OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน | two-hitchhikers.ru

OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน

  • 95 ตอบ
  • 6106 อ่าน
*

ออฟไลน์ cd13579

  • Global Moderator
  • *****
  • 1703
  • 1084
  • ชายผู้มีโครงการเต็มหัว แต่ไม่มีปัญญาเขียน
    • ดูรายละเอียด
OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 03:29:07 am »
แวะป้ายก่อนครับ
ขออภัยที่ห่างหายไปนาน ที่เรื่องนี้หายไปนานก็เพราะตอนนี้เป็นอะไรที่วางแผนผิดพลาด ซึ่งเกิดจากไอเดียจากพล็อตแล้วเขียนออกมาแล้วมันไม่ดีเท่าควรด้วยเหตุหลายๆประการ ด้วยเหตุผลข้างต้นแล้วจากตอนทดสอบจาก3จะเหลือแค่2 แถมตอนพิเศษที่ว่าจะพร้อมพร้อมกันก็ยังไม่ได้คลอดซักที เลยขอติดไว้ก่อน (ติดไว้กี่ตอนละเนี่ย?)
แต่ส่วนที่หายไปจะกลับมาสอดแทรกในตอนอื่นๆแทน

มาเรื่องดีบ้าง ตอน 16 17 เสร็จ(นาน)แล้ว อยากอ่านก็ขอเม้นต์ดีๆไม่ต้องอวยก็ได้ติในจุดที่ผิดพลาดก็ได้ แต่ไอ้ตอบส่งๆนี่ขอเถอะ ถือว่าบอกกล่าวแล้วนะ คุณแว่นมาปลิวไม่ช่วยนะ

อ้อ 7sin ในส่วนของผม 7/10ละ ตอน4 ลงได้ลงในเร็วๆนี้ แฟนๆนายสิงห์กับหมอฟางก็เตรียมเฮ
และช่วงนี่จนถึงกลาง ก.ค. โครตจะวุ่นวายเลยครับ อย่าหวังอะไรจากผมเยอะ วุ่นจนอยากเททิ้งมันเหนื่อยใจเหลือเกิน เอาเถอะ ยังไงก็ขอให้สนุกกับเรื่องอของผม (ผ่านช่วงนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงพีคของเรื่องละ)


ขอให้ทุกท่าน Enjoy  ::Falling::

ตอนที่15 ฝ่าฟัน
 
คุณจะรู้สึกยังไงเมื่อคุณตื่นมาแล้วถูกมัดอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้วยเชือกเส้นใหญ่ในป่าที่ไหนก็ไม่รู้แถมมือถือเป๋าตังค์อะไรต่อมิอะไรก็ไม่มีติดตัว
เหลือแค่เสื้อผ้าเปล่าๆหนึ่งชุดเท่านั้น
 
ดนัย: “เอางี้เลย เล่นแรงกันจริงๆวุ้ยแถวนี้”
ก่อนเขาจะลองขยับตัวหาวิธีออกจากพันธนาการ แต่ขณะกำลังดิ้นดุกดิกอยู่บนกิ่งไม้
 
“ ตื้ดดดๆ ถึงผู้เข้าสมัครทุกท่าน เราขอแสดงความยินดีที่ท่านมาถึงด่านสองของการคัดเลือก อุปกรณ์ที่กำลังถ่ายทอดอยู่จะมีใบรหัสอยู่
ซึ่งพวกคุณต้องใช้ในการผ่านการทดสอบ ซึ่งพวกคุณจะต้องมาถึงจุดตรวจภายในพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนจุดตรวจคุณต้องหาจากเบาะแสที่เราทิ้งไว้ในป่า แล้วเจอกันเมื่อฝึกจบ”
 
ดนัยมองลำโพงตัวเล็กๆที่วางอยู่ที่โคนต้นไม้ก่อนจะถอนหายใจ
 
ดนัย: “ก่อนจะคิดหาทางไป กูควรหาทางลงก่อนดีกว่า”
เขาคิดไม่ถึงว่าจะโดนรมยาจนหลับแล้วเอามาปล่อยป่าแบบนี้ ไม่มีการเตรียมตัว ไม่มีอุปกรณ์ไม่มีคนช่วย ไม่มีห่าอะไรให้เว้นลำโพงโง่ๆตัวเดียว
 
ดนัยขยับข้อมือขึ้นๆลงๆอยู่ราวครึ่งชั่วโมง เชือกก็ขาดลงและดนัยที่ร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่เขาก็คว้ากิ่งไม้อื่นทันก่อนจะค่อยๆไต่ลงมา
 
ดนัยเริ่มสำรวจรอบๆ ก่อนจะเป่าปากเบาๆ
ดนัย: “นี้มันกลิ่นป่าลึกชัดๆ พาตูมาปล่อยในป่าสงวนแน่ๆ โอกาสหลงมีเยอะมากทำไงดีวะ”
 
ดนัยคาดคะแนว่าตนอยู่ลึกเกินจะเดินไปเจอชาวบ้านหรือถนนแน่นอน นาทีนี้มันวัดทักษะกันล้วนๆ นับว่าฟ้าดินยังเมตตาปรานี ดนัยเองก็เคยเดินป่ามาบ้างแม้จะไม่บ่อยแต่ก็คงจะพอทำอะไรได้บ้าง
 
เมื่อคิดคำนึงจบก็หยิบไอ้ลำโพงตัวเล็กขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นวิทยุประดิษเองที่ข้างใต้มีแผ่นกระดาษปะไว้
 
ดนัยเปิดออกพบว่าเป็นเลขกับอักษรสี่หลักผสมกันดูท่าจะเป็นพิกัดในแผนที่ ก่อนยัดทันใส่กางเกงและเริ่มออกเดินฝ่าพงหญ้าไป เขาจำได้ว่าตอนที่โดนมัดมันมีลานกว้างอยู่ไม่ห่างจากที่นี่
 
ก่อนจะสะดุ้งตากับป้ายทาสีคิดกับต้นไม้
 
เหนือไตรใต้อยู่เบญจ จงลองตรึกตรองดู ผู้ใดรู้จักได้รางวัล

ดนัย: “อะไรวะเนี่ย เบาะแสรางวัลหรือเขียนไว้กวนตีนเล่นๆ แต่ไหนๆก็ว่างอยู่แล้วซักหน่อยละกันวุ้ย”
ดนัยมองป้ายสีอย่างครุ่นคิด
ดนัย: (ไตรแปลว่าสาม เบญจแปลว่า5 35 นี้คนคิดจะใบ้หวยเหรอไงวะ)


ดนัยลองสำรวจแถวๆนั้นดูแต่หลังจากเดินไปเดินมารอบๆอย่างเสียเวลาเปล่าพักใหญ่ๆ เขาก็เลือกที่จะปล่อยผ่านเพราะจนปัญหาที่จะแก้ปริศนา แต่ระหว่างผ่านดงหญ้าเท้าดันไปเกี่ยวซากตอไม้จนเกือบหน้าทิ่มโชคดีที่มือของเขายังว่องไวพอ  แต่ตาของเขากลับไปสะดุดกับโคนต้นไม้แห่งหนึ่งพอดี เขารีบลุกขึ้นและวิ่งไปยังโคนต้นไม้ที่โคนแทบติดกับดินมีเลข 5 เขียนอยู่

ดนัย: “มึงจะเขียนต่ำๆให้ไส้เดือนอ่านไงวะ ก็ว่าหาต้องนานไม่เจอ แมร่ง ใต้ต้นที่แปะป้ายเลย”

เอาละเมื่อมันอยู่ใต้เบญจ(5) เราก็เราหาไตร(3)ให้เจอ เขาก็จะได้รางวัลที่ซ่อนไว้ แต่หาเครื่องหมายเลข 3 ตัวนิดๆในดงไม้ดงหญ้ามันก็ไม่ง่ายซะทีเดียว

แต่เขาคิดผิด พอผ่านบึ้งน้ำ มันก็เขียนใต้กับโขดหินกลางบึง เลขสามตัวเท่าจานข้าว
แต่ที่พีคกว่าคือมันเขียนกลับหัวนั้นแหละ

ดนัย: “ที่ว่าเหนือเลขสาม ถ้าเลขสามมันกลับหัวแบบนี้ก็ต้องดำน้ำสิวะ”
นั้นแหละไหนๆก็ขนาดนี้แล้ว ลงบึงกันอีกนิดจะเป็นไงไป หลังจากตัดสินใจเขาจัดแจงวางเสื้อผ้าและร้องเท้าไว้ใต้โขดหิน และตรวจดูว่ามันจะหาเจอยากไม่งั้นขึ้นละเสื้อผ้าหายไม่ตลกแน่ๆ

โชคดีเขาชอบกีฬาว่ายน้ำตั้งแต่เด็กแถมยังว่ายอยู่บ่อยๆ การลืมตาเปล่าใต้น้ำเลยโครตเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา โชคดีมันลึกราวๆสามเมตรถ้าลึก4เมตรลงไป ก็ต้องหน่วยประดาน้ำละจ๊ะ
 
ซึ่งมันก็มีลูกศรชี้ให้ชัดว่าของอยู่ตรงไหนด้วย เขาใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นจากบึงพร้อมกับห่อพลาสติกห่อกันน้ำอย่างดี
และแน่นอนว่าเขาอยากรู้ใจจะขาดว่าห่อขนาดคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊คจะมีอะไรให้เขาบ้าง

ซึ่งเขาก็พบเจอกับไฟแช็ก แค่ไฟแช็ก อันเดียว!!! ที่ห่อใหญ่ๆนี้พลาสติกล้วนๆเลยท่านผู้ชม
ไฟแช็กพลาสติกอันละ5บาทนี้ละครับรางวัลกับเวลาเกือบสองชั่วโมงที่เสียไป

ดนัย: “ป๊าเอ็งเถอะ!!! ใครมันคิดวะเนี่ยไอ้ปริศนาเหี้ยเนี่ย”

 ไอ้ผู้โชคดี(???) ในป่าก็กำลังจะโยนไอ้รางวัลเฮงซวยลงไปคืนในบึงแต่ก็พลันสะดุดใจ
เพราะไอ้ไฟแช็กที่ได้มามันมีรอยแกะสลักเล็กที่ก้นของมัน โชคดีที่เขาเป็นคนช่างสังเกตุพอ

หลังจากนั่งเพ่งอยู่นาน ก็มองออกว่าเป็นรูปลูกกุณแจ ถ้านี้มันลูกคุณแจ แล้วตัวแม่คุณแจไปไหนซะละ
ก่อนเขาจะมองลงไปในบึงอีกครั้ง
ดนัย: “ไหนๆก็โดนหลอกมาสองชั่วโมงแล้วโง่ลงไปดำน้ำอีกซักหน่อยก็คงไม่โง่กว่านี้แล้วมั้ง”

และเขาก็คาดไม่ผิด ในอีกฝั่งบึงในดงพืชน้ำจะไคร่หรือเรียกอะไรไม่รู้ มันยังเหลือของอีกห่อเขาไม่รีรอจะเอามันขึ้นมาดนัยรีบก้มลงเปิดมันออก พอแกะออกจนครบพบว่ามันเป็นกระเป๋า แต่กระเป่ามีตัวล็อกพลาสติก เขาเลยเอาไฟแช็กที่ได้เผามันอย่างระมัดระวัง และในที่สุดตัวล็อกก็หลุดเหลวออกไป


ดนัย: “ม่ามา2ห่อ กระติกเปล่าๆ เชือกขดเดียว อานี้แหละที่ต้องการแผนที่ ไม่หลงแล้วกู”
ดนัยรีบกางมันออก พบว่ามันทำสัญลักษณ์จุดหลายๆจุดไว้ด้วยแต่ประเด็นคือเขาไม่รู้ว่าอยู่จุดไหนของป่าอยู่ดี ก่อนจะออกเดินไปในดงไม้เผื่อจะเจอของที่มีประโยชน์เพิ่ม
 
ก่อนเขาจะได้ยืนเสียงแววมาเป็นเสียงคนร้องอย่างเจ็บปวด
ดรัยรีบไปในทิศทางของเสียง ก่อนจะพบผู้รับการคัดตัวคนหนึ่งคนกุมแข้งร้องโอดโอยอยู่
 
ดนัยรีบไปรอบๆก็ไม่เจออะไร ยกเว้นต้นไม้ที่มีเชือกห้อย คาดว่าคงจะพลาดตอนแกะเชือกออกจากต้นไม้ ดนัยรีบไปดูอาการบาดเจ็บให้ทันที
 
ดนัย: “เฮ้ๆ โอเคใช่มั้ย ขอผมดูแผลหน่อยนะ”
ดนัยเข้าไปสำรวจอาการเบื้องต้นทันที แต่ชายบาดเจ็บก็ชี้มือขึ้นบนต้นไม้ด้วยอาการตกใจ
 
ดนัยรีบหันไปมองตามนิ้ว แต่ก็พบกับ
ต้นไม้เปล่าๆ ก่อนรู้สึกถึงจิตมุ่งร้ายจากด้านหลังดนัยเหลือบไปมองก็เห็นผู้เข้าฝึกอีกคน ง้างหมัดมาที่ตน เขาสถบเบาๆก่อนจะรีบเอียงตัวหลบ
 
เสียงลมจากหมัดพัดผ่านหู โชคดีที่หลบทันไม่งั้นอาจเสียเปรียบ เพราะท่าทางงานนี้จะเหนื่อยไม่น้อย ดนัยรีบสวนโดยการเอนตัวลงส่งสันตีนกลับหลังดีดอัดท้องมัน แต่พริบตาที่ชายผู้มุ่งร้ายปลิวไปตามแรงถีบ เขาก็สัมผัสได้อีกภัยคุกคาม
 
จากคนที่นอนบาดเจ็บอยู่ใต้ตัวเขาเอง
 
มันกำทรายซัดใส่ใบหน้าเขาจังๆ ดนัยที่กำลังจะหนีจึงเสียจังหวะไป ซึ่งมันก็สบโอกาสพุ่งชนดนัยลงไปนอนกับพื้น
 
มันขึ้นไปนั่งบนตัวดนัยก่อนจะสาวหมัดใส่หน้าเขาซ้ำๆ ดนัยหลังจากโดนไปสามสี่ทีก็ได้สติยกแขนขึ้นป้องกัน แต่เขายังลืมตาไม่ได้และนั้นทำให้เขาเสียเปรียบมาก มันเองก็เร่งโหมหมัดใส่ข่วงชิงจังหวะนี้จัดการเขาให้อยู่หมัด
 
แต่ดนัยก็ไม่ได้เป็นหมูจะใครยำง่ายๆ
 
เขายกขาขึ้นเกี่ยวแขนที่ง้ากอยู่ดึงตัวมันเอนลงก่อนอาศัยแรงจากที่มันเสียหลักลุกขึ้นมาพลิกขึ้นมาแทน ก่อนจะยัดเปรี้ยงคืนไปที่ท้องมัน
 
ดนัยไม่คิดว่าในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังจะเจอคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นในรูปโจร นี้ขนาดเป็นการฝึกคนพวกนี้ยังไม่วายมาหาเรื่องเขาเลย นี้ถ้าคนพวกนี้ได้ทำหน้าที่เป็นตำรวจหน่วยเฉพาะกิจจริงๆ มันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่สิแค่ในชีวิตประจำตำรวจพวกนี้จะไปทำอะไรบ้างดีกว่า
 
ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะออมมือให้คนพวกนี้
เรื่องนี้ดนัยคงจะจัดการได้ หากแต่เขาลืมไปว่ามันมีอีกคน
 
ผัวะ ท่อนไม้ฟาดเข้าที่ศีรษะดนัยที่กำลังจะพลิกเกมกลับคืนมา น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เขาที่เสียเปรียบมาตั้งแต่แรกก็ต้องพลาดท่าเสียทีเป็นปกติยิ่งมีจำนวนน้อยกว่าแบบนี้
 
พอดนัยลงไปนอนมึน พวกมันก็รุมจัดงานประชุมตีนใส่ดนัยไม่ยั้งและใช้เชือกของเขามัดตัวเขาไว้ที่ต้นไม้ ดนัยบ้วนเลือดออกจากปากก่อนจะด่าพวกมัน
 
ดนัย: “ทำแบบนี้มึงไม่ละอายใจบ้างเลยไงวะ แย่งของปล้นกันเป็นโจรแบบนี้ แถมยังปล้นคนที่หวังดีมาช่วนเนี่ยนะ ต่อมสำนึกพิการตั้งแต่กำเนิดไงวะ”
ชาย1: “ก็มันเป็นการแข่งขัน การกำจัดคู่แข่งก็เป็นเรื่องปกติ นี้มันไม่ใช้งานการกุศลนะโวย อยากเสือกโง่เอง”
ชาย2: “สบายจริงโว๊ย อยู่ดีๆก็มีของใช้แบบไม่ต้องหา ไปก่อนนะ ไอ้โง่ คนอะไรควายจริงๆ”
 
ก่อนมันทั้งสองจะเดินจากไปทิ้งดนัยให้โดนมัดง่อยอยู่
 
ดนัยทั้งเจ็บตัวเจ็บใจ คนเราทำดีบางทีก็ไม่ได้ดีถ้าดันไปทำกับคนไม่ดี ทั้งแผนที่ทั้งกระเป๋าแถมมันก็ผูกเขาซะแน่นเลย ตอนนี้เขาหวังว่าจะมีใครผ่านมาและจะไม่สันดานเสียยอมช่วยเขาด้วย ไม่งั้นกว่าจะถึงเวลาที่พวกกรรมการคุมสอบจะออกหาเขาและกว่าจะพบมันต้องอีกหลายสิบชั่วโมงเลย
 
ซึ่งเขาจะไม่มายอมแพ้ตรงนี้
ดนัยตั้งใจแน่วแน่แล้วก็หลับตาสูดลมหายใจลึกๆก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีทำในสิ่งที่เขามั่นใจที่สุดนั้นคือ
 
“ช่วยด้วยจ้าาา เค้าโดนมันอยู่ตรงนี้จ้าาาาา!!!”
 
ตะโกนหาคนช่วย
 
ก็บอกอยู่ว่ามัดแน่นขนาดนี้หนีออกไปเองไม่ได้วุ้ย จะให้เปล่งพลังทำลายเชือกเหรอ
ตูไม่ใช่ชาวไชย่านะเฮ้ย
 
ด้วยเสียงตะโกน8หลอดส่งไปทั่วบริเวณหรือด้วยกรรม(ชั่ว)ที่กระทำมา แนวไม้ใกล้ๆก็มีเสียงซวบซาบเป็นสัญญานว่ากำลังมีคนกำลังมา
 
แต่พอดนัยเห็นหน้าคนที่โผล่ออกมารอยยิ้มที่แฉ่งอยู่ก็หายวับไป 
ดนัย: “ชะอุ่ย มาเป็นตัวเลยกูงานนี้มี ช้ำในตายแน่กู นี้ถ้าแกล้งตายจะทันมั่ยวะ”
 
 
 
“โว้ยยย ไอ้เชือกเวรนี่ก็เหนียวจังวะ”
ดนัยบ่นขึ้นหลังจากบองสารพัดวิธีที่จะหลุดออกมาจากเชือก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ผล
 
“ท่าทางจะต้องการความช่วยเหลือนะเรา”
เสียงดังขึ้นจากข้างๆต้นไม้ที่ดนัยโดนมัดอยู่
 
ดนัยหันไปหาช้าๆ แต่ในใจลอบตระหนกเพราะมีคนมาใกล้ๆถึงระยะขนาดว่าลอบปาดคอเขาได้
โดยที่เขาไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย


ชายนรินาม: “ไม่ต้องหน้าตาตื่นขนานั้น วิธีพรางร่องรอยมันมีหลายแบบ ว่าไงพ่อหนุ่มจะให้ช่วยอะไรมั้ย”
ดนัย: “คงงั้นครับ รบกวนพี่ตัดเชือกให้ด้วยครับ”
ดนัยลดความกังวลลงด้วยเหตุผลสามประการ
หนึ่งชายคนนี้ไม่จำเป็นต้องเข้ามาบริเวณนี้ ต่อให้บังเอิญเจอพี่แกก็เดินเลี่ยงออกมาก็ได้
 
สองผู้ชายตรงหน้าฝีมือสูงมากเท่าที่ประเมินน่าจะสู่สีกับผู้กองตัวยักษ์ที่ตนรู้จัก และถ้าเป็นแบบที่เขาคิดจริงต่อให้เขาไม่ได้โดนมัดก็ไม่ใช่คู่มวยของพี่แก ดีไม่ดีต่อให้เขากับอีคุณชายนกตะกี้ยังไม่มั่นใจว่าจะล้มได้ด้วยซ้ำ
 
สาม มันไม่เหตุผลอะไรที่พี่แกจะมุ่งร้ายต่อเขาและความรู้สึกมันไม่ได้ร้องบอกว่าคนตรงหน้าเป็นอันตรายต่อตน
 
ชายนิรนามตวัดมีดจากซองหั่นเชือกให้เขาก่อนจะเก็บไปอย่างรวดเร็ว ดนัยจึงได้อิสรภาพคืนมาอีกครั้ง
 
นายนิรนาม: “โดนมัดเพราะเป็นคนดีละสิ ทำดีไม่ได้ดี”
ดนัย: “แล้วพี่รู้ได้ไงว่าผมเจออะไรมา แล้วพี่ชื่อไรครับเนี่ย”
 
ท็อป: “ท็อป แล้วไม่ต้องสุภาพมากก็ได้มั้งมึง และที่กูรู้ก็เพราะโดนแบบมึงมาละ ดูอุปกรณ์เครื่องเดินป่ากูสิ”
ดนัย: “พวกมันคงจ้องกันตาเป็นมัน แล้วพี่รอดมาได้ไงครับ”
 
ท็อป: “ก็ไปช่วย โดนดักปล้นกี่คนก็ทืบมันให้หมอบแล้วก็ปล้นมันคืนไปๆมาๆ ของกูครบทุกอย่างแล้วเนี่ยบ้างอย่างมีซ้ำอีก”
ก่อนจะโยนมีดเดินป่าสั้นๆให้เล่มนึง
 
ดนัยกำลังตะอ้าปากถาม แต่ท็อปก็ชิงพูดขึ้นก่อน
ท็อป: “เอาไปใช้ ถือว่าเป็นรางวัลปลอบใจ แต่คนหลังจะช่วยใครอะไรยังไงก็ระวังด้วยนะน้องคนสมัยนี้ไว้ใจยาก ไปละว่าจะไปนั่งดิกตีนในเช็คพ้อยละ หาทางไปเองนะไปละ”
 
และชายผู้ใจดีก็เดินลิ่วหายไปในดงไม้
 
ดนัยถอนหายใจ ก่อนจะขักมีดในปลอกออกมาดู
ตัวมีดกว้างแค่ราวๆสองนิ้ว ความยาวเพียงคืบเท่านั้น ก่อนเขาจะออกเดินทางในป่าอีกครั้งแน่นอว่าด้วยความระวังตัวมากกว่าเดิม

สิ่งแรกที่เขาจะทำคือล่าพวกมัน ไอ้เวรสองตัวที่ไล่ปล้นเขาเมื่อครู่นี้ละเหยื่อรายแรก มันสองคนน่าจะต้องหาของเพิ่มหรือไม่ก็ต้องดักปล้นใครอีกแน่ๆเพราะของที่ได้จากพวกเขามันไม่พอสำหรับสองคนหรอก

แต่เขาแค่เดินป่าเป็น แต่ไม่เทพขนาดแกะรอยคนในป่าได้ หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่เขาก็ได้แต่สาปแช่งมันในใจแล้วก็เดินทางตามหาจุดนัดพบในป่าต่อไป หลังจากเดินสุ่มๆไปทั่วแน่ละไม่มีแผนที่หรือเข็มทิศก็ต้องเดนมั่วๆไป สวรรค์ก็ช่างเข้าเข้าคนดีๆแบบเขา

“โอยยยย ช่วยด้วย”
เสียงร้องแบบเดิมเสียงเดิมเลยก็ลอยเข้ามาในหูเขา แน่ละเขารีบวิ่งไปทางนั้นทันทีหลังจากวิ่งไปมาจากใหญ่ๆก็เปลี่ยนเป็นเดินย่องเบาๆเพราะใกล้ถึง เขาหาจุดเหมาะๆซุ่มดูพวกมัน

ดนัย: “ไอ้ห่าคนเดิมด้วยฉากเดิมชัดๆ แต่อย่าพึ่งเข้าไปดีกว่า”
เขาไม่โง่จะเข้าไปให้มันรู้ตัวแล้วรุมกระทืบเขารอบสองหรอกเขามองซ้ายมองขวาก่อนจะหาไอ้คนที่ถือไม้พบ ซุ่มอยู่ไม่ไกลตามที่คาดไว้ ไม่นานนักก็มีคนใจดีๆแบบเขามาช่วยมัน แต่โลกกลมแท้ๆเพราะได้คนที่มาช่วยคือน้องสมิงสุดแสนจะซื่อที่เคยพบที่สนามคัดตัวนี้เอง โถ่คนดีและใสซื่อจริงต่อคุณ


จะด่ามันเต็มปากก็ไม่ได้เพราะตะกี๊เขาเองก็โง่เหมือนมันนั้นแหละ

เขารออย่างใจเย็นพอไอ้คนที่ซุ่มเดินนอกไปปุ๊ปเขาก็ย่องออกไปข้างหลังมันอีกต่อ
พอมันง้างหมัดปุ๊ป เขาก็ถีบยัดไปที่ข้อเข่าก่อนจะบิดแขนจับมันล็อคกดไว้ที่พื้น

ดนัย: “เจ็บตัวบ่อยนะพวกมึงเนี่ย สมิงเอ็งกำลังโดนปล้นแล้ว”
พอเห็นเพื่อนตนโดนชิงเล่นงานอีกคนที่แกล้งคนเจ็บก็ลุกขึ้น และพุ่งใส่ดนัยทันทีแต่สมิงกลับยืนขาไปสกัดตอนมันกำลังวิ่งมันจึงสะดุดเสียหลักล้ม
สมิงและดนัยมองหน้ากันก่อนจะมองสองคนที่นอนอยู่ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น

ดนัยกับสมิงปัดฝุ่นที่มือเบาๆก่อนตรวจเช็คหลุมที่ขุดขึ้นมาอย่างยากลำบากมีแถวพลั้วมืออันนิดเดียวเลยเสียเวลามากกว่าที่คิด แน่นอนว่าพลั้วก็ยึดมาจากมันนั่นแหละ ก่อนหันไปมองโจรป่าทั้งสองที่เหลือหัวโผล่จากพื้นดินแถมปิดปากส่งเสียงอู้อี๊ๆ อยู่ดนัยแตะดินใส่หน้ามันคนละทีก่อนจะเดินออกมาพร้อมสมิง
 
ดนัย: “โลกกลมดีจริงๆ ว่าแต่เราจะไปกันต่อยังไง”
ดนัยมองฟ้าที่หม่นลงเวลาก็เหลือน้อยลงเต็มทีแต่เขายังไม่รู้ทางเลย
สมิง: “อ้าวพี่ผมก็นึกว่าพี่รู้ทางลัด ก็ว่าไหงมาทิศนี้วะ มาๆตามผมมาเลย”
ดนัย: “คนที่หลงทางทั้งๆที่มีป้ายเขียนบอกแบบมึงจะรู้ทางในป่า กูไม่โง่ขนาดนั้นนะสมิง”
 
สมิง: “ผมอยู่ต.ช.ด. พี่ลืมแล้วเหรออีกอย่างผมเป็นคนนอกเมืองชินกับป่าไม่ชินในเมือง ไม่เชื่อก็ตามใจ”
มันพูดจบก็หันหน้าเดินไปทันที ดนัยเองก็ถือคติเดิม
 
 ไหนๆก็หลงแล้วใครจะพาหลงก็ไม่ต่างกัน
 
แต่ทว่ามันพาไปที่หินชันสูงเกือบสี่เมตรแถมพูดหน้าตาเฉยว่า
สมิง: “ปีนขึ้นไปพี่แล้วเดินอีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว”
 
แล้วพอเขาไม่เชื่อมันก็ตอบแบบเดิม
สมิง: “ไม่เชื่อก็ตามใจนะครับ ผมไปละ”
ก่อนมันจะกระโดดเกาะหินแบบมือเปล่ายั้งกะในเกมส์ ผาสูงชันราว80องศามันโดดแปปๆก็ครึ่งทางแล้วท่าทางงกๆเงิ่นๆตอนเจอครั้งแรกไม่มีอีกแล้ว
 
ดนัย: “สงสัยจะเอาจริง ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปก็ไปวะ”
และเขาก็ปีนตามมันไปอย่างช้าๆและลำบากลำบน แต่พอมองสมิงมันกลับถึงปลายยอดแล้วมองดูเขาราวกับเขาเป็นตัวประหลาด
สมิง: “เร็วๆพี่จะหมดเวลาแล้ว เร่งหน่อย ทำไมปืนช้าจัง”
 
เขามีคำด่าเป็นร้อยเป็นพันในหัว แต่เขาไม่ปัญญาจะด่ามัน เก็บแรงไว้ปีนผาน่าจะดีกับเขามากกว่า เขามองลงไปก็คาดว่าถ้าพลาดไม่ตายก็พิการ แต่ปีนต่อก็ทรมานสังสารเหลือเกินเขาค่อยๆกระดืบขึ้นไปทีละนิดๆ
ดนัย: (กูต้องไม่ตกลงไป ไม่ร่วงๆ ถ้าเราตกลงไปเราจะตายแน่ ไม่ได้ๆมายด์นัดเราไว้แล้วเดือนหน้าวันเสาร์บ่ายสาม ไม่ๆเราไม่ได้มาตายเรามาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง)
 
พอแรงใจมาเขาก็ปีนขึ้นไปด้วยความเร็วที่มากขึ้น นิดเดียว! แต่ความพยายามย่อมให้ผลดีเสมอในที่สุดเขาก็ถึงยอด
 
สมิงที่นอนงีบเอาเอาแรงลืมตาขึ้นข้างตัวมีปล่องไผ่แกะสลักเป็นลายต่างๆว่างอยู่4-5ชิ้น
 
ดนัย: “กูเชื่อแล้วว่ามึงนี้คนป่าของจริง ปีนขึ้นมาได้ไงวะแปปเดียว”
สมิงยกเป้ขึ้นแล้วเดินนำต่อ
สมิง: “เร็วพี่ผมรอจนจะหลับแล้ว”
ดนัย: “มึงง่วงแต่กูเหนื่อย สัส! ไม่ให้กูพักเลยไอ้บ้าเอ่ย”
 
แต่เขาก็จำต่อวิ่งตามมันไป ถ้าไม่มีมันเขาก็ไปไม่ถูกแล้วแต่เขากลับสะดุดตากับไผ่แกะสลัก เขาหยิบขึ้นมาดูก่อนจะนึกได้ว่าต้องรีบไป
 
ดนัยจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวหลงป่าอีก
 
แต่ฟ้าช่างไม่เข้าข้างดนัย เมื่อข้างหน้ามีคนดักรอเขาอยู่ ไอ้โจรสองตัวเดิมยืนจังกาอยู่ทั้งที่ไกลลิบๆก็เห็นเต้นท์วางกางอยู่แล้ว เวลาก็ใกล้หมด
ดนัยเองก็หงุดหงิดมากแล้วพอมาเจอพวกมันอีกก็แทบเดินไปซัดหน้าแล้ว
แต่เขาเองก็ไม่อยากจะเสียเวลามากกว่านี้อีกแล้ว
 
ดนัย: “จะไม่ถามละกันว่ามาได้ไง แต่ต่างคนต่างไปไม่ดีกว่าเหรอ”
 
โจร1: “ปล้นพวกกูแล้วต่างคนต่างไปเหรอ ปล้นเขาแท้ๆไอ้หน้าด้าน ไม่ต้องมาพูดอะไรอีกแล้วลูกพี่กูไม่ปล่อยมึงไปแน่”
ราวกับมีม็อบราคายางพาราตกต่ำ พวกมันต่างฝุดออกมาล่อมพวกเขาไว้
 
สมิง: “ผมนับได้5 พี่ผมว่ามีอีกแน่”
ดนัย: “อีก3 หลบอยู่ตามโขดหินรอบๆ”
 
เขามองซ้ายมองขวาอย่างกังวลใจ
ลำพังตัวเขาเก็บได้ไม่เกินสามหรือสี่คนเท่านั้น แต่ถ้านับจากฝีมือของสมิงเท่าที่เคยเห็นก็รวมๆแล้วพวกเขารับมือได้ไม่เกิน7คนเท่านั้น แต่พอบอสมันเดินอกมาเขาก็ได้แต่กุมขมับแบบหมดหวัง
 
อินทรี: “นึกว่าใครไอ้สวะสองตัวนั้นเอง เกิดมาต่ำต้อยแล้วยังทำชั่วอีก วันนี้มึงไม่เน่าคาตีนเรียกกูว่านกเลย”
 
ดนัย: “เดี๋ยวๆ วางถุงกาวแล้วตั้งสติก่อนนะ มันอะปล้นกูก่อน กูอะผู้เสียหาย”
อินทรี: “แล้วทำไมกูเจอไอ้สองคนนี้ในสภาพ อืมม แบบว่าไม่น่าจะลงไปเองละวะ”
ดนัย: “มันก็ต้องล้างแค้นกันบ้าง โดนจับมัดไว้ต้องนานสองนาน”

อินทรี: “มึงอย่ามาโกหกสองคนนี้ลูกน้องเก่ากู มันไม่โกหกกูหรอก”


ดนัยก็ว่าอย่างไอ้บ้าข้างหน้านี่ มันก็จบเรื่องง่ายๆแบบนี้คงไม่ได้แน่
ดนัย: “ถ้าจะไม่เชื่อกันแต่แรกแล้วเอ็งจะมาถามกูทำหอกไรฟะ ยิ่งคอแห้งหิวน้ำอยู่สมิงพร้อมนะ”

ดนัยดัดมืออย่างมั่นใจ
ดนัย: “เอาละนะ 3 2 1! วิ่ง!!!”
ก่อนไอ้ดนัยและพุ่งไปข้างทางอย่างรวดเร็ว สมิงก็กำลังจะพุ่งใส่อินทรีรีบชะงักหยุดก่อนจะโกยตามดนัยไปทันที

สมิง: “อ้าวนึกว่าจะสู้ แล้วทีทำไมตอนหนีไอ้พี่มึงวิ่งเร็วจังวะ รอด้วย”
ดนัย: “มึงนับด้วยกี่ตีนไม่นับพ่อคุณชายนกอีก ชักช้าจมตีนนะเฮ้ยเร็วสิวะ”
ด้วยความรวดเร็วดุจแมลงสาปไปหลบใต้โต๊ะ ดนัยหลุดออกจากวงล้อมแรกได้อย่างเร็ว เร็วจนพวกมันคาดไม่ถึง แต่ไอ้พวกที่ซ่อนอยู่ก็กวดเท้ามาดักหน้าเขาไว้ ส่วนสมิงก็โดนไอ้คนที่ยืนอยู่ใกล้สุดจี้ตามหลังมาติดๆ

ลิ่วล้อ1: “มึงจะหนีไปไหน ตาย!!!”
มันไม่พูดเปล่าชักมีดเดินป่าเล่มยาวออกมาสะบัดฟันใส่ดนัย
ดนัย: “นี่จะฆ่าจะแกงกันเลยเหรอวะ แต่มีดแกยาวดีนะยืมหน่อย”
ก่อนดนัยจะกระทืบเท้าดีดตัวใส่มีดยาวในมีดอย่างบ้าระห่ำ

“อั้กกก” ชายที่ยืนขวางร้องขึ้น
 
ดนัยอยู่กับดาบมาตั้งแต่เด็กแต่น้อย ดาบที่แกว่งฟันแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาซักนิดเลย เขาใช้สองนิ้วคีบปลายดาบที่เหวี่ยงมาก่อนจะกระตุกดึงมันออกจากมือ การวางมือที่ไม่มั่นคงกระชากดาบในจังหวะที่ฟันสุดวิถี สองอย่างนี้ก็เพียงพอจะปลดดาบออกมาแล้ว หลังจากจัดการดาบไปแล้ว เขาก็วิ่งฟันศอกใส่หน้ามันเต็มๆ จนล้มหงายไปและมืออีกข้างก็หงายมือจับด้ามดาบ(มีดยาวนั้นแหละ) โดยไม่ต้องมองและพลิ้วร่างลอยตัวปลิวเข้าป่าทึบไป โดยที่ไม่เสียเวลาหยุดชะงักแม้วินาทีเดียว ส่วนสมิงก็สับเท้าตามดนัยอย่างสุดชีวิต

สมิง: “พี่รอผมด้วยยยย”
สมิงผู้วิ่ง(หนี)ได้ช้ากว่าร้องอย่างตกใจก่อนจะหนีเข้าป่าไปอีกคน

ฝั่งอินทรีพึ่งตามมาถึงลูกน้องที่นอนเลือดกำเดาพุ่งอยู่ พอเห็นเจ้าวายร้ายทั้งสองหนีไปได้เขาเลยระเบิดลง วีนใส่พวกลูกน้องทุกคนตามความเคยชิน


เขาแตะไอ้คนที่นอนซ้ำอีกที ก่อนเดินไปตบหน้าพวกมันทีละคน
อินทรี: “อะไรวะมันหลุดไปได้ไง ไอ้พวกไร้สมองไม่มีน้ำยา กาก”
เขาตวาดพวกมันอย่างโมโห ทั้งที่วางวงล้อมไว้แล้ว คนก็มากกว่าสองคนนั้นยังหนีไปได้
อินทรี: “รอไรวะรีบตามไปสิโว๊ยยยยย”
ใบหน้าสีขาวๆเปลี่ยนเป็นแดงจัด เขาทั้งโมโหทั้งเสียหน้า ป่านนี้ไอ้สองนั้นก็คงหัวเราะตนอยู่แน่ๆ
พอเหล่าสมุนเดินเข้าไปในป่าอินทรีก็เอาแผนที่มากางออกก่อนจะเดินออกไปอีกทิศหนึ่งด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น

ดนัยที่วิ่งหนีเตลิดมาซักพักก็เจอโขดหินขนาดใหญ่กว่าตัวคนอีกหลายแห่ง เขารีบไปซ่อนแถวนั้นกาอนจะตะโกนเรียกสมิงมาหลบใกล้ๆ พอผ่านไปอีกไม่กี่วิ เสียงฝีเท้าของหลายๆคนก็วิ่งมาและพวกมันก็ตรวจตราแถวนั้นพอไม่เจอพวกมันก็เดินผ่านพวกเขาไป
สมิง: “เรารอดแล้วพี่รีบไปเถอะ จุดนัดอยู่อีกไม่ไกลหนีเข้าไปก็รอดแล้ว”
ดนัย: “ยังวะ นั้นไงเดินหล่อมานู้นละ”
เขาเองก็กำลังจะตอบว่าใช่แต่เหลือบไปเห็นพ่อเทพบุตรสุดเท่ห์ เดินมาทางเขา ไอ้ห่านี้มันเจอเขาได้ไงวะ

อินทรี: “เอ้าวิ่งหนีอีกสิวะ ไอ้ใจตุ๊ด วิ่งดิวะ ไอ้ขี้แพ้!!!”
มันเดินกร่างเข้ามาช้าๆ
ดนัยที่กำลังพุ่งตัวหนีสะดุดขาตัวเองเกือบล้มก่อนจะโยนกระเป๋าลงพื้น และควักมีดดาบที่ยึดมาพาดสะพายบ่าก่อนจะเดินกลับมาหามันช้าๆ ไอ้คนที่พูดคำนี้กับเขาจากกับเขาไม่สวยซักรายและเขาจะทำให้ไอ้ปากเสีย จบไม่สวย เหมือนคนอื่นๆ
ทั้งสองเดินหากันช้าๆ สายจ้องกันราวกับโกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆปี

สมิง: “ไม่หนีแล้วเหรอพี่?”
สมิงที่เดินนำไปหันกลับมาถาม ดนัยที่กำลังคิดบทเปิดฉากหล่อๆอยู่หันไปด่าตัวทำลายสมาธิทันที

ดนัย: “ไม่ไปแล้ว ใครมันจะไปหนีวะฝีมือกูดีกว่ามันอยู่แล้ว”
สมิง: “จำได้ว่ารอบที่แล้วโดนอัดเป็นกระสอบทรายนะผมเห็นกับตา”
ดนัย: “รอบนี้จะใช้ดาบ มันเสร็จกูแน่”
สมิง: “มีอาวุธแล้วเก่งทันทีพี่กู อีกฝ่ายก็มือเปล่าแมนจริงๆ”
ดนัย: “มึงไปไหนก็ไป จะหนีก็รีบๆไป จะอยู่ก็เงียบๆเถอะวะ เอาซะกูดูเลวไปเลย เวรจริง”

ดนัยเริ่มอยากจะวิ่งไปสับไอ้สมิงแทนคู่อริตน แซะซะเสียทรงเลย

อินทรี: “เออ เข้ามาซักทีเถอะจะมือเปล่าหรือดาบก็มาเหอะแค่มีดดาบเล่มเดียวมันแค่….”
พริบตาเดียว ระยะห่างสองเมตรก็หดเหลือระยะดาบแถมดาบที่จ่อคออินทรีก่อนดนัยจะกดเบาๆเรียกเลือดออกจากคอเล็กน้อย
อินทรี: “ไหน กัน….”


สองคำสุดท้ายของประโยคหลุดจากปากเขารู้สึกเย็นวาบตั้งแต่ปลายขาขึ้นสมอง ทำงานมาหลายปีพึ่งจะรู้สึกว่าความตายมายืนจ้องตาก็พริบตาครู่นี้ พอเขาตั้งตัวได้อีกฝ่ายก็ดีดต่อกลับไปแกว่งดาบเป็นท่ารำก่อนใช้ตีนเขี่ยเลือดที่ติดดาบออกแล้วกระทืบเท้าที่เปื้อนเลือดข่มขวัญก่อนจะจรดดาบพร้อมสู้

อินทรีแค่นเสียงหนักๆก่อนกระชากเปลือกไม้แข็งที่พอหาได้มาสองอันก่อนหยิบเทปกาวฟันมันกับแขนตน แม้จะดูถูกมันขนาดไหนแต่เขาก็ยอมรับว่าเขาสู้กับดนัยที่ถือดาบด้วยมือเปล่าไม่ไหวแน่ ชีวิตนี้นอกจากปืนก็มีแค่หมัดและเท้าที่ถนัดรองลงมา ตอนนี้เขาจึงได้แค่ภาวนาให้ไม้ทนแรงได้มากพอ

ก่อนทั้งคู่จะจ้องดูเชิง และก็พุ่งหาคู่ต่อสู้พร้อมๆกัน

“โอ้วววว แก๊ง ฮ้าๆๆๆๆ แกร็กๆๆๆๆ”
ดนัยร้องคำรามก่อนเปิดฉากควงดาบใส่เขาราวพายุหมุน โชคดีที่เขายังพอมองมันทัน แต่เหมือนใช้ทรายกันน้ำเขารู้สึกได้เลยว่าเพลงดาบของดนัยกำลังกัดกินเขาอย่างช้าๆ

อินทรี: (ไอ้สวะนี้ไปเรียนเพลงดาบแบบนี้มาจากไหนวะ ไม่สิยังมีคนใช้ดาบได้ระดับนี้อยู่อีกเหรอ)
อินทรีเองก็ไม่ได้มีฝีมืออยู่แค่นั้น เขาสะบัดท่อนแขนใส่ด้านข้างดาบจนเฉออกไปดาบที่เสมือนพายุจึงมีจุดบอดขึ้น นั้นเป็นวินาทีที่เขาไม่คิดจะปล่อยผ่าน หมัดระเบิดโลกของเขาพุ่งเข้าใบหน้าดนัยทันที

แก๊ง ครืดดด
ดนัยดึงดาบมาตวัดรับแรงหมัดทันอย่างฉิวเฉียด ก่อนแรงมันจะส่งเขาถอยเซไปสองก้าวใหญ่ๆ

อินทรี: “แค่เพลงดาบดีอย่าพึ่งได้ใจละ กูจะอาจริงละนะ”
ดนัย: “อย่าพึ่งออกตัวสิครับ เวลาล้มขึ้นมานี้ลุกยากกว่าเดิมนะ”
ก่อนทั้งสองจะงัดฝีมืออกมาใส่กันอีกขั้น
 
เงาดาบฟันตวัดซ้ายขวาอย่างว่องไว อินทรีแม้จะตกเป็นฝ่ายตั้งรับแต่ก็ไม่มีทีท่าจะแพ้พ่ายโดยง่ายทั้งปัดป้อง กระแทกทำลายจังหวะ หรือหากสบโอกาสก็จะสวนกลับซึ่งดนัยเองก็ต้องถูกรบกวนจากท่าปัดป้องจนเพลงดาบอันเฉียบคมถูกลดทอนพลังไป
ดนัย: (มันเป็นใครกันแน่วะ ท่าดาบเราไม่ใช่ดาบงานวัดแท้ๆ แต่ทำไมเราเอาชนะไม่ได้วะ)
 
หลังจากพยายามอยู่ครู่ใหญ่ดนัยก็เริ่มงัดของหนักออกมาโชว์
ดนัย: “ตาย!!!”
เขาตวาดขึ้นก่อนจะเปลี่ยนท่าจับดาบเป็นสองมือก่อนจะฟันตวัดจากล่างขึ้นบนเต็มพลัง
เขาเลิกใช้ดาบเร็วเปลี่ยนมาออกดาบหนักๆแทน ซึ่งดาบนี้แรงของแท้
 
อินทรีรีบยกแขนปิดป้องทันที ไอ้กระจอกคนนี้ใช่ว่าจะดูถูกกันได้
แขนสองข้างวางเอียงเพื่อเบนให้คมดาบเฉออกไป
หลักสำคัญประการหนึ่งของวิชาของอินทรีคืออะไรที่อ่อนให้ทำลาย อะไรแข็งกว่าทลายให้ผ่อนออก วิชาของเขาจึงเน้นไปที่ตีจุดอ่อนปัดป้องจุดแข็ง
 
ส่วนดาบดนัยนั้นถูกสอนมาให้พลิกแพลงตามสถานะการณ์ ซึ่งละผู้ใช้ก็จะใช้งานตามลักษณะของคนใช้ แต่ข้อเสียในวิชากลับเป็นเพลงท่าที่เยอะเกินและกลายเป็นไม่มีจุดเด่นด้านใดด้านหนึ่งแต่มันกลับเป็นผลดีของผู้ที่แตกฉาน เพราะเพลงด้านที่แสดงออกมาจะเป็นเหมือนเพลงดาบประจำตัวแม้จะวิชาเดียวกันแต่อาจจะมีลักษณะแต่ต่างสุดขั้วเลยก็ได้
 
และดาบของดนัยที่ฟันก็ไถลหักเหออกอีกครั้ง
แต่อินทรีกลับใจหายวาบเพราะน้ำหนักของดาบเบาเกินกว่าที่ควรและยิ่งพอสบตาดนัยที่ยิ้มให้ก็ยิ่งแน่ใจ
 มันเป็นดาบลวงเขาต้องรีบหนีออกจากวงรัศมีของดาบให้เร็วที่สุด
 
แต่สายเกินไปแล้ว ดาบที่หันขึ้นตวัดลงมาอย่างเต็มกำลังด้วยแรงสะสมในดาบและการขยับร่างเคลื่อนตัวเพิ่มน้ำหนักด้วยการก้าวเขากระทืบพื้นเต็มแรง เงาดาบสีเงินส่องแสงแว๊บลงมาเป็นทาง
 
แกร็กกกกกก กร็อบบบ
เสียงแผ่นไม้ที่พยายามคงรูปที่สุดท้ายก็แหลกเป็นชิ้นๆแต่มันก็ป้องกันคมดาบไม่ให้ถึงผิวกายอินทรีสำเร็จแต่แรงกระแทกทำเอาเขาทรุดตัวคุกเข่า ชะงักไปดนัยเห็นโอกาสจึงหมุนตัวประเคนตีนเจ้ากลางอกส่งร่างสูงปลิ้วไถลออกไปและดนัยที่ยืนตั้งดาบรอท่าอยู่
 
ฝั่งคุณชายรูปงามแม้จะเจ็บสะบักสะบอมไม่น้อยแต่ก็กัดฟันลุกขึ้นมา เขาต้องไม่แสดงความอ่อนแอออกมา ต้องผยองในศักดิ์ศรีให้สมเป็นตระกูลนักรบมาหลายรุ่นหลายสมัย เขาต้องไม่แพ้ ไม่แพ้ใครไม่แพ้อะไรอีกแล้ว
 
แต่พอเขาทำท่าจะโถมร่างเข้าฟาดฟันกับชายที่ดูธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดา ฟังดูอาจจะแปลกๆแต่นั้นคือเอกลักษณ์ของดนัย เทียบง่ายๆก็คงเป็นระเบิดเวลาในกล่องของขนมหวานหรือไม่ก็ลังกระดาษ ไม่เด่นไม่สะดุดตาแต่พอระเบิดขึ้นมาก็ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
 
แต่มันกลับพูดในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน
 
ดนัย: “เฮ้ยไปหาเกราะแขนมาก่อน มันแหลกเป็นชิ้นไปแล้ว”
แต่พอตนจะพูดจาอวดดีตามความเคยชินมันก็ดักคอขึ้น
ดนัย: “ไม่เอาน่า มึงรู้อยู่แก่ใจว่าต้องใช้ คู่มือระดับมึงหาไม่ได้บ่อยๆ ขอขย้ำสนุกกว่านี้เถอะ”
 
เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจเช่นกันในเวลาไม่นานเกราะจากเปลือกไม้อันต่อไปจึงถูกจัดหามาติดอีก
 
และการห้ำหั่นของทั้งสองก็เริ่มอีกครั้ง
 
ส่วนผู้ชมและพยานหนึ่งเดียวที่นั่งตัวสั่นอยู่ไม่ไกลก็เบิกตาค้างไปกับฝีไม้ลายมือของสองคนที่กำลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย หนึ่งคือยอดคนที่เลืองลือในวงการท่างทางรับเพลงดาบมั่นคง อีกฝ่ายเป็นนักดาบผู้บ้าระห่ำควงดาบฟันซ้ายขวาราวกับปีศาจร้ายกระหายเลือด
 
ดนัยที่รุกไล่อยู่ฝ่ายเดียวก็สะบัดดาบในมือเต็มกำลังจนอินทรีต้องเป็นฝ่ายถอยฉากออก แขนทั้งสองข้างร้าวระบมไปกับพายุดาบที่ไล่โหมกระหน่ำใส่ เมื่อเหยื่อหนีมีหรือดนัยจะยืนเฉยๆ
 
ดนัยตวาดก้องก่อนจะเสือกดาบแทงออกไปแต่อินทรีก็พลิกตัวเอนหลบได้ทัน แต่ท่าแทงไม่ได้หมดแค่นี้ ดนัยก้าวเท้าหมุนตัวตวัดดาบฟันตามไปทันทีแต่ทว่าเขาประเมินศัตรูของตนต่ำไป หากเป็นคนอื่นดาบนี้คงสะบั่นคอ แต่ไม่ใช่กับอินทรี
 
อินทรีที่รอจังหวะสวนเหมาะๆอยู่นานแล้วก็สบช่องทันที เขารู้อยู่แล้วว่าหากเขาถอยไอ้จืดตรงหน้าต้องกระโดดตามตะครุบเขาแน่ และเดาออกอีกว่าหากท่าดาบแรงพลาดไป มันต้องมีจังหวะที่สองตามมาทันที เขาอ่านเพลงดาบมันออกแล้ว จังหวะที่ออกท่าใหญ่ๆพลาดช่องว่างก็จะเผยออกมาเสมอ
 
ดนัยใจหายวูบเมื่อคู่แค้นก้มลงหลบดาบที่ฟันตามอย่างแยบยลพ้น นาทีนั้นเขาเองก็ทำได้เพียงแค่
 
กัดฟันรับการสวนกลับเท่านั้น
 
ตูม ดนัยร้องอั้กคำเดียว เมื่อหมัดตรงพุ่งใส่ท้องตน ก่อนจะไม่ได้ร้องอีกเพราะหมัดแข็งๆของมันจะหวดใส่เขาจนหัวหมุนไป ภาพขาดหายไปก่อนเห็นเลือนๆ ว่าหมัดต่อไปกำลังเข้ามา
 
ผัวะ ผัวะ ผัวะๆๆๆๆ
หลังจากช่วงชิงจังหวะรุกกลับมาได้คุณชายหมัดหนักตรงหน้าก็ไม่รีรอที่จะระบายความอึดอัดที่โดนไล่ต้อนมาตลอดศึกนี้ แต่ละหมัดส่งไปตามตำแหน่งต่างๆ ทุกหมัดล้วนอัดแน่นไปด้วยกำลัง
ทุกหมัดต่างเข้าเป้าเต็มๆ และทุกหมัดก็หวังจะโค่นดนัยลงให้จงได้ แผลแตกแผลช้ำค่อยๆผุดขึ้นมาทั้งตัว
 
หมัดเสยคาง ดังสนั่นก่อนร่างดนัยจะลอยและลงไปนอน ดาบที่บิ่นจากการฟันไม้เนื้อแข็งและจากเหล็กเกรดต่ำที่ใช้หล่อขึ้นมากระเด็นไปปักระหว่างพื้นของทั้งคู่ ราวกับเป็นฉากที่สุดท้ายของศึกนี้
 
แต่อินทรีรู้ดีว่ามันยังไม่จบ
อินทรี: “แกน่าจะหลับไปแล้ว อย่างน้อยก็ไม่เห็นอะไร แล้วแกเบี่ยงหมัดได้ยังไง?”
 
ดนัย: “อ็อค แค่กๆ โอยยยย ก็…..แค่ความรู้สึกวะ แต่ขนาดพยายามหลบแล้วแต่ร้าวขนาดนี้ นี้เคยต่อยคนตายบ้างปะวะ”
 
อินทรีนิ่งไม่ตอบเพราะไม่อยากเปิดเผยว่านอกจากอาและพ่อผู้เขี้ยวเข็ญวิชานี้ให้ตนแล้วเขาก็แทบไม่เคยออกแรงขนาดนี้กับคนอื่นเว้นคู่มือจะหินจริงๆ แต่ดนัยกลับยังไม่สลบคาหมัดไปซะอีก คนที่ท้ายที่เขาลงมือหนักขนาดนี้ ต้องนอนโรงบาลครึ่งปีแล้วจึงไปเข้าคุก
แต่ชายหน้าตาจืดๆตรงหน้า แม้จะยับไปทั้งตัวแต่ก็ยืนขึ้นแม้จะซวนเซจะล้มแค่ไหนแต่ก็กัดฟันเดินมาคว้าดาบบิ่นๆ
 
อินทรี: “แกพยายามไปเพื่ออะไรวะ? แกสู้ทำไม ผลมันออกมาแล้วจะฝืนทำไม แกและดาบของแกจะพยายามแค่ไหน สุดท้ายของเกรดต่ำก็ทนไม่ไหวอยู่ดี”
อินทรีไม่เคยเห็นใครบ้าเท่ามันมาก่อน
ถ้าเขาเป็นมันก็คงถอดใจไปแล้ว แต่ทำไมมันยังสู้ละ อะไรหล่อหลอมชายตรงหน้าเขาขึ้นมา อะไรคือแรงผลักดันมันให้สู้ใจขาดแบบนี้
 
แต่ดนัยก็แค่นยิ้มเปรอะเลือดให้
ดนัย: “เพราะมึงคู่ควรพอที่จะโค่นไงละ เกิดมาไม่เคยเห็นใครเก่งเท่ามึงมาก่อน หมายถึงรุ่นเดียวกันอะนะ แต่ก็น่าเอาชนะที่สุดเหมือนกัน สู้กับคนอ่อนแอไปจะได้อะไร สู้กับคนเก่งกว่าสิถึงสนุก เอาจริงๆเพราะกูยังอยากสนุกต่อวะ ไม่ได้เร้าใจขนาดนี้มานานแล้ว มึงเองก็สนุกเหมือนกันใช่ปะละ เลือดในกายมันวิ่งพล่านเพราะเจอคนที่เก่งๆ กูว่ามึงน่าจะเข้าใจนะ ไม่สิมึงเข้าใจแน่ๆ”
 
อินทรี: “ไอ้บ้า มึงมันบ้าชัดๆ เลิกเสียเวลาเถอะ”
มันสะบัดหน้าอย่างเอื่อมระอา แต่ทุมปากก็มีรอยยิ้มอย่างพอใจ โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่ายิ้ม
 
ดนัย: (ก็อีหรอบเดียวกับกูละวะ)
แต่ปากก็ตอบกลับไป
ดนัย: “ไม่ได้บ้า ส่วนใหญ่เขาเรียกติ้งต้อง”
 
ก่อนจะตวัดดาบขึ้นมาอีกครั้ง
ในใจดนัยระลึกถึงคนที่สอนดาบให้ เขากำลังจะใช้เพลงดาบชุดสุดท้าย เพลงดาบที่เต็มไปด้วย ความบ้าคลั่ง กระหายเลือด และลืมเลือนตัวตน
“ขออนุญาตินะปู่”
 
ก่อนแววตาจะฉายแววเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ ราวกับคนไร้สติ
ก่อนเขาจะเอ่ยคำสุดท้ายออกมา
“อย่าตายละไอ้นกเวร”
  
ก่อนจะส่งมือให้อีกคน
อินทรีอึ้งไปแปปหนึ่งก่อนจะจับมือสองคนยืนขึ้น
อินทรี: “จดหนี้ครั้งนี้ไว้ด้วย จะใช้คืนให้ แต่ที่มาเนี่ยไม่ได้ซาบซึ้งอะไรเลยนะ แค่ไม่อยากแพ้พวกนั้นเฉยๆ เข้าใจไว้ด้วยนะ”
 
ดนัย: “ครับท่าน ท่านเก็บแรงไว้เดินเถอะครับ”
ส่วนสมิงก็ยิ้มแห้งๆ
 
ก่อนขบวนคนพิการทั้งสามก็ลากสังหารผ่านแนวป่าไป
 
2 ชั่วโมงต่อมา
จุดนัดพบ
 
แค้มป์เล็กที่มีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คนอยู่ทำหน้าที่ปฐมพยาบาลและแจ้งจุดหมายต่อไป หมู่นาที่โดนลากมาช่วยงานส่วนนี้บิดตัวอย่างเมื่อยขบ
หลังจากส่งไอ้ขบวนคนช้ำในทั้งสามคนออกไป สามคนสุดท้ายมาถึงก็หมดเวลาพอดี นับว่าเฉียดฉิ่วสุดๆ ในฐานะผู้รักษาเขาค่อนข้างชอบที่มีการพักให้ผู้คัดเลือกได้พักบ้าง อย่างน้อยกฎที่บอกว่าจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น ทุกคนห้ามโจมตีหรือทำร้ายกัน
 
ขืนไม่ให้มีพัก ด่านต่อไปที่เรียกว่าโครตซาดิสซ์จะไม่มีใครไปถึงเอา แถมจุดสุดท้ายก็โครตไกลอีกด้วย


หมู่นา: “หมวดจะไหวมั้ยเนี่ยยิ่งมีคนจ้องจะยำอยู่ด้วย”
 
เขามองสามคนที่หามุมสงบๆก่อไฟหาข้าวกิน
ซึ่งนอนว่ามีคนกำลังกัดกันอยู่
 
ดนัย: “ไม่ใช่นั่งเฉยๆดิวะ นี้ไม่ใช้บ้านเอ็ง และตูสองคนก็ไม่ใช่เบ้นะเฮ้ย”
อินทรี: “ทำไมมึงเรื่องมากจังวะ ทำให้นิดๆหน่อยๆไม่ได้ไง รู้จักมั้ยน้ำใจอะ”
ดนัย: “น้ำใจมี มีเยอะ ช่วยหามมึงมาถึงที่นี่ทันเวลานี้ไม่เรียกน้ำใจเหรอวะ อีกอย่างเขาเรียกช่วยเหลือกัน ทีม อะรู้จักมั้ย ก็แบบนี้ไงใครๆถือพากันตีตัวออกห่าง”

ก่อนทั้งสองที่ยืนกันเองกันจะลุกขึ้นมายืนจ้องหน้ากันเขม็ง
อินทรี: “ไหนมึงลองพูดอีกทีดิไอ้กระจอก”
ดนัย: “ถ้ากูเป็นไอ้กระจอก มึงที่แพ้กูก็กระจอกกว่าปะวะ”
อินทรี: “มาลองกันอีกรอบก็ได้ รอบนี้กูจะหักดาบมึงไปพร้อมๆกับคอมึงเลย”

แต่ก่อนที่ไอ้บ้าสองตัวมันจะทะเลาะกันเอง สมิงที่หอบไม้แห้งมากองใหญ่ก็รีบทิ้งไม้และเดินมาห้าม
สมิง: “พี่นี่ถามจริงว่าจะกัดกันให้ได้เลยใช่มั้ย ตั้งแต่ตอนนี้ถึงพระอาทิตย์ขึ้นเขาห้ามมีการทะเลาะหรือการโจมตีใดๆแก่ผู้คัดเลือก อยากโดนจำหน่ายออกเหรอไงครับ โตๆกันแล้วอย่าให้ผมต้องพูดเลย”

หมาบ้าสองตัวที่ขู่แฮ่ๆกันก็มองสมิงกันจะสะบัดหน้าหนีและไปนั่งคนละข้างของโขดหินใกล้ๆที่พัก แต่ก็ไม่วายจ้องตากันแบบไม่มีลดราวาศอกแต่อย่างใด

สมิงที่เห็นท่าจะไม่ดีก็เลยแยกทั้งคู่ออกจากกัน
สมิง: “เอางี้ พี่อินทรีไปหาไม้เพิ่มให้ผมหน่อย คงเลือกได้นะครับเอากิ่งแห้งนะ ส่วนพี่ดนัยผมเห็นที่ลำธารมีปลาตะกี้ก็ไปดักมาแล้ว ไปดูถ้ามีก็ไปเอามาให้ผมนะครับ”

ทั้งคู่พยักหน้าก่อนจะเดินออกไปคนละทาง
สมิง: “นี่ทำไมกูต้องมาอยู่กับไอ้พวกนี้ด้วยวะเนี่ย ชีวิตกูจะรอดพ้นนี้มั้ย? โอชีวิต”
สมิงที่ก่อไฟรำพึงออกมาด้วยเห็นถึงปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกตรงหน้า เขาแกะเอาหม้อสนามออกมา เอาของเท่าที่มี มะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกใส่เมื่อน้ำเดือดแล้ว อินทรีที่หอบฟืนกองใหญ่กลับมาก็ช่วยใส่เครื่องปรุง แบบงกๆเงินๆ สมิงใส่อย่าง อินทรีใส่อยากพยายามทำให้มันอร่อยที่สุด แต่หลังจากพยายามจนเหนื่อยไอ้มาม่าในหม้อก็แค่พอกระเดือกแบบกลั้นใจเท่านั้น

อินทรี: “คิดถึงอาหารที่บ้านชิบ เกลียดจริงรสชาติแบบขอไปที พี่ว่าเติมพริกอีกนิดมั้ย”
สมิง: “ผมว่าเติมน้ำปลา ผมว่าพี่ไม่ต้องช่วยเถอะผมว่ายิ่งช่วยยิ่งแดกไม่ลงวะ ผมนี่ทำอาหารกินในป่าบ่อย เชื่อใจผมดิ”

แต่ความสงบในคืนนี้ก็หาได้มีไม่ แม้อีคนที่ใช้ให้ไปเอาปลากลับเดินมาฉกช้อนไปชิม ก่อนจะถุยทิ้ง
ดนัย: “สาบานว่านี้ใช้มือทำ กูใช่ตีนยังดีกว่านี้เลย ไปเอาปลาไปล้าง เกลือในเป้น่าจะมี มองไรไปดิวะ ไอ้คุณชายไปหาฟืนอีกเที่ยว มองไรจะกินมั้ยข้าวอะ ไปดิวะ”


ดนัยที่สั่งการแกมบังคับให้ทุกคนหยุดยุ่งกับหม้อมื้อค่ำ ชายหน้าจืดถูมืออย่างมุ่งมั่น ก่อนจะเทมาม่าออกมาก่อนลงมือปรุงรสน้ำซุปทั้งหมดใหม่ ก่อนจะเหลือบไปเห็นสมิงที่กำลังล้างปลาตามคำสั่ง แต่ทว่า
ดนัย: “ใครสอนมึงล้างปลาแบบนั้นวะ มึงไปทำอย่างอื่นเลย ไป! ไอ้พวกไม่มีศิลปะในการทำอาหารไอ้พวกไร้รสนิยม”

สมิงที่เห็นพี่แกเดือดขนาดไล่ตนก็รีบหนีกระเจิงออกมา สำหรับเขาแล้วเมื่อกี๊ดนัยน่ากลัวกว่าตอนสู้กับพี่อินทรีซะอีก เขาเลยออกมาเดินเล่นแก้เซ็ง แต่พอวนกลับมาก็พบภาพประวัติศาสตร์ คู่อริราวแค้นกันพันปีนั่งคุยกัน แล้วยังคุยกันราวกับไอ้ที่กระโดดไล่ทุบกันต้องนานเป็นคนละคนกับไอ้สองตัวตรงหน้าเขาตอนนี้
 
หลังจากบทสนนทนาจบลงตะวันของวันใหม่ก็เริ่มจะโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า
ดนัย: “นั้นไง หมดกันเวลานอน”
อินทรี: “ไม่น่าติดลมเลยกู”
สมิง: “ก็บอกแล้วอย่าขัดๆ ถามไปถามมา เช้าแล้วเนี่ย ไปๆเก็บของพี่”

ก่อนทั้งสามที่เดินกอดคอกันเดินออกไปจากจุดนัดพบแรก สู่บททดสอบต่อไป แต่คราวนี้พวกเขามีคนที่ไว้ใจได้ มีเพื่อนและพวกเขาต้องผ่านไปได้อย่างแน่นอน  (แหงละมึงเป็นพระเอก)

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2017, 01:48:04 am โดย cd13579 »
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

*

ออฟไลน์ beeriero

  • Gold Member
  • *****
  • 1093
  • 399
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝาฟัน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 04:08:50 am »
รอตั้งนานในที่สุดก้อมาแล้วอยากรู้ว่าดนัยจะได้สาวที่แอบชอบหรือป่าว

*

ออฟไลน์ anupan_2764

  • Junior Member
  • ***
  • 313
  • 296
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 06:17:27 am »
ในที่สุดการรอคอยของผมก็เป็นผลซะที เย้
จิงๆก็ลืมๆเรื่องก่อนหน้านี้ไปพอสมควรพอเห็นตอนนี้คลอดมาแล้วเลยรีบกลับไปอ่านตอนก่อนหน้านี้ด่วนเลย เพื่ออรรถรสในการอ่าน 55
ขอบคุณครับ

*

ออฟไลน์ phantompain

  • Senior Member
  • ****
  • 660
  • 248
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 07:31:03 am »
โอ้ เรื่องที่รอคอย กลับมาแล้ววว ขอบคุณสำหรับผลงานค้าบ ::Thankyou::

*

ออฟไลน์ tetete

  • Gold Member
  • *****
  • 1156
  • 175
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 07:56:54 am »
หายไปนานแต่ก็ยังกลับมาขอบคุณมากครับ เอาใจช่วยดนัย

*

ออฟไลน์ thep59

  • Legend Member
  • *******
  • 2337
  • 638
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 08:31:23 am »
กลับมาแล้ว หายไปนานแต่ก็ยังกลับมาขอบคุณครับ แล้วดนัยจะสมหวังกับสาวที่ชอบหรือเปล่านะ

*

ออฟไลน์ pitsanume

  • Banned!

  • Gold Member
  • *****
  • 1355
  • 2708
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 09:16:18 am »
ขอบคุณมากครับ เป็นการกลับมาที่สนุกสุด ๆ ไปเลย เป็นการต่อสู่กันที่สนุกมาก และใครจะเป็นผู้สมหวัง รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้ประพันธ์ครับ

*

ออฟไลน์ tantawanjames

  • Gold Member
  • *****
  • 1233
  • 179
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 09:58:39 am »
กลับมาแล้วหายไปนานเลย ดนัยจะรอดไหมเนี่ยบททดสอบไม่ธรรมดาเลย ขอบคุณครับ

*

ออฟไลน์ jackalza

  • Banned!

  • Gold Member
  • *****
  • 1078
  • 346
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 10:09:41 am »
แนวต่อสู้มันส์ๆแบบนี้หายาก

*

ออนไลน์ hunterkung

  • Veteran Member
  • ******
  • 1519
  • 245
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 10:41:11 am »
หายไปนานเลยครับ กลับมารอบนี้สนุกมาก เนื้อเรื่องมันสุด ถึงไม่มีเรื่องแนวนั้น แต่ก็สนุกสุดๆเลย

*

ออฟไลน์ naitoom

  • Veteran Member
  • ******
  • 1835
  • 648
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 12:24:21 pm »
ดุเดือดขนาดนี้ นึกว่าโกรธแค้นกันมาจากไหน แต่พอผ่านด่านได้ก็มากอดคอกันทำอาหาร
ด่านหน้าจะเป็นอย่างไร ถึงกันต้องเลือดตกยางออกหรือไม่???

*

ออฟไลน์ zebe

  • Senior Member
  • ****
  • 844
  • 1096
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 12:57:56 pm »
นี่แหละฮะคู่กัดกัน พอเรื่องกัดกันหมดกะจะสงบและเป็นเพื่อนกัน เขียนได้สนุกมากกกก อย่าทิ้งงานนะครับ นานหน่อยแฟนๆรอได้ครับ ขอบคุณครับบ

*

ออฟไลน์ sunnyman

  • Senior Member
  • ****
  • 678
  • 183
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 01:40:52 pm »
ขอบคุณมากครับ ต่อย (ฟัน) กันสนุกสะใจมากเลยครับ เห็นภาพชัดเจนมากๆครับ

*

ออฟไลน์ tooboy

  • Full Member
  • **
  • 232
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 01:57:43 pm »
โชว์ทักษะกันออกมาเรื่อย ๆ คนหนึ่งหมัดหนัก อีกคนหนึ่งเก่งอาวุธ รอดูทักษะสมิงครับ

*

ออฟไลน์ akennya

  • Gold Member
  • *****
  • 1429
  • 1
    • ดูรายละเอียด
Re: OUT OF AMMO EP 15 ฝ่าฟัน
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2017, 03:30:55 pm »
ตกลงจะตั้งชื่อตอนอย่างไรดีครับ ฝ่าด่าน หรือ ฝ่าฟัน

 

ช่องทางแจ้งข่าวเผื่อโดนปิด ติดตามไว้นะ