หญิงสาวสองคนในวัยเดียวกันนั่งคุยกันในห้องรับแขกอันหรูหราอย่างออกรสตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน จนสตรีที่ดูมีอายุก้าวเข้ามาในห้องและชะเง้อไปทางประตูบ้านทำให้ผู้เป็นลูกสาวคนเล็กมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังก่อนบอกไปที่มารดาว่า
“เดี๋ยวก็คงถึงคะแม่ ไม่ต้องห่วง”
“จ๊ะแม่รู้แล้วเมื่อกี้โทรไปถามก็บอกว่าลงจากทางด่วนแล้ว แม่เลยมาคอย”
“คุณแม่ขา พี่เค้า....”
ผู้เป็นแม่ขัดขึ้นมาก่อนที่ลูกสาวคนเล็กจะพูดจบ
“จ๊ะ แม่รู้ว่าคุณนพโตแล้ว แต่นี่ขับรถจากสุราษฎร์มาแม่ก็เป็นห่วงสิ และรถต้องเข้าศูนย์เช็คใหญ่ด้วยนะ”
ตูนหันไปยิ้มกับเพื่อนที่เป็นแขกของบ้านในวันนี้แล้วผู้เป็นแม่พูดต่อว่า
“ฐา กินข้าวเย็นกันก่อนนะลูก แม่สั่งให้ทำเพิ่มไว้แล้ว วันนี้พ่อกว่าจะกลับก็ดึกมีงานตอนค่ำ ดีที่คุณนพกลับมาจะได้ไม่เหงากินกันหลายๆคน”
“ได้คะแม่”
หญิงสาวหน้าตาดีตอบผู้เป็นแม่ของเพื่อน ฐานั้นเป็นเพื่อนกับตูนในช่วงที่เรียนปริญญาตรีด้านเภสัชแต่พอจบแล้วทั้งคู่ต่างไม่ค่อยได้เจอกันเพราะภารกิจเรื่องงาน ฐานั้นถึงจบเภสัชก็จริง แต่ไปช่วยงานพี่สาวทำธุรกิจโมเดลลิ่งและออแกนไนซ์ ประกอบกับเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาดี บางครั้งเธอก็รับงานถ่ายแบบซะเองจนเป็นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงพอสมควรในวงการนางแบบและเซเล็ป วันนี้เธอว่างและความคิดถึงเพื่อนที่คุยกันผ่านเฟซบุ๊คหรือไลน์มาตลอดเธอเลยขับรถมาหาตูนถึงบ้านในวันหยุด ฐาไม่เคยมาหาตูนที่บ้าน ตอนแรกจะนัดเจอกันข้างนอก แต่ตูนชวนให้มาที่บ้าน ฐาจึงมาตามที่เพื่อนบอกแล้วทุกคนได้ยินเสียงลูกสุนัขพันธ์ไซบีเลี่ยน 2ตัวที่ตูนพึ่งซื้อมาได้ไม่กี่วันเห่าอยู่ในกรงเพราะมีรถยนต์เลี้ยวเข้ามาในบ้าน
“นั่นไงมาแล้ว”
ผู้เป็นแม่พูดด้วยความดีใจที่เห็นรถลูกชายเลี้ยวเข้ามา เธอลุกขึ้นไปยืนดูจน นพถอยรถเข้าไปจอดในโรงเก็บและเดินสะพายกระเป๋าโน๊ตบุ๊คออกมา แต่นพเดินไปที่กรงอุ้มหมาตัวนึงออกมาพร้อมกับอีกตัวที่วิ่งตามมาติดๆ ทำเอาผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาพร้อมกับเสียงล้งเล้งของน้องสาวที่มองไปเห็นพอดี จนจะเข้าบ้านนพวางตัวที่อุ้มลงแล้วปล่อยให้มันคลอเลียก่อนที่ตนเองจะเดินเข้าบ้าน พร้อมกอดและหอมแก้มผู้เป็นแม่ที่ยืนรออยู่
“เป็นไงลูกเหนื่อยไหม”
“นิดนึงครับคุณแม่”
ก่อนจะมองไปแล้วเห็นว่ามีแขกนั่งอยู่นพพูดออกมาว่า
“อ้าวมีแขกหรือครับ กำลังจะถามว่าใครเห็นรถไม่คุ้นจอดอยู่”
“เพื่อนตูนนะคุณนพ”
ผู้เป็นแม่บอกลูกชายก่อนที่น้องสาวจะแนะนำให้รู้จัก ฐานั้นจำนพได้ดีเพราะเจอในวันที่รับปริญญาของเธอกับตูนแต่นพจำฐาไม่ได้พอทักทายกันเรียบร้อยแล้วนพหันไปถามน้องสาวว่า
“ไอ้ 2ตัวนี่นะที่พ่อให้เงินไปซื้อนะ”
“อย่ามาเรียกไอ้นะ มันมีชื่อ บอมกับบูม ตัวที่พี่อุ้มมานะชื่อบูม”
“หาเรื่องเปล่าๆ ตั้งหลายหมื่น พันธ์นี้นิสัยมันก็ต็องส์ด้วย”
“ตูนจะเลี้ยง แม่ก็ไม่ว่าอะไรอนุมัติแล้ว พ่อก็ซื้อให้ และอีกอย่างคุณนพนะตกกระป๋องแล้ว แม่ออกจะโอ๋ทั้งบอมกับบูม”
“นั่นแหละถ้ามันไปฉี่ล้อรถพี่นะหรือเอาลงไปที่สระว่ายน้ำจะเอาไปปล่อยให้หมด”
ทำเอาน้องสาวรีบเรียกแม่บ้านให้จับสุนัขทั้งสองตัวเข้ากรงก่อนจะมาล้งเล้งกับพี่ชายว่า เป็นคนปล่อยออกจากกรงเอง นพไม่ตอบอะไรหันไปยิ้มกับแขกที่มองมาตลอดแล้วหันไปบอกมารดาว่า
“เมื่อวานนพเลิกงานค่ำนะครับคุณแม่ขับมาไม่ไหว นพเลยขับกลับมาวันนี้แทน”
“ดีแล้วคุณนพ คุณแม่จะได้ไม่ต้องห่วงมาก ถ้าไม่ติดว่าต้องเช็คสภาพครั้งใหญ่คุณแม่ให้เข้าศูนย์ที่นั่นแล้ว แต่นี่มันคงต้องเปลี่ยนอะไหล่เยอะ คุณแม่ไม่ไว้ใจศูนย์ที่นั่นจะให้คนขับรถของคุณแม่ไปขับให้ลูกก็ไม่ยอม แต่คุณแม่ว่าคุณนพดูหน้าเซียวๆนะลูก ไม่สบายหรือเปล่า”
“ไม่ครับ แต่คงเพลียเพราะขับรถมาไกล นพไม่ได้พักเลยนอกจากตอนเติมน้ำมัน นพขอไปนอนก่อนดีกว่าครับ มื้อเย็นคุณแม่ก็ทานได้เลยนะครับ ไม่ต้องปลุก แต่ถ้านพตื่นทันก็จะมาทานด้วย”
“ก็ได้ คุณนพจะเอาข้าวต้มไก่ไหมเผื่อตื่นมาตอนดึกๆจะได้ทานพร้อมพ่อ เพราะพ่อมีงานตอนค่ำกลับมาก็คงดึกแล้ว”
“ได้ครับ แต่อย่างที่บอกถ้านพตื่นมาทันก็จะมากินมื้อเย็นด้วยครับ”
นพพูดจบแล้วหันไปขอตัวกับแขกของน้องสาวก่อนที่จะเดินขึ้นไปชั้นบน น้องสาวมองตามพี่ชายคนกลางแล้วบอกกับแม่ว่า
“ตูนดูพี่เค้าหงอยๆนะคะแม่ ไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่”
ยิ่งพอลูกสาวคนเล็กพูดแบบนี้ผู้เป็นแม่ยิ่งไม่สบายใจ เธอสังเกตอาการลูกชายเหมือนกันว่าเป็นอย่างที่ลูกสาวคนเล็กบอก แต่เธอก็บอกไปว่า
“คุณนพคงเหนื่อยนะตูน ขับรถมาไกล เพราะทุกทีก็นั่งเครื่องตลอด นอนพักคงดีขึ้น คุยกันต่อนะ แม่ขอไปดูห้องครัวซะหน่อยจะไปสั่งทำข้าวต้มไก่เพิ่มให้คุณนพ”
พอผู้เป็นแม่คล้อยหลังไป ฐาที่พอจะรู้อะไรมาบ้างเกี่ยวกับครอบครัวนี้หันไปถามเพื่อนว่า
“คุณแม่เธอนี่ ทั้งรักทั้งโอ๋พี่นพเลยนี่”
ตูนทำหน้ายิ้มๆแล้วตอบเพื่อนไปว่า
“ในบ้านนี้ทุกคนรู้หมดว่า แม่รักและโอ๋พี่นพที่สุด”
“แล้วเธอไม่ว่าอะไรหรือไง”
“ไม่นะ เพราะเป็นแบบนี้มาแต่เราเกิดแล้ว ถึงเราจะเป็นลูกคนเล็กเป็นผู้หญิงคนเดียวแต่เราก็เข้าใจ เธอยังไม่รู้รายละเอียดสินะ เพราะที่ผ่านมาเธอก็รู้ว่าพี่นพกับพี่ต้นเป็นลูกติดของพ่อกับแม่ แต่มันมีมากกว่านั้นที่ทำให้คุณแม่รักพี่นพยิ่งลูกทุกคน”
ตูนเล่าให้เพื่อนฟังถึงที่มาที่ไปของนพและแม่ที่จากไป พอรู้ความจริงเธอรู้สึกสงสารพี่ชายของเพื่อนจน ก่อนที่ตูนจะเล่าต่อไปว่า
“ทุกวันนี้คุณแม่ห้ามให้พูดถึงเรื่องนี้นะ กลัวไปสะเทือนใจพี่นพกับพ่อโดยเฉพาะพี่นพนะ ส่วนเรื่องอื่นเรากับพี่ต้นไม่เคยอิจฉานะ พี่ต้นตอนเรียนนายร้อยตำรวจ พ่อให้นั่งแท็กซี่ไม่ก็รถเมล์ เราก็เหมือนกันตอนเรียนมหาลัย แม่ก็ไปรับไปส่งหรือไม่ก็แท็กซี่เธอก็เห็น ส่วนพี่นพตอนเรียนมหาวิทยาลัยแม่ซื้อเล็กซัสให้ขับ พอจบโทก็มาทำงานก็ได้บีเอ็ม แม่เอาใจพี่นพมาก แต่เรากับพี่ต้นก็ได้ไม่ใช่ไม่ได้นะ พ่อกับแม่จะอธิบายได้ทุกครั้งถ้าเกี่ยวกับของที่นพได้เรากับพี่ต้นก็เข้าใจเลยไม่มีปัญหา และพี่นพก็ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง”
“มิน่า แต่พี่นพก็น่าสงสารนะแต่ดีที่คุณแม่เอาใจใส่เหมือนลูกตัวเอง”
“ใช่ไง พี่ต้นที่ขาดพ่อแต่ก็ไปทางคุณพ่อได้คือเป็นตำรวจ พี่นพขาดแม่ แต่คุณแม่ก็ดูแลให้เหมือนกับลูกตัวเอง พี่นพไม่เคยเหลวไหล ส่วนเราก็มีทั้งพ่อและแม่ ถึงของบางอย่างที่อยากได้จะช้าหน่อยแต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป ในที่สุดก็ได้”
ทั้งสองต่างคุยกันต่อส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของนพ โดยที่ฐาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ดีๆอยากรู้เรื่องพี่ชายของเพื่อนขึ้นมาทั้งๆที่ตอนเจอนพครั้งแรกนั้น นพไม่มีอะไรสะดุดตาเธอเลย พี่ชายคนโตซะอีกที่ดูน่าสนใจในสายตาของพวกเธอ จนถึงเวลาอาหารเย็น ระหว่างที่ตั้งโต๊ะ นพที่พึ่งตื่นนอนเดินลงมาแบบคนที่หมดแรงทั้งๆที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย โดยที่ผู้เป็นแม่มองลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“ค่อยยังชั่วหรือลูก”
“นิดหน่อยครับคุณแม่ เลยตื่นมากินก่อนจะได้นอนหลับรวดเดียวครับ”
“งั้นมากินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน คุณนพจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหม คุณแม่จะได้บอกที่ครัว”
“นพของชาเย็นเพิ่มแล้วกันครับคุณแม่”
“งั้นคุณแม่ชงให้เองดีกว่า”
แล้วเธอหันไปบอกแม่บ้านที่ทำท่าจะเดินไปทำชาเย็นให้ว่าไม่ต้อง พร้อมถามไปที่สองสาว ซึ่งทั้งคู่ต่างปฏิเสธ ระหว่างรอชาเย็น นพกับฐาได้คุยกันอย่างจริงจัง ซึ่งนพก็บอกอีกครั้งว่าจำไม่ได้ เพราะวันที่ตูนรับปริญญาคนเยอะมาก ทำให้น้องสาวได้ทีทับถมพี่ชายว่า พี่นพไม่เคยสนโลกภายนอกวันๆเอาแต่อ่านหนังสือไม่ก็ทำงาน ถ้าแม่ไม่ดึงไว้ป่านนี้เรียนด็อกเตอร์ไปแล้ว นพก็ไม่เถียงน้องสาวทั้งนพและฐาต่างฝ่ายต่างได้สอบถามถึงงานที่ทำ ทำให้นพนึกได้ว่าฐานั้นคุ้นๆหน้าเพราะเคยเห็นจากตามหน้าสื่อต่างๆ ที่ฐาเป็นนางแบบโฆษณาพร้อมกับที่ตูนเสริมว่าตอนนี้ฐาเริ่มศึกษาทางธรรมะเพราะมีการไปบวชชีพราหมณ์มาหลายครั้งแล้ว และฐาก็รู้ว่านพทำงานเป็นวิศวะให้บริษัทชื่อดัง พอได้ชาเย็นมาจากคุณแม่พร้อมกับแม่บ้านที่เสริฟอาหารบนโต๊ะ ครั้งนี้หัวข้อการสนทนาเปลี่ยนเป็นเรื่องของลูกชายคนกลาง
นพได้บอกว่าเมื่อวานเลิกค่ำเลยขอนอนก่อนวันนี้ออกจากสุราษฎร์ตอนสายๆขับรถมาเรื่อยๆจึงมาถึงบ้านเกือบเย็นพรุ่งนี้ถึงจะเอารถไปเข้าศูนย์ และบอกว่าเหนื่อยเหมือนกันไม่ได้ขับรถกลับบ้านเลยตั้งแต่ขับไปสุราษฎร์เมื่อปีที่แล้ว
“คุณนพจะไปกี่โมงละ”
“สายๆหน่อยครับ แล้วค่อยกลับบ้านมาเอารถ”
“คุณนพเอาคันคุณแม่ไปแล้วกัน คุณแม่จะไปใช้รถของพ่อ พ่อเค้านะมีรถประจำตำแหน่งอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยได้ใช้รถเท่าไหร่ ส่วนรถคันนี้คุณแม่พึ่งเอาไปตรวจสภาพมาคุณนพสบายใจได้ขับไกลๆได้สบายๆ คันของพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ใช้มันไม่ได้วิ่งไกลๆนานแล้ว”
“จากบีเอ็มเปลี่ยนเป็นเบนซ์รุ่นใหม่นะพี่”
ตูนพูดขึ้นมาก่อนจะแหย่ทั้งแม่และพี่ชายว่า
“หรือพี่นพจะเอา อัสติสที่ใช้ตอนซื้อกับข้าวไป”
ผู้เป็นแม่รู้ทันลูกสาวเลยไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มแต่พี่ชายบอกว่า
“เอามินิไปดีกว่าได้ป้ายมาแล้วด้วย”
“ไม่ให้ของตูน แม่ซื้อให้ตูน”
นพพยักหน้าไปที่ฐาที่นั่งฟังอย่างเดียวแล้ว บอกว่า
“ฐาฟังเพื่อนฐาพูดนะ เมื่อปีที่แล้วพี่ใช้มอเตอร์ไซด์เพราะคอนโดพี่มันใกล้โรงงานพี่ขี้เกียจเอารถไปใช้ ตูนก็มาอ้อนขอเอาบีเอ็มคันนี้ไปใช้ บอกว่าฮอนด้าแจ็สมันเล็กไปไม่อยากใช้ คุณแม่ยังไม่ยอมซื้อมินิให้ พี่แค่พยักหน้าก็วิ่งไปบอกคุณแม่ทันทีว่าพี่ให้เอารถพี่ไปใช้ พอทีนี้พี่จะเอารถตูนไปใช้มั่งไม่ให้ งกนี่หว่า”
ประโยคท้ายนพพูดพร้อมหันมามองหน้าน้องสาว ทำเอาน้องสาวตอบว่า
“งกอะไรตอนนั้นพี่นพไม่เอาไปใช้เอง แม่ก็บ่นว่าซื้อมาให้แล้วไม่ใช้ ตูนก็กลัวรถซื้อมาเป็นล้านจะจอดเฉยๆก็เอาไปใช้สิ แล้วมินิมันก็คันเล็กไม่เหมาะกับพี่ ไม่เอาเบนซ์ไปก็ไปเอาปาเจโร่พี่ต้นสิ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้”
ผู้เป็นแม่ตัดบทเพราะรู้ว่าลูกสาวหวงรถคันนี้และพี่ชายดูจะไม่เลิกแหย่ บอกกับนพว่า
“คุณนพเอาแบบนี้ คุณแม่ดูคุณนพเซียวๆ พรุ่งนี้คุณนพเอารถไปเข้าศูนย์ แล้วคุณแม่ให้คนขับรถขับไปจอดรอที่สนามบินสุราษฎร์ดีไหม ส่วนคุณนพนั่งเครื่องบินไป คนขับก็นั่งเครื่องบินกลับ ไม่ต้อรอเจอกันก็ได้ คุณนพก็เอารีโมทอีกอันไป กลับตอนเย็นๆก็ได้ลูก คุณแม่ห่วงจริงๆ ไม่เจอ 2อาทิตย์คุณนพดูโทรมไปมากนะลูก เดี๋ยวคุณแม่จะได้โทรบอกคนขับรถว่าให้เอารถไปแต่เช้า และให้ตูนจองตั๋วเครื่องบินให้”
ลูกชายมองสีหน้าและแววตาของแม่ซึ่งแสดงถึงความห่วงใย ทำให้ตนเองปฏิเสธไม่ได้จึงพยักหน้าตอบรับ ทำเอาผู้เป็นแม่สีหน้าดีขึ้น เพราะนพดูโทรมไปจริงๆแต่ยังไม่รู้สาเหตุเพราะอะไร ก่อนจะบอกต่อว่า
“รถคุณนพเหมือน ถ้าเสร็จแล้วก็ให้คนขับเอาเปลี่ยนกับรถคุณแม่ที่นั่น คุณนพจะได้ไม่ต้องขับรถไกลๆ”
“ดูก่อนแล้วกันครับคุณแม่ เพราะนพไม่แน่ใจว่าจะย้ายกลับหรือเปล่า เพราะทางหัวหน้าเก่าอยากให้กลับมาคราวนี้คงนั่งในออฟฟิตแล้วครับ ไม่ต้องไปโรงงานแล้ว แต่คงอีกหลายเดือนครับดีไม่ดีก็กลางปีไปแล้วว่าจะยังไง เพราะทางนี้อยากได้คนพูดเยอรมันได้นะครับ”
“ก็ดีลูกจะได้มาอยู่ที่บ้าน ไปอยู่ที่นั่นเกิดเจ็บป่วยก็ลำบากไม่มีคนดูแลคุณแม่ก็ไม่รู้แถมสั่งพ่ออีกว่าห้ามให้ลูกน้องมายุ่ง”
“ครับคุณแม่ ลูกน้องพ่อไม่ตามไม่มาดูนพเลยยยยยยย แต่หน้าโรงงานกับแถวอพาร์ทเม้นท์ มีด่านตรวจทุกวัน รปภ.ที่โรงงานก็บอกว่า มีสายตรวจแวะมาตลอดตั้งแต่นพไปอยู่ที่นั่นครับ”
“แหมพ่อเค้าก็ห่วงนี่ ไปอยู่ไกลขนาดนั้น”
นพยิ้มๆไม่พูดเพราะรู้ว่าพูดไปคุณแม่จะเป็นห่วงเพิ่ม เพราะที่โรงงานมีพวกหัวแข็งอยู่หลายคน ตั้งแต่นพย้ายไปก็รู้สึกไม่ชอบหน้าเพราะเห็นขับรถหรู แต่พอรู้นามสกุลของนพทำเอาไม่กล้ามายุ่งด้วย ยิ่งมีตำรวจมาป้วนเปี้ยนตลอดยิ่งไม่กล้ายุ่ง และที่สำคัญ สารวัตรสืบสวนโรงพักในท้องที่เป็นเพื่อนกับต้นด้วย แต่นพก็ยังเป็นนพคนเดิมที่ไม่สนใจอะไรเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือเป็นผลพลอยได้ไปในเรื่องนี้ ทำให้ตนเองทำงานได้สะดวก ทำไมนพจะไม่รู้เพราะจำได้ว่าวันที่ตนเองขับรถไปสุราษฎร์ตลอดทางนั้นไม่เจอด่านเรียกตรวจเลยสักครั้ง ขากลับมาวันนี้ก็เช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะบารมีพ่อคงไม่เป็นแบบนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแหย่ผู้เป็นแม่
“หรือนพลาออกดีครับ”
“ก็ดีสิ คุณนพจะได้มาช่วยคุณแม่ดูร้านเพชร”
“เปลี่ยนจากวิศวะมาเป็นเถ้าแก่ร้านเพชรเลยหรือไงครับคุณแม่”
“แล้วเถ้าแก่ร้านเพชรไม่ดีตรงไหนยะ คุณนพ”
คุณแม่พูดมาด้วยเสียงไม่เริ่มพอใจ แต่ก็อ่อนลงทันทีเพราะเจอลูกอ้อนของลูกรัก
“ดีสิครับคุณแม่ เพราะร้านเพชรทำให้นพได้ขับรถราคาแพง ได้ไปเรียนโทที่เยอรมัน ถ้าไม่มีร้านเพชรคุณแม่นพก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ แต่นพดูเพชรเก่งสู้ตูนไม่ได้หรอกครับ”
“นี่ไงฐาลูกอ้อนของลูกรัก จะเอาอะไรได้หมด ดีไม่ดีก็เบนซ์คันนี้ยกให้เลย แต่ประโยคท้ายนี่มันนะพี่ ตูนเกี่ยวอะไรด้วย”
ฐาได้แต่ยิ้ม เพราะนพดูไม่เหมือนที่เธอเคยเห็นคือบุคลิกที่ดูเงียบๆเฉยๆเหมือนจะ โลกส่วนตัวสูง ที่เห็นในตอนนี้คือชายหนุ่มที่น่ารัก เป็นคนที่ขี้เล่นเงียบๆและพูดเก่งแถมมีลูกอ้อนที่เธอไม่นึกว่านพจะทำได้ บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปด้วยดี จนฐาอยากรู้จักชายหนุ่มมากขึ้น จึงขอแอดเฟซบุ๊กกับไลน์ ซึ่งนพก็บอกไปโดยดี แต่ตูนขัดว่า
“ถ้าไลน์นะหรือฐา ส่งวันนี้อ่านอีกที 2-3 วัน ขอไปก็เท่านั้น แต่ถ้าเธออยากอ่านศัพท์ของวิศวะก็เข้าไปที่เฟซได้เลย แต่บางทีอารมณ์ไหนก็ไม่รู้มีคำคมออกมาให้อ่าน แต่โทษทีบางครั้งต้องเปิดดิส เพราะพิมพ์เป็นภาษาเยอรมัน กลัวเค้าไม่รู้ว่าเก่งเยอรมัน แต่ถ้าอยากได้ภาพสวยๆก็จะได้เห็น พี่นพถ่ายรูปเก่งเข้าขั้นเซียน”
“อ้าวพี่มีเพื่อนเป็นคนเยอรมันก็ต้องใช้ภาษาเยอรมันสิจ๊ะคุณน้อง”
“สงสัยต้องขอเรียนภาษาเยอรมันจากพี่นพแล้วคะ”
“อย่าเลยครับ ไม่ได้หวงวิชานะ แต่พี่สอนใครเข้าใจยากเพราะพี่จะติดตรงที่อธิบายให้คนอื่นเข้าใจลำบากนะ เหมือนตอนสมัยเรียนจะช่วยติวใครต้องอธิบายไม่ต่ำกว่าสองรอบ เพราะพี่อธิบายแบบที่พี่เข้าใจแต่คนอื่นไม่เข้าใจ”
“พวกโลกส่วนตัวสูงไงฐา เรียนเก่งแต่สอนใครไม่ได้ สมัยสอนการบ้านน้องกว่าจะเข้าใจก็สองสามรอบบางทีก็เร่งๆ ตัวเองจะไปเล่นเกมส์กับพี่ต้น “
“นี่แหละคือน้องสาวพี่ฐา ที่ตัวเองนะตอนได้ไอ้ 2 ตัวนี้มา รีบถ่ายรูปแล้วโพสพร้อมแท็กไปที่เฟซพี่ทันที แถมเขียนด้วยว่า ลูกรักคนใหม่ของบ้านนี้ คุณนพของคุณแม่ตกกระป๋องแล้ว”
“อ๋อ ฐาเห็นแล้ว พี่นพใช่ไหมคะที่ตอบมาว่า ถ้าปล่อยให้ลงสระว่ายน้ำจะเอาไปปล่อยนะ”
“ใช่แล้วซื้อมาทำไมก็ไม่รู้ตั้งหลายหมื่น สุดท้ายลำบากคุณแม่กับแม่บ้าน”
ทำเอาน้องสาวรีบเถียงพี่ชายทันที
“แหมที่ตัวเองละ พ่อซื้อเลนส์กล้องราคาให้เป็นแสนทำเป็นไม่พูดถึง”
“อ้าวก็ซื้อทีเดียวจบ ไม่เหมือนซื้อหมาต้องมาจ่ายเพิ่มอีก”
“พี่นพไม่ชอบเลี้ยงหมาหรือคะ”
ฐาเป็นคนถามขึ้นมา
“ชอบสิ แต่พอมันตายก็ร้องไห้ทั้งบ้าน ขนาดพ่อพี่ยังไปแอบร้องเลย ตัวสุดท้ายที่เลี้ยงมันตายตอนพี่เรียนปี 3 ตั้งแต่นั้นพ่อพี่เลยประกาศห้ามเลี้ยงเพราะกลัวร้องไห้อีก แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ลูกอ้อนของลูกสาวคนเล็ก ”
“ใครบอก ตูนขอแม่ก่อน แม่บอกให้ไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่าซื้อสิพ่อให้เงินถ้าแม่ไฟเขียว ตูนไม่เหมือนคุณนพนี่ ตอนอยากได้กล้องตัวละเป็นแสนพ่อบอกขอคิดดูก่อน คุณแม่รู้เข้าซื้อให้คุณนพทันที ชิ พอได้กล้องก็ตามด้วยเลนส์แพงๆ”
น้องสาวบ่นพี่ชายไม่หยุดแต่ฐาก็ถามว่า
“พี่นพใช้กล้องอะไรคะ”
“มีทั้งนิค่อนกับไลก้านะครับ”
“หาใช้ไลก้า แบบนี้มืออาชีพแล้วคะ พวกช่างภาพที่เคยถ่ายแบบให้ฐามีแค่2-3คนที่ใช้กล้องรุ่นนี้”
“เข้าไปดูที่เฟซสิ พี่นพมีภาพวิวสวยๆเพียบ ขนาดโปร์ไฟท์ยังเป็นรูปวิว ถ่ายยังไงก็ไม่รู้ถ่ายสวยบางทีเราขอถ่ายมั่ง มุมเดียวกันจุดเดียวเราถ่ายไม่ได้เรื่อง”
“เค้าเรียกว่าคนละชั้นนะตูน”
ทำเอาหญิงสาวหัวเราะไม่หยุดที่เห็นพี่น้องเถียงไม่หยุด เธอรีบหยิบเอาโทรศัพท์มาเปิดเฟซบุ๊กก่อนจะแอดขอเป็นเพื่อนกับนพทันทีและชายหนุ่มกดรับก่อนที่ฐาจะเลื่อนไปดูรูปที่นพเคยถ่าย เธอดูได้2-3รูปก็รู้ว่า นพถ่ายรูปได้เก่งมาก จนเธอแหย่ว่า ถ้าสนไปเป็นช่างภาพให้บอกเธอ นพได้แต่ยิ้มๆ จนคุณแม่ถามลูกชายว่าปีใหม่หยุดกี่วัน นพบอกว่าหยุดเหมือนทุกปีคือตั้งแต่วันที่ 25 ทำให้ตูนเสนอว่าน่าจะไปเที่ยวต่างประเทศคุณแม่เลยบอกว่าพ่อไปไม่ได้ต้องทำงานเพราะเป็นช่วงเทศกาลเหมือนทุกปีที่ผ่านมาทำเอาน้องสาวหน้าม่อย แต่นพบอกว่าค่อยไปหลังปีใหม่ก็ได้ วันลาพักร้อนของนพยังสะสมได้อยู่
และหันไปถามฐาว่าปีใหม่ไปไหน หญิงสาวตอบมาว่าไม่ได้ไปไหนเพราะเธอช่วงนั้นจะไปถือศีลที่วัดนพก็ไม่ถามอะไรต่อ หลังจากทานข้าวอิ่มเธอสนทนากับนพอีกสักพักก่อนขอตัวกลับ ตูนได้เดินไปส่งเพื่อนที่รถ นพไปนั่งพิงพนักพิงที่โซฟาร์ตัวยาวแล้วหลับตา ทำเอาผู้เป็นแม่มานั่งข้างๆแล้วดึงให้ลูกชายมานอนหนุนตักก่อนเอามือแตะที่หน้าผาก แล้วถามไปว่า
“ตัวก็ไม่ร้อนไม่สบายหรือเปล่าลูก อย่าปิดคุณแม่นะหรือเครียดเรื่องงาน”
เป็นจังหวะที่ตูนเดินกลับเข้ามาพอดี เธอเดินมานั่งตรงข้ามและพูดกับพี่ชายต่อว่า
“พี่นพเป็นอะไรหรือเปล่า ตูนว่าพี่ดูโรยๆนะ”
นพลืมตาขึ้นและตอบว่า
“ไม่นี่ครับ งานก็ปกติ แต่นพก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆใจคอมันก็ห่อเหี่ยวขึ้นมาจะว่าเหงาก็ไม่ใช่ นพโทรคุยกับคุณแม่ทุกวัน มันเหมือนไม่สบายใจอะไรบางอย่างนะครับมันเหมือนนพลืมอะไรไปบางอย่าง แต่พอนึกแล้วก็ไม่มีครับจู่ๆมันก็เป็นขึ้นมา”
“หรือว่าพี่นพต้องหาคนดูแลแล้ว หืม ตูนไม่เคยเห็นพี่นพคบกับใครจริงจังเลยยิ่งพอทำงาน พี่นพไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลยมั้ง ไม่รู้นะตูนเดาเอาหรือมีแล้วไม่บอก เห็นมีหมอมากดไลท์ให้ทุกครั้งมีอะไรก็แท็กมาที่เฟซพี่นพตลอด พอกับแม่แอร์โอสเตสคนนั้น แหมพอเห็นเอาบูมกับบอมไปโชว์รีบมาบอกมีลูกจะขอ หมาของตูนนะไม่ใช่ของพี่นพ”
“เอ๊ะหรือคุณนพมีแล้วยังไม่บอกคุณแม่”
“ไม่มีครับ หมอนั่นก็เป็นหมอที่มาเข้าเวรที่โรงงานเลยรู้จักกัน ส่วนแอร์ฯก็คุ้นหน้ากันเพราะนพบินสายการกินบินที่เค้าทำงานบ่อย เค้าก็เลยขอแอดมาเป็นเพื่อนนะครับ”
“แต่น้องพูดก็ถูกนะลูก คุณนพน่าจะหาใครมาช่วยดูแลตัวคุณนพด้วยจะบอกว่าหาไม่ได้ไม่มีใครมาสนก็คงไม่ใช่ คุณนพไม่มองเค้าหรือไม่คิดจะหาลูก ลูกของคุณแม่ก็ใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหล่หน้าที่การงานก็ดี สมบัติพัสถานติดตัวก็มีอยู่ ไหนจะเป็นลูกนายตำรวจชื่อดัง เป็นลูกเจ้าของร้านเพชร เป็นทายาทคนเดียวของเศรษฐีนีที่พังงา เห็นไหมคุณนพก็เพียบพร้อมไปทุกเรื่อง”
“โธ่คุณแม่ครับ ทายาทเศรษฐีนีนะไม่ใช่หรอกครับ อย่างไงสมบัติ ป้าก็ต้องได้รับจากยายอยู่แล้ว นพกับพ่อได้มาแล้วจากตา”
“แต่ป้าของลูกก็ไม่ได้แต่งงาน และก็บอกพ่อกับคุณแม่ตอนไปเยี่ยมยายของคุณนพช่วงตอนลอยกระทงแล้วว่า จะยกให้คุณนพทั้งหมดนี่ลูก”
ที่เอ่ยถึงคือพ่อกับแม่และพี่สาวของแม่แท้ๆของนพ ที่รักหลานชายคนนี้มาก ถึงพ่อนพจะแต่งงานใหม่ก็ไปมาหาสู่กันตลอด ตาของนพที่เสียไปนานแล้วนั้นเป็นคนกรุงเทพและไปทำงานที่พังงาจนมีครอบครัวที่นั่นและก่อร่างสร้างตัวจนกลายเป็นคนมีฐานะร่ำรวย ตากับยายของนพมีลูกสาวสองคนและคนเล็กคือแม่แท้ๆของนพนั่นเอง แต่ทั้งคู่ก็ไม่รังเกียจแม่ใหม่ของนพเนื่องจากความมีสัมมาคาราวะ แถมเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวผู้จากไป และเธอก็พาลูกๆทั้ง3คนไปเยี่ยมตากับยายและพี่สาวของเพื่อนบ่อยๆ จนที่นั่นรักต้นกับตูนเหมือนหลานแท้ๆ
“เฉยๆนะครับคุณแม่ และวันหยุดอาทิตย์ที่แล้วที่นพบอกโทรมาบอกคุณแม่ไงครับ นพขับรถไปเยี่ยมยายมา ยายเดินจะไม่ค่อยไหวแล้วนะครับ วันนั้นป้าก็ให้ค้าง นพขัดไม่ได้ก็ค้างที่บ้าน พอจะกลับยายก็ร้องไห้ไม่อยากให้มา ป้าก็ตาแดงๆ บอกว่าอยากให้นพลาออกจากงานไปช่วยงานป้า ยายจะได้ไม่เหงา”
แต่ลูกสาวคนเล็กบอกมาว่า
“แต่ป้าบอกจะให้ที่ตรงใกล้ทะเลกับตูนนะคะแม่ ตอนที่ไปเยี่ยมยายป้าบอกไว้ ยายก็พยักหน้า”
“งกจริงๆเลยตูน ที่ของพี่เค้า”
“แต่พี่นพก็ต้องยกให้ตูนคะ ตูนเป็นน้องสาวคนเดียวพี่นพต้องยกให้”
“ปล่อยเหอะครับคุณแม่ ตูนงกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“พี่นพว่าแต่ตูน”
ผู้เป็นแม่หัวเราะก่อนบอกกับลูกชายที่นอนหนุนตักต่อไปว่า
“คุณนพคุณแม่บอกแล้วคุณแม่คงไม่อยู่ดูแลคุณนพได้ตลอดนะคุณแม่ไม่อยากพูดว่าพ่อกับคุณแม่อยากอุ้มหลานเพราะดูแก่ แต่มันก็จริงๆ ต้นก็ยังไม่อยากมีตอนนี้ ใครจะมีลูกกี่คนคุณแม่ก็เลี้ยงหลานได้หมด ขนาดลูก 3คน คุณแม่ยังเลี้ยงจนได้ดีทุกคนเลย แต่ถ้านานกว่านี้คุณแม่อาจจะเลี้ยงหลานๆไม่ไหวแล้วนะถ้าไม่รีบมีกัน”
เธอพูดพร้อมเอามือลูบหัวลูกชายสุดที่รัก นานแล้วสินะที่นพไม่ได้นอนหนุนตักเธอเพราะช่วงเด็กจนวัยรุ่น ถ้านพจะอ้อนขออะไรก็ต้องมานอนหนุนตักเธอทุกครั้ง ชายหนุ่มอามือของแม่มาแนบที่แก้มก่อนตอบว่า
“นั่นนะสิครับคุณแม่ หรือว่านพไม่สนใจจะหาจริงๆ”
ผู้เป็นแม่สบตากับลูกสาวคนเล็กเพราะเรื่องนี้นพไม่เคยเล่าหรือบอกว่าคบกับใครอยู่หรือมีแฟนตามประสาชายหนุ่ม เพราะที่ทุกคนในบ้านเห็นก็เป็นตามที่ตูนบอกกับเพื่อน คือนพดูจะเป็นคนโลกส่วนตัวสูงจริงๆ ยิ่งตูนกับใจที่เป็นแฟนของต้นเคยบอกผู้เป็นแม่ว่า นพเหมือนมีกำแพงกั้นคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนในครอบครัวให้เข้าใกล้ที่ตัวนพเองก็ไม่รู้ตนเองมีกำแพงนั้นอยู่ แต่ดูเหมือนนพจะดูสบายใจขึ้น ก่อนลุกขึ้นมานั่งแล้วบอกว่า
“งั้นนพรอพ่อก่อนดีกว่ายังไม่นอน “
“ก็ดีลูกงั้นคุณแม่จะโทรไปบอกคนขับรถให้มาขับรถไปสุราษฎร์ ตูนลูกช่วยจองตั๋วให้พี่เค้าหน่อยเอาไฟท์เย็นๆก็ได้และก็จองให้คนขับด้วย เอาเย็นๆค่ำ จะได้ไม่ต้องรีบขับรถ บัตรเครดิตอยู่ในกระเป๋าที่วางบนหลังตู้โชว์นะตูนเอาใบไหนก็ได้ลูก”
“ก็ดีครับคุณแม่ งั้นนพไปว่ายน้ำดีกว่า ไม่ได้ว่ายมาเกือบเดือนแล้ว”
“ก็ดี คุณนพไม่อยู่สระไม่ค่อยได้ใช้ พ่อก็นานๆว่ายที ตูนก็เหมือนกันไม่ค่อยได้ว่าย พรุ่งนี้ตอนเช้าคุณแม่ทำสปาเก็ตตี้ให้นะ ส่วนกลางวัน ใจกับต้นจะมา ใจจะมาทำมักกะโรนีกุ้งให้ เพราะรู้ว่าคุณนพจะมา”
นพยิ้มเล็กน้อยก่อนหันไปบอกน้องสาวว่า
“เป็นไง เพราะพี่มาถึงได้กิน”
“จ๊ะลูกรัก พูดมากจังไม่จองตั๋วให้เลย”
“ตามใจจะขัดคำสั่งคุณแม่ก็ตามใจ ไปว่ายน้ำดีกว่า เอาไอ้ 2 ตัวนั่นไปว่ายด้วย”
“พี่นพ ไม่เอา มันยังเล็กอยู่เดี๋ยวจมน้ำตาย”
พี่ชายหัวเราะชอบใจก่อนเดินขึ้นไปบนห้องนอน เพื่อไปเอากางเกงว่ายน้ำ ก่อนจะลงไปว่ายปล่อยให้แม่กับน้องสาวจัดการเรื่องการเดินทางให้ คืนนั้นนพรอจนพ่อกลับมาสองพ่อลูกได้นั่งคุยกันเรื่องทั่วไปพร้อมกินมื้อดึกที่คุณแม่โดยมีจัดเตรียมไว้ให้โดยมีคุณแม่กับตูนมานั่งคุยด้วย จนเช้าวันต่อมา นพได้เอารถไปที่ศูนย์โดยน้องสาวได้อาสาตามไปรับแทนผู้เป็นพ่อที่บอกว่าจะขับไปรับลูกชายที่ศูนย์ ก่อนเที่ยงทั้งพี่ชายและน้องสาวกลับมาพร้อมถือถุงพะรุงพะรังลงมา ท่ามกลางเสียงทักของผู้เป็นแม่กับพี่สะใภ้ที่มาถึงก่อนหน้านี้ได้พักใหญ่แล้ว โดยที่พ่อนั่งมองมาพร้อมรอยยิ้ม
“อ้าวซื้ออะไรกันมาอีกละนพ”
พี่สะใภ้เป็นคนทักเพราะเห็นนพทำหน้ามุ่ยส่วนตูนนั้นหัวเราะชอบใจ
“จะอะไรอีกละครับพี่ใจ ไอ้เราก็นึกว่ามีน้ำใจขับรถตามไปรับ แถมบอกว่าพี่นพลองขับมินิไหม ไอ้เราก็หลงกลขับให้ พอผ่านร้านPet Shop บอกให้จอดจะซื้อของให้ไอ้ 2 ตัวนี่ ไอ้เราก็หลงกลอีกตามไป ที่ไหนได้ นพเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด มิน่าอาสาไปแทนพ่อตอนแรกพ่อจะไปรับนพ”
ทำเอาพี่สะใภ้หัวเราะไม่หยุด ก่อนที่ตูนจะบอกว่า
“ทำเป็นบ่น ก็พี่นพจะเอามันไปว่ายน้ำมันยังเล็กอยู่ ตูนก็ต้องซื้อชูชีพให้มันสิ เดี๋ยวมันก็โตแล้วโซ่เส้นเล็กเอาไม่อยู่ก็ต้องซื้อ ไหนจะกระดูกให้มันแทะอีก เนอะพี่ใจเนอะ”
แล้วมีเสียงมาจากหลังบ้านว่า
“นพไม่ต้องห่วง พี่ก็เจอมาแล้ว ไอ้กรงที่ใส่เนี่ยพี่ซื้อ”
พี่ชายพูดพร้อมเดินเข้ามาในห้อง ทำเอาพี่ชายกับน้องชายหัวเราะกันไม่หยุดที่ต้องตามใจน้องสาวคนเล็ก ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะตัดบท เดินจูงมือสะใภ้เข้าไปในครัวพร้อมเรียกลูกสาวคนเล็กไปช่วยกันทำอาหาร ปล่อยให้พ่อกับลูกชายนั่งคุยกัน ซึ่งเป็นมื้อกลางวันที่มีความสุขของครอบครัว จนช่วงเย็นหลังจากที่นพได้ลาพี่ชายกับพี่สะใภ้แล้วไปกอดพร้อมหอมแก้มลาคุณแม่ ก่อนจะแหย่น้องสาวด้วยการอุ้มหมาไปทั้ง 2ตัวเดินไปที่รถ ทำเอาตูนโวยวายไม่หยุดก่อนที่พี่ชายจะเอาไปใส่กรงตามเดิมท่ามกลางเสียงหัวเราะที่เห็นการแหย่น้องสาวของนพ ครั้งนี้พ่อเป็นคนขับรถไปส่งนพที่สนามบินเอง ระหว่างทางผู้เป็นพ่อได้ถามลูกชายว่า
“นานเท่าไหนแล้วนี่ ที่พ่อไม่ได้ขับรถให้นพ”
นพนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบว่า
“หลายปีแล้วนะครับพ่อ ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยได้มั้ง เพราะตอนนั้นนพก็ขับให้พ่อแล้ว ไม่ก็มีคนขับให้ นึกถึงตอนเด็กๆที่พ่อว่างพ่อจะขับรถไปรับ-ส่งเรา 3คนที่โรงเรียนเอง”
“นั่นสินะ วันนี้พ่อก็เลยอยากขับรถไปส่งลูกเอง เพราะทุกทีไม่ตูนก็คุณแม่ แล้วนพเป็นอะไรหรือเปล่าลูก เห็นแม่เค้าบ่นๆเมื่อคืน”
“บอกไม่ถูกครับพ่อ อยู่ๆมันรู้สึกไม่สบายใจห่อเหี่ยวขึ้นมานะครับ”
“งั้นหาแฟนสักคนเลยลูก นพควรจะมีได้แล้ว ไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องอะไร นพโตแล้วลูก เชื่อพ่อ ไม่งั้นพ่อกลัว”
“กลัวอะไรครับพ่อ”
“กลัวคุณแม่จะทำตัวแบบในละครน้ำเน่าหาคู่ให้ลูกชายนะสิ เพื่อนๆคุณแม่นพเค้าก็มีลูกสาวหน้าตาดีหลายๆคนคุณแม่อาจจะเจ้ากี้เจ้าการหาลูกสะใภ้ให้ หรือคุณนพของคุณแม่ต้องการแบบนั้น คุณนพจะได้ขัดใจคุณแม่แล้วคุณแม่ไม่ยกมรดกให้ถ้าไม่ทำตามคำสั่ง”
ทำเอาทั้งพ่อกับลูกหัวเราะกันลั่นรถ แต่พอไปถึงสนามบิน ทันทีที่จอดรถหน้าอาคาร นพนึกว่าพ่อจะมาส่งแค่ตรงนั้นแต่ที่ไหนได้พ่อกลับบอกว่าจะไปส่งข้างใน พอ รปภ.ทำท่าจะมาบอกว่าไม่ให้จอดแต่พอเห็นพ่อของนพลงจากรถ รปภ.รีบทำความเคารพและเอากรวยยางมากั้นทันที หลังจากนั้นยังก้าวไม่พ้นประตู ตำรวจที่สนามบินรีบวิ่งมารับแต่พ่อของนพบอกว่า มาส่วนตัวมาส่งลูกชายไม่ต้องยุ่งยากแต่ตำรวจที่มารับนั้นเดินตามมาห่างๆ ระหว่างทางที่เดินเข้าไปพ่อตบไหล่ลูกชายแล้วบอกว่า
“ทนเอาหน่อยลูก ตอนนี้พ่อสวมหัวโขนอยู่ต้องเล่นตามบทที่เค้าให้มา วันไหนที่พ่อถอดหัวโขนแล้ว เราก็จะไปไหนมาไหนได้ตามสบายพ่อรู้ว่านพไม่ชอบแบบนี้”
นพหันมายิ้มให้กับพ่อเมื่อรู้ว่าตนเองไม่ชอบแบบนี้และพ่อก็เข้าใจในตัวลูกชาย แต่ที่บ้านหลังจากสองพ่อลูกออกไปแล้วหัวข้อการสนทนาในบ้านก็คือเรื่องของนพ ทั้งต้นและใจพอจะดูออกที่นพดูไม่ค่อยร่างเริงเหมือนเก่านัก จนแม่หันไปถามลูกสาวเรื่องที่คุยเมื่อวาน ตูนบอกว่าไม่รู้อะไรมากนักแค่เห็นในเฟซของนพจะมีสาวทั้งสองคนนี้ที่เข้ามาคุยกับนพบ่อยที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นแฟนพี่ชายตนเองหรืเปล่า ซึ่งต้นก็บอกว่าไม่รู้เพราะนพไม่เคยเล่าเรื่องว่าไปจีบผู้หญิงคนไหนให้ฟัง แต่จู่ๆตูนก็ไปคิดถึงฐา แต่แล้วตนเองก็ส่ายหน้าเพราะรู้ว่าทั้งนพกับฐานั้นต่างกันสุดขั้ว นพเก็บตัวไม่เข้าสังคมต่างกับฐา ที่เข้าสังคมมีเพื่อนเยอะและที่สำคัญมีคนมาจีบเยอะมาก มีความเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลตลอด เพื่อนเธอมีแฟนมาแล้ว 2 คนแต่ก็เลิกไปแล้วทั้ง 2 คน
“มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เพราะดูยังไง ฐาก็ไม่ใช่แนวที่พี่นพชอบ พอๆกับฐาพี่ชายเราจะดูเงียบๆจืดๆกับคนทั่วๆไปอยู่แล้วมันไม่ใช่สเป็คของฐา แต่พี่นพเป็นอะไรอยากรู้จริงๆ”
ฝ่ายนพหลังจากที่เดินทางไปถึงห้องพักที่สุราษฎร์แล้ว รถที่คุณแม่ให้คนขับรถขับมาให้ อยู่ในสภาพพร้อมทุกอย่างน้ำมันเติมเต็มถังแต่คนขับได้กลับไปก่อนที่นพจะมาถึง ชายหนุ่มนั่งมองดูหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่พึ่งเปิด แล้วนึกเรื่องตัวเองนพเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนที่จู่ๆเป็นแบบนี้ความสึกที่ห่อเหี่ยวมันเข้ามาครอบงำจิตใจ ทำให้ไม่สบายใจ มันพึ่งเป็นไม่นานนี้ ซึ่งนพเองก็ไม่มีใครจริงๆ ส่วนเรื่องที่น้องสาวแซวนั้น นพก็บอกว่าทั้งสองคนนี้ไม่ใช่แบบที่ตนเองชอบ
ส่วนนิ่มตำรวจสาวที่เคยเป็นอดีตเมียน้อยของพ่อนพ และมีสัมพันธ์สวาทแบบลับๆกับนพ ยิ่งตอนช่วงที่เธอมาช่วยราชการที่นี่ นพกับเธอก็รื้อฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกทั้งที่นิ่มแต่งงานแล้วทั้งคู่มีเซ็กส์กันตลอดที่นิ่มอยู่ที่สุราษฎร์ จนเธอเดินทางกลับไปและก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ช่วงเวลาที่ผ่านมานพก็มีผู้หญิงมาเกี่ยวพัน2-3คนแต่ก็ไม่ยึดติด นพคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่ โทรศัพท์ก็มีเสียงดังว่ามีข้อความในอินบ๊อกซ์ของเฟซบุ๊กดังขึ้น นพจึงเปิดในคอมและพบว่าเป็นข้อความจากฐาที่ส่งมาว่า
“พี่นพสวัสดีคะ พอดีฐาส่งข้อความมาในไลน์แล้วเห็นพี่ยังไม่อ่านเลยขอรบกวนส่งทางนี้คะ”
นพพิมพ์กลับไปว่า
“ปิดเสียงในไลน์นะครับ”
“อ๋อคะ ตอนนี้พี่นพอยู่ที่ไหนคะ”
“สุราษฎร์ครับ”
“คือพอดี ใน IG ของฐามันขึ้นว่ามี IG ของพี่นพนะคะ ฐาจะขอติดตามได้ไหมคะพี่”
“ได้ครับ”
“ขอบคุณคะ ฐาเห็นรูปถ่ายใน IGสวยๆเยอะนะคะ”
“ยินดีครับ”
“งั้นฐาไม่รบกวนแล้วคะพี่”
“ครับ”
“เอ่อพี่นพคะ ถ้าฐาจะรบกวนขอเบอร์พี่นพเผื่อไว้ติดต่อโดยตรงได้ไหมคะ”
นพพิมพ์เบอร์บอกไปก่อนที่หญิงสาวจะบอกขอบคุณ นพเลยลองเข้าไปดูทั้งในเฟซบุ๊คและ IG ของเธอปรากฏว่ามีคนติดตามหลายหมื่นคน นพเลยกดติดตาม IG เธอ นพเลื่อนดูรูปที่ ฐาโพสใน IG ไปเรื่อยก็เห็นว่าฐาจะเอาภาพทั้งที่ถ่ายแบบหรือตอนไปเที่ยวมาลงมาก บางรูปก็เป็นชุดบิกินี่ ตอนที่เธอกับเพื่อนๆไปเที่ยวทะเล นพเห็นฐามีรูปโพสคู่กับผู้ชาย นพเดาออกว่าคงเป็นแฟนจนเจ้าตัวรู้สึกตัวก่อนนึกว่า
“จะไปดูรูปเค้าทำไมวะ”
แล้วนพไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน แต่หลังจากวันนั้น นพจะเป็นคนแรกๆที่เข้าไปกดไลท์รูปที่ฐาโพสใน IGหรือในเฟซบุ๊กตลอด รวมถึงฐาด้วยที่จะทักนพผ่านเฟซบุ๊กตลอด เพราะหลังจากวันนั้นที่บ้านนพ พอเธอกลับมา ฐาย้อนกลับไปดูรูปของนพที่โพสไว้เพราะนพนั้นตั้งค่าในเฟซบุ๊กให้เพื่อนเท่านั้นที่เห็นภาพหรือข้อความ ทำให้ฐารู้สึกสนใจพี่ชายของเพื่อนเพราะฝีมือการถ่ายรูปที่เธอดูออกว่านพถ่ายรูปได้สวยมากๆ และหลายๆครั้งที่ นพจะโพสข้อความที่มีความหมายไว้ รวมถึงแนวเพลงที่แชร์มาเป็นเพลงเธอชอบอยู่หลายเพลงจนเธอแอบคิดไปว่า
“ภายนอกทำไมดูจืดๆเฉื่อยๆจังพี่นพ แต่จากที่เห็นไม่น่าใช่แล้วละ ทั้งขี้เล่นทั้งลูกอ้อน เหมือนจะเป็นลูกแหง่แต่ไม่ใช่ แววตาของพี่นพมันบอกแบบอีกแบบ พี่นพซ่อนอะไรไว้นะ อยากรู้จัง”
ฐานั้นก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมตัวเธอเองถึงได้แอบสังเกตและใส่ใจพี่ชายเพื่อนขนาดนั้น ทำให้เธอตัดสินใจส่งข้อความผ่านไลน์แต่ก็เป็นจริงอย่างที่เพื่อนเธอบอก พี่นพไม่อ่านไลน์เธอเลยลองส่งผ่านอินบ็อกซ์ ซึ่งนพตอบมาเร็วกว่าที่คาด และให้เบอร์โทรศัพท์ตามที่เธอขอมาด้วย จนถึงวันนี้เวลาเธอโพสรูปหรือโพสข้อความ นพจะเป็นคนแรกๆที่มากดไลท์ รวมถึงเธอก็กดไลท์หรือเข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยถึงนพจะไม่โพสอะไรเท่าไหร่นัก มีแต่เพื่อนๆของนพที่จะเข้ามาแซวว่านพรู้จักกับเซเลปคนดังได้ยังไง นพก็ไม่ตอบอะไร มีแต่ตูนที่เข้ามาตอบแทนว่า “ฐาเป็นเพื่อนของตูนคะ” แต่เธอก็จะเห็นผู้หญิงสองคนที่เวลาโพสอะไรจะแท็กนพด้วยเกือบทุกครั้ง
คนหนึ่งดูจะเป็นหมอเพราะนพจะเรียกคุณหมอทุกครั้ง ส่วนอีกคนดูออกว่าเป็นแอร์โฮสเตสที่ดูได้จากรูปโปรไฟร์ที่ใส่เครื่องแบบ ฐานั้นอยากจะให้นพคอมเม้นท์อะไรออกมาก็ได้เวลาที่เธอโพสภาพ หรือข้อความ แต่นพก็แค่กดไลท์เท่านั้น ส่วนเธอเวลาเข้าไปคอมเม้นท์นพจะกดไลท์ให้เท่านั้น ไม่เหมือนกับเพื่อนของนพที่นพจะมีตอบบ้างเป็นบางครั้ง แต่ทำให้เธอรู้ว่านพนั้นเก่งภาษาเยอรมันมาก แต่บางเธออ่านก็ขำที่มาการโพสแหย่กันระหว่างพี่กับน้องทั้ง สามคน โดยบางครั้งพี่สะใภ้ต้องเข้ามาห้ามในเฟซบุ๊ก เพราะตูนโพสภาพสุนัข 2 ตัวที่พึ่งได้มาใส่เสื้อชูชีพและกำลังว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำในบ้านและแท็กไปที่พี่ชายคนกลางพร้อมข้อความว่า
“วันนี้บอมกับบูมฝึกว่ายน้ำ ด้วยเสื้อชูชีพที่พี่ชายใจดีซื้อให้”
นพตอบกลับทันที
“เฮ้ยยยย เอาลงสระได้ยังไงใครอนุญาตน้ำก็พึ่งเปลี่ยน มันต้องตายต้องเอาไปปล่อย เสื้อชูชีพก็โดนบังคับให้ซื้อ”
พร้อมกับพี่ชายคนโตเข้ามาผสมโรงทันทีว่า
“ใช่กรงพี่ก็ซื้อ แถมวันก่อนก็โดนบังคับให้ซื้อใหม่บอกตัวมันใหญ่ขึ้น แม่ก็ต้องซื้ออาหารมาให้ ตูนไม่ลงทุนเลย”
ทำเอาสามคนพี่น้องล้งเล้งกันผ่าน เฟซบุ๊กจนพี่สะใภ้เข้ามาห้ามทัพ เธออ่านไปก็ขำไปพร้อมกับนึกไม่ถึงว่านพจะเป็นคนขี้เล่นขนาดนี้ นพในเฟซบุ๊กนั้นบ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของนพอย่างดี จนถึงช่วงก่อนปีใหม่ที่เธอกับเพื่อนไปถือศีลที่วัดต่างจังหวัด ฐาได้โพสรูปตัวในชุดนุ่งขาวห่มขาวลงใน IGพร้อมข้อความที่ว่า “ขอลาไปถือศีลนะคะ” นพเข้ามากดไลท์อย่างรวดเร็วก่อนจะพิมพ์ข้อความว่า “อนุโมนาครับ”และตัวอิโมจิเป็นรูปมือที่กำลังไหว้ ทำให้เธอพิมพ์ตอบกลับไปว่า
“ขอบคุณคะพี่ฐาจะเอาบุญมาฝากนะคะพี่”
นพได้ตอบกลับมาภายในเวลาไม่นานนักว่า
“ขอบคุณครับ แต่พี่บาปหนานะ คงรับบุญไม่ไหว”
“ไม่เป็นไรคะพี่ บาปจะหนาขนาดไหน ฐาก็จะแบ่งบุญให้คะ”
แต่ระหว่างนั้นเธอก็รู้ว่านพพาแม่กับตูนไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ โดยตูนโพสใน เฟซบุ๊กว่า
“พี่ชายที่น่ารักพาคุณแม่ที่ใจดีกับน้องสาวผู้น่าสงสารที่สุดไปเที่ยวญี่ปุ่น พ่อไปไม่ได้เลยปล่อยให้เลี้ยงบอมกับบูมที่บ้าน พี่ชายคนโตก็เช่นกันที่ไปไม่ได้ #ไปแต่ตัว #ทริปนี้ฟรีจ้า”
และนพโพสต่อทันทีว่า
“เงินคุณแม่พาเที่ยว เงินพี่ใช้ช็อปปิ้ง ก่อนไปก็ขอพ่อแต่ไม่ยอมใช้ #งก”
ทำเอาเธอรู้สึกแปลกๆปนน้อยใจที่รู้สึกว่านพไปเที่ยวแล้วทำไมไม่บอกเธอ แต่เธอก็คิดได้ว่าไม่เป็นอะไรกันนี่ ฐาได้แต่ดูรูปที่ตูนเป็นคนโพสตลอดทริป ที่นพเป็นช่างภาพให้ ก่อนที่เธอจะพิมพ์แหย่ไปที่เพื่อนว่า
“อย่าลืมของฝากของเค้านะ”
เพื่อนเธอตอบกลับมาว่า
“ไม่มีเงินซื้อ พี่นพไม่ยอมจ่าย เรามันคนจนอาศัยเค้ามา”
แต่แล้วพอนพกลับมา เธอกับเพื่อนๆก็บินไปเที่ยวเกาหลีในอีกวันหลังจากที่นพกลับมาถึงเมืองไทย และนพก็กดไลท์ภาพที่เธอโพสตลอด แต่ฐาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า นพเองก็มีความรู้สึกเหมือนกับที่เธอเคยคิด แต่ช่วงหลังหยุดปีใหม่ ที่ทำงานไปได้2-3วัน นพที่รถของตนเองออกจากศูนย์เรียบร้อยแล้วโดยที่คุณแม่ให้คนขับรถเอารถมาเปลี่ยนให้ ได้ขับจากโรงงานกลับมาที่พัก แต่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องพักเสียงโทรศัพท์ก็ดัง นพเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นเบอร์เจ้าตัวก็ยิ้มๆก่อนรับ
“ครับเพลง”
“นพอยู่ไหนคะ”
“ห้องครับ”
“เพลงอยู่สุราษฏร์ฯคะ”
“อ้าวมาทำอะไรครับ”
“ถามเหมือนไม่เต็มใจเลย เครื่องมันมีปัญหานะคะ ต้องรอซ่อม เครื่องอีกลำพึ่งมารับผู้โดยสารไป คืนนี้เพลงต้องนอนที่สุราษฎร์คะ”
“ครับ”
“แหมทำไมพูดแบบนี้ละ หรือไม่อยากเจอเพลงคะ”
“ทำไมพูดแบบนี้ละครับ”
“ก็น้ำเสียงเหมือนเฉยๆนะ ไม่อยากเจอก็ตามใจนะคะ เพลงจะได้ไปทานข้าวกับเพื่อนและกัปตัน นพจะได้พัก”
น้ำเสียงที่ได้ยินจากแอรโฮสเตสสาวนั้นดูจะเชื้อเชิญไปในตัว นพถอนหายใจเบาๆก่อนตอบไปว่า
“เพลงพักที่ไหนครับ นพจะไปหา”
“ลำบากนักไม่ต้องก็ได้คะ นพจะได้พักผ่อน เดี๋ยวคุณหมอแววจะโกรธเอาที่เพลงให้นพพาไปทานข้าว”
“นพกับหมอแววเป็นคนรู้จักกันครับ เหมือนกับเพลงนั่นแหละครับ นพมีสิทธิ์ที่จะไปไหนกับใครก็ได้ครับ”
“โกรธเพลงหรีอคะ เพลงขอโทษนะคะ”
“งั้นนพไปรับนะครับ เพลงพักที่ไหน”
นพถามย้ำไปอีกครั้งแอร์โฮสเตสสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจและขอเวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน นพเดินเข้าห้องก่อนจะถอนหายใจแล้วเอาเปิดดูเฟสบุ๊ก เห็นภาพฐากับเพื่อนๆที่กำลังสนุกที่เกาหลี นพถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน นพขับรถมารับเพลงที่โรงแรมที่หญิงสาวกับเพื่อนๆพักโดยแอร์โฮสเตสสาวมายืนรอหน้าที่พักแล้ว พอรถจอดเธอก้าวขึ้นรถทันทีพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแสดงความดีใจก่อนบอกว่า
“ขอบคุณนะคะที่มารับ เพื่อนๆเพลงกับพวกกัปตันไปกินข้าวกันแล้ว แต่เพลงบอกว่านพจะมารับพวกเค้าเลยปล่อยเพลงไว้คนเดียว”
“ครับ แล้วเพลงอยากทานอะไรครับ”
“เจ้าถิ่นเลือกดีกว่าคะ จะเรียกเจ้าถิ่นก็ไม่ได้สินะเพราะนพไม่ใช่คนท้องที่เรียกว่าผู้ชำนาญเส้นทางดีกว่า”
“งั้นนพพาไปร้านที่มันอะไรให้เลือกเยอะๆดีกว่า จะพาไปห้างก็น่าเบื่อร้านคล้ายๆในกรุงเทพ ดีไหมครับ”
“แล้วแต่นพคะ”
ระหว่างทางเธอได้ชวนคุยและถามถึงเรื่องที่นพไปเที่ยวญี่ปุ่นนพก็เล่าให้ฟังตามที่เธอถาม นพได้รู้จักกับแอร์โอสเตสสาวนี้เพราะการเดินทางไปกลับกรุงเทพ-สุราษฎร์เกือบทุกอาทิตย์ซึ่งเป็นความบังเอิญที่วันไหนเพลงได้บินไฟท์ไปสุราษฎร์ก็จะเจอนพบ่อย หรือบางครั้งก็เจอที่สนามบินที่กรุงเทพ ทำให้หญิงสาวคุ้นหน้ากับผู้โดยสารคนนี้และพอยิ่งรู้นามสกุลทำให้เธอสนใจอยากรู้จักนพมากขึ้น จนเธอเป็นฝ่ายทำความรู้จักกับชายหนุ่มก่อนแต่นพไม่เคยนัดเธอไปไหนมาไหนเลย อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ไม่ตรงกัน แต่เพลงพยายามโทรหาหรือไม่ก็คุยผ่านเฟซบุ๊กตลอด ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าใบหน้าที่ดูยิ้มง่ายแต่พูดน้อยของนพนั้น จะมีกำแพงกั้นอยู่แต่เธอก็พยายามที่จะเจาะกำแพงนั้นเข้าไปให้ได้ และวันนี้ก็ประสพผลสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว เนื่องด้วยความบังเอิญที่เครื่องบินเสียและเธอดึงนพให้มารับเธอไปทานข้าวด้วยกันเป็นครั้งแรก เพลงพอจะดูออกว่าที่แท้นพเป็นคนแบบไหน ถ้าไม่สนิทจริงๆนพจะพูดน้อย แต่สิ่งที่เธอเห็นในเฟซบุ๊กนั้นนพเป็นคนที่เฟรนลี่ ชอบแหย่โดยเฉพาะน้องสาว แต่เธอก็รู้ว่าเธอมีคู่แข่งที่สำคัญอีกคนคือหมอแวว ที่เป็นหมอประจำโรงงานที่นพทำงานอยู่
จนนพพาเพลงไปถึงร้านอาหาร ที่ตนเองกับที่ทำงานมากินกันบ่อย หลังจากสั่งอาหารเสร็จ โทรศัพท์ของนพมีสายเข้า พอได้ยินที่นพพูดเธอก็รู้ว่าแม่ของชายหนุ่มโทรมาหา ทำให้เพลงได้รู้เพิ่มขึ้นว่านพมีมุมที่น่ารักคือการอ้อนคุณแม่ ทำเอาเธอยิ้มตามไปด้วย จนนพวางสายเธอจึงถามไปว่า
“นพนี่อ้อนแม่เก่งจังนะคะ”
“ไม่ได้อ้อนครับ มันคือเรื่องปกติเวลานพคุยกับคุณแม่ก็แบบนี้ทุกครั้งครับ”
“น่าอิจฉาจังคะ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก เพลงดูจากเฟซของนพนะคะ”
นพนั้นไม่ตอบอะไรจนอาหารมา พอเธอเห็นอาหารซึ่งดูว่าน่าทานมาก เธอขอถ่ายรูปอาหารและขอให้นพถ่ายรูปเธอด้วย ก่อนที่เธอจะโพสลงเฟซ แม้จะไม่มีนพในรูปแต่เธอก็เช็คอินพร้อมโพสข้อความว่า
“เครื่องบินเสีย ต้องนอนค้างที่สุราษฎร์ แต่มีวิศวะใจดีพามาทานข้าวมื้อเย็น”
พอเธอโพส เธอส่งให้นพดูและขอให้ชายหนุ่มกดไลท์ให้ นพทำตามตามที่เธอขอ เท่านี้ก็สมใจของเธอแล้วก่อนที่นพจะชวนเธอทานข้าว เพลงชวนนพคุยตลอดเวลาที่ทานข้าว และสิ่งที่เธอทำลงไปนั้นเพราะเธอรู้ว่าพอชายหนุ่มกดไลท์ หมอแววหรือสาวคนอื่นๆที่เป็นเพื่อน ในเฟซของนพจะได้รู้ว่านพเป็นคนพาเธอมา ซึ่งเพื่อนของเธอก็เข้ามาคอมเม้นท์กันสนุกสนานสมความต้องการของเธอ จนทานเสร็จ ระหว่างเดินไปที่รถ เธอบอกนพว่า
“เพลงยังไม่ง่วงนะคะ พาเพลงไปนั่งหาอะไรดื่มได้ไหมคะ”
“ร้านพวกนี้นพไม่ชำนาญครับ ส่วนใหญ่นพจะไม่ค่อยเที่ยวอยู่แล้ว”
“งั้นก็กลับก็ได้คะ แค่นี้เพลงก็รบกวนนพมามากพอแล้ว”
เธอทำเสียงแบบงอนๆ ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล เพราะนพตอบมาว่า
“ขี้งอนจังครับ งั้นนพจะลองหาดู ร้านในโรงแรมที่เพลงพักพอจะได้มั้งครับ เห็นเจ้านายนพชอบมาที่นี่”
เธอไม่ตอบอะไรแต่พยักหน้า นพทำตามที่เธอขอ จนเห็นเธอดื่มไวน์แก้วที่สอง นพจึงขอให้เธอพอเพราะรู้ว่าพรุ่งนี้เธอต้องตื่นแต่เช้า แต่หญิงสาวที่อยากจะให้ความสัมพันธ์ของเธอกับนพคืบหน้าไปมากกว่านี้ประกอบกับการดื่มไวน์ย้อมใจตัวเองเข้าไป ได้เอามือไปจับมือของนพก่อนส่งสายตาแล้วยื่นหน้าไปกระซิบกับชายหนุ่มว่า
“นพขา คืนนี้อยู่กับเพลงนะคะ”
นพตอบกลับไปว่า
“แล้วเพื่อนของเพลงที่พักด้วยกันละครับ”
“ไปห้องนพก็ได้คะ”
นพก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเมื่อมีหญิงสาวหน้าตาสวยมาเสนอตัวให้แบบนี้ ถ้านพปฏิเสธคงเสียเชิงชายแน่นอน นพจัดการชำระเงินค่าเครื่องดื่มก่อนพาหญิงสาวไปขึ้นรถแล้วขับกลับไปที่ห้องพัก เพราะนพคิดได้ว่าถ้าเปิดห้องพักที่โรงแรมนี้มันจะดูไม่ดีต่อเพลง นพเลยขับกลับไปที่ห้องพักที่อยู่ห่างจากโรงแรมไม่มากนัก เพลงนั่งซบบ่านพไปตลอดทางจนไปถึงอพาร์ทเม้นท์ที่นพพัก นพเดินโอบเอวหญิงสาวขึ้นไปบนห้อง พอเข้าไปในห้องหลังจากที่นพล็อคประตูเรียบร้อย หญิงสาวผวาเข้ากอดนพทันที พร้อมเงยหน้ารับการจูบของชายหนุ่ม นพสนองตอบความต้องการของเพลงทันที ปากทั้งคู่ทาบกันสนิท แล้วนพประคองเพลงที่เตียงแล้วประคองหญิงสาวลงไปนอนบนเตียงก่อนที่ตัวเองจะนอนทับไปบนตัว เพลงเอามือโอบรอคอของชายหนุ่มพร้อมรับการจูบที่ชายหนุ่มมอบให้
นพไซร้ไปตามซอกคอของหญิงสาว เพลงเงยหน้ารับการซุกไซร้ของชายหนุ่ม ก่อนที่กระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอจะถูกปลดทีละเม็ดจนครบ ก่อนที่เสื้อจะติดมือของนพออกมายกทรงสีขาวที่ห่อหุ้มหน้าอกที่ขาวสล้างปรากฏอยู่ตรงหน้า นพเอาหน้าเข้าไปซุกเพราะเจ้าของนั้นใช้มือกดหัวของชายหนุ่มลงไป แต่มือของนพเลื่อนไปปลดตะขอและรูดซิบกางเกงของหญิงสาวก่อนจะรูดออกไปทางปลายขาที่เจ้าของเป็นคนเตะให้พ้นตัว ร่างที่ได้สัดส่วนนั้นเหลือแต่ชั้นในเท่านั้นที่ปกปิดส่วนที่สำคัญอยู่ นพเลื่อนหน้าไปจูบกับเพลงอีกครั้ง และเอามือล้วงไปทางด้านหลังแล้วปลดตะขอยกทรง เพลงช่วยขยับลำตัวให้นพดึงยกทรงออกอย่างดาย
หัวนมสีน้ำตาลนั้นดูท้าทายริมฝีปากของนพมาก นพก้มลงเอาปากไปสัมผัมหัวนมยิ่งบานขยายพร้อมเสียงครางจากเจ้าของ นมดูดสลับไปมาทั้งสองเต้า มืออีกข้างเลื่อนไปตรงเป้ากางเกงในที่ตอนนี้ความมีความชื้นที่สัมผัสได้ นพจัดการรูดลง เพลงยกก้นให้ทันทีเพื่อผ้าชิ้นสุดท้ายถูกปลดออก นพหันมาจัดการกับเสื้อผ้าตนเอง ทันทีก่อนเปิดลิ้นชักโต๊ะที่อยู่ข้างหัวเตียงหยิบถุงยางที่ซื้อติดไว้ออกมา แล้วก้มหน้าไปดูดดื่มกับเต้านมของหญิงสาวอีกครั้ง เพลงแอ่นกายรองรับใบหน้าของนพพร้อมกับครวญครางออกมา ยิ่งใบหน้าของของเลื่อนลงไปที่หน้าท้องของเธอ เธอยิ่งครางออกมาไม่หยุดเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นพจูบไปทั่วหน้าท้องที่แบนราบแล้วถึงเลื่อนหน้าไปกลางลำตัว หมอยของเพลงนั้นค่อนข้างจะเยอะรับกับโคกหีที่สมตัว นพซบหน้าไปตรงโคกหีก่อนในลิ้นสัมผัสไปตรงเม็ดแตดซึ่งกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“นพขาเพลงเสียวอูยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดดดอีกนิดคะที่รักโอยยยยยยยย”
เธอแอ่นตัวรองรับการลงลิ้นของนพมือทั้งสองจับบ่าชายหนุ่มแน่นจนเพลงนั้นเป็นฝ่ายร้องขอออกมา
“นพทำเหอะเพลงทนไม่ไหวแล้ว”
นพจัดการเอาถุงยางมาสวมควยที่แข็งเต็มที่แล้วแล้วลงไปนอนทับแอร์โฮสเตสสาวอีกก่อนเอาควยยัดไปในรูหีที่เพลนั้นนอนรออยู่ ช่องทางรักของหญิงสาวยังกระชับอยู่พอสมควร ถึงแม้จะดูออกว่าไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ นพดันควยของตัวเองไปจนสุดแล้วเริ่มโยกตัวไปมา พร้อมกับก้มหน้าลงไปจูบกับเพลงในมือทั้งสองข้างประคองที่ใบหน้าของเธอ เอวก็ขยับขึ้นลงช้าสลับเร็ว เหมือนกับหญิงสาวที่มีการเด้งรับในบางครั้ง ใบหน้านั้นบ่งบอกถึงความเสียวที่นพกำลังมอบให้ มีเสียงครางออกมาอย่างแผ่วเบา เริ่มถี่ขึ้นเมื่อร่างกายส่งสัญญาณออกมา
“นพขาเพลงจวนแล้วคะที่รักซี๊ด อ๊อยๆๆๆๆซี๊ดดดดดดดด”
มือของเธอไปจิกแผ่นหลังของนพแน่นพร้อมกับการเกร็งและบีบรัดในรูหี พอๆกับนพที่ปล่อยน้ำรักออกมาเต็มถุงยาง นพพลิกตัวลงไปนอนข้างๆเพลงก่อนที่จะถอดถุงยางออกมา เพลงพลิกตัวไปนอนกอดนพพร้อมกับลมหายใจถี่ๆแรงๆแล้วเธอสบตากับนพอย่างอายๆ เพราะนพสนองความต้องการของเธอได้สมกับความตั้งใจ
“เพลงใจง่ายใช่ไหมคะนพ เอาตัวมาเสนอให้กับนพถึงที่”
“ไม่หรอกครับ”
“อย่าพูดเอาใจเพลงเลยเพลงรู้ตัวดี”
พอนพจะพูดต่อเธอเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากแล้วเอาปากของเธอไปทาบกับปากของนพ ก่อนจะบอกว่า
“อย่าพูดอะไรเลยคะ โตๆกันแล้ว”
เธอพูดจบก็เอาหน้าไปซุกกับอกของนพ พร้อมรอยยิ้มที่สมหวังว่าเธอเข้าถึงตัวของนพได้แล้วก่อนจะทำเป็นหลับคืนนั้นก่อนที่นพจะกลับไปส่งเธอที่โรงแรม เธอเป็นฝ่ายปลุกอารมณ์ของนพให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยปากของเธอ ซึ่งคราวนี้เธอเป็นฝ่ายคุมเกมส์ทั้งหมดตั้งแต่ใช้ปากพร้อมเป็นฝ่ายสวมถุงยางให้ ก่อนที่จะเป็นคนโยกตัวอยู่ข้างบนตัวนพ เธอยอมรับว่านพทำให้เธอถึงสวรรค์ถึงสองครั้งซึ่งเธอไม่เคยเจอมาก่อนจากแฟนเก่าของเธอ นพขับรถไปส่งเธอที่โรงแรมก่อนลงจากรถเพลงได้หอมแก้มของชายหนุ่มทั้งสองข้างแทนคำขอบคุณและลงจากรถด้วยความอิ่มใจ ตรงข้ามกับชายหนุ่มที่มีความรู้สึกผิด พร้อมกับความกังวลว่าจะมีความยุ่งยากเกินขึ้นกับตนเองต่อไปในอนาคต