แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
คัดตัวนักแสดงตอนนี้ในใจท่านผู้อ่านกันเองแล้วกัน
ภายหลังจากที่ชีเปลือยได้ทำการสำรวจพระราชวังแล้วจึงกลับเข้าที่พัก โดยมีทหารสองนายที่พระราชาสั่งมาให้ช่วยดูแลชีเปลือยอยู่ตลอด แต่ดูเหมือนว่าทหารทั้งสองนี้จะคอยประกบติดคอยจับผิดชีเปลือยมากกว่า ขนาดว่ายังพักอยู่ภายนอกห้องใกล้ๆกับห้องชีเปลือย ซึ่งหากมันจะออกไปตอนไหนทหารสองคนจะต้องพบเห็น
แม้แต่ตอนนางกำนัลหน้าตาแชร่มแช่มช้อยสองนางนำอาหารผลไม้เข้ามาถวายทหารสองคนนี้ก็ยังตามมาช่วยประเคนถึงในห้องทำให้ชีเปลือยทำอะไรไม่สดวก
เดิมตอนที่ชีเปลือยถูกเรียกเข้าวังก็มีความคิดว่าจะหาทางขโมยทรัพย์สมบัติในท้องพระคลัง แม้ตอนนี้มันจะรู้แล้วว่าท้องพระคลังอยู่ตรงไหนแต่ก็ยังไม่มีโอกาสเข้าไปดูข้างในด้วยมีทหารอารักขาอยู่แน่นหนา เมื่อขโมยของมาได้ก็จะขี่ม้านิลมังกรหนีไปได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ม้านิลมังกรหนีหายไปแล้ว จึงไม่รู้ว่าจะหลบหนีไปอย่างไร
ครั้นจะเสกของให้ลอยข้ามกำแพงออกมาจากท้องพระคลัง ก็จำมนต์คาถาไม่ได้ ครั้นจะเสกให้ตัวเองลอยหนีไปพร้อมกับทรัพย์สิ่งของก็กลัวว่าเกิดตกลงมาคอหักตายได้
“กลุ้มจริงโว้ย มนต์ของเจ้าสุดสาครมันก็ง่ายๆ ทำไมข้าถึงจำไม่ได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้าข้าก็หัวดีจำอะไรแม่นมาตลอด หรือมนต์มันมีเคล็ดลับอะไรแฝง มันจึงบิดเบี้ยวเช่นนี้”
เจ้าชีเปลือยนอนคิดสาระตะ มาถึงขั้นนี้แล้วมันต้องมีหนทางบ้างซืน่า
“ดูท่าว่าข้าควรจะอยู่เสวยสุขที่นี้ไปตลอดก็ดีเหมือนกัน หาจังหวะเหมาะจับพวกนางสนม กำนัล เล่น มา จ๊ะ ฉึก ฉึก ทีละคนสองคนให้หมดวังก็ไม่เลวเหมือนกัน”
เจ้าชีเปลือยหวนคิดถึงตรงนี้ พลอยคิดไปถึงนางกำนัลที่หมายตาไว้หลายคน
“แม่ละเอียดก็แจ่ม อวบน่าฟัด ดูหยิ่งๆ ต้องโดนข้า จ๊ะ ฉึก ฉีก ก่อนใคร แถมอยู่ใกล้ๆนี้เอง”
ชีเปลือยคิดแล้วกระสันต์
“เดี๋ยวรอดึกอีกสักนิด ข้าจะใช้คาถากำบังกายออกไปหาไม่ให้ใครรู้”
ชีเปลือยคิดแล้วก็หัวเราะเอิ้กอ้าก ชอบใจอยู่คนเดียว
ดึกสงัดคืนนั้น ขณะที่ทหารทั้งสองกำลังเคลิ้มหลับไป ก็ได้ยินเสียงประคูห้องเปิดออกมามีเสียงคล้ายไม้เท้ากระทบพื้น จึงต่างงัวเงียตื่นขึ้นมา พอลืมตามองต่างเห็นวัตถุคล้ายไม้เท้าลอยได้ กับสิ่งแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง จึงต่างเอามือขยี้ตาเพื่อดูให้แน่ใจ แล้วต่างคนก็ต่างร้องด้วยความตื่นตระหนก
“ เหวอ ผีกระจู๋”
“เฮ้ย ปีศาจหำหรือไง”
“โอม..นะจังงัง จ้า มา จ๊ะทิงจา”
พอสิ้นเสียงชีเปลือยร่านมนต์พร้อมกับชี้ไม้เท้ามายังทั้งสอง ต่างร้อง โอว มาได้หนึ่งคำต่างหยุดนิ่งปากอ้าตาค้างตรงนั้นไม่สามารถขยับไปไหนได้
“อีกแล้ว คาถาเจ้าสุดสาครนี้มันยังไงกันวะ นอกจากคาถาจ้า มา จ๊ะ ทิง จา ที่ใช้กับไม้เท้าแล้ว อย่างอื่นทำไมมันผิดเพี้ยนไปหมด”
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อชีเปลือยร่ายมนต์กำบังตัวแล้วร่างกายของชีเปลือยคล้ายโปร่งแสงมองทะลุผ่านไปได้หมดแล้ว แต่เพียงหำและไข่สองใบที่ยังคงอยู่เช่นเดิม เมื่อชีเปลือยเดินมาทั้งสองจึงเห็นหำกับไข่ของชีเปลือย จึงร้องว่าเป็นผีกระจู๋ หรือปีศาจหำ
ชีเปลือยจึงสั่งให้ทั้งคู่ไปนอนตามเดิม
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะ หากเดินไปคนก็ต้องพบเห๋นร่องรอยข้าอยู่ดี เอาวะเลยตามเลยลองเสี่ยงดู”
ชีเปลือยคิดแล้วฉวยผ้าดำขึ้นมาได้หนึ่งผืน เอาคลุมปิดบังค่อยเดินต่อไป พอเห็นทหารก็ยืนแอบข้างฝาโชคดีที่ทหารรักษาการณ์ไม่พบเห็น จึงพาตัวมาถึงห้องนางกำนัลละเอียดได้ตามต้องการ
“ถึงซะที ห้องนี้ไม่ผิดแน่ ข้าทำเครื่องหมายไว้ชัดเจน เอ แล้วคาถาสะเดาะห์กลอนมันว่าไงวะ”
ชีเปลือยหยุดคิดเอามือดันประตูห้องดู
“โวว พลั๊ก โครม โอ๊ย”
เสียงทั้งหมดเกิดขึ้นแทบพร้อมกันด้วยชีเปลือยไม่ทันระวัง พอเอามือดันประตูปรากฎว่านางกำนัลละเอียดกลับไม่ได้ลงดานประตูไว้ มันจึงเปิดออกตามแรงผลักของชีเปลือย ทำให้มันสดุดธรณีประตู หัวทิ่มลงไปบนพิ้นในห้องกลิ้งไม่เป็นท่า
นางกำนัลละเอียดจึงสดุ้งตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นไปดูเห็นประตูห้องเปิดออก กับมีไม้เท้าลอยขึ้นมา พร้อมกับสิ่งน่าเกลียดน่ากลัวคือท่อนกระดอกับพวงกระโปรงสองใบ
“โอม..นะจังงัง จ้า มา จ๊ะ ทิง จา”
ยังไม่ทันจะกรีดร้อง ชีเปลือยก็รีบร่ายคาถานะจังงังทำให้นางกำนัลคนสวยต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ทันที
“โอ๊ย เจ็บ ถึงจะทุลักทุเลหน่อย แต่ก็สำเร็จ ฮ่า ฮ่า แม่ละเอียดคนสวย ไปเล่น มา จ๊ะ ฉึก ฉึก กับข้าบนเตียงดีกว่า”
ชีเปลือยว่าแล้วจึงหันไปปิดประตูลงกลอน ให้ละเอียดขึ้นไปนอนแก้ผ้าบนเตียงกับมัน
 
รุ่งขึ้นชีเปลือยตื่นขึ้นมาอย่างสดใสยิ่งพร้อมกับได้ความคิดใหม่ขึ้นมาอีก
ส่วนทางด้านสุดสาคร หลังจากสลบไปได้ 3 วัน ในวันนี้จึงรู้สึกฟื้นตัวตื่นขึ้นมา จึงสำรวจตัวเองพบว่ามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อยู่ในปล่องภูเขาที่ทั้งสูงชันยากที่จะปีนป่ายขึ้นไป ได้ยินเสียงม้านิลมังกรร้องฮี่ฮี่ อยู่ด้านด้านบนจึงดีใจร้องไปว่า
“พี่ม้า พี่ม้า น้องสุดสาครอยู่นี้”
ได้ยินเสียงม้านิลมังกรวิ่งกุบกับรอบปล่อง เอาเท้าตะกรุยพื้นส่งเสียงฮี่ฮี่ อย่างดีใจเป็นการส่งสัญญาณให้สุดสาครได้รู้เช่นกันว่ามันรู้แล้ว
“พี่ม้า ข้าถูกคนร้ายผลักตกลงมาในนี้แต่ไม่มีอันตรายใด เพียงแต่มันสูงชันยิ่งข้ามิอาจปีนป่ายขึ้นไปได้”
สุดสาครร้องบอกม้านิลมังกรซึ่งเตะก้อนหินเล็กๆลงไปพร้อมกับส่งเรียกร้องบอกเพื่อแสดงว่ามันเข้าใจที่สุดสาครพูด ม้านิลมังกรเป็นม้าแสนรู้อยู่กับสุดสาครด้วยรู้ใจกันประหนึ่งพี่น้อง
“พี่ม้า ช่วยกลับไปยังเกาะแก้วพิสดารแล้วพาท่านฤาษีหลวงตามาช่วยข้าด้วยเถอะ พี่เข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหม ช่วยเตะหินก้อนเล็กๆ เหมือนเมื่อกี้มาให้ข้าดูทีหากพี่เข้าใจทุกคำที่ข้าพูด”
ม้านิลมังกรจึงทำตามที่สุดสาครบอก พร้อมส่งเสียงร้อง ฮี่ ฮี่ เป็นการรับรู้
“พี่ม้า จงรีบไปเถอะ ข้าจะคอยอยู่ตรงนี้”
ม้านิลมังกรร้อง ฮี่ ฮี่ รับคำอีกหน ก่อนวิ่งทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว
สุดสาครผู้น่าสงสารต้องสอื้นร้องไห้ ด้วยคิดถึงแม่และหลวงตา เจ็บตัวไม่เท่าไร แต่เจ็บใจมากกว่าที่ถูกคนร้ายหลอกลวง
ม้านิลมังกรจะเข้าใจและไปพากลวงตามาฃ่วยสุดสาครได้หรือไม่
ชีเปลือยจะมีแผนการทำให้วังต้องปั่นป่วนอะไรอีก
ระหว่างว่าจะให้ม้านิลมังกรไปตามหลวงตากลับมาช่วยสุดสาครได้โดยเร็ว หรือจะให้ชีเปลือยอยู่ปั่นป่วนวังได้นานๆ ต่อไป จะเลือกเชียร์ใครดีนะ
ขอซ่อนเนื้อหาสักตอน
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน