****จากผู้เขียน****
เรื่องราคะ ตัณหา ความใคร่ ผมบอกล่วงหน้าก่อนนะครับว่าเรื่องนี้จะมีทั้งหมด 3องก์ หรือ 3ตอนด้วยกัน แต่ละองค์เนื้อหาของเรื่องจะไม่ต่อเนื่องกันครับ เพียงแต่ตัวละครบางตัวเท่านั้นที่จะเกี่ยวพันกัน ผมวางพล็อตและเขียนไว้อย่างนี้จะไม่ใช่แนวแบบเนื้อเรื่องต่อเนื่องกันแบบที่ผมเคยเขียนไว้ ทั้งสามเรื่องนี้จะมีแค่ตัวเอกไม่มีพระเอกหรือนางเอกครับ ครั้งนี้ขอเปลี่ยนแนวบ้างครับ ส่วนเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร มีใครเป็นตัวเอกบ้าง โปรดติดตามในเร็วๆนี้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้
****Twin Tower****
ชายหนุ่มในชุดฟอร์มเสื้อช็อปที่ปักข้างหลังด้วยคำว่า “Technician”ก้าวลงจากมอเตอร์ไซด์ แล้วเอาหมวกกันน็อคไว้ใต้เบาะที่เปิดได้ ก่อนเดินจากที่จอดรถเข้าไปในอาคารสูงแล้วไปยืนรอลิฟท์เหมือนกับพนักงานทั่วๆไป ก่อนที่จะมีเสียงทักมาว่า
“อ้าวนพมาประชุมใช่ไหมนี่”
นพหันไปมองทางเสียงที่เรียกพบว่าเป็น ผจก.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท พร้อมกับยืนข้างๆลูกน้องสาวที่นพเคยเห็นหน้าแต่ไม่รู้จักชื่อ นพยกมือไหว้แล้วบอกว่า
“สวัสดีครับพี่ปลา ใช่ครับผมมาประชุมครับ”
เป็นจังหวะที่ลิฟท์เปิดพอดีทั้งหมดต่างพาเข้าไปในลิฟท์ทำให้การสนทนาหยุดไปชั่วขณะ พอถึงชั้นของสำนักงาน พอก้าวออกจากลิฟท์ นพหันมายิ้มให้กับทั้งสองคนแล้วเดินไปอีกทาง ปลามองตามหนุ่มรุ่นน้องก่อนจะหันมาบอกกับลูกน้องว่า
“สงสัยนพได้เลื่อนตำแหน่งแน่นอน เป็นซีเนียร์มานานแล้วน่าจะขึ้นหัวหน้าได้สักที”
“นั่นนะสิคะ แต่แหมถ้าใครไม่รู้ก็นึกว่าพวกช่างธรรมดา ทั้งๆที่พวกนี้วิศวะทั้งนั้น”
“นั่นสินะโดยเฉพาะนพ”
“ทำไมหรือคะพี่”
ปลาหันมาตอบลูกน้องคนสนิทว่า
“เธอไม่รู้หรือ นพจบโทวิศวะจากเยอรมันพูดเยอรมันคล่องเวลาบริษัทมีประชุมกับทางเยอรมันทีไร ผู้ใหญ่ต้องให้นพเข้าด้วยทุกครั้งถึงก้าวหน้าเร็วไงเพราะความสามารถล้วนๆ”
“อ้าวนุชพึ่งรู้ จบก็ดีนามสกุลก็ใหญ่นะคะพี่ ”
“แต่ขี้อายไปหน่อย มีอะไรก็ยิ้มอย่างเดียว”
ทั้งสองต่างไม่พูดอะไรแต่มองตามร่างในชุดช็อปที่เดินไปที่ห้องประชุม จนช่วงเย็นหลังการประชุมเสร็จและเป็นไปตามที่ ผจก.ฝ่ายประชาสัมพันธ์คาด นพได้รับแจ้งในที่ประชุมว่าได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าแผนกแต่ต้องย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ของโรงงานที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งนพไม่ติดขัดอะไรเพราะยังไม่แต่งงาน ขณะที่นพกำลังเดินออกจากตึกและมองไปที่ท้องฟ้าที่กำลังเริ่มมืดเพราะเมฆฝน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลังว่า
“พี่นพ ใช่พี่นพหรือเปล่า”
นพหันไปมองและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังรับเดินเข้ามาพร้อมส่งเสียงเรียก นพขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนยิ้มออกมาให้กับคนที่เดินเข้ามาหา
“พี่นพสวัสดีคะ”
“อ้าวเฮ้ยจุ๋ม สวัสดีครับ”
สายสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่ไม่ขาดหาย ผู้หญิงที่เดินเข้ามาหานั้นเป็นรุ่นน้องของนพ1ปีตอนเรียนปริญญาตรีคณะวิศวะ
“สบายดีนะคะพี่ไปไงมายังไง จุ๋มรู้แต่ว่าพี่ไปเรียนต่อที่เยอรมัน”
“สบายดีครับ กลับมาปีเศษแล้วก็มาได้งานที่นี่ แต่พี่ไม่อยู่ออฟฟิตนะ พี่อยู่ที่โรงงานแถวบางพลีนะ”
“มิน่าจุ๋มไม่เห็นพี่เลย จุ๋มก็ทำงานออฟฟิตที่เช่าอยู่ในตึกนี้นะพี่ ”
เธอรู้ทันทีว่านพทำงานอยู่ที่ไหนเพราะโลโก้ที่ปักอยู่บนอกเสื้อ แล้วทั้งคู่ต่างพูดคุยกันพอสมควรจนนพบอกว่า
“งั้นวันนี้เท่านี้ก่อน ไว้วันหลังพี่เลี้ยงข้าวนะฝนจะตกแล้ว เพื่อนเรายืนรออยู่”
นพพยักหน้าไปทางเพื่อนของรุ่นน้องที่ยืนคอยอยู่ก่อนที่ทั้งคู่จะแลกเบอร์โทรศัพท์กัน นพเดินไปที่ลานจอดมอเตอร์ไซด์ก่อนแล้วภาวนาว่า
“ฝนจ๋าอย่าพึ่งตกขอให้ถึงบ้านก่อนนะ”
แล้วรีบขับมอเตอร์ไซด์ออกจากลานจอดมุ่งไปทางถนนใหญ่ ณ บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ผู้หญิง 3 คนกำลังนั่งคุยกันในห้องรับแขก ผู้หญิงที่สูงวัยที่สุดในห้องนั่งกระสับกระส่ายมองฝ่าสายฝนที่กำลังตกหนักไปทางประตูบ้านตลอดแล้วหันไปทางหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนบอกว่า
“ตูน แม่ว่าโทรหาพี่เค้าหน่อยดีกว่าว่าอยู่แถวไหนติดฝนหรือเปล่า”
“แหมแม่ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าช้าหรือติดฝนพี่เค้าก็โทรมาบอกเอง”
เสียงผู้เป็นแม่เข้มขึ้น
“แม่บอกให้โทรไง หรือจะให้แม่โทรเอง นี่มันได้เวลากินข้าวแล้ว พ่อก็กลับมาตั้งนานแล้ว”
หญิงสาวหน้าม่อยที่โดนน้ำเสียงดุจากผู้เป็นแม่ แต่มีเสียงจากหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่มองไปที่หน้าบ้านเพราะเห็นแสงไฟจากรถที่เลี้ยวเข้ามา
“อ้าวคุณแม่นั่นไงคะมาแล้วหนึ่งคน”
ผู้เป็นแม่ลุกขึ้นมองก่อนพึมพำว่า
“รถของต้นนี่”
ก่อนที่ทุกคนจะพูดอะไรออกมา ต่างก็มองไปที่รถปิ๊คอัพ 4 ประตูที่กำลังถอยเข้าไปจอดในที่จอดรถของบ้านที่อยู่ห่างจากตัวบ้านไม่เท่าไหร่พร้อมร่างของผู้ชายสองคนต่างก้าวลงมาจากรถแล้วเดินไปด้านหลังรถ ก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยกันยกมอเตอร์ไซด์ลงจากกระบะหลัง ท่ามกลางเสียงประหลาดใจจากหญิงสาวที่บอกมาว่า
“อ้างไหงมาพร้อมกัน 2คน”
ทั้ง 3 คนต่างมองไปหน้าบ้านก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสองคนจะเดินมาตามทางที่ทำไว้จากโรงจอดรถเข้ามาในบ้าน คนหนึ่งแต่งกายชุดตำรวจอีกคนใส่เสื้อช็อปมือถือถุงพลาสติกใบใหญ่มาด้วย แล้วมีเสียงทักจากหญิงที่อายุเยอะที่สุด
“อ้าวมาพร้อมกันได้ยังไงลูก”
คนที่แต่งชุดตำรวจยกมือไหว้ผู้เป็นแม่ก่อนหันไปยิ้มให้กับสาวอีกคน ส่วนคนที่ใส่เสื้อช็อปเอาถุงที่ถือมาวางบนโต๊ะแล้วเข้าไปกอดผู้หญิงพร้อมหอมแก้มแรงๆก่อนจะตอบว่า
“นพเจอพี่ต้นที่ห้างนะครับคุณแม่ พี่ต้นเลยให้เอารถมอเตอร์ไซด์ใส่ท้ายรถมาด้วยกันนะครับ”
ก่อนที่จะมองไปที่หญิงสาวอีก 2คน พร้อมทักไปว่า
“ตูนเลิกงานแล้วก็มาพร้อมกับพี่ใจเลยสิ”
“ใช่แล้วค่าคุณพี่ แล้วก็ไม่โทรมาบอกกันบ้าง แม่นั่งไม่ติดรอดูว่าจะมาถึงเมื่อไหร่กลัวคุณนพติดฝน”
ผู้เป็นแม่มองไปที่ลูกสาวคนเล็กแต่ไม่พูดอะไรแล้วถามไปที่ลูกชายทั้งคู่ว่า
“อ้าวแล้วต้นไปเจอคุณนพได้ยังเนี่ยลูก”
“ต้นไปเอานาฬิกาของใจที่ซ่อมไว้ที่ห้างนะครับ ไปเจอนพแถวๆลานจอดรถ เลยพามาด้วยกันไม่งั้น นพยังมาไม่ได้ครับฝนตกหนักอย่างนี้”
“อ้าวแล้วคุณนพแวะไปซื้ออะไรละ คุณแม่นึกว่าคุณนพจะตรงจากที่ทำงานมาบ้านเลย คุณแม่ก็รออยู่”
“เห็นคุณแม่อยากทานพายไก่ นพเลยไปแวะซื้อมาให้ไงครับ”
ทำเอาผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาด้วยแล้วบอกต่อว่า
“ไปล้างหน้าล้างตาก่อนลูกแล้วมากินข้าว พ่ออาบน้ำเสร็จหรือยังเนี่ยมากันครบแล้ว”
ต้นมองไปทางบันไดแล้วบอกว่า
“ลงมาพอดีครับแม่”
ลูกชายทั้งคู่ต่างเดินไปไหว้ทักทายผู้เป็นบิดาแล้วแยกย้ายไปล้างหน้าล้างมือก่อนมาพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร หลังจากที่แม่บ้านตักข้าวให้ครบทุกคนแล้วระหว่างที่ทานอาหาร ผู้เป็นพ่อถามลูกชายคนโตว่า
“ต้นงานเป็นยังไงบ้างละ มานั่งโต๊ะคงไม่เบื่อนะ”
“เอกสารค่อนข้างเยอะครับ แต่ดีหน่อยที่ได้ทำงานได้หยุดตรงกับคนอื่นบ้าง”
“ก็ใช่ไง แต่งงานแล้วจะได้มีเวลาให้ครอบครัว วันหยุดจะได้พาใจไปไหนมาไหนบ้าง อย่าเอาแบบพ่อ เลย”
ผู้เป็นแม่เสริมขึ้นมาทันทีที่พ่อพูดจบ
“ก็ดีแล้วต้น แม่จะได้ไม่ต้องห่วงมากถึงสมัยนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อนก็ตาม เมื่อก่อนแม่แทบจะนอนไม่หลับเวลาพ่อไปทำงาน เลี้ยงลูก 3คน นะไม่เท่าไหร่ แต่ความเป็นห่วงความกังวลนี่สิ นั่งทำงานประจำที่กรมก็ดีแล้วต้นนะเชื่อแม่ อย่าให้แม่ต้องวิตกเหมือนเมื่อก่อน แม่แก่แล้ว”
ทำเอาทุกคนยิ้มออกมาก่อนที่ผู้เป็นแม่จะหันไปหาลูกชายอีกคน
“คุณนพนี้ก็เหมือนกัน คุณแม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าใช้มอเตอร์ไซด์มันอันตราย รถของตัวเองก็มีคุณแม่ซื้อมาให้ก็ไม่ค่อยใช้”
“โธ่คุณแม่ครับ โรงงานมันใกล้กับคอนโดขับไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว สะดวกกว่าเยอะประหยัดกว่าด้วย”
“ไม่รู้ละคุณแม่ไม่ยอม คุณแม่ไม่สนแล้ว คุณแม่สั่งว่าวันจันทร์นี้ให้คุณนพขับรถไปทำงานคุณแม่ไม่ให้ใช้มอเตอร์ไซด์แล้วทั้งอันตรายทั้งลำบาก ดูอย่างวันนี้สิ ถ้าไม่เจอพี่คุณนพก็มาไม่ได้ มอเตอร์ไซด์นี่คุณนพก็แอบไปซื้อเอง ทั้งที่รถคุณแม่ก็ซื้อคันใหม่ให้แล้วต้องเอาไปใช้ คุณแม่สั่งแล้วนะ”
น้องสาวคนเล็กรีบเสริมต่อทันที
“ก็พี่นพซื้อแบบคันเล็กร้อยกว่าซีซีมาขี่นะสิ คุณแม่เลยไม่ยอมกลัวเสียหน้าเจ้าของร้านเพชร ถ้าเป็นบิ๊กไบท์ละก้อคุณแม่ยอมแน่นอน”
“ยายตูนเดี๋ยวจะโดนยึดกุญแจรถ”
ผู้เป็นแม่ดุลูกสาวคนเล็กทันทำเอาชายหนุ่มยิ้มๆท่ามกลางสายตาที่มองมาของพี่สะใภ้กับน้องสาว ทำให้พี่สะใภ้นึกย้อนไปถึงวันที่เธอรู้จักนพครั้งแรกหลังจากที่นพจบปริญญาตรีใหม่ๆก่อนจะไปเรียนต่อเมืองนอกหลังจากที่ต้นพาเธอมาที่บ้าน เธอเก็บความสงสัยว่าทำไมพี่ชายกับน้องชายหน้าตาไม่เหมือนกันเลย จนต้นมาบอกว่า ไม่ได้เป็นพี่น้องกันโดยตรง ต่างฝ่ายต่างเป็นลูกติด นพเป็นลูกติดจากผู้เป็นพ่อส่วนต้นเป็นลูกติดของผู้เป็นแม่ แล้วหลังจากนั้นก็มีน้องสาวกำเนิดมาอีกคน แต่ในสายตาของใจตั้งแต่ก่อนแต่งงานจนถึงวันนี้ พี่น้องทั้งสามคนรักกันดี ไม่มีไม่ถูกกัน คงมาจากผู้เป็นแม่ที่อบรมเลี้ยงลูกทั้งสามมาอย่างดี แม้กระทั่งตูนที่เป็นน้องสาวคนเล็กที่ตอนนี้ทำงานที่เดียวกับเธอ ก็ไม่เคยบ่นว่าพี่ชายทั้งสองให้ฟัง มีแต่ความรักความเคารพให้ตลอด แล้วความคิดของเธอก็มาหยุดเมื่อได้ยินคำตอบจากน้องชายสามีว่า
“ครับคุณแม่ แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงแล้วละ รถคันนี้นพได้ใช้แน่นอน เพราะนพได้เลื่อนตำแหน่ง ไปอยู่โรงงานที่สุราษฎร์นะครับ ต้องเอารถไปใช้แน่นอน”
ทำเอาพ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วคนที่แม่ถามทันที
“อ้าวทำไมต้องไปด้วยละ ตำแหน่งที่กรุงเทพไม่มีหรือไง”
“ไม่มีครับคุณแม่ นพได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายนะครับคุณแม่ คุณแม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ นพจะกลับมาทุกวันหยุดนั่งเครื่องแป็บเดียวเอง”
ลูกชายตอบเหมือนจะรู้ถึงความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่ ทำเอาแม่นิ่งไปก่อนที่พ่อจะถามว่า
“แล้วนพไปเมื่อไหร่ บริษัทมีที่พักให้หรือเปล่า”
“อีก 2เดือนครับพ่อ มีเวลาเตรียมตัว ที่พักนะมีครับแต่มันอยู่ในโรงงานนพอยากหาที่พักนอกโรงงานจะได้เป็นอิสระมั่ง”
“แล้วโรงงานอยู่แถวไหนละไกลจากตัวเมืองมากไหม”
“พอสมควรครับพ่อห่างจากสนามบินประมาณ70 กิโล นพถึงเอารถไปครับพ่อ มอเตอร์ไซด์อันตรายไม่อยากเสี่ยง”
“นพอยากได้ที่พักแบบไหนละบ้านหรือคอนโด”
“ไม่คอนโดก็อพาร์ทเมนท์นะครับพ่อ เป็นบ้านทำความสะอาดไม่ไหวอยู่คนเดียว”
“งั้นเดี๋ยวพ่อให้ลูกน้องที่นั่นหาให้แล้วกัน นพไม่ต้องกังวล เอาที่อยู่ของโรงงานมาให้พ่อ พ่อจะจัดการให้”
“ครับ”
นพรับด้วยคำสั้นๆแล้วไม่พูดอะไรต่อก้มหน้าไปทานข้าวโดยที่อยู่ในสายตาของพี่ชายตลอดเรื่องที่น้องชายจะย้ายไปต่างจังหวัดต้นรู้ก่อนหน้านี้แล้วระหว่างทางที่กลับบ้านนพเล่าให้ฟังเรียบร้อยพร้อมทั้งทายว่าพ่อกับคุณแม่จะมีปฏิกิริยาอะไรบ้างซึ่งก็ไม่ผิดจากที่นพทายไว้ ต้นรู้ดีว่าน้องชายเป็นคนนิสัยอย่างไร ภายนอกที่ดูเป็นคนเรียบร้อยขี้อายแต่ใจร้อนไม่ใช่เล่นกล้าเสี่ยงกับหลายๆเรื่อง และที่สำคัญนพไม่เคยอวดอ้างว่าเป็นลูกนายตำรวจใหญ่ระดับนายพลหรือมีพี่ชายเป็นตำรวจ นพไม่ชอบใช้บารมีของผู้เป็นพ่อมาแต่ไหนแต่ไรแล้วแต่ไม่กล้าปฏิเสธสิ่งที่พ่อทำให้ในทุกเรื่อง ขนาดต้นรู้จากเพื่อนที่เป็นตำรวจด้วยกันมาว่า น้องชายเคยโดนใบสั่งเพราะขับมอเตอร์ไซด์ชิดขวา นพไม่เถียงไม่อวดเบ่งยอมรับใบสั่งแต่โดยดี แต่พอตำรวจที่เตรียมจะออกใบสั่งพอเห็นนามสกุลจะคืนใบขับขี่ให้ นพไม่ยอม บอกว่าตนเองยอมเสียค่าปรับเพราะทำผิดจริง จนเพื่อนของต้นที่เป็นรองสารวัตรจราจรโรงพักนั้นเอาใบขับขี่ของน้องชายมาคืนให้ต้นโดยปรับในอัตราต่ำที่สุด ต้นจัดการจ่ายค่าปรับแทนน้องชายต่างบิดาแล้วเอาใบขับขี่มาคืนให้น้องชาย โดยที่นพไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นักในเรื่องของอภิสิทธิ์ต่างๆที่ได้รับ เรื่องนี้ทั้งพี่กับน้องต่างปิดปากเงียบไม่เล่าให้พ่อกับแม่ฟังเพราะกลัวมีปัญหาตามมา เรื่องที่พักที่พ่อจะช่วยเช่นกัน นพคงไม่กล้าปฏิเสธเหมือนเช่นเคยทั้งๆที่ไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ต้นก็บอกกับน้องชายที่ตัวเองรักเหมือนน้องแท้ๆว่า
“วันไปเอารถกระบะพี่ไปใช้ก่อนก็ได้จะได้ขนของไปสะดวก “
“ไม่ต้องหรอกพี่ต้นรถของนพขนไหว นพของไม่เยอะ ทีวี 1เครื่องกับโน๊ตบุ๊คก็พอแล้ว แค่หาที่พักที่มีเคเบิ้ลมีเน็ตก็จบแล้ว ขาดอะไรตรงไหนก็ซื้อเพิ่มเอา”
“งั้นพี่นพเอารถของตูนไปใช้ก็ได้นะ เครื่องพันสามประหยัดไม่กินน้ำมัน ใช้คนเดียวสบายยยยย ไม่ต้องกังวล ส่วนรถพี่นพตูนใช้เองนะพี่”
ทำเอาผู้เป็นแม่บอกทันที
“นี่ยายตูน รถเรามีก็ใช้ไป แม่ซื้อให้แล้วพึ่งทำงานไม่นานจะขับอะไรคันใหญ่ๆเอาตามนี้ไปก่อนทุกวันนี้ก็เอารถพี่ไปใช้เกือบทุกวัน แม่ไม่อยากบ่น”
“โธ่แม่ ตูนล้อพี่เค้าเล่น แหมตำแหน่งก็เลื่อนแล้วเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายวิศวะจะให้ขับไอ้คันจิ๋วได้ไงแบบพนักงานต๊อกต๋อยอย่างเรา เน๊อะพี่ใจเน๊อะ”
ใจได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไรแต่ผู้เป็นสามีบอกกับน้องคนเล็กแทนว่า
“หรือตูนจะเอาปิ๊คอัพของพี่ไปใช้ขับเคลื่อนสี่ล้อ คันใหญ่ด้วย”
“เปลี่ยนเป็นปาเจโร่อีกคันของพี่ต้นดีกว่า พ่อซื้อให้ก็ไม่ค่อยใช้”
“ใครบอกพี่ต้องใช้แล้วจ๊ะ ถึงให้ต้นไปใช้ปิ๊คอัพแทน”
“อ้าวทำละพี่ใจ”
“รถพี่ซ่อมยาวจะ รออะไหล่อยู่ต้องสั่งจากนอก เกือบเดือนเลยมั้ง”
ใจตอบน้องสะใภ้ด้วยใบหน้าที่ยิ้ม
“แหมอีกตั้งสองเดือนกว่าพี่นพจะย้ายไป เอามาใช้ก่อนก็มาได้”
น้องสาวบ่นออกมาเพื่อต้องการจะแหย่ผู้แม่มากกว่าเจตนาอื่น เพราะรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณนพ คุณแม่ต้องจัดการให้ทุกอย่างใครยุ่งไม่ได้ ยิ่งของที่เป็นของคุณนพใครจะขอใช้ต้องบอกคุณแม่ก่อนทุกครั้ง ไม่งั้นโดนบ่นจนหูชา ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าแม่รักพี่นพมากที่สุดแต่เธอก็ไม่เอามาคิด เพราะในพี่น้องทั้งหมดตูนเป็นคนที่มีครบมากกว่าพี่ๆทั้งสองคนคือมีทั้งพ่อแม่ที่แท้จริง
ระหว่างที่พี่น้องคุยกันโดยที่ผู้เป็นพ่อฟังด้วยความสบายใจที่พี่น้องคุยกันแบบรักใคร่ ถึงต้นจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ตนเองก็ดูแลและให้ความรักเท่ากับนพที่เป็นลูกแท้ๆ ทำให้ต้นเข้าเรียนตำรวจเพราะอยากเป็นตำรวจมือปราบเหมือนกับพ่อเลี้ยงและต้นก็ไม่ทำให้ผิดหวังเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อได้อย่างดีแต่พอต้นแต่งงานมีครอบครัว ผู้เป็นพ่อใช้บารมีโอนย้ายลูกตัวเองจากสายปราบปรามมานั่งโต๊ะทำงาน เพราะไม่อยากให้ลูกเหมือนตัวเองในวัยหนุ่มที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวจนทำให้โทษตัวเองมาถึงทุกวันนี้ว่าเป็นต้นเหตุให้แม่ของนพเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะตัวเองมัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว วันนั้นฝนตกหนักแต่นพในวัยขวบเศษๆเป็นไข้ตัวร้อน ทำให้แม่ของนพตัดสินใจขับรถจากแฟลตตำรวจพาลูกชายไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดแต่ด้วยความที่ไม่ชำนาญทางเพราะพึ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ทำให้ขับรถหลงทางกว่าจะเจอทางที่ถูกต้องก็เสียเวลาไปมากจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุเพราะถูกรถที่วิ่งผ่าไฟแดงมาชนเข้าด้านคนขับอย่างแรง นพที่นอนเบาะหลังปลอดภัยราวกับมีปาฏิหาริย์นพแทบไม่เป็นอะไรเลย แต่ผู้เป็นแม่อาการหนักและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลโดยไม่สั่งเสียอะไร ทำเอาตนเองเสียใจถึงทุกวันนี้ ถ้าวันนี้ตัวเองอยู่บ้านจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นอันขาด แต่ดีที่หลังจากแต่งงานใหม่กับแม่ของต้นที่เป็นเพื่อนกับแม่ของนพ เธอเอาใจใส่เลี้ยงดูนพเหมือนลูกตนเองมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ผู้เป็นพ่อดูออกว่า คนที่เป็นแม่นั้นห่วงนพมากกว่าลูกคนอื่นตลอดและยิ่งพอรู้ว่านพจะไปทำงานต่างจังหวัดต้องทำให้คนที่เป็นแม่ใจคอไม่ดีจะเหมือนตอนที่นพไปเรียนต่อที่เยอรมันผู้เป็นแม่แทบจะบินไปหาตลอดจนตนเองต้องบอกว่าลูกโตแล้วขอความเป็นอิสระให้ลูกบ้าง ผู้เป็นแม่ถึงยอมลดการบินไปหา ขนาดทุกวันนี้ นพไปอยู่คอนโดเพราะใกล้ที่ทำงานเธอยังให้ลูกกลับบ้านทุกวันหยุด และขอให้ทุกเย็นวันศุกร์ทุกคนต้องมาทานข้าวพร้อมหน้ากัน เพราะต้นก็แยกไปอยู่กับภรรยาที่บ้านเหลือแต่ลูกสาวคนเล็กเท่านั้น และต่อไปผู้เป็นแม่จะยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่ที่ลูกรักคนกลางจะไปทำงานไกลบ้าน
ในส่วนของผู้เป็นแม่นั้นใจคอไม่ดีจริงๆที่นพจะไปทำงานต่างจังหวัด ทุกวันนี้นพก็ไม่อยู่บ้านอยู่แล้วเพราะข้ออ้างว่าบ้านกับที่ทำงานไกลกัน ไม่อยากออกจากบ้านเช้าและกลับมาถึงบ้านก็ดึก เธอเลยยอมให้นพไปพักคอนโดแต่สั่งว่าต้องกลับบ้านทุกวันหยุด เธอจำได้อย่างดี หลังจากที่เธอรู้ข่าวว่าเพื่อนเธอเสียชีวิตเธอรีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันที พบว่านพนอนไข้ขึ้นสูงและร่างกายฟกช้ำบ้างพอสมควรอยู่บนเตียงโดยยังไม่รู้ว่าแม่ได้จากไปแล้ว เธอรับอาสาดูแลเด็กน้อยที่นอนเพ้อเพราะพิษไข้เพราะรู้ว่าพ่อของนพกำลังยุ่งและเสียใจอยู่ มันเลยเป็นความผูกพันที่มีต่อเด็กคนนี้ในทันที ตอนนั้นต้นอายุได้ 5ขวบแล้ว ที่สำคัญเธอพึ่งหย่าขาดกับสามีเก่า เพราะทนความเจ้าชู้ไม่ไหว จนกลายมาเป็นความเห็นใจกันกับพ่อของนพและแต่งงานกันในที่สุด และเหตุผลที่เธอรักนพมากกว่าลูกอีก2คนทั้งๆที่เธอเป็นผู้ให้กำเนิดเองนั้น
ในวันที่เธอตอบตกลงจะแต่งงานครั้งที่สองกับพ่อของนพ เธอตั้งจิตไปถึงเพื่อนของเธอที่จากไปแล้วว่า เธอขอสัญญาจะดูแลนพอย่างดียิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ ความทรงจำของนพกับแม่ที่แท้จริงนั้นค่อนข้างเลือนรางแต่เธอก็ไม่ปิดบังเด็กน้อยเธอเล่าเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนของเธอให้นพฟังทุกเรื่องที่เธอรู้จนทุกวันนี้นพจะมีรูปแม่ติดตัวอยู่ตลอด เธอนั้นทะนุถนอมนพมาตลอดเพราะรู้ว่า เด็กต้องการความอบอุ่น เธออธิบายให้ต้นฟังถึงความจำเป็นที่ต้องแต่งงานใหม่และเรื่องของนพที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ จนต้นนั้นรักนพเหมือนน้องแท้ๆแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดตูนขึ้นมาอีกคน แต่พี่ชายทั้งสองก็ดูแลน้องสาวคนเล็กเป็นอย่างดี ชื่อเล่นของตูนนั้นมากจากการใช้อักษรตัวหน้าชื่อเล่นของพี่ชายมารวมกันเลยออกมาเป็นชื่อตูน ช่วงนั้นเธอต้องรับภาระดูแลลูกทั้งสามคนอย่างหนัก เพราะผู้เป็นสามีนั้นทำงานที่ต่างจังหวัดเธอเป็นคนตัดสินใจเองที่จะไม่ย้ายตามมุ่งหน้าทำธุรกิจของครอบครัวที่เปิดร้านขายเพชร เธอไม่อยากให้ลูกมีปัญหาในการย้ายที่เรียนและที่สำคัญเธอกลัวจะเกิดเรื่องเหมือนเพื่อนสนิทของเธอ
เธอดูแลลูกทั้ง 3 คนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนพ เธอดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน ทำให้นพกลายเป็นเด็กสุภาพเรียบร้อยขี้อายเชื่อฟังพ่อแม่ จริงๆแล้วเธอไม่อยากให้ลูกเป็นตำรวจเท่าไหร่เพราะกลัวลูกจะเจออันตราย แต่ในที่สุดต้นก็เจริญรอยตามพ่อ ที่เป็นเคยตำรวจมือปราบชื่อดังแต่ยังดีที่พอแต่งงานแล้วต้นย้ายมาทำงานด้านเอกสารแทน แต่เธอก็โล่งใจที่นพเลือกเรียนวิศวะส่วนตูนจบมาทางด้านเภสัชซึ่งตอนนี้ทำงานที่บริษัทผลิตยาและลูกสะใภ้เธอก็ทำงานด้านบัญชีที่บริษัทนี้ แต่ใครๆก็มีคำถามว่าทำไมลูกทั้งสามคนเธอเรียก นพว่าคุณนพอยู่คนเดียว คำตอบที่ได้รับจากเธอ “คือเรียกติดปากตั้งแต่นพยังเล็กๆ” และนพก็เรียกเธอว่า “คุณแม่ทุกคำ” จนทุกคนในครอบครัวชินกันไปเอง
ฝนเริ่มซาหลังจากทุกคนในครอบครัวต่างทานข้าวเสร็จย้ายมานั่งคุยกันในห้องรับแขก ผู้เป็นแม่ได้สอบถามถึงเรื่องที่ลูกชายคนกลางจะย้ายไปสุราษฎร์ไม่ขาดปากด้วยความเป็นห่วง นพได้อธิบายกับทุกคำถามทุกข้อสงสัยของผู้เป็นแม่ได้หมด ก่อนที่ต้นจะพาภรรยากลับบ้านเพราะเห็นว่าดึกแล้ว
“พี่ใจเอาพายไก่แบ่งไปกินด้วยสิ”
“ไม่ดีกว่า เอาไว้ให้คุณแม่”
“นพซื้อมาเยอะพี่ แบ่งไปเลยไม่งั้นถ้ากินกันไม่หมด เป็นภาระตูนอีก”
“พี่นพ ว่าแต่น้อง”
ตูนโวยวายขึ้นมา แต่ผู้เป็นแม่บอกว่าไม่ต้องห่วงเตรียมแบ่งไว้ให้แล้วก่อนที่จะไปหยิบพายไก่ที่เตรียมไว้ให้สองสามีภรรยาพอทั้งคู่ลากลับ นพเดินขึ้นไปบนห้องนอนที่ถูกดูแลอย่างดีตลอดจากผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะมานั่งบนเก้าอี้ แล้วคิดเรื่องจิปาถะ ทำไมนพจะไม่รักผู้เป็นแม่ละถึงจะรู้ว่าเป็นแม่เลี้ยงตั้งแต่นพจำความได้คุณแม่ดูแลนพมาอย่างดีตลอดจนทดแทนความรักของแม่แท้ๆได้ ทำให้นพเป็นคนที่รักและหวงครอบครัวเป็นอย่างมาก ใครอย่ามาแตะหรือมาก้าวก่ายนพจะไม่ยอมเด็ดขาด แต่แล้วตอนที่นพกำลังจะจบปริญญาตรีนพ ระแคะระคายมาว่าพ่อมีภรรยาน้อย โดยที่แม่ไม่รู้ ขนาดพี่ชายก็ไม่รู้เพราะอยู่ในช่วงอบรมหลักสูตรปราบปรามของตำรวจอยู่ นพรู้อยู่คนเดียว นพไปแอบสืบมาจนรู้ว่าเมียน้อยของพ่อนั้นคือตำรวจหญิงที่นั่งทำงานหน้าห้องของพ่อนั่นเอง
นพเกลียดเรื่องแบบนี้มากเพราะกลัวจะมากระทบกับครอบครัว ตูนตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ปี 2 พี่ต้นก็กำลังจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ส่วนคุณแม่นพไม่อยากให้คุณแม่ช้ำใจอีกเพราะคุณแม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้ว นพคิดหาวิธีอยู่นานว่าจะทำแบบไหนให้พ่อเลิกกับตำรวจหญิงคนนี้ จนนพวางแผนที่ตนเองคิดไว้อย่างดี นพเริ่มหาวิธีเข้าไปตีสนิทโดยใช้พ่อบังหน้า ตำรวจหญิงคนนั้นก็ไม่เฉลียวใจนึกว่านพมาหาพ่อที่ทำงาน ทุกครั้งไป
จนวันหนึ่งพ่อของนพไปราชการที่ต่างประเทศสองอาทิตย์ นพจึงได้เริ่มแผนการขั้นต่อไป นพได้แกล้งโทรไปหาตำรวจหญิงคนนั้นว่าพ่อฝากเอกสารไว้ให้ นพนัดไปเจอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งช่วงเย็น ตำรวจหญิงคนนั้นมีชื่อเล่นว่านิ่ม อายุไล่เลี่ยกับต้นพึ่งติดยศเป็นสัญญาบัตรได้ไม่นานเท่าไหร่ พอได้เวลานพไปถึงร้านอาหารก่อนเวลาเล็กน้อย นพนั่งรอไม่นานเท่าไหร่ นิ่มที่พึ่งเลิกงานอยู่ในชุดตำรวจก็มาถึงที่ร้าน นพโบกมือเรียกเมื่อเห็นเธอยืนตรงหน้าประตูเธอเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมรอยยิ้มให้กับลูกชายของเจ้านายเธอ
“สวัสดีครับพี่นิ่ม นั่งก่อนสิ”
เธอนั่งลงตามคำเชิญ
“พี่นิ่มทานอะไรมาหรือยังครับ ทานมื้อเย็นกันก่อนก็ได้”
“ดีเหมือนกัน กว่าจะไปถึงบ้านก็ค่ำพอดี ทำไมนพไม่เอาเอกสารไปให้พี่ที่ทำงานละ”
“พ่อไม่อยู่นพไม่อยากเข้าไปครับ มันยังไงก็ไม่รู้ไปทีใครๆก็มอง”
“ก็ลูกนายตำรวจชื่อดังใครๆมองสิคะ แล้วเอกสารที่ท่านฝากให้พี่ละคะ”
นพแกล้งทำเป็นค้นที่กระเป๋าก่อนตอบว่า
“อ้าวนพเอาไว้ในรถแน่ ลืมใส่กระเป๋ามา งั้นนพไปเอาให้ก่อนนะครับพี่นิ่ม”
“ไม่เป็นไรทานข้าวก่อนแล้วค่อยเดินไปเอาเอกสารด้วยกันก็ได้”
นิ่มไม่รู้ว่าได้ตกหลุมพรางของนพเข้าไปแล้ว ทั้งสองคนต่างพูดคุยกันเรื่องทั่วไปๆระหว่างทานข้าวแต่นพสังเกตได้ว่านิ่มพยายามที่จะเลื่องเอ่ยถึงคุณแม่ของนพ และเธอก็ไม่รู้ว่านพแอบใส่ยานอนหลับแบบอ่อนๆที่ให้เพื่อนช่วยหาให้ลงไปในแก้วน้ำของนิ่มตอนช่วงที่ช่วยรินน้ำอัดลมให้เธอ นิ่มไม่รู้ว่าโดนวางยา จนทั้งคู่ทานเสร็จหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย นพเดินพานิ่มที่เริ่มจะรู้สึกมึนๆไปที่รถ พอนพทำท่าจะไปหยิบเอกสารที่อยู่ในรถนิ่มบอกมาว่า
“นพ พี่รู้สึกมึนหัวมากเลยจู่ๆก็เป็นขึ้นมา”
“อืมมมมม งั้นพี่มานั่งในรถรับแอร์เย็นๆก่อนดีกว่าครับ เผื่อจะดีขึ้น”
“จ๊ะพี่ก็ว่าแบบนั้น”
นพประคองตำรวจสาวรุ่นพี่เข้าไปนั่งในรถ แล้วตัวเองก็เดินมานั่งฝั่งคนขับก่อนสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์พร้อมทำเป็นหวังดีหยิบขวดน้ำที่เตรียมไว้ยื่นส่งให้ พี่นิ่มลองจิบน้ำด้วยสิครับ เผื่อจะช่วยได้ เธอหลงกลดื่มน้ำที่ผสมยานอนหลับที่นพเตรียมเข้าไปอีกครั้ง ทำเอาเธอหมดสติไปในทันที นพยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วรับขับรถไปที่อพาร์ทเม้นท์ ที่นพได้แอบไปเช่าไว้2-3เดือนแล้วเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นพขับรถพาร่างอันไร้สติของนิ่มมาถึงลานจอดรถอพาร์ทเม้นท์ที่เช่าไว้ ก่อนที่จะประคองร่างของตำรวจสาวไปที่ห้องซึ่งโชคดีอย่างมากที่ปลอดคน นพบรรจงวางร่างของนิ่มลงบนเตียงแล้วถอยออกมายืนดู เหมือนจะชั่งใจอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดนพก็เดินหน้าแล้วนพไม่ถอย
เพื่อครอบครัวและเพื่อคุณแม่ นพหันไปหยิบกล้องถ่ายรูปที่เตรียมไว้ก่อนจะค่อยๆถอดชุดฟอร์มตำรวจออกจากร่างของนิ่ม เสื้อถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว จนเหลือแต่ยกทรง นพเริ่มบันทึกภาพในหลายๆมุมก่อนที่จะปลดกระโปรงออก ร่างของนิ่มเหลือแต่ยกทรงกับกางเกงใน หุ่นเธอค่อนข้างดีเหมือนคนที่ออกกำลังกายบ่อยๆ ผิวค่อนข้างจะคล้ำ นพบันทึกภาพต่อจนพอใจถึงจะปลดชั้นในออก หัวนมของนิ่มนั้นเริ่มคล้ำและหน้าอกไม่เต่งตึง หมอยนั้นดกปกคลุมโคกหีที่ค่อนข้างใหญ่และคล้ำ นพบันทึกภาพต่อทันที โดยจัดท่าให้นิ่ม ทุกซอกทุกมุมของนิ่มถูกนพบันทึกภาพไว้หมดแล้ว นพตั้งใจจะทำแบบนี้เพื่อจะให้นิ่มเลิกยุ่งกับพ่อของตัวเอง นพจะเอารูปพวกนี้ไปขู่กับนิ่มว่าถ้าไม่เลิกยุ่งเกี่ยวกับพ่อตัวเองนพจะเอาเผยแพร่ภาพพวกนี้
ตอนนั้นนพไม่กลัวอะไรเพราะนึกอย่างเดียวถ้าเกิดอะไรขึ้น พ่อต้องช่วยเหลือตนเองแน่นอน ขนาดที่บ้านยังมีตำรวจแวะมาดูให้ตลอดไม่รวมร้านเพชรของคุณแม่ มีตำรวจมาตรวจเกือบทั้งวัน เพราะบารมีของผู้เป็นพ่อถ้าเกิดเรื่องจริงๆทำไมจะช่วยลูกชายไม่ได้ แต่พอถ่ายไปถ่ายมาร่างเปลือยที่ได้สัดส่วนอยู่ตรงหน้ามันปลุกอารมณ์หนุ่มของนพได้อย่างดี นพหยุดบันทึกภาพแล้วมานั่งใกล้ร่างที่ยังไม่ได้สติของนิ่ม นพบรรจงเอามือรูปคลำที่หน้าอกตำรวจสาวอย่างแผ่วเบา และเริ่มเอานิ้วบี้ที่หัวนมที่เริ่มจะคล้ำ จนนพอดใจไม่ไหวเอาหน้าก้มลงไปที่หน้าอกของนิ่มพร้อมกับซุกไซร้ไปมา ดูดสลับไปมาทั้งสองเต้าจนห้ามใจตัวเองไม่อยู่จากที่ตอนแรกนพยังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะถ่ายรูปอย่างเดียวแต่จะไม่ล่วงเกินนิ่มไปมากกว่านี้
แต่แล้วนพก็อดใจไม่ไหวถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก แต่เหมือนจะคิดอะไรได้ นพเอาขาตั้งกล้องกางออกและเอาต้องไปวางบนขาตั้งโดยที่ไม่กดสวิทช์ อะไรเพียงแต่หันหน้ากล้องมาทางเตียงเท่านั้น และเดินเปลือยไปหาร่างของนิ่มบนเตียง นพเริ่มซุกไซร้ตามใบหน้าและลำคอของหญิงสาวก่อนที่จะมาดูดดื่มกับเต้านมที่ค่อนข้างเหลวทั้งสองข้างอีกครั้ง มันต่างกับสาวคนอื่นๆที่นพเคยผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสาวในรั้วมหาวิทยาลัยหรือสาวนั่งดริ้งที่นพเคยหิ้วเข้าโรงแรม เพราะทุกคนต่างมีสติแต่นี้เป็นครั้งแรกที่นพกำลังเล้าโลมผู้หญิงที่ไม่รู้ตัว
นพเลื่อนหน้าลงไปที่โคกหีของตำรวจสาวแล้วลงลิ้นแต่นิ่มเริ่มครางออกมาเบาๆนพเลียพักใหญ่ก่อนจะจับนิ่มนอนคว่ำแล้วพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังก่อนจะจับก้นเธอยกสูงขึ้น เพราะตัวเองทนไม่ไหวแล้ว และนิ่มเริ่มออกอย่างต่อเนื่อง พอจัดท่าเสร็จ นพไม่รอช้าเอามือจับเอวของนิ่มและดันควยของตัวเองที่แข็งเต็มที่แล้วเข้าไปในรูหีซึ่งช่องทางมันสะดวก นพดันเข้าออกอย่างช้าๆไม่รีบเร่ง ในส่วนของนิ่มเธอรู้สึกเหมือนฝัน ครึ่งหลับครึ่งตื่นว่าเธอถูกเล้าโลมมันสร้างความเสียวให้กับตัวเธอได้อย่างดี ยิ่งถูกเลียที่โคกหีมันยิ่งสร้างความเสียวให้กับเธอแต่ เธอยังแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือเป็นความจริง จนเธอเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอะไรล่วงล้ำเข้าในตัวเธอและเธอกำลังอยู่ในท่าโก้งโค้งและรู้สึกเสียวอย่างมากจนเผลอครางออกมา นิ่มตั้งสติสักครู่ ก่อนจะหันไปดูว่าใครเป็นคนที่กำลังสร้างความเสียวให้กับเธอทำเอาเธอตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่านพที่กำลังก้มหน้าก้มตากระเด้าเธออย่างต่อเนื่อง
“อูยยยยย นพนี่มันอะไรกันนี่ พี่บอกให้หยุด อย่า พี่ขอร้อง”
“หยุดทำไมละครับพี่นิ่ม พี่เสียวหรือเปล่า”
นพตอบพร้อมกระเด้าอย่าต่อเนื่อง เพิ่มความเสียวให้กับนิ่มอย่างมาก
“นพ ไม่เอาหยุดๆๆๆ อูยยยย บอกว่าอย่าโอยยยยซี๊ดดดดดดด”
“งั้นหยุดนะครับพี่นิ่ม”
นพแกล้งตอบไปอย่างนั้นเพราะดูออกว่าอารมณ์ของตำรวจสาวเกินขีดสุดแล้ว นิ่มไม่ตอบอะไรเพราะถ้านพหยุดจริงๆเธอคงคลั่งตายผู้หญิงที่มีประสบการณ์มากอย่างเธอคงไม่อยากให้ค้างคา แต่นิ่มซุกหน้าลงไปที่หมอน เหมือนจะเปิดโอกาสให้ลูกชายของเจ้านายตัวเองกระทำการได้ต่อ นพพอเห็นหญิงสาวไม่ตอบอะไรก็เดินหน้ากระเด้าช้าสลับเร็วไปเรื่อยๆไม่เร่งจังหวะ พร้อมฟังเสียงครางของหญิงสาวที่ส่งเสียงไม่หยุดออกมาและมีเด้งรับในบางครั้ง ลีลาแบบนี้เองที่ทำให้พ่อของนพหลงใหลถึงกับเลี้ยงดูเป็นเมียน้อย จนนพเริ่งเร่งจังหวะเพราะรู้ตัวเองว่าจะถึงจุดหมายแล้ว
หญิงสาวก็เช่นกันเธอลืมไปทุกอย่างกับสิ่งที่ถูกกระทำตอนนี่เธอคิดแต่เรื่องความเสียวที่หนุ่มรุ่นน้องมอบให้ นพอึดจริงๆเพราะปกตินิ่มเป็นคนที่ถึงยากอยู่แล้ว แต่เจอแบบนี้เข้าไปหญิงสาวถึงกับเผลอใจไปกับสิ่งที่กำลังเจอเพราะชายหนุ่มกำลังพาเธอไปถึงจุดมุ่งหมายยิ่งบางครั้งนพเอามือมาตีหรือขยำที่สะโพกเธอมันเพิ่มความเสียวให้กับเธอมากขึ้น นิ่งส่งเสียงครวญครางไม่หยุดและเด้งรับจนเธอรู้สึกว่ามีน้ำอุ่นๆทะลักเข้าไปในรูหีของเธอ พร้อมกับตัวเธอเกร็งไปทั้งตัว ภายในตอดรัดบีบแน่นพร้อมเสียงครางยาวๆจากทั้งคู่ นพหลังจากปล่อยน้ำกามเข้าไปในร่างของตำรวจสาวก็ลงมานอนหายใจแบบหอบๆข้างตัวเธอที่พลิกตัวมานอนหงาย เช่นกัน ความมึนงงจากฤทธิ์ยาเริ่มจางหายสติเริ่มกลับคืนมานิ่มรู้ทันทีว่าถูกนพเอาเรื่องเอกสารมาหลอกเธอ เธอลุกขึ้นนั่งและเอาผ้าห่มมาปิดตัวที่ตัวทันที
“นี่มันอะไรกัน นพ ทำไมทำกับพี่แบบนี้”
นพลุกขึ้นนั่งบ้างก่อนจะตอบว่า
“แล้วพี่ทำไมทำกับครอบครัวผมแบบนี้ละ อย่านึกว่าผมไม่รู้นะ ผมรู้มาตลอดแต่ผมไม่อยากให้เรื่องรู้ไปถึงคุณแม่”
นิ่มนิ่งคิดไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอยากก้าวหน้าอยากได้ยศสูงขึ้นหรือ เธอถึงเอาตัวแลกโดยการหว่านเสน่ห์ให้กับท่าน จนได้สิ่งที่ต้องการพร้อมกับการตกเป็นอนุภรรยา ที่ผ่านๆมาตั้งแต่สมัยเรียนเธอก็ผ่านผู้ชายมาเยอะพอสมควร นิ่มคิดว่าไม่เสียหายมิหนำซ้ำสิ่งที่ได้มาเธอคิดว่ามันช่างคุ้มค่ากับยศถาบรรดาศักดิ์ที่ได้มา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอกังวลว่าลูกชายคนโตของท่านจะเป็นคนรู้แต่ที่ไหนได้กลับมาเป็นลูกคนกลาง เธอพอจะรู้ว่านพนั้นรักคุณแม่ขนาดไหนแล้วต่อไปเธอจะทำอย่างไร ในเมื่อเธอนั้นตกเป็นของทั้งพ่อและลูก คิดๆก็อยากจะร้องไห้ ยิ่งพอมองไปเห็นกล้องที่ตั้งอยู่ เธอแทบช็อค นิ่มกอดผ้าห่มแน่นและนึกว่าบทรักของนพกับเธอที่ได้ถูกบันทึกไว้จะต้องกลายเป็นข้อต่อรองแน่นอน แต่เธอแข็งใจพูดมาว่า
“นพ พี่จะแจ้งความนะที่ทำกับพี่แบบนี้”
นพยักไหล่เหมือนไม่แคร์
“ก็เอาสิครับ แจ้งก็แจ้ง ผมไม่สน เพราะยังไงภาพของพี่ก็ถูกเผยแพร่แน่นอน และพี่คิดหรือว่าจะทำอะไรผมได้ พี่คิดดูว่าพ่อผมจะช่วยใครระหว่างผมที่เป็นลูกชายแท้ๆกับพี่ที่เป็นเมียน้อยจริงๆผมอยากเรียกนางบำเรอมากกว่าพี่ลองคิดดู ใครจะเสียมากกว่ากัน”
นพพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวและนึกว่าขอลักไก่เรื่องคลิปไว้ก่อนเพราะตนเองถ่ายแต่ภาพนิ่งตอนนิ่มเปลือยเท่านั้นและคิดว่าได้ผลเพราะดูตำรวจสาวสีหน้าซีดขึ้นมีน้ำตาคลอก้มหน้า ก่อนที่จะตอบมาด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“แล้วจะให้พี่ทำยังไง”
“เลิกติดต่อกับพ่อผมสิครับ ยศพี่ก็ได้แล้วทำเรื่องขอย้ายไปที่ไหนก็ได้ ถ้าพี่ทำตามนี้ผมสัญญาว่าเรื่องนี้จะรู้กันแค่เราส่วนเรื่องของพ่อกับพี่ในบ้านจะมีผมเท่านั้นที่รู้คุณแม่ไม่มีทางที่จะรู้เรื่อง ผมไม่อยากให้คุณแม่เสียใจไปมากกว่าที่เคยเจอมาแล้ว”
เธอนิ่งไม่ตอบทันทีเหมือนจะครุ่นคิดในที่สุดเธอพยักหน้าเหมือนยอมรับในที่นพบอก นพไม่ตอบอะไรแต่เดินเปลือยไปที่กล้องทำทีเป็นปิดกล้องแล้วถอดกล้องออกจากขาตั้งกล้อง เอามาวางไว้บนเก้าอี้โดยลืมไปอย่างว่าร่างเปลือยของตนเองตกอยู่ในสายตาของตำตรวจสาวรุ่นพี่ มันกลับกลายเป็นการปลุกอารมณ์ของนิ่มขึ้นมา ปกตินิ่มจัดว่าเป็นสาวไฟแรงสูงเธอแทบไม่เคยขาดผู้ชาย มาซาลงตอนที่เป็นตำรวจยิ่งมาเป็นอนุภรรยาของพ่อนพแล้วเธอเลิกการติดต่อกับบรรดาคู่ขาของเธอทันที แต่พอมาร่างกายของชายหนุ่มที่ออกกำลังกายดูแลตัวเองอย่างดี มันปลุกอารมณ์เธอขึ้นมาจนได้ทั้งๆที่ตัวเองกำลังตกใจกับสิ่งทีเกิดขึ้นและยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้ตามข้อเสนอของนพ เธอรับปากไปอย่างงั้นก่อนเรื่องจะได้ไม่บานปลาย ไม่อย่างนั้นมีผลต่ออนาคตเธอแน่นอน แต่พอเห็นร่างเปลือยของนพอย่างเต็มตามันสร้างอารมณ์ของเธอได้อย่างดี
จนนพเดินกลับมานั่งที่เตียงอีกครั้ง นิ่มจงใจปล่อยผ้าห่มที่เอาปิดตัวอยู่ให้ลงมากองบนเตียง ซึ่งได้ผลทำให้นพจ้องมองที่นมของเธอทันที พอเห็นแบบนั้นนิ่มส่งสายตาเชิญชวนให้นพทันที เพราะมันถึงขั้นนี้แล้วเธอไม่มีอะไรที่ต้องสูญเสียอีกแล้วอย่างน้อยก็เปลี่ยนมาสร้างความสุขให้กับเธอจะดีกว่า ก่อนที่นพจะตั้งตัวนิ่มเป็นฝ่ายรุกทันที เธอขยับตัวไปใกล้นพก่อนที่จะส่งสายตาพร้อมมือของเธอเอื้อมไปจับควยของนพที่ยังอ่อนตัวอยู่ แล้วขยำเบาๆก่อนรูดไปมา นพพอเห็นตำรวจสาวทำแบบนี้ก็ปล่อยให้ทำเพราะดูสายตาของเธอช่างเชิญชวนเหลือเกิน นพคิดว่าบทรักที่ผ่านมาเมื่อสักครู่นี้คงไม่จุใจไหนๆเธอยอมรับคำขอแกมบังคับแล้วควรจะหาความสุขจากเรือนร่างของเธออีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร
นิ่มผลักนพให้นอนหงายก่อนที่จะก้มหน้าไปที่กลางลำตัวของชายหนุ่มเอาปากครอบควยที่ยังไม่ตื่นตัวของนพสลับกับการใช้มือรูดและลิ้นเลียไปทั่วจนควยขอนพแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่สนใจเสียครางของชายหนุ่มที่ครางไม่หยุด นิ่มยังใช้ปากอย่างต่อเนื่องพร้อมนึกว่า ควยของนพใหญ่จริงๆเธอเอามือของนพให้มาจับที่นมของเธอ ซึ่งนพสนองตอบอย่างดีทั้งลูบคลำทั้งบีบเคล้น จนนิ่มทนไม่ไหวลุกขึ้นมาคร่อมบนตัวนพก่อนบอกว่า
“เมื่อกี้ถ่ายคลิปพี่ใช่ไหม พี่เอาคืนนะ “
แล้วเธอไม่รอคำตอบหย่อนตัวลงไปเอาหีครอบลงไปบนควยที่ผงาดเต็มที่แล้วหย่อนลงไปจนสุดก่อนขย่มตัวไปพร้อมเสียงครวญคราง นิ่มแอ่นตัวไปข้างหลังพร้อมเอามือยันที่เตียงก่อนขย่มอย่างเต็มแรง มือของนพก็ลูบคลำที่นมของเธออย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่ต่างมอบความสุขให้กันและกันอย่างเต็มที่ นิ่มเจอของที่ถูกใจทั้งอึดทั้งใหญ่ ทำเอาเธอถึงกับหลงใหลและนพสนองตอบเธอได้อย่างดี ถึงแม้ผู้เป็นพ่อของนพจะมองความสุขให้กับเธอได้เต็มที่ แต่นพนั้นหนุ่มแน่นกว่า เธอยิ่งขย่มแรงขึ้นพร้อมกับการเด้งสวนของนพ
“โอ้วๆๆๆๆ นพอย่าเด้งแรงพี่เจ็บซีดดดดดดมันโดนมดลูก”
“ครับพี่ครับ ซีดดดดดดดดโอ่วๆๆๆ พี่นิ่มเก่งจริงๆ”
“ซี๊ดดดดด ชอบใช่มั้ยละโอ่วๆๆ อย่าติดใจพี่ละ”
เสียงโหนกเนื้อของทั้งคู่กระทบกันดังตั่บๆๆๆ พร้อมกับเสียงเตียงสปริงที่ลั่นตามจังหวะการโยกของทั้งคู่และยิ่งดังถี่ขึ้น เมื่อนิ่มเร่งจังหวะ
“โอววว นพจ๋า พี่จะถึงแล้วอูยๆๆๆๆๆๆ”
“ซี๊ดดดดดดดดเหมือนกันครับพี่ โอ่ววววววววว”
นพเด้งขึ้นรับการขย่มของตำรวจสาวก่อนจะปล่อยน้ำกามพุ่งเข้าไปในรูหีของนิ่ม พร้อมรับการตอดรัดภายในของเธอ นิ่มก้มตัวลงมานอนทับบนตัวของชายหนุ่มพร้อมหายใจแรงๆอย่างหอบเหนื่อย มันเป็นเกมส์รักที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดที่จะเจอคู่ขาแบบนี้ เธอปล่อยให้นพหลั่งภายในได้ตามสบายเพราะเธอกินยาคุมอยู่แล้ว นิ่มเอาปากไปประกบกับนพทั้งคู่ต่างแลกลิ้นก่อนจะบอกกับนพว่า
“พอใจแล้วหรือยังละ”
“ผมต้องถามพี่มากกว่านะ”
“เกินพอเลยมั้ง “
นพเอามือไปลูบคลำก้นที่เปล่าเปลือยของตำรวจสาวอย่างแผ่วเบาก่อนจะบอกกับนิ่มว่า
“แล้วเรื่องของเราละครับ”
เธอหอมแก้มนพเบาๆก่อนจะตอบว่า
“พี่ชักจะติดใจนพแล้ว ส่วนเรื่องที่นพบอกมานะพี่จะหาวิธีเองพี่สัญญา”
แล้วเธอลุกขึ้นยืนโดยส่งสายตาที่มีความหมายมาให้ก่อนจะเดินไปที่ห้องน้ำ หลังจากนั้นนพได้พาเธอไปส่งที่ห้องพักของเธอ และทั้งคู่แอบนัดเจอกันอยู่ประจำที่อพาร์ทเม้นท์ของนพที่ทั้งคู่ใช้เป็นรังรัก ต่างฝ่ายต่างตอบสนองความต้องการให้กันและกันเป็นอย่างดี นพนั้นถึงกับหลงใหลลีลาการใช้ปากของนิ่มเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับนิ่มที่ติดใจลีการรักของนพ จนเต็มใจให้บันทึกภาพเวลาที่ทั้งคู่ร่วมรักกัน มีหลายครั้งที่เธอถูกบันทึกภาพตอนทำรักด้วยปากให้นพทั้งๆที่ยังแต่งเครื่องแบบอยู่ หรือที่เธอถูกเย็ดทั้งเครื่องแบบที่ถูกถลกกระโปรงขึ้นเท่านั้นและก็มาเปิดดูเพื่อปลุกอารมณ์กันทุกครั้งซึ่งเธอเคยถามนพว่าจะขอดูคลิปที่เธอถูกลักหลับ นพบอกไปว่าลบไปเรียบร้อยแล้ว นิ่มก็ไม่ติดใจก่อนที่เธอจะทำตามสัญญาให้กับนพก่อนจะไปเรียนต่อ เธอแจ้งขอย้ายไปบ้านเกิดของเธอทางภาคอีสาน
โดยอ้างว่าจะไปดูแลพ่อแม่ ซึ่งพ่อของนพก็ยินยอม เมื่อนพไปเรียนเมืองนอกความสัมพันธ์ลับของนพกับตำรวจสาวก็เลิกรากันไปเอง พ่อของนพก็ไม่มีอนุภรรยาอีก รูปและคลิปนั้นนพยังเก็บไว้อยู่ว่างๆก็เอามาดู นพนั้นไม่ข่าวคราวของเธออีกเลย นพนั่งคิดถึงอดีตก่อนจะยิ้มออกมาว่าตัวเองเสี่ยงพอสมควรแต่ทำไปแล้วครอบครัวไม่มีปัญหา ไม่มีใครรู้เรื่องนี้และผลพลอยได้ที่ตามมาคือ การสร้างความสุขให้กับตนเองเป็นอย่างมากก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำก่อนเข้านอน
เวลาผ่านไป 3เดือน นพย้ายมารับตำแหน่งที่สุราษฎร์เป็นที่เรียบร้อยและได้ที่พักเป็นอพาร์ทเม้นท์อย่างดีที่ลูกน้องของพ่อจัดหาให้ แม้จะไกลจากโรงงานพอสมควรแต่ก็ขับรถไปกลับสะดวก ก่อนที่นพจะย้ายมานพได้ไปขอร้องกับพ่อว่า อย่าให้ลูกน้องไปแวะเวียนดูแลเพราะนพรู้ว่าไม่อิสระ ซึ่งผู้เป็นพ่อรับปากแต่บอกว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นให้ติดต่อใครได้บ้าง นพมาอยู่ได้ไม่นานก็พอจะรู้เส้นทางจนวันนี้หลังเลิกงาน นพลองขับรถศึกษาเส้นทางก่อนที่จะเจอร้านอาหารและตลาดใหญ่แห่งหนึ่ง นพตัดสินใจที่จะเดินสำรวจตลาดดูแต่พอเดินได้สักพักนพได้ยินเสียงที่คุ้นๆทักมาว่า
“นั่นนพใช่มั้ย”
นพหันไปทางเสียงพบว่าเป็นนิ่มที่ใส่ชุดตำรวจยืนมองอยู่ไม่ห่าง
“อ้าวพี่นิ่ม”
ทั้งคู่ต่างทักทายกัน นิ่มดูมีน้ำมีนวลขึ้น เธอบอกกับนพว่าเธอยังประจำอยู่ที่บ้านเกิดแต่ถูกส่งมาช่วยงานเอกสารที่นี่ประมาณ 1เดือนนพนั้นบอกเธอไปว่าถูกย้ายมาที่นี่ ก่อนที่ทั้งคู่ได้เดินไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารใกล้ตลาดแห่งนั้น นิ่มไม่ถามถึงเรื่องครอบครัวนพเท่าไหร่นักแต่เธอบอกว่าเธอแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก จนได้เวลาหลังจากที่ทั้งคู่เดินออกจากร้านอาหาร นพเอามือไปคล้องเอวของนิ่มโดยที่หญิงสาวไม่ปัดป้องก่อนที่นพถามว่า
“ห้องพี่หรือห้องผมละ”
“ไปโรงแรมที่พี่พักก็ได้มันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่”
ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่รถของนพ ทำไมนพจะไม่รู้ว่านิ่มต้องการอะไรเพราะระหว่างที่พูดคุยกันทั้งท่าทางทั้งแววตาของนิ่มนั้นเชิญชวนเหลือเกินแถมยังเอามือมากุมมือของนพพร้อมใช้นิ้วเขี่ยที่ฝ่ามือ นพคงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยออกไปเมื่อฝ่ายหญิงสาวมีทีท่า เพราะยังติดใจกับลีลาการใช้ปากของตำรวจสาวอยู่ส่วนของนิ่มก็เช่นกัน ถึงจะแต่งงานแล้วแต่เมื่อมาเจอกับคู่ขาเก่าที่มอบความสุขให้กับเธอได้เต็มที่ เธอควรจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากที่ทั้งคู่ถึงห้องพักของนิ่ม นพนั่งลงบนเก้าอี้ตำรวจสาวที่ล็อคห้องเรียบร้อยได้เดินยิ้มแบบโปรยสวาทเข้ามาใกล้ๆและเหมือนจะรู้ตัวเมื่อเธอถูกกดตัวให้นั่งลงกับพื้น มือของเธอเอื้อมไปปลดเข็มขัดและรูดซิบกางเกงของชายหนุ่มพร้อมพูดว่า
“พี่กินก่อนนะ”
นพพยักหน้าพร้อมกับรับรู้ว่า ไฟราคะของคู่กำลังถูกจุดติดอีกครั้ง