้ารออย่างรู้งาน พร้อมกับสอดมือลงไปจับลำควยผมไปจ่อที่รูหีตัวเอง
“พ่อขา..ดันเข้ามาเลยคะ..อี๊ฟจ่อให้แล้ว..เย็ดอี๊ฟเลยคะ.. โอ้ววว ซี๊ดดดด...พ่ออ..” น้องอี๊ฟปล่อยมือจากลำควยผม แล้วกอดผมแน่น เมื่อผมเริ่มดันลำควยเข้าไปในรูหีเธอ จากนั้นไม่มีการรั้งรออะไรแล้ว ผมกระเด้าลำควยใส่ น้องอี๊ฟก็เด้งก้นรีบ สลับกับส่ายไปมาอย่างเร่าร้อน ดูจะเร่าร้อนมากว่าเดิมมาก เธอปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ไม่มีการกลั้นอารมณ์เอาไว้เลย และบางครั้งก็ร้องครางเรียกผมว่าผัว ส่วนตัวเองก็แทนตัวเองว่าเมีย ด้วยความเสียว พอเธอปลดปล่อยออกมาเต็มที่อย่างนี้ เพียงไม่นานเธอก็ตัดหน้าขึ้นสวรรค์ไปก่อนผม
“โอ้วววว...ผัวขาา..มะ..เมียย..น้ำจะออกแล้ววว...ซี๊ดดดด เย็ดเมียแรงๆคะผัวขา...โอ้ยยยย...แตกกก..แล้วววว...ซี๊ดดดด...” น้องอี๊ฟหวีดร้องออกมาเสียงดังลั่นห้อง ผวาตัวมากอดผมแน่น ตัวเกร็งสั่นเทิ้ม รูหีเธอบีบรัดลำควยผมอย่างรุนแรง พอน้องอี๊ฟน้ำแตกผมก็หยุดกระเด้าลำควยใส่ แล้วกดอัดร่องหีเธอไว้แน่น ปล่อยให้รูหีเธอตอดรัดดื่มด่ำความสุขอย่างเต็มที่ แต่ผมนั้นเพิ่งเริ่มจะที่เต็มที่ในความเงี่ยนเท่านั้น พอได้หยุดพักก็ทำให้ผ่อนคลายการเสียวลง รอให้น้องอี๊ฟหายเหนื่อยค่อยเย็ดเธอต่อ
“อา..อี๊ฟมีความสุขที่สุดเลยคะ..พ่อเย็ดเก่งจัง.. แถมควยใหญ่ด้วย อี๊ฟเสร็จแล้ว...แต่พ่อยังไม่เสร็จเลย.. งั้นพ่อเอาน้ำออกในก้นอี๊ฟนะคะ...” น้องอี๊ฟบอกกับผมหลังจากที่เธอเริ่มหายเหนื่อย
“เอาไว้พ่อซื้อวาสลีนมาก่อนดีกว่านะ...พ่อกลัวอี๊ฟเจ็บ...” ผมบอกกับเธอ น้องอี๊ฟไม่พูดอะไร แต่เอื้อมมือไปเปิดเกะที่หัวเตียง หยิบเอาวาสลีนออกมา ผมจำได้ว่ามันเป็นอันเดียวกับที่น้องจิ๊เอามา
“นี่คะ..ยัยจิ๊มันให้อี๊ฟเอาไว้ใช้...” น้องอี๊ฟบอกกับผม ผมรับวาสลีนจากมือน้องอี๊ฟ แล้วถามเธอว่า
“จะเอาจริงๆหรือลูก...” น้องอี๊ฟพยักหน้า
“ค่ะ..อี๊ฟพร้อมให้พ่อเปิดซิงก้นแล้วคะ...” พอน้องอี๊ฟยืนยันอย่างนี้ผมก็ยันตัวลุกขึ้น ถอนลำควยออกมาจากรูหีเธอ จากนั้นก็เอาวาวาสลีนมาชโลมที่ลำควยจนเยิ้มอย่างเต็มที่ กำลังจะบอกให้น้องอี๊ฟลุกขึ้นคุกเข่าในท่าโก้งโค้ง แต่น้องอี๊ฟได้ยกขาทั้งสองข้างขึ้นแล้วถ่างอ้าออก เอามือดึงไปไว้แนบอก ทำให้จุดเป้าหมายลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ผมเลยจะลองในท่านี้ซะเลย จัดการเอาวาสลีนไปป้ายที่ปากรูตูดแล้วค่อยดันนิ้วชี้เข้าไปในรูตูดเธอ เพื่อให้วาสลีนเข้าไปให้ทั่วรู ผมแทงนิ้วเข้า-ออก
“อูยยย...พ่อขา..อี๊ฟเสียว...ซี๊ดดด...” น้องอี๊ฟครางออกมาเมื่อโดนนิ้วผมแทงเข้าออกอย่างนี้ จนผมรู้สึกว่ามันทั่วและลื่นดีแล้ว ผมก็เอานิ้วออกจากรูตูดเธอ จับลำควยไปจ่อแทนที่
“อี๊ฟอย่าเกร็งนะ...ปล่อยตัวตามสบาย...มันจะได้เข้าง่ายๆ...” ผมบอกกับเธอ แล้วเอาหัวควยจ่อวนไปมาที่ปากรูก้นเธอ แล้วค่อยดันหัวบานเข้าไปในรูตูดเธอ ที่ยังไม่เคยโดนควยใครผ่านเข้าไปมาก่อน ด้วยความลื่นจากวาสลีนทำให้ลำควยผมค่อยๆเลื่อนไหลเข้าไปอย่างช้าๆ มันคับแน่นไม่ต่างกับตูดของน้องจิ๊เลย น้องอี๊ฟมีการผงกหัวขึ้นมาดูด้วย เมื่อควยผมสามารถเข้าไปได้จนพ้นหัวหยัก
“อูยยย...มันแน่นจังเลยพ่อ..อูยยย...ช้าๆนะ.. ซี๊ดดด...พ่อขา...” ผมค่อยดันอย่างช้าๆตามที่น้องอี๊ฟบอก
“อูยยย...รูตูดอิ๊ฟฟิตดีจัง...เจ็บมั๊ยอี๊ฟ..พ่อเสียวควยจัง..ซี๊ดดด...” ผมร้องบอกกับเธอ เมื่อลำควยผมเข้าไปได้เกือบมิด น้องอี๊ฟผงกหัวขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วบอกว่า
“นะ..นิด..หน่อย..คะ..คะ..อูยยยย...แต่มันแน่นไปหมดเลย...” น้องอี๊ฟบอกแล้วทิ้งตัวลงไปบนที่นอนเหมือนเดิม ผมเริ่มดึงลำควยถอยออกมาอย่างช้าๆ จนถึงคอหยักจากนั้นก็เอาวาสลีนป้ายเพิ่มไปที่ลำควยกับปากรูตูดเธอ แล้วดันลำควยเข้าไปใหม่ เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง ผมก็สามารถสาวลำควยเข้า-ออกในรูตูดเธอได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ
“อูยยย...พ่อขา..อี๊ฟเสียวว..ซี๊ดดด...” น้องอี๊ฟปล่อยมือจากการจับขาตัวเองลงไปเขี่ยที่เม็ดแตดตัวเองแทน แล้วร้องครวญครางออกมา ผมเลยเอามือไปจับขาเธอไว้แทน แล้วกระเด้าลำควยเย็ดตูดเธอ พอเริ่มฝืดผมก็ป้ายวาสลีนลงไปเพิ่ม
“อูยยยย...ผัวขา...ตูดเมียสู้ตูดยัยจิ๊ได้มั๊ย...ซี๊ดดดด.. เย็ดเลยคะ อี๊ฟไม่เจ็บแล้ววว...ซี๊ดดด...เสียวตูดเสียวแตดไปหมดเลย...” น้องอี๊ร้องครางออกมา บ่งบอกว่าความเสียวได้เข้ามาครอบงำจิตใจเธอไปหมดแล้ว ทำให้ผมเย็ดเธอได้เร็วและหนักแน่นมากขึ้น แต่ก็ไม่รุนแรงมากนัก ผมยังยั้งๆเอาไว้ เพราะว่าเป็นครั้งแรกของเธอที่โดนเย็ดตูด แต่พอความเสียวพุ่งที่ปลายลำควยผมก็กระแทกลำควยใส่อย่างเมามันส์
“โอ้วววว...อี๊ฟจ๋า..น้ำพ่อจะแตกแล้ววว...ซี๊ดดดด...เมียจ๋า.. น้ำผัวจะแตกแล้ววว...” ผมจับขาน้องอี๊ฟโย้ไปข้างหน้าแล้วกระเด้าควยใส่อย่างเมามันส์
“ปล่อยมาเลยคะผัวขา...น้ำเมียก็จะแตกเหมือนกัน...ซี๊ดดด...” น้องอี๊ฟร้องครางออกมา พร้อมกับมือของเธอที่บี้ลงไปที่ร่องหีกับขยำคลึงที่เต้านมของตัวเองอย่างเมามันส์ ไม่นานน้ำของผมก็พุ่งกระฉูดเข้าไปในรูตูดของน้องอี๊ฟ แต่ผมก็ยังคงกระเด้าควยใส่ต่ออีก 5-6 ครั้ง น้องอี๊ฟก็น้ำแตกตามผม
“โอ้วววว...พ่ออออ..น้ำแตกแล้วววว...ซี๊ดดดด...” ผมรู้สึกได้ถึงการบีบรัดของรูตูดเธอที่รัดลำควยผมแรงมาก ก่อนที่จะค่อยๆคลายตัวลง แต่ผมก็ยังคงเสียบลำควยคาไว้อย่างนั้น แล้วเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียง จากนั้นผมก็ดึงลำควยออกมาจากรูตูดเธอ แล้วเอากระดาษทิชชู่ไปปิดอุดไว้ ไม่ให้น้ำของผมไหลออกมาเลอะที่นอน จากนั้นก็ล้มตัวลงไปนอนกอดน้องอี๊ฟ น้องอี๊ฟตะแคงตัวมากอดแล้วจูบผม
“อี๊ฟสู้ยัยจิ๊ได้ไหมคะ...” น้องอี๊ฟกระซิบถามผม
“อืมมม...สุดยอดเลยจ๊ะเมียจ๋า...เย็ดมันทั้งหีทั้งตูดเลย...” ผมบอกกับเธอแล้วจูบเธออย่างดูดดื่ม นอนพักสักครู่ก็ชวนกันไปเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เป็นส่วนเกินติดควยผมออกมา ก่อนที่จะกลับมานอนที่เตียง
“อี๊ฟเจ็บมั๊ย..ไม่รู้ว่าพ่อทำแรงไปหรือป่าว.. มันเสียวเลยลืมตัวไปหน่อย...” ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เจ็บหรอกคะ..มันแค่ตึงๆหน่วงๆเท่านั้นเอง.. แต่มันก็ทำให้อี๊ฟเสียวจนน้ำแตกได้เหมือนกันนะพ่อ...” น้องอี๊ฟบอกกับผม โดยที่มือเธอนั้นไม่ยอมห่างลำควยผมเลย
“คงจะเป็นเพราะมีวาสลีนช่วยน่ะ.. อืมม..พ่อก็เสียว.. มิน่าล่ะตาสินธุถึงชอบนัก..เห็นแม่นีบอกพ่อว่าแกเย็ดมาแทบทุกคนแล้ว...” พอผมพูดออกมา น้องอี๊ฟก็รีบบอกกับผมว่า
“จริงๆคะพ่อ...อี๊ฟก็เกือบโดนเหมือนกัน.. ดีที่ยัยจิ๊เข้ามาห้ามก่อน อี๊ฟเองก็ไม่รู้หรอกคะ.. ว่าพี่เค้าจะเย็ดทางตูด.. ดีที่ยัยจิ๊อยู่ข้างๆตลอด..พอเห็นท่าทางพี่สินธุก็เดาออกว่าจะเย็ดตูดอี๊ฟแน่ๆ.. ยัยจิ๊เลยเข้ามาห้ามไว้.. และพอรู้ว่าพี่สินธุจะเอาทางตูดอี๊ฟก็เลยไม่กล้าเข้าใกล้พี่เค้าอีกเลย...” น้องอี๊ฟเล่าให้ผมฟังอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องของน้องจิ๊ด้วย ที่เคยเกือบโดนสินธุเย็ดตูดเหมือนกัน ดีที่มันไม่เข้า แล้วน้องจิ๊ก็ไม่ยอมด้วย เลยยื่นคำขาดกับสินธุว่าถ้าจะเย็ดแกห้ามเย็ดทางตูดโดยเด็ดขาด ทำให้น้องจิ๊รอดมาได้ แต่ก็มาเสนอให้ผมเป็นคนเปิดจนได้
“รอดจากสินธุ..แต่ก็มาให้พ่อเย็ดกันทั้งคู่เลยนะ...” ผมพูดแซวน้องอี๊ฟ น้องอี๊ฟเลยเอามือตีไปที่ลำควยผมเบาๆ แล้วบอกว่า
“ก็อี๊ฟตั้งใจเก็บไว้ให้สามีอี๊ฟนี่คะ...สามีขา..” แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมรักเมียคนนี้มากๆ เธอเป็นทั้งลูกเลี้ยงและเมียผมไปพร้อมๆกัน
“เก่งจริงๆเลยตัวแค่นี้...แบบนี้จะไม่ให้พ่อรักได้ยังไง..หือ..” ผมบอกกับเธอ แล้วจูบเธอด้วยความรักอย่างดูดดื่ม จนต้องเริ่มเกมส์สวาทกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำเอาน้องอี๊ฟเสร็จไป 3 ครั้งติด หมดเรี่ยวหมดแรง หลับคาลำควย จนผมต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดคราบน้ำเสียวให้ ก่อนที่ผมจะนอนหลับไปด้วยความอ่อนล้า แต่ก็มีความสุขมาก
การดำรงชีวีวิตของผมกับน้องอี๊ฟ ดำเนินไปอย่างมีความสุข เหมือนคู่สามี-ภรรยาที่ยังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน หลังจากที่เราสองคนได้เข้าไปร่วมวงในกลุ่มของวิชิต และเพื่อนๆ ผมก็ยังไม่ได้ไปอีก เพราะว่าติดเรื่องงานและที่สำคัญถ้าน้องอี๊ฟไม่อยากไปผมก็ไม่อยากไปเหมือนกัน เพราะผมไม่อยากให้เธอต้องลำบากใจหรือฝืนใจ ทั้งๆที่ใจผมนั้นก็อยากที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากสาวในกลุ่มอีกก็ตาม ทั้งวิชิตและสุนีย์ก็โทรมาถามผมว่าทำไมไม่ไป ผมก็อ้างเรื่องงาน ทั้งคู่ก็ไม่ว่าอะไร จนมาวันหนึ่งสุนีย์ก็โทรมาหาว่าอยากจะมาเที่ยวบ้านผมบ้าง ผมก็โอเคเลยบอกให้เธอมาทำอาหารกินกันที่บ้านผม ซึ่งตอนนั้นผมยังอยู่ที่ทำงานอยู่ ผมเลยให้โทรคุยกับน้องอี๊ฟว่าจะทำอะไรกินกัน แล้วก็ให้น้องอี๊ฟบอกทางไป พอผมกลับมาถึงบ้านก็พบว่าสุนีย์กับน้องอี๊ฟจัดเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะ พร้อมกับเครื่องดื่ม สุนีย์มากับน้องฝ้ายลูกสาวเธอ
“อ้าวว..น้องฝ้ายก็มาด้วยเหรอ...” ผมทักเด็กสาวเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ น้องฝ้ายเดินยิ้มแป้นเข้ามา แล้วยกมือไหว้ผม
“หวัดดีค่ะ..พ่อนัท...” ส่วนน้องอี๊ฟก็มารับกระเป๋าทำงานผมไปเก็บ ถอดถุงเท้าให้เหมือนทุกวัน ทำเอาสุนีย์ถึงกับออกมาปาก
“มิน่าล่ะนัทถึงไปไหนไม่รอด...น้องอี๊ฟน่ารักอย่างนี้นี่เอง.. นียังทำไม่ได้ถึงขนาดนี้เลยนะ...” น้องอี๊ฟก็บอกกับสุนีย์ว่า
“ก๊อี๊ฟอยู่บ้านเฉยๆ..พ่อทำงานมาเหนื่อยๆอี๊ฟก็ต้องดูแลซิคะ.. ขืนไม่ทำ..ถ้าเกิดพ่อไปมีแม่ใหม่จะทำยังไงล่ะ...” สุนีย์ก็พูดสวนน้องอี๊ฟขึ้นมาทันที
“นัททั้งรักทั้งหวงน้องอี๊ฟขนาดนี้...ถ้าจะมีคนอื่นก็บ้าแล้ว.. จริงมั๊ยนัท...” ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ สุนีย์รินเบียร์เย็นๆให้ผม 1 แก้ว ส่วนของเธอนั้นเป็นสปาย เรานั่งดื่มนั่งคุยกันไป
“แล้วคุณกรกับน้องฝนรู้มั๊ยที่มานี่...” ผมถามขึ้นมาเพราะไม่อยากให้คุณทินกรจะไม่สบายใจ สุนีย์ก็บอกว่า
“รู้ค่ะ..กรเค้าไปค้างบ้านบ้านโน้น.. น้องฝนก็ไปเที่ยวบ้านยายเค้า กรบอกนีว่าถ้าเหงาก็เที่ยวได้นะ.. นีก็เลยบอกว่าจะมาบ้านนัท มาทำอาหารกินกัน..กรก็โอเคคะ... ยังฝากบอกนัทเลยว่าว่างๆให้ไปเที่ยวที่บ้านบ้าง...” พอได้ยินสุนีย์บอกผมก็โล่งใจ เรานิ่งกินจนอิ่มแล้วก็นั่งคุยกันต่อ จนสุนีย์กินสปายหมดไป 3 ขวด ผมก็เลยบอกกับเธอว่า
“นีเมาหรือป่าว..ขับรถไหวมั๊ย..ดูซิหมดไปตั้ง 3 ขวด...” สุนีย์ไม่พูดอะไรได้แต่นั่งยิ้มๆ น้องอี๊ฟเลยบอกว่า
“เมาก็นอนที่นี่ซิคะ...ขับรถกลางคืนมันอันตราย..มีแต่ผู้หญิง...” พอน้องอี๊ฟพูดออกมาอย่างนั้น สุนีย์ก็ถามทันที
“จะให้แม่นีนอนได้จริงๆเหรอ...” น้องอี๊ฟตอบไปทันที
“จริงๆซิคะ..พ่อจะได้มีเพื่อนคุย...” สุนีย์คงจะตึงๆแล้ว จึงถามน้องอี๊ฟว่า
“ให้คุยได้อย่างเดียวเองเหรอ...” น้องอี๊ฟก็หันมาทางผมแล้วบอกว่า
“เรื่องนั้นต้องถามพ่อแล้วละคะ..ว่าจะไหวมั๊ย..เพราะว่าวันมีตั้ง 3 คน...” น้องอี๊ฟพูดแล้วก็ยิ้มให้กับสุนีย์ เหมือนกับทั้งคู่ได้มีการพูดคุยกันไว้แล้ว แต่น้องฝ้ายกลับบอกว่า
“ฝ้ายไม่เกี่ยวนะคะ...” ปากบอกว่าไม่เกี่ยว แต่หน้าเธอกลับแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“บอกว่าไม่เกี่ยวแล้วอย่ามาอ้อนให้พ่อนัทเค้าช่วยทีหลังไม่ได้นะ..” สุนีย์แซวลูกสาวตัวเอง ทำเอาน้องฝ้ายเขินก้มหน้า พูดไม่ออก ไม่รู้จะเถียงแม่ยังไง เพราะว่าที่ผ่านมา ผมก็พอจะรู้ว่าน้องฝ้ายนั้นเป็นเด็กที่เซ็กส์จัดพอสมควร แค่กระตุ้นนิดหน่อยก็เครื่องก็ติดแล้ว
“ดูซิ..น้องฝ้ายโดนแม่นีแซวอายจนหูแดงไปหมดแล้ว. ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะ..พ่อเค้าเต็มใจช่วยน้องฝ้ายอยู่แล้ว..จริงมั๊พ่อ..” น้องอี๊ฟพูดกับน้องฝ้ายอย่างอารมณ์ดี มิได้แสดงอาการหวงผม
“พ่อก็ต้องช่วยอยู่แล้วจ๊ะ...น้องฝ้ายออกน่ารักขนาดนี้.. จะปล่อยให้โดนแกล้งให้นอนเหงาอยู่คนเดียวได้ยังไง...” ผมพูดออกมาแล้วหัวเราะอย่างสบายใจ ที่เห็นน้องอี๊ฟยิ้มอย่างมีความสุข ไม่อาการที่งอนหรือหึงหวงผมแต่อย่างใด
“แม่นีก็ให้น้องฝ้ายได้ลองของจริงซะทีซิคะ.. อี๊ฟเข้าใจน้องฝ้ายนะคะ..เพราะว่าอี๊ฟเคยเป็นอย่างน้องฝ้ายมาก่อน.. การที่ได้รับรู้ถึงรสชาติของความสุขเพียงแค่ภายนอกไปแล้ว.. จิตใจมันอยากจะลองของจริงมากขนาดไหน...” น้องอี๊ฟพูดออกมา แล้วก็มองหน้าน้องฝ้ายด้วยความเห็นใจ สุนีย์ถึงกับนั่งนิ่งไปเลยเมื่อน้องอี๊ฟพูดออกมาแบบนั้น
“น้องอายุยังไม่ถึง 15 เลยนะน้องอี๊ฟ...” สุนีย์พูดออกมาด้วยสีหน้าที่กังวลอยู่
“ถึงน้องฝ้ายจะอายุไม่ถึง 15 แต่ร่างการก็โตเป็นสาวแล้วนะคะ ขนาดยัยจิ๊ยังโดนเปิดซิงตั้งแต่อายุแค่ 12 เลย..” น้องอี๊ฟบอกกับสุนีย์ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าเธอเองก็คงรู้มาแล้วเรื่องน้องจิ๊
“อย่างเพิ่งคุยเรื่องนี่กันเลยนะ.. ปล่อยไว้ให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ...เมื่อถึงเวลายังไงน้องฝ้ายก็ได้ลองของจริงอยู่ดี.. ไม่แน่นะน้องฝ้ายอาจจะไม่อยากลองของจริงก็ได้...มา..ดื่มกันดีกว่า..” ผมพูดเพราะไม่อยากให้สุนีย์คิดมาก แล้วชวนเธอดื่มต่อแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยกัน ไม่นานน้องอี๊ฟก็ชวนน้องฝ้ายไปอาบน้ำและเตรียมที่นอนกัน พออยู่กันตามลำพังสุนีย์ก็ถามผมว่า
“นีใจแคบไปหรือป่าวคะ.. ที่ไม่ยอมให้น้องฝ้ายได้มีความสุขกับของจริงเหมือนกับคนอื่นๆเขาบ้าง...” ผมก็ปลอบเธอไปตามเรื่องตามราว เพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก
“ไม่หรอก..นีเป็นแม่..นีก็ไม่อยากให้ลูกมีเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เด็ก นีอย่าไปคิดมากเลยครับ..น้องอี๊ฟเค้าก็พูดไปแบบนั้นแหละ...” แต่นีก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เธอจึงขอความเห็นจากผม
“แล้วถ้านีจะให้แกได้ลองของจริง..นัทคิดว่าน้องฝ้ายจะไหวเหรอ นีกลัวแกรับไม่ไหว..เกิดฉีกขึ้นมาล่ะยุ่งเลย...” ผมไม่รู้ว่าเธอกลัวลูกหีฉีกหรือหวงลูกสาวกันแน่ แต่ก็คงไม่หวงหรอกนะเพราะว่าน้องฝนเธอยังยอมเลย
“ผมว่านีต้องถามลูกดูแล้วละ..อืมม.. ผมว่ากรเค้าคงไม่รุนแรงหรือฝืนจนน้องฝ้ายเจ็บหรอกนะ... แล้วตอนน้องฝนล่ะเป็นยังไง แกฉีกหรือปล่าวละ...” สุนีย์นั่งพยักหน้าเหมือนกับเห็นด้วยกับคำพูดของผม
“ตอนน้องฝนก็ไม่ฉีกนะ...มีแค่บวมและระบมไป 2-3 วัน..แต่กว่ากรจะเข้าได้ก็เป็นชั่วโมงเหมือนกันแน่ะ..” สุนีย์บอก ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้วสำหรับเด็กขนาดนี้.. เพราะถ้าผลีผลามดันเข้าไปมีหวังหีฉีกอย่างแน่นอน และในครั้งของน้องฝนสุนีย์ก็คงอยู่ในเหตุการณ์ด้วยอย่างแน่นอน พอมาถึงคราวน้องฝ้ายเธอถึงเกิดกลัวขึ้นมา เพราะในเวลานี้ น้องฝ้ายอายุก็ยังน้อยกว่าน้องฝนในตอนนั้น แต่ถ้าจะเป