Choice ตอนที่ 13 – รู้เห็น
....................................
Assasin008 2016-11-12
“เฮ้ย ไอ้หนุ่ม ช่วงนี้ดูเหมือนโบกี้กับแป้งดูสวยเปล่งปลั่งกว่าเดิมยังไงก็ไม่รู้แฮะ เอ็งรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า ก่อนนี้ก็สวยเซ็กซี่สุด ๆ อยู่แล้ว แต่ช่วงหลังนี่สวยเข็ดฟันยิ่งกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะโบกี้ที่ยิ่งสวยวันสวยคืนเห็นทีไรกูต้องเหนื่อยทุกที”
เพื่อนที่นั่งข้างผมยื่นมือมาสะกิดแล้วกระซิบถามเบา ๆ เพราะพวกเรากำลังอยู่ในห้องเรียน ส่วนสายตาของไอ้เพื่อนคนนี้ไม่ได้มองผมเลยสักนิด มันเอาแต่ถลึงตาแอบมองรูปร่างทรวดทรงเนื้อตัวของโบกี้และแป้งที่นั่งอยู่ห่างออกไปด้วยความหื่น
“เออ สวยขึ้นจริง ๆ สงสัยจะมีความรัก ไม่เคยได้ยินหรือไง ความรักทำให้ผู้หญิงสวยขึ้น”
ผมละสายตาจากสมุดจดแล้วหันไปพูดยิ้ม ๆ กับเพื่อนพร้อมกับยกมือขึ้นกดกรอบแว่นแนบเข้าหาใบหน้า แว่นที่ว่าก็แว่นวิเศษที่คุณปู่ของผมให้มานั่นล่ะครับไม่ใช่แว่นอะไรที่ไหนหรอก
ตอนนี้ผมทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่องเพราะตกลงกับโบกี้ไว้แล้ว พวกเราจะยังไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน แต่ผมก็ไม่ขัดมันเรื่องที่ว่าสองสาวโบกี้และแป้งนั้นสวยร้อนแรงขึ้นทุกวัน ผมอยากบอกมันจะแย่ว่าผมนี่แหละเป็นแฟนของโบกี้ แถมยังแอบเป็นกิ๊กกับแป้งเพื่อนสนิทของโบกี้ด้วยอีกต่างหาก ส่วนที่สองสาวสวยวันสวยคืนก็คงเป็นเพราะได้ผมช่วยรดน้ำให้ความชุ่มฉ่ำเป็นประจำนั่นแหละ
“จริงเหรอวะไอ้หนุ่ม แต่เท่าที่กูรู้ โบกี้เพิ่งเลิกกับรุ่นพี่ ส่วนแป้งก็เพิ่งเลิกกับแฟน หรือทั้งสองคนนี้จะแอบไปมีแฟนนอกมหาวิทยาลัย แม่งน่าอิจฉาว่ะ เป็นกูบ้างไม่ได้หรือไง ถ้าได้โบกี้หรือแป้งเป็นแฟนสักคนนะมึง กูจะจับขังนอนกอดไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหนเลย”
“ไอ้เวร คนนะเว้ยไม่ใช่น้องหมา จะจับมัดไว้ที่บ้าน”
“เออ ก็หวงนี่หว่า เอ็งลองคิดดูนะไอ้หนุ่ม สองสาวนี่มีแต่คนอยากเป็นแฟน โดยเฉพาะโบกี้ ถ้าเอ็งบังเอิญโชคดีได้เป็นแฟน เอ็งจะกล้าปล่อยออกมาให้คนอื่นแย่งเรอะ ถ้าเป็นกูนะกูทำใจไม่ได้ว่ะ กลัวหาย”
เพื่อนผมมันส่งเสียงตัดพ้อบ่นพึมพำ ท่าทางของมันเหมือนกับว่ามันได้โบกี้กับแป้งเป็นแฟนของมันไปแล้ว ผมเลยส่ายหน้าแล้วแอบหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ จะว่าไปผมก็เข้าใจสิ่งที่มันอยากบอก เพราะผมก็กำลังรู้สึกหึงโบกี้กับแป้ง เพียงแต่ไม่ได้รุนแรงสุดโต่งอะไรแบบนั้น
โบกี้แฟนผมเป็นดาวคณะที่ผมเรียน หรือถ้าจะเรียกว่าดาวมหาวิทยาลัยก็คงได้ เธอสวยระดับหยาดฟ้ามาดิน แถมยังเซ็กซี่ยั่วน้ำลายจนใครก็ต้องมองเหลียวหลังด้วยสายตาหื่นกาม ส่วนแป้งถึงจะมีเสน่ห์ไม่ร้อนแรงเท่าโบกี้ แต่ก็ห่างกันไม่เยอะ แต่แป้งมีดีที่ขาวเปล่งปลั่งกว่า แถมแป้งยังจะออกแนวดาวยั่วโดยธรรมชาติมากกว่าโบกี้
ผ่านไปได้สามวันแล้วหลังจากที่เราสามคนกลับจากน้ำตก ถึงแม้ผมกับโบกี้จะยังเก็บความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นความลับ แต่ในแง่ปฏิบัติแล้วหากไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย เราสองคนเรียกได้ว่าแทบจะตัวติดกัน นอกเวลาเรียนผมกับโบกี้ขลุกอยู่ด้วยกันเกือบจะตลอดเวลา อารมณ์ประมาณคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันนั่นล่ะครับ
ชีวิตผมช่วงนี้เลยเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด แต่ที่ไม่ค่อยดีก็คือแป้ง ผมแทบไม่ได้พูดคุยสนิทสนมกับแป้งเลย ถึงแป้งจะไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา เพราะเธอบอกว่าจะคบกับผมแบบแอบ ๆ แต่ผมสังเกตเห็นได้บ่อยครั้งว่าแววตาที่เธอมองมาทางผมนั้นแอบแฝงความหมายอะไรเอาไว้หลายอย่าง แววตาที่แป้งมองผมก็เหมือนแววตาที่โบกี้มองผม
‘ตอนเที่ยงไปเจอกันที่ห้องวิจัยชั้นสามหน่อยนะ อ่านแล้วลบข้อความด้วยล่ะ’
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งคิด โทรศัพท์มือถือของผมก็เด้งข้อความสว่างวาบขึ้นมา ผมก้มลงอ่านข้อความแล้วเงยหน้าขึ้นมองแป้งซึ่งนั่งเยื้องออกไปไม่ห่างมากนัก แป้งเหมือนรู้ว่าผมจะมองไป เธอเลยเอียงคอมองมาทางผมเพื่อส่งสายตาร้อนแรงให้แวบหนึ่ง แล้วรีบหันกลับไปทำท่าเหมือนตั้งใจฟังคำบรรยายของอาจารย์ที่หน้าชั้นเรียนอีกครั้ง
ผมละสายตาจากแป้งแล้วหันมองโบกี้ที่กำลังมีสมาธิตั้งใจเรียน จากนั้นผมก็ก้มหน้าลงมามองดูข้อความบนโทรศัพท์มือถือที่แป้งส่งมาอีกรอบ ห้องวิจัยชั้นสามที่ว่านั้นเป็นห้องที่รอซ่อมแซมไม่มีใครไปใช้งาน ผมรู้ว่าแป้งกำลังเหงาอยากเจอผม แต่ผมไม่นึกว่าแป้งจะนัดเจอกับผมในช่วงเวลาพักเที่ยง แถมยังนัดเจอกันในมหาวิทยาลัยแบบนี้อีกต่างหาก
‘ได้’
ผมตอบแบบไม่ต้องใช้สมองคิดให้มากความแล้วรีบลบข้อความทิ้ง ผมไม่แน่ใจว่าแป้งอยากทำอะไรแค่ไหน แต่ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ แถมยังแอบรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ ไปกับเรื่องราวแบบนี้เสียด้วยซ้ำ แค่นึกเป้ากางเกงของผมก็คับแน่นจนอึดอัดแล้ว
ข้อความนัดหมายของแป้งทำให้ผมแทบไม่มีสมาธิเรียนต่อ แต่ยังดีที่ใกล้จะพักเที่ยงพอดี ผมเลยไม่ต้องอดทนอดกลั้นอะไรมากมาย นั่งเรียนไปอีกหน่อยเดียวเสียงสัญญาณหมดเวลาก็ดังขึ้น และแผนการของผมก็คือผมจะรีบปลีกตัวไม่ไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ แต่จะรีบแยกตัวไปหาแป้งโดยตรงเลย ยังไงกลางวันแบบนี้ผมกับโบกี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว
“นายหนุ่ม รบกวนช่วยเอาเอกสารพวกนี้ไปไว้ที่ห้องพักอาจารย์ให้ผมด้วยนะครับ พอดีผมมีประชุมอีกตึก กุญแจห้องผมวางไว้บนโต๊ะ เสร็จแล้วฝากไว้กับอาจารย์ห้องข้าง ๆ ก็ได้ ขอบคุณมาก”
พอหมดคาบเรียน นักศึกษาเริ่มขยับตัว อาจารย์ก็มองมาทางผมแล้วพูดเชิงขอร้องให้ช่วยโดยที่ผมยังไม่ทันได้ขยับตัว ผมเลยอึ้งชะงักไปวูบหนึ่งเพราะอาจารย์พูดจบก็รีบเดินออกไปข้างนอกทันที โบกี้หันมามองผมวูบหนึ่งแล้วยิ้มให้ เพราะปกติแล้วผมเป็นเด็กเรียนที่สนิทกับพวกอาจารย์พอสมควร จึงมีหลายครั้งที่อาจารย์ร้องขอให้ผมช่วยเรื่องแบบนี้เป็นปกติ
ปกติผมก็มักจะช่วยตลอด เพียงแต่ตอนนี้ผมมีนัดกับแป้ง คำขอของอาจารย์ความจริงไม่มีอะไรมาก เพราะยังไงผมก็ต้องเดินไปทางโรงอาหารซึ่งอยู่ใกล้กับห้องพักอาจารย์อยู่แล้ว แต่ว่าห้องพักอาจารย์อยู่คนละทิศกับห้องวิจัยชั้นสามที่ผมนัดกับแป้งไว้ ถ้าผมจะขนของพวกนี้ไปที่ห้องพักอาจารย์ อย่างน้อยผมก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาทีถึงจะไปเจอแป้งตามนัดหมายได้ แป้งเองก็เหมือนจะเข้าใจข้อนี้ เธอเลยขมวดคิ้วแล้วชำเลืองมองผมแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
โบกี้กับแป้งเดินออกไปกับกลุ่มนักศึกษาสาวเพื่อนสนิท ความสัมพันธ์ของเรายังเป็นความลับ เธอก็เลยพยายามไม่แสดงอะไรออกมาให้เป็นที่สงสัย ผมเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วเก็บของเดินไปช่วยจัดการเอกสารให้อาจารย์ อย่างน้อยแป้งก็รับรู้เรื่องความจำเป็นของผมแล้ว ผมคิดว่าจะเอาเอกสารไปให้อาจารย์ก่อน แล้วค่อยส่งข้อความคุยตกลงกับแป้งอีกรอบว่าจะเอายังไง
ผมเดินหอบหิ้วเอกสารเดินอยู่ในกลุ่มเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ก่อนจะแยกตัวเดินขึ้นบันไดไปทางห้องพักอาจารย์ที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก จากนั้นผมก็หยุดยืนชะงักไปวูบหนึ่ง เพราะว่าที่หน้าห้องพักอาจารย์นั้นมีเรือนร่างสวยเปล่งปลั่งของแป้งในชุดนักศึกษายืนฉีกยิ้มให้ผมอยู่ ผมไม่นึกว่าเธอจะมาดักรอผมที่ตรงนี้
“แป้งมาทำอะไรตรงนี้”
“ยืนบื้ออยู่ได้ เอากุญแจมาเดี๋ยวช่วยเปิดประตูห้องพักอาจารย์ให้”
แป้งไม่ตอบคำถามผม เธอขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับยื่นมือคว้าเอากุญแจห้องพักของอาจารย์ออกไปจากมือผม เธอหันซ้ายหันขวาแวบหนึ่งเหมือนจะให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จากนั้นเธอจึงค่อยเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปด้านใน
ผมหอบเอกสารเดินตามเข้าไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ผมแอบจินตนาการเรื่องน่าตื่นเต้นตามประสาผู้ชาย แต่ว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ผมไม่แน่ใจว่าแป้งจะกล้าทำเรื่องแบบนั้น เพราะว่าเรื่องที่ผมจินตนาการอยู่มันออกจะอันตรายถึงขั้นโดนไล่ออกอยู่สักหน่อย ผมกำลังจินตนาการฉากผมนัวเนียกับแป้งในห้องพักอาจารย์ ต่อให้แป้งเป็นสาวเปรี้ยวร้อนแรงใจกล้าขนาดไหน ผมก็ไม่คิดว่าแป้งจะกล้าทำเรื่องแบบนี้
ผมคิดด้วยความตื่นเต้น และดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมแอบกลัวและแอบคาดหวังจะเป็นจริง ขณะที่ผมวางเอกสารบนโต๊ะทำงานของอาจารย์ ผมก็ได้ยินเสียงปิดประตูใส่กลอน พอผมหันหน้าไปมองแป้งก็เดินตรงดิ่งมาหาผมพร้อมกับสายตาหวานฉ่ำร้อนแรง
แป้งไม่พูดไม่จาอะไรทั้งสิ้น เธอยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอผมพร้อมกับเขย่งเท้าเสนอหน้าปากจิ้มลิ้มจูบกับปากของผม ผมอึ้งไปวูบหนึ่งด้วยความตกใจ แต่พอลิ้นนุ่มนิ่มของเธอเริ่มสอดเข้ามา ผมก็กอดเธอแน่นและตวัดลิ้นจูบตอบแบบไม่ต้องใช้สมองคิดให้มากความ
แป้งส่งเสียงหอบหายใจตอนที่เราจูบกัน รสจูบของเธอในตอนนี้ร้อนแรงมากกว่าที่เราเคยทำกัน สองมือของเธอลูบไล้ไปทั่วหลังคอของผม ท่าทางของเธอเหมือนจะอดอยากอัดอั้นมานาน ตอนนี้อารมณ์ของเธอก็เลยระเบิดตูมออกมาชุดใหญ่
“แป้ง ตรงนี้ไม่ดีมั้ง ไปที่อื่นกันดีกว่า”
“ที่นี่แหละ หนุ่มก็รีบทำหน่อยซิ น่าจะทัน”
ระหว่างที่กำลังจูบนัวเนียกันอยู่ ผมพยายามส่งเสียงห้ามเตือนสติแป้ง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจ อารมณ์ของผมเองก็โดนแป้งจุดขึ้นมาเหมือนกัน ผมเลยปล่อยเลยตามเลย จัดการจูบปากเธอหนักหน่วงกว่าปกติ แต่พอผมเอื้อมมือทำท่าจะขยำหน้าอกของเธอ แป้งก็สะดุ้งรีบถอนจูบและยกมือขึ้นปัดออกแล้วส่งเสียงร้องห้าม
“อย่า … เดี๋ยวเสื้อนักศึกษายับ”
เธอมองผมหน้าแดงก่ำในขณะที่ผมมองเธอแบบงง ๆ เหมือนปรับอารมณ์ตัวเองไม่ทัน ก่อนหน้านี้เธอร้อนเหมือนไฟ แต่พอผมจะเดินหน้าลุย เธอก็ดันปัดป้องจนผมทำตัวไม่ถูก
“หนุ่มถอดเสื้อผ้าก่อนซิ จะได้ไม่ยับ เร็วเข้าทำเวลาหน่อย”
แป้งเหมือนจะเข้าใจว่าผมคิดอะไร เธอเลยส่งเสียงพร้อมกับมองค้อน จากนั้นแป้งก็เริ่มเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของเธอเองออกทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว
ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองดูแป้งถอดเสื้อนักศึกษา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าแป้งมีเหตุผล แต่ผมยังปรับอารมณ์ไม่ทัน เลยหันมองไปรอบ ๆ ห้องพักส่วนตัวของอาจารย์ด้วยความลังเล สถานที่ในตอนนี้ออกจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ในการทำเรื่องอย่างว่า เพราะมีความเสี่ยงสูงเกินไป
จะอย่างไรหลังจากที่ผมเห็นแป้งถอดเสื้ออวดความขาวโพลนของเนื้อเนียนแล้ว ความลังเลอันน้อยนิดของผมก็หมดไปในทันที ผมรีบขยับตัวถอดชุดนักศึกษาของตัวเองออก ในขณะที่แป้งวางเสื้อนักศึกษาลงไปบนโต๊ะและเริ่มถอดกระโปรงออก
เพียงแค่แวบเดียวแป้งนักศึกษาสาวสวยติดอันดับของมหาวิทยาลัยก็ยืนเปลือยอยู่ข้างหน้าผม ร่างขาวโพลนของเธอกำลังเปล่งประกายความสวยร้อนแรงออกมาจากทุกซอกมุมตั้งแต่หัวยันเท้า ส่วนผมเองก็กำลังยืนเปลือยอวดหนอนน้อยที่แข็งผงาดเป็นพญามังกรอยู่เหมือนกัน
เราสองคนมองสำรวจกันและกันด้วยแววตาร้อนแรงครู่หนึ่ง ผมรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจแปลก ๆ ที่กำลังจะมีอะไรกับแป้งในห้องพักอาจารย์ แป้งเองก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน เพราะว่าผมสังเกตเห็นอารมณ์ร้อนรักของเธอได้ผ่านทางแววตาคู่นั้น
แป้งเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาผมก่อนอีกครั้ง เรากอดแนบและจูบปากแลกลิ้นกันพัลวัน ผมจูบพลางเอื้อมมือขยำขยี้ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มของเธอไปพลาง ระหว่างนั้นแป้งก็เอื้อมมือคล้องรอบคอผมไว้ แล้วขยับยกขาขึ้นมาพาดบนบั้นเอวของผมทีละข้าง ตอนนี้ผมเลยเป็นฝ่ายอุ้มเธอเอาไว้เหมือนท่าลิงอุ้มแตงที่เคยเห็นในสารคดีชีวิตสัตว์โลกของประเทศญี่ปุ่น
ผมรู้แล้วว่าเธอกำลังอยากจะทำอะไร ผมเลยช่วยขยับตัวเอื้อมมือลงไปขยำที่สะโพกทั้งสองข้างเพื่อช่วยรับน้ำหนัก แป้งเองก็เอื้อมมือมาจับของผมแล้วขยับสะโพกยุกยิกอีกไม่กี่ครั้งมังกรน้อยของผมก็เริ่มมุดหัวเข้าไปในร่องได้สำเร็จ
ผมรู้สึกกินแรงนิดหน่อยเพราะต้องอุ้มน้ำหนักของแป้งเอาไว้ แต่แป้งเป็นคนตัวเล็กอยู่แล้วผมเลยพอไหว ตอนนี้พอเราขยับจนมุดเข้าไปได้สุดลำ แป้งก็ตัวกระตุกผวากอดผมแน่น เธอส่งเสียงหอบครางกระเส่าน่าฟังออกมาจนผมยิ่งรู้สึกหื่นกว่าเดิม
“หนุ่มจ๋า ขยับเร็วหน่อย อูย”
แป้งส่งเสียงร้องขอ ผมเลยช่วยจับสะโพกของเธอและเริ่มขยับสะโพกตัวเอง แรก ๆ ผมยังไม่ค่อยถนัดกับท่านี้เลยเคลื่อนไหวยากอยู่สักหน่อย แต่พอเริ่มเข้าที่ขยับกระแทกได้สุดทาง แป้งก็ตัวกระตุกเกาะผมแน่นพร้อมกับส่งเสียงสูดปากครางออกมาดังกว่าเดิม
ผมยืนขยับบั้นเอวกระแทกพลางสูดปากด้วยความเสียวและความตื่นเต้นระทึก ผมมองไปรอบห้องด้วยความกังวลเล็ก ๆ ถึงห้องนี้จะเป็นห้องพักส่วนตัวที่ปิดมิดชิด แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเสียงครางของเราสองคนจะดังทะลุกำแพงไปถึงห้องข้าง ๆ ที่มีอาจารย์อยู่หรือเปล่า
จะว่าไปสภาพในตอนนี้ก็คล้ายกับตอนที่ผมแอบมีอะไรกับแป้งตอนโบกี้นอนบนเตียง ซึ่งผมยอมรับเลยว่าถึงมันจะเสี่ยงมีเรื่องแต่ก็ตื่นเต้นเร้าใจมากกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ถ้าบังเอิญมีใครรู้เรื่องขึ้นมาล่ะก็ พวกเราสองคนอาจจะโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยด้วยโทษร้ายแรงก็เป็นไปได้
ความกลัวก็ส่วนความกลัว ความหื่นก็ส่วนความหื่น ถึงผมจะกลัวแต่ผมก็ไม่คิดจะหยุดตัวเอง ผมยืนอุ้มแป้งพร้อมกับขยับกระเด้าเอวซอยกระแทกใส่แป้งหนักขึ้น ผมกระซิบให้เธอเบาเสียงครางลงหน่อย แต่แป้งดูเหมือนจะสติหลุดควบคุมตัวเองไม่อยู่ร้องครางออกมาเสียงดังกว่าเดิม ผมเลยต้องประกบปากจูบเพื่อปิดปากเธอเอาไว้
พอปิดปากแล้วเสียงครางของแป้งก็เบาลง เหลือแต่เพียงเสียงครางในลำคอ ผมไม่ค่อยแน่นักใจว่าเสียงกระแทกเอวด้วยความเมามันของผมมันจะดังกว่าเสียงครางหรือเปล่าแต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ยังไงก็หยุดไม่อยู่แล้ว
แป้งกอดนัวเนียผมแน่นพร้อมกับลูบมือจิกลงไปแถวหลังคอของผม ลมหายใจของเธอหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ผมรู้สึกว่าเม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาจนตัวเปียก ร่องรักของเธอขมิบตอดรัดใส่ผมแบบไม่ยั้งจนผมเริ่มเห็นสวรรค์รำไร แต่ช่วงนี้ผมได้ฝึกวิชาปลดปล่อยกับโบกี้ตลอด ผมเลยพอจะมีน้ำอดน้ำทนเพิ่มมาอีกหน่อย ไม่งั้นอาจจะโดนเธอรีดน้ำเสร็จไปก่อนหนึ่งยก
ผมทำกับแป้งในท่าลิงอุ้มแตงสักพักก็เริ่มรู้สึกกินแรง ผมเลยขยับอุ้มพาเธอลงไปนอนหงายบนโต๊ะทำงานของอาจารย์ ก่อนจะโหมเร่งกระแทกสุดแรงเพราะรู้สึกว่าใกล้เสร็จเต็มที่แล้ว อารมณ์ตอนนี้มันเสียวสุดยอดแถมยังลุ้นระทึก ถ้าผมไม่โดนไล่ออกไปเสียก่อน ดีไม่ดีผมอาจจะชวนแป้งมาทำเรื่องแบบนี้กันอีกสักครั้ง
ผมกระแทกเอวพลางเอื้อมมือขยำขยี้ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มเต่งตึงไปอย่างเมามัน ท่านี้ทำให้ผมออกแรงกระแทกได้หนักหน่วงกว่าเดิม แป้งถึงกับหลับตาปี๋ดิ้นพราดร้องครางออกมาเสียงดัง ผมเลยต้องรีบเอื้อมมือไปปิดปากเธอเอาไว้เพราะกลัวจะมีคนได้ยินเข้า
ผมกระแทกเอวได้สักพักแป้งก็เริ่มกระตุกเฮือก ร่องรักตอดรัดใส่ผมตุบ ๆ จนผมเองก็ทนไม่ไหว แป้งดิ้นพราดถึงจุดสุดยอด ผมเองก็ตัวกระตุกน้ำแตกใส่แป้งไปจนเต็มร่องหนึ่งรอบเหมือนกัน
พอได้ปลดปล่อยอารมณ์ ผมก็ฟุบตัวลงไปนอนกอดแป้งบนโต๊ะทำงานของอาจารย์ ผมกอดเธอแน่น ส่วนเธอเองถึงจะหมดแรงกอดแต่ร่องรักของเธอกำลังทำหน้าที่ตอดใส่ของผมแบบระรัวจนผมเสียววูบไปอีกครู่ใหญ่เลยทีเดียว
เรากอดกันแบบนั้นอยู่อีกราวห้านาที ผมก็ขยับตัวมองหน้าแป้ง แป้งมองผมแล้วยิ้มมีความสุข เธอไม่ได้พูดอะไร ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร ผมแค่จูบปากเธออีกครู่หนึ่ง แล้วก็เริ่มขยับถอนตัวออกมา อารมณ์หื่นของพวกเราได้ระบายออกไปแล้ว ตอนนี้ผมเริ่มกลัวว่าจะมีปัญหาถ้ามีคนมาเจอเข้า แป้งเองก็คงคิดแบบเดียวกัน เธอเลยไม่ได้ชวนทำอะไรต่อ
เราสองคนรีบจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวด้วยกระดาษเปียก แล้วสวมใส่เสื้อผ้านักศึกษากันแบบเงียบ ๆ ผมพยายามสอดส่ายสายตามองหาทำลายหลักฐานเท่าที่เป็นไปได้ พอทุกอย่างดูเรียบร้อยดีเราสองคนก็เตรียมออกจากห้อง ผมค่อย ๆ เปิดประตูออกไปมองซ้ายมองขวาก่อน พอไม่มีใครผมก็เรียกให้แป้งเดินออกมา
แป้งมองซ้ายมองขวาสำรวจความปลอดภัย ก่อนจะขยับมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ แล้วเดินแยกตัวออกไปก่อน ส่วนผมนั้นเดินไปห้องพักอาจารย์อีกท่านที่อยู่ด้านข้างเพื่อเอากุญแจห้องไปฝากตามคำสั่ง ผมแอบกังวลเล็ก ๆ ตอนเดินเข้าไป แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร อาจารย์ท่านนั้นเหมือนจะไม่ได้รู้เห็นเรื่องราวที่ผมแอบทำกับแป้งในห้องด้านข้าง ผมเลยค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
ทีแรกผมคิดว่าเรื่องราวน่าจะเรียบร้อยแล้ว ผมจะรีบไปกินข้าวเที่ยง แล้วจะรีบไปเข้าชั้นเรียนตอนบ่ายโมง เรื่องราวน่าจะจบลงตรงนี้ไม่มีใครรู้เห็นอีก แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิด เพราะว่าพอผมก้าวเท้าออกมาจากห้องพักอาจารย์ได้ครู่เดียว โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นมาทันที
ผมคงจะไม่คิดอะไรมากกับการรับโทรศัพท์ หากคนที่โทรมาเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนนี้ ผมยังไม่กล้ากดรับโทรศัพท์และรีบมองซ้ายมองขวาด้วยความตกใจ แต่พอมองไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่แถวนี้ ผมก็ค่อย ๆ พยายามสงบจิตใจและกดรับโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกกังวลอยู่สักหน่อย
คนที่โทรมาถึงจะเป็นเพื่อนในคณะที่รู้จักกัน แต่ปกติแล้วผมกับมันแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ และจังหวะที่มันโทรมาหาผมนั้นก็ดูจะเหมาะเจาะเกินไป มันโทรมาตอนที่ผมเพิ่งแยกกับแป้งได้ไม่นาน และไอ้คนที่โทรมาหานี้ก็คือคนที่เคยคบเป็นแฟนกับแป้ง แต่เพิ่งโดนแป้งประกาศเลิกกันได้ไม่กี่วัน … คงไม่ใช่เรื่องที่ผมกลัวหรอกมั้งนะ
“ไอ้หนุ่ม เอ็งนี่เองที่เป็นแฟนของแป้ง นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ”
พอผมกดรับเสียงหงุดหงิดไม่พอใจก็ดังออกมาทันที ผมถึงกับชะงักอึ้งทำตัวไม่ถูก ผมมองซ้ายมองขวาอีกรอบด้วยความสงสัย แต่ว่าผมมองยังไงก็ไม่เห็นใครสักคนอยู่แถวนี้ แต่เพื่อนที่เป็นอดีตแฟนของแป้งเหมือนจะเห็นเหตุการณ์ระหว่างผมกับแป้ง ไม่งั้นมันคงจะไม่พูดออกมาด้วยความมั่นใจถึงขนาดนี้
“มองมาทางนี้ บนดาดฟ้าตึกฝั่งตรงข้ามนี้ กูแอบตามติดใช้กล้องทางไกลส่องสอดแนมแป้งตั้งนาน ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้รู้เสียทีว่าแป้งแอบคบใครเป็นแฟน เอ็งนี่เองไอ้หนุ่ม”
เสียงของมันดังออกมาจากโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง คราวนี้ผมเลยหันหน้ามองไปทางตึกฝั่งตรงข้ามด้วยความรู้สึกอึ้ง ๆ ทีแรกผมมองไม่เห็นอะไร เพราะว่าตึกที่ว่ามันอยู่ห่างออกไปไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยเมตร มองไปผมก็เห็นเป็นจุดเล็ก ๆ แยกไม่ออก แต่พอผมหรี่ตาพยายามมองไปบนดาดฟ้า ผมก็เห็นใครสักคนยืนโบกไม้โบกมือเหมือนอยากให้ผมเห็น
ผมขมวดคิ้วทำตัวไม่ถูก ผมมองไม่ออกว่าเป็นใครเพราะห่างไกลเกินไป แต่ก็เดาได้ว่าคงจะเป็นอดีตแฟนของแป้ง และในมือของมันก็มีสิ่งที่คล้ายกับกล้องส่องทางไกล และถ้ามันมีกล้องส่องทางไกลก็คงไม่แปลกหากมันจะมองเห็นผมกับแป้ง
เท่าที่ผมได้ยิน ดูเหมือนว่ามันจะแอบใช้กล้องตามติดแป้งมาสักระยะแล้ว แป้งเองก็คงไม่รู้ตัวว่ามีพวกโรคจิตแอบส่องตามอยู่ คราวนี้พอมันเห็นว่าแป้งกับผมเข้าไปในห้องพักอาจารย์อยู่นานสองนาน ถ้าหากมันไม่สงสัยก็คงจะแปลก แต่ที่สำคัญก็คือตอนเดินออกมา แป้งหอมแก้มผมไปหนึ่งครั้ง และมันก็น่าจะเห็นเหตุการณ์ได้ผ่านทางกล้องส่องทางไกล
“เย็นนี้หลังเลิกเรียน ไปเจอกันที่ร้านกาแฟหลังมหาลัย ห้ามเบี้ยวนะโว้ยไอ้หนุ่ม ไม่งั้นมีเรื่อง”
อดีตแฟนแป้งส่งเสียงอีกรอบก่อนจะวางสายไปแบบไม่รอให้ผมตอบ แต่ความจริงตอนนี้ผมก็อึ้งจนไม่รู้จะตอบอะไรยังไง ใครจะไปนึกว่าไอ้เพื่อนคนนี้เป็นโรคจิตใช้กล้องส่องทางไกลคอยตามแป้งตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแป้งเลยมีคนระแคะระคายขึ้นมา
ปัญหาในตอนนี้ของผมก็คือ ผมควรจะทำอะไรดี เย็นนี้หลังเลิกเรียน ผมควรจะไปหาอดีตแฟนของแป้งตามที่มันนัดมาหรือเปล่า หรือว่าผมจะทำเนียนไม่รู้เรื่องไม่สนใจไม่ไปหามัน ถึงมันจะเห็นด้วยตาตัวเอง แต่มันก็ไม่น่าจะมีหลักฐานอะไรมายืนยัน
ถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะทำยังไง ระหว่างไปพูดคุยให้รู้เรื่อง หรือไม่ต้องสนใจไม่ต้องไปหา