สนามบิน โรนัลด์ เรเกน วอชิงตัน ดีซี ผมยืนมองตามเบื้องหลังของนัทที่เดินจากไปลับสายตาเข้าภายในพื้นที่ผู้โดยสารขาออก ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกก่อนที่ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดหาใครคนหนึ่งที่เมืองไทย
ย้อนเวลากลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1ปีเศษ หลังจากผมลาออกจากที่ทำงานเดิมแล้วประมาณ 6 เดือน ผมมาทำงานเป็น outsource ดูการการพัฒนาและเขียนโปรแกรมให้กับหลายๆบริษัท มันทำให้ผมมีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้นรายได้มากขึ้นและงานหนักเพิ่มมากขึ้น ช่วงแรกก็สบายใจดีคือนั่งทำงานที่บ้านหรือไม่ก็คอนโดของนัท แต่พอนานๆไปมันเริ่มรู้สึกเบื่อจากที่เคยนั่งทำงานในออฟฟิตที่มีคนอยู่ถึงจะไม่ค่อยได้คุยกับใคร แต่ยังมีความรู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวมีคนคุย มีคนทานข้าวกลางวันด้วย แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างมีบริษัทฯที่จ้างให้ผมทำงานให้บริษัทหนึ่งได้จัดห้องทำงานให้ผมไว้ โดยขอให้ผมเข้าไปอาทิตย์ละ 2 วันโดยไม่ต้องเข้าไปทั้งวันก็ได้ยังดีที่ทำให้ไม่เบื่อ ส่วนชีวิตของผมกับนัทใช่ว่าจะราบรื่นอย่างที่เคยบอกไว้การใช้ชีวิตบางอย่างมันทำให้เราปรับตัวหากันลำบากในบางเรื่อง นัทเป็นคนที่ติดปาร์ตี้กับเพื่อนๆมากส่วนผมมักจะเก็บตัวนัดเจอกับเพื่อสมัยเรียนบ้างแต่ไม่มาก แรกๆนัทชวนผมไปด้วยตั้งแต่ผมยังทำงานอยู่แต่ผมมักปฏิเสธ ซึ่งส่วนใหญ่นัทจะให้ไปรับเธอกลับทุกครั้ง แต่ถ้าเวลาว่างตรงกันผมจะพาเธอไปเที่ยว ครั้งแรกที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันคือพาเธอไปภูเก็ตตามที่ให้สัญญากับเธอไว้ เราสนุกกันทั้งคู่รวมถึงได้เก็บภาพงามทั้งภาพวิวและภาพคนมาอีกเพียบ ครั้งนี้นัทให้ผมถ่ายภาพเธอในชุดบิกินนี่ที่เธอเตรียมไป3-4ชุดอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่นำเผยแพร่บนโลกออนไลน์ของเธอ มีแค่2-3ภาพที่ผมถ่ายให้โดยเธออยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดเท่านั้นที่นำไปโพส ส่วนเรื่องเซ็กส์ไม่ต้องพูดถึงเราเอากันทุกคืนแล้วเราก็กลับมาทำงานตามปกติ พอกลับมาไม่กี่วันเธอนำรูปที่เรานั่งกอดกันริมทะเล มาใส่กรอบและตั้งไว้บนโต๊ะทำงานของเธอที่บริษัทฯ ผมมาเห็นเพราะมารับเธอไปทานข้างกลางวัน เท่ากับเธอเริ่มเปิดเผยมากขึ้นแต่พนักงานในที่ทำงานเธอรู้กันมานานพอสมควรแล้ว
ส่วนเรื่องครอบครัว นัทพาผมไปที่บ้านเธอก่อน ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ผมออกจากงานพอดี มันอาจจะทำให้คุณพ่อของนัทดูจะไม่พอใจเท่าไหร่แต่แม่ของนัทไม่ว่าอะไร แม้ว่านัทจะมาบอกผมว่าเธออธิบายฐานะของผมให้พ่อเธอฟังแล้วแต่พ่อของนัทยังติดใจตรงที่ว่าทำไมผมไม่ทำงานประจำ และผมก็พานัทไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ทางครอบครัวของผมไม่ติดใจอะไร นอกจากคุณแม่แอบมาชมกับผมว่านัทดูสวยกว่าในรูป และทุกเดือนนัทจะพาผมไปทานข้าวกับที่บ้านเดือนละ 1 ครั้งซึ่งมันก็เป็นผลดีเพราะพ่อของนัทหลังจากได้พูดคุยกับผมเพิ่มขึ้นทำให้ท่านเข้าใจลักษณะงานและรายได้ของผมมากขึ้น ส่วนบ้านของผมถ้ามีเวลาเราก็ไปด้วยกันบ้าง
และพอหลังจากงานโชว์รถเสร็จซึ่งผมไม่ได้รับงานเป็นช่างภาพอีกเพราะมาจากผมเริ่มเบื่อกับความงามปรุงแต่งด้วยศัลยกรรมพวกนี้ และงานก่อนหน้าที่ก็มีพริตตี้บางคนพยายามจะใกล้ชิดผมให้มากขึ้น ยิ่งทำให้นัทขอให้ผมอย่ารับงานอีก ผมพาเธอไปพักผ่อนที่อเมริกาทันที เพราะสงสารเธอที่เห็นเธอเหนื่อยมากกับงานโชว์รถ ผมเลยบอกเธอก่อนงานจะเริ่มว่าจะไปเที่ยวที่อมริกากันหรือไม่ เธอตอบตกลง และเรื่องวีซ่าเราทั้งคู่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เราใช้เวลาเที่ยวเกือบเดือนแต่พอกลับมาปัญหาต่างๆมันเริ่มมีมากขึ้น บริษัทที่ผมไปเป็น outsource ให้มีโครงการใหญ่ทำให้ผมงานเพิ่มขึ้น ส่วนนัทงานโมลเดลลิ่งก็เยอะและงานถ่ายแบบของเธอเองก็มีมาพอสมควรทั้งๆที่เธอเริ่มจะลดรับงานแต่ติดตรงที่หลายๆงานเป็นงานของคนที่เธอนับถือ ทำให้เวลาของเราน้อยลง เราพูดคุยกันน้อยลงเพราะส่วนใหญ่ถ้าใครถึงบ้านหรือคอนโดก่อนก็จะหลับก่อนโดยไม่รอเพราะเราไม่รู้ว่าอีกคนจะกลับมาถึงกี่โมงรวมถึงความอ่อนเพลียจากงานที่ทำ เรื่องของเซ็กส์มันก็ลดลงจนแทบจะไมมีเลย จนมาวันนึงนัทรอผมทานข้าวเย็น ผมกลับไปถึงคอนโดเธอเกือบ 3 ทุ่ม ระหว่างทานข้าวนัทบอกว่าคืนวันศุกร์นี้ นัทจะไปงานวันเกิดของพริตตี้รุ่นน้อง ที่นัทสนิทมากชื่อตั๊ก นัทชวนผมไปด้วย แต่ผมบอกว่าอาจจะไปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่างานจะเสร็จกี่ทุ่ม ทำเอานัทดูไม่ค่อยพอใจพร้อมบ่นเบาๆ
“ทีงานของนัทกับเพื่อนๆ พนไม่ค่อยไปเลย”
ผมทำเฉยๆ เพราะเครียดกับงานมามากพอแล้ว และงานแบบนี้ผมเคยไปกับนัท 2-3 ครั้งและมีความรู้สึกว่าไม่สนุกไม่ใช่แบบที่เราชอบ ผมเลยไม่ไปอีกเลย คืนนั้นเราต่างคนต่างนอน จนเช้าวันศุกร์นัทบอกว่าถ้าผมเลิกงานไม่ดึกจะไปด้วยก็ได้และส่วนขาไปตั๊กจะมารับนัทไปเอง ผมนั่งทำงานกับทีมงานจน 5 ทุ่มกว่าๆนัทโทรมาถามว่าผมอยู่ที่ไหนและจะไปหรือเปล่า ผมตอบไปตามจริงและบอกว่าไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ ดูเหมือนว่านัทจะไม่ค่อยพอใจ วางสายทันที จนตี 1กว่าๆผมบอกทีมงานให้พอก่อนแล้ววันจันทร์ค่อยว่ากันอีกที ผมโทรไปหาเธอทันทีเพราะจะบอกว่าจะไปรับ โทรไป 2-3 ครั้งเธอไม่รับสาย จนผ่านไปเกือบ 15 นาทีเธอถึงโทรกลับ พอผมถามว่าจะให้ไปรับเลยหรือเปล่า น้ำเสียงของเธอดูนิ่งบอกว่าแล้วแต่ ผมเลยบอกว่าจะไปรับ พอไปถึงตั๊กพาเธอมาส่งที่รถผม นัทค่อนข้างจะเมากว่าทุกครั้งที่ผมเคยเจอ จากตอนแรกที่อยากจะพาเธอกลับไปคอนโดแต่ดูแล้วไปบ้านผมจะดีกว่า ระยะจากร้านไปบ้านผมดูจะใกล้กว่าไปคอนโดเธอ นัทไม่ยอมพูดอะไรเลย พอผมเอื้อมมือไปจับเธอก็นิ่งๆไม่มาซบไหล่ผมเหมือนทุกครั้ง จนถึงบ้านผมประคองเธอขึ้นไปที่ห้องนอน จากสภาพดูท่าเธอจะอาบน้ำไม่ไหว ผมเลยเช็ดตัวให้เธอบนเตียงตอนแรกเธอดันตัวผมออกและบอกด้วยเสียงดังว่า
“ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาสนใจนัท”
แล้วเธอก็ร้องไห้ ผมปล่อยให้เธอร้องจะดึงเธอเข้ามากอดเธอก็ดันตัวผมไม่ยอมให้กอด จนในที่สุดเธอก็หลับไปเพราะความเมา ผมจัดการเช็ดตัวให้เธอ จนถอดเสื้อผ้าออกหมด ถึงแม้ว่าผมจะเห็นร่างเปลือยของนัทมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่พอเห็นร่างเปลือยของเธอในสภาพนี้มันปลุกอารมณ์ของผมได้อย่างดี และถึงผมจะถ่ายรูปให้นัทมาเป็นพันๆภาพแต่อย่างมากก็ชุดว่ายน้ำหรือไม่ก็แนวเซ็กซี่ที่จัดว่าโป๊ที่สุด แต่ภาพที่เห็นทำเอาผมอดใจไม่ไหวหยิบกล้องขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพนัทที่นอนเปลือยในขณะที่ไม่รู้ตัว ผมถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ ตอนแรกผมเกิดอารมณ์อยากจะลักหลับเธอ แต่ก็หักห้ามใจไว้ เพราะไม่แน่ใจตื่นมาเธอจะอาละวาดหรือเปล่าถ้ารู้ว่าโดนผมลักหลับยิ่งนัทอารมณ์ไม่ดีอยู่ ผมจัดการเอาชุดนอนของเธอมาสวมให้พร้อมห่มผ้าปล่อยให้เธอนอนคนเดียว ผมเดินมาอาบน้ำข้างล่างแล้วตัดสินใจนอนที่โซฟาร์ห้องรับแขก ดีที่ผมซื้อชุดโซฟาร์ที่ตัวยาวเป็นรูปตัวแอลเลยทำให้นอนได้สบายๆ แต่กว่าผมจะหลับได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะไหนจะเครียดเรื่องงานไหนจะเรื่องของนัทในวันนี้แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย จนเช้ามืดผมรู้สึกตัวว่านัทมาหอมแก้มผมเบาและกระซิบว่า
“พนกระเถิบหน่อยสิจ๊ะนัทขอนอนด้วยคน”
ผมไม่ลืมตาแต่เปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง เพราะนอนหงายมันนอน 2 คนไม่พอ นัทขึ้นมานอนเบียดกับผมโดยนอนตะแคงหันหลังให้ เธอนอนหนุนแขนผมแล้วดึงเอามืออีกข้างไปกอดเธอโดยเธอจงใจไปวางตรงหน้าอก และชุดนอนชุดนี้มันก็บางแถมผมไม่ใส่ชั้นในให้เธอด้วย ทำให้เหมือนผมสัมผัสเนื้อแท้ของหน้าอกคู่งาม ผมเริ่มลูบคลำไปมา ส่วนท่อนล่างร่องก้นของนัทมันตรงเป้ากางเกงพอดี ผมลูบคลำนมไปอย่างแผ่วเบาส่วนนัทเอามือมาลูบคลำที่เป้ากางเกงผมเช่นกัน ผมเอาหน้าซุกไซร้ไปที่ลำคอ ส่วนมือก็ลูบคลำนมนัทหนักขึ้น จนนัทล้วงเข้าไปในกางขาสั้นที่ผมใส่นอนทั้งรูดทั้งคลำควยผมที่เริ่มพองขยายตามมือของเธอ จนนัทครวญครางออกมาว่า
“พนขาทำเหอะ นัททนไม่ไหวแล้ว”
ผมถลกชุดนอนเธอขึ้นมาเหนือเอว ส่วนนัทช่วยผมรูดกางเกงลงไป นัทเอื้อมเอามือจับควยผมไปจ่อที่รูหีของเธอในท่าที่เรานอนตะแคงกันอยู่ แล้วนัทค่อยดันตัวเพื่อให้ควยผมเข้าไปในรูหีของเธอผมสนองตอบทันที จนมันเข้าไปสุด เราเคยเย็ดกันหลายท่าแต่ท่านี้ไม่เคย มือผมบีบเคล้นนมนัทหนักหน่วงขึ้นส่วนเอวเราทั้งคู่ก็เด้งเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่องไม่หยุด นัทส่งเสียงครางพอๆกับผม
“โอ๊วๆๆๆพนขาซี๊ดดดดดดนัทเสียวจัง”
ด้วยพื้นที่ที่คับแคบ มันสร้างความแปลกใหม่ให้กับเราทั้งคู่ ปกติเราเคยใช้โซฟาร์นี้เป็นที่บรรเลงรักกันบ่อยครั้งแต่จะเป็นท่าที่นัทนั่งคล่อมไม่หันหลังก็หน้าให้ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ จนนัทไปถึงก่อนผมเธอครางเสียงยาวๆรูหีตอดรัดควยผม ผมเลยเด้งเข้าใส่อย่างไม่หยุดจนอีกไม่นานผมก็ตามเธอไป เรายังนอนกอดกันในท่านี้ปล่อยให้ควยผมที่อ่อนตัวลงค้างคาในรูหีของนัท แล้วเราก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลียของทั้งคู่ จนสายผมตื่นทีหลังเธอพบว่าเธอทำอาหารเช้าไว้รอเรียบร้อยแล้วและรอจนผมตื่นหลังจากผมอาบน้ำเรียบร้อยเรามานั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน คำแรกที่เธอพูดคือ
“ขอโทษนะเมื่อคืนนี้นัทงี่เง่าไปหน่อย”แสดงว่าเธอรู้ตัวผมตอบไปว่า
“ลืมๆมันไปเหอะ ถ้ามัวแต่เก็บมาคิดเดี๋ยวเราก็ทะเลาะกันอีก พนจะพยามมีเวลาให้นัทมากขึ้นแต่ขอให้โปรเจ็คนี้มันจบก่อนนะ”
ทำเอานัทยิ้มไม่หยุด ทานเสร็จเราช่วยกันล้างจาน จังหวะที่นัทยืนล้างมือที่อ่างล้างจานหลังจากเช็ดจานเรียบร้อย ผมไปยืนกอดเธอด้านหลัง เอาหน้าไซร้ไปตามติ่งหูและซอกคอ
“อย่าน่าพน เดี๋ยวนัทเปียก”นัทร้องออกมาแต่ไม่ขัดขืน จนผมยื่นหน้าไปหอมแก้มเธอเบาๆส่วนมืออีกข้างผมเลื่อนลงไปขยำสะโพกที่ทั้งฟิตทั้งแน่น
“อูยพน พักบ้างซิเมื่อเช้ามืดก็ได้ไปแล้ว ถนอมนัทหน่อยสิคะ”
“ก็ถนอมแล้วนี่ไง”ผมพูดไปซุกไซร้ที่ลำคอเธอไปด้วย
“แล้วกินยาอยู่หรือเปล่า”ผมถาม
กินซิ ไม่กินได้ไง” ตั้งแต่เรามีเซ็กส์กันครั้งแรกส่วนมากนัทจะเป็นฝ่ายกินยาคุมซะส่วนใหญ่มีไม่กี่ครั้งที่ผมจะใช้ถุงยางแต่ก็ซื้อติดไว้ทั้งที่บ้านกับคอนโดของเธอ
“เมื่อคืนทำอะไรอยู่เค้ารู้นะ”
“อะไรเหรอ”ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อย่ามาเนียน ถ่ายรูปเค้าตอนโป๊ อย่านึกว่านัทไม่รู้นะ แต่กำลังงอนเลยไม่อยากพูดอะไร”
ผมไม่ตอบอะไรแต่กอดนัทแน่นขึ้น และเธอเอียงหน้ามารับจูบของผมแล้วผมพาเธอไปบนห้อง หยิบกล้องมาให้ดูภาพที่ถ่ายเธอเมื่อคืน เธอดูแล้วย่นหน้าให้ ไม่พูดอะไรแต่กางมือให้ผมเข้ากอด และเราก็จบเรื่องด้วยการเอากันในท่าด็อกกี้บนเตียงของผม หลังจากนั้นนัทก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมงอนผมน้อยลงที่ผมไม่ไปปาร์ตี้กับเธอที่ผมรู้ว่าเธองอนและน้อยใจผมเพราะตั๊กที่เป็นรุ่นน้องเธอแอบโทรมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนๆหลายคนของนัทจะแหย่และแซวว่าทำไมผมถึงไม่มาด้วยหลายๆครั้งเข้าก็ทำเอานัทคิดจนกลายเป็นน้อยใจ แต่บางครั้งก็ทำให้ผมคิดหนักว่าในเมื่อชีวิตของเรามันมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่ในเรื่องนี้แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร ผมไม่ตามใจนัททุกครั้งไปซึ่งเธอรู้ดีแต่ไม่พูด ถ้าเรางอนกันก็ไม่พูดอะไรกัน 2-3 วัน จนผมมานั่งใคร่ครวญที่คอนโดของเธอระหว่างรอเธอกลับ ตอนนั้นผมเริ่มลังเลไม่แน่ใจในตัวเอง แต่พอมองไปที่ภาพในกรอบใหญ่เป็นภาพที่ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะคอมที่บ้านและมีนัทโอบกอดอยู่แก้มของเราแนบชิดกันภาพนี้ถ่ายได้ประมาณ3-4เดือนแล้วและนัทก็เอามาตั้งโชว์ในห้องรับแขกรวมถึงภาพที่ห้องทำงานเธอ ทำให้ผมคิดได้ว่าเธอรักผมมากเรื่องตรงนี้มันน่าจะผ่านไปได้ พอเธอเข้ามาในห้องเห็นผมนั่งรออยู่เธอเดินมานั่งข้างๆและหอมแก้มผมแรงๆ
“พนไปเที่ยวบาหลีกันนะ”
ผมหันไปมองหน้าเธอ
“จะไปเมื่อไหร่หละ”ผมถามเพราะแน่ใจว่าเธอกำหนดวันไว้แล้ว
พอเธอตอบว่าวันไหนเป็นช่วงที่ผมว่างพอดีเลยพยักหน้า เธอกอดผมแน่นและหอมแก้มผมอีกครั้ง
“น่ารักจังเลยนัทอยากไปพอดีจะได้ไปจองทัวร์ไว้”
และคืนนั้นคงเป็นเพราะเธออารมณ์ดีและเราว่างเว้นกันมาเกือบอาทิตย์ เธอจัดให้ผมอย่างถึงใจ จนวันรุ่งขึ้นผมแทบหมดแรง และก่อนไปบาหลีไม่กี่วัน อาจารย์ที่สอนผมและเป็นที่ปรึกษาตอนเรียนปริญญาโทได้ ส่งe-mail มาหาผมบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยให้ผมติดต่อกลับ พอผมติดต่อกลับไป อาจารย์บอกว่ามีผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สหรัฐสนใจที่อยากจะคุยกับผมและอาจารย์เป็นที่ปรึกษาอยู่ เพราะไปเห็นวิทยานิพนธ์และโปรเจ็คที่ผมทำตอนเรียนอยากจะให้มาร่วมงานด้วย อาจารย์ เลยนัดคุยกันทางวีดีโอคอลกันทั้ง 3 คน ผู้บริหารบอกรายละเอียดงานคร่าวๆมามันเหมือนกับการสัมภาษณ์งานกลายๆ ผมเลยบอกไปตามตรงว่าคุยตอนนี้คงยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะผมจะไปพักผ่อนที่บาหลี 2 อาทิตย์ไว้กลับมาแล้วค่อยคุยกัน ส่วนรายละเอียดรบกวนส่งให้ผมมาทางe-mail ด้วย ซึ่งทั้งสองคนตอบตกลง ผมกับนัทไปเที่ยวบาหลีกันอย่างมีความสุขในชีวิตของผมไม่เคยมาเที่ยวที่นี่แต่นัทเคยมาแล้ว2-3 ครั้งเลยมีความชำนาญ รีสอร์ทที่เราพักนัทจองแบบมีสระส่วนตัวไว้ ส่วนใหญ่เธอจะไปนอนเล่นที่เก้าอี้ริมสระแล้วถ่ายเซลฟี่ มีทั้งชุดธรรมดาและชุดบิกินนี่ พอโพสชุดบิกินี่ก็จะเรียกยอดไลท์ได้ถล่มทะลาย ซึ่งพายที่ได้มาเป็นเพื่อนกับผมในเฟสบุ๊คและกดติดตามนัททั้งทาง IGและเฟสบุ๊คจะเดาออกว่าผมไปกับนัทและบางครั้งก็ส่งข้อความมาแซวรวมถึงเพื่อนๆเก่าของผมและเจนด้วยที่ต่างก็รู้เรื่องของผมกับนัทเป็นอย่างดี บางครั้งระหว่างที่นอนอยู่ที่เก้าอี้ริมสระเธอจะเรียกผมมาถ่ายเซลฟี่มีอยู่ภาพหนึ่ง ตอนที่เธอกดชัตเตอร์เธอหันมาหอมแก้มผมทันที และเอารูปนั้นไปขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ของเธอด้วย ก่อนกลับ 2-3 วัน ช่วงสายๆเธอใส่ชุดบิกินนี่สีดำแล้วไปถ่ายรูปลง IG ที่ริมสระตามเคย ซึ่งพอใส่ชุดนี้แล้วมันตัดกับร่างที่ขาวของเธอได้เป็นอย่างดี พอเธอถ่ายรูปเสร็จผมเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกับเธอ และหอมแก้มเธอทันที
“ไม่เอานะพน เดี๋ยวคนเห็น”
“ใครจะมาเห็น ตรงนี้มันลับตา”
พูดจบผมเอาปากไปทาบกับปากเธอทันที เธอรับจูบผมเราแลกลิ้นกันครู่หนึ่งก่อนเธอจะดันตัวผมออก
“ไม่เอานะพน พักบ้างเมื่อคืนก็แทบสลบกันไปข้างนึงแล้ว นัททั้งแสบทั้งระบมไปหมดแล้วนะพน
เธอพูดทันทีเมื่อผมเอามือไปวางที่หน้าอกของเธอ
“ก็แฟนของพนอยากสวยทำไมละ” ผมตอบพร้อมเอามือขยำเบาๆแล้วพูดต่อ “นะๆๆๆ ไปที่ห้องกัน”
นัทส่ายหน้าแต่ปล่อยให้ผมจับนมต่อไปแต่คอยดึงเมื่อผมทำท่าจะล้วง
“นะนัทนะ”ผมอ้อนบอกว่า ใช้ปากก็ได้ เธอพยักหน้าแล้วบอกว่า “งั้นอุ้มนัทไปนะ”
ผมจัดการช้อนตัวเธอเข้าไปที่ห้องพักทันทีเธอเอามือทั้งสองโอบคอผมไว้ด้วยพอเข้าถึงห้อง ผมบรรจงว่างร่างเธอลงบนเตียงแล้วบดขยี้แลกจูบกับเธออย่างหิวกระหาย ต่อมาชุดของเราทั้งครู่ปลิวหลุดจากร่างกายอย่างรวดเร็ว นัทพลิกให้ผมนอนหงาย ก่อนจะเริ่มเล็มเลียไปที่หัวนมของผมทั้งสองข้างสลับไปมา และเลื่อนหน้าไปตรงควยผม เอามือรูดช้าๆมองหน้าผมแบบยั่วยวน ก่อนก้มลงไปใช้ปากปฏิบัติกามให้ผมอย่างชำนาญ นัทใช้ปากรูดควยผมช้าสลับเร็วพร้อมเอามือผมไปจับนมเธอ ผมบี้หัวนมทั้งสองข้างของนัทไปมา และสูดปากพร้อมครางออกมาตลอด
“โอ๊วนัทจ๊า พนเสียวซี๊ดๆๆๆๆดีจังอีกนิดจ๊ะอีกนิด”
แต่แล้วนัทก็หยุดทันที แล้วบอกมาว่า
“เรามากินพร้อมๆกันดีกว่า นัทก็เสียว”
แล้วนัทจัดมาให้เราอยู่ในท่า 69กัน โคกหีที่เริ่มชุ่มของนัทลอยอยู่ตรงหน้าผม ผมเลียมาให้รู้มากี่ครั้งแล้วแต่ก็ไม่ทำให้เกิดความเบื่อ ผมบรรจงลงลิ้นตวัดไปมา เช่นเดียวกับนัทที่ใช้ปากรูดควยของผมอย่างช้าๆและเราทั้งคู่มาเร่งตอนที่จวนจะถึง ผมสุดกลั้นปล่อยน้ำกามเข้าไปในปากของนัทพร้อมกับที่นัทเกร็งตัวไปมา แต่แทนที่นัทจะหยุดหลังจากใช้ลิ้นกวาดไปทั่วซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงคุณต้องทันที นัทใช้ปากปลุกให้ผมแข็งอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะนั่งหันหลังและคล่อมควยผมพร้อมโยกตัวไปมา จนพาเราทั้งคู่ไปสวรรค์อีกรอบ จนกลับมาถึงเมืองไทย ทางผู้บริหารของบริษัทที่สหรัฐได้วีดีโอคอลมาสัมภาษณ์งานผมอย่างจริงจัง และผ่านไปไม่ถึง 1อาทิตย์ทางบริษัทที่สหรัฐแจ้งมาว่าส่งรายละเอียดมาให้ผมแล้วทาง e-mail ลักษณะของงานไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมและบริษัทนี้ได้สัมปทานดูแลงานของรัฐบาลสหรัฐหลายโครงการโดยเฉพาะในเรื่องระบบและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เงื่อนไขที่เสนอให้ผมคือสัญญาจ้างงานช่วงแรก 3 ปี และถ้าพอใจก็จะต่อให้อีกเป็นครั้งๆ ครั้งละ 5 ปี มีที่พักพร้อมรถให้อีก 1 คัน พร้อมค่าจ้างที่คำนวนมาให้เรียบร้อยไม่รวมโบนัสที่ได้ของแต่ละโปรเจ็คหลังจากหักภาษีแล้วผม มีรายได้เกือบ 7 หลักของมูลค่าเงินที่นั่นและถ้าต่อสัญญาก็จะพิจารณาปรับให้ ทำให้ผมคิดหนักและทางนั้นให้เวลาผมไม่เกิน 1 เดือน โอกาสที่ผมจะโตและพัฒนาฝีมือมันมีมาแล้วกับบริษัทระดับโลกแล้วนัทละ ผมมั่นใจว่านัทไปกับผมไม่ได้แน่นอน เพราะธุรกิจของเธอ ผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาทางบ้านแต่ทางพ่อกับแม่บอกขึ้นอยู่กับผม และยิ่งแม่ผมบอกว่า “แล้วหนูนัทละ จะทำยังไง”
ทำเอาผมคิดไม่ตกและอีกไม่กี่วัน ก็จะวันเกิดเธอแล้ว ครั้งนี้ผมเตรียมของขวัญวันเกิดเป็นช่อดอกไม้ช่อโตและแหวนที่ผมแอบสั่งทำขึ้น ผมสั่งทำแหวนให้พอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายของนัทโดยแอบเอาแหวนของเธอไปวัดและสลักชื่อของเราทั้งสองไว้ที่แหวน “นัท-พน” นัทจะจัดงานวันเกิดที่ร้านแห่งหนึ่ง และขอให้ผมไปด้วยซึ่งผมรับปากอย่างเต็มใจ แต่พอถึงวันเกิดของนัท โปรแกรมที่ผมไปช่วยทดสอบกับบริษัทแห่งหนึ่งมันเกิดปัญหาขึ้น ผมต้องเข้าไปช่วยดูและประสานงานกับบริษัทที่ติดตั้งโปรแกรมซึ่งมันต้องใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการแก้ไข ผมโทรไปบอกนัทตอนเย็นว่าผมไปด้วยไม่ได้แล้วเพราะงานมันมีปัญหา ผมพยายามจะอธิบายแต่นัทก็ยอมไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น จนคำพูดสุดท้ายก่อนเธอจะตัดสายคือ “ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมา” แต่เพราะหน้าที่ผมช่วยแก้ไขให้มันมาใข้ได้ตอนเกือบ ตี 1 ทำเอาทั้งทีมงานเพลียไปตามๆกันแต่ผมต้องเข้ามาเช็คเป็นระยะๆว่ามันมีปัญหาอีกหรือเปล่า ระหว่างนั้นผมโทรไปหานัท 2-3 ครั้ง เธอไม่ยอมรับสายไลน์ไปเธออ่านแต่เธอไม่ตอบ ผมลงทุนถ่ายรูปไปให้ดูว่าผมทำงานจริงๆเธอก็ไม่ตอบ ตอนนั้นผมคิดจะกลับบ้านพรุ่งนี้ค่อยว่ากันและผมจะออนไลน์เข้ามาเช็คระบบได้เป็นระยะๆจนกว่าจะเช้า แต่ตั๊กโทรเข้ามาว่าให้ผมมารับนัทด้วย เพราะนัทเมาแทบไม่ได้สติ ตั๊กกลัวนัทจะเป็นอันตรายตอนขับรถกลับบ้าน ผมรีบเรียกแท็กซี่ไปพอผมไปถึง ผมไปช่วยตั๊กประคองนัทมา แต่ตั๊กเห็นภาพของผมที่สภาพโทรมเพราะผมทำงานไม่ได้พักตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเกือบตี 2 ทำให้ตั๊กเข้าใจทันที ผมพานัทกลับไปที่คอนโดเพราะระยะทางใกล้กว่าบ้านผม ครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งที่แล้วในรถเธอแต่ร้องไห้ไม่พูดอะไร พอไปถึงห้องเธอก็โวยวายอาละวาด ระหว่างที่ผมเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดให้เธอ
“พนไม่รักนัท งานสำคัญกว่า นัทไม่มีความสำคัญ พนไม่เคยเอาใจความรู้สึกของนัท”
เธอพูดวนไปวนมาจนเธอหลับ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสับสนขึ้นไปอีก ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ของขวัญวันเกิดผมเลยให้แต่ช่อดอกไม้ ผมวางไว้ข้างๆตัวเธอบนเตียง ส่วนแหวนตอนนั้นผมตัดสินใจว่ายังไม่ถึงเวลา ผมไปนั่งทำงานต่อที่โซฟาร์ของเธอ เอาแท็ปเล็ตเข้าไปตรวจสอบเป็นระยะจนแน่ใจว่าโปรแกรมไม่มีปัญหาเพราะผมไม่ได้ตรวจสอบคนเดียว เกือบ ตี 4 ผมถึงเผลอหลับไปคาโซฟาร์โดยที่ยังไม่อาบน้ำหรือเปลี่ยนชุด โดยก่อนหลับผมตัดสินใจไว้แล้วว่าผมจะไปทำงานที่สหรัฐแน่นอนและสัญญาที่ผมเป็น outsource มันจะหมดลงพอดี ผมตื่นนอนขึ้นมาเกือบ 10 โมงเช้า และสิ่งที่เห็นคือนัทมานั่งหลับอยู่กับพื้นเอาหัวมาซบกับโซฟาร์และเอามือข้างมากุมมือผมไว้แน่น ผมอุ้มเธอไปนอนที่บนเตียงต่อแล้วผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน ก่อนไปผมหอมแก้มเธอเบาๆพร้อมกระซิบว่า
“ไปทำงานก่อนนะ” เธอพยักหน้ารับรู้ ผมเข้าตรวจสอบโปรแกรมจนถึงช่วงบ่ายเธอไลน์มาบอกว่า
“นัทอยู่คอนโดนะคะ ไม่ได้ไปไหน ขอบคุณสำหรับดอกไม้ในวันเกิดคะที่รัก”
แล้วก่อนที่ผมจะกลับไปหานัท ผมแจ้งไปทางสหรัฐแล้วว่าผมตอบตกลง ทีนี้ก็รอว่าทางนั้นจะแจ้งกลับมาว่ายังไงเท่านั้น พอกลับไปถึงห้องนัทดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืน ผมพยายามเลี่ยงที่จะคุยเรื่องเมื่อคืนเธอก็เช่นกัน และผมเข้านอนแต่หัวค่ำเพราะเพลียมาก ผมรู้ตัวว่านัทเข้านอนที่หลังผมแต่นัทนอนกอดผมแน่นทั้งคืน จนสายๆวันรุ่งขึ้นมีรายละเอียดตอบตกลงผมมาทันที พร้อมร่างสัญญาจ้างงานโดยเรื่องเอกสารต่างๆทางบริษัทจะรีบดำเนินการ จนทุกอย่างเรียบร้อยภายใน 2 อาทิตย์ ทางบริษัทที่สหรัฐ แจ้งวันที่ผมจะไปเริ่มงานพร้อมส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ ซึ่งดูระยะเวลาแล้วคืออีก 3 อาทิตย์เท่านั้น ผมรู้สึกตกใจ แต่เมื่อตั้งใจไว้แล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อ ผมแจ้งทางบ้านทันที ทางบ้านผมไม่มีปัญหา ส่วนนัทนั้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเราคุยกันน้อยลงถึงจะอยู่ด้วยกันทุกวัน จนถึงช่วงเย็นระหว่างเราทานข้าวด้วยกัน ผมตัดสินใจบอกเธอ นัทนิ่งเงียบตลอดเวลาที่ผมอธิบาย เธอหยุดทานข้าวทันที จนผมพูดจบ เธอนั่งก้มหน้าไปสักพักก่อนเงยหน้าขึ้นมาด้วยน้ำตาที่คลอถามมาสั้นๆว่า
“พนจะไปเมื่อไหร่คะ”
พอผมบอกวันเธอก็เงียบไปสักพักก่อนจะบอกว่า
“ ในเมื่อเป็นอนาคตของพนเอง นัทไม่ขัดคะนัทเข้าใจในเรื่องนี้ และสิ่งที่พนทำมาให้นัทตลอด ถึงแม้นัทจะเอาแต่
ใจบ้าง แต่นัทคงจะไปอยู่ที่นั่นกับพนตลอดไม่ได้ เพราะงานของนัทมันทิ้งไปไม่ได้”
ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ คืนนั้น นัทนอนจับมือผมแน่นทั้งคืน ช่วงเวลาที่เหลือผมบอกกับทางบ้านของนัทแล้วว่าผมจะไปทำงานที่สหรัฐฯ พ่อกับแม่ของนัทไม่ถามอะไรมาก ส่วนนัทเธอจัดเตรียมกระเป๋าให้ผมหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวให้ เพราะผมจะไปทำงานที่ วอชิงตัน ช่วงอาทิตย์สุดท้าย เราจะพักกันที่บ้านของผมตลอด ซึ่งช่วงที่ผมไม่อยู่ทางพ่อกับแม่จะมาช่วยดูแลบ้านให้ รถผมจะไปจอดที่บ้านต่างจังหวัด ยิ่งใกล้วันเดินทาง นัทยิ่งดูเงียบและซึมหนักขึ้นผมรู้สึกสงสารเธอมากแต่คงจะทำอะไรไม่มากไม่ได้เพราะเราตัดสินใจไปแล้ว จนวันก่อนเดินทาง พ่อของนัทจัดงานเลี้ยงส่งผม และแอบมาคุยกับผมเป็นการส่วนตัว บอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ แต่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ขอบคุณผมอย่างมากที่ดูแลนัทเป็นอย่างดี นัทเปลี่ยนไปในทางที่ดีจนคนที่บ้านสังเกตเห็น และได้มอบเงินให้ผมไปใช้ก้อนหนึ่งบอกเป็นเงินขวัญถุง ผมจะไม่รับก็ไม่ได้จนกลับถึงบ้าน นัทช่วยตรวจดูความเรียบร้อยของกระเป๋าและเอกสารทั้งหมดอีกครั้ง เราช่วยกันดูจนมั่นใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น เราเข้านอนพร้อมๆกัน ผ่านไปสักครู่หนึ่ง นัทนอนเบียดชิดผมเข้ามาอีกและหอมแก้มผมแรงก่อนที่จะบอกว่า
“พนขาก่อนไปเราจะนอนเฉยๆกันแบบนี้หรือไง”
ผมเลยพลิกตัวไปบนร่างของเธอ นัทสนองตอบผมทันที เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนที่เสื้อผ้าของเราทั้งสองจะปลิวออกจากตัว นัทกดหน้าผมลงแนบกับอกทันที ผมดูดดื่มกับเต้าทั้งสองสลับไปมาพร้อมเอานิ้วกรีดไปมาที่ร่องหีของนัทที่แฉะไปหมดแล้ว
“อูยพนขา อย่าทรมาณนัทเลย อูยๆๆๆ นัทเสียว อย่าบี้ตรงนั้นอ๋อยๆๆๆๆ”
นัทครางพร้อมแอ่นหน้าอกให้ผมเคล้นคลึง ก่อนที่จะกดหัวผมลงไปที่โคกหีของเธอ นัทถ่างขารอรับการลงลิ้นของผมอย่างเต็มที่ ผมเลียเข้าไปลึกพร้อมแตะไปตรงเม็ดแตดของเธอ ยิ่งทำให้นัทครางลั่นก่อนที่ร้องมาว่า
“พนขา ทำเหอะ ทนไม่ไหวแล้วคะ”
ผมเลื่อนหน้ามาแลกจูบกับเธอ พร้อมกับนัทเอามือจับควยผมไปจ่อให้ที่รูหีของเธอ ผมสนองตอบทันทีค่อยๆดันเข้าไปจนสุด นัทกอดผมแน่นและเด้งรับทุกครั้งที่ผมกระเด้าเข้าไป ผมไม่เร่งจังหวะรักครั้งนี้เราดื่มด่ำกับบทรักครั้งนี้อย่างเต็มที่ เสียงเนื้อที่กระทบกันผสมกับเสียงครางของเราครั้งนี้มันสร้างความรัญจวนให้กับเราทั้งคู่ จนผมเร่งส่งท้ายก่อนที่จะฟุบไปบนร่างงามนั้น ที่ครางออกมาพร้อมๆกัน เธอปล่อยให้ผมนอนซบสักครู่ก่อนประคองหน้าผมขึ้นมา เรามองตากันเธอดึงหน้าผมลงมาจูบก่อนที่จะพลิกตัวเธอมาอยู่ข้างบน
“พนนอนเฉยๆนะ นัททำให้มั่ง”
แล้วเธอก็ปลุกอารมณ์ของผมให้ลุกโชนอีกครั้งด้วยปากของเธอ ที่ทั้งดูดทั้งเลีย จนควยผมแข็งตัวอีกครั้งแล้วเธอนั่งคล่อมพร้อมโยกตัวไปมาและเอามือของผมให้ไปจับนมของเธอ นัทปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่อีกครั้ง จนพาเราทั้งสองไปถึงจุดหมาย คืนนั้นเรานอนเปลือยกายกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย ตอนเช้าเราจัดการเก็บบ้านอีกครั้ง แต่สิ่งที่เราไม่พูดถึงกันเลยว่าจะเก็บเสื้อผ้าของใช้ของอีกฝ่ายออกมาหรือเปล่า จนเย็นก่อนที่จะไปสนามบิน ผมเย็ดนัทอีกครั้งในท่าด็อกกี้บนโซฟาร์ ตอนแรกเธอทำท่าจะไม่ยอมแต่ในที่สุดก็ตามใจผม ได้เวลาเราขับรถของนัทไปเธอขอให้ผมขับส่วนเธอนั่งซบไหล่ผมตลอดทาง ถึงสนามบินทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาส่งผม จนได้เวลาผมกราบลาพ่อแม่ผมและพ่อแม่นัท ส่วนนัทเธอกอดผมแน่นน้ำตาไหลลงมาที่แก้ม พร้อมบอกผมว่า
“เดินทางปลอดภัยนะคะ ดูแลสุขภาพด้วย”
แล้วเธอหอมแก้มผมทั้งสองข้าง ผมพยายามไม่พูดอะไรมากเพราะกลัวตัวเองเปลี่ยนใจ ผมหอมไปที่หน้าผากเธอก่อนจากลา
หลังจากเดินทางอันยาวนาน ผมไปถึง วอชิงตันโดยสวัสดิภาพ ทางบริษัทส่งคนมารับที่สนามบิน ผมเข้าพักที่โรงแรมก่อน 1คืน วันรุ่งขึ้นถึงไปพักที่ อพาร์ทเม้นท์ ที่ทางบริษัทจัดให้ ผมจัดการรื้อกระเป่า เพื่อจัดเก็บของ จนมาเห็นของที่นัทแอบใส่มาให้คือ รูปที่เป็นรูปเธอกำลังหอมแก้มผม เป็นรูปที่เราถ่ายที่บาหลีพร้อมกรอบรูปลายน่ารักที่ยังไม่ใส่รูป พอผมพลิกไปดูด้านหลัง เห็นเธอเขียนไว้ว่า
“รูปนี้แทนใจของนัทที่มีให้พนนะ นัทขอโทษเรื่องวันเกิดนัท นัทรู้ว่านี่คงเป็นอีกเหตุผลที่พนมาอมริกา แต่นัทจะรอจนถึงที่สุดคะ รัก”
ผมเห็นแล้วน้ำตาคลอ ออกมาผมเอารูปใส่กรอบแล้วตั้งบนโต๊ะข้างๆหัวเตียง หลังจากนั้นผมได้เริ่มงานเป็นงานที่ท้าทายมากแต่บริษัทนี้มีการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างสูงพนักงานทุกระดับเอาเครื่องมือสื่อสารเข้าพื้นที่ไม่ได้ ใครจะติดต่อต้องติดต่อผ่านโอเปอเรเตอร์เท่านั้น แม้จะคุยผ่านวีดีโอคอลกับภายนอกก็ต้องเป็นห้องที่จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้นผมกลัวไม่มีความส่วนตัวเลยไม่ให้เบอร์กับนัท ช่วง2-3เดือนแรกผมติดต่อกับนัทแทบทุกวันและผมเอาภาพที่ผมถ่ายให้เธอที่อยู่ในเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ที่มองไปนอกหน้าต่าง ผมเอาไปอัดและขยายเป็นรูปใหญ่มาติดในห้องและใส่กรอบวางไว้ที่โต๊ะทำงาน แม่ผมโทรมาบอกว่า นัทไปหาที่บ้านและบอกว่าบ้านผมนัทจะช่วยดูแลเองไม่ต้องลำบากพ่อกับแม่ผม ซึ่งนัททำตามที่บอกจริงๆ บางครั้งการคุยผ่านวีดีคอล หลายครั้งที่นัทเผลอร้องไห้ออกมาให้เห็น ผมทำได้แต่เช็ดน้ำตาเธอผ่านจอเท่านั้น จนเวลาผ่านไป5-6เดือน การติดต่อเราห่างกันออกไปเรื่อยๆ เวลามันต่างกัน บางครั้งผมเรียกไปนัทก็นอนแล้ว หรือนัทติดต่อมาผมก็นอนแล้ว ยิ่งถ้างานผมเยอะมาก บางครั้ง2-3วันผมแทบไม่ได้กลับที่พัก เลยทำให้เราห่างกันไปทุกที ถึงจะไลน์หากันแต่กว่าอีกฝ่ายจะตอบมันก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ผมเริ่มทำใจเพราะนึกไปว่าคงเหมือนกับเจนในตอนที่ผมมาเรียนปริญญาโทเหตุการณ์มันช่างคล้ายๆกัน บางครั้งผมใช้วันหยุดเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวของวอชิงตันและอดใจหายไม่ได้เพราะหลายๆที่เป็นที่ ที่ผมเคยมาเที่ยวกับเธอ บางครั้งผมเข้าไปดูในเฟสบุ๊คหรือIG ของเธอ นัทยังเหมือนเดิม แม้บางครั้งจะมีข้อความหรือภาพที่ออกมาดูในมุมเศร้าๆ ที่สื่อความหมายว่าคิดถึงผม ผมเข้าไปกดไลท์ให้ทุกครั้ง จนผ่านไปเกือบ 8 เดือนช่วงปลายปีก่อนคริสต์มาส ก่อนที่ผมจะเข้าไปในออฟฟิตผมหยิบโทรศัพท์เพื่อมาดูเฟสบุ๊คของนัท เป็นภาพของเธอที่สนามบิน พร้อมข้อความที่เขียนว่า
“ขอลาไปพักผ่อนสัก2-3เดือนนะคะ เป็นการเดินทางที่มีความหวัง และแฮทแท็กว่า #เดินทางไปพบของล้ำค่าที่สุดสิ่งหนึ่งในชีวิต “
ผมกำลังจะเลื่อนลงไปดูต่อแต่ถูกเรียกเข้าไปด่วนเลยเก็บโทรศัพท์ไว้ในล็อคเกอร์ ด้วยเพราะงานมันมากต้องรีบให้เสร็จก่อนหยุดยาว ช่วงพักผมรีบออกมากินอาหารง่ายๆและเข้าไปทำงานต่อทันที จนเกือบ 1 ทุ่มผมถึงกลับบ้าน พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพบว่า นัทโทรเข้ามาหา3-4 ครั้ง ผมโทรกลับทันทีแต่ติดต่อไม่ได้ และมีเบอร์แม่ของนัทโทรเข้ามา โชคดีที่ติดต่อได้ แม่ของนัทบอกผมว่านัทกำลังเดินทางไปหาผม แต่ติดต่อไม่ได้เลยให้แม่ช่วยโทร ทำให้ผมตกใจอย่างมากผมสอบถามเที่ยวบินว่านัทจะมาถึงเมื่อไหร่ และลองเทียบเวลาดู เท่ากับว่าตอนที่นัทโทรหาผมเธอแวะเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่นตอนนี้คงอยู่บนเครื่อง ผมเข้าไปดูในไลน์นัทส่งข้อความมาว่าให้ไปรับกี่โมงซึ่งมันตรงกับที่แม่ของนัทบอก ซึ่งนัทจะมาถึงตอนเช้าวันพรุ่งนี้ วันรุ่งขึ้นแจ้งที่ทำงานว่าเข้าสายเพราะติดธุระ และอากาศเริ่มเย็นขึ้นทุกวัน ผมไปถึงสนามบินตามเวลาที่เครื่องลง จนได้เวลาผมไปยืนรอตรงทางออกของผู้โดยสาร จนเห็นนัทเดินเข็นรถออกมา ผมเดินกึ่งวิ่งตรงไปหาเธอทันที เรากอดกันแน่นๆผมหอมแก้มเธอเบาๆ น้ำตาเธอคลอออกมาให้เห็น ผมไม่พูดอะไรมาก เดินเข็นรถพาเธอไปที่จอดรถ แล้วจัดการเก็บกระเป่าเธอขึ้นรถแล้วผมบอกเธอว่า
“ไปบ้านกันเหอะ” เธอก้าวขึ้นรถตามที่ผมบอก ทั้งผมและเธออยู่ในชุดกันหนาวทั้งคู่ ระหว่างทางเธอมองผมไม่วางตา
“พนอ้วนขึ้นหรือเปล่านี่ แต่โทรมมากเลย”
ผมพยักหน้า “แทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย งานหนักมากบางทีไม่ได้กลับห้อง นอนมันที่ออฟฟิต2-3 วันถึงกลับเลยเป็นแบบนี้ นัทก็ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ”
คำว่าสมบูรณ์หรืออ้วนเป็นคำต้องห้ามของนัท ทำเอาเธอทุบมาที่ไหล่ผมทีนึง
“บ้า เค้าใส่เสื้อหลายชั้นต่างหากย่ะ ไม่อ้วนเลย” แล้วเธอก็มาซบที่ไหล่ผม
“คิดถึงนะ”เธอบอกผม
“เหมือนกัน”
พอไปถึงที่ห้อง เธอบอกว่าเตรียมของกินมาทำให้กินหลายอย่าง แต่ผมมีเวลาไม่มากจะต้องรีบไปทำงาน เลยบอกเธอคร่าวๆว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง และหอมแก้มเธอก่อนไปทำงาน ระหว่างขับรถไปที่ทำงานผมนึกขึ้นได้ว่าลืมให้เบอร์ที่ทำงานเผื่อเธอมีเรื่องด่วนและกุญแจห้องสำรองผมก็ไม่ได้ให้ไว้ ช่วงเวลาเบรคผมโทรไปหาเธอปรากฏว่าเธอตื่นมารับสายบอกว่าเพลียมากขอนอนก่อน ผมกว่าเสร็จงานเกือบ 1 ทุ่ม ทั้งๆที่เร่งเต็มที่ กลับไปถึงห้อง พบว่าเธอทำอาหารที่ผมชอบตั้งไว้บนโต๊ะเรียบร้อย พร้อมเขียนโน้ตไว้ว่า
“พนขา ทำกับข้าวไว้ให้แล้วเค้าเพลียมากเลย ขอนอนก่อนนะ ป.ล. ภาพในห้องสวยจังเลย”
ผมเดินไปดูที่ห้องนอนเห็นว่าเธอหลับสนิท เลยทานอาหารฝีมือเธอแล้วนั่งดูทีวีสักพักก่อนไปนอนข้างๆเธอ ผมดึงเธอเข้ามากอด นัทพลิกตัวหันมาหาผมกอดผมเช่นกันแล้วเราก็หลับสนิทไปทั้งคู่ตอนเช้าเธอตื่นก่อนผมแล้วทำอาหารไว้รอแล้ว พร้อมบอกว่า นัทมีอาการเจ็ทแล็คอยู่แต่ดีขึ้น วันนี้จะจัดกระเป๋าให้เรียบร้อย เรานั่งทานอาหารเช้าพร้อมกัน แล้วนัทก็บอกว่า
“ชอบรูปนี้หรือที่เอาใส่กรอบนะ”
ผมบอกไปว่าเป็นภาพที่ผมถ่ายให้นัทแล้วผมชอบมากที่สุดและเอาไปไว้ที่ทำงานด้วย ทำเอานัทอึ้งๆ ก่อนผมไปทำงานผมหยิบกุญแจสำรองให้เธอ และบอกเส้นทางคราวๆเผื่อเธออยากไปซื้ออะไร และจดเบอร์ที่ทำงานให้พอนัทรับ นัทถามมาว่า
“ถ้าทางนั้นถามว่าใครโทรหาจะให้นัทบอกว่ายังไง”
ผมบอกไปทันที “บอกว่าคู่หมั้นโทรมา” พอได้ยินคำตอบทำเอานัททำท่าจะร้องไห้ ผมดึงเธอมากอดและหอมแก้มก่อนลาไปทำงาน ผ่านไป2-3 วัน เหตุการณ์เป็นไปอย่างเดิม นัททำอาหารให้ผมทานทุกวันจากของที่เตรียมมา จนวันศุกร์ผมรีบกลับมาที่ห้องเพราะตอนเช้าผมบอกว่ามื้อเย็นไม่ต้องทำจะไปทานข้าวข้างนอก ตั้งแต่นัทมาถึงแทบไม่ได้ไปไหนเลยและอากาศเริ่มเย็นขึ้นจนเริ่มมีหิมะตก ผมพานัทไปร้านที่ผมมาบ่อยๆ นัทให้ผมสั่งอาหารให้ ผมเลยสั่งสเต็กมาให้ พอเห็นจานนัททำหน้าย่นเข้าใส่แล้วบอกมาว่า
“มิน่าพนถึงอ้วนขึ้น แล้วเค้าจะกินหมดมั้ยนี่แล้วอย่ามาบ่นว่านัทอ้วนนะ”
แล้วนัทก็ถามว่าปกติผมกินแบบนี้ทุกวันหรือเปล่า ผมบอกว่า ส่วนใหญ่ผมจะกินอาหารกล่องเอาสะดวกเข้าว่า ร้านนี้นานๆมาที ส่วนใหญ่จะมากินเลี้ยงกับที่ทำงานที่นัดกันไว้ 1 เดือน มากินด้วยกันหนนึง นัทเลยบอกว่ามิน่าตู้เย็นของผมแทบไม่มีอะไรกิน จนทานเสร็จนัทขอให้ผมพาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตจะไปซื้อของบางอย่างมาเพิ่มเติม ด้วยอากาศที่เย็นและหิมะเริ่มตก ทำเอานัทสั่นไปทั้งตัว จนถึงบ้านนัททำท่าจะเป็นไข้ ผมเลยเอายาให้กินและบอกให้เธอนอนพักทันที ตื่นเช้านัทดูดีขึ้น หลังอาหารเช้า ผมถามว่านัทอยากไปไหนหรือเปล่าผมจะพาไป นัทบอกว่ายังไม่ไปไหนกลัวไข้กลับขอพักก่อนและอีกไม่กี่วันจะถึงคริสต์มาสแล้วค่อยให้ผมพาเที่ยว แล้วพอผมดูทีวีเธอมานั่งด้วยบนโซฟาร์ ผมดึงเธอเข้ามาพึงและโอบเธอไว้หลวมๆ เธอเลยใช้หน้าอกผมพึงต่างหมอน เรานั่งเหยียดยาวดูทีวีกันครู่ใหญ่ ก่อนที่นัทจะถามผมว่า
“พน ขาพนไม่ถามเลยหรือว่านัทมาทำไม”
“ไม่ถามเพราะพนเห็นในเฟสของนัทแล้ว ที่นัทบอกว่ามาทำไม”
“แล้วพนไม่อยากรู้หรือว่านัทจะมาอยู่กับพนกี่วัน”
“ไม่ เพราะนัทจะอยู่ได้ตามความต้องการ ห้องนี้ต้อนรับนัทเสมอ”
เธอพลิกตัวหาผมทันทีซุกหน้าไปที่อก แล้วร้องไห้ออกมา
“พน นัทขอโทษ นัทขอโทษ ถ้าวันนั้นนัทไม่เอาแต่ใจตัวเอง ตอนนี้พนคงอยู่เมืองไทยกับนัท นัททนคิดถึงพนไม่ไหวทั้งๆที่อยากจะลืมแต่ลืมไม่ได้นัทมาขอโทษ”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พนไม่เคยโกรธนัท เรื่องมันผ่านมาแล้วย้อนกลับไปไม่ได้ แต่อย่าลืมซิว่ามันทำเงินให้พนขนาดไหน อยู่เมืองไทยต้องทำกี่ปีถึงจะได้เท่านี้”
ผมลูบหลังเธอไปมาตลอด จนเห็นว่าเธอหยุดสะอื้น ผมเลยประคองให้เธอนั่ง ตาของนัทชุ่มไปด้วยน้ำตา มันทำให้ผมตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“นั่งตรงนี้แป็บนึง เดี๋ยวไปเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ เลอะไปหมดเลย”แล้วผมเดินไปในห้องนอนเปิดลิ้นชักในตู้หยิบแหวนที่ผมเคยคิดจะให้เธอในวันเกิดที่ผ่านมาแล้วเดินกำแน่นในมือไปหาเธอพร้อมผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ ผมบรรจงเช็ดหน้าให้เธอจนหมดแล้วบอกกว่า
“ดูดีขึ้นนิดนิง”แล้วผมจับมือซ้ายของเธอขึ้นมาเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจ ปกตินัดจะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายบ่อยครั้งแต่ครั้งนี้เธอสวมที่นิ้วชี้ ผมบรรจงสวมแหวนที่ผมสั่งทำเข้าไปที่นิ้วนางของเธอ นัทดู งงๆแล้วเอาขึ้นมาดูพอเห็นชัดเจน เธอพูดเสียงสั่นๆว่า
“พน ขอบคุณคะนัทนึกไม่ถึงว่า พนจะดีกับนัทขนาดนี้”ผมดึงเธอเข้ามากอดนัทกอดผมแน่น ผมหอมแก้มเธอทั้งสองข้างก่อนบรรจงจูบไปที่ปาก นัทรับการจูบแต่โดยดี เราไม่พูดอะไรกันมาก แล้วเธอก็กลับมานั่งพึงหน้าอกผมบนโซฟาร์เหมือนเดิมพร้อมยกแหวนขึ้นมาดูบ่อยครั้ง ผมเอามือที่ตอนแรกโอบเอวเธอขึ้นมาลูบไล้ที่หน้าอกเธอ ก่อนที่จะล้วงเข้าไปในเสื้อเพื่อสัมผัสกับเนื้อแท้ นัทปล่อยให้ผมลูบคลำซักพัก ก่อนที่ผมจะกระซิบ
“ไปที่เตียงเหอะที่รัก”
นัทส่ายหัว
“ทำไมละ”
“เค้าพึ่งหายไข้”
ผมลูบคลำไม่หยุด
“เดี๋ยวพนฉีดยาให้นะๆๆ ตั้งแต่นัทมาเรายังไม่ทำอะไรกันเลย”
“งั้นอุ้มนัทที”
ผมสนองตอบตามคำสั่งเธอทันที แล้วบรรจงวางเธอลงบนที่นอน ผมเริ่มไซร้ไปตามซอกคอสลับใบหูแล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าของนัทออกจนหมดสิ้น ร่างงามของนัทปรากฏอยู่ต่อหน้าผม นัทดูอวบขึ้นเล็กน้อยผมจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนซุกหน้าไปที่เต้าคู่งาม ดูดดื่มสลับไปมา
“โอ๊ววว พนขาเบาๆหน่อย”
เธอร้องขึ้นมาเมื่อผมเผลอไปลงเขี้ยวบนเต้านมเธอ แล้วค่อยเลื่อนหน้าลงไปที่โคกหีอันงดงาม แต่ผมยังไม่ลงลิ้นผมเลื่อนไปจูบที่ขาของนัททั้งสองข้างขนถึงข้อเท้าทำเอานัทครางไม่เป็นภาษา
“ซี๊ดดดดดดด พนขา อย่าทรมาณอีกเลย”
ผมเลยเลื่อนมาเลียหีที่ชุ่มช่ำไปด้วยน้ำของนัท เธอแอ่นให้ผมเลียอย่างสุขสันต์สมกับที่ไม่เจอมานานเหลายเดือน จนผมก็ทนไม่ไหว ก่อนที่จะเอาควยจ่อไปที่ปากรูหีนัทบอกมาว่า
“พนขานัทเตรียมถุงยางให้ที่ลิ้นชักโต๊ะหัวเตียง”
ผมจัดการตามที่เธอบอก ก่อนสวมถุงยางและค่อยๆดันควยเข้าไป นัทกอดผมแน่น รองรับการสอดใส่ของผม ช่องทางรักของนัทยังฟิตเหมือนเดิม ผมเริ่มกระเด้าอย่างต่อเนื่องผสมกับที่นัทเด้งรับ เธอครวญครางลั่นกว่าทุกครั้ง ยิ่งพอเธอใกล้จะถึงนัทยิ่งส่งเสียงต่ออากาศข้างนอกจะหนาวขนาดไหนและในห้องพักผมถึงจะเปิดฮีตเตอร์แรงขนาดไหน แต่กายของเราทั้งสองก็ไม่หวั่น จนผมพาเธอไปถึงเป้าหมาย ผมนอนซบเธอสักพักก่อนที่พลิกตัวมานอนข้างๆ ใบหน้าของนัทบ่งบอกถึงความสุข แล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มผม ผมเลยบอกไปว่า
“เตรียมมาหมดเลยหรือ”
“เตรียมมาหมดสิคะ แต่ยังไม่ได้กินยา เลยให้แฟนสวมถุงยางก่อน”
ผมถอดถุงยางทิ้งไปที่ถังขยะแล้วนอนกอดนัทสักพักก่อนที่จะเริ่มซุกไซร้ไปที่เต้าคู่งาม
“อืมมมมมมมมม ยังไม่พอหรือคะพน”
“ก็ไม่ได้ได้กินนัทมาหลายเดือนแล้ว”
ผมตอบพร้อมเริ่มเล็มที่หัวนมของเธอไปมาทั้งสองเต้า จนเห็นว่าปลุกเร้าได้ที่ นัมเริ่มเอามือมาลูบคลำที่ควยของผมจนมันพองขยายไปกับมือของนัท
“อืมมมมม นัทคุกเข่าเหอะ”
เธอส่ายหน้า
“ไม่ละคะนัทขออยู่ข้างบน”
ผมพลิกตัวเธอให้มาอยู่ข้างบน นัทเริ่มใฃ้ปากเล็มเลียที่ควยของผมอย่างเพลินเพลิน ไม่สนใจกับเสียงครางของผม ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายสวมถุงยางให้ และขึ้นคล่อมอย่างชำนาญ และนัทก็โยกตัวไปมา ใบหน้าบูดเบี้ยวส่งเสียงครางไปมา ผมช่วยโดยการเอามือจับที่ก้นเธอทั้งสองข้าง พร้อมสลับกับการเด้งใส่จนเราไปถึงสวรรค์ทั้งคู่ ในวันหยุดผมกับนัทเติมเต็มความรักที่ขาดหายไปนานของเราทั้งสอง แม้กระทั้งเช้าวันไปทำงาน ผมยังขอให้นัทใช้ปากกับผม ซึ่งตอนแรกเธอจะไม่ทำให้แต่ผมก็อ้อนจนสำเร็จ จนถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลผมพาเธอไปเที่ยว เกือบทั่ววอชิงตัน เราถ่ายรูปคู่กันมากมาย จนปลายเดือนมกราคม ซึ่งระหว่างนั้นเรามีเซ็กส์กันแทบทุกวัน เหมือนทดแทนสิ่งที่มันขาดหายไปเกือบ 8เดือน นัทกำหนดวันที่จะกลับเมืองไทยแล้ว แต่การจากกันครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะเราเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมกับที่ผมสัญญาว่าช่วงซัมเมอร์ของที่นี่ ผมจะลากลับไปหาเธอที่เมืองไทย และคืนก่อนที่นัทจะกลับ หลังจากเรามีเซ็กส์กันผมนอนกอดเธอไว้แน่น และผมตัดสินใจกับสิ่งที่ผมคิดมาตลอดตั้งแต่ผ่านปีใหม่มา
“นัท แต่งงานกับพนนะ”
นัทยิ้มอย่างดีใจพร้อมพยักหน้า
“คะพน นัทรอคำนี้มานานตั้งแต่มาถึง นัทจะแต่งงานกับพนคะ”แล้วเราแลกจูบกันยาวนานก่อนที่จะเริ่มบทรักกันอีกครั้ง ครั้งนี้มันต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะในใจของเรามีความมุ่งมั่นถึงเรื่องที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน จนเช้าวันต่อมา เราคุยกันคร่าวๆว่าอาจจะแต่งตอนที่ผมกลับเมืองไทยครั้งนี้ ถ้าไม่ทันก็อาจจะเลื่อนไปต้นปีหน้า เราต้องดูหลายๆอย่างนัทบอกว่าจะกลับไปบอกที่บ้านเอง จะได้ดูเรื่องฤกษ์ยามไว้ด้วยและก่อนจากผมกับนัทฝากความรักให้กันอีกครั้งนึง จนได้เวลาระหว่างทางไปสนามบินนัทบอกว่า
“พนขา นัทว่าเราเปิดเผยเรื่องของเราสักทีนะ”
ผมตอบตกลง เธอก้มหน้าลงไปพิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือ แล้วไม่พูดอะไร จนถึงสนามบิน หลังจากที่ทำเรื่องเรียบร้อยนัทบอกให้ผมดูที่เฟสของเธอ มันเป็นรูปคู่ของเราทั้งสองคนที่ยืนถ่ายรูปกลางหิมะและมีคำบรรยายที่นัทพิมพ์ไว้ว่า
“นี่คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของนัทนอกจากพ่อกับแม่ และเราอาจจะมีข่าวดีของเราทั้งคู่ในเร็วๆนี้ และแฮทแท็ก #happyka“และแท็กมาที่เฟสของผม ซึ่งมีคนกดไลท์และข้อความที่แสดงความยินดีอย่างมาก รวมถึงพายด้วยที่บอกมาว่า
“เปิดเผยซะที รอลุ้นมานานแล้วยินดีกับทั้งสองด้วยค่า”
พอถึงเวลาผมกับเธอกอดกันแน่น ครั้งนี้เรามีแต่รอยยิ้มให้กัน จนนัทเดินเข้าไปภายในบริเวณผู้โดยสารขาออกผมยืนมองนัทจนลับสายตาแล้วตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ โทรหาพ่อของนัท รอสายอยู่สักพักพ่อของนัทก็รับโทรศัพท์
“พ่อหรือครับ ผมพนนะครับ”
“ว่าไงละ สบายดีนะ”
“ครับ พ่อผมมาส่งนัทที่สนามบินแล้วนะครับ”
“อ้าวเหรอ ดีๆๆ เครื่องคงไม่ดีเลย์นะ พ่อจะได้ไปรับตามเวลา”
“ครับพ่อ เอ่อพ่อครับ ผมจะแต่งงานกับนัทนะครับ”
“อืมมมมมมม “
พ่อของนัทนิ่งไปครู่หนึ่ง
“คุยกับนัทแล้วใช่ไหม แล้วจะแต่งเมื่อไหร่ละ”
“ไม่กลางปีนี้ก็ต้นปีหน้านะครับ”
แล้วผมก็ได้ยินเสียงดังๆว่า “แม่เดี๋ยวรีบไปหาฤกษ์ให้ลูกเลยนะ พนมันขอนัทแต่งงานแล้ว”