5.) พิธีแต่งงาน
ผมพาแม่ออกไปทานอาหารเช้าริมชายหาด แม่เหมือนยังเกร็งๆกับเหตุการที่เกิดขึ้น ไม่พูดมาก คงจะไม่รู้จะวางตัวยังไงมากกว่า
ขณะทานข้าว ตาผมมองแม่ด้วยความภูมิใจ แม่สวยและมีเสน่ห์มาก
"มองอะไรนักหนายะ "
"มองเมีย"
แม่ก้มหน้าเหลือบตาขึ้นมองอายๆแกมดุๆ อาจเป็นเพราะแววตาดุตามธรรมชาติของแม่
ผมเอามือกดโทรศัพท์ไต้โต๊ะ กดเข้าเบอร์แม่ เบอร์ลับที่ได้จากห้องอ่าง
แม่หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าออกมาดู แน่นอนว่าเบอร์ที่โทรเข้านั่นคือเบอร์ของผม
แม่กดรับยกขึ้นแนบหู "ฮัลโหล" ตาจ้องมองมาที่ผม ทำหน้าสงสัยว่าผมจะมาไม้ไหน
ผมพูด "แต่งงานกับผมนะที่รัก" ผมพูดขณะที่เท้าเขี่ยไปที่ปลายเท้าของแม่
"ไม่อายเหรอ เอาคนแก่เป็นเมีย" แม่พูดสายตาจ้องมองผมจริงจังราวกับจะจับกิน ขณะที่บริเวณไต้โต๊ะเท้าของแม่ก็เขี่ยไปมาถูไถรุกรับสู้กับเท้าของผม
"ก็ผมรักของผมแบบนี้นี่" แม่ยิ้มๆ
"นี่ฉันเป็นแม่เธอนะ" แม่ทำตาดุๆ แต่อมยิ้มมุมปาก
"ตอนนี้อยู่นอกบ้าน เป็นผัว-เมียกันนะที่รัก" ผมส่งสายตาอ้อนวอนเอื้มมือไปจับมือแม่บนโต๊ะ
"ให้มันได้ตลอดไปเท๊อะพ่อคุ๊ณ...ไม่อยากจะเชื่อ...."
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จเราสองคนก็ไปนั่งเล่นกันที่โขดหิน ที่นี่เงียบไร้ผู้คนจริงๆ จึงนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
ระหว่างทางผมแวะซื้อดอกไม้ให้แม่ช่อหนึ่ง แล้วคุกเข่ามอบให้
"เราแต่งงานกัน เป็นผัว-เมียกันนะที่รัก" แม่ยิ้มหน้าบ้าน ดึงมือผมขึ้น จูงมือกันเดินต่อ
"เอาจริงเหรอ 555 เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ"
"แม่เลิกทำงานของแม่เถอะนะ ผมหาเลี้ยงครอบครัวเราได้"
"นั่งไง ตะกี๊บอกเป็นผัว-เมียกันนะที่รัก ตอนนี้มาเรียกแม่อีกละ คนกลับกลอก" แม่หลับตาค้อน
"ผัวรักเมียนะจ๊ะ ที่รัก" ผมพูดพลางยกมือแม่ขึ้นมาจูบ
เราจูงมือกันเดินเลาะชายหาดห่างออกไปเรื่อยๆ
"ตอนนี้รู้ความลับกันหมดแล้วสินะ คิดยังไงไปขึ้นห้องกับแม่ ไม่รังเกียจเหรอที่แม่ทำงานนวด"
"ไม่หรอกครับ ผมรักแม่ ต่อไปนี้เราสองคนก็ไม่ต้องปิดบังอะไรกันอีกแล้ว แล้วแม่รู้ตอนไหนว่าคนทีไปเที่ยวกับแม่เป็นผม"
"แรกๆก็ไม่รู้หรอก แต่เจอกันบ่อยๆ มันก็จำกันได้อยู่แล้วล่ะ ไหนจะไฝ ไหนจะแผลเป็น เยอะแยะ
ว่าแต่พวกเราทำแบบนี้กันมันถูกต้องแล้วหรือ?"
"แบบนี้แบบไหน?"
"ก็..นอนด้วยกันไง..."
"แม่-ลูก นอนด้วยกันเป็นเรื่องปกตินี่"
"ไม่ใช่....แหมๆ...ทีงี้ทำมาเป็นไร้เดียงสา......ก็เย็ดกันไง" แม่พูดตรงๆ สีหน้ายิ้มแกมสะใจที่ได้พูดคำว่า"เย็ดกัน"ออกมาตรงๆ
"ผมรู้สึกดีมากเลย รักมากๆด้วย"
"ผู้ชายก็งี้ พอจะเอาก็ปากหมา เอ้ย..ปากหวาน"
เราเดินกันมาถึงบริเวณที่ลับตาคน
"ตอนนี้อยู่นอกบ้านเป็นผัว-เมียกันก่อนนะที่รัก" พูดจบผมก็ประกบปากจูบแม่ทันที
"ขอวางดอกไม้นี้ไว้ให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในที่นี้ไว้เป็นพยาน ว่าเราสองคนร่วมสัญญาเป็นผัวเมียกันแล้ว"
ผมกับแม่หันหน้าเข้าหากันจูบกันพัลวัล ท่อนเอ็นของผมดันกางเกงขึ้นมาชนกับเป้ากางเกงของแม่
แม่ก้มหน้ามอง "แหม มาเร็วจริง"
"แม่ช่วยดูดให้หน่อยสิ"
"แน่ะ ตะกี้ขอสิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานผัว-เมีย ตอนนี้เรียกแม่อีกแล้ว"
"ก็ทำให้สิ่งศักสิทธ์ดูเป็นพยานก่อนสิ"
แม่ก้มหน้าลงมือจับท่อนเอ็น ปากรูดขึ้นลง "ทำแค่นี้นะเดี๋ยวใครผ่านมาเห็นเข้า อายเขา"
ผมปลดกระดุมและรูดซิปเป้ากางเกงแม่ พร้อมกับดึงลง
"อุ๊ย ทำอะไร นี่มันชายหาดนะ"
"ขอเอาเข้าไปให้สิ่งศักสิทธิ์ช่วยเป็นพยานหน่อยนะ" ผมถอดกางเกงแม่ออกไปทางปลายเท้า แล้วจัดการลงลิ้นทันที
"โอ๊ยๆ .....อูยส์....อายคนอื่นเขา" ผมเลียจนร่องรักของแม่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น
"แป้บเดียวเอง ขอทำพิธีแต่งงานก่อน" ผมจัดท่าให้แม่นั่งคร่อมหันหน้าเข้าหากัน ควยของผมสอดเข้าไปในหีแม่
"สิ่งศักสิทธิ์เป็นพยานรักให้เราด้วยเถิด บัดนี้เราเป็นผัว-เมียกันแล้ว"
"แม่ยอมรับว่าผมเป็น ผัว มั้ย"
"ค่ะ ยอมค่ะ ผัวขา ซี้ด...ส์"
"ผมยอมรับว่าแม่เป็นเมีย เป็นอันเสร็จพิธี"
เสร็จพิธี แต่แม่ไม่ยอมเสร็จ แม่ขย่มขึ้นลงเอาเป็นเอาตาย
"เมียจ๋า ...หยุดก่อนก็ได้นะ...เดี๋ยวไปต่อในห้องกัน"
"ไม่ ไหนๆก็เริ่มพิธีแล้ว ทำให้จบ จะได้ศักดิ์สิทธิจริง ไม่อยากโดนทิ้ง"
ผมเสียวแต่ก็ยังไม่เสร็จง่ายๆ เพราะเมื่อคืนกับเมื่อเช้ารีดน้ำออกไปเยอะมาก แต่กระนั้นความเสียวก็ไม่เคยลดลง
ผมให้แม่เป็นคนคุมจังหวะปั้บๆๆ
ระหว่างนั้นมีรถบัสผ่านมาบ้าง คนบนรถบางคนจ้องมองอย่างไม่ละสายตา แต่ก็ไม่สามารถหยุดกิจกรรมศักสิทธิ์นี้ได้ แม่ยังคงจัดให้ผมอย่างไม่ลดละ
ผมกัดคอแม่จนแม่กระตุกตัว ช่องคลอดตอดรัดตุ๊บๆๆ ผมจึงปล่อยน้ำตามเข้าไป
"พิธีศักดิ์สิทธิจริงๆ อะไรก็ฉุดไม่อยู่"