Choice ตอนที่ 10 – วิบากกรรม...........................................
Assasin008 2016-08-26 วันนี้ผมรู้สึกเหมือนฝันไป ใครจะนึกว่าผู้ชายธรรมดาแบบผมจะกำลังขับรถพาโบกี้นางฟ้าแสนสวยไปเที่ยวต่างจังหวัด ถึงจะไม่ใช่ในฐานะแฟนแบบเป็นทางการแต่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน ตอนนี้โบกี้กำลังนั่งอยู่ข้างผม แถมที่ด้านหลังยังมีแป้งสาวสวยอันดับสองของคณะนั่งอยู่ด้วยอีกคน และที่สำคัญผมกับแป้งก็เพิ่งจะตกลงกันว่าจะแอบเป็นกิ๊กกันแบบเงียบ ๆ ไม่ให้ใครรู้
แค่ได้คบกับโบกี้ ผู้ชายทุกคนคงจะอิจฉาผมจะแย่แล้ว แต่นี่ถ้ารู้ว่าผมได้ฟาดแป้งไปด้วยอีกคน สงสัยพวกมันจะอกแตกกันแน่ถ้าได้รู้ว่าผมจัดการสาวสวยอันดับหนึ่งและสองไปแล้ว
“พ่อแม่หนุ่มทำอาชีพอะไรน่ะ ท่าทางจะรวยนะ เพิ่งรู้ว่าหนุ่มขับรถหรูแบบนี้ หนุ่มบ้านรวยหรือเปล่า”
แป้งซึ่งเป็นคนคุยเก่งส่งเสียงพลางโน้มตัวมาตรงพื้นที่ตรงกลางระหว่างผมกับโบกี้ ผมมองแป้งผ่านทางกระจกมองหลังแล้วใจเต้นเล็กน้อย เพราะว่าเธอโน้มตัวจนคอเสื้อที่ค่อนข้างเว้าลึกเปิดออกให้เห็นยกทรง ซึ่งผมคิดว่าแป้งน่าจะเจตนาให้ผมเห็นแบบเนียน ๆ และยังดีทีโบกี้เหมือนจะไม่ทันสังเกตเห็นเรื่องนี่เข้า
วันนี้แป้งใส่เสื้อยืดรัดรูปคอเว้าสีขาวจนเกือบเห็นร่องนม ชายเสื้อด้านล่างลอยขึ้นมาสักหน่อยจนเห็นสะดือ ส่วนด้านล่างของเธอเป็นกระโปรงสั้นสีดำจนเห็นขาขาว ๆ ตามแฟชั่นวัยรุ่น ถึงจะเรียกว่าแต่งตัวยั่วไม่ได้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียง ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วไม่แอบมองคงต้องผิดปกติแน่ ขนาดผมเห็นตอนแรกยังรู้สึกอยากจับเธอเธอถลกกระโปรงเลยด้วยซ้ำ
ส่วนโบกี้ที่นั่งอยู่ข้างผมก็แต่งตัวอวดความสวยได้ไม่แพ้กัน โดยรวมแล้วแป้งจะเปิดเผยเนื้อตัวมากกว่าสักหน่อย แต่โบกี้จะสวยน่ารักกว่าแป้ง คะแนนทั้งคู่เลยดูใกล้กัน
วันนี้โบกี้ใส่เสื้อยืดสีฟ้าที่ปิดมิดชิดกว่าเสื้อของแป้งสักหน่อย ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีดำจนเห็นท่อนขาขาวบาดใจได้เต็มตา ผมเลยรู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีสมาธิขับรถสักเท่าไหร่ เพราะต้องคอยแอบมองขาขาว ๆ ของโบกี้ กับนมของแป้งเป็นระยะ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“พ่อกับแม่เป็นนักวิจัยน่ะ ไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรอก เดินทางไปต่างประเทศกันบ่อย ๆ ไปทีก็ไปหลายเดือน”
ผมตอบแบบพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องฐานะทางการเงิน ผมไม่ค่อยอยากจะโม้เท่าไหร่ว่าที่บ้านผมถือว่ารวยมากทีเดียว เพียงแต่จะไม่ค่อยมีฐานะทางสังคมมีหน้ามีตาสักเท่าไหร่ ไม่งั้นพ่อคงไม่มีปัญญาให้รถคันหรูมาให้ผมใช้ตอนเรียน
“ท่าทางพ่อแม่จะเก่งนะ มิน่าล่ะหนุ่มเลยฉลาด แบบนี้ถ้าได้แต่งเข้าบ้านคงได้เที่ยวต่างประเทศบ่อย ๆ โบเองก็อยากเที่ยวนี่นา เข้าทางเลย รีบให้หนุ่มขอแต่งงานได้แล้ว”
แป้งยิ้มให้ผมแล้วหันไปพูดหยอกโบกี้ที่แสดงท่าทางสนใจคำตอบของผมพอสมควร โบกี้ซึ่งพูดน้อยกว่าแป้งสักหน่อยหันมามองค้อนแป้งแต่ไม่ได้ว่าอะไรมาก วันนี้แป้งทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่ามีจังหวะเมื่อไหร่แป้งจะเชียร์ผมจนออกนอกหน้าเลยทีเดียว
“ถ้าชอบขนาดนั้นแป้งก็แต่งงานกับหนุ่มเลยซิ”
“พูดจริงป่าว ถ้าแกไม่เอา ชั้นขอนะ หนุ่มน่ารักดี รวยด้วย ชอบอ่ะ แบบนี้แหละเสปคเลย”
“ตามใจแกซิ”
โบกี้พูดหยอกใส่แป้งแบบขำ ๆ แป้งเองก็รับมุกหยอกกันไปหยอกกันมา ตั้งแต่นั่งรถมาจากกรุงเทพ แป้งและโบกี้แสดงให้ผมเห็นถึงความสนิทสนมกลมเกลียว พวกเธอพูดคุยหยอกล้อหัวเราะยิ้มให้เกือบตลอดเวลา โดยที่ส่วนใหญ่แล้วแป้งจะเป็นคนหยอดและโบกี้เป็นคนรับ
อ๊ะ ลืมเล่าให้ฟังเลย ก่อนหน้าที่ผมจะไปรับโบกี้มาเที่ยว ผมตกลงว่าจะให้แป้งไปด้วย แป้งเลยส่งข้อความไปบอกโบกี้ว่าจะขอไปด้วย แต่ผมกับแป้งไม่ได้ไปพร้อมกันหรอกนะ เพราะว่าจะน่าสงสัยเกินไป และแป้งเองก็ยังไม่ได้จัดเตรียมสัมภาระด้วย
พอแป้งส่งข้อความบอกโบกี้ ผมก็ลงไปที่รถจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับออกไปรับโบกี้ที่คอนโดของเธอ เมื่อผมไปถึงแบบทันเวลานัดฉิวเฉียด โบกี้ก็บอกว่าจะมีเพื่อนอีกคนไปด้วย รบกวนให้ผมวนไปรับหน่อย แน่นอนว่าเพื่อนคนนั้นย่อมเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแป้ง
ผมทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว รับโบกี้ แล้วขับวนกลับไปที่หอพักของแป้ง พอเจอหน้าแป้งเธอก็แสดงท่าทีแนบเนียนเหมือนเมื่อคืนเราไม่ได้เจอกัน แป้งพูดขอโทษผมที่แอบทดสอบลองใจก่อนหน้านี้ โบกี้เองก็ช่วยขอโทษผมด้วย โบกี้ไม่รู้สักนิดว่าผมกับแป้งน่ะมีอะไรกันไปถึงไหนแล้ว และแน่นอนว่าผมแค่แสดงท่าทีเหมือนงง ๆ เพื่อความแนบเนียน
พอเคลียร์เรื่องนี้จบ พวกเราก็นั่งรถออกจากกรุงเทพกันสามคน ผมขับไปตามทางหลวงหมายเลขหนึ่ง ผ่านรังสิตแวะจอดที่ปั๊มน้ำมันให้สองสาวแวะเข้าห้องน้ำกับซื้อขนมของขบเคี้ยวครู่หนึ่ง แล้วผมก็ขับรถผ่านอยุธยา ไปจนถึงสระบุรี ตลอดเส้นทางผมไม่เหงาเลย เพราะมีนางฟ้าแสนสวยสองคนคอยคุยด้วย
แป้งเป็นคนคุยเก่งอยู่แล้วตามธรรมชาติ โบกี้อาจจะไม่ถึงขั้นคุยเก่งแต่ก็ถือว่าชอบคุยพอสมควร ถึงผมจะคุยไม่ค่อยเก่งโดยเฉพาะกับสาว ๆ แต่ว่าแป้งก็คอยชักจูงให้พวกเราสามคนพูดคุยหัวเราะกันได้เหมือนสนิทสนมกันมานาน
แน่ล่ะว่าเรื่องนี้ต้องขอบคุณในความหัวไวของผมด้วย ก่อนหน้านี้ตอนที่สองสาวตกอยู่ในความควบคุมของผม ผมได้ถามอะไรพวกเธอไปหลายอย่าง ทำให้ผมรู้ว่าพวกเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร พอรู้ว่าพวกเธอสนใจเรื่องไหน มีแนวคิดยังไง การคุยกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก โบกี้กับแป้งแอบแสดงท่าทีแปลกใจด้วยซ้ำที่ผมเหมือนจะรู้ใจพวกเธอสองคน
ก่อนเข้าน้ำตก ผมพาพวกเธอแวะที่ฟาร์มปศุสัตว์ระหว่างทาง เพราะผมจำได้ว่าโบกี้บอกว่าชอบ จากนั้นผมก็แวะที่ฟาร์มองุ่นให้แป้งซื้อไวน์ที่เธอชอบ แล้วค่อยตรงดิ่งไปทางน้ำตก เรียกได้ว่างานนี้ผมได้คะแนนจากสองสาวมาไม่น้อยที่พาพวกเธอเที่ยวเหมือนรู้ใจ
เรื่องที่พวกเราต้องลุ้นกันสักหน่อยก็คือระหว่างทางไปน้ำตกนั้นมีฝนตกห่าใหญ่เหมือนพายุเข้า ผมถึงกับต้องชะลอรถแล้วขับหลบเข้าข้างทางช่วงหนึ่ง รอจนฝนซาลงผมจึงค่อยขับรถตรงไปทางน้ำตก แต่ตอนนี้พวกเราคุยกันแล้วว่าถ้าฝนตกจริง ๆ ก็คงต้องเปลี่ยนไปที่อื่น
โชคยังดีที่ฝนหยุดตกทันเวลา โบกี้ถึงกับยิ้มกริ่มดีใจ พอถึงน้ำตกผมก็ช่วยจนของที่โบกี้เตรียมเอาไว้ เธอจัดเตรียมอาหารน้ำดื่มและอุปกรณ์ทั่วไปเอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรก เรียกได้ว่ามาคราวนี้ไม่ต้องแวะซื้อของกินที่น้ำตกเลยก็ยังได้ ส่วนแป้งเองก็ไม่ลืมที่จะหิ้วเอาไวน์ที่เพิ่งซื้อจากไร่องุ่นขึ้นไปด้วยหนึ่งขวด
อาจเป็นเพราะฝนตกอากาศไม่ค่อยดีก่อนหน้านี้ น้ำตกจึงไม่ค่อยมีคนนัก เรียกได้ว่าค่อนข้างโล่งเลยล่ะ และตอนนี้สองสาวโบกี้และแป้งกำลังเป็นจุดเด่นที่ทำให้หนุ่ม ๆ แถวนี้มองตามกันตาเป็นมัน เพราะนอกจากพวกเธอจะสวยน่ารักมากแล้ว พวกเธอยังใส่เสื้อผ้าค่อนข้างสั้นเพื่อเตรียมเล่นน้ำตกด้วย
ผมเดินยิ้มกริ่มยืดอกรู้สึกดีพิลึก เพราะว่าสองสาวสุดสวยที่กำลังโดนมองตาเป็นมันล้วนแล้วแต่โดนผมจัดการไปแล้ว แป้งตกลงเป็นกิ๊กกับผม ส่วนโบกี้ถึงจะยังไม่ได้คบเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แต่ดูท่าทีแล้วคงห่างจากคำว่าแฟนไม่ไกลเท่าไหร่นัก
เราสามคนเดินปีนป่ายไปตามขั้นของน้ำตกจนเจอที่เหมาะ ๆ ในการเล่นน้ำ ตรงส่วนนี้เป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กที่ไม่มีใครมารบกวน โบกี้ก็จัดการปูเสื่อวางข้าวของ ส่วนแป้งนั้นเดินสำรวจไปมาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเซลฟี่รูปตัวเองเสียยกใหญ่ ผมเลยไปช่วยโบกี้จัดการข้าวของเสียก่อน สาวสวยสองคนนี้นับว่านิสัยไม่ค่อยเหมือนกัน แต่ก็สนิทสนมกันได้อย่างน่าประหลาด
แป้งจะออกแนวสาวเปรี้ยวสมัยใหม่ไม่ค่อยสนรายละเอียด ในขณะที่โบกี้เองนั้นถึงจะดูเป็นสาวเปรี้ยว แต่ในความเปรี้ยวก็มีความหวานละเอียดอ่อนมีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด และวันนี้ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชิมอาหารที่โบกี้ทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
หลังจากนั่งพักผ่อนและดื่มกินอะไรเล็กน้อยเติมพลัง เราสามคนก็ลงไปเล่นน้ำกัน โบกี้และแป้งดื่มไวน์ไปไม่น้อยเลยแสดงอาการมึนออกมา น้ำในวันนี้ค่อนข้างเย็นและใสจนเห็นตัวปลา แต่ว่าอารมณ์ของผมในตอนนี้ไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ เพราะว่าได้เล่นน้ำแบบใกล้ชิดกับสองสาวสวย
พอเสื้อพวกเธอเปียกน้ำมันก็ราบลู่ไปตามเนื้อตัวจนเห็นสัดส่วนโค้งเว้า โบกี้นั้นยังไม่เท่าไหร่เพราะเธอใส่เสื้อสีฟ้า แต่แป้งนี่ซิ เธอเล่นใส่เสื้อสีขาวเนื้อบางเฉียบ พอเสื้อเปียกผมก็เลยเห็นทรวดทรงกับยกทรงสีดำของเธอได้แบบเต็มตา
คนที่ลำบากใจที่สุดในเวลานี้ก็คือผม เพราะว่าผมจะมองแป้งมากไปก็ไม่ได้ ไม่งั้นโบกี้จะเคืองเอา แต่ยังดีที่วันนี้แป้งไม่ได้ยั่วอะไรผมมาก แถมยังเจตนาทิ้งระยะห่างให้ผมได้คุยสนิทสนมกับโบกี้เกือบตลอดเวลา ผมเลยโล่งใจลงไปเล็กน้อย
โบกี้ดูจะชอบน้ำตกมากอย่างที่เธอเคยบอกผม ใบหน้าสวยของเธอมีรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความสุขตลอดเวลา ผมเหม่อมองเธอยิ้มและหัวเราะเหมือนกับโดนสะกด สำหรับผมแล้วโบกี้เปรียบเหมือนนางฟ้าแสนสวยที่กำลังเล่นน้ำตกอย่างสนุกสนาน
“หนุ่มมองอะไร มองตั้งนานแล้ว ไม่เบื่อบ้างเหรอ”
โบกี้ถามผมด้วยท่าทีเขิน ๆ แล้วจ้องตาผม ผมค่อยรู้สึกตัวว่าผมคงเผลอมองหน้าโบกี้มากเกินไป ยิ่งได้เห็นเธอทำหน้าเขินตอนโดนผมมองหัวใจผมก็ยิ่งกระตุกเต้นแรง ตอนนี้แป้งปลีกตัวไปนอนเล่นบนก้อนหินห่างออกไปสักหน่อย ผมรู้สึกว่าสถานการณ์เป็นใจให้ผมพูดอะไรบางอย่าง
“ไม่เบื่อหรอก โบกี้สวยจัง เหมือนนางฟ้าเลย”
ผมพูดความในใจออกมาจนโบกี้ยิ่งเขินหนักกว่าเดิม ใบหน้าของเธอกำลังแดงระเรื่อ และเธอกำลังมองผมด้วยสายตาเร่าร้อนแปลก ๆ ผมเลยอดไม่ได้ต้องคว้าร่างของเธอมากอดเอาไว้
“ขอบใจนะที่พามาเที่ยวน้ำตก ปกติเรามาเคยมาแต่กับเพื่อนผู้หญิง หนุ่มเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่พาเรามาเที่ยวแบบนี้”
โบกี้ไม่ได้ขัดขืนอะไร เธอปล่อยให้ผมกอดแล้วมองผมเหมือนจะสื่อความหมายอันลึกซึ้งบางอย่าง ผมเห็นเธอสวยน่ารักขนาดนี้ก็รู้สึกอยากกอดฟัดจูบเธอให้หนำใจ แต่ผมยังจำที่แป้งบอกได้ว่าอย่าแสดงท่าทีหื่นจนออกนอกหน้ามากเกินไป ผมเลยแค่กอดเธอเอาไว้แล้วจูบที่หน้าผากเบา ๆ ทำแบบที่โบกี้เคยบอกผมว่าเธอชอบ เพราะมันโรแมนติกดี
พอจูบหน้าผากเธอ ผมก็กลั้นใจปล่อยโบกี้ออกแล้วยิ้มให้ เธอทำหน้างงเล็กน้อยเหมือนไม่เชื่อว่าผมจะฉวยโอกาสแค่นี้ แต่หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มแล้วถอยห่างใช้มือกวักน้ำเย็นสดชื่นใส่ผมแล้วส่งเสียงหัวเราะร่วน ผมเลยจัดการกวักน้ำใส่เธอกลับแล้วเล่นไล่จับกันแบบไม่ได้นัดหมาย
ผมเป็นฝ่ายไล่กอดโบกี้ เธอส่งเสียงร้องวี้ดว้ายเป็นระยะแต่ว่าไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านห้ามปรามอะไร ผมเลยกอดฟัดเธอแล้วปล่อยให้เธอหนีด้วยความสนุกสนาน ยังดีที่เมื่อคืนผมได้ระบายความเงี่ยนใส่แป้งไปจนหมดแล้ว วันนี้ผมเลยสามารถยั้งใจได้อยู่บ้าง
แต่พอเรากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันหลายครั้งเข้า เนื้อตัวนุ่มนิ่มเต่งตึงของโบกี้ก็เริ่มทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมา ส่วนโบกี้เองก็เริ่มหน้าแดงตาเยิ้มเหมือนมีอารมณ์ร่วมไปด้วย มีจังหวะหนึ่งที่โบกี้เหลือบตามองไปทางแป้งแล้วก็เดินหลบไปด้านหลังหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ท่าทางของเธอเหมือนเจตนาหลบสายตาของแป้ง และด้านหลังก้อนหินนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นมุมอับสายตาที่ไม่มีใครเห็น ยกเว้นก็แต่ว่าจะเดินมาทางเดียวกับที่พวกเราเข้ามา
ผมรีบตามเธอเข้าไปทันที และคราวนี้ผมก็กอดเธอแน่นกว่าเดิม ผมกอดเธอจากด้านหลัง สองมือรัดที่หน้าท้องเจตนาให้แตะโดนฐานเต้านมเนื้อนิ่มเธอเล็กน้อย แผ่นหลังของเธอแนบกับลำตัวของผม และดุ้นเอ็นที่เริ่มผงกหัวตื่นฟื้นพลังก็กำลังดุนอยู่ตรงสะโพกเนื้อนิ่มของโบกี้ ถึงมันจะยังไม่แข็งแรงเหมือนปกติเพราะใช้แรงไปเยอะ แต่อารมณ์ตอนนี้ก็ยังพอทำให้มันแข็งพองตัวพร้อมใช้งานได้บ้าง
โบกี้เองก็ตอบสนองด้วยท่าทีต่างไปจากเดิม ก่อนหน้านี้พอผมกอดได้สักระยะเธอก็จะเริ่มออกแรงดิ้นหนี แต่คราวนี้เธอกลับยืนนิ่งพิงตัวกับผมด้วยท่าทางเหมือนหมดเรี่ยวแรง แถมเธอยังหายใจหนัก ๆ จนนมเต้าไซส์ใหญ่เด้งกระเพื่อมยั่วสายตาผมด้วย
“หนุ่ม ... หนุ่มชอบเราจริงเหรอ”
เธอขยับเอียงหน้ามามองผมแล้วส่งเสียงถามพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวออกมา ตอนนี้หน้าของเธอดูมีเสน่ห์จนผมรู้สึกเหมือนสติจะหลุดลอย และแน่นอนว่าผมต้องตอบว่าชอบ
“เราชอบโบกี้ เราแอบมองโบกี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนแล้วนะ”
ผมพูดความในใจออกไป ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงไม่กล้าพูด แต่หลังจากที่ผมได้มีอะไรกับโบกี้และแป้ง รวมถึงได้สนทนาสอบถามอะไรหลายอย่างจากพวกเธอ มุมมองความคิดของผมก็เปลี่ยนไป ผมกล้าพูดประโยคพวกนี้ออกมาโดยไม่รู้สึกกระบิดกระบวนเลยสักนิด
“เราไม่เห็นรู้เลยว่าหนุ่มแอบมองเรา”
“ไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก ก็ผู้ชายทุกคนเขาแอบมองโบกี้กันทั้งนั้นแหละ โบกี้สวยน่ารัก แต่เราก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนนึง โบกี้ไม่สนใจมองก็ไม่แปลก”
“... แต่ตอนนี้เรามองหนุ่มแล้วนะ ... มองอยู่คนเดียวด้วย”
โบกี้คล้ายจะเข้าใจอารมณ์ตัดพ้อในคำพูดของผม เธอเลยแอ่นสะโพกเบียดใส่ดุ้นเอ็นของผมพร้อมกับจับกระชับข้อมือของผมเอาไว้ ท่าทางยั่วยวนและคำพูดเปิดใจของเธอทำให้อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านขึ้นมา
ผมแอ่นสะโพกเบียดดุ้นเอ็นเข้าหาสะโพกของโบกี้ จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปประกบจูบปาก โบกี้เผยอปากรับปล่อยให้จูบปากแลกลิ้นกับเธอด้วยอารมณ์ร้อนรักวาบหวาม ผมจูบเธอพร้อมกับขยับเลื่อนฝ่ามือจากหน้าท้องขึ้นไปขยำเต้านมอวบของโบกี้ด้วยความหื่น
เสียงน้ำไหลและเสียงนกร้องทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ท่าทางตอบสนองของโบกี้นั้นเร่าร้อนเปี่ยมอารมณ์รัก บรรยากาศทุกอย่างเหมือนจะเป็นใจเปิดทางให้ผมได้จัดการโบกี้ตรงนี้ ผมเลยค่อย ๆ เดินหน้าเล้าโลมโบกี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
พอจูบปากจนหนำใจ ผมก็ก้มหน้าซุกลงไปจูบไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องของเธอ ผมเลียหยดน้ำที่เกาะบนลำคอแล้วไล่ไปที่ใบหู โบกี้แอ่นคอเอียงไปมาเพื่อเปิดทางให้ผมทำตามใจ เธอไม่ขัดขืนสักนิดตอนที่ผมล้วงมือลอดเข้าในเสื้อยืดแล้วบีบขยำนมเต้าของเธอ อีกทั้งยังส่ายสะโพกบดเบียดใส่เป้ากางเกงของผมไปด้วยอีกทาง
“อือ ... อืม ... อือ ... หนุ่ม ... อือ ...”
เสียงครางและการตอบสนองของโบกี้ทำให้ผมพลุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมเริ่มจัดการปลดตะขอยกทรงของเธอออกแล้วตะปบมือบีบเคล้นขยำขยี้ใส่เนื้อเต้าขาวเต่งแบบเนื้อแนบเนื้อ นมของเธอใหญ่และเต่งตึงน่าฟัดกว่าของแป้งเสียอีก
ผมดูดเลียที่ซอกคอของเธอพร้อมกับใช้นิ้วบีบบี้ใส่หัวนมของโบกี้ขนมันแข็งเป็นเม็ด เธอตัวอ่อนระทดระทวยพิงผมพร้อมกับส่งเสียงหายใจหอบกระเส่าครวญครางน่ารัก ผมจูบปากเธออีกครั้งแล้วเร่งบีบเคล้นสองเต้าของเธอหนักหน่วงเมามันกว่าเดิม เราแลกลิ้นกันพัลวัน
พอผมเริ่มหนำใจก็ล้วงมือลอดขอบกางเกงลงไปลูบตรงโหนกเนื้อของโบกี้ เธอสะดุ้งโหยงส่งเสียงร้องอ๊ะออกมาพร้อมกับเลื่อนมือลงไปจับข้อมือของผมเอาไว้ เธอทำท่าทีเหมือนลังเลว่าสมควรจะหยุดผมหรือเปล่า แต่สุดท้ายเธอก็แค่จับข้อมือของผมเอาไว้ไม่ได้ออกแรงขัดขวาง ผมเลยค่อย ๆ ลูบ ค่อย ๆ คลำสำรวจความโหนกนูนของเธอโดยที่มีกางเกงในซึ่งเปียกชุ่มด้วยน้ำเย็นสดชื่นของน้ำตกขวางอยู่หนึ่งชั้น
“หนุ่ม ... เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า ... อือ ... อืม ...”
โบกี้ร้องห้ามแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ ผมเลยไม่ได้สนใจเสียงห้ามของเธอเท่าไหร่ ผมเริ่มดึงกางเกงของเธอจนหลุดลงไปนิดหน่อย แล้วล้วงมือเข้าไปขยำขยี้โคกสวาทของโบกี้แบบเนื้อแนบเนื้อ เธอถึงกับกระตุกเฮือกตัวสั่นเกร็งหอบหายใจฟืดฟาด ผมจูบปากเธออีกครั้งแล้วแหย่นิ้วลากเข้าลากออกช้า ๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์เสียวให้แบบสุดฝีมือ
โบกี้กับผมจูบปากดูดลิ้นกันอย่างเร้าร้อน ผมขยำนมเธอพลางแยงหอยให้เธอพลาง สักพักโบกี้ก็เริ่มดิ้นพราดตัวกระตุกเสร็จคามือผมไปก่อนหนึ่งรอบ
ผมฉวยจังหวะที่โบกี้กำลังเคลิ้มจัดการถอดเสื้อยืดกับยกทรงของเธอออกจนเปลือยเปล่า เสื้อกับยกทรงโดนโยนไปพาดบนก้อนหินด้านข้าง ส่วนโบกี้โดนผมจับหมุนตัวหันหน้าเข้าหาแล้วผลักเธอไปจนหลังพิงกับก้อนหิน
เต้านมกลมดิกของโบกี้โดนผมซุกหน้าอ้าปากงับดูดเลียอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว โบกี้แสดงท่าทีตกใจเล็กน้อยที่โดนถอดเสื้อออกแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านขัดขืน เธอยืนแอ่นอกแอ่นนมปล่อยให้ผมซุกหน้าดูดนมเธอ ส่วนมือขวาของผมก็ล้วงลงไปเกี่ยวกางเกงของเธอลงไปแล้วงอนิ้วเกี่ยวลากเข้าลากออกเพื่อกระตุ้นด้านล่างไปพร้อมกัน
โบกี้สุดปากครางร้องซี้ดซ้าดไม่ขาดปาก ตอนนี้ผมเองเริ่มมีจะมีประสบการณ์มาไม่น้อย โดยเฉพาะประสบการณ์กับโบกี้และแป้งที่ผมทำให้พวกเธอบอกว่าชอบอยากให้ผมทำอะไรบ้าง ไม่ว่าพวกเธอชอบอะไร อยากโดนสัมผัสตรงไหน ผมก็งัดมาจัดการให้โบกี้ในตอนนี้จนหมด
นิ้วของผมเขี่ยวขยี้ใส่ติ่งเสียวของโบกี้แผ่วเบาอย่างที่เธอชอบ โบกี้เลยหลับตาพริ้มส่งเสียงครางออกมาไม่ขาดปาก สะโพกของเธอเด้งส่ายไปมาตามจังหวะนิ้วของผม และผมรู้สึกว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาอันควรที่จะจัดการปิดเกมแล้ว ฉากจัดกันกลางน้ำตกนี่มันหนึ่งในฉากที่ผมเคยฝันถึงมาเนิ่นนานด้วย
ผมอ้าปากออกจากเต้านม แล้วขยับขึ้นไปจูบแลกลิ้นกับโบกี้อีกครั้ง คราวนี้ผมจัดการดึงกางเกงของตัวเองลงไปแล้วจับขาข้างหนึ่งของเธอมาพาดบนเอวผมไว้ เธอเองก็ดูเหมือนจะรู้ว่ากำลังจะโดนผมทำอะไร เธอจึงกอดผมแน่นกว่าเดิม สวรรค์รัญจวนแสนหฤหรรษ์กำลังรอคอยเราสองคนอยู่เบื้องหน้า แต่ว่าพอผมเอื้อมมือไปจับดุ้นเอ็นของตัวเองผมก็ต้องหยุดชะงักวูบ เหมือนโดนสาดน้ำเย็นเข้าใส่
อารมณ์หื่นที่ใกล้ระเบิดของผมเหมือนหยุดไปดื้อ ๆ เหมือนโดนสวรรค์ลงโทษ เพราะว่าดุ้นเอ็นในกำมือของผมนั้นมันดูอ่อนแอไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงอย่างที่ควรเป็น ทั้งที่ผมรู้สึกหื่นถึงขนาดนี้ แต่ว่ามันกลับมีขนาดไม่เหมือนปกติ มันไม่ถึงขั้นอ่อนปวกเปียก แต่ก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนที่ผมภูมิใจ
มันพองตัวขึ้นมาได้ราวหกในสิบส่วนของความยาวสูงสุดตามปกติ และสาเหตุก็คงจะมาจากการที่ผมใช้พลังหักโหมกับแป้งไปหลายครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา อีกทั้งผมยังนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ และตอนนี้อากาศในน้ำก็ค่อนข้างหนาวด้วย
โบกี้มองผมหน้าแดงก่ำเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงชะงักไป ส่วนผมเองก็มองหน้าเธอกลับแต่พูดอะไรไม่ออก เพราะนี่มันคือสุดยอดแห่งเรื่องน่าอายของผู้ชายจนอยากมุดหัวหนีลงไปใต้ดิน ทั้งที่ผมอยู่ต่อหน้าสาวสวยระดับนางฟ้า แต่ว่าของผมกลับป้อแป้ไม่มีแรงฟาดฟัน แบบนี้มันเหมือนโดนสวรรค์ลงโทษเรื่องที่ผมไม่เจียมตัวโหมหนักกับแป้งเลย
ผมมองโบกี้ด้วยความรู้สึกอับอาย แต่ไม่กล้าพูดบอกเธอ สมองของผมวิ่งเร็วจี๋เพื่อหาทางแก้ไข ดุ้นของผมคงจะยังไม่พร้อมใช้งานตอนนี้ มันต้องการเวลาพักผ่อนฟื้นฟูสักหน่อย แต่ปัญหาก็คือผมจะทำยังไงกับโบกี้ที่กำลังอารมณ์ร้อนจนใกล้ระเบิด เธออุตส่าห์เปิดโอกาสดี ๆ ให้ผมได้มีอะไรกับเธอกลางน้ำตกแบบสุดโรแมนติก แต่ว่าผมกลับทำมันพังพินาศยับเยินด้วยมือตัวเอง ถ้าเมื่อคืนผมออมแรงไว้สักหน่อย ตอนนี้ผมคงไม่ต้องกระอักกระอ่วนอับอายถึงขนาดนี้
ตอนนี้ผมรู้สึกเบลอ ๆ นึกอะไรไม่ค่อยออก ผมไม่แน่ใจว่าผมควรจะแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดีเพื่อไม่ให้อับอายขายขี้หน้าและไม่ทำให้โบกี้ไม่พอใจ
ทางแรกที่นึกได้ก็คือผมสารภาพกับเธอตรง ๆ ไปเลยว่าอากาศมันหนาวของผมก็เลยหด และผมก็ใช้มือหรือใช้ลิ้นช่วยให้เธอเสร็จจะได้ไม่ค้างคา หรืออีกทางก็คือผมต้องหาเรื่องบ่ายเบี่ยงแก้ไข เช่นถ้าผมแกล้งทำเป็นว่าได้ยินเสียงคนกำลังเดินมา แล้วก็รีบบอกให้โบกี้ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แบบนี้เธอก็จะไม่รู้เรื่องน่าอายของผม แต่ก็จะน่าสงสารหน่อยเพราะโบกี้คงจะอารมณ์ค้างคาพอควร
ผมจะเลือกทางไหนดีล่ะ ทางแรกคือสารภาพไปตรง ๆ ทางที่สองคือหาทางเลี่ยงเนียน ๆ