GhostWriter ภาคเวนิสพิศวาส ตอนที่ 9 ตอนพิเศษ–ความรักและความฝัน-------------------------------
---- 9.1 ข้าคือนาฬิกา ----ข้าคือนาฬิกา นับตั้งแต่ 3,500 ปีก่อน ข้าได้ถือกำเนิดขึ้นมาในโลกแสนยุ่งยากใบนี้
มนุษย์รู้จักข้าในนามของนาฬิกาแดด แต่ความจริงแล้วข้ากำเนิดมานานนักนับตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกใบนี้แล้ว ข้าถือกำเนิดมาพร้อมกับที่พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีความสว่าง" แล้วความสว่างก็เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับข้า
มนุษย์อย่างพวกเจ้ามักคิดว่าซาตานคือผู้ครอบงำความคิดและจิตใจของมนุษย์ เป็นเจ้านายเหนือดวงใจมนุษย์ ข้าอยากจะหัวเราะเสียเต็มประดา เจ้าทั้งหลายนะตกเป็นทาสของข้ายิ่งกว่าตกเป็นทาสของเจ้าซาตานเสียอีก เจ้าเป็นทาสข้าในนามของเวลา ชั่วโมง นาที และวินาทีที่พวกเจ้าสร้างขึ้น นี่คือนัยสำคัญของเรื่องนี้
น่าหัวร่อเสียจริง เจ้าลองคิดดูซิว่าจริงหรือไม่ เวลาตื่น เวลากิน เวลาพัก ฯลฯ
ข้าไม่อยากจะจาระไนในสิ่งที่เจ้ายอมตกเป็นทาสของข้าเท่าไรหรอก เช่นเดียวกับหนุ่มสาวในเรื่องนี้ ทั้งนายกาญจน์ กับหญิงโม ทั้งสองต่างก็เป็นทาสของข้าอย่างแสนสาหัสอยู่ในขณะนี้ เจ้าทั้งสองนี้ อาจจะเลี่ยง ๆ จากอำนาจของข้าไปได้บ้างในโมงยามที่พวกเขาอยู่ ณ เวนิส
แต่เมื่อพวกเขาทั้งสองกลับไปยังเมืองไทยอันเป็นแหล่งหลักพักพิงของพวกเขา เจ้าทั้งสองนั่นก็ระงมจ่อมจมอยู่ในห้วงของเวลาอันเป็นอำนาจของข้าเหมือนเดิม ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ตั้งแต่วันที่นายกาญจน์กลับมาจากเวนิส ข้าให้แสนประหลาดใจเหลือแสน ทำไมวัน ๆ เจ้าหมอนั่นเฝ้าวนเวียนยกข้าขึ้นดู, ดูแล้วดูเล่า ดูแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์นวนิยายเรื่องใหม่ของเขาต่อไป อีกพักก็ยกข้าขึ้นมาดูอีก ซ้ำ ๆ ซากอยู่แบบนี้แหละ โดยเฉพาะยามนอนเจ้าหมอนี่คอยแต่เพ่งสายตาจ้องข้าบนฝาผนัง กว่าจะหลับตาลงไปได้ ข้าก็เดินทางเข้าสู่เขตของวันใหม่แล้วทุกคืน
ข้ากลับไปมองหญิงโม เอ๊ะ..น่าประหลาดใจเหมือนกันอีก หรือว่าพวกนี้ไปติดเชื้อร้ายมาจากเวนิส ข้าย้อนอดีตตัวเองกลับไปดู ช่างแสนประหลาดอัศจรรย์ใจ พวกเขาทั้งสองเหมือนลืมข้า เหมือนกับข้านั้นไม่มีอยู่ พวกเขาหลุดรอดไปจากอำนาจบังคับของข้า อย่างน่าแปลกประหลาด ทั้ง ๆ ที่นายกาญจน์เองก็มีข้าอยู่กับข้อมือเขาแท้ ๆ แต่ข้ากลับไม่มีอำนาจบงการอะไรพวกเขาได้
ตอนนั้น...ข้าออกจะประหวั่นใจอยู่เหมือนกัน หรือว่าข้าจะไม่สามารถมีอิทธิพลต่อพวกเขาได้อีกแล้ว แต่ตอนนี้นะหรือ ข้าบันเทิงใจเต็มเปี่ยม พวกเขาทั้งสองคนไม่เพียงอยู่อำนาจบังคับบัญชาของข้าเท่านั้น พวกเขายังทำตัวยิ่งกว่าแค่เป็นทาสของข้าเสียอีก แปลกแต่จริงสองคนนี้
หลังจากพวกเขากลับมาเวลาผ่านไปแต่ละชั่วโมง ทั้งนายกาญจน์และหญิงโมเหมือนยาวนานเสียเกิน ถอนใจในแต่รอบเวลานับครั้งไม่ถ้วน โมงยามผ่านไปด้วยความยากลำบาก ข้าไม่ได้อยากทรมานพวกเขาหรอก แต่พวกเขาทรมานตัวพวกเขาเอง
เกือบเดือนมานี่...ช่างน่าสงสารจริง ๆ
---- 9.2 ข้าคือโนเกีย N79 ----ข้าคือโทรศัพท์มือถือคู่กายของนายกาญจน์ เขาใช้ข้าติดต่อทั้งเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว
ข้ารู้เรื่องของเขาดี ชีวิตของนายกาญจน์นี่ไม่มีความลับอะไรที่ข้าจะไม่รู้ เพราะเขาคือเจ้านายของข้า, ข้ามอบชีวิตจิตใจนี้เพื่อเขาคนเดียว
วันนี้นะหรือ...ข้าหงุดหงิดเจ้านายของข้าเสียเต็มประดา อะไรของเค้ากันนะ ?
หยิบข้าขึ้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ ด้วยความรักใคร่ กดปุ่มเลือกจะส่งข้อความ จิ้มไปจิ้มมาอยู่นั่นแหละ กว่าจะได้สักคำหนึ่งแสนยาก ส่วนถ้อยคำนะหรือ ข้าไม่เคยเห็นนายกาญจน์ทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ถ้อยคำก็มีแค่เพียงคำว่า "คิดถึง..คิดถึง... ฯลฯ" พิมพ์คำซ้ำ ๆ ซาก ๆ กันอยู่นี่แหละ แล้วนายกาญจน์ก็ถอนหายใจยาวเฮือก กดปุ่มยกเลิกการทำงานไปเสียเฉย ๆ งั้นแหละ ข้าตกใจมากกลัวว่านายข้าจะพลาดท่า จึงรีบถามย้ำว่า "จะลบแน่หรือ ?” แล้วตามด้วย “ใช่, ไม่ใช่" นายกาญจน์เจ้านายของข้าไม่ลังเลแม้แต่นอนรีบกดตอบยื่นยันว่า "ใช่" เฉยเลย ข้อความที่พิมพ์ว่า “คิดถึง ๆ ๆ ๆ ๆ” เกือบเต็มหน้านั้นสลายหายวับไปในชั่วพริบตา
เจ้านายข้าถอนหายใจยาวแล้ววางข้าเอาไว้ข้าง ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หันไปพิมพ์นวนิยายของเขาต่อไป ส่วนข้าเองก็พยายามที่จะแสดงอาการเห็นใจ เข้าใจและรู้ใจว่านายข้าจะส่งข้อความนี้ไปให้ใคร แต่ข้าทำได้เพียงนิ่งเงียบอย่างจำยอม ข้าไม่บอกท่านหรอกว่าเจ้านายข้าจะส่งข้อความนี้ไปให้ใคร (แต่ข้าคิดว่าพวกท่านคงแอบรู้กันแล้ว)
ข้ารักเจ้านายคนนี้ของข้ามาก เพราะว่าเขาใช้ข้าอย่างถนอมและนุ่มนวล เขาไม่เคยมีอารมณ์โหดร้ายทารุณข้าเลยแม้สักแค่ครั้งเดียว ตอนอารมณ์ดีนายของข้าคนนี้เอาผ้าชุบครีมขาว ๆ มาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
แม้ยามอารมณ์เสียเนื่องจากงานหรืออะไรก็ตาม
อย่างมากที่สุดเขาก็แค่กดปุ่มปิดเครื่องข้าไปเท่านั้นเอง
นายข้าไม่เคยโยน ไม่เคยเขวี้ยง ไม่เคยเอาน้ำหรือเครื่องดื่มใด ๆ มาราดรดตัวข้า
ข้ากลัวน้ำอย่างที่สุด ไม่ว่าน้ำอะไรทั้งหมด แต่อย่าเข้าใจผิดเชียวข้าก็ไม่ได้เป็นโรคสุนัขบ้าหรอกนะ ข้าแค่กลัวน้ำเฉย ๆ ไม่ชอบ ตับไตไส้พุงของข้าไม่ชอบ
---- 9.3 ฉันคือโนเกีย 5800 Xpress ----ฉันอยู่กับนายหญิงคนนี้ของฉัน ตั้งแต่ฉันเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทยใหม่ ๆ
ฉันรับใช้นายหญิงของฉันอย่างดี จนผู้ให้กำเนิดฉันทำการปรับเปลี่ยนความสามารถของฉันใหม่อีกครั้ง นายหญิงของฉันรีบพาฉันไปให้ทางศูนย์จัดการให้ พวกนั้นเรียกกันว่าอัพเกรดเฟริมแวร์ ตอนแรกที่นายหญิงพาฉันไปนั้น ฉันหวั่นใจอยู่มากเหมือนกันว่าฉันจะยังคงเป็นฉันคนเดิมอยู่หรือเปล่าหนอ ?
ฉันอาจจะหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ก็เป็นได้ ฉันเศร้าโศกเสียใจจริง ๆ แต่ทำไงได้ละ
แม้ฉันจะรักนายหญิงแค่ไหน แต่เมื่อเป็นความต้องการของนายหญิง ฉันก็ต้องยอม และยอมเสมอ
แต่โชคดีมาก ๆ การอัพเกรดอย่างที่ว่า มันเพียงไปเปลี่ยนบางส่วนของฉันเท่านั้น
จิตวิญญาณของฉันยังเหมือนเดิม ฉันยังจำนายหญิงของฉันได้เหมือนเดิม
ฉันรักเขาหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปรเปลี่ยนระหว่างเราทั้งสอง
เฮ่อ..ท่านเอ๋ย ตอนนี้นายหญิงของฉันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบได้
ตั้งแต่เดินทางไปเที่ยวกลับมา เธอไปไม่นานหรอกประมาณเท่าไหร่หรอก
ตอนอยู่ต่อหน้าผู้คนทั่วไป เธอก็ทำท่าว่าสนุกสนานร่าเริงและเก่งเหมือนกับเธอคนเดิม
แต่พออยู่คนเดียวนี่ซิ นายหญิงของฉันเป็นคนละคน เธอไม่เหมือนเดิม ดวงตาเธอเหม่อลอย คอยแต่จะมองเจ้านาฬิกา-นาฬิเกอยู่นั่นแหละ แล้วหันมาจับฉันขึ้นลูบ ๆ คลำ ๆ
อย่างหลังนี่ฉันชอบเหลือเกิน ฉันสบายเนื้อตัวจนอยากจะสั่นดิ๊ก ๆ อยู่ในมือของเธอ
แต่ฉันก็ได้เพียงคิดเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีใครเรียกเข้ามา หรือเธอกดอนุญาตฉันก็ต้องสงบเสงี่ยมอยู่แบบนี้
ตอนนี้เธอหยิบฉันขึ้นมา แล้วกดไล่ตามรายชื่อ รูปของผู้ชายคนนั้นนะเอง
เธอกดไล่ขึ้นไล่ลงระหว่างรูปผู้ชายคนที่หนึ่งที่เธอตั้งชื่อว่า 'พี่กาญจน์' กับอีกรูปที่ตั้งชื่อว่า 'พี่โอ๊ค' เธอกดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนฉันชักรำคาญขึ้นมาดนิด ๆ
กดมาก ๆ เดี่ยวปุ่มของฉันก็พังหมดกันพอดี เดี่ยวมาหาว่าฉันงอแงอีก
จะกดปุ่มสีเขียวซ้ายสุดเพื่อทำการโทรไปหาเธอก็ไม่ทำสักกะที
กดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ไม่ยอมเลิก
ฉันภาวนาว่าให้เธอกดปุ่มเขียวซ้ายสุดเพื่อโทรออกเสียทีจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว
ฉันก็ได้เพียงภาวนาครั้งแล้วครั้งเล่า เอ๊ะ...ฉันนึกดีใจที่เธอออกแรงลงที่ปุ่ม
แต่เธอก็ยังอยู่ไม่ยอมกดโทรออกตรงปุ่มสีเขียว แล้ว..เธอดันยกนิ้วไปกดปุ่มสีแดงขวาสุดยกเลิกรายการเสียนี่
เฮ่อ...นายหญิงโมของฉันเอ๊ย เป็นอะไรไปนี่ ตั้งแต่ฉันอยู่กับเธอนับปี เธอไม่เคยมีอาการเช่นนี้เลย นายหญิง...นายหญิงของฉันเป็นอะไรไป.....
---- 9.4 ข้าคือชาอู่หลง ----เอ..ตั้งแต่กลับมาจากตากอากาศ นายกาญจน์มันเป็นอะไรหรือนี่ ?
ข้าได้ยินเจ้านาฬิกากับเจ้าโทรศัพท์มันบ่นอุบอิบ ๆ ไปตาม ๆ กัน
ทั้งเจ้านาฬิกาและเจ้าโทรศัพท์ต่างพูดเหมือนกันว่า
"นายกาญจน์มันเอาหัวใจไปทิ้งที่เมืองเวนิสเสียแล้วกระมัง... ? ?"
ข้าไม่อยากเชื่อหรอก เพราะข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วยทั้งสิ้น
ก็ตอนที่นายกาญจน์ไปนะไม่ได้พาข้าไปด้วยนี่นา ข้าได้แต่น้อยใจอยู่
กลับมาก็ได้แต่นึกว่าความสัมพันธ์ของเราจะเหมือนเดิม แต่ข้าเข้าใจผิด
เกือบเดือนมานี่เขาไม่เอาข้าออกจากตู้เย็นแม้แต่ขวดเดียว
หรือตอนนี้รสนิยมของเขาเปลี่ยนไป เขานอกใจข้าไปเสียแล้ว
เห็นบอกกับใคร ๆ ว่าชอบข้าที่สุด คือ ข้าไม่มีน้ำตาล และรสชาของข้านะชาอย่างแท้จริง
ข้าได้ยินนายกาญจน์บอกใคร ๆ แบบนี้ข้าแทบกระโดดตัวลอยเข้าไปกอดหอมแก้มแล้วบอกว่านายกาญจน์ดีที่สุด
ข้าแสนสงสารนายกาญจน์เป็นที่สุด ได้แต่เฝ้ามองด้วยความเป็นห่วง
แต่ดูแล้วนายกาญจน์ก็ไม่ได้ป่วยไข้ นายกาญจน์เป็นอะไรไป เพื่อนคนอื่นของข้าว่าไง
---- 9.5 ข้าคือคอมพิวเตอร์เดสทอป ----ข้าคือหัวใจการทำงานของท่าน งานของท่านจะก้าวหน้าได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับข้า
ขุมพลังที่ข้าได้รับมาจาก "พระเจ้าอินเทล" นายท่านเชื่อตามที่พระเจ้าอินเทลบอกว่า
"อินเทลอินไซด์" นายท่านลงทุนซื้อข้ามาเป็นกรรมสิทธิ์ด้วยเงินมากกว่าสามหมื่นบาท
ท่านพอใจข้าเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกท่านทนใช้เพราะท่านหานังเมียมาให้ข้าชื่อ "นังวิสต้า"
อยู่ด้วยกันแล้วเธอชอบทำให้ข้าอึดอัดขัดเคืองบ่อย ๆ เพราะเธอใช้ทุกอย่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน
ข้าเองก็อึดอัดและต้องทนร่วมกับนังวิสต้า มันโลภมากจริง ๆ จุกจิกจู้จี้ขี้บ่น เรื่องมาก
นายท่านทนเห็นข้าอยู่กับนังวิสต้าได้ไม่ถึงสองเดือนดี ท่านพานังเอ๊กซ์พีให้มาอยู่กับข้าแทน
โห..นังนี่นายท่านบอกว่าเวิร์คมาก ๆ แหม...ถึงจะแก่ไปสักนิดสักหน่อย
เรือนร่างของเธอไม่อวบอัดรัดรึงใจ นมต้มก็งั้น ๆ ไม่หวือหวาตาหวานเหมือนนังวิสต้า
แต่เธอก็มีข้อดีที่ไม่จู้จี้ขี้บ่น กินน้อยใช้น้อยด้วย เธอประหยัด เธอพอเพียง
นายท่านพอใจนังเอ๊กซ์พีอย่างที่สุด นายท่านเปรยกับข้าว่า
"ข้า..ตกลงให้นังเอ๊กซ์พีมาเป็นเมียของเจ้า คอยดูแลช่วยบริหารจัดการทุกอย่างให้เจ้า
ข้าเตือนเจ้าก่อนนะเว้ย อย่าไปงอแงกับเธอมากนัก เจ้ามีความสุข เธอมีความสุข ข้าก็มีความสุข งานต่าง ๆ ของข้าจะได้ราบรื่น ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจข้านะ"
ข้าจำขึ้นใจตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ นังเอ๊กซ์พีมาเป็นเมียรักของข้า เธอแคล่วคล่องว่องไว
ปราดเปรียว น่ารักน่าชังเสียเหลือเกิน แม้จะแก่ไปนิด ๆ ก็ตาม (ฉันไม่ได้ว่าเธอแก่มาก อิอิ) อีกอย่างเธอไม่กวนใจข้าขอนั่นขอนี่จนเกินแก่เหตุเกินกาล ข้าสบายใจขึ้นมากทีเดียว
ของแบบนี้มันก็ได้อย่างเสียอย่าง ถ้าให้ข้าเลือกนั่งเอ๊กซ์พีกับนังวิสต้า
ข้าคงบอกกับท่านว่าตอนนี้ข้าพอใจนังเอ๊กซ์มันมากกว่า ก็ข้าไม่ชอบพวกขี้ขอนี่นา
ข้าต้องรับใช้นายท่านทุกวัน ๆ ละหลายชั่วโมง
ข้าไม่เคยเกเร ไม่เคยงอแง มีอะไรข้าช่วยนายท่านได้ข้าเต็มใจอย่างยิ่ง
เรื่องราวที่ท่านนั่งพิมพ์บันทึกเอาไว้ในตัวข้า นับตั้งแต่เรื่องเพื่อเงินอันเป็นอาชีพหลักแล้ว
นายท่านยังพิมพ์บทความ และก็...ก็...เรื่อง อุ๊ ๆ อู้วววววว มาให้อ่านกันนี่แหละ
เรื่องเหล่านี้ใช้เวลาว่าง ๆ เวลาพักผ่อนพิมพ์ขึ้นมา สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้างก็แล้วแต่เรื่อง
แต่ช่วงนี้นี่ซิท่านเอ๋ย นายท่านของข้าชักมีอาการแปลก ๆ ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว
นับตั้งแต่นายท่านทิ้งข้าให้เปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวเอ้กา คลุมผ้าเอาไว้อย่างดี
ทำให้นังเอ๊กซ์พีภรรยารักของข้าพลอยหายจ๋อมไม่มาเยี่ยมเยียนข้าเลย
ถึงตอนที่นายท่านกลับมาจากการพักผ่อน มาถึงเก็บข้าวของเสร็จท่านคงคิดถึงข้า
รีบมาเปิดข้าทันที ข้าร้องอูแว้ง ๆ ดีใจสุดขีดที่ข้าได้พบกับนังเอ๊กซ์พีสุดที่รักสุดสวาทบาดใจ เมื่อข้าประสานใจกับนังเอ๊กซ์พีเรียบร้อย นายท่านก็เปิดโปรแกรมประจำที่ใช้ทำงาน ความคุ้นเคยที่หายไปเกือบครึ่งเดือนกลับมาเหมือนเดิม ข้าแสนจะดีใจเหลือเกิน
เอ๊ะ..ไม่ใช่สิ ไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด ข้ารู้สึกว่านายท่านไม่เหมือนเดิม
ข้าสัมผัสได้จากนิ้วที่จิ้มลงบนคีย์บอร์ดได้ว่าท่านหม่นหมอง หดหู่ เหมือนคนไม่ได้เอาหัวใจกลับมาด้วย หรือว่าท่านไปทำหัวใจตัวเองหล่นหายในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว
เอ..เรื่องนี้เจ้าโน้ตบุ๊กจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า ข้าก็ไม่ทราบ
เพราะตั้งแต่นายท่านกลับมา ท่านไม่เคยเปิดเจ้าโน้ตบุ๊กเลยแม้สักครั้งเดียว
ข้าไม่สามารถเชื่อมโยงจิตใจกับเจ้าผู้โชคดีที่ได้ตามนายท่านไปได้ทุกที
ขอบอก ๆ ข้าไม่ได้อิจฉามันหรอก เพราะยังไง ๆ ข้าก็เจ๋งกว่ามันอยู่แล้ว
ช่วงนี้ท่านพิมพ์เรื่องเร็วมาก ๆ เหมือนทุ่มพลังเฮือกสุดท้ายยังไงยังงั้น
จากการที่ข้าเฝ้ามองข้าผ่านเคอร์เซอร์ที่กระพริบวิบ ๆ
ข้ารู้สึกได้เลยว่านายท่านใช้สมองแต่ไม่ได้ใช้หัวใจ งานก้าวหน้าแต่ใจว่างเปล่า
นี่..นี่..แสดงว่าหัวใจของท่านหายไปแน่นอนอย่างนั้นเหรอ ?
---- 9.6 หนูคือโน๊ตบุ๊ก ----แหม ๆ พี่เดสทอปตัวร้าย ใจร้าย พอได้โอกาสก็เป็นต้องเหน็บใส่หนูเชียวนะ ไม่รักก็สงสารหนูบ้างเถอะ หนูนะไม่เคยที่จะพูดอะไรที่ไม่ดี ๆ ของพี่เดสทอปเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หนูเฝ้าบอกกับใคร ๆ เสมอว่า พี่เดสทอปนะเป็นพี่ชายที่แสนดี พี่เดสทอปเกิดมาก่อน โตมาก่อน เป็นพี่ชายที่หนูทั้งรักและบูชาอยู่เสมอ แต่เนื่องจากหนูถูกพระเจ้าสร้างมาให้เล็กบอบบาง น่าทนุถนอม เจ้านายผู้เป็นเจ้าของหนูจึงชอบที่พาหนูไปยังที่ไหน ๆ เสมอ และคอยดูแลรักใคร่ใส่ใจ เพราะหุ่นหนูน่าดูน่าชมนี่นา
พี่เดสทอปจะอิจฉาหนูไปทำไมกันละค่ะ งานนี้หนูไปถึงเวนิสแดนพิซซ่า
แต่ก็ไม่ได้ไปทุกทีแหละคะ นายท่านให้หนูเฝ้าห้อง กลับจึงค่อยเปิดแต่ไม่ได้ทำงาน
เพราะนายท่านกาญจน์และนายหญิงโมนะทั้งสองไม่มีเวลาว่างตอนอยู่ในห้องหรอกคะพี่เดสทอป
หนูไม่บอกหรอกว่าไม่ว่างเพราะอะไร จ้างให้พี่เดสทอปก็เดาไม่ออก
และหนูก็จะไม่ยอมแชร์รูปภาพให้พี่เดสทอปได้ดูด้วย โกรธแล้วละนะ
เมื่อไหร่ที่นายท่านกาญจน์เปิดและเชื่อมหนูกับพี่เดสทอป วันนั้นคอยดูเถอะหนูจะเล่นตัวให้เข็ดเชียว
มาบอกถึงเรื่องนายท่านเถอะ หนูสารภาพตามตรงนะนายท่านกาญจน์นั้นรักนายหญิงโมเป็นที่สุด นี่หนูพูดตามที่หนูเห็นกับตานะ ทั้งสองรักและดาวน์โหลดโปรแกรมเสริมเข้าสู่กันและกันบ่อยม๊ากมาก เอ...มีปลั๊กอินแล้วมันมีปลั๊กเอาท์บ้างหรือเปล่า เรื่องนี้หนูไม่ทราบจริง ๆ เรื่องของมนุษย์นี่
แต่คืนก่อนจะเดินทางกลับจากเวนิส หนูเห็นนายหญิงโมมานั่งมองพระจันทร์แล้วน้ำตาไหลอาบแก้ม นายหญิงโมกัดฟันแน่นไม่ยอมให้เสียงสะอื้นหลุดออกมาแม้แต่นิดเดียว
ท่านร้องไห้แล้วหันไปมองนายท่านกาญจน์บ่อย ๆ ตอนนั้นนายท่านกาญจน์หลับสนิทอยู่บนเตียง
ก่อนที่นายท่านกาญจน์จะหลับสนิท ทั้งสองก็ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอินกันอีกอย่างเมามัน หนูรู้สึกว่าปลั๊กอินตัวนี้มันเวิร์คมาก ๆ ปลั๊กอินตัวนี้ใช้โต๊ะเครื่องแป้งเป็นส่วนประกอบในการติดตั้ง นายหญิงโมมีความต้องการใช้ปลั๊กอินตัวนี้เป็นที่สุด นายท่านกาญจน์ก็เลยทำการติดตั้งและรีบู๊ตเพื่อทำงาน หนูเฝ้าดูการทำงานของปลั๊กอินเป็นชั่วโมง ก่อนที่นายท่านกาญจน์และนายหญิงโมสรุปออกมาตรงกัน ท่านบอกว่า ปลั๊กอินตัวนี้ทำงานเวิร์คที่สุด ๆ เวิร์คมากกว่าปลั๊กอินทุกตัวที่นายท่านกาญจน์ทำการติดตั้ง
จากนั้นนายท่านกาญจน์ก็ทำอะไรน่ารัก ๆ โดยให้นายหญิงโมขี่หลังไปเข้าห้องน้ำ
ข้าไม่เห็นหรอกว่าในห้องน้ำท่านทำอะไรกัน หรือว่าท่านติดตั้งปลั๊กอินกันอีกครั้งหรือเปล่า ? แต่พอออกจากห้องน้ำท่านทั้งสองก็นอนคลอเคลียหนุงหนิงกันจนหลับไป
หนูสงสารนายหญิงโมมากเหลือเกิน ตอนนั้นหนูสะลึมสะลือเหตุการณ์จึงเหมือนกับฝันก็ว่าได้ หนูเห็นมีคนสองคนมาหานายท่านโม คล้าย ๆ นะหนูไม่ขอยืนยัน
ท่านทั้งสองมาอวยพรนายหญิงโมขอให้สมหวัง แต่แปลกที่ทั้งสองอยู่ ๆ ก็ปรากฎขึ้น
อยู่ ๆ ก็หายไปเฉย ๆ หนูไม่มีข้อมูลของบุคคลทั้งสอง หนูแปลกใจจนถึงเดี่ยวนี้
กะว่าเมื่อนายท่านกาญจน์ออนไลน์ หนูจะเข้าไปสืบค้นผ่านกูเกิ้ลเสียหน่อย
หนูรักนายหญิงโมมากเพราะเราหัวอกเดียวกัน เป็นผู้หญิงเหมือนกัน
และก็สวยมาก ๆ ด้วยกันทั้งคู่ ไม่เหมือนพี่เดสทอปที่หยาบ หนา ไม่ละเอียดอ่อน
อีกอย่างพี่เดสทอปชอบเอาแต่ใจตัวเองไม่ค่อยจะเห็นอกเห็นใจใครเขาหรอก...ใช่เปล่า ?
---- 9.7--- ข้าคือหนังสือ ----ข้าต้องอธิบายต่อท่านทั้งหลายก่อนว่า "หนังสือ" ไม่ได้หมายถึงเล่มใดเล่มหนึ่งโดยเฉพาะ
แต่หมายถึงหนังสือจำนวนมากมายที่เจ้ากาญจน์ศิษย์รักของข้าอ่าน มี และสะสมไว้
หนังสืออันเปรียบดั่งน้ำพุแห่งภูมิปัญญา ที่จะพุ่งกระจายให้ดื่ม กิน และอาบ
ตัวข้าเปรียบเสมือนรากของต้นไม้ เป็นแก้วรากแก้ว รากแขนง รากฝอย
แต่รวมก็คือรากที่คอยเสาะหาอาหารเพื่อนำไปหล่อเลี้ยงภูมิปัญญาและจิตวิญญาณ
และที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ข้าคือแก้วสารพัดนึกที่คอยรังสรรค์ความบรรเจิดแก่โลก
กว่าครึ่งเดือนมานี้ แม้เจ้านี่จะหยิบจับข้าขึ้นมาอ่านทุกวันเหมือนเดิม
แต่ข้ารู้สึกว่าจิตใจของมันไม่เหมือนเดิม นับแต่เจ้านี่กลับมา
แรก ๆ ข้าก็แปลกใจ ข้าคิดว่ามันเพี้ยนไปแล้วหรือไรกันนี่ ?
คนเราแค่ชั่วไม่ข้ามเดือนทำไมถึงได้เปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้
สิ่งที่เห็นประจักษ์ต่อตาคือเจ้านี่ร่างกายผ่ายผอมลง สัดส่วนดีขึ้นแมนขึ้น
ข้าถึงบางอ้อเพราะข้าเห็นมันกินอาหารน้อยลงมากนี่เอง หรือว่ามันคิดจะลดหุ่น
แต่ทำไมตอนกินจึงชอบถอนหายใจ ครึ่งจานก็ไม่ถึงด้วยซ้ำในแต่ละมื้อ
วันหนึ่งจากสามมื้อบ้าง สองมื้อบ้าง เดี่ยวนี้เหลือสองมื้อกับหนึ่งมือแค่นั้นเอง
เจ้านี่เดิมเคยหลงไหลเจ้าอู่หลง ตอนนี้มันแทบไม่เตะด้วยซ้ำ
ข้าได้ยินเสียงเจ้าอู่หลงบ่นน้อยอกน้อยไปเมื่อไม่นานมานี้
ข้าเฝ้ามองเจ้าศิษย์คนนี้ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง ในที่สุดก็ถึงบางอ้อ
ข้าได้ยินเสียงรำพึงของเจ้าโนเกีย N79 ทำให้ข้าคิดว่าเจ้านี่ "อกหัก"
เฮ่อ...มนุษย์นี่หนอแปลกจริง ๆ มนุษย์ไม่เคยทำสิ่งใดใหม่ ๆ นับแต่บรรพกาล
มนุษย์ชอบวนเวียนซ้ำซากแต่เรื่องเก่า ทำแล้วทำอีก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อยู่แบบนี้ไม่รู้จบรู้สิ้น
พวกเขาไม่เบื่อหน่ายกันบ้างหรือไร ใจข้ามองไปเห็นสังสารวัฎแล้วให้อนาจใจ
มนุษย์พวกนี้สร้างเวลาในรูปนาฬิกา แล้วยอมตกเป็นทาสชนิดไม่คิดจะเป็นไท
ข้าส่งศิษย์ผู้ทรงภูมิปัญญามาแผ้วถางทางแห่งสัจจะโดยกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
คนแล้วคนเล่า มนุษย์พวกนี้ก็ยังไม่คิดจะตื่นและลุกขึ้นค้นหาความจริง
ยิ่งนานยิ่งลุ่มหลงงมงายและติดอยู่ในกับดักที่ตัวเองสร้างขึ้น
ทนเจ็บปวดทนทุกข์ยากก็เนื่องเพราะตัวเองทั้งนั้น
เท่านั้นไม่พอหรอก มนุษย์ยังชอบร้องแรกแหกกระเชอ ขอนั่นขอนี่ไม่หยุดหย่อน ไม่เคยพอ สิ่งเหล่านี้ข้ารู้ข้าเห็นมามากจริง ๆ จนข้าแสนจะเบื่อหน่าย
เพราะข้าคือปัญญา ข้าอยู่เหนือกาลเวลาและนาฬิกาที่พวกมนุษย์สร้างขึ้น
ข้าสรุปว่าเจ้ากาญจน์ศิษย์คนนี้ของข้ากำลังตกอยู่ในความรักและเจ็บปวดเพราะรัก
เรื่องรักนี้ทำให้ศิษย์ของข้าเจ็บปวดเนื่องเพราะความรักมามากจนนับกัป
หลายคนรู้แจ้งจนถึงแก่น ได้สรุปเอาไว้สั้น ๆ เอาไว้ให้คนที่ผ่านมาเบื้องหลังได้ศึกษา
“คือน้ำผึ้ง คือน้ำตา คือยาพิษ
คือหยาดน้ำ อมฤต อันชื่นชุ่ม
คือเกสร ดอกไม้ คือไฟรุม
คือความกลุ้ม คือความฝัน นั่นแหละ "รัก"
เรื่องความรักนี่ ใครจะสอนใครตรง ๆ ไม่ได้หรอก
ต้องสัมพัทธ์ สัมพันธ์ และรู้สึกด้วยกายด้วยจิตของตนเองเท่านั้นถึงซึ้ง
รู้แล้วสมหวัง รู้แล้วผิดหวัง ใคร ๆ ในสังสารวัฎนี้ก็วนเวียนกันแบบนี้แหละ
ข้าในฐานะครูข้าได้แต่เพียงเอาใจช่วยและเตรียมข้อมูลให้ศิษย์ได้ใช้ในการหาหนทาง
ศิษย์จะได้เลือกเส้นทางที่เป็นสุข สมหวัง หรือเจ็บปวดน้อยที่สุด
และเป็นเส้นทางถูกต้องและทรงคุณที่สุดเท่าที่ปัญญาของตนจะเลือกได้
ข้าส่งสารเหล่านี้บอกกล่าวมนุษย์ผู้ซ้ำซาก ครั้งแล้วครั้งเล่าจนน้ำตาข้าไหลพราก ๆ แล้วตอนนี้
---- 9.8--- ข้าคือเจ้าโลก ----ข้านี่เอง..พวกท่านทั้งหลายให้ฉายาข้าว่า "เจ้าโลก" แค่นี่ก็รู้กันว่าข้านะยิ่งใหญ่ขนาดไหน
ใคร ๆ ต่างสิโรราบต่อข้าเพราะข้าคือผู้ที่จะดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ให้อยู่รอด
ถ้าปราศจากข้า ฮะ ๆ ฮ่า ขอโทษมนุษย์สูญพันธ์จากดาวดวงนี้ไปนานกาเลแล้ว
โลกและจักรวาลนี้ข้ามีคู่ปรับอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น เจอกันทีไรข้าสยองแสยงจนไม่เป็นไม่สมประดี คู่ปรับที่ยิ่งใหญ่นั้นมนุษย์ขนานนามว่า โยนิ โยนี หรือชื่ออื่นอีกมากมาย
ฮา ๆ เด็กน้อยกาญจน์ตั้งชื่อเรียกคู่ปรับของข้าว่า "น้องมะโหนก" ฮ่า ๆ มะโหนก ๆ ๆ
แล้วนังเด็กน้อยโมก็ตั้งชื่อให้ข้าว่า "พี่กระบองฯ" ฮิ ๆ ๆ ดีเหมือนกัน ต่อไปข้าจะเรียกตัวเองว่าพี่กระบองฯ
ขอโทษจริง ๆ ข้าเจอกับนังน้องมะโหนกไม่ได้เอาเสียเลย แค่ได้กลิ่นก็ยังไม่ได้เลย
อย่าว่าแต่เห็นกันจะ ๆ แจ้ง ๆ เลย แค่ได้กลิ่นได้รู้สึกว่ามาแต่ไกล ๆ เท่านั้น
ตัวข้าที่นอนสงบนิ่งพักผ่อนก็ผงาดเงอะงะงุ่นง่านไม่เป็นอันอยู่นิ่งเชียวหละ
หัวของข้าก็ผงาดขึ้นมาดุจดั่งสิงห์โตพองขนคอคอยตะครุบเหยื่อ
เหยื่อข้าก็คือนางน้องมะโหนกนั่นแหละ เจอกันไม่ได้เด็ดขาด
เจอกันแต่ละทีก็ต้องแดดิ้นไปกันไปข้างหนึ่ง
นึกแล้วน่าอายจริง ๆ แม้ข้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม
แต่ข้าก็มีจุดอ่อนอยู่จุดเดียวนี้เท่านั้น
เฮ่อ...นังน้องมะโหนกเป็นผู้ข้าเอาชนะได้ยากสุดจริง ๆ เชียว
ข้ามักจะแดดิ้นแม้จะทำให้นางน้องมะโหนกไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้าหลากครั้งหลายทีแล้วก็ตาม
ข้าพิฆาตเหยื่อ (น้องมะโหนก อิอิ) แล้ว ข้าก็ไม่อาจจะสง่าผ่าเผยได้เหมือนเดิม
ข้าจำเป็นต้องระทดระทวยสิโรราบต่อนังน้องมะโหนกไปพักใหญ่
ข้าต้องการใช้เวลาพักฟื้นหลังศึกใหญ่ มากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน
พวกท่านคงสงสัยว่าทำไมข้าถึงบอกว่าต้องพักไม่เท่ากัน
เพราะเหตุไรกันหรือจึงเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้บรรพบุรุษของข้าได้เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่า
ศัตรูที่คุ้นเคยกันแล้วจนคุ้นชิน เจ้าโลกหรือพี่กระบองต้องใช้เวลาพักนานสักหน่อยหนึ่ง
บรรพบุรุษสั่งกำชับหนักแน่นเช่นนั้นจริง ๆ เป็นสัจจะที่ไม่มีผู้ใดจะลบล้างได้
เป็นเรื่องจริงที่ข้าไม่ได้โป้ปดมดเท็จ พี่กระบองที่ผ่านศึกเหนือเสื้อใต้ทุกรายย่อมเข้าใจดี
ส่วนศัตรูหน้าใหม่ที่ไม่คุ้นชินกันมาก่อน กลิ่นใหม่ ๆ ไม่คุ้นจมูก นวลเนื้อมะโหนกไม่คุ้นเคย
จริตกริยาพาทีที่แตกต่างออกไป ฝีมือรุกรับก็ต่าง อันนี้แหละที่ข้าชอบนักชอบหนา
และด้วยสัจจะที่บรรพบุรุษกล่าวข้อนี้ ข้าก็มิอาจฝ่าฝืนได้
ข้าจึงใช้เวลาหยุดพักน้อย บางครั้งน้อยจนข้าเองแปลกใจเหมือนกัน
อะไรกัน...จะล่าเหยื่ออีกแล้วหรือนี่ เจ้านี้วันนี้ทำไมกินจุจัง
ข้าไม่ค่อยเห็นด้วยกับนายกาญจน์นักหรอก นอกจากไม่เห็นด้วยยังแอบตำหนิบ่อย ๆ
นายกาญจน์นี่ใช้ข้าน้อยเกินไป นายกาญจน์ฝังตัวเองไว้กับความเชื่อมั่นเรื่องรักอมตะ รักเดียว ใจเดียวแล้วมันยังไม่เจอรักอมตะที่ว่านั้นสักกะที ที่ผ่าน ๆ มา คราใดข้าเกิดความเครียดขึงตึงเต้น ข้าอยากจะตะปบเหยื่ออย่างสุดขีดแดดิ้นจวนจะขาดใจตายรอน ๆ ให้ได้นั้น นายกาญจน์มักจะพาข้าไปหย่อนผ่อนพักให้บรรเทา เอาตั้งแต่ไปสนามหลวง
ไปจนถึงนางบริการทางโทรศัพท์ หรืออาบอาบนวด แต่ไม่บ่อยอย่างข้าต้องการหรอก
นายกาญจน์นี่ใจร้ายจริง ๆ ไม่เคยใช้ข้าได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุดสักที
ข้ากลัวพรรคพวกเพื่อนฝูงคราเจอกันยามสู่สวรรค์ที่จะเข้ามาถามเสียเหลือเกิน
ว่าคราเจ้าอยู่ในโลกมนุษย์นี้ เจ้าจัดการกับคู่ปรับไปนับจำนวนได้เท่าใด
ถ้าถามแบบนั้น ข้าคงอายม้วนต้วนจนตกสวรรค์แน่นอน
คราวนี้นายกาญจน์ใช้ข้าได้อย่างสมใจอยากของข้าพอสมควรจริง ๆ ให้ตายซิ ฮะ ๆ ๆ
ท่านคงไม่สงสัยนะว่าคราวไหน ก็คราวไปเวนิส-เวนา-นี่แหละ
ก่อนนี้ท่านมักจะมาคนเดียว มานั่งกินกาแฟหรือไม่ก็นั่งดื่มเบียร์ชมฟ้าชมน้ำ หรือไม่ก็นั่งเรือแจว
เจ็ดวันสิบวันจึงเดินทางกลับบ้าน หรือไม่ก็ตระเวนไปตามพิพิธภัณฑ์
นายกาญจน์ชอบงานเขียน งานปั้น งานแกะสลัก ทุกชนิดที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้น
คราวนั้น ๆ ข้าจะบ้าตาย นอนเหี่ยวเป็นมะเขือเผาไว้ยำเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเลยสักกะอย่าง
ฝรั่งอั้งม้อผมทองขาว ๆ พ่อก็ไม่ยักกะสนใจสักคน เฮ่อ...ให้ตายซิ
นายกาญจน์นั้นไม่ค่อยจะสนใจใยดีข้าเท่าไหร่นักหรอก
จนข้าด่ามันในใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เรด้าของข้าสัมผัสกับน้องมะโหนกงาม ๆ
แต่สมใจได้ไม่กี่วัน ข้ากลับมาเหี่ยวเหมือนเดิมอีกแล้ว..อีกแล้ว...
ไม่ซิ...ไม่ซิ...มันกลับหนักกว่าเดิม หลายวันมานี่ข้าจ๋อยจริง ๆ ไม่รู้สึกรู้สาเลย
ก็นายกาญจน์มันเป็นแบบนี้นี่นา ข้าพยายามที่จะปลุกปลอบตัวเองขึ้นมาให้ผงาด
ทำท่าเป็นเตรียมตะครุบเหยื่อ แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
ไม่ใช่อะไรหรอก..ข้าติดใจน้องมะโหนกของน้องนางที่ไปกับนายกาญจน์ที่เวนิสนนั่นแหละ
ติดใจเอามาก ๆ จะบอกให้ ข้าต้องขยันกระตุ้นต่อมของนายกาญจน์บ่อย ๆ
นายกาญจน์จะต้องไม่เลิกลา นายกาญจน์จะต้องติดต่อน้องมะโหนกนางนี้มาให้ข้าสยึ๋มกึ๋ยอีก
ครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จ สอง สาม สี่ .... ครั่งที่สี่สิบเก้า...เออ ๆ ชักเข้าเค้าแล้ว
นายกาญจน์ขยับไปหยิบโนเกีย N79 เชื่อมไปยัง โนเกีย 5800 Xpress
ข้ารีบขยับตัวพองขึ้นมายิก ๆ เป็นการให้กำลังใจนายกาญจน์ว่าสู้ ๆ
ท่านอย่าว่าข้านะ ข้าคิดถึงน้องนางมะโหนกคนนี้มากจริง ๆ นี่นา
น้องมะโหนกจ๋า พี่กระบองคิดถึง อู้ววววว.....
แน๊ะ ๆ วันนี้นายกาญจน์ออกจะซู่ซ่ากว่าทุกวันเชียว
ว้า.....ข้าร้องเสียงดังด้วยความผิดหวัง
ก็..ก็..นายกาญจน์กดตัดสายทิ้งไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งที่เท่าไร่แล้วว๊ะนี่...ข้าชักอารมณ์เสีย แต่ข้าก็ยังพยายามกระตุ้นต่อมเตือนเขาด้วยการกระดกตัวยิก ๆ อีกหลายครั้ง
นายกาญจน์เหมือนสะท้านน้อย ๆ เหมือนกัน แล้วหันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
กดดูภาพน้องนางเจ้าของน้องมะโหนกที่หน้าจอแล้วกดโทรออกไปอีกครั้ง
ข้าตัวเกร็งทีเดียว...ไม่เห็นหน้าได้ยินเสียงก็ยังดี แล้วมีเสียงดัง "ฮัลโหล...."
อ๊ะ ๆ ๆ ๆ ดีใจจริงเว้ย..ดีใจจริง ๆ ข้าเกร็งตัวกระดกอีกหลายครั้ง
ไชโย...สำเร็จแล้ว...ต่อเลยนายกาญจน์อย่างให้พลาดเชียวนะ ข้าคิดถึงน้องนางมะโหนก
---- 9.9 ฉันคือโนเกีย 5800 Xpress ----เฮ่อ...ลุ้นจนเหนื่อยเลยเรา นายหญิงไม่หันมามองเราเลย
เราตัวสั่นอยู่บนที่นอนครืด ๆ ๆ นายหญิงก็ไม่ได้ยินเสียนี่
แสงวาบ ๆ ที่ปรากฏเธอก็ไม่เห็น เออ..จะเห็นได้ยังไงก็เธอดันวางคว่ำหน้าตูดโด่งเสียนี่
เธอเดินไปยืนริมหน้าต่าง ๆ มองลงไปเบื้องล่างแล้วถอนหายใจยาว
ฉันได้ยินเสียงงึมงำ ๆ ไม่ได้ศัพท์ แหม..นี่ถ้าวิ่งได้ฉันจะวิ่งไปกอดขาเธอเชียว
กอดเธอแล้วตะโกนว่า "นายหญิงจ๋า คน..ที่นายคิดถึง..เค้าโทรมาแล้วจ้า...."
เฮ่อ...แต่ฉันไม่มีขานี่นา ได้แต่นอนแหงก ๆ แถกเหงือกอยู่บนที่นอนนี่แหละ
จะใช้แรงการสั่นของฉันเพื่อเลื่อนตัวเองไปก็ไม่ได้ มันไม่เหมือนบนโต๊ะไม้ เหล็ก กระจก หรือพลาสติก ที่พอจะอาศัยแรงสั่นเคลื่อนตัวเองไปไหนมาไหนได้บ้าง ถึงไม่มากก็ยังดี เพื่อแสดงให้ผู้เป็นนายได้สังเกตเห็น นี่บนผ้าคลุมเตียงผืนหนาแล้วก็นุ่ม มันช่วยแบ่งเบานายหญิงไม่ได้เลยจริง ๆ ฉันเสียใจมาก
นายหญิงเดินมานั่งข้าง ๆ ฉัน นายหญิงหยิบฉันขึ้นมาลูบ
แหม..ช้าไปนิดเดียว หน้าจอของฉันเพิ่งดับวูบเพื่อเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน
มันดำสนิท...นายหญิงก็ไม่เห็นว่าใครเรียกเข้ามา อยากจะสะดุ้งให้เด้งไปถึงหน้านายหญิงเชียว
แหะ ๆ แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
บ้าซิ...ฉันเป็นโทรศัพท์นะ...เด้งได้ไม่สูงซักขนาดนั้นสักหน่อย
ไม่ใช่นายหญิงนี่นา ตอนที่อยู่เวนิสตอนนั้นนะ
ฉันได้ยินพี่กาญจน์ของนายหญิงชมนายหญิงใหญ่เลย
ชมว่านายหญิงของฉันคนนี้นะเด้งเก่ง
อิอิ...ฉันยืนยัน แหะ ๆ นอนยัน นั่งยันก็ได้ว่านายหญิงของฉันเด้งเก่งจริง ๆ เด้งเก่งมาก ๆ เอิ๊ก ๆ อิ
ออกนอกเรื่องไปกันใหญ่แล้ว เดี่ยวนายหญิงได้ยินเข้าจะหยิกฉันหนับใหญ่ บังอาจนินทานายนะเจ้านี่ ตอนนี้ยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยเวิร์คเสียด้วย กลับมาใหม่ ๆ นะหน้าตาใสอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนเชียว อยู่ไป ๆ ไหงเครียดลง ๆ แบบนี้ก็ไม่รู้นะ ทะเลาะอะไรกับพี่โอ๊คหรือเปล่า ? นานแล้วนี่นา...พี่โอ๊คของนายหญิงไม่มาหาเลย แต่ฉันว่านายหญิงไม่ได้คิดถึงพี่โอ๊คคนนั้นหรอก
ก็คนที่เวียนโทรมาแล้วตัดสายไปก่อนนี่ไม่ใช่พี่โอ๊คของนายหญิงนี่นา อิอิ
นายคนนี้มีชื่อว่า 'พี่กระบอง' ฮาจริง ๆ คนอะไรชื่อกระบอง
ไม่เคยได้ยินนายหญิงเรียกใครว่าพี่กระบองนี่นา มันอะไรกันนี่
แต่ฉันรู้นะว่ามีแต่นายหญิงของฉันเท่านั้นแหละที่รู้ว่านายกระบองคนนี้คือใคร ?
ฉันไม่บอกหรอก..เดี่ยวนายหญิงของฉันจะว่าฉันปากโป้ง
นายหญิงโกรธฉันตายเลย ดีไม่ดีอาจเขวี้ยงให้ฉันบาดเจ็บก็ได้
ฉันกลัวนะ กลัวจริง ๆ ด้วย ตอนนี้...ยิ่งอารมณ์นายหญิงไม่ค่อยดีอยู่ด้วย
ฉันได้แต่ภาวนาขอให้พี่กระบองของนายหญิงโทรมาจริง ๆ เสียที
ขณะที่นายหญิงฉันกำลังลูบคลำฉันเล่นแบบเหม่อ ๆ อยู่นั้น
เออหนอ...ไม่รู้เป็นไง นายหญิงชอบปิดเสียงฉันเสียจัง
ปิดยาวเป็นวัน ๆ มาหลายวันแล้ว เหมือนไม่อยากฟังเสียงแสนไพเราะของฉัน
จริง ๆ นะ ฉันสงสารนายหญิงของฉันเหลือกำลัง
ก็ฉันรู้นี่ว่านายหญิงของฉันเป็นอะไร และกำลังคิดอะไรอยู่
น่า...นะ...โทรมาตอนนี้ทีเถิด...ไหว้ละ...ไหว้ละ...โทรเลย..โทรเลย..พี่กระบองของนายหญิง ฉันภาวนาให้กับนายหญิงของฉัน เจ้าพระคุ้ณณณ..น่า...นะ...โทร..โทร...เพี้ยง....
อุ๊ย...ฉันสยิวกิ้วเชียว ใช่แน่เลย ต้องเป็นพี่กระบองคนนั้นแน่เลย
ฉันสำรวจไปยังรายชื่อผู้เรียกเข้ามา ....
ดีใจจัง...คำภาวนาของฉันได้ผล พี่กระบองโทรเข้ามาจริง ๆ ด้วย...ดีใจกับนายหญิงจัง
ฉันสั่นครืด ๆ อยู่ใจกลางมือของนายหญิง เธอหันมามองฉันแบบเซ็ง ๆ
นายหญิงพลิกตัวฉันให้หงายขึ้นกดปุ่มรับสายแล้วยกขึ้นแนบหู
โห..แปล๊กแปลก..ไม่ยอมมองจอเลยด้วย รูปพี่กระบองคนนั้นโชว์หราอยู่นะ
เหม่อจังเลย..นายหญิงของฉัน...เป็นเอามากนะเนี่ย
"หวัดดีคะ..โมพูดคะ...." เสียงหวานแต่หางเสียงแปร่ง ๆ ชอบกล
"โม..พี่เอง..." ทำแค่สามคำเอง พี่น้องเอ๋ย
นายหญิงของฉันงี้หน้าแดงมีชีวิตชีวาขึ้นมาเชียว เหลือบไปมองแล้วดีใจจัง
"พี่กาญจน์..." แหะ ๆ เสียงสดใสขึ้นมาเป็นกอง
"โมอยู่ไหนจ๊ะ..." โห...นายกระบองนี่ก็หวานหยดเป็นเหมือนกันนะนี่
แหม..ฉันเข้าใจว่าเจ้าหมอนี่หวานเฉพาะตอนเป็นพี่กระบองเสียอีก ดีใจจัง
"โมอยู่คอนโด..." นายนั่นจะรู้ไหมว่า..นายหญิงของฉันตัดพ้อนะนั่น
"พี่เหงาจัง..." เอาเข้าไปนั่น..แทนที่จะแคร์อารมณ์นายเรา เฮ่อ...จะรอดไหมเนี๊ยะ
"พี่กาญจน์งานเยอะเหรอ..." เสียงลงท้ายเศร้า ๆ ขึ้นมาอีกแล้วละ ไอ้บ้าเอ๊ย..รู้ตัวเสียบ้างซิว๊ะ
"อื้อ..." ดูมัน..ดูมัน...สั้น...แค่นั้นเอง...ไม่เข้าใจผู้หญิงมั่งเลยให้ตายซิ
"โมไปทำงานหรือเปล่า ?" นายหญิงของฉันส่ายหน้าแล้วตอบว่า
"เหนื่อยคะ..." ตัดพ้อชัด ๆ ไอ้กระบือเอ๊ย... แหม..ทำให้ฉันปากจัด
"ไม่สบายหรือเปล่า ?" ส่ายหน้ากับเราอีกแล้ว
"เปล่า.." สั้นเหมือนกันแฮะ หรือว่าคู่นี้จะพอ ๆ กัน ทำไมไม่บอกเค้าไปละว่า
‘โมคิดถึงพี่กระบองม๊ากมาก’..คิดถึงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ' บอกไปเลยนายหญิงเอาเลย..สู้ ๆ
"พี่ไปหาได้ไหม ?" เออ..แบบนี้ซิค่อยเข้าท่าเข้าทางหน่อย สู้เลยนายหญิง เอาเลย...สู้....
"ก็มาซิคะ..โมอยู่คนเดียว..." เหอ ๆ ให้ได้แบบนี้ซินายหญิงฉัน อ่อยไปเลย
"อึ่ม...พี่อยู่หน้าคอนโดโมแล้ว..." นายหญิงของฉันร้อง
"อุ๊ย...จริงอ๊ะ..." นายหญิงตกใจจริง ๆ นะนี่
แต่ฉันรู้สึกได้เลยว่านายหญิงของฉันหัวใจเต้นเร็วเป็นรัวกลองเชียว
ฉันเหลือบไปเห็นสีหน้าและแววตาเปลี่ยนไปคนละคน เออ..ให้มันได้อย่างนี้ซิ...
"โมลงมารับพี่หน่อยซิ...พี่ไม่มีคีย์การ์ด...."
นายหญิงของฉันหัวเราะร่วนขึ้นมาเชียว "จริงอ๊ะ...โมลืมไป...รอแป๊บ..เดี่ยวลงไปรับ..."
"จ๊ะ...พี่ซื้อของกินอร่อย ๆ มาให้ด้วย..." แหมตอนนี้ตาเป็นประกายมีชีวิตชีวาเชียวนะ "คะ...."
เฮ่อ..เป็นคนละคนไปเลยนายเรา ตะกี้ยังซังกะตายอยู่เลย
พอหมอนั่นโทรมาหน่อย..กระดี้กระด้าใหญ่เลย...
เฮ่อ...รู้สึกว่าพี่กระบองคนนี้มีอิทธิพลต่อนายหญิงมากกว่านายโอ๊คเสียแล้ว
---- 9.10 ฉันคือมะโหนกน้องสาวคนสวยของพี่โม ----เมื่อพูดถึงเจ้าโลกที่พี่โมตั้งชื่อใหม่รู้กันแค่สองคนกับพี่กาญจน์ว่า "พี่กระบอง.." (พี่กระบองตีหัวผี) แล้วพี่โมก็เรียกฉันว่า "มะโหนก" ซึ่งก็คือน้องสาวคนสวยของพี่โมนั่นแหละ ไม่ได้ชมตัวเอง พี่กาญจน์นะชมฉันกับพี่โมบ่อย ๆ ฉันจำได้ดี อ้าว..ไม่เชื่อยกตัวอย่างให้ฟังก็ได้ เช่น ขาวจังโม กลีบมะโหนกนี่อูมแล้วแต่งตึงมากเลย ไหมก็ไม่ดกมาก
อีกอย่างที่พี่กาญจน์ชอบชมฉันกับพี่โม คือ โม..โคกจัง อึ่ม..ขาวจัง สวยที่สุดเลยพี่ชอบ
นี่ยังมีอีกนะ แต่เอาแค่นี้ก่อน เดี่ยวคนเค้าจะอิจฉา
พี่โมใช้งานฉันไม่น้อยเหมือนกัน แต่พี่โมก็ดูแลอย่างดีมาก
บางครั้งซื้อน้ำยาอย่างดีราคาแพง เพื่ออนามัยที่ดีของฉัน
นวดให้ฉันก็บ่อย พี่โมเตือนฉันบ่อย ๆ ว่าฉันนะต้องบริหารตัวเองด้วย
ฉันไม่ค่อยชอบหรอกตอนแรก ๆ ก็มันเหนื่อยนี่นา
พี่โมเกร็งขมิบแรง ๆ แล้วปล่อย ทำอยู่แบบนั้นแหละ
กว่าฉันจะคล่องก็ระบมจนจุกไปเลย
แต่ได้ผลดีนะ ฉันสุขภาพดีขึ้นจริง ๆ ฉันกระชับขึ้นมาก (ทั้งบริเวณนอกและใน)
ตอนนี้ฉันนะขมิบเองได้คล่องแล้วก็อึดขึ้น
ว่าง ๆ เมื่อไหร่ฉันบริหารของฉันเองไปเรื่อย ๆ ได้อย่างสบาย ๆ
วันหนึ่ง ๆ ฉันบริหารตัวเองนับได้หลายร้อยจนถึงกว่าพันครั้ง
ฉันจึงมีสุขภาพดีแข็งแรง กระชับแน่นไปหมด อิอิ...สุดยอดจริง ๆ
ฉันรู้ว่าดีแบบนี้ฉันทำไปนานแล้วละ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ฉันจึงไว้ใจพี่โมทุกเรื่อง
ไปเวนิสครั้งนี้นะ...อิอิ...สุดยอดมาก ๆ ฉันได้มีโอกาสแสดงฝีมือแบบเต็มที่เลย
อิอิ..มีเท่าไหร่ฉันใส่หมดแม็กจ๊ะพี่น้อง พี่กาญจน์ร้องลั่นแล้วกัน สะใจมาก ๆ
นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วนี่นา...ฉันชักจะคิดถึงพี่กระบองของฉันอยู่เหมือนกัน
พี่กระบองกับฉันนะเวิร์คกันสุด ๆ อิอิ...มันดีจริง ๆ นี่นาจะบอกให้
วันนี้นะหรือ...อะหา!!!...ฉันกะจะอัดกันกับพี่กระบองให้พี่กาญจน์ร้องจ๊ากเชียว
คิดแล้ว...อูววววว....พี่โมจ๋า...ฉันต้องขมิบตัวเองยิก ๆ เลยเชียว
โอวววว....น้องสาวพี่คิดแล้วเสียวแล้วนะพี่โมจ๋า...น้องมะโหนกรู้สึกจี๊ด ๆ ขึ้นมาแล้วละ
รีบลงไปรับพี่กาญจน์ขึ้นมาเร็ว ๆ ซิ...โอววว..พี่กระบอง...น้องมะโหนกรออยู่แล้ว
เร็ว..เร็วซิ...พี่โม... พี่โมทำเงอะ ๆ งะ ๆ อยู่นั่นแหละ
ทีเมื่อก่อนไม่ยักเห็นเป็นแบบนี้เลย มั่นใจในตัวเองเกินร้อย
ฉันว่าพี่กาญจน์นี่แหละคู่ปรับพี่โมที่แท้จริง พี่สาวเราอ่อนเป็นขี้ผึ้งเลย
ดูซิตอนนี้จะทำอะไรก็ขาดความมั่นใจไปทุกอย่าง เสร็จแน่เลยพี่สาวเรา เฮ่อ....
ฉันเหลือบตาดูพี่สาวแล้วได้แต่ถอนหายใจแล้วก็นึกหมั่นไส้
ส่วนตัวฉันเอง...รอสะด๊วฟอย่างเดียว...อิอิเอิ๊กกก
---- 9.11 ข้าคือเจ้าโลกหรือกระบองนายกาญจน์ ----ข้ามากับนายกาญจน์ มายืนวนไปเวียนมาอยู่หน้าคอนโดตั้งนานแล้ว
หยิบเจ้าโนเกีย N79 ขึ้นมาลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่เป็นนาน
นายกาญจน์กดเรียกไปเบอร์ปลายทางหนึ่งครั้ง
เสียงเรียกดังแต่ไม่มีคนรับสาย ทำเอานายกาญจน์หน้าจ๋อยเชียว
เดินวนไปเวียนมาอีกหลายรอบจนยามเหล่มองมาอย่างสงสัย
แต่เนื่องจากยามน่าจะเคยเห็นนายกาญจน์มาส่งหรือรับหญิงโมอยู่บ้างจึงพยักหน้ายิ้มให้แล้วไม่สนใจ
ข้าคิดถึงน้องมะโหนกแล้วชักคึกคักขึ้นมา ข้าเลยขยับเกร็งลำหงึก ๆ
นายกาญจน์สะดุ้งนิด ๆ ก้มลงเหมือนจะเตือนข้า แต่ข้ามีหรือจะยอม
ก็ข้าคือเจ้าโลกนี่นา นายกาญจน์ไม่มีสิทธิ์ใหญ่กว่าข้าไปได้
แม้เวลาจะไปหามะโหนกต้องอาศัยเขาพาไปก็ตาม
ยังไงข้าก็ต้องหาวิถีทางที่จะทำให้เขาต้องพาข้าไปจนได้
อย่างกรณีนี้เป็นตัวอย่าง ข้าคิดถึงน้องมะโหนกของหญิงโมเหลือกำลัง
กว่าครึ่งเดือนหลังกลับจากเวนิส ข้าไม่มีโอกาสไปเยี่ยมนิวาสสถานของน้องเค้าแม้แต่ครั้งเดียว ให้ตายเถอะ...นายกาญจน์นี่ใจแข็งชะมัดยาด
ไม่รู้คิดอะไรต้องการอะไรกันแน่
วันนี้ข้าแกล้งกระตุ้นให้จิตของนายกาญจน์หงุดเงี้ยวอย่างสุดกำลัง
ผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็น นายกาญจน์นั่งไม่ติดบ้าน
คว้าโทรศัพท์แล้วรีบแจ้นนั่งแท๊กซี่มาหน้าคอนโดน้องมะโหนกจนได้
มาแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้อีกนั้นแหละ ข้าเลยยุให้จิตหงุดเงี้ยวแรงขึ้นไปอีก
จึงได้ผลอย่างข้าต้องการ นายกาญจน์ต้องให้ข้าใช้กำลังบังคับอยู่เรื่อย คิดโน่นคิดนี่อยู่นั่นแหละ
ข้าได้ยินเสียงหญิงโมพูดกับนายกาญจน์แล้ว
สยิวจนพองตัววาบ ๆ จนน้ำซึมเชียว
อีกอย่างข้ารับรู้ถึงอาการดีใจของน้องมะโหนกอีกด้วย
ก็ได้แต่พึมพำ ๆ ไม่ให้นายกาญจน์ได้ยินว่า
"รอพี่ก่อนนะ...รอพี่ก่อน พี่กระบองจะรีบไปพบน้องมะโหนกแล้วจ้า"
นายกาญจน์เก็บโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋าไปนั่งเก๊กท่าหล่ออยู่ตรงม้าหิน
ทำเป็นแกล้งมองไปทางโน้นทางนี่ไม่ยอมมองตรงหน้าประตู
แต่ความจริงใจนะเต้นไม่เป็นส่ำ แอบ ๆ ชำเลืองมองประตูเพื่อได้เห็นเธอคนนั้น
ความรักนี่ทำให้คนเราทำอะไรแปลก ๆ ได้ขนาดนี้
ให้ตายซิ...นายกาญจน์นี่แปลกเป็นคนละคนทีเดียว ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน
โอ๊ะ...กระตุกยิก ๆ เลย ข้ารู้สึกสัมผัสได้ว่าน้องมะโหนกใกล้เข้ามาแล้ว
แต่ดูซิ...นายกาญจน์ยังนั่งตะลึงอยู่นั่นแหละ จนหญิงโมเดินเข้ามาหา
ข้ารู้สึกว่าหญิงโมสะโอดสะองขึ้นเป็นกอง น้องมะโหนกขมิบส่งสัญญาณตรงมาถึงข้า
ข้าเลยเกร็งตัวพองวาบขึ้นตอบรับ แล้วกระซิบบอกน้องมะโหนกเบา
"รอพี่กระบองแป๊บนะน้องมะโหนก...วันนี้พี่ลุยน้องเต็มที่เลย"
น้องมะโหนกเหมือนหัวเราะคิก ๆ แล้วตอบกลับมาว่า "มะโหนกบ่ยั่นหรอกพี่กระบอง"
"หือ...เตรียมพร้อมยัง..." ข้าทำเสียงคำรามออกมา "ไม่กลัว" แนะน้องมะโหนกท้าเสียงดังอีก
แต่นายกาญจน์นั่งมองหญิงโมตะลึงอยู่เลย
แน่ะ..หญิงโมก็มองนายกาญจน์ตะลึงไปเหมือนกัน
นายกาญจน์ลุกขึ้นแล้วเดินไปจับมือ "ดีมากนายกาญจน์" ข้ากระซิบบอกเขาเบา ๆ
แต่คิดว่านายกาญจน์คงไม่ได้ยินหรอก เขาจับมือหญิงโมแน่น
ข้าคิดว่าตอนนี้ทั้งสองต่างถ่ายทอดความรักความคิดถึงสู่กันและกันแน่เลย
ทั้งสองยืนสบตากันนิ่งนานเชียวละ ไม่พูดอะไรกันสักคำเดียว
ข้าเลยถือโอกาสสงสัญญาณพิเศษไปให้น้องมะโหนกอีกครั้ง
"ไม่เจอกับน้องมะโหนกเสียนาน คิดถึงน้องมะโหนกเหลือเกิน..." ข้าออดคำหวานไปให้ก่อน
"มะโหนกก็คิดถึงพี่กระบองเหลือเกิน ตั้งแต่กลับจากเวนิส เราไม่ได้เจอกันเลย คิดถึงมั๊กมาก..."
โห...ข้ากระตุกจนพองวาบ ๆ ทีเดียว นายกาญจน์ถึงกับตัวเกร็ง
เขาไม่รู้หรอกว่าข้าแอบคุยพิเศษ ๆ กับมะโหนกก่อนเขา
"กลีบของน้องมะโหนกยังตูม ๆ อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ?" ข้าพูดแล้วเสียวแปล๊บเพราะนึกเห็นภาพขึ้นมา
"อุ๊ย..พี่กระบองนี่แหละ ถามอะไรก็ไม่รู้..เค้าอายนะ..."
"อื้อ...น้องมะโหนกจ๋า ก็พี่เห็นหญิงโมผอมไปเยอะเลยจนหุ่นเหมือนนางแบบเชียว"
"นั่นนะเนื้อส่วนเกินหรอกจ๊ะที่ลดไป...พี่กระบองไม่รู้อะไร...กะ..กลี..กลีบ...นะน้องว่าอูมกว่าเดิมอีกนะ"
"อุ๊ย...อาาาาา..." ข้าร้องอย่างสะท้านใจ "พี่อยากเห็นน้องมะโหนกจนชักทนไม่ไหวแล้ว..." ข้าบอกตามตรง
"พี่กระบองจ๋า..รอพวกเค้านิดนะ...ใจเย็นหน่อย"
ข้าผงกหัวหงึก ๆ แล้วตอบไปว่า "จ๊ะ..มะโหนกจ๋า...."
อ้าว...ยืนสบตากันอยู่นั่นแหละเมื่อไหร่จะขึ้นห้องสักทีละ
"มะโหนก..ช่วยกระซิบบอกหญิงโมให้ชวนนายกาญจน์ขึ้นห้องซิ...." ข้ากระซิบแบบสั่น ๆ
"คะ..น้องจะพยายามนะ...."
"พี่ก็จะลุ้นทางนายกาญจน์ด้วย..เราต้องช่วยกันนะ ไม่งั้นพี่อดเจอมะโหนกแน่เลยงานนี้"
"คะ...วันนี้ยังไง ๆ เราต้องเจอกันให้ได้นะพี่กระบอง..."
"จ้า....." ข้ารับปากน้องมะโหนกแล้วเกร็งจนลำตัวข้าพองวาบ ๆ จนนายกาญจน์รู้สึก
"โม...พี่คิดถึงโมเหลือเกิน...." เอางั้นแหละนายกาญจน์..อย่าเอาข้ากลับบ้านเฉย ๆ ละ ตายแน่เลย หญิงโมมองหน้านายกาญจน์นิ่ง "โม..โม..ก็..คิดถึง..พี่กาญจน์..." เสียงเบามากเลยหญิงโม หญิงโมชวนเลยซิ...ชวนเลย...ชวนไปห้อง...ชวนเลย....ข้าลุ้นจนปวดเส้นสองหลึ่งหนึบ ๆ
"พี่กาญจน์ขึ้นไปบนห้องก่อนไหมคะ ?" ดีใจ..ดีใจจังโว๊ย..ชวนแล้ว...รับเลยนายกาญจน์ รับเลย...
"อึม...พี่ซื้อของกินมาเยอะ.." นายกาญจน์พูดแล้วชี้มือไปที่โต๊ะ
หญิงโมเดินไปหยิบถุงขึ้นมาแต่นายกาญจน์รีบสอดมือแย่งมาก่อน
ทั้งสองเดินเข้าประตูคอนโด หญิงโมกดเรียกลิฟต์ครู่เดียวทั้งสองเข้าลิฟต์
กดชั้นสิบสี่ปล่อยให้ลิฟต์เคลื่อนขึ้น นายกาญจน์กุมมือหญิงโมแน่นเชียว
"น้องมะโหนก..ได้ผลแล้ว...ดีใจจัง..." ข้ากระซิบบอกน้องมะโหนก
"คะ..มะโหนกก็ดีใจ...พี่กระบองจ๋า...เดี๋ยวเราได้เจอกันแน่..."
"พี่กระซิบบอกน้องมะโหนกก่อนนะ..นายกาญจน์จะตายให้ได้เชียวงานนี้..."
"มะโหนกก็อยากกระซิบบอกพี่กระบองเหมือนกันว่านายหญิงโมแทบแย่เหมือนกัน..."
"งั้นคืนนี้..พี่กับน้องมะโหนกมาทำให้พวกเค้ามีความสุขกันมาก ๆ นะ..."
"คะ..."
ข้าสยิวกิ้วไปทั้งกระบองเลยที่น้องมะโหนกตอบรับและยืนยันเช่นนั้น โอวววว..มันแน่นอน..อดมาหลายวันแล้ว
---- 9.12 ฉันคือมะโหนกน้องสาวคนสวยของพี่โม ----ฉันแอบคุยซุบซิบ ๆ กับพี่กระบองโดยไม่ให้พี่โมของฉันรู้หรอก
คุยไปฉันก็คิดถึงความอบอุ่นตอนฉันกลืนกินทั้งลำของพี่กระบองตอนอยู่เวนิส
ฉันคุยตอบโต้เสียว ๆ ได้ไม่เท่าไหร่ร่องของฉันเปียกชื่นขึ้นมาทีเดียว
ตอนนี้ฉันรู้ว่าพี่โมพี่สาวของฉันรู้สึกแล้วละ เพราะเดินหนีบ ๆ พาพี่กาญจน์ขึ้นลิฟท์
ฉันแอบมองไปยังเป้าพี่กาญจน์ที่พี่กระบองซ่อนตัวอยู่ก็ตุงออกมาจนเห็นชัดเชียว
ฉันอดหัวเราะหึ ๆ ไม่ได้ ทั้งพี่โมและพี่กาญจน์ต่างเงอะงะเต็มที
ใจจริงของทั้งสองต่างโหยหาอาทรกันและกันอย่างที่สุด
ฉันคิดว่านายกาญจน์นะอยากกอดพี่โมของฉันเต็มทนแล้ว
พี่โมเองนะหรือใจนะอยากโผเข้าสู่อ้อมอกพี่กาญจน์สุดใจเหมือนกัน
แต่ต่างก็สงวนท่าทีกันอยู่ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกันดี..
ทำไมนะ..ทำไมไม่เหมือนตอนอยู่เวนิสนะ
พอกลับมา...มันเหมือนมีกำแพงไร้สภาพกางกั้นทั้งสองเอาไว้
กำแพงนั้นก็คือความคิดของคนทั้งสอง ไม่เป็นอิสระเหมือนอยู่เวนิส
ฉันเฝ้ามองพี่กระบองที่ตุงเป้ากางเกงพี่กาญจน์
พอเห็นมีการดุ๊กดิ๊กฉันจึงแอบเรียกพี่กระบอง
"พี่กระบอง...ทำไรนะ .... ?"
"พี่..โอววว...น้องมะโหนก...พี่เกร็งแทบแย่..." พี่กระบองตอบเสียงกระเส่า
"เกร็งทำไมละพี่...??" ฉันถามอย่างสงสัย
"ก็พี่...พี่...อยากลุยน้องมะโหนกเต็มทนแล้ว...น้องละ..."
"อื้อ...ให้เวลาพี่โมกับพี่กาญจน์เค้าหน่อยเถอะ...พี่กระบองนะวัยรุ่นอยู่เรื่อย..."
"ได้...ได้..พี่จะทนรอพวกเค้าก่อน...ขอให้เร็วหน่อยก็ดี..." ฉันอดหัวเราะพี่กระบองไม่ได้
ทั้งที่ฉันเองก็อยากลุยกับพี่กระบองไม่ต่างกัน พี่โมรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ฉันนะแฉะไปหมดแล้ว
อยู่ ๆ พี่กาญจน์ดึงตัวพี่โมฉันเข้าไปกอด รัดเอาไว้เสียแน่น
ปากพร่ำรำพันแต่คำว่า "คิดถึง" ๆ ๆ ๆ ไม่หยุดหย่อน
"พี่คิดถึงโมเหลือเกิน..โมจ๋า...คิดถึงใจจะขาด..." คำพูดนี้ทำให้พี่โมสะท้านซบหน้าลงกับไหล่
"โมก็คิดถึง...พี่กาญจน์ไม่โทรหาโม..." เหมือนน้อยใจ เหมือนต่อว่านะนี่
"พี่กลัว..." นายกาญจน์สารภาพ ดี..มันคงจะไปด้วยดีแล้วนายกาญจน์ ต่อเลย
"พี่กลัวอะไร...?" พี่โมถามเหมือนใจฉันคิดเลย
"กลัวโม..." ไม้นี้ของนายกาญจน์ทำให้พี่โมของฉันหัวเราะร่วนออกมาได้
"กลัวทำไม..." พี่โมถามตาวาว "ไม่รู้...??" พี่กาญจน์ตอบมาแบบนี้จริง ๆ
นิ่งไปครู่แล้วสารภาพว่า "พี่กลัว...กลัวผิดหวัง...โมกลับมาแล้ว...." นายกาญจน์ทิ้งเอาไว้แค่นั้น
"พี่กาญจน์...โมรักพี่...." แน่มาก ๆ พี่สาวเราให้มันได้แบบนี้ซิ เอามันให้เด็ดขาดไปเลย
"พี่เอง..ก็รักโม...รักมาก ๆ..." เห็นไหมละ พวกผู้ชายนะปากแข็งจะตาย พี่กระบองก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้น..เราต้องรุกให้จน สำคัญต้องให้ได้จังหวะจะโคน ทำเป็นถอยเหมือนอ่อนแต่ต้องแกร่ง ลวงฝ่ายตรงข้ามให้สับสน ทีนี้ละมีอะไรในก็ออกมาหมด เสร็จทุกราย สารภาพมาแล้วไหมละ
"พี่กาญจน์รักโมจริงเหรอ..." นายกาญจน์ดันตัวพี่โมออกแล้วพยักหน้าถี่ ๆ
ฮะ..ฮ่า...ฉันเห็นพี่กระบองผงกหงึก ๆ อีกแล้ว คงอยากลุยเต็มแก่แล้วซิ
ฉันเองก็ชักอดใจไม่ไหวเหมือนกัน คิดถึงพี่กระบองที่สุด อุ๊ย..แต่ต้องใจแข็งก่อน
"พี่ทรมานเหลือเกินโม...พยายามอดใจ..ยังไงก็ไม่ไหว..." ตอนนี้พี่สาวเรายิ้มตาพราวเลย ดูจะมีกำลังกายกำลังใจเพิ่มขึ้นมากเลย เฮ่อ...รักนี่หนอแปลกจังเลย
"โมมีเจ้าของแล้ว...พี่มาทีหลัง..." แหมตีหน้าเศร้าเชียวพี่กาญจน์
คราวนี้โมหัวเราะเต็มเสียงทีเดียว กระซิบอะไรงุบงิบ ๆ ที่ข้างหู
"จริงอ๊ะ..." พี่กาญจน์ทำตาโต พี่สาวเราบอกอะไรกับพี่กาญจน์นะ ?
พี่โมพยักหน้าถี่ ๆ "จริง...." ดูท่าข่าวที่พี่โมบองทำให้พี่กาญจน์ดีใจสุดขีด
เอ...มะโหนกไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าพี่โมบอกอะไรพี่กาญจน์
"ไม่เห็นโทรมาบอกพี่เลย..."
"ก็คงอยากพิสูจน์ใจพี่กาญจน์ก่อน...ว่าเอาจริงหรือเปล่า ?"
"โม..ใจร้าย ไม่โทรไปบอกพี่เลย..." พี่โมเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากพี่กาญจน์
"ก็พี่โอ๊คต้องการให้โมพิสูจน์ใจพี่กาญจน์ก่อนว่าโมจะเป็นของจริงของพี่กาญจน์หรือเปล่า ?"
"เหรอ...พี่ไม่มีความสุขเลยโม..พยายามทำงานให้หนักจะได้ไม่คิดมาก แต่ทำใจไม่ได้"
"คิดถึงโมมากซิ..." พี่กาญจน์ยิ้มตาพราวแล้วพยักหน้า
อึม...ดีใจกับพี่สาวเราจัง นี่แสดงว่าสมหวังแล้วซิ
มะโหนกไม่รู้เลยว่าพี่โมตกลงกับพี่โอ๊คเอาไว้ตอนไหนและเมื่อไหร่
คิด ๆ แล้วสงสารพี่โอ๊คเหมือนกันนะ ถึงมะโหนกจะติดใจกระบองของพี่กาญจน์มากกว่าก็เถอะ
มะโหนกรู้นะว่าพี่โอ๊คนอกจากพี่โมแล้วยังมีให้เล่นอีกตั้งสองคน
แต่สำหรับพี่กาญจน์มะโหนกก็รู้จากพี่กระบองว่าพี่กาญจน์ไม่มีใครอื่นอีกเลย
นาน ๆ พี่กาญจน์จึงจะพาพี่กระบองไปลงสนามประลองเสียทีหนึ่ง
แต่พี่โอ๊คให้เวลาสำหรับพี่โมอย่างมากอาทิตย์ละวันหรือสองวันเท่านั้นเอง
"พี่ดีใจที่สุดเลย..ต่อไปนี้...ดีใจ...โอววว...."
มะโหนกเห็นอาการพี่กาญจน์แล้วรู้ว่าดีใจจริง ๆ
แหม...แสดงออกมาเปิดเผยขนาดนั้น ทั้งสีหน้า แววตา และคำพูด
อาการของพี่กาญจน์ทำให้พี่โมของมะโหนกระรื่นชื่นเชียว
ไม่หน้าทื่อ ๆ เหมือนหลายวันที่ผ่านมาเลย
พูดจบพี่กาญจน์ระดมจูบพี่โมของมะโหนกใหญ่เลย
มีหรือพี่โมจะยอมแพ้ พี่กาญจน์จูบพี่โมก็จูบกลับ
ทั้งจูบทั้งหอมกันอยู่นั่นแหละ.....เฮ่อ...มีความสุขจังเลย
แต่..แต่...มะโหนกยังไม่ได้พบตัวพี่กระบองเลย...เฮ่อ...พี่กระบองจ๋า
---- 9.13 ฉันคือแชนเดอเลียร์ -----ฉันคือโคมระย้าสุดหรูประจำห้องหญิงโม ฉันเป็นของขวัญชิ้นหรูจากนายผู้ชายโอ๊ค
ที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้สืบเนื่องจากฉันได้รับฉันทามติให้เป็นตัวแทนทุกฝ่าย
ก็พวกเตียง ที่นอน ผ้าปูที่นอน หมอน หมอนข้าง โต๊ะเครื่องแป้ง
ตู้เสื้อผ้า โซฟา และของใช้ทั้งหมดที่อยู่ในห้องของนายหญิงโม
ฉันจะเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนที่นายกาญจน์กับนายหญิงโมระดมจูบระดมหอมกันฟอด ๆ
จนนายหญิงโมของฉันเริ่มระทดระทวย นายกาญจน์คนนั้นก็เลยช้อนร่างระหงของเธอขึ้น
พาเดินไปวางเธอลงบนที่นอนหนาใหญ่ปูผ้าขาวสะอาด
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่เคยเห็นกันมาก่อน
นายผู้ชายโอ๊คก็ชอบทำกับนายหญิงโมแบบนี้บ่อย ๆ เหมือนกัน
ขอบอกพวกท่านตามจริง พวกเราไม่ค่อยจะชอบนายกาญจน์คนนี้ซักเท่าไหร่หรอก
พวกเรารู้สึกว่าห้องและของต่าง ๆ ภายในห้องนี้ทั้งหมดเป็นของนายหญิงโม
และจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่นายผู้ชายโอ๊คซื้อมาให้ด้วยความรัก
แต่ละชิ้น ๆ ล้วนมีความทรงจำและความอาลัยแฝงอยู่
พวกเราจึงรวมหัวกันเรียกนายกาญจน์คนนี้ว่าเป็นแมวขโมย
เราแปลกใจนักหนาว่าทำไมนายหญิงโมถึงดูระทดระทวยกับนายกาญจน์คนนี้นักหนา
รู้สึกว่าจะเป็นเอามากเกินกว่าตอนจูบกับนายผู้ชายโอ๊คเสียอีก
พวกเรารู้สึกคิดถึงนายผู้ชายโอ๊คที่ทำไมช่วงนี้ไม่มาหานายหญิงโมเลย
หรือว่าทั้งสองทะเลาะกัน หรือเลิกกันแล้ว
ตั้งแต่พวกเรารับรู้รับทราบทั้งสองไม่เคยทะเลาะกัน
นายผู้ชายโอ๊ครักและตามใจนายผู้หญิงโมเป็นที่สุด
แล้ว...แล้ว..เจ้าแมวขโมยปลาย่างนี้มันเข้ามาสวมรอยได้ยังไงกัน ?
ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง นายหญิงโมรับโทรศัพท์
เสียงจากการพูดคุยกันทำให้พวกเราจับความได้ว่า
นายหญิงโมของเราน่าจะคุยกับนายผู้ชายโอ๊ค
การพูดคุยกันนั้นเราได้ยินว่านายผู้หญิงโมสารภาพความจริงอะไรบางอย่าง
และนายผู้หญิงโมได้ยอมรับกับนายผู้ชายโอ๊คว่าที่ว่านั้นความจริง ๆ
แต่เราไม่รู้ว่าจริงนะเรื่องอะไร แต่สุดท้ายนายหญิงโมพูดออกมาว่า
เธอรักและเคารพนายผู้ชายโอ๊คเหมือนพี่ชาย ต่อไปจะเป็นเพียงน้องสาวที่ดีเท่านั้น
แต่ที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่นายผู้หญิงโมพูดด้วยจะเป็นนายผู้ชายโอ๊คใช่หรือไม่ ?
เราเคยถามเจ้าโทรศัพท์โนเกีย 5800 Xpress แต่มันทำเป็นหยิ่ง มันไม่ยอมบอก
มันบอกเราเพียงว่าเป็นความลับของนาย อย่ายุ่ง พวกเราเลยทำอะไรไม่ได้
ฉันคอยสังเกตนายผู้หญิงโมด้วยความห่วงใย ก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่
นับตั้งแต่วันที่นายผู้หญิงโมกลับมาเมืองไทย เธอมักจะนั่งเหม่อใจลอยยังไงไม่รู้
เพลงที่เคยชอบฟังก็ไม่เปิดฟัง พวกเราจะช่วยปลอบใจเธอก็ทำไม่ได้
ฉันได้แต่เพียงแปล่งประกายเป็นแสงนวลตาเธอจะได้สบายอกสบายใจขึ้นบ้างเท่านั้น
นายหญิงโมยังไปทำงานทุกวัน ตอนเย็นกลับมาก็เอาแต่นั่งเหม่อ ๆ จ้องแต่นังมือถือ
โทรก็ไม่โทร นั่งลูบ ๆ คลำ ๆ แล้ววาง แล้วหยิบมาจิ้มโน่นจิ้มนี่แล้วก็วางอีก
เฮ่อ..จะทำอะไรก็ไม่เอา เป็นแบบนี้จนพวกเราชักกลุ้มใจแทน
พวกเราคุยกันว่านายหญิงของเราน่าจะมีเรื่องทุกข์อกทุกข์ใจอะไรสักอย่าง
จะว่าทะเลาะกับนายผู้ชายโอ๊คก็สรุปเช่นนั้นไม่ได้ชัดเจน เราห่วงเธอกันทุกคน
แล้ววันนี้ความจริงก็เปิดเผย เจ้าแมวขโมยที่ชื่อนายกาญจน์คนนี้นี่เองที่เป็นต้นเหตุ
มันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งมวลของนายผู้หญิงโม มันทำอะไรกับเธอกันแน่
เราไม่คิดว่าเธอมีชู้หรอก เราคิดว่าน่าจะมีเหตุปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างมากกว่า
หรือว่านายผู้หญิงโมถูกนายกาญจน์แมวขโมยปลาย่างตัวนี้ทำเสน่ห์ยาแฝด
หรือฝังรูปฝังรอย หรือแอบให้เธอกินไวอาก้า
"เฮ้ย...มั่วแล้วเจ้าแชนเดอเลียร์ ไวอาก้านั่นมันสำหรับผู้ชายเว้ย...."
เจ้าเต้าเสียบโวยวายอย่างรู้ดี ก็ฉันได้ยินจากทีวีว่ามันเป็นยาปลุกเซ็กส์นี่นา
เออ..ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ สรุปคือพวก เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่านายผู้หญิงโมถูกอะไร ?
นายผู้หญิงโมนะสวย หุ่นดี น่ารัก แล้วนมเธอขาว อวบ แล้วตรงนั้นก็สวยมาก ๆ
มีหรือเจ้าแมวขโมยปลาย่างอย่างนายกาญจน์จะอดใจไหว
มันโผตัวลงไปหานายหญิงโม เหมือนจะลงไปขม้ำเธอยังไงยังงั้น
พวกเราช่วยกันภาวนาขอให้นายผู้หญิงโมถีบให้มันกระเด็นตกเตียงไปเลย
หรือไม่ก็ให้เธอตบให้มันหน้าหันซ้ายหันขวา
เฮ่อ...พวกเราต้องผิดหวัง..ผิดหวังจริง ๆ
นายผู้หญิงโมไม่ถีบและไม่ตบแล้ว หนำซ้ำเธอยังกางมือออกกอดมันเสียอีก
ยัง...ยัง...ยังไม่พอ...เธอยื่นปากไปหอมแก้มมันฟอด ๆ ราวกับแก้มมันหอมเสียเต็มประดา
ตัวฉันเองหมั่นไส้เจ้าแมวขโมยจนอยากกระชากตัวเองหลุดจากเพดานลงไปครอบหัวมัน
แต่ทำไม่ได้หรอกมันคร่อมอยู่บนร่างนายผู้หญิงโมแบบนั้น เดี่ยวนายผู้หญิงโมของพวกเราจะเจ็บไปด้วย
เราเจ็บใจจริง ๆ อ้าว...ดูมัน ๆ มันจูบแล้วบดริมฝีปากนายผู้หญิงโมเราแล้ว
ไอ้...เอ๊ย...มันบดปากเสียนานเชียว อ้าว..ๆ...มันยังไม่พอ มันถอนปากออก
นายผู้หญิงโมของเราเองกลับผงกหัวขึ้นตามมาจูบมันอีก เหมือนกับขอบคุณมันยังไงยังงั้น
นี่ ๆ แสดงว่านายผู้หญิงโมของเรารู้เห็นเป็นใจกับมัน..รู้กับเจ้าแมวขโมย...
ดูซิเธอกระหายรสจูบจากมันเหลือเกิน ปรารถนายิ่งกว่ารสจูบของนายผู้ชายโอ๊คเสียอีก
พวกเราที่เฝ้าดูอยู่ต่างรุมด่ารุมสาปแช่งเจ้าแมวขโมยกันขรม
เจ้าแมวขโมยเลื่อนหน้ามาจูบตรงเนินอกของนายผู้หญิงโม
เธอไม่ใช้มือปิดปัดป้องใด ๆ เลย แถมยังแอ่นอกอวบขึ้นส่าย
ให้ส่วนหัวนมเขี่ยแก้มเจ้านั่นเป็นการท้าทายเสียอีก ถึงจะมีเสื้ออยู่ก็เถอะ
เธอไม่น่าทำแบบนั้นเลย...โอว...นายผู้หญิงโมของพวกเรา...
นายผู้หญิงโมหัวเราะเสียงสดใส ที่ได้แอ่นอกเขี่ยแก้มล้อเจ้านั่นเล่น
ตัวมันก็ยื่นแก้มให้เธอล้อมันเล่นอย่างสนุก แล้วทั้งสองพากันหัวเราะร่วน
พวกเราตัวเกร็งกันไปถ้วนหน้า เราโกรธนายผู้ชายโอ๊คเหลือกำลัง
ทำไมนายถึงได้เปิดโอกาสให้เจ้าแมวขโมยมันสามารถมาขโมยปลาย่างถึงถิ่นก็ไม่รู้
เจ้าแมวขโมยมันทำเกินไปจริง ๆ ฉันว่าคิดจะหลับตาไม่มอง แต่มันก็โกรธนี่จะต้องดูให้ถึงที่สุด
ดูมัน..ดูมันทำซิ ไอ้แมวขโมยมันเริ่มปลดกระดุมเสื้อนายผู้หญิงโมออกแล้ว
ทีละเม็ด ๆ สายตามันมองสบตานายผู้หญิงโมหวานหยดย้อยไปเลย
มันปลดออกหมดจนเห็นยกทรงสีชมพูอ่อน นายผู้หญิงของเราสวยจริง ๆ
เจ้าแมวขโมยค่อย ๆ ดึงเสื้อของนายผู้หญิงโมออก
เฮ่อ..นายผู้หญิงโมกลับยันตัวเองขึ้นแล้วช่วยมันเอาเสื้อตัวนั้นออกไปจากตัว
ให้ตายซิ...นายผู้หญิงโมทำได้ไงกันนี่ อ้าว ๆ ดู ๆ เธอยังยื่นมือขึ้นมาตรงกลางอก
ให้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กดแล้วบีบ ยกทรงที่ปิดสองเต้าของเธอก็หลุดออกจากกัน
เต้านมขาวอวบเด่นอาบแสงนวลของฉัน แม้ฉันจะเห็นเต้านมของนายผู้หญิงโมบ่อย ๆ
ฉันก็อดที่มองแล้วชมเชยนมของเธอไม่ได้ นมเธอได้รูปทรงซาลาเปานูนเด่น เฮ่อ...บอกไม่ถูก ยกทรงของเธอห้อยลงอยู่สองข้างตัว เธอไม่ยกมือขึ้นปิดป้องเต้านมแต่อย่างใด
กลับเหมือนจะแอ่นอกนิด ๆ ยั่วสายตาของเจ้าแมวขโมยเสียอีก
พวกเราเห็นสายตาเจ้าแมวขโมยจ้องเต้านมสวยของนายผู้หญิงโมเขม็งจนตาโปน
ในแววตาของมันนะแววโรจน์เหมือนมีหลอดไฟดวงโตฝังอยู่ข้างใน
มันยื่นมือมาช้อนเต้านมเธอขึ้น เราเห็นหัวนมเล็กจิ๋วสีเข้มกว่านวลเนื้อนิดเดียว
ป้านฐานนมขนาดเท่าเหรียญสิบ เฮ่อ..มันช่วยเพิ่มความงามเกินบรรยาย
นมทั้งสองของนายหญิงโมปราศจากไฝฝ้าจุดด่างดำแม้แต่รอยเดียว
อาบแสงแล้วแปล่งมนต์ขลังออกมาให้ตลึง งามเหมือนกับภาพวาด
นายผู้หญิงโมเองไม่ได้รู้สึกอายต่อสายตาเจ้าแมวขโมยตัวนี้แต่อย่างใด
เธอมองประสานสายตาหมอนั่นแบบไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว
เธอพึงพอใจที่ได้อวดและท้าทายสายตาเจ้าหมอนั่น
เจ้าหมอนั่นพึมพำ ๆ เสียงกระเส่าฟังไม่ได้ศัพท์จนนายผู้หญิงโมหัวเราะ
"พี่กาญจน์คิดถึงหรือเปล่า ?" นายผู้หญิงโมพูดแล้วแย้มยั่วตาเป็นประกาย
เจ้าหมอนั่นพยักหน้าหงึก ๆ เหมือนใบอยู่เป็นนานแล้วพูดว่า "คิดถึงเหลือเกิน โมจ๋า..."
"นมโมก็คิดถึงพี่กาญจน์เหมือนกันนะ..." พูดแล้วเธอหัวเราะคิก ๆ
"มองแล้วเพลินตาจังโม...พี่คิดถึงนมโม คิดถึงจูบของโม คิดถึงน้องมะโหนกของโม...คิดถึง..คิดถึง..."
ฟังซิ..ฟังมันรำพันออกมา...น้องมะโหนก...พวกเราไม่เข้าใจ แต่คิดว่านายผู้หญิงโมนะเข้าใจดี
เธอยื่นหน้าเข้าไปหามันแล้วกระซิบที่หูเบา ๆ พวกเราไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร
แต่คำพูดของเธอทำให้เจ้าแมวขโมยเบิ่งจนตาโตเท่าไข่ห่าน สูดปากซี๊ดยาว
"น้อง มะ โหนก ก็ คิด ถึง พี่ เหมือน กัน หรือโม ??????...." มันถึงกับตะกุกตะกักเลย
นายผู้หญิงโมของเราหัวเราะจนตาหยีแล้วพูดว่า "บอกพี่กาญจน์ต่อดีหรือเปล่า ?"
เจ้าแมวขโมยรีบระล่ำละลักสวนเธอทันควันว่า "บอกเลย ๆ โมพี่อยากรู้"
นายผู้หญิงโมดึงตัวเจ้าหมอนั่นเข้ามากอด หอมตรงซอกคอ แล้วใช้ฟันกัดคอมันเบา ๆ
"บอกพี่ซิ ๆ..น้องมะโหนกมาคิดถึงพี่ยังไง ?" มันยังพร่ำถึงแต่น้องมะโหนก..มะแหนก..อะไรของมันอยู่นั่น
"มะ..มะ..โหนก..บอกว่า....บอกว่า..." มันรีบขัดขึ้นมาอีก "บอกว่า..เร็วหน่อย..."
ดูเหมือนมันใจร้อนอยากรู้เสียเหลือเกิน มันอยากรู้เรื่องน้องมะโหนก มะแหนกทำไมกันว๊ะ
นายผู้หญิงโมก็เหมือนจะแกล้งมันเล่น "น้องมะโหนก..บอกว่า ๆ ..คิดถึง..." แล้วเธอก็หัวเราะเสียงใส
"แล้วน้องมะโหนกบอกอะไรโมอีก ?..." คราวนี้นายหญิงโมส่ายหน้า
แต่เธอกลับมีอาการหน้าแดงและแสดงออกทางแววตาเสียนี่กระไร
ทำให้เจ้าแมวขโมยรู้ว่าน้องมะโหนก..มะแหนกอะไรนั่นจะต้องบอกเรื่องสำคัญอะไรอีก
แล้วก็จริงอย่างว่ามันรีบฉกฉวยโอกาสนั้นในทันที
"โมจ๋า..บอกพี่เถอะ..มะโหนกบอกอะไรกับโมอีก...นอกจากคิดถึง..."
คราวนี้นายผู้หญิงโมของเรากลับนิ่ง สบสายตาเจ้านั่นด้วยแววตาซึ้ง
จากนั้นก้มลงกระซิบที่ริมหูมัน ให้ตายซิ...พวกเราเลยไม่ได้ยินว่ามะโหนก..มะแหนกบอกอะไร ?
แต่จากที่มันแสดงอาการดีใจจนเนื้อเต้นปานนั้น
ฉันคิดว่าน้องมะโหนก..มะแหนกอะไรนั่นคงจะบอกข่าวดีมาก ๆ ต่อมัน
มันละล่ำละลักจนเสียงสั่นเชียว
"น้องมะโหนกบอกโมจริง ๆ เหรอ" นายผู้หญิงโมเห็นอาการมัน เธอหัวเราะคิ๊กแล้วพยักหน้าถี่ ๆ
"โม..โม..งั้นขอพี่คุยกับน้องมะโหนกหน่อยนะ...พี่คิดถึงมันใจจะขาดแล้วหละ อึม..ไม่ได้เจอกันนานเหมือนเป็นปีเลยโม..."
นายผู้หญิงโมหัวเราะหึ ๆ แล้วกระซิบบอกมันเบา ๆ
"มะโหนกเขาไม่ได้คิดถึงพี่กาญจน์นะรู้ไว้ด้วย มะโหนกเค้าคิดถึงพี่กระบองของเค้าต่างหาก พี่กาญจน์อย่าขี้ตู่ กิ้ว ๆ"
เธอทำหน้าล้อเลียน นายหญิงเราสดชื่นจนไม่เหลือเค้าหมองเหมือนที่ผ่านมาเลย
เจ้าแมวขโมยตัวร้ายมันมีอิทธิพลกับเธอมากจริง ๆ ฉันคิดว่ามากกว่านายผู้ชายโอ๊คหลายเท่า หากเหตุการณ์นี้ฉันคิดว่านายผู้ชายโอ๊คคงเสียนายผู้หญิงโมให้ไอ้หมอนี่แน่นอนชัวร์แล้ว..ลองเป็นแบบนี้
"พี่ไม่ได้ขี้ตู่นะโม..พี่คิดถึงมะโหนกด้วยเหมือนกัน..."
"จริงนะ..." เธอมองมันตาเยิ้ม "อื้อโม...คิดถึงมาก"
พูดจบเจ้าหมอนั้นยื่นลงไปจับหมับเข้าตรงเป้าของนายผู้หญิงโม
เธอสะดุ้งจนเห็นชัด แต่ไม่ยักจะขัดขืนสักกะนิด กลับอ้าขากว้างขึ้นให้มันจับเสียอีก
"ขอพี่จูบมะโหนกให้หายคิดถึงหน่อยได้ปล่าว ??..." มันเงยหน้าขึ้นมองแล้วขออนุญาต
อย่านะ...อย่านะ...พวกเราร้องกันระงมห้อง แต่เวลานี้นายผู้หญิงโมของพวกเราไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น เธอพยักหน้าอนุญาตมันเฉยเลย ตายแล้ว!!!!!
เรายังไม่เคยเห็นนายผู้ชายโอ๊คเล่นมุขนี้กับนายผู้หญิงโมเลย
เฮ่อ...ใจหนึ่งเราชักจะรู้สึกดี ๆ เหมือนกันที่เขาทั้งสองค่อยหยอกค่อยเอินแบบนี้
บรรยากาศในห้องระริกระรัวเหมือนคลื่นดนตรีคลาสสิคน
คลื่นที่แผ่ไปรอบห้องขับไล่ความหมองหม่นที่ปกคลุมมาเกือบเดือนออกไปหมดสิ้น
พวกเราเห็นเจ้าหมอนั่นคุกเข่าลงแล้วก้มลงไปจูบที่ที่มันเรียกว่าน้องมะโหนก
อุ๊ยยย...ตายแล้ว..ตายจริง ๆ ฉันเพิ่งกระจ่างเดี่ยวนี้เอง
ที่...ที่...นายผู้หญิงโมกับเจ้าแมวขโมยเรียกว่าน้องมะโหนก..มะโหนก...นั้น..ความจริงก็คือตรงนั้นของเธอเอง
ตอนที่นายผู้ชายโอ๊คมานอนกับนายผู้หญิงโม เขาก็ไม่ได้เรียกกันแบบนี้นี่นา...
นายผู้ชายโอ๊คเรียกด้วยชื่อสามัญชัด ๆ เลย
นายผู้หญิงโมมักเอามือปิดปากห้ามนายผู้ชายโอ๊คบ่อย ๆ ที่เรียกมันแบบนั้น
เราไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนตั้งชื่อตรงนั้นใหม่
จะเป็นนายผู้หญิงโม หรือว่าเป็นเจ้าหม่อแมวขโมยปลาย่างตัวนั้น
เออ..ฉันว่าความหมายมันลึกซึ้งระหว่างเขาทั้งสองจริง ๆ นะ
พวกเราทั้งหมดหันมามองหน้ากันแล้วพยักหน้า เห็นตรงกันว่า "โรแมนติกดี"
มันซุกหน้าลงไปหอมน้องมะโหนก (ฉันเรียกแบบนี้มั่งดีกว่า) ของนายผู้หญิงโมฟอด ๆ อย่างคิดถึง ฟอดแล้วฟอดเล่าจนนายผู้หญิงโมร้องขึ้นว่า "พี่กาญจน์..ยังไม่หายคิดถึงเหรอ..." แล้วเธอก็หัวเราะ นอกจากนั้นเธอยังแอ่นสะโพกลอยขึ้นให้เจ้าแมวขโมยหอมถนัด ๆ อีกต่างหาก
ฉันเห็นแววตาของนายผู้หญิงโมมองเจ้านั่นช่างต่างกับแววตาที่มองนายผู้ชายโอ๊คเหลือเกิน แตกต่างยังไงฉันอธิบายไม่ถูก แต่ฉันรู้สึกชัดว่าใจของนายผู้หญิงโมถูกเจ้าแมวขโมยแย่งเอาไปกินเสียแล้ว เธอรื่นเริงยินดีกับทุกการกระทำของเจ้าหมอนั่น หัวเราะหัวใคร่หยอก ๆ เอิน ๆ กับมันอย่างมีความสุข
"น้องมะโหนกคิดถึงพี่กระบองนะพี่กาญจน์..." นายนั้นเงยหน้าขึ้นพยักหน้าหงึก ๆ "พี่ลืมไป ๆ...โทษที..." แล้วเจ้าแมวขโมยก็ลุกขึ้นนั่งจัดการถอดเสื้อและกางเกงออกทันทีอย่างไม่อาย มันเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ฉันเห็นท่อนลำของมันชี้ปึ๋งแถมกระดกหงึก ๆ
แทนที่นายหญิงมัวจะกลัว เธอกลัวหัวเราะชอบใจแถมพูดว่า
"เห็นหรือเปล่าพี่กาญจน์พี่กระบองมันคิดถึงน้องมะโหนกแค่ไหน ดูซิ..งุ่นง่านใหญ่แล้ว..."
นายกาญจน์จอมขโมยก้มลงมองแล้วดีดหัวมันเบา ๆ แล้วพูดว่า "ใจเย็นหน่อยเดี่ยวได้เจอแล้ว"
นายหญิงโมหัวเราะเสียงดัง เธออ้าขาออกคร่อมเอานายนั่นเองไว้
"โม..น้องมะโหนกงุ่นง่านเหมือนเจ้ากระบองของพี่หรือเปล่า ?"
นายหญิงโมพยักหน้ารับ แก้มเธอแดงปลั่งเป็นตำลึงสุก
"ไหน..ขอพี่ดูน้องมะโหนกหน่อยซิ...ว่าคิดถึงพี่แค่ไหน...?"
แต่นายหญิงโมส่ายหน้าแล้วพูดแกมหัวเราะว่า
"อิอิ..พี่กาญจน์..น้องมะโหนกคิดถึงพี่กระบองนะ ขี่ตู่อีกแล้ว..กิ้ว ๆ"
เจ้าแมวขโมยหัวเราะแล้วสอดมือปลดกระขอกางเกงของนายผู้หญิงโมออก
จัดการรูดซิปแล้วค่อย ๆ รูดกางเกงลงมาเรื่อย ๆ จนออกไปจากปลายเท้า
ตอนนี้นายผู้หญิงโมของพวกเราทั้งตัวเธอมีแต่กางเกงในสีขาวตัวเดียว
เจ้าแมวขโมยก้มหน้าลงเป้ากางเกงของนายผู้หญิงโมแล้วทำเสียงจึ๊กจั๊ก ๆ
"โม..พี่รู้แล้ว..น้องมะโหนกคิดถึงพี่มาก..." นายหญิงโมทำหน้าสงสัย แต่แววตาระยิบระยับ
"ก็ดูซิ..เปียกเป็นแถบเลย..." นายผู้หญิงโมอายจึงยันตัวขึ้นนั่งแล้วระดมทุกอกเจ้าหมอนั่นใหญ่ แต่เธอทุบเบา ๆ เหลือเกิน แหม...น่าจะทุบให้หนักกว่านี้หน่อย
"เขินเหรอ..." นายผู้หญิงของเราม้วนต้วนเลยทีนี้ เป็นนานจึงพยักหน้ารับสารภาพกับมัน
"อายทำไม..น้องมะโหนกคิดถึงพี่นี่นา..ไม่เห็นเป็นไรเลย..พี่เองก็คิดถึงเสียเหลือเกิน
เกือบยี่สิบวัน..ใจจะขาดเสียให้ได้ ไม่เป็นอันกินอันนอนเลยโม..." มันสารภาพเสียงแผ่ว
"น้องมะโหนกไม่ได้คิดถึงพี่กาญจน์นะ น้องมะโหนกคิดถึงพี่กระบอง..."
เจ้านั่นได้ฟังก็ยิ่งหัวเราะชอบใจใหญ่ แววตาเป็นประกายเจิดจ้า
มันยื่นมือไปเกี่ยวขอบกางเกงในของนายผู้หญิงโมแล้วรูดลง
อึม..เธอขยับยกก้นแอ่นขึ้นให้รูดออกไปอย่างสบายอกสบายใจ
เฮ่อ...นายผู้หญิง..ตอนนี้นายผู้หญิงเปลือยล่อนจ้อนเหมือนกับมันแล้วนะ
นายผู้หญิงจ๋า...ฉันอิจฉาเรือนร่างนายผู้หญิงเหลือ ขาวเพรียวสมส่วน
อกเป็นอก เอวเป็นเอว ไม่มีไขมันส่วนเกินแม้แต่นิดเดียว
หน้าท้องก็แบนราบ แล้วเนินน้องมะโหนกของนายหญิงโมก็อวดตัวขึ้นมาเด่นเลย
ยิ่งตอนนายหญิงทิ้งตัวลงนอนหงายแบบนี้ ไหมดำไม่ดกคลุมเลยมานิดหน่อย
แต่ของเจ้านั่น..โห...มันดกดำมืดเป็นป่าเชียว
ฉันเป็นหญิงด้วยกันยังอยากมีเรือนร่างงามเหมือนนายผู้หญิงจังเลย
เจ้าแมวขโมยปลาย่างก้มลงมองเรือนร่างที่นอนอวดความขาวอย่างหลงใหล
มันมองตั้งแต่หัวจรดเท้า..จากเท้าขึ้นไปจรดหัวของเธอ แล้วนั่งลงด้านข้างบริเวณสะโพก
"น้องมะโหนกจ๋า..." เจ้านั่นกระซิบเรียกเบา ๆ นายผู้หญิงโมหัวเราะแล้วขานรับว่า
"ขา..." เสียงระรื่น "คิดถึงพี่กาญจน์มากเหรอ ?" นายผู้หญิงโมหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา
"มะโหนกคิดถึงพี่กระบอง ไม่ได้คิดถึงพี่กาญจน์สักกะหน่อย..." เธอพูดแล้วเขินจนหน้าแดงแล้วแดงอีก
"ไม่รู้ละ..ยังไงต้องให้พี่กาญจน์หอมชื่นใจน้องมะโหนกก่อน แล้วพี่ยอมให้มะโหนกคุยกับเจ้ากระบองได้..ไม่งั้นอด.."
"อื้อ..." นายผู้หญิงโมส่งเสียงออกมาแบบนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะหมายความว่าไง
แต่เจ้าจอมขโมยปลาย่างกลับจับขาของเธอแยกออก เธอปล่อยให้มันทำตามใจต้องการ
ฉันมองตรงลงไปเห็นน้องมะโหนกที่นายผู้หญิงโมเรียกชัดเจน
ตอนที่อยู่กับนายผู้ชายโอ๊ค ฉันไม่เคยเห็นนพวกเขาเล่นแบบนี้กันเลย
พอมาถึงนายผู้ชายโอ๊คก็ระดมจูบจับและปลดเสื้อผ้าออก
นายผู้ชายโอ๊คจูบใช้ลิ้นเลียไปทั่วตัว ไม้เว้นแม้แต่มะโหนกของนายผู้หญิงโม
ตรงนี้ขอนอกเรื่องนิดนึง
ฉันสังเกตเห็นว่านายหญิงโมชอบให้นายผู้ชายโอ๊คเลียน้องมะโหนกของเธอนาน ๆ
มันก็เลยบังทัศนวิสัยการมองของฉันหมด ฉันไม่เห็นน้องมะโหนกชัด ๆ อยู่ดี
ต่อจากนั้นนายผู้ชายโอ๊คก็จัดการเผด็จศึกนายผู้หญิงโม
เวลาก็ไม่นานสักเท่าไหร่หรอกนายผู้หญิงโมก็ร้องลั่น
แล้วตามด้วยเสียงร้องของนายผู้ชายโอ๊ค
เสร็จแล้วทั้งสองนอนกอดกันดึงผ้าห่มขึ้นคลุม นอนกอดกันหลับไป
ตื่นขึ้นมาจึงเข้าห้องน้ำห้องท่า แล้วนายผู้ชายโอ๊คก็กลับบ้านไป
แต่นี้เจ้าแมวขโมยกลับเล่นอะไรแปลก ๆ มันอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
มันจับขานายผู้หญิงโมอ้าออกแล้วจับข้อเท้าให้เธองอเข่าเข้ามา
งอจนฝ่าเท้าทั้งสองประกบกันเหมือนลักษณะดอกบัวตูม
ฉันมองไปเห็นมะโหนกของนายผู้หญิงโมแผ่เต็มหน้าขา
กลีบทั้งสองของเธอขาวเนียนแล้วนูนเด่นเป็นสันขึ้นมาทั้งสองข้าง
แสงของฉันสะท้อนกลางร่องกลีบของเธอมันวาว
เจ้าหมอนั่นยื่นนิ้วชี้ลงไปแตะที่กลางร่องแล้วยกขึ้น มีน้ำเหนียว ๆ ยืดติดขึ้นมาด้วย
มันหลิ่วตาให้นายผู้หญิงโมให้ดูที่นิ้วแล้วพูดว่า "ดูซิโม..น้องมะโหนกคิดถึงพี่ขนาดไหน ?..."
"ก็พี่ไม่มาหาน้องมะโหนกเลยนี่นา..." เธอท่าทำเป็นงอน
"อย่างนั้นต้องถูกลงโทษ..." เจ้านั่นรีบพูดแล้วก้มลงจูบตรงกลุ่มไหมของเธอ
ซุกจมูกจูบสูดกลิ่นน้องมะโหนกของเธอดังฟอดแล้วเงยหน้าขึ้น
"โมจ๋า..พี่กาญจน์ชื่นใจจังเลย...หอมชื่นใจ..." นายผู้หญิงโมยิ้มมองมันตาปรือเยิ้ม
"อยากถูกลงโทษหลายทีจัง..." มันรำพึง "ก็รับโทษไปซิคะ..คิดถึงกันมากนักนี่.." มันยิ้มพยักหน้ารับ
เจ้านั่นก้มลงให้จมูกปากจูบสูดกลิ่นฟอดถี่ ๆ
นายผู้หญิงโมของฉันกลับใช้ศอกยันที่นอนผงกหัวขึ้นมอง
เธอจ้องการกระทำของมันทุกอิริยาบถ แถมยังขยับแอ่นยกก้นลอยขึ้นนิด ๆ อีกด้วย
มันเงยหน้าขึ้นแล้วบอกว่า "โมจ๋า..น้องมะโหนกหอมชื่นใจจัง..."
ขณะนั้นฉันมองเห็นท่อนกลางตัวของมันกระดกหงึก ๆ โห..ใหญ่กว่าของนายผู้ชายโอ๊คอีก
ประมาณ ๆ น่าจะกว่าเจ็ดนิ้วแน่นอน ความอวบอ้วนก็เหมือนจะเหนือกว่า
แต่หัวลำของเจ้าหมอนี่เป็นสีชมพูเรื่อดูดีมาก ๆ เลย
ต่างจากของนายผู้ชายโอ๊คที่คล้ำจนเกือบดำ
ฉันมองไปเห็นสายตานายผู้หญิงโมมองมันตาเยิ้มเชียว เธอคงติดใจมันแน่นอน
ฉันเองก็ยังยอมรับเลยว่ามันช่างน่ารัก น่าเล่นกว่านายผู้ชายโอ๊คเป็นไหน ๆ
มันขยับมาจับขานายผู้หญิงโมแยกออกแล้วไปฟุบตัวลงกลางหว่างขาเธอ
ใบหน้าของมันห่างจากน้องมะโหนกของนายผู้หญิงโมไม่ถึงคืบ
มันใช้สายตาสำรวจน้องมะโหนกของนายผู้หญิงโมแล้วซู้ดปากเป็นระยะ
จากนั้นมันก้มลงจูบอีก แต่คราวนี้เจ้าแมวขโมยก้มลงต่ำลงกว่าที่จูบครั้งแรก
จูบแล้วมันขยี้ใบหน้าไปมาอีก คราวนี้นายผู้หญิงโมถึงกับเกร็งกัดกรามแน่น
มันขยี้อีกหลายทีจนพอใจแล้วเงยหน้าขึ้นมองอาการเกร็งของเธอแล้วก็หัวเราะ
เสียงหัวเราะของมันทำให้นายผู้หญิงโมของเราเขิน มันเลยรีบกลบกลื่นว่า
"ชื่นใจเหลือเกินโม..." นายผู้หญิงโมยิ้ม "จมูกพี่กาญจน์เปียกเชียว..." เธอกระซิบบอกมันเบา ๆ
"ดี..ออกมาเยอะ ๆ ซิดี...เดี่ยวจะกินให้หมดเลย..."
มันไม่ฟังเสียงนายผู้หญิงโมจะพูดอะไรอีก มันก้มลงจูบและขยี้หน้าต่อ
มันขยี้เนินน้องมะโหนกนายผู้หญิงโมจนเธอต้องแอ่นก้นร่อนส่ายเหมือนหลบและเหมือนสู้
จอมขโมยปลาย่างเงยหน้าขึ้นอีกที มองใบหน้าแดงกร่ำของเธอที่กำลังมองมันตาไม่กระพริบ มันก้มหน้าลงแลบปลายลิ้นออกเลียไปกลางร่องจากนั้นก็ลากยาวจากล่างขึ้นบน
นายผู้หญิงโมสะดุ้ง หน้าท้องเกร็งเป็นลอน ห่อปากครางเสียงซู้ดออกมาเบา ๆ
ฉันเห็นปลายลิ้นของเจ้าแมวขโมยแลบออกมายาวแล้วปลายลิ้นห่อให้เรียวแหลม
มันซุกหน้าลงไปอีกครั้งตรงด้านล่างแล้วกระดกปาดลิ้นลากขึ้นมาจนสุด
คราวนี้นายผู้หญิงโมครางซี้ดยาวออกมาดัง ๆ ทันที
ฉันไม่เคยเห็นการใช้ลิ้นทำกันแบบนี้มาก่อน นายผู้ชายโอ๊คไม่เคยทำแบบนี้
และฉันก็ไม่เคยเห็นนายผู้หญิงโมครางซี้ดเสียงดังยาวแบบนี้เหมือนกัน
เจ้านี่คงทำเก่งแล้วคงทำให้นายผู้หญิงโมติดใจ เธอขยับอ้าเข่าออกไปกว้าง
ก้นแอ่นร่อนโยกย้ายรับปลายลิ้นเจ้าหมอนั่น มันทำหลายครั้งจนเธอปากคอสั่นทีเดียว
"พี่กาญจน์..จ๋า...อูยยยยย...โม...อาาาาาาา....ยยยยยย...."
มันลากลิ้นแหลมของมันขึ้นลงช้า ๆ มันเก่งมันค่อย ๆ ทำอย่างตั้งใจจริง ๆ
ฉันรู้สึกว่ามันบรรจงทำแบบนี้ให้กับนายผู้หญิงโมจากใจของมัน
มันทำให้เธอแบบที่นายผู้ชายโอ๊คไม่ค่อยได้ทำให้เธอสักเท่าไหร่
มันแลบลิ้นเลียร่องกลีบให้เธอช้า ๆ แต่ต่อเนื่อง เพื่อให้เธอได้ผ่อนอารมณ์มากขึ้น
มันเก่ง..มันทำให้นายผู้หญิงโมเพลิดเพลินและมีความสุขอย่างสุดขีด
นายผู้หญิงโมแอ่นก้นสูงลอยร่อนตามปากตามลิ้นเหมือนกลัวมันจะเลิกทำจนตัวเกร็ง
มันสลับจากจูบมาเลีย แล้วจากเลียกลับไปจูบอีก
ฉันเริ่มได้ยินเสียของน้องมะโหนกต่อว่านายผู้หญิงโมเบา ๆ แล้ว
นายผู้หญิงโมจึงกระซิบบอกเสียงกระเส่ากับมันว่า
"พี่กาญจน์..พี่กาญจน์..มะโหนกเค้าคิดถึงพี่กระบองนะคะ..."
เธอพูดพร้อมหน้านิ้วคิ้วขมวด เหมือนจะต่อว่ามันหรืออย่างไร ?
---- 9.14 ฉันคือมะโหนกน้องสาวคนสวยของพี่โม ----ฉันชักรำคาญนังแชนเดอเลียร์เหลือกำลังเอาแต่พูดอยู่นั่นแหละ
มันจะรู้จักพี่โม พี่กระบอง แล้วฉันสักแค่ไหนกันเชียว
มันจะรู้ความลึกซึ้งระหว่างพี่โมกับพี่กาญจน์ ฉันกับพี่กระบองสักนิดก็ไม่มี
ทำเป็นรู้ดีพูดนั่นพูดนี่อยู่ได้ น่าเบื่อจริง ๆ
ตอนนี้ฉันเองนะเกร็งสุด ๆ ไปหมดเลย น้ำหูน้ำตาไหลเยิ้มจนหยดติ๋ง ๆ
มันรักมันคิดถึงนี่นา ไม่ว่าพี่กาญจน์ หรือพี่กระบอง ฉันก็ทั้งรักและคิดถึงเหมือนกัน
ยิ่งพี่กาญจน์มาแสดงความรักความคิดกันแบบทั้งจูบทั้งเลียกันทักทายแบบนี้
ฉันซึ้งใจจังเลย ซึ้งจนนังแชนเดอเลียร์ไม่มีจะซึ้งก็แล้วกัน
อย่าไปยุ่งกับมันเลย ฉันรู้สึกว่าพี่กระบองชักหงุดหงิดหงึกหงักเต็มทน
"พี่กระบองจ๋า...มาเลยจ๊ะ...มาหาน้องเลย" ฉันกระซิบบอกเบา ๆ
ตอนนั้นนายกาญจน์กำลังย่งโย่ยงหยก ไม่ยอมให้พี่กระบองมาพบฉันซักกะที
แหม...นายกาญจน์นะนายกาญจน์ ช่างไม่เห็นใจกันมั่งเลยนะ
ฉันก็คิดถึงของฉันมั่งเหมือนกัน คิดใจจนเยิ้มไปหมดแล้วละ
ใจดำจริง ๆ ยังไม่ยอมให้ฉันได้พบพี่ชายที่แสนดีของฉันสักที
"น้องมะโหนกจ๋า..รออีกนิดนะจ๊ะ...พี่เองนะอยากมุดเข้าหาน้องมะโหนกเต็มทีแล้ว
แต่เจ้านายของพี่นะซิ เค้ารักเค้าคิดถึงพี่สาวของน้องมะโหนกเสียเหลือเกิน
รักพี่สาวก็เผื่อแผ่มารักน้องสาวด้วย นะน้องมะโหนกนะ..เห็นใจเจ้านายพี่นิด
ให้เค้าจูบเค้าเลียเค้ากลืนกินกันก่อนนะ..มะโหนก...."
เสียงพี่กระบองกระซิบมากระเส่ามาก แหม..แก้ตัวให้เจ้านายเสียยาวเหยียดเลย
"อิอิ..พี่กระบองจ๋า..นายพี่ทั้งจูบทั้งเลียเลย มะโหนกชอบมาก ๆ นะ
พี่สาวมะโหนกนะยิ่งชอบใหญ่เลย ไม่งั้นไม่หลับตาพริ้ม ปากจู๋ครางไม่หยุดแบบนั้นหรอกจ๊ะพี่จ๋า..."
"เป็นไงบ้างละ...ลีลาเลียของนายกาญจน์เป็นไงบ้าง ?" พี่กระบองถามฉัน
"ฮือ..ๆ ๆ ยอดมากเลย ลิ้นพลิ้วมากพี่กระบอง พี่ชายของพี่กระบองตวัดลิ้นแต่ละที
อูยยย...ทำเอาพี่สาวถึงกระตุกเลย ยิ่งตอนใช้ปลายลิ้นห่อแหลมขยี้เม็ดมะยม
ที่น้องเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดีแล้วเชียวนา โอยยยยย...พี่สาวโมของน้องโก่งจนตัวงอ
สั่นเร่า ๆ ครางเสียงอึ๊ก ๆ ไปเลยพี่กระบอง" ฉันเล่าอาการของพี่โมไปตามจริง
ไม่รู้จะปิดบังพี่กระบองไปทำไมนี่นา
ตอนนั้นฉันชักกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว เพราะมันอัดอั้นมาหลายวัน
ฉันพยายามขมิบถี่ ๆ พี่กาญจน์นี่ก็ร้ายเหลือทนแทงลิ้นยาวพรวด ๆ ถี่ยิบเลย
"ฮะ..ฮา..น้องมะโหนกจ๋า พี่ชายของพี่ทำแบบนั้นไม่ดีหรือจ๊ะ..ทำไมน้องมะโหนก
ไม่ปล่อยตามอารมณ์ละจ๊ะ ปล่อยให้ถึงจุดสุดยอดไปก่อนสักครั้งก็ได้นี่จ๊ะ..."
ฉันอารมณ์ขึ้นมาทันที "โห..พี่กระบองพูดยังงั้นได้ไง น้องคิดถึงพี่กระบองนะ
พี่กระบองไม่ได้เยี่ยมน้องมะโหนกนานแล้วนี่นา น้องอยากเจอพี่กระบอง
อยากให้พี่ทำให้น้องมะโหนกจึงจุดนั้นเสียมากกว่า พี่กระบองจ๋าน้องมะโหนก..
อุ..อุ...น้องมะโหนกจะไม่ไหวแล้ว..โอยยยย..ช่วยบอกพี่ชายพี่ให้เบา ๆ ลงหน่อย"
"จ๊ะ..ๆ พี่กระซิบบอกพี่ชายพี่แล้ว น้องมะโหนกช่วยบอกพี่โมด้วยอีกแรงซิ
ให้พี่โมบอกให้เลิกใช้ลิ้นเสียที..บอกหน่อยนะ...พี่ก็อยากเจอน้องมะโหนกใจจะขาดแล้ว"
"คะ..ดีคะ...พี่..พี่...เรามาช่วยกันนะ..."
"จ๊ะ...."
ฉันส่งกระแสความเสียวไปยังหัวใจพี่โมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เออ..ดีจังทำท่าจะได้ผล
พี่โมลืมตาปรือเยิ้ม ยื่นมือดึงหัวพี่กาญจน์ขึ้นแล้วลากขึ้นประกบปากจูบ หน้าพี่กาญจน์เลอะไปหมดเลย อิอิ...พี่กระบองได้โอกาส
เลยตอนนี้ พี่กระบองทิ่ม ๆ ตำ ๆ กลางร่องกลีบของมะโหนกทันทีก็ได้แค่นั้น..พี่กระบองแทงไม่ตรงเป้าหมายซักกะที จนฉันอด
หัวเราะไม่ได้
"พี่กระบอง...พยายามนิดนะ..พยายามตั้งให้ตรงหน่อย.." ฉันกระซิบให้กำลังใจ
"พี่..พี่..พยา..ยาม...อูยยย..พลาด..อีกแล้ว น้องมะโหนก..ร่อนขึ้น..หน่อยซิ..."
"จ๊ะ...แบบนี้ ๆ " ฉันให้พี่โมแอ่นยกก้นขึ้นร่อนลอย ส่ายรับการแทงของพี่กระบอง
แต่ยังไงก็ไม่สำเร็จ ฉันชักโกรธพี่โมของฉันจนน้ำตาซึม รีบบอกพี่กระบองอีกที
"พี่กระบองจ๋า...พยายามหน่อยนะ พยายาม...ฉันชักโกรธพี่โมแล้วละ ไม่ยอมช่วยให้เราเจอกันสักที..."
พี่กระบองพยายามเล็งให้ตรง พอคอยกะจังหวะเห็นว่าตรงดีแล้วรีบบอกพี่กระบอง
"พี่จ๋า...ตรงแล้ว...เอาเลย..." พี่กระบองกดลงมาทันที
"อูยยย...ตรง..ตรง..แล้ว..น้องมะโหนกจ๋า...เอา..เด้งเลย...เด้งเลย..." พี่กระบองกระซิบเสียงกระเส่า ฉันรีบทำตาม เฮ่อ..รู้สึกดีจริง
ๆ เลย หัวพี่กระบองพรวดเดียวเข้าปากฉันจนถึงรอยหยัก
ฉันหัวเราะหึ ๆ ออกมาได้เบา ๆ แล้วบอกว่า "พี่จ๋า..เข้ามาแล้ว ฉันเจอหัวพี่กระบองแล้ว..."
"จ๊ะ..น้องมะโหนกจ๋า...น้อง...พี่แน่นจัง...อูยยย...น้องขมิบใหญ่เลย...."
"ฉัน..คิดถึงพี่นี่นา...คิดถึงเหลือเกิน...จ๊ะ...."
พี่สาวฉันกับพี่กาญจน์เค้ายังจูบดูดลิ้นกันนัว ยังดีที่เจ้านายพี่กระบองคอยโหย่งก้นโยกไปมา พี่กระบองจึงได้ขยับไปขยับมา พอมี
แรงกระทุ้งนิดหน่อยพี่โมพี่สาวของฉันก็ขยับแอ่นก้นยกขึ้นสูง มันเป็นโอกาสเหมาะให้พี่กระบองเข้ามาหาฉันใกล้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น
เกือบเดือนแล้วที่ห่างกัน มันช่างนานเหลือเกิน ฉันสะสมความคิดถึงเอาไว้มากมาย
ฉันอยากขมิบตอดรัดลำตัวพี่กระบองเอาไว้แน่นเลย พี่กระบองเองก็ย่อยเสียเมื่อไหร่ ขยับตัวเกร็งตัวพองวาบ ๆ ตอบรับจังหวะ
ตอดรัดของฉัน ฉันตอดรัดพี่กระบองเกร็งตัวรับ ไม่กี่ครั้งเราสองก็ตอบรับจังหวะกันไม่พลาด
พี่กาญจน์ขยับก้นกดพี่กระบองลึกเข้าปากฉันอีก
พี่สาวของฉันก็ขยับแข้งขยับขาปรับท่าทางโล่งให้เราสองได้พบกัน
ฉันรักพี่กระบองเหลือเกิน และพี่กระบองเองก็รักฉันมาก
"น้องมะโหนกจ๋า...อูยยยย..สุดแล้วละ...หัวพี่ชนมดลูกน้องมะโหนกเลย..."
"คะ..อู้ววววว...เสียวจี๊ดเลย พี่อยู่เฉย ๆ ก่อนนะ ฟังซิพี่สาวมะโหนกครางใหญ่แล้ว"
ฉันเกร็งก้นขมิบแรง ๆ
"น้องมะโหนก..เจ้านายพี่ก็ย่อยเสียเมื่อไหร่ละ สูดลมเข้าปากซู๊ด ๆ ๆ อยู่เหมือนกันแหละ
มีแต่เราเท่านั้นละที่เพลินกันเหลือเกิน..นะ..นะ..." แล้วพี่กระบองก็หัวเราะอย่างยินดี
"พี่กระบองจ๋า..อูยยยย..ขนของพี่ขยี้เม็ดมะโหนกแรง ๆ โอวววว...พี่สาวมะโหนกเกร็งไปทั้งตัวเลยพี่
ดูซิ...ดิ้นปล้ำเจ้านายพี่กระบองใหญ่แล้ว ฟังซิพี่สาวมะโหนกบอกอะไรกับเจ้านายพี่...."
"อูยยย..พี่กาญจน์ขา โมเสียว..เสียวเหลือเกิน..วันนี้ทำไมมันถึงได้ดีจัง..."
"โม..โมจ๋า..พี่ยังไม่ทำอะไรเลยนะ แค่แช่เอาไว้เฉย ๆ เอง" พี่กาญจน์กระซิบบอก
"เหรอ..พี่...ทำไม..โมถึงเสียวแบบนี้..ก็ไม่รู้...อูยยยย...โอวววว..."
"โมคงคิดถึงพี่มากนะเอง..เกือบเดือนแล้วนะ..."
"โอววว...พี่กาญจน์จ๋า....โม..คิดถึงพี่เหลือเกินจ๊ะ....."
"พี่ก็คิดถึงโมเหลือเกิน..คิดถึงมาก..ใจจะขาด...อู้ววว...น้องมะโหนกดีเหลือเกินจ๊ะ...."
"เราไม่ได้ทำอะไร..แต่..โมว่า..น้องมะโหนก..กับ..พี่กระบอง...เค้ากำลังทำกันอยู่นะ..."
"งั้นเรามาช่วยเค้ากันเถอะ..." เสียงพี่กาญจน์เร้าใจจัง พี่โมพยักหน้าหงึก ๆ
"พี่กระบองจ๋า...ดูซิ..เจ้านายของเราเค้าคิดถึงกันใหญ่เลย เราก็คิดถึงกันใช่ไหมละ...พี่กระบองลุยเลยนะจ๊ะ..."
"จ๊ะ..." พี่กระบองรับคำ
พี่กาญจน์โหย่งตัวขึ้น สอดมือช้อนไปใต้เข่า
โอวว..ฉันเข้าใจแล้วละเดี๋ยวเขาจะต้องใช้แขนกดตรงข้อพับแล้วดันขาโย้ไปข้างหน้า
เท้าทั้งสองของพี่โมก็จะตั้งแกว่งไกวไปมา เข่าทั้งสองบดกับเต้านมอวบเมื่อพี่กาญจน์โน้มตัวลง สภาพแบบนี้ตัวฉันจะถูกดันให้
แอ่นหน้าลอยเด่นยิ่งขึ้น โคนขาสองข้างหนีบกลีบฉันให้แนบชิดกัน แม้เข่าจะแยกออกกว้างแค่ไหนก็ตามปากของฉันจะกระชับ
รัดลำตัวพี่กระบองแน่นเป็นพิเศษ ฉันชอบท่านี้เหมือนกัน โหววว...มันอย่าให้เซดเลย ตอนอยู่เวนิสพี่ชายของพี่กระบองใช้บ่อย
"พี่กระบองจ๋า..เจ้านายของพี่เค้ากระชับพื้นที่เข้ามาแล้วนะ..อิอิ..." ฉันกระซิบใช้ศัพท์ทันสมัย พี่กาญจน์ดันพี่กระบองเข้าไปสุดทำ
ให้ก้นพี่โมถูกยกลอยมากยิ่งขึ้น ทั้งลำของพี่กระบองถูกฉันอมเอาไว้หมด ส่วนหัวชนปากมดลูกกึก ๆ ชนทีพี่กระบองก็สะดุ้ง อิ
อิ..พี่โมพี่สาวฉันก็สะดุ้งขนลุกซู่ซ่าเลย สะดุ้งกันไปเสียวกันมา เจ้านายพี่กระบองดูเหมือนจะไม่เท่าไหร่ แต่เจ้านายสาวโมของฉัน
นะซิ อู๊ยยย...พี่โมของฉันสะอื้นอึ๊ก ๆ ไปเลย จนพี่กาญจน์เจ้านายพี่กระบองตกใจ
"โม..โมจ๋า..เจ็บเหรอ..." เสียงละล่ำละลักแสดงความเป็นห่วง
พี่โมของฉันส่ายหน้าไปมา "โม..ปะ..ปะ..ปล่าว...อูยยยย...เสียว...เสียว..เหลือ..เกิน..คะ...อู๊ยยยย...ซีดดดดสสส์...."
"พี่นึกว่าบดจนทำให้โมเจ็บ เจ้ากระบองของพี่มันคิดถึงน้องมะโหนกเหลือเกินจ๊ะ..." พูดแล้วพี่กาญจน์ยิ้มตาวาว พี่สาวของฉันก็
ยิ้มตอบตาปรือเยิ้ม เต้านมถูกเข่ากดจนยุบลงไป
ฉันเองก็ตอบรับการกระชับพื้นที่ของพี่กระบองด้วยความถูกใจ ฉันอดชมพี่กระบองไม่ได้
"พี่กระบองจ๋า...อู๊ยยย...เก่งจัง..พี่สาวโมของมะโหนกเสียวใหญ่แล้ว ดูซิขนลุกซู่ ๆ..."
"น้องมะโหนกเองก็ย่อยเสียเมื่อไหร่ ดูเจ้านายกาญจน์ของพี่ซิ..สูดปากซี๊ด ๆ ซู๊ด ๆ ไม่หยุดปากเหมือนกัน"
คุยกันไม่ทันจะจบดีพี่กาญจน์เจ้านายพี่กระบองก็ดึงก้นชักพี่กระบองออกมา
แม้แค่นิดเดียวก็เถอะ ฉันกลัวนี่นา..กลัวว่าพี่กระบองจะจากฉันไปอีก
ฉันรีบส่งสัญญาให้พี่โมขยับยกก้นลอยขึ้นไม่ต้องการให้พี่กระบองจากฉันไป
พอดีกับที่พี่กาญจน์ไม่ได้ชักออกไปมากกลับกระแทกคืนพี่กระบองคืนมาให้ฉันเหมือนเดิม
เนื้อกลีบของฉันปะทะกับโคนพี่กระบองจนเกิดเสียงปั๊บสนั่นเลย
ฉันชอบใจมากจึงหัวเราะเสียงใส จนพี่กระบองมองฉันตาเขียว
"สนุกมากนะมะโหนก...."
"อื้อ...ทำอีกซิพี่กระบอง..มะโหนกจะร่อนให้สะเด็ดไปเลย"
"มะโหนกกะให้พอดีกับจังหวะของพี่นะ...ตะกี้นะเด็ดจัง...นายพี่เสียวซี๊ดไปเลย...ดี..ดี..."
"อื้อ..นับจังหวะเลยพี่กระบอง เจ้านายพี่โหย่งก้นชักออกอีกแล้ว อย่าให้หลุดนะคะ อูยยยยย....เสียวววว..."
"จ๊ะ..ไม่ให้หลุดหรอก...พี่จะนับหนึ่งถึงสามนะ...อ้าวววเลย...หนึ่ง...สอง...สาม โอเค...อึ๊บ..."
"ปั๊บบบ...." เสียงเนื้อปะทะกันดังแบบนี้แหละ ชอบฟังเสียงจัง
"อูยยย..โอยยยวววว...พี่กาญจน์จ๋า...โม...โม...เสียว...เสียววว..คะะะะ...ทำ..นาน..นาน...นะ..พี่..นะ..."
"อูยยยย...ดีจริง ๆ เลยโม...อึ๊บบบ..."
"โม..โม..รอ..พี่..ทุกวัน...เลย...อูยยย.ววววว...เลย..คะ..."
โอววว...ดูเอาเถอะพี่สาวฉันสารภาพหมดเปลือกเลย นายกาญจน์โน้มตัวลงไปจูบนม
"พี่..พี่..ขอโทษโม..พี่เองก็คิดถึงโมเหลือเกิน ใจจะขาด พี่รักโม..พี่รักโม พี่อยากมาทำโมแบบนี้ทุกวัน..แต่พี่กลัว...."
"ขาาา..ทาม..ไม..วัน..วันนี้..ไม่กลัว..."
"พี่..ทน...แรง...คิดถึง..โม...ไม่ไหว...ใจ..จะขาด...เป็นไงเป็นกัน..."
นายกาญจน์ของพี่กระบองสารภาพบ้างแล้วไหมละ ทั้งสองต่างก็คิดถึงกันนั่นแหละ
ทำท่ามากไปยังงั้นใช่ไหมละพี่กระบอง "อื้อ..พี่สงสารพี่กาญจน์เจ้านายมากเลย..ไม่เป็นอันกินอันนอน"
"อิอิ..พี่โมของมะโหนกก็เหมือนกัน..ทำเป็นใจแข็งไปงั้นแหละ..."
"ทำแล้วดีปล่าวละ..." พี่กาญจน์ได้ฟังคำถามนี้ของพี่โมจึงก้มลงมองสบตาหวานเยิ้มปานจะหยด
"ดี..ดี..ดีที่สุดโม...โมจ๋า...พี่มีความสุขที่สุด..ที่ได้ทำโมแบบนี้..."
"โม..ก็ดี..ดี..มาก..พี่กาญจน์ทำดี..แบบนี้...อูยยยวววว..พี่กาญจน์ขา...เสียวม๊ากมาก..โอวววว..."
ช่วงที่ทั้งสองคุยกันนายกาญจน์ก็ไม่ได้อยู่นิ่งหรอก เขาขยับพี่กระบองโยกย้ายไปเรื่อย
ลำตัวของพี่กระบองเสียดสีไปรอบ ๆ มะโหนกเสียวจนน้ำตาซึมแล้วซึมอีก สั่นไปหมดแล้ว
นายกาญจน์ได้ยินพี่โมพี่สาวมะโหนกบอกให้ทำอีก ๆ แบบนั้นจึงดันตัวขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง
ขยับให้เข้าที่เข้าทางเอาขาพี่สาวมะโหนกพาดบนท่อนแขน ยื่นมือไปจับเอวกิ่วของเธอเอาไว้ ก้มลงไปยิ้มหวานให้พี่โม อึม...พี่
โมยิ้มตอบตาเป็นประกายสดใสท้าทาย
พี่กาญจน์ก้มลงไปมองที่มะโหนกแล้วโหย่งก้นดึงพี่กระบองยาวออกมายาว
"อูยยยววววว...." พี่สาวมะโหนกครางเสียงยาว ก็คงเสียวจากพี่กระบองที่คับปากมะโหนกอยู่นี่แหละ ตอนพี่กระบองถูกรูดออก
จากปากมะโหนกมันครูดและดึงเอาสองกลีบของมะโหนกอ้าออก พี่กาญจน์ก้มลงมองปากมะโหนกที่รัดลำพี่กระบองแน่นเป็นวง
ฉันเห็นพี่กาญจน์เจ้านายพี่กระบองเห็นแล้วก็ยิ้มอย่างพอใจที่สุด
อิอิ..ฉันรู้นะนายกาญจน์นะแอบดูฉันอยู่เรื่อยแหละ นอกจากชอบพี่สาวฉันเค้าคงชอบฉันด้วยเหมือนกัน อิอิ
พี่กาญจน์เจ้านายพี่กระบองเกร็งก้นกระแทกพี่กระบองพรวดเข้าปากฉันแรง
โคนพี่กระบองกระแทกริมฝีปากของฉันจนยุบยวบลงไป แล้วพี่กาญจน์บดโหนกนิ่งอยู่แบบนั้น
พี่สาวโมของฉันครางซี๊ด ๆ แล้วผวาตัวสั่นริก พี่กาญจน์ก็ครางอู้ไปหยุดเหมือนกัน
ส่วนฉันเองก็หวิวจนริก ๆ อย่างไม่อาจข่มเอาไว้ได้ ขอบหัวบานของพี่กระบองเข้าออกแต่ละที โอววววว...เนื้ออ่อนที่ถูกกระชับ
พื้นที่ของฉันเหมือนถูกกรีดเป็นทางยาวขึ้นลงยาว ๆ มันเสียวยาว เสียวนาน พี่กระบองก็ใช่ย่อยโดนฉันตอดรัดแรง ๆ ถึงกับน้ำตา
ซึมไปเหมือนกัน
"ดีเหลือเกิน...น้องมะโหนกจ๋าาาา..." พี่กระบองกระซิบบอกฉันเสี่ยงแหบพร่า
"น้อง..ก็ดี..ดี..จ๊ะ...พี่กาญจน์กระแทกพี่กระบองแต่ละที เนินของมะโหนกกระเทือนพั๊บ ๆ ๆ ไม่หยุดเลย แต่ยิ่งกระแทกก็ยิ่งมันใช่
หรือเปล่าพี่กระบอง..."
"จ๊ะ...หูยยยย...มันจริง ๆ น้องมะโหนก...อู้วววว..."
มันจริง ๆ มันมากจนพี่โมพี่สาวคนสวยของฉันยื่นมือไปคล้องคอพี่กาญจน์แล้วโหนตัวขึ้น
ให้พี่กาญจน์ประคองก้นของเธอกระแทกพี่กระบองใส่ฉันไม่หยุด
แม้ยังไม่เร็วแต่ก็ซอยอย่างสม่ำเสมอจนพี่กระบองผลุบๆ ผลับ ๆ
ส่วนพี่สาวสุดที่รักของฉันก็ก้มลงมองลีลาซอยเสียวของพี่กระบองไม่วางตาเหมือนกัน
ฉันว่าพี่โมยิ่งมองก็ยิ่งเสียว เมื่อเสียวก็ยิ่งยั่วยุให้พี่กาญจน์ซอยพี่กระบองเร็วขึ้น ๆ และแรงขึ้น
เฮ่อ...มีหรือพี่กาญจน์คนว่าง่ายคนนั้นจะไม่ทำตามใจพี่โมพี่สาวของฉัน
แรงมีเท่าไหร่พี่แกทุ่มให้กับพี่สาวคนสวยของมะโหนกไม่ยั้งหรอก
ปั๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงดังฟังชัด ส่วนพี่โมก็แอ่นฉันแน้รับพี่กระบองไม่พลาดสักที
เต้านมอวบขาวกระเพื่อมขึ้น ๆ ลง ๆ ตามแรงกระแทกสะท้อนแสงวูบวาบ
พี่กาญจน์พอเสียวมาก ๆ ก็ผ่อนจังหวะลง ฉันหรือจะยอมฉันยุให้พี่โมเด้งแรง ๆ เข้าไปอีก
"โอยยยววว..มะโหนกจ๋า...พี่เสียวเหลือเกิน...อูยยยววว..."
"จ้า...พี่..กระบอง..มะโหนกก็...ก็...เสียวมันเหมือนพี่นั่นแหละจ้า...แต่มันนนส์ส์ส์มากนะพี่..."
"ฮือออ..มัน..มัน..มากกก..สสส..."
"จ๊ะ...ดี..สุด ๆ เลย...."
"มะโหนกจ๋า..ดูพี่โมพี่สาวมะโหนกซิ..หน้าตาได้อารมณ์สุด ๆ เลย..."
"คะ..พี่กระบองมะโหนกว่าพี่โมเต็มที่สุด ๆ เลย...อิอิ..ใกล้แล้ว..ๆ พี่กระบองแรง ๆ อูยยย...พี่...พี่...อ๊าาาากก"
"โอ๊ะ...น้องมะโหนกตอดแรงดีจัง...อุ๊ยยย..."
"ชอบเหรอ..เอาอีก..มะโหนกตอดพี่แรง ๆ ดีไหม....."
"อื้อออ...เสียว...เสียวมาก...ซี๊ดดดดสสสสส์"
"พี่กระบองจ๋า..พี่สาวมะโหนกร้องว้าย ๆ เชียวคราวนี้...อู๊ยยย..มะ..มะ...น้ำ..แตก..แตก...แล้ว
โอยยยยยวววว..พี่..พี่..แรง..แรง..เลย...เลย...อูยยยยยสสสส์...โอยยยยสสสสส์"
"จ้า...มะโหนก..ซี๊ดดดดด....อูยยยยยย..เสียววววว.."
พี่กาญจน์กระแทกพี่กระบองปั๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ถี่ยิบแรงจนเต้านมพี่โมเด้งขึ้นเด้งลงแรง ๆ แล้วเธอก็ร้องลั่นห้อง พี่โมพี่สาวคนสวยของ
ฉันปล่อยตัวทิ้งลงนอนแผ่มือกางเท้ากาง
พี่กาญจน์ผวาตามลงไปกอดเอาไว้แน่น ส่วนก้นดึงแล้วกระแทกปั๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ พี่โมพี่สาวคนสวยของฉันทนไม่ไหว
อีกแล้ว เธอตวัดขาเรียวขึ้นรัดรอบเอวพี่กาญจน์เอาไว้แน่น พี่กาญจน์ถูกรัดเอวเอาไว้แน่น จึงค่อย ๆ กระเด้าก้นช้าลง แล้วหยุดบด
โคนกระบองกับมะโหนกแน่น
พี่กาญจน์พี่ชายของพี่กระบองกับพี่โมพี่สาวของฉันนะไม่ต่างกันหรอก
ครางกันซื๊ด ๆ ๆ ไม่หยุดปาก หลับตาพริ้มอย่างสุดเสียว มะโหนกเองนะก็เพริดไปหลายหน
อีกครั้งที่กระบองพองตัววาบ ๆ ราวกับว่าจะขยายใหญ่ขึ้นไปกว่าเดิมสักเท่า
ปากพี่กระบองสุดกลั้นนั้นพ่นน้ำเสียวร้อนวาบ ๆ พุ่งเข้ามาในปากคอของมะโหนกจนสะดุ้งสุดตัว
อารมณ์มะโหนกแตกเพลิศไปหลายหนเหมือนพลุที่ถูกยิงขึ้นไปค่อย ๆ แตกบนท้องฟ้า
สมใจมะโหนกคิดถึงพี่กระบองเหลือเกิน พี่กระบองของมะโหนกเก่งสุด ๆ เลย
ต่อไปมะโหนกจะไม่ยอมให้พี่กระบองจากมะโหนกไปไหนอีกแล้ว
มะโหนกรักพี่กระบองที่สุด พี่โมก็ชอบพี่กระบองเหมือนมะโหนกนี่แหละ อิอิ
แต่เธอไม่กล้าพูดตรง ๆ แบบนั้นออกจากปากหรอก แต่มะโหนกรู้มะโหนกบอกพี่กระบองให้รู้เอาไว้ด้วย พฤติกรรมพฤติการณ์นะ
แหงแซะอยู่แล้ว ฉันคิดว่าพี่กาญจน์ก็คงจะรู้แก่ใจดีอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้...พี่กาญจน์บดโคนพี่กระบองกับเนินของมะโหนกเป็นวงช้า ๆ
โอวววว...ดีจริง ๆ สบายที่สุด...ชอบ...ชอบ...ทำอีก...ทำอีก....อู้ววววว...
---- 9.15 ข้า คือ กามเทพ ----บอกแล้วไงว่าข้าไม่เพียงปลดปล่อยทัณฑ์ดอกไม้ของข้าไปอย่างไร้เป้าหมาย หรือเพราะสนุก ข้าต้องการให้รักของพวกเจ้าคือ
การเรียนรู้และพัฒนาจิตวิญญาณพวกเจ้าขึ้นมา
แต่เมื่อพวกเจ้าผู้ชายไม่ค่อยเห็นคุณค่าของพวกเจข้าผู้หญิง หรือในทางกลับกันก็ตาม
ข้าก็ได้แต่เมินเฉย ขยะแขยงและตัดขาดไม่ให้ความสนใจไม่ใยดีต่อพวกเจ้ามากนัก
ทัณฑ์ดอกไม้ของข้าไม่ได้มีเพียงความหวานแสนหวาน หอมแสนหอม
แต่ทัณฑ์ดอกไม้ยังแฝงด้วยพิษแห่งความดำ ความเจ็บช้ำเจ็บปวดแสนสาหัสเอาไว้ด้วย
เพราะอะไรละ ถ้าไม่ใช่ความเรื่องมากและเอาเปรียบกันของพวกเจ้า
คนสองคนจะรักและเป็นรวมร่วมเป็นคนเดียวกัน ยัง..ยังจะเอารัดเอาเปรียบกันอีกละหรือ ?
แล้วพวกเจ้าก็เกิดไม่เข้าใจกัน หวังแต่จะรับไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายก็อยากเป็นผู้รับบ้างเหมือนกัน มันน่าเศร้าที่ต่างก็ถูกทิฏฐิในเงา
มืดของหัวใจหลอกหล่อปั่นหัวครั้งแล้วครั้งเล่า
อะไรในโลกนี้จะยิ่งใหญ่กว่า "รักแท้" อีกหรือ ?
แล้วรักแท้นะคือรักที่ปราศจากเงื่อนไข
รักที่ยอมให้อีกใครคนหนึ่งนั้นเข้ามารวมร่วมกันกับเรา
รักกระจ่างแจ้งไม่ลี้ลับอำพรางที่เก็บไว้คอยเก็บเกี่ยว
เพราะรักแท้นั้นคือรุ่งอรุณของชายจริงและหญิงแท้
รักแท้ของข้านะเป็นยาอายุวัฒนะ
รักแท้ของข้านะเป็นน้ำพุของชีวิต
รักแท้ของข้าเท่านั้นที่ยังความหวานให้สัตว์โลกผู้ข้องในสังสารวัฎ
และรักแท้เท่านั้นที่พอจะพัฒนาสู่มหาเมตตา..และ..มหากรุณาได้
แต่มนุษย์ก็อยากพิสูจน์..พิสูจน์ให้พบใจกับใจเดิมแท้
ใจแท้ซึ่งไร้นามและไร้รูป...เพื่อจะได้บำเหน็จจากฟากฟ้า
ดั่งนายกาญจน์กับหญิงโมที่วนเวียนค้นหากันและกันเล่า
นาน..และนาน...ที่ต่างโหยหาอาวรณ์ พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ก้นบึ้งของหัวใจ
ข้าไม่รับรองว่าทั้งคู่จะเป็นคู่แท้หรอกนะ
เวลาต่างหากละ..เวลาในอนาคตของใจสองดวงพอจะให้คำตอบนี้ได้
ข้าเพียงยินดีและอวยพรให้ทุกคู่อย่างยุติธรรม
สุดท้ายขอบอกความลับให้ทราบประการหนึ่ง
ข้าไม่ใช่ผู้ลิขิตความรักหรอกนะ ไม่ใช่..พวกเจ้าเข้าใจผิดกันอย่างหนัก
เจ้าเองนั่นแหละ..มนุษย์มนุษย์ชาย กับ มนุษย์หญิง...เจ้านั่นแหละลิขิตตัวของเจ้าเอง
ข้า..เพียงส่งเสริมพวกเจ้าเท่านั้น ข้าส่งเสริมพวกเจ้าด้วยทัณฑ์ดอกไม้
---- 9.16 ผมคือนายโอ๊ค เพื่อนนายกาญจน์ ----ผมเห็นใจพวกเค้า ผมเข้าใจเรื่องนี้ดีตั้งแต่วันที่ผมขอโมแต่งงานแล้วเธอไม่ตอบรับ
สายตาของโม สายตาของกาญจน์เพื่อนรักของผม ถึงพวกเขาจะปิดยังไงก็เถอะ
คนผ่านโลกอย่างผมมีหรือจะไม่รู้ว่าทั้งสองนะแอบรักแอบปรารถนากันและกัน
ก่อนหน้านี้ผมเปิดโอกาสให้พวกเขาหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ก้าวหน้า
จะว่าวางแผนก็ตามเถอะ ผมรักโมมาก ผมอยากให้โมมีความสุข
ความสุขของผมไม่ใช่เพียงผมมีอะไรกับโมเท่านั้น
ผมเองไม่เคยขาดผู้หญิง ฮ่าาา..ตอนนี้ก็รอคิวอีกสองรายจะบอกให้
แต่เจ้ากาญจน์เพื่อนผมนี่ซิ เจ้านี้อุดมการณ์สูง ผมยุมันไงก็เหลวทุกครั้ง
เมื่อผมพิสูจน์จนแน่ใจว่าโมรักมันและมันเองก็รักโม
เหตุทั้งหลายบันดาลให้เกิดตามที่พวกท่านได้ทราบแล้วนั่นแหละ
ผมเสียใจนะ...เสียใจและก็ดีใจ มันอธิบายไม่ถูกหรอก
แต่ผมขออวยพรให้โมกับกาญจน์รักกันตลอดไป
ความเป็นเพื่อน เป็นพี่ของผมสำหรับกาญจน์กับโมเหมือนเดิม
ขอให้มีความสุขนะ โม..กาญจน์
---- 9.17 ฉัน kankan----เขียนเรื่องรัก ๆ แล้วมันช่างอารมณ์ดีเสียจริง ๆ เชียว
นายกาญจน์กับหญิงโมก็สุขสมไปอีกราย
เฮ่อ..แต่ผู้เขียนนี่ซิ..ชีวิตเหมือนเรือน้อยลอยล่องจริง ๆ
เหมือนเพลงเรือน้อยของมาลีฮวนน่าจัง
......
เรือน้อยล่องลอยกลางทะเลฝัน
ราตรีฟ้าอาบแสงจันทร์ ฝากฝั่งฝันยังไกลสุดตา
เจ้าเรือไม้ไผ่ ล่องไหลไปตามยถา
แล้วแต่ลมและคลื่นจะพา กลางธาราสินธุ
......
เรือน้อยล่องลอยไปหนแห่งใด ขอจงอย่าหวั่นผองภัย
จงฝ่าไปอย่าได้อาทรณ์ เส้นทางสู่ฝัน คืนวันมั่นนิรันดร
สายลมรักจะเอื้ออาทรณ์ ให้เจ้าจรถึงฝากฝั่งฝัน
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
(อวสานจริงๆแล้ว)
------------------------------
ด้วยความขอบคุณที่ติดตามมาจนจบ kankan
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน