พรบ. มา รึ โดนบล็อกเวป

ไปอ่านตามนี้เลย

DNS

ใช้ DNS ข้างนอก ไม่ใช้ DNS ของ ISP ทำได้ที่เครื่อง หรือที่ DHSP Server ของ Router ศึกษาได้จากคู่มือการใช้งาน
การปรับแต่งแก้ไขแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น

โดยปกติทั่วไปจะใช้ DSN นี้แทน
    Google Public DNS: 8.8.8.8 และ 8.8.4.4
    Norton DNS: 198.153.192.1 และ 198.153.194.1 (มีบริการให้เลือกหลายแบบ)
    OpenDNS: 208.67.222.222 และ 208.67.220.220 (มีบริการให้เลือกหลายแบบ)
    DNS Advantage: 156.154.70.1 และ 156.154.71.1
DNSSEC ช่วยได้ม้าง จากการ redirect

ฺBrowser + VPN เพื่อปกปิดตัวเองจากต้นทาง
อ่านภาษาไทย
ตัวเบราเซอร์ + VPN



VPN Free
500 MB/Mo

การใช้งาน HTTPS ตลอดเวลา

กรณีที่เข้าเวปที่ไม่มีการใช้งาน HTTPS
แต่เวปนี้ใช้ HTTPS แล้วก็ไม่มีปัญหาแล้วม้าง 

เราทำตามกฏหมายของประเทศที่ฝากเวปไว้ก็พอ
อย่างเวป xonly ใช้ 2 ต่อ คือ 1. เวป Host 2. cloudflare 

แล้วถ้าเวปโป๊ที่ฝากไว้อยู่ในประเทศไม่มีกฏหมายละ 

อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่คิดว่าเว็บเราคงโดนผลกระทบไม่มาก เพราะของเราHost นอก กับฝากไฟล์เว็บนอก

ก็ประมาณว่า เราจะมีสถานีรัฐที่เป็นศูนย์รับ จุดตรวจผ่าน กรองข้อมูลต่างก่อนนั้นแหละ แทนที่จะเป็นแบนเก่าคือ มีสถานีหลายแหล่งรับข้อมูลเสรีจากโลกไซเบอร์
กลับกลายว่าจะต้องถูกรวบมาผ่าน สถานีรัฐ คือกฏหมายใหม่ตัวนี้ การเข้าถึง,การส่งออก,การรับข่าวสาร จะถูกละเมิดได้ถ้ารัฐกลุ่มพิจารณา เห็นว่า " ไม่เหมาะสม "

การจะสั่งปิดมี รัฐกลุ่มพิจารณาที่ว่า แต่แรกจะออกกฏหมายนี้ วางคณะกรรมการแค่ 5 คนที่สามารถพิจารณาสั่งปิด โดยไม่ต้องผ่านศาลเพื่อข้ออนุญาตเหมือนก่อน แต่สมาชิก สนช. ได้ขอให้เพิ่มจำนวนจึงได้ข้อสรุปที่ 9 คน ในการพิจารณา ปิดเวปปิดบอร์ด หรือ กลุ่มต่างๆ ด้วยข้ออ้างนี้ " ความมั่นคง-ความไม่เหมาะสม "

ณ.ปัจจุบัน กฏหมายก็คลอดจบแล้ว จะบอกไม่เกี่ยวกับ Single Gateway คงเป็นแค่คำบอกปัด หรือ คำแถ แต่ไปส่องรายละเอียดจริงจะเห็น ข้ออ้างนี้  " ความมั่นคง -ความไม่เหมาะสม " ในการทำกฏหมายนี้ขึ้นมา

Single Gateway คืออะไร??

หากอธิบายคำว่า Single Gateway คงต้องแยกทั้ง 2 คำออกจากกันก่อน โดยคำว่า " Gateway " หมายถึง ประตูทางผ่าน หรือศัพท์ในวงการไอที หมายถึง ประตูเชื่อมระหว่างเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง และเป็นตัวที่เชื่อมต่อโครงข่ายของแต่ละประเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการ Gateway มีอยู่มากมาย เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

แต่เมื่อเติมคำว่า " Single " เข้าไป กลายเป็น Single Gateway ก็จะแปลได้ว่า จะสามารถเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตผ่านประตูแค่บานเดียว นั่นก็จะเท่ากับการมีผู้ให้บริการเครือข่ายเพียงเจ้าเดียว ทำให้สามารถควบคุม ดักจับข้อมูลเมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านประตูบานนี้ไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

ประเทศที่ใช้ Single Gateway

ปัจจุบันมีประเทศที่ใช้ Single Gateway คือ ลาว,จีน,เกาหลีเหนือ และประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่ภาครัฐสามารถควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้สะดวก โดยเฉพาะจีนที่รัฐบาลควบคุมไม่ให้ประชาชนในประเทศเล่นสื่อโซเชียลอย่าง Facebook รวมถึงการห้ามใช้ Google นั่นเอง

( ข้อมูลบางส่วนจาก อาจารย์พี่นีโอ ที่คัดมาจาก กระปุกดอทคอม.)

ขอบคุณครับ อธิบายได้ชัดเจน