กระบี่เย้ยยุทธจักรภาคแปลงใต้แผงหนังสือ by wattana2015แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
กระบี่เย้ยยุทธจักรภาคแปลงใต้แผงหนังสือ ตอนที่ 12 เค๊กเอี้ยง-ยิ่มอิ๋งอิ่งคืนดี ตอนนี้มีบทเข้าพระเข้านางระหว่างยิ่มอิ๋งอิ๋งกับเค๊กเอี้ยงด้วย ตอนก็ยาวขึ้นกว่าทุกตอนที่ผ่านมานะครับ ติดตามอ่านกันได้ บทเสียวก็ซ่อนข้อความอยู่ใครอยากอ่านก็คอมเม้นต์เนื้อหานะครับ ^_^ความเดิม“บ้าที่สุด ไอ้แก่นั่นมันกล้าหลอกข้า กลับไปข้าจะแล่เนื้อพวกมันให้เป็นชิ้นๆทีเดียว เอ้า พวกเจ้าจงรื้อค้นให้ทั่วทั้งสำนัก เอาให้หมดทุกซอกทุกมุม คัมภีร์ไม่อยู่กับพวกมันก็ต้องอยู่ในสำนักนี้แหละ...เอ้าค้นเข้าไป”
ท่ามกลางความวุ่นวายน่าสงสัยที่เห็นอื้อชางไห่และลูกศิษย์พากันรื้อค้นทรัพย์สินให้ควัก งักเล็กซังและเหลาเต๊อะนู่ได้แต่มองการกระทำด้วยความแปลกใจ...“คนในสำนักก็หนีหายไปกันจนหมดแล้ว ตาเฒ่าอื้อชางไห่กลับมาค้นหาอะไรกันอีกนะ น่าแปลกจริง”
“คอยดูอยู่ที่นี่แหละ อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยดีกว่า”
ไม่ได้ก็ข้าสงสัยนี่นาพี่รอง ว่าตาแก่นั่นจะมาค้นหาทรัพย์สินอะไรอีก หรือว่ายังมีของมีค่าซ่อนงำอยู่ข้าต้องรู้ให้ได้”
“อย่าน่าน้องเล็ก เดี๋ยวก็มีปัญหาไปถึงอาจารย์หรอก”
“เอาอย่างนี้ท่านคอยข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะตามเข้าไปดูว่าตาแก่นี่จะมีของเล่นอะไรอีก”
“น้องเล็ก มันเสี่ยงนะ ตาเฒ่าอื้อชางไห่นี่ฆ่าคนไม่เคยสนใจใครเลยเจ้าก็รู้”
“เหอะน่า เชื่อมือข้าเถอะ ข้าจะระวังตัวไว้อย่างดีเลย”
แล้วศิษย์น้องหัวดื้องักเล็กซังก็ไม่ฟังคำทัดทานของศิษย์พี่รองตามอื้อชางไห่เข้าไปในสำนักคุ้มภัยจนได้ และแล้วก็เป็นไปดังที่ศิษย์พี่รองของนางคาดเอาไว้ บังเอิญอื้อชางไห่ย้อนกลับมาพบนางเข้าและเขาก็เกือบจะกำจัดนางที่เข้ามาวุ่นวายอยู่แล้ว ดีที่เจ้าสำนักหัวซานงักปุ๊กคุ้งและฮูหยินตามมาเจอเหตุการณ์เสียก่อน
“ท่านอื้อแห่งสำนักชิงเฉินนั่นเอง ยั้งมือไว้ไมตรีเสียก่อนบุตรสาวข้าคงไม่ได้ไปรบกวนอะไรท่านกระมัง”
“ท่านพ่อ เขาจะฆ่าข้าแล้วค่ะข่วยข้าด้วย”
“เราถือว่าเป็นคนกันเอง ลูกสาวข้าทำอะไรล่วงเกินท่านหรือถึงต้องลงมือหนักถึงเพียงนี้”
“อ้อเป็นแม่นางน้อยจากสำนักหัวซานหรอกรึเนี่ย ก็นางเข้ามาลับๆล่อๆพฤติกรรมเยี่ยงโจร ใครมันจะรู้ล่ะว่าเจ้าจะมาดีหรือมาร้าย ใช่หรือไม่เล่า”
งักเล็กซังถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรก็มองหน้าอื้อชางไห่อย่างโมโห แล้วกล่าวตอบโต้อื้อชางไห่กลับไปด้วยความไม่พอใจ
“หนอย ตาแก่นี่สำนักนี้ก็ไม่ใช่ของท่าน ข้าจะมาจะไปมันก็เรื่องของข้า ทีท่านยังเข้ามาได้แล้วทำไมข้าจะเข้ามาบ้างไม่ได้ล่ะฮึ ว่ายังไง”
“หนอย นี่เจ้า” อื้อชางไห่โมโหจนหน้าเขียวแต่ก็เถียงไม่ออก
งักฮูหยินเห็นว่าไม่ได้การจึงแกล้งทำเป็นถามงักเล็กซังเรื่องของสำนักคุ้มภัยแทน
“เล็กซัง หัวหน้าลิ้มอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ท่านแม่ ตาแก่นี่เขาจับหัวหน้าลิ้มไว้ค่ะ ไม่แค่จับครอบครัวของหัวหน้าลิ้มเท่านั้น เขายังบ้าฆ่าคนในสำนักคุ้มภัยไปร่วม 20 กว่าคนเลย เขาเป็นโรคจิตช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก”
“หึ่ม ก็พวกมันบังอาจฆ่าลูกชายของข้าก่อน ข้าเพียงล้างแค้นให้เขาเท่านั้น มันผิดด้วยรึไง”
“ท่านอื้อท่านก็ฆ่าคนในสำนักคุ้มภัยไปตั้งมากมาย ถ้ายังไงละก็เราเองต่างก็เป็นชาวยุทธ์เหมือนกัน ไม่ควรเข่นฆ่าคนมากมายเช่นนี้ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรท่านจะละเว้นไว้สักคราได้รึไม่”
“เดี๋ยว ท่านงัก ช้าก่อน เรื่องบาดหมางระหว่างข้ากับสำนักคุ้มภัยไม่เกี่ยวกับท่าน ข้าเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชิงเฉินและหัวซานจึงขอเตือนท่านว่าอย่าแส่เข้ามาจะดีกว่า อย่าให้เรื่องนี้มาพลอยเสียใมตรีไป เอาล่ะ พวกเรากลับ”
อื้อชางไห่เร่งรีบพาลูกน้องกลับไป ครู่ใหญ่งักปุ๊กคุ้งก็หันมาตำหนิลูกสาวเรื่องที่พาตัวไปขัดแย้งเป็นปัญหากับอิ้อชางไห่สำนักชิงเฉิน
“เล็กซัง ข้าสั่งเจ้าไว้ว่ายังไงจำไม่ได้รึหา สั่งให้พวกเจ้าคอยติดตามดูไว้ อย่าได้หาเรื่องปะทะกับคนของชิงเฉินนี่นา แล้วยังไงไปมีปัญหากับอื้อชางไห่เชียวนะ พวกเจ้าไม่รู้รึยังไงอื้อชางไห่ใช้แค่นิ้วเดียวก็สามารถทำให้พวกเจ้ากระดูกแหลกเหลวได้แล้ว เหลาเต๊อะนู่ข้าหลงนึกว่าเจ้านั้นเป็นคนสุขุมรอบคอบถึงให้เล็กซังตามมาด้วย เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวังนักรู้ตัวไหม”
“ท่านพ่อขา อย่าว่าศิษย์พี่รองอีกเลยเพราะข้านั้นไม่ดีเอง ไม่เชื่อฟังคำทัดทานของเขาทำอะไรหุนหันพลันแล่น ข้าไม่พอใจวิธีการสกปรกของอื้อชางไห่ ก็เลยบังคับพี่รองขัดคำสั่งของท่านด้วย”
“อ้อ เจ้านี่มันช่างไม่เจียมตัวซะบ้างเลย ถ้าข้ามาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น”
งักปุ๊กคุ้งตำหนิศิษย์พี่รอง งักเล็กซังเห็นว่านางเป็นต้นเหตุและความสงสารเขาจึงแก้ตัวแทนเขา
“ท่านพ่อคะ ท่านเคยสอนศิษย์พี่ใหญ่เสมอว่า ลูกผู้ชายต้องทำในสิ่งที่ควรกระทำ พวกสำนักคุ้มภัยฟุเวยน่าสงสารออกถึงเราเอาชีวิตให้เข้าแลกช่วยเหลือเขาบ้างก็ถูกแล้วนี้ อีกอย่างลิ้มเพ้งจือก็หนีรอดไปได้แล้ว เราก็ถือว่าช่วยเขาสำเร็จแล้วจริงมั้ยคะ”
“อ้อ ช่างคิดนักนะ พวกเจ้าเอาชีวิตรอดกลับมาได้เพราะโชคช่วยหรอกนะ ถ้าข้ามาช้ากว่านี้หน่อย เจ้าจะยังอยู่ได้ถึงปานนี้หรือ ยังมีหน้ามาทำเก่งอีกเจ้านี่”
งักฮูหยินถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วกล่าวตัดบทกับงักปุ๊กคุ้งผู้สามี
“ท่านพี่คะ แต่พวกชิงเฉินเองก็เหลือเกิน ปากพร่ำบอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายธรรมะ แต่กลับกล้าทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้ได้ คิดแล้วมันน่าแค้นใจนัก ท่านพี่คะเราต้องหาวิธีช่วยลิ้มเจิ้นหนันกับฮูหยินด้วยค่ะ”
“ข้าคงมาช้าเกินไป ไม่อาจยับยั้งวิกฤติของสกุลลิ้มได้ทัน จนเกิดการล้มตายมากมายเช่นนี้ เฮ้อ”
“ช่างเถอะค่ะ สวรรค์คงลิขิตเอาไว้ อาจเป็นเคราะห์กรรมของพวกเขา ท่านก็อย่าตำหนิตัวเองให้มากเลยค่ะ”
“เอ่อ ท่านอาจารย์ครับข้าเห็นอื้อชางไห่รื้อค้นหาอะไรบางอย่างในสำนักฟุเวยโดยไม่แตะต้องทรัพย์สินมีค่าเลย ท่านคิดว่าพวกเขาค้นหาสิ่งใดกันหรือครับอาจารย์” เหลาเต๊อะนู่ถามขึ้นเพราะเป็นสิ่งที่น่าสงสัย
“อืม ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก้อ คิดว่าพวกเขาคงมาค้นหาคัมภีร์กระบี่ปราบมารของสกุลลิ้มนั่นแหละ”
“ท่านพ่อเห็นศิษย์พี่ใหญ่เคยบอกว่า เขาเคยเห็นศิษย์สำนักชิงเฉินฝึกปรือเพลงกระบี่ปราบมารมิใช่หรือคะ ในเมื่อเขารู้จักวิชานี้แล้วทำไมยังต้องค้นหาคัมภีร์อีกล่ะคะ”
“ในสมัยก่อนลิ้มเอี้ยงหู้เคยใช้เพลงกระบี่ปราบมารเอาชนะฉางชิงจื่ออาจารย์ของอื้อชางไห่ แสดงว่าเคล็ดวิขานี้ต้องมีจุดเด่น แม้นฉางชิงจื่อใช้ความทรงจำถ่ายทอดเพลงกระบี่ออกมากลับไม่มีพิษสง แต่วรยุทธ์ของพ่อลูกสกุลลิ้มกลับไม่เอาไหน ข้าว่าคงมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว”
“อ้อท่านพี่คะ หรือว่าคัมภีร์เพลงกระบี่ปราบมารชุดนี้อาจซ่อนเคล็ดวิชาบางอย่างเอาไว้ แต่ลิ้มเจิ้นหนันกลับยังไม่บรรลุถึงมันคะ”
ที่พรรคตะวันจันทราสาขาเสือขาว ผู้เฒ่าไผ่เขียวสั่งชำระความหวงไป๋ตังที่ขัดคำสั่งซ่างกวนหยุนหัวหน้าสาขาเสือขาวปล่อยตัวครอบครัวหลางเจี้ยผิง ตามกฎของพรรคต้องนาบด้วยไฟ แต่ยิ่นอิ๋งอิ๋งขัดไว้
“เฒ่าไผ้เขียวท่านอย่าใช้กำลังส่งเดชกับพี่น้องในพรรคเราได้ไหม ท่านไปบอกซ่างกวนหยุนก็แล้วกันว่าให้จับหวงไป่ตังไปขังเอาไว้ก่อน แล้วข้าจะสอบความให้เอง”
“แต่ ธิดาเทพครับ เดือนที่ผ่านมาท่านสะสางคดีของสาขาเสือขาวไปหลายคดี ข้าเกรงว่าซ่างกวนหยุนอาจไม่พอใจก็ได้”
“ถ้าเขาไม่พอใจให้มาพบข้าเอง”
“อ้อ...ใช่แล้ว จริงสินะ ข้าลืมไปว่าธิดาเทพถือป้ายคำสั่งของประมุขอยู่ในมือ ก็ต้องไม่มีใครกล้าขัดท่านอยู่แล้ว ครับข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง”
“ถึงไม่มีป้ายคำสั่ง ข้าก็ไม่กลัวใครหรอก กฎเป็นของตายแต่คนมีชีวิต จะให้ถือกฎแต่ลูกน้องตาย แล้วลูกน้องจะเลื่อมใสพรรคเราได้ยังไงถ้าเราใช้กำลังตัดสินปัญหาอย่างเดียว”
“ครับ ธิดาเทพผู้น้อยจะจำไว้ ท่านเฉลียวฉลาดแบบนี้ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก”
“ไม่ต้องมาชมข้ามากนัก เพราะข้าไม่ใช่ท่านอาตงฟางนี่” นางตอบเฒ่าไผ่เขียวยิ้มๆ
หลานฟ่งหวงกลับเข้ามาสาขาเสือขาวพอดี ผู้เฒ่าไผ่เขียวจึงนำนางเข้ามาพบธิดาเทพ ยิ่นอิ๋งอิ๋งมองไปที่หลานฟ่งหวงและสอบถามนาง
“เกิดเหตุอะไรขึ้นกับท่านเค๊กเอี้ยงหรือปล่าว”
“เปล่าค่ะธิดาเทพ ท่านเค๊กเอี้ยงแค่เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นแต่ไม่มีสิ่งใดเป็นอันตราย ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะข้าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”
“เรื่องอะไรกันหรือ ฟ่งหวงบอกมา”
“เจ้าสำนักหัวซานงักปุ๊กคุ้ง ไปเป็นแขกอยู่ที่บ้านท่านหลิว เขาไปพบท่านเค๊กเอี้ยงเขาเลยพยายามจะสังหาร สุดท้ายเขากับท่านหลิวเลยประมือกัน ส่วนข้าก็นำท่านเค๊กเอี้ยงหนีออกมาเรื่องเลยจบลงด้วยดี แต่ว่าท่านเค๊กเอี้ยงไม่อยากรบกวนท่านหลิวอีก ต้องการแก้ปัญหาเลยย้ายไปพักที่ตำหนักห้าเซียนของข้าแทน”
“อ้าว แล้วทำไมเจ้าไม่อยู่คุ้มครองท่านเค๊กเล่า จะส่งข่าวก็ให้ลูกน้องมาแจ้งข่าวเอาก็ได้ ไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเองเลยนี่”
“ท่านปู่ ข้าก็ไม่ได้อยากมาเองหรอก แต่ท่านเค๊กบอกมีเรื่องสำคัญเกี่ยวถึงชีวิตคนผู้มีคุณของท่าน เลยให้ข้ามาด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ผิดพลาด แถมยังบอกว่าในพรรคห้าเซียน ข้าเป็นคนเก่งและลาดที่สุดแล้วก็เลยใช้ข้ามา อ้อ ใช่แล้ว ธิดาเทพคะท่านเค๊กบอกว่า เขามีเรื่องสำคัญอยากให้ท่านช่วยเหลือ”
“มีอะไรก็ว่ามา”
ยิ่มอิ๋งอิ๋งถามเมื่อได้ความก็รีบเดินกลับมาพร้อมกับหมอเพื่อทำการรักษาเค๊กเอื้ยงในทันที แต่เมื่อกลับมาถึงที่พรรคห้าเซียนของหลานฟ่งหวง เค๊กเอี้ยงกลับให้หมอรีบทำการรักษาอาการบาดเจ็บของเล่งฮู้ชงผู้มีพระตุณของเขาแทน เล่งฮู้ชงที่แม่ชีน้อยอี้ลิ้มนึกว่าเสียชีวิตแล้วที่แท้เขาแค่บาดเจ็บอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน พอได้เค๊กเอี้ยงและหลานฟ่งหวงช่วยเอาไว้แต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายเช่นกัน ยิ่มอิ๋งอิ๋งจึงรีบให้หมอเพ้งรีบทำการรักษาเขาอย่างเร่งด่วน
“หมอเพ้งเป็นยังไงบ้าง ช่วยเขาได้ไหม”
“เรียนธิดาเทพ เล่งฮู้ชงนั้นได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสไม่น้อยทีเดียว ยาเชื่อมกระดูกของข้าแม้จะเป็นตัวยาวิเศษ แต่การรักษานั้นย่อมต้องใช้เวลาบ้าง แต่ท่านไม่ต้องห่วงอันใด แค่ใส่บาดแผลไม่นานเลือดคั่งภายในก็จะหยุดไหล และกินยาดีหมีอีก 3 เม็ดเขาก็พ้นขีดอันตรายแล้วท่านอย่าห่วงไปเลย”
ขณะนั้นเล่งฮู้ชงมีอาการกระตุกเกิดขึ้น เค๊กเอี้ยงมองอย่างเป็นห่วงและรีบถามหมอเพ้งทันที
“อ๊ะ ร่างเขากระตุกแล้วท่านหมอเพ้ง เกิดอะไรขึ้นกับเขารึปล่าว”
“ท่านเค๊กอย่าห่วงไปเลย ยาเชื่อมกระดูกกับดีหมีแม้เป็นยาดีรักษาโรคได้ผล แต่มันก็เป็นยาแรงโดยเฉพาะดีหมีนั้นต้องสามราตรีถึงจะรู้สึกตัว”
“อ้อเป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าเข้าใจล่ะท่านหมอเพ้ง เอาล่ะข้าไม่รบกวนท่านแล้วตามสบายเถอะ”
เค้กเอี้ยงฟังแล้วก็รู้สึกหายห่วงเรื่องเล่งฮู้ชงไป ยิ่มอิ๋งอิ๋งสั่งให้หลานฟ่งหวงจัดห้องพักอย่างดีและอำนวยความสะดวกในการรักษาเขาทุกอย่าง ส่วนผู้เฒ่าไผ่เขียวปู่ของหลานฟ่งหวงก็แยกไปพักห้องของตนเอง เค๊กเอี้ยงก่อนจะออกไปยังห้องพักของตนได้ขอบคุณยิ่มอิ๋งอิ๋งที่ให้ความช่วยเหลือเล่งฮู้ชงตามที่เขาขอร้อง
“ท่านพี่ท่านไม่ต้องห่วงไปหรอก ข้าผิดต่อท่านมากแล้ว เขาเป็นผู้มีพระคุณของท่านข้าย่อมต้องช่วยเขาแน่นอน ท่านไม่ต้องขอบคุณหรอก ท่านคงเหนื่อยแล้วไปพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะดูแลเขาให้ท่านเองสักครู่เดี๋ยวข้าจะตามไป รอข้าด้วยข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน นานแล้วที่เราไม่ได้พบเจอกัน”
“ก็ได้น้องหญิง แล้วแต่เจ้าเถอะ เดี๋ยวข้าจะออกไปพักผ่อนรอที่ห้องพักข้างนอกก็แล้วกัน”
“ค่ะ ท่านพี่” ยิ่มอิ๋งอิ๋งรับคำสามีของนาง
ขณะที่นางนั่งเฝ้าดูแลอาการของเล่งฮู้ชงผู้มีคุณของเค๊กเอี้ยงผู้สามี เล่งฮู้ชงก็เพ้อถึงศิษย์น้องเล็กหรืองักเล้งชังออกมา
“น้องเล็ก เจ้าอย่าเพิ่งไป อย่าทิ้งข้าไปนะ น้องเล็ก”
นางได้แต่มองด้วยความเวทนาสงสารเขาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ที่จริงนางนั้นแอบมองว่าที่จริงเขานั้นก็เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีทั้งยังมีคุณกับสามีของนางจนนางเกิดเป็นความรู้สึกดีๆกับเขาขึ้นมา เมื่อได้ยินเขาละเมอถึงกับอิจฉานางที่เขาเพ้อถึงโดยไม่รู้ตัว
“โง่จริง เล่งฮู้ชงท่านน่าจะฝึกวรยุทธ์ให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นท่านมีกี่ชีวิตก็เป็นผู้กล้าไม่ได้หรอก”
นางได้พึมพำกับเล่งฮู้ชงที่นอนหมดสติด้วยความเวทนาสงสาร สักครู่นางก็ออกมาสั่งการให้หลานฟ่งหวงจัดคนเข้าไปดูแลอาการเขาและให้รีบนำเขาออกไปจากสำนักห้าเซียนอย่างเร่งด่วน หลานฟ่งหวงรับปากว่านางจะจัดการตามคำสั่งให้เอง เฒ่าไผ่เขียวคอยรายงานตามที่ได้รับคำสั่งการจากนางไปถึงสถานการณ์โดยรอบให้เขาดูแลความปลอดภัยของเค๊กเอี้ยง
 
ทั้งคู่ต่างโหมกระหน่ำร่วมรักกันอย่างสุขสันต์ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ราตรีนี้ยังนับว่ายาวนานแต่สำหรับคนทั้งคู่แล้ว ย่อมที่จะร่วมรักกันต่อไปด้วยความคิดถึงที่ได้พลัดพรากจากกันมาแสนนาน การพลัดพรากจากผู้ที่ตนรักนั้นย่อมเป็นความทุกข์ที่สุดในโลกใบนี้
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน