(แว่น คัดเอามาจากสำนวนต้นฉบับเลยจึงมีข้อความท่านครบถ้วนสมบูรณ์ เรื่องนี้ลงบอร์ดบ้านเมื่อ พฤศจิกายน 30,2011,12:41:26 AM)................................................
ตอน ความลับของอึ้งย้ง ส่วนอึ้งย้งเดินไปที่เสากลางห้องโถง เอามือกดเข้าไปในเสา ปรากฎพื้นห้องแยกออกกลายเป็นบันไดศิลาลงไปยังเบื้องล่าง บนเพดานทางเดินประดับด้วยมุกราตรีส่องสว่างดุจโคมไฟ นางเดินเลี้ยวไปอีกสองทอดถึงห้องกว้างห้องหนึ่ง เอาหินขัดไฟขึ้นจุดพลางวาดท่าร่างกรีดดรรชนีดีดประกายไฟที่จุดติดพุ่งเข้าหาโคมเทียนที่อยู่รอบห้องสว่างไสวขึ้นมาทันที อึ้งย้งดีดดรรชนีต่อที่เปลวเทียนที่พึ่งสว่างขึ้นต่อไปยังเทียนไขที่เหลืออีกสองสามครั้ง เทียนไขกว่าร้อยเล่มก็ส่วางขึ้นดุจกลางวัน
นางแย้มยิ้มอย่างพอใจที่สามารถใช้
นิ้วสุริยันของท่านอิดเต็งไต้ซือได้อย่างสัมฤทธิ์ผล ภายในห้องลับใต้ดิน อากาศกลับถ่ายเทสดวกทั้งที่อยู่ใต้พื้น ฟากหนึ่งของห้องมีชั้นหนังสือมากมาย ส่วนอีกด้านมีเครื่องดนตรีแขวนอยู่ ห้องลับแห่งนี้จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่ท่านเจ้าเกาะดอกท้ออึ้งเอี๊ยะซือภูมิใจยิ่งนัก อีกด้านหนึ่งของห้องกลับมีเตียงนอนกว้างพร้อมเครื่องนอนสะอาดตา อึ้งเอี้ยะซือมักใช้ห้องนี้เป็นสถานที่คิดค้นวิชาฝีมือใหม่ๆขึ้นมาเสมอ จึงกินนอนในห้องนี้เสร็จ
อึ้งย้งค่อยเสื้อผ้าตัวเองออกทีละชิ้น จนกระทั่งเอี้ยมตัวสุดท้ายได้หลุดออกจากกาย ยามนี้ร่างของนางเปลือยเปล่าขาวหมดจด แม้ทรวงอกจะหย่อนคล้อยไปบ้างแต่ยังกระชับเต่งตึงดูอวบอูมสมบูรณ์ยิ่งกว่ายามแรกรุ่นเสียอีก เอวคอดรับกับสะโพกที่ผายใหญ่ หน้าท้องแม้จะมีไขมันเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ดูงดงามรับกับเนื้อนูนโหนกตรงหว่าง ที่มีเส้นหมอยดกดำราวกำมะหยี่ ขึ้นบนโคก แต่ก็ไม่ได้บดบังรูสวาทยาวรีแต่อย่างใด อึ้งย้งยืนสำรวจตัวเองตรงแผ่นกระจกอย่างพอใจ ก่อนก้าวขึ้นนอนบนเตียง
นางคำนึงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ภาพยอดยุทธพิศวาสปรากฏขึ้นในมโนภาพ ถ้อยคำหยาบคายที่องค์ชายเจอรูดัลพูดจาบจ้วงอยากร่วมรักกับนาง อึ้งย้งเอามือนึงลูบคลำหน้าอกบีบคลึงไปมา ส่วนอีกมือเริ่มลูบต่ำขยี้แถวหว่างขา พลันในใจกลับคิดถึงตอนที่เจ้าสองลูกศิษย์ที่เกือยรุมเย็ดนางในถ้ำ ภาพท่อนควยของ มันล่องลอยมาให้เห็น อึ้งย้งยิ่งเร่งมือขยี้เนินถี่ขึ้นบิดตัวไปมาอย่างเสียวกระสันต์
โอ้...นี่อึ้งย้งนางถึงเกิดกำหนัดลอบเข้ามาสำเร็จความใคร่ในห้องลับแห่งนี้กระนั้นหรือ..................................................................
อีกด้านหนึ่งปรากฏร่างองค์ชายเจอรูดัล ยืนอยู่ใต้คบไฟ ตอนนี้ตลอดร่างของมันกลับเปลือยเปล่า แผงอกมีขนขึ้นรกรุงรัง องคชาติแข็งเป็นลำยาวราวๆ สี่เชี้ยะเศษ (
เก้านิ้ว) แถมมีขนหมอยหยาบหนาขึ้นดกดำ มิหนำซ้ำขนหมอยยังดกขึ้นมารกถึงกลางลำควยยุบยับไปหมด อวดหัวบานทะโร่ด้วยอัดน้ำเงี่ยนอยู่ในนั้นจนเต็มที่ เป็นสีเขียวคล้ำเพราะผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน มันจ้องมองดูอึ้งย้งที่กำลังช่วยตัวเองให้ดูอย่างกระสันต์
อึ้งย้งกำลังช่วยตัวเองปรือตาขึ้นมองเห็น บุรุษลึกลับที่เจอเมื่อกลางวันซึ่งบัดนี้รู้แล้วว่าคือองค์ชายเจอรูดัล หนึ่งในยอดยุทธพิศวาสกลับส่งสายตายั่วยวนมาอย่างไม่สะทกสะท้าน เอามือแหวกเนินโคกอวดเนื้อในที่วาวด้วยน้ำกระสัน องค์ชายเจอรูดัลเดินตรงเข้ามาจับขาขาวสวยของอึ้งย้งแหวกออกก้มลงเอาหน้าซุกเข้ากลางหว่างขา
ฉกลิ้นเข้าเลียตรงจงอยแตดปานงูฉก
"
โอว....ข้าเสียวยิ่ง อูยส์..สสสส "
อะไรกันองค์ชายเจอรูดัลหนึ่งในยอดยุทธพิศวาสออกจากค่ายกลเกาะดอกท้อได้ตั้งแต่เมื่อใด เหตุไฉนจึงเข้ามาโลมเลียหีอึ้งย้งได้เช่นนี้ อึ้งย้งให้ก๊วยเจ๋งเข้านอนไปก่อน ส่วนตัวนางเองลอบลงมายังห้องลับ เพื่อนัดพบเล่นชู้กับยอดยุทธพิศวาสสวมเขาให้กับก๊วยเจ๋งผู้เป็นสามีอย่างนั้นหรือ หรืออึ้งย้งต้องมนต์มายาใดกันแน่
(
ขอแทรกตอนนี้เข้ามาก่อน ตอนต่อไปกลัวจะยาวจะคอยกันนาน ขืนไม่เฉลยตอนนี้ก่อนโดนด่าแน่เลย )
.....................
เกาะดอกท้อ หากเอ่ยถึงชื่อเกาะดอกท้อแล้วในยุทธภพเวลานี้ไม่มีชาวยุทธคนใดที่ไม่รู้จัก
หนึ่งนั้นเกาะดอกท้อเป็นสถานที่พักของยอดฝีมือที่เข้าขั้นปรมจารย์ ผู้บัญญัติกระบวนท่าฝีมือตั้งมากมาย รวมทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ ไม่ว่าจะเป็นด้านพิณ ภาพ กาพย์ กลอน ล้วนรู้แจ้งทั้งสิ้น อีกทั้งอุปนิสัยใจคอของเจ้าของเกาะออกแปลกประหลาด เป็นที่น่าเกรงขามและหวาดหวั่นของชาวยุทธทั่วไป จนตั้งฉายานามท่านว่า ภูตบูรพา อึ้งเอี้ยะซือ ทั่วทั้งแผ่นดินยากมีใครกล้าต่อกร
สองคือ ค่ายกลของเกาะดอกท้อ ถูกยกย่องให้เป็นค่ายกลอันหนึ่งของแผ่นดินในเวลานี้
ค่ายกลของเกาะดอกท้อ เป็นลักษณะค่ายกลซ้อนค่ายกล
ค่ายกลชั้นนอกก่อตามหลักหยินหยาง รวมเอกภพเป็นหนึ่งเดียวเปลี่ยนแปรไม่รู้จบ เรียก ค่ายกลอิคุยติ๋ม( ค่ายกลพยุหะเอกธาตุ ) สามารถผันแปรพลิกพลิ้วไร้เงื่อนปม คล้ายจำลองจากความเป็นเอกภาพของจักรวาล ที่แม้ดูเป็นหนึ่ง แต่ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอื่นๆ มากมาย
ค่ายกลชั้นในกลับก่อตั้งตามหลักยันต์แปดทิศ เรียก ค่ายกลพยุหะโปยก่วย หรือ ค่ายกลพยุหะอัฏฐทิศ ประกอบด้วย ประตูเป็น ประตูตาย ประตูออก ประตูไข ประตูลวง ประตูซุ่ม ประตูตกใจ ประตูหมดหวัง ดัดแปลงจากค่ายกลของท่านจูกัดเหลียง( ขงเบ้ง ) ในอดีตท่านขงเบ้งเคยใช้ค่ายกลนี้กักนายทหารนามลกซุน ทหารเอกของ กังตั๋ง ที่พาทหารเรือนหมื่นตามตีพระเจ้าเล่าปี่
แต่ค่ายกลของเกาะดอกท้อกลับเปล่งอานุภาพมากกว่าเนื่องจากเกาะดอกท้อตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสมรับลมได้ถึงสามสิบสองทิศทำให้ค่ายกลมีชีวิตชีวาสำแดงอานุภาพทั้งจริงและมายา พลิกพลิ้วผันแปรไร้จุดเริ่มต้นและสิ้นสุด ไร้ทั้งเงื่อนปมและรอยต่อ ประดุจดังท้องคลื่นที่ถาโถมโจนทยานในท้องสมุทรที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ ประดุจธารน้ำตกที่ไหลหลากจากภูผาชันเสียดฟ้า ทุ่มตัวครืนครั่นสเทือนไปทั่วท้องนภา อานุภาพมากกว่าทหารเรือนแสนเมื่อคราวขงเบ้งใช้กักทหารของกองทัพลกซุนมากมายนัก แม้แต่นกที่บินตกลงมายังยากจะออกจากค่ายกลนี้ไปได้(
ที่มา สามก๊ก ฉบับ คนขายชาติ )
.......................................................
ตอนนี้เกาะดอกท้อแห่งนี้ กลับมีคนหาญกล้าเข้ามาท้าทาย มิหนำซ้ำยังจะปั่นป่วนให้วุ่นวายได้ ขณะนี้แม่นางอึ้งย้งกำลังถูกชายผู้หาญกล้าเข้ามายังเกาะดอกท้อโดยมิเกรงกลัว กำลังเอาท่อนลึงค์ยาวใหญ่ รกขนหมอยหยาบหนา เคลียเคล้าคลึงกับโคกหีขาวสะอาดของนางลากขึ้นลากลงตรงรอยแยกอย่างอหังการ
อึ้งย้งรู้สึกเสียวสะท้านเพลิน ต้องสดุ้งเฮือกเมื่อบุรุษผู้นั้นดันท่อนกระดอทิ่มพรวดเข้ารูหีนางอย่างจัง อึ้งย้งร้อง
"
เอื้อก..."
ราวกับอะไรมาจุกคอได้คำเดียว ก็ถูกปากเข้าประกบกับปากนาง พร้อมบดขยี้ริมฝีปากนางอย่างหื่นกระหาย พร้อมกับเบื้องล่างก็ขยับท่อนกระดอเข้าใส่รูหีนางอย่างเอาเป็นเอาตาย พออึ้งย้งหลุดจากการจูบได้ต้องส่งเสียงร้องลั่น
" เบาๆ ก่อนท่านพี่ขา...เดี๋ยวของข้าฉีกหมด......."
องค์ชายเจอรูดัลยังจูบฟัดแก้มนวลของนางอย่างมันเขี้ยว กระเด้าเย็ดเอา เย็ดเอาไม่ยอมหยุด จนนางต้องร้องซ้ำ
"
โอย....ซี้ด...ท่านพี่ อย่าเพิ่งรุนแรง "
" โอ้..ข้าลืมตัวไป รูหีเจ้าเย็ดมันส์จริงๆ "
" คิก ๆ วันนี้ของท่านพี่ก็แข็งกว่าทุกวัน หากอึ้งย้งตัวจริงโดนมีหวังตายแน่ "
" อย่าเพิ่งพูดอะไร ข้ากำลังเงี่ยนสุดทน เจ้าแสดงต่อไปก่อนเถอะนะ "
ว่าแล้วทั้งคู่ก็ร่วมกันบรรเลงเพลงสวาทกันต่อ พลิกพลิ้วเปลี่ยนท่าทางพิศวาสกันอีกสองสามท่าก่อนองค์ชายเจอรูดัลจะกระฉูดน้ำกามเข้าถ้ำทองของนางมากมาย จนลำควยอ่อนตัวหลุดออกจากรูหีอึ้งย้งไป
" คิกๆ วันนี้ท่านพี่เสร็จเร็วยิ่ง น้องเพิ่งเสร็จไปทีเดียวเอง มาช่วยน้องเสร็จอีกทีหนึ่งก่อน "
องค์ชายเจอรูดัลหอบหายใจหนักๆ ก้มลงดูลำควยที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย อึ้งย้งมองดูตามพลางพูดขึ้น
" เดี๋ยวข้าจะช่วยท่าน คราวนี้ท่านลองเย็ดก๊วยฮู้ ลูกสาวอึ้งย้งดูบ้างเป็นไร "
ว่าแล้วอึ้งย้งก็หันกลายกลับ ยกมือขึ้นลูบที่ใบหน้าตัวเอง ราวกับเล่นกลชั่วขณะใบหน้าของอึ้งย้งกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าของก๊วยฮู้ขึ้นมาทันที เจอดรูดัลมองเห็นวงหน้าใส ของดรุณีน้อย จิ้มลิ้มสะสวยไม่น้อย แฝงแววถือดี ปากนิดจมูกหน่อย จัดว่างามสะคราญตา แม้จะดูด้อยเสน่ห์กว่าอึ้งย้งก็ตาม แต่มีแววประพิมพ์ประพายคล้ายอึ้งย้งอยู่หลายส่วน
พลันกระดอขององค์ชายเจอรูดัลก็กลับแข็งขันขึ้นมาใหม่
" ลูกสาวอึ้งย้ง เป็นยังไงบ้าง "
" อืม ก็ไม่เลว เจ้าช่างรู้ใจข้านัก..น้องรัศมีเทวี "
ว่าแล้วองค์ชายเจอรูดัลก็ตรงเข้าสวมกอดอึ้งย้งซึ่งบัดนี้กลายเป็นก๊วยฮู้ไปแล้ว แสดงบทรักต่อทันที ที่แท้ก็คือ นางรัศมีเทวีนั้นเอง ซึ่งใช้วิชาเปลี่ยนกระดูกแปลงโฉมร่วมรักกับสามีนางภายในถ้ำที่จับตัวก๊วยฮู้มาเมื่อกลางวันนี่เอง ตอนนี้นางกลับขึ้นไปขย่มบนแทงทวนอย่างคล่องแคล่ว ส่วนองค์ชายเจอรูดัลก็แอ่นเอวขึ้นเสยเป็นระยะๆเมื่อนางกระแทกลงมา
ที่สุดองค์ชายเจอรูดัลกลับทนไม่ไหวลุกขึ้นจับนางรัศมีเทวีในรูปโฉมของก๊วยฮู้โยกใส่บ้าง ต่างคนต่างนั่งโยกใส่กันอย่างสนุก ก่อนพลิกเปลี่ยนเป็นยืนขึ้นขาก๊วยฮู้ตวัดรอบเอวมือโอบคอฝ่ายชายเดินกระเด้าเย็ดกันรอบบริเวณถ้ำที่พักกัน
จนที่สุด องค์ชายเจอรูดัลเดินพาก๊วยฮู้กลับมานอนราบลงบนพื้นที่นอนอีกครั้ง
"
โอว...ท่านพี่ ดียิ่ง ข้า จะ จวน ....แล้ว "
" ข้าก็จะเสร็จ เช่นกัน อ้า....เจ้าช่วยแปลงเป็นอึ้งย้งอีกเถอะ "
" คิกๆ ข้าก็คิดแล้วว่า ท่านต้องชอบอึ้งย้งมากกว่าลูกสาวนาง "
นางรัศมีเทวียกมือขึ้นประสานเหนือศรีษะ แล้วเลื่อนลงมาที่ใบหน้า ปากนางคล้ายบ่นพึมพำมนต์อันใด เพียงชั่วครู่ใบหน้าของก๊วยฮู้ ก็กลับเปลี่ยนเป็นอึ้งย้งอีกคราว องค์ชายเจอรูดัลดวงตาคล้ายส่งประกายวาว แท่งกระดอคล้ายขยายขึ้นแน่นรูกว่าเดิม ยอดยุทธเจอรูดัลจับขานางรัศมีเทวีในรูปโฉมของอึ้งย้ง ดันโย้ไปข้างหน้าจนเข่านางอยู่กลางศรีษะ พร้อมกับซอยกระเด้าเย็ดถี่ยิบ
จนในที่สุดทั้งคู่ต่างส่งเสียงร้องออกมา ต่างปล่อยน้ำรักออกโต้ตอบกันจนเนืองหนองออกมาจนล้นทลักรูหญิงสาว ก่อนนอนกอดกันอย่างสุขสม
.....................................................
ส่วนในห้องลับใต้ดิน ตอนนี้อึ้งย้งตัวจริงกำลังเร่งขยี้นิ้วบี้ติ่งแตดตัวเองถี่ยิบ ลมหายใจกระเส่า ปากร้องครวญราวกับจะขาดใจ สักพักแลเห็นร่างนางกระตุกถี่ๆ ขมิบรูหีตอดนิ้วตัวเองแน่น ตอนนี้มองเห็นเปลวเทียนทุกเล่ม ต่างเอียงวูบเข้ามาหานาง ยิ่งนางเร่งมือเปลวเทียนกลับยิ่งกระพือ มีเปลวเทียนบ้างเล่มตอนนี้ คล้ายวิ่งออกจากแท่งเทียนตรงไปที่รูสวาทนาง อึ้งย้งคล้ายขมิบโยนีดูดเปลวเทียนเข้าไปข้างในจนสิ้น
จนในที่สุด นางส่งเสียงร้องลั่น เปลวเทียนทุกเล่มคล้ายถูกดูดเข้าไปในโยนีนางจนหมด ตอนนี้ภายในห้องกลับมืดมิด คงมีแสงส่องสว่างอยู่เฉพาะบริเวณโยนีของอึ้งย้ง อีกชั่วขณะอึ้งย้งส่งเสียงร้องอีกครา คล้ายแสงไฟตรงบริเวณโยนีนางกระเด็นออกจากร่างกลับไปติดยังแท่งเทียนทุกเล่มดังเดิม แถมเทียนบางเล่มปรากฏมีเส้นขนกำลังไหม้ไฟหงิกงอปรากฏอยู่บนนั้นด้วย
อึ้งย้งร้องอ้ายส์........อ้าปากผ่อนลมหายใจอย่างสุขสม
" สำเร็จแล้ว....ในที่สุดข้าก็สำเร็จ "
อึ้งย้งคล้ายรำพึงเอามือลูบตรงเนินโคกนาง รูหีเจิ่งนองด้วยน้ำสวาทเยิ้มไปหมด ที่แตกต่างก็คือ ตอนนี้เนินโคกนางกลับราบเรียบเกลี้ยงเกลาปราศจากเส้นหมอยที่ดกดำแม้แต่เส้นเดียว ราวกับว่านางไม่เคยมีเส้นขนหมอยใดอยู่บนเนินโคกอร่ามของนางมาแต่ก่อนเลย
อึ้งย้งพักสักครู่ก้มลงมองดูโคกหีเกลี้ยงเกลาของตัวเองอย่างพอใจ นี่เป็นวิชาอะไรหรือที่อึ้งย้งลอบลงมายังห้องลับแห่งนี้ หรือเป็นวิธีกำจัดขนหมอยของนาง
……………………………………….
ตอน บุกค่ายกลเกาะดอกท้อ ยามรัตติกาลคืนนี้ ท้องฟ้าสว่างไสว ดวงดาราเกลื่อนกลาดทั่วท้องนภา ล่วงเข้าสองยามเศษ หมู่ดาวจระเข้เริ่มหักเหหัวตก ชี้หางวาดขึ้นสู่บนฟากฟ้า ลมพัดเย็นสบายชวนให้นิทรายิ่งนัก ในยามนี้ปรากฎร่างชายหญิงคู่หนึ่ง ยืนอยู่หน้าดงดอกท้อที่บานสพรั่ง ทั้งคู่หาใช่มีแก่ใจที่จะมาชื่นชมความสวยงามของดอกท้อในยามราตรีนี้ไม่
หากแต่มีเป้าหมายอื่นที่แฝงอยู่
“ ท่านพี่นี้หรือค่ายกลดอกท้อที่เลื่องลือหนักหนา ถึงขนาดที่ท่านพี่ต้องเสียเวลาไขปริศนามันตั้งหลายชั่วยามกว่าจะหลุดออกมาได้ ”
“ อืม ใช่แล้วน้องรัศมีเทวี ”
“ คิก คิก ข้าไม่เห็นว่าจะน่ากลัวอันใด ”
“ ฮึ! เจ้าอย่าได้ดูแคลนไป หากเจ้าจะลองทดสอบดูก็ได้ ”
“ ข้ากำลังต้องการพอดี เพียงข้าอาศัยวิชาตัวเบาเหินไปตามยอดใบไม้ ค่ายกลนี้จะทำอะไรข้าได้ ”
ว่าแล้วนางก็กระโจนขึ้นไปบนยอดไม้ ยืนอยู่บนปลายกิ่งไม้ด้วยพลังตัวเบาเป็นเลิศ ทอดสายตามองเห็นทางออกอยู่ด้านหน้าแล้ว นางยิ้มอย่างลำพองใจ กระโดดแผล่วจากกิ่งไม้ที่ยืนอยู่ไปยังกิ่งไม้ด้านหน้าอย่างทนงด้วยความรวดเร็ว ฉับพลันดอกท้อราวกับสั่นไหวคล้ายมีชีวิต เบื้องล่างคล้ายมีแรงดึงดูดมหาศาล นางรัศมีเผลอก้มลงมองดูเบื้องล่างเพียงชั่วขณะ มองเห็นดอกท้อละลานตาไปทั่ว
เกิดมายาภาพคล้ายมีวงกลมซ้อนขึ้นมากมายจนลายตา เป้าหมายที่นางมองเห็นแต่แรกกลับมลายหายไป วงกลมรูปทรงเรขาคณิตผุดซ้อนขึ้นเป็นวงแล้ววงเล่าไม่มีสิ้นสุด ชวนให้พร่างพรายตาขึ้นคลื่นลมภายในปั่นป่วน จนนางต้องโจนทยานขึ้นราวกับเหิรบิน มองเห็นพื้นที่ว่างแห่งหนึ่งจึงกระโดลงอย่างมั่นใจ
นึกในใจว่าคงหลุดพ้นจากดงดอกท้อได้แล้วอย่างดีใจ
“
เป็นอย่างไรบ้าง น้องข้า ”
นางรัศมีเทวีหันขวับกลับไปมองผู้ที่เอามือมาแตะบ่านาง เป็นองค์ชายเจอรูดัล จึงร้องอุทานขึ้น
“
ไฮ้ ! ท่านพี่ตามข้าออกมาจากค่ายกลตั้งแต่เมื่อใด ”
“ ข้ายังไม่ได้ไปไหนเลยยังอยู่ที่เดิม ”
“
ฮ่า ….”
“ ข้ามองเห็นเจ้ากระโดดเวียนวนไปมา แล้วก็ซวนเซลงมาที่เดิม ”
ถึงตอนนี้นางรัศมีเทวีค่อยมองดูทัศนียภาพรอบตัว จึงค่อยรู้ว่าเป็นจริงตามที่องค์ชายเจอรูดัลกล่าว
“ เป็นไปได้ไง ข้าขอลองใหม่อีกครั้ง ”
“ จะกี่ครั้งก็เหมือนเดิม หากเจ้าอยากเห็นความพิสดารของค่ายกลตามข้ามาทางนี้ดู ”
ว่าแล้วองค์ชายเจอรูดัลก็เดินนำหน้าเข้าไปในดงดอกท้อด้านหนึ่ง เพียงชั่วขณะนางรัศมีเทวีรู้สึกเหมือนต้นดอกท้อคล้ายมีชีวิตเคลื่นย้ายไปมาได้เอง เสียงลมพัดหวีดหวิว กิ่งไม้คล้ายฟาดฟันลงมา
เศษใบไม้ปลิวเข้าหาคล้ายดังอาวุธลับซัดมา จนนางต้องหลบหลีกวูบวาบ
“ อย่าได้แตกตื่นไป สงบไว้ที่เจ้าเห็นเป็นเพียงมายาภาพเท่านั้น ”
องค์ชายเจอรูดัลพานางรัศมีเทวีเดินวนเวียนไปมา บ้างคลาคล้ายเดินย้อนกลับไปที่เดิม นางอ้าปากจะร้องทักแต่สำรวมจิตใจ เดินตามต่อไปรู้สึกทางเดินคล้ายเบาหวิวราวกับเดินบนก้อนเมฆ อีกชั่วขณะค่อยรู้สึกบรรยากาศกลับมาเป็นปกติ ออกจากดงดอกท้อสู่ลานกว้างแห่งหนึ่ง
“ ไฮ้ นี้เราเดินออกมาที่เดิมอีกแล้วนี่ ” นางรัศมีเทวีอุทานขึ้น เมื่อมองรอบๆ ที่ยืนอยู่
“ ฮะ ฮ่า…” องค์ชายเจอรูดัลกลับหัวเราะขึ้นเบาๆ
“ เจ้าลองดูว่ามีที่ใดแตกต่างจากตอนแรกบ้าง ”
นางรัศมีเทวีพยายามมองดูรอบๆ แต่ดูไม่ออกว่ามีสิ่งใดแตกต่าง
“ ข้าไม่เห็นอะไรผิดเพี้ยนเลย ”
องค์ชายเจอรูดัลจึงเฉลยขึ้น
“ เจ้าดูดาวจระเข้นั้น ตอนก่อนที่เราจะเข้ามาอยู่ที่ใด ”
นางรัศมีเทวีจึงค่อยนึกออกว่า ก่อนเข้ามามองเห็นดูดาวนี้อยู่เบื้องหน้านางหันหัวลงชูหางขึ้นบนฟ้า นางใช้เวลาเดินในค่ายกลเพียงชั่วหม้อน้ำเดือด หากอยู่ที่เดิมตำแหน่งดาวก็น่าจะยังอยู่ที่เดิม แต่ตอนนี้นางมองเห็นหมู่ดาวจระเข้ กลับอยู่ทางด้านขวาเยื้องไปด้านหลัง
นางพิจารณาสภาพแวดล้อมอีกครั้งคล้ายกับที่เดิมแต่มีบางอย่างที่สลับตำแหน่งกันบ้างเล็กน้อย
“ อ๋อ ข้าเข้าใจแล้วที่แท้ ค่ายกลเกาะดอกท้อปลูกสร้างหมู่ดอกไม้ ก้อนหิน สภาพธรรมชาติแวดล้อมเหมือนๆกันทุกหนแห่งนี้เอง ”
“ ถูกของเจ้าแล้ว นี่แหละที่เรียกว่าค่ายกลพยุหะเอกภาพ รวมจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว ”
“ ที่แท้ค่ายกลดอกท้อก็มีเพียงเท่านี้ เพียงตกแต่งสถานที่ให้เหมือนๆกันให้ผู้คนงุนงงเล่นเท่านั้นเอง ”
“ ฮะ…ฮ่า…เจ้ายังสรุปเร็วไป ที่ผ่านมาเป็นเพียงค่ายกลชั้นนอกเท่านั้น หากไม่ใช่เราพาเข้ามาเจ้ายังมาเองไม่ได้เลย เมื่อเข้ามาได้แล้วยังต้องหลงวนเวียน แม้จะหลุดออกมาแล้วยังไม่รู้ว่าออกมา พอหลุดออกมาได้ก็ยังต้องเจอค่ายกลอีกชั้นหนึ่ง ”
“ อืม ” นางรัศมีผงกหัวอย่างยอมรับ
“ ต่อจากนี้แหละที่พิสดารยิ่งกว่า เบื้องหน้าคือ ค่ายกลอัฐทิศ ปลูกตามหลักยันต์แปดทิศ ยึดเอาธรรมชาติทั้งแปด ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ หิน ฟ้ากำเนิด ฟ้าคำราม ก่อกำเนิด ประตูค่ายกลแปดอย่าง สามารถพลิกผันได้แปดแปด หกสิบสี่แบบ แต่ที่เจ้าเห็นเบื้องหน้าซับซ้อนยิ่งกว่าผันแปรได้ถึง 360 แบบ ตามการหมุนของโลก แถม ยังติดตั้งกลไกลเพิ่มเติมขึ้นอีก อาศัยชัยภูมิของเกาะนี้ หากขึ้นไปดูเบื้องบนอากาศเกาะนี้มีรูปร่างคล้ายยันต์แปดทิศไม่ผิด สมแล้วที่ค่ายกลเกาะดอกท้อ ถูกจัดเป็นค่ายกลอันดับหนึ่งในขณะนี้ ”
“ อืม แต่ยังไงก็ต้องชมท่านพี่ยอดเยี่ยม สามารถค้นคว้าค่ายกลจนแตกฉาน ”
“ เจ้าว่าเช่นนี้ ยังไม่ถูกต้อง ”
“
เอ๊ะ ”
“ ครั้งนั้นที่เราพ่ายแพ้แก่ห้ายอดฝีมือ ถึงแม้ว่าพวกมันจะโกงเราจนมีชัย แต่แพ้ก็คือแพ้ เราจึงยอมกลับชมพูทวีป แต่เราก็รู้สึกว่าวิชาของพวกตงง้วนมีหลากหลาย จึงจับตัวผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆกลับไปด้วย รวมทั้งผู้รอบรู้ด้านค่ายกล เราก็ศึกษาด้านนี้มามากหวังมาคราวนี้จะพิชิตพวกยอดฝีมือให้ได้ แต่ค่ายกลเกาะดอกท้อกลับล้ำลึกกว่าที่เราค้นคว้ามา ”
องค์ชายเจอรูดัลหยุดพูดชั่วขณะจึงกล่าวต่อ
“ แต่ต้องนับว่าพวกเราโชคดียิ่ง ที่เราได้เจอกับ
พิษปัจฉิม(
อาวเอี้ยงฮง ) ก่อนมาที่นี้จึงได้แปลนเกาะดอกท้อที่มันทำตกไว้ ”
ว่าแล้วจึงล้วงเข้าไปในอกเสื้อหยิบแปลนเกาะดอกท้อ ที่เก็บได้เมื่อคราวต่อสู้กับอาวเอี้ยงฮงที่ริมทะเลสาบตั๊งโอ๊วออกมา
******(
เมื่อครั้งที่อาวเอี้ยงฮงพาบุตรชายอาวเอี้ยงเค็ก มาขออึ้งย้ง ที่เกาะดอกท้อ ได้มีการประลองยุทธเพื่อเลือกคู่ ระหว่างก๊วยเจ๋งกับอาวเอี้ยงเค็ก ปรากฎว่าอาวเอี้ยงเค็กแพ้ อึ้งเอี้ยะซือจึงให้แปลนเกาะดอกท้อเป็นรางวัลปลอบใจ ภายหลังอาวเอี้ยงฮงจึงบุกมาก่อเรื่องบนเกาะดอกท้อครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาแปลนเกาะดอกท้อยังคงอยู่กับอาวเอี้ยงฮง )*********
“ เช่นนี้เป็นว่าท่านพี่ ก็สามารถทำลายค่ายกลเกาะดอกท้อแห่งนี้ได้แล้วซิ ” นางรัศมีเทวีกล่าว
“
ฮ่า...... ฮ่า....... ฮ่า” องค์ชายเจอรูดัลหัวเราะกังวานอย่างพอใจ
“ ข้าไม่เพียงแต่ทำลาย ข้ายังมีแผนการณ์ที่ดียิ่งกว่านั้น ”
“ เอ....ท่านพี่ช่วยเฉลยหน่อยเถอะ ” นางรัศมีเทวีเอ่ยอย่างงุนงง
“ ข้าจะทำให้พวกมัน ลองลิ้มรสค่ายกลแห่งนี้ดูบ้าง”
........................................
ภายในห้องแม่นางก๊วยฮู้กำลังหลับนิทราอย่างสุขสม เสียงทอดหายใจสม่ำเสมอ เห็นทรวงอกสท้อนขึ้นลง วงหน้าขาวเกลี้ยง สองแก้มใสดูน่ารักยิ่ง แม้ยามหลับใหลก็ยังดูสวยสคราญ บู๊ตงยู้เฝ้ามองดูนางรู้สึกรัญจวนใจยิ่ง แท้จริงเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นยามกลางวัน เป็นก๊วยเจ๋งได้มอบให้สองพี่น้องผลัดกันเป็นเวรยามช่วยดูแลก๊วยฮู้ผู้เป็นลูกสาวของตนอยู่หน้าห้องป้องกันไว้ชั้นหนึ่งเผื่อเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้นจะได้ช่วยกันระวังภัย
บู๊ตงยู้คนพี่เป็นเวรเฝ้าก่อนได้ลอบเข้ามาในห้องของก๊วยฮู้ที่แอบหลงรัก ทีแรกบู๊ตงยู้ลอบมองอยู่ห่างๆ แต่ต่อมาเริ่มเข้ามาใกล้ชิด ยิ่งพิศยิ่งมองนาง บู๊ตงยู้ยิ่งปั่นป่วนวาบหวามยิ่งนัก ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่มันลอบแอบมองนางแก้ผ้าเมื่ออาบน้ำยิ่งทำให้มันเกิดกำหนัดอดใจไม่ไหว จึงค่อยโน้มหน้าลงมาหอมแก้มนวลใสของนางเบาๆ
“ อา.....ชื่นใจข้าจริงน้องฮู้ ไม่รู้ว่าข้าจะได้มีโอกาสได้แต่งงานกับนางหรือไม่ ”
พลันคิดถึงเหตุการณ์ในถ้ำเมื่อตอนกลางวันคล้ายกึ่งจริงกึ่งฝันมันเกือบจะได้เชยชมนางอยู่แล้ว บู๊ตงยู้คิดแล้วยิ่งกระสันต์เอื้อมมือสั่นเทามาจับตรงเนื้อนูนเป็นกระเปาะที่สท้อนขึ้นลงตรงกลางหน้าอกนาง พลางค่อยชำเลืองดูว่านางจะตื่นหรือไม่ พอเห็นก๊วยฮู้ยังนอนสงบนิ่งจึงค่อยได้ใจออกแรงบีบเพิ่มขึ้น ก๊วยฮู้คล้ายครางกระเส่าออกมาเบาๆ บู๊ตงยู้เริ่มใช้มือซนปลดเสื้อนอนนางออก ก๊วยฮู้ใส่เพียงเสื้อนอนตัวเดียวไม่ได้สวมเอี้ยมชั้นใน จึงทำให้บู๊ตงยู้เห็นเต้านมขาววับๆแวม
แม้จะไม่ชัดเพราะอยู่ในความมืดก็ตาม บู๊ตงยู้รู้สึกคอแห้งผาก อยากจะก้มลงดูดนมคู่อร่ามตรงหน้าเพื่อแก้กระหาย มันเอามือจับหมับตรงเต้านมเต็มมือ
“ อา...ก๊วยฮู้จ๋า ..นมเจ้าช่างยืดหยุ่น นุ่มมือดีแท้ ”
บู๊ตงยู้รำพึงในใจเอานิ้วชี้กับหัวแม่มือจับตรงเม็ดบัวกลางหน้าอกปั่นเล่นเบาๆเจ้าเม็ดบัว มันคล้ายมีชีวิตพอถูกมือสัมผัสกลับลุกโชนแข็งเป็นไตขึ้นมาทันที
“ อืม..อืม ” ก๊วยฮู้ครางเบาๆ คล้ายกับพอใจที่ถูกสัมผัส ทั้งๆที่ยังหลับอยู่
แกร๊ก .....แกร๊ก บู๊ตงยู้ถึงกับสดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตรงหน้าประตู
“
ฉิบหายแล้ว....หรือเป็นอาจารย์ก๊วยเจ๋งมากูตายแน่ ”
บู๊ตงยู้รีบขยับเสื้อนอนก๊วยฮู้กลับที่เดิมอย่างหลวมๆ ถลันหลบไปแอบตรงด้านข้างตู้เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วด้วนความประหวั่นพรั่นพรึง พลันประตูห้องของก๊วยฮู้ก็ถูกเปิดออก ปรากฎร่างชายผู้หนึ่งค่อยแอบย่องเข้ามาแล้วปิดประตูอย่างแผ่วเบา ค่อยย่องเข้ามาตรงข้างเตียงที่ก๊วยฮู้หลับใหลอยู่ บู๊ตงยู้มองฝ่าความมืดไปเห็นบุรุษที่เข้ามาหาใช่อาจารย์ก๊วยเจ๋งไม่ กลับเป็นบู๊ซิ่วบุ้นตี๋ตี๋มันนั่นเอง
บู๊ซิ่วบุ้นตื่นมามองหากอกอมันไม่เห็นอยู่ที่หน้าห้องนอนก๊วยฮู้คิดว่าคงไปทำธุระที่ไหน รีบฉวยโอกาสลักลอบเข้ามาในห้องนอนก๊วยฮู้ พอเข้ามาบู๊ซิ่วบุ้นหันหน้าหลังมองซ้ายขวาอยู่พักหนึ่งไม่เห็นมีใครค่อยย่องมาที่เตียงนอนก๊วยฮู้ บู๊ตงยู้ตอนนี้นั่งยองๆอยู่มุมห้องเอาตะกร้าผ้าครอบตัวอำพรางไว้มิดมองลอดตะกร้า เห็นบู๊ซิ่วบุ้นจ้องมองก๊วยฮู้อยู่พักหนึ่งแล้วกลับก้มลงจูบระทับบนแก้มนวลใสของนาง
บู๊ตงยู้เฝ้ามองอยู่ร้องโอ๊ย ในใจ อารมณ์หึงขึ้นวูบรำพึงในใจ
“ หนอย เจ้าตี๋ตี๋ซิ่วบุ้นช่างบังอาจนัก กล้าเข้ามาหอมแก้มน้องก๊วยฮู้ได้ ”
บู๊ตงยู้คำนึงขึ้นโดยลืมคิดไปว่าเมื่อสักครู่มันก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน บู๊ซิ่วบุ้นนึกถึงภาพก๊วยฮู้ที่เปลือยเปล่าขาวโล่งโจ้งเมื่อตอนกลางวันยิ่งฟุ้งซ่าน เอาหน้าซุกลงตรงหว่างขาของนาง สูดดมตรงเป้ากางเกงนอนของก๊วยฮู้พลางรำพึงขึ้น
“ น้องฮู้ ขอกอกอชื่นใจอีกสักหนแม้ตอนหลับก็ยังดี ”
บู๊ตงยู้มองดูอยู่ต้องตกใจอารมณ์เดือดปุดๆ
“ บังอาจไปแล้ว เจ้าซิ่วบุ้นเมื่อกี้ข้าแค่จับนม แต่เจ้าบังอาจมาดมหม้อนาง ”
บู๊ตงยู้ยกตะกร้าพ้นจากตัวก้าวออกมาหวังจะไปห้ามปรามตี๋ตี๋ของมัน แต่ต้องชงักงัน เมื่อมีมือมาสัมผัสด้านหลังไม่ทันจะเหลียวไปดู กลับถูกสกัดจุดตัวแข็งทื่อ บู๊ซิ่วบุ้นเงยหน้าขึ้นจากหม้อน้องก๊วยฮู้คนสวย เห็นเสื้อนอนก๊วยฮู้สวมใส่ไม่เรียบร้อย ค่อยเอานิ้วค่อยๆแหวกออกเบาๆ จนขยับแยกออกมองเห็นนมขาวๆ ค่อยๆโผล่พ้นออกมา บู๊ซิ่วบุ้นมองดูอย่างตื่นเต้น
ขณะที่กำลังคิดจะเอาปากก้มลงดูดนมนาง อยู่ๆ ก๊วยฮู้กลับลืมตาแป๋วขึ้นมา บู๊ซิ่วบุ้นผงะตกใจไม่คิดว่าจู่ๆ น้องก๊วยฮู้จะตื่นขึ้นมา หน้าซีดตัวสั่น ก๊วยฮู้พอลืมตาตื่นขึ้นเต็มตา ถึงกับตาลุกโพลงวี้ดร้องขึ้นอย่างตกใจ
“
ว๊าย.....! ท่าน...ท่าน เข้ามาได้ยังไง ”
บู๊ซิ่วบุ้นคิดในใจคราวนี้กูตายแน่ รีบพูดตะกุกตะกัก
“ คือ...คือ...กอกอ กอกอ มิได้ ...มิได้ ”
“
ว๊ายท่านจะทำอะไร อย่านะ ๆ ชะ..ช่วยด้วย ท่านพ่อ..ท่านแม่ ”
“ ฉิบหายแล้ว อาจารย์ก๊วยเจ๋งเอากูตายแน่คราวนี้ ”
บู๊ซิ่วบุ้นร่ำร้องในใจ พลางพูดขึ้น
“
น้องฮู้ อย่าร้อง กอกอ ไม่ได้ทำอะไร อย่าร้อง อุ๊บ..”
บู๊ซิ่วบุ้นร้องลำลัก แต่ถูกสกัดจุดข้างหลังขยับตัวไม่ได้ ก๊วยฮู้หวีดร้องช่วยด้วย ๆ นางรัศมีเทวีที่อยู่ข้างหลังรีบตรงเข้าหาก๊วยฮู้ตรงเข้าโอบอุ้มนางทันที ที่แท้นางรัศมีเทวีกลับเข้ามาในห้องนอนก๊วยฮู้ตั้งแต่เมื่อใด
พอดีก๊วยฮู้ตื่นขึ้นมาพบเลยร้องอย่างตกใจ
“ ก๊วยฮู้น้องสาวเจ้าไปกับเจ๊เจ๊เถอะ ”
“
ไม่นะ ท่านพ่อท่านแม่ช่วยข้าด้วย ”
เสียงร้องของก๊วยฮู้ทำให้ก๊วยเจ๋งตื่นขึ้น รีบถลันตัวไปยังห้องนอนของลูกสาวอย่างรวดเร็ว พบสองพี่น้องตระกูลบู๊ถูกสัดจุด ก๊วยเจ๋งเข้าแก้ไขอย่างว่องไว
“
เกิดอะไรขึ้น ” “
น้อง..น้องก๊วยฮู้ถูกคนร้าย....”
“
ท่านพ่อ ช่วยด้วย ”
เสียงก๊วยฮู้ร้อง ก๊วยเจ๋งรีบตะบึงไปตามต้นเสียงโดยมีสองพี่น้องตามไปติดๆ
“
นังแพศยา ปล่อยตัวลูกสาวเราเดี๋ยวนี้ ”
ก๊วยเจ๋งตะโกนด่า ขณะที่ตามนางรัศมีเทวีซึ่งแบกก๊วยฮู้อยู่บนบ่ายืนหยุดอยู่ตรงหน้าดงไม้ ซึ่งเป็นประตูเข้าค่ายกลแห่งหนึ่ง
“ คิก คิก ก๊วยเจ๋งแน่จริงเจ้าก็ตามมาจับเราให้ได้เถอะ ”
นางว่าแล้วก็กระโจนเข้าประตูค่ายกลทันที ก๊วยเจ๋งเห็นดังนั้นถึงผงะ เพราะหนทางที่นางรัศมีเทวีเข้าไปนั้นกลับเป็นประตูค่ายกลที่มีชื่อว่าประตูตาย หากเป็นธรรมดาหากเเป็นศัตรูที่หลงเข้าไปในค่ายกลด้านนี้ต้องได้รับอันตรายอาจถึงชีวิตได้ แต่ยามนี้ศัตรูกลับพาลูกสาวของตนเข้าไปด้วย ก๊วยเจ๋งใจร้อนยิ่งกว่ากองเพลิง
อึ้งย้งเคยกำชับว่าอย่าเข้าไปในประตูค่ายกลทางด้านนี้ แต่ยามนี้ก๊วยเจ๋งจำต้องเข้าไปช่วยลูกสาวไม่มีเวลาคิดมาก
“ พวกเจ้าไปตามอาจารย์หญิงมา ตอนนี้นางอยู่ในห้องลับใต้ดิน ข้าจะล่วงหน้าเข้าไปช่วยลูกฮู้ก่อน ”
ก๊วยเจ๋งหันมาบอกสองพี่น้องก่อนรุดเข้าไปยังประตูตายทันที สองพี่น้องได้แต่หันหน้ามามองกันเลิ่กลั่ก
............................................
ในห้องลับใต้ดินตอนนี้กลับมีเสียงสนมนาของชายสองคน
“ กอกอ ท่านว่าเราเข้าไปเรียกอาจารย์หญิงดีหรือไม่ ”
“ อา...แต่ว่าเราจะเข้าไปยังไงละ ก็อาจารย์หญิงกำลังเปลือยกายอย่างนั้น ”
“ นั้นซิ....อาจารย์หญิงช่างงามยิ่ง ทั้งขาวโคกอร่าม ”
“ จุ๊ๆ ตี๋ตี๋เจ้าอย่าได้ทลึ่ง ”
ที่แท้สองพี่น้องตระกูลบู๊เข้ามาในห้องลับ พบเห็นอึ้งย้งนอนแก้ผ้าเปลือยกาย อวดเรือนร่างอวบอัด โคกอร่ามขาวจั๊วะ ขาวสะอาดราวกับเด็กแต่เป็นเด็กยักษ์ สองพี่น้องได้แต่มองดูจนควยตุงด้วยกันทั้งคู่ไม่รู้จะทำยังไงดี
อึ้งย้งรู้สึกเหมือนมีคนมาพูดกันอยู่ข้างหู
พลันลืมตาตื่นขึ้นมาพบสายตาสองคู่กำลังจ้องมองดูของดีนางอยู่จึงอุทานขึ้น
“
ว๊าย......เป็นพวกเจ้าเข้ามาได้ยังไง ” อึ้งย้งรีบลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมออกมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว
“
พวกข้า...มิกล้าเพียงแต่อาจารย์ก๊วยเจ๋งสั่งพวกเรา ”
สองพี่น้องตระกูลบู๊ตกใจรีบคุกเข่ากราบอึ้งย้งอย่างลนลาน
“ ข้าเคยสั่งพวกเจ้าหากไม่มีเรื่องอันใดห้ามเข้ามาในห้องลับนี้ ไฉนอาจารย์เจ้าจึงยังสั่งให้พวกเจ้าเข้ามาได้ ”
อึ้งย้งส่งเสียงเขียวนึกตำหนิสามีในใจ
“ หมดกันป่านนี้ทั้งนมทั้งของดีข้าถูกเจ้าลูกศิษย์สองตัวนี้เห็นไปถึงไหนถึงไหนหมดแล้ว ท่านพี่นะท่านพี่ ”
อึ้งย้งคิดในใจหน้าทั้งแดงทั้งเขียวด้วยความโกรธและความอาย
 
................................................................
หน้าค่ายกลประตูตาย อึ้งย้งเดินสำรวจได้รอบอยู่อย่างครุ่นคิด โดยมีสองลูกศิษย์ที่เดินตามลอบชมบั้นท้ายนางอยู่ตลอด อึ้งย้งรับแจ้งเหตุก็รีบรุดมาโดยสวมเสื้อคลุมตัวบางมาเพียงตัวเดียวข้างในยังโล่งโจ้งเหมือนเดิม เจ้าสองพี่น้องคล้ายดังพยายามมองให้ทะลุผ้าของเสื้อคลุมนั้นให้ได้
อึ้งย้งครุนคิดอยู่ชั่วครู่จึงหันมา สองพี่น้องสดุ้งรีบทำตัวสำรวมอย่างรวดเร็ว
“ อา...พวกเราจะตามอาจารย์ก๊วยเข้าไปเลยหรือไม่ ”
บู๊ตงยู้ชิงกล่าวถามขึ้นอย่างหวังดีห่วงใย
“ ค่ายกลประตูนี้อันตรายยิ่ง หากพลาดไปถูกกลไกกับดักอาจอันตรายถึงชีวิตได้ ”
อึ้งย้งกล่าวตอบ แล้วหยุดสักครู่ก่อนก่อนพูดต่อคล้ายรำพึงขึ้น
“ ข้าหวังว่าท่านพี่(
หมายถึงก๊วยเจ๋ง ) คงจดจำตำแหน่งกลไกที่ข้าเคยบอกได้
“ ถ้าเช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดี ” เป็นบู๊ซิ่วบุ้นเอ่ยขึ้นบ้าง
“ พวกเจ้าคงจดจำที่ข้าเคยบอกได้ การจะเข้าไปค่ายกลจำต้องเข้าทางประตูเป็น ค่อยตีโอบทางประตูตายจึงปลอดภัย ”
สองพี่น้องคิดในใจ อึ้งย้งสมกับเป็นผู้ที่ชาวยุทธยกย่อง แม้เกิดเหตุการณ์คับขันยังสามารถสำรวมจิตใจค่อยใช้สติปัญญาแก้ไข พลางผงกศรีษะรับ อึ้งย้งจึงกล่าวต่อ
“ ค่ายกลที่
อาจารย์ปู่(
หมายถึงอึ้งเอี้ยะซือ ) เจ้าสร้างขึ้น ยากที่จะหายอดฝีมือฝ่าประตูลวงเข้ามาถึงในนี้ได้ เราคาดไม่ถึงว่าศัตรูที่มาคราวนี้จะเชี่ยวชาญด้านค่ายกลอย่างสูงเช่นกัน แล้วถ้าหากว่า.......”
อึ้งย้งกล่าวแล้วกลับชงักพูดขึ้น ราวกับสิ่งที่นางจะกล่าวเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง สองพี่น้องสังเกตเห็นต้องขมวดคิ้วร้องถามขึ้นพร้อมกัน
“ ถ้าหากว่า เช่นไรท่านอาจารย์หญิง ”
“ โอ....ขอให้เป็นเพียงแค่สังหรณ์ที่ข้าคิดมากไปเองเถอะ ”
อึ้งย้ง เว้นวรรคสักครู่จึงกล่าวต่อ
“ ข้าเพียงแต่คิดว่า หากศัตรูแตกฉานด้านค่ายกลจนสามารถเขามาถึงในนี้ได้ หากมันสามารถเข้าไปยังศูนย์กลางควบคุมกลไกของค่ายกล อาจารย์ก๊วยกับก๊วยฮู้จะยิ่งอันตรายยิ่ง ”
“
อะ....หา..” สองพี่น้องตระกูลบู๊อุทานขึ้นพร้อมกัน
“ ยังไงหากข้าอ้อมไปทางประตูเป็น ค่อยวกไปยังประตูตายก็จะเสียเวลาไม่ทันการณ์ ข้าคงต้องลัดไปยังศูนย์กลางควบคุมค่ายกลจะเร็วกว่า ทางหนึ่งคือปิดกลไกกับดักที่ประตูตายด้วย ”
ว่าแล้วอึ้งย้งก็เดินอ้อมไปยังดงไม้ด้านหนึ่ง ยกมือจับเอากิ่งไม้บนต้นสนโบราณ กลับเป็นกลไกที่ซุกซ่อนไว้ พลันดงไม้นั้นกลับแยกออกเป็นทางเดิน มองเห็นละอองหมอกหนาทึบพวยพุ่งออกมา อึ้งย้งขยับเท้าจะก้าวเข้าไป บู๊ซิ่วบุ้นกลับร้องทักด้วยความเป็นห่วง
“ อ๊ะ.. อาจารย์หญิงทางนี้ใยมิใช่ ทางไปประตู......”
ยังไม่ทันที่บู๊ซิ่วบุ้นจะกล่าวจบ อึ้งย้งกลับพูดสวนกลับ
“ ข้ารู้แล้ว พวกเจ้าคอยเฝ้าตรงทางออกประตูฟ้ากำเนิด(
ประตูไข )ไว้ อย่าได้วิ่งเพล่นพล่านเข้าไปยังค่ายกลเด็ดขาด "
สองพี่น้องรับคำ
“ พวกเราจะระวังทางนี้ ขออาจารย์หญิงจงประสบชัย ช่วยอาจารย์ก๊วยเจ๋งกับน้องก๊วยฮู้กลับมาโดยสวัสดิภาพได้ดังหวังตั้งใจ ”
คำพูดที่บู๊ตงยู้พูดขึ้นด้วยความห่วงใย ยามนี่อึ้งย้งกลับฟังดูประหลาด ตามปกติอึ้งย้งไม่ค่อยเชื่อเรื่องโชคลาง แต่คำพูดของลูกศิษย์นางทำให้อึ้งย้งกลับรู้สึกเหมือนเป็นลางร้ายยังไงชอบกล อึ้งย้งไม่พูดอะไรหันหลังกลับเดินเข้าไปยังทางเข้าประตูแห่งนั้น ในยามนี้นางก็ตั้งความหวังที่จะเข้าไปช่วยสามีกับลูกสาว แต่ทางเข้าประตูนั้นกลับมีชื่ออัปมงคลยิ่งว่า “
ประตูสิ้นหวัง ” หรืออึ้งย้งจะสิ้นหวังที่จะช่วยก๊วยเจ๋งกับลูกสาวในคราวนี้ได้..
จบช่วงที่ 2 ต่อไปจะเป็นการต่อสู้กันในค่ายกล .....................................
หอคัมภีร์ ผลงานของ คุณ Cobraพิศวาสมังกรหยก1 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
2 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
3 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
4 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
( แว่นได้นำลงให้ คุณ cobra ตามคำอนุญาตโดยตรงที่จะแบ่งปันสมาชิกใน บอร์ด two-hitchhikers.ru.
แว่น เลยคัดสำเนาต้นฉบับมาลงชนิดไม่มีเล็ดแม้ตัวอักษรเพื่อเป็นเกียรติ์แก่เจ้าของผลงานผู้อนุญาต และไว้ใจให้ดูแลผลงานท่าน
31/8/2559 )
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน