คุยเรื่อยเปื่อยนิยายเรื่องนี้ผมเขียนดองทิ้งไว้นานแล้ว และเพิ่งจะเอาไปลงที่บอร์ดส่วนตัว เพื่อไม่ให้บอร์ดเหงาเกินไป
ลงไว้ที่โน่นสักพักจนถึงตอนที่ 9 แล้ว ก็เลยแวะเอามาลงที่นี่บ้าง
ชื่อเรื่อง - ล่องเมืองเรื่องย่อเรื่องนี้เน้นบรรยายจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งก็คือไนท์ หนุ่มเพลย์บอยวัยทำงาน
เขาต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้ได้เจอและฝากรักกับสาว ๆ มากมาย
แนวเรื่องเรื่องนี้จะเป็นฮาเร็มสีเทา ๆ ตามมุมมองผู้ชาย ที่อยากมีผู้หญิงหลายคน แต่จะยังไม่มีนางเอกตัวหลัก
ใครสนใจก็เชิญลองอ่านครับ
ล่องเมือง ตอนที่ 2 - เรื่องที่ยอมไม่ได้.....................................
Assasin008 สามวันผ่านไปแล้วหลังจากที่ผมได้ฟันน้องหมวยนักศึกษาฝึกงานคนสวย คืนนั้นผมเก็บเกี่ยวหาความสุขกับเธอจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน น่าเสียดายที่ผมมีภารกิจต้องไปเข้าคอร์สอบรมที่ชลบุรี ไม่งั้นผมคงจะนอนกอดหมวยให้ชุ่มปอดต่อไปอีกสักวัน
เช้าวันนั้นผมแยกตัวกลับห้องพัก แล้วขับรถไปชลบุรีคนเดียว ความจริงหมวยก็มีอบรมที่เดียวกัน แต่ว่าเธอบอกว่าเธอจะไปกับรถบัสของบริษัทพร้อมกับเพื่อน ๆ ที่มาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอมีอะไรกับผมไปแล้ว
ผมไม่ได้ปฏิเสธอะไร รู้สึกดีเสียอีก เพราะคิดว่าอาจจะได้เจอสาวสวยคนอื่นอีก แต่ผ่านไปสามวันในศูนย์อบรมผมก็ยังไม่เห็นใครเข้าตา กลางวันผมวุ่นกับการฝึกอบรมทั้งวัน พอตอนกลางคืนผมก็ออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเริ่มงานได้ไม่นานเหมือนกัน ส่วนน้องหมวยผมแทบไม่เห็นเธอเลย เพราะว่าเธออยู่กับเพื่อนตลอด และฝึกอบรมอยู่คนละตึกกับผม พวกเราเลยแค่โทรคุยไม่ได้นัดเจอกันอะไรจริงจัง
กลุ่มเพื่อนใหม่ที่ผมสนิทกว่าคนอื่นตอนนี้มีอยู่ด้วยกันสามคน ทั้งหมดเป็นพนักงานเข้าใหม่เหมือนกัน แล้วก็ทำงานในส่วนวิศวกรรมเหมือนกัน และทำที่กรุงเทพเหมือนกัน แถมยังถูกจัดให้ทำงานกลุ่มเดียวกัน พวกเราเลยเกาะกลุ่มกันไปโดยปริยาย เพื่อนใหม่ของผมมีผู้ชายสองคน ผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายกับผู้หญิงคู่นี้คบหาเป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมเพราะบ้านใกล้กัน
ผู้หญิงคนนี้ชื่อเจน เธอสวยน่ารักทีเดียว เรียกว่าสวยเด่นติดหนึ่งหรือสองอันดับแรกในกลุ่มพนักงานเข้าใหม่ทั้งหนึ่งร้อยกว่าคน เรื่องความสวยน่าจะพอ ๆ กับหมวยไม่ห่างกันเท่าไหร่ ที่เทียบไม่ได้ก็คือรูปร่างทรวดทรงที่ไม่อวบอิ่มเท่าหมวย รูปร่างของเจนดูจะบอบบางสักนิด แต่ก็ขาวเป็นประกายมีส่วนโค้งเว้าอยู่พอสมควร
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ส่วนที่เจนเด่นกว่าก็คือเธอเป็นลูกคุณหนูไฮโซ รูปร่างหน้าตาการแต่งกายทุกอย่างมันดูโดดเด่นมีสง่าราศีมากกว่าหมวยมากพอสมควร บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกผมเองก็แอบเหล่อยากฟันเจนอยู่เหมือนกัน แต่เสียดายที่เจนเป็นแฟนกับไอ้แคนเพื่อนใหม่ผมเลยตัดใจ แล้วอีกอย่างเห็นเจนเธอดูคุณหนูขนาดนี้ พอสนิทกันแล้วจะได้รู้ว่าเธอดุฉิบหายเลยล่ะคุณเอ๋ย
แคนเป็นลูกคนรวยสนิทกับเจนมานาน ประมาณว่าลูกคนรวยโดนจับคู่กับลูกคนรวยนั่นแหละ แคนมันออกจะมีนิสัยขี้หงอสักหน่อย เห็นมันตัวใหญ่ล่ำแบบนี้มันโดนเจนสั่งอะไรเป็นต้องรีบทำให้เหมือนกับข้าทาสมากกว่าแฟน ผมก็ยังแปลกใจว่าทั้งคู่ดูไม่ค่อยเหมือนแฟน แต่ดูเหมือนเจ้านายกับลูกน้องมากกว่า
เพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่มชื่อโทน หมอนี่เป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในเมืองกรุง นิสัยจะออกแนวช่างพูดช่างคุย เรียกว่าถ้ามีไอ้โทนอยู่สักคนในกลุ่มรับรองว่าจะไม่มีทางเงียบ มันจะสามารถสรรหาเรื่องมาพูดไม่ให้รู้สึกเบื่อได้เสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำได้ยังไง ยิ่งมันเมาก็ยิ่งพูดเก่งไม่หยุด ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้พวกเรากำลังนั่งดื่มกันอยู่ใกล้ ๆ ศูนย์อบรม ไอ้โทนก็พูดพล่ามได้ตลอดแทบไม่ยอมหยุดพัก
“จุ๊ จุ๊ ไอ้ไนท์ มึงดูซิวะ พวกผู้ชายโต๊ะนั้นแอบมองเจนกันตาเป็นมัน สายตาหื่นเหมือนมึงเลยว่ะ เมื่อกี้กูเดินผ่านได้ยินพวกมันพูดกันว่าอยากจับเจนไปเรียงคิวรุมโทรมด้วยนะเว้ย”
ไอ้โทนมันกระซิบบอกผมแล้วชี้ให้มองไปทางโต๊ะข้าง ๆ ผมส่งสายตาด่ามันรอบหนึ่ง แล้วถึงค่อยเหลือบตามองตามไปที่โต๊ะอาหารข้าง ๆ โต๊ะนั้นมีแต่ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ อยู่หกคน แถมยังกินเหล้าเมาจนหน้าแดง ตอนนี้พวกนั้นกำลังมองเจนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมด้วยสายตาหื่น ถึงผมจะไม่ได้ยินว่าพวกมันพูดอะไรเพราะเสียงเพลงในร้านดังพอควร แต่เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะกำลังพูดหื่นใส่เจนแบบลับหลัง
“ไอ้เหี้ยโทน มึงก็แอบมองเจนเหมือนกูล่ะวะ ขาวสวยน่ารักเหมือนลูกคุณหนูแบบนี้ใครจะไม่มอง”
ผมกระซิบตอบมันแล้วแอบชำเลืองมองเจน คืนนี้เธอใส่เสื้อแขนกุดสีขาวกับกระโปรงสั้นสีน้ำเงิน ถึงผมจะพยายามเก็บอาการเก็บสายตาแต่พอเห็นผิวขาว ๆ กับหน้าสวย ๆ ของเจน เป้ากางเกงของผมมันก็ตื่นผงกหัวชูคอขึ้นมาจนปวดหนึบ หน้าอกของเจนไม่ใหญ่ แต่ก็พอเห็นเส้นร่องนมอยู่เล็กน้อย
ผมลืมบอกไปเลยว่าคืนนี้พวกเราสี่คนออกมาเที่ยวเล่นหาอะไรกินนอกศูนย์อบรม ไอ้แคนรับหน้าที่ขับรถของมันออกมา แล้วมันเองก็บ่นเปรี้ยวปากอยากกินเหล้า พวกเราก็เลยแวะเข้ามาในผับเพื่อหาอะไรดื่มกินพอเป็นพิธี
“สองคนนี้กระซิบกระซาบอะไรกัน ท่าทางไม่น่าไว้ใจ”
เจนเห็นผมกระซิบกับไอ้โทนก็หันมามองแล้วพูดดักคอจนเราสองคนสะดุ้งร้อนตัว ผมรีบยกมือทำท่าบอกว่าไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเธอ แต่เธอเบะปากทำท่าไม่เชื่อ แถมยังมองผมกับไอ้โทนด้วยสายตาคาดโทษ
ไอ้โทนฉลาดพอตัว มันรีบโบ้ยความผิดไปที่โต๊ะข้าง ๆ บอกว่าเห็นไอ้พวกนั้นมองเจนด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจแถมยังพูดจาลวนลามด้วย เจนก็เลยละสายตาจากผมกับไอ้ไปแล้วหันไปมองทางโต๊ะข้าง ๆ ด้วยสายตาไม่พอใจโทน เห็นเธอเป็นลูกคุณหนูแบบนี้เจนไม่ได้มีนิสัยนุ่มนิ่มนะครับ เธอเป็นสาวมั่นกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงออกแถมยังใจร้อน ผิดกับไอ้แคนแฟนของเธอคนละขั้ว แต่บางทีผมก็คิดเธอออกจะกล้าเกินไปสักหน่อยอยู่เหมือนกัน
เจนเธอหันไปมองทางโต๊ะข้าง ๆ แล้วลุกพรวดขึ้นยืนเดินไปหาพวกนั้นอย่างที่ผมแอบกลัว ไอ้แคนเองก็เหมือนจะรู้ว่าแฟนมันคิดทำอะไร มันเลยนั่งหน้าซีดตัวสั่นเหงื่อแตกพลั่ก ไอ้โทนช่างจ้อตอนนี้ก็นั่งอ้าปากค้างเงียบกริบ เหลือผมคนเดียวที่มีสติพอรีบลุกพรวดวิ่งไปจับแขนของเจนแล้วดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้เธอไปตอแยหาเรื่องกับพวกนักเลง
เธอหันขวับมามองผมตาขวาง แถมยังออกแรงฝืนไม่ยอมให้ผมรั้งเอาไว้ สามวันที่เรารู้จักกันปกติผมจะยอมให้เจนตลอด แต่คราวนี้ผมยอมให้เธอไม่ได้จริง ๆ ผมเลยถลึงตามองเธอกลับจนเธอชะงัก แล้วผมก็ออกแรงกระชากแขนเธอดึงหนีไปทางอื่น ถึงเจนจะใจร้อนยังไงแต่เธอก็สู้แรงผมไม่ได้ ผมเลยลากเธอเดินฝ่าคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนานออกไปทางหลังร้านได้ไม่ยากเท่าไหร่
“เจนจะบ้าเหรอ อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า”
ผมจับเธอไปยืนตรงมุมมืดเพื่อไม่ให้เธอไปแส่หาเรื่อง ก่อนจะส่งเสียงโวยใส่เธอด้วยความโกรธ เจนมองผมตาขวางไม่ฟังผมเลยสักนิด
“ไนท์ขี้ขลาดมากกว่า ไม่ต้องมายุ่งเลยนะ เดี๋ยวเราจะไปด่าพวกมันเอง ถ้าพวกมันอยากมีเรื่องเราจะโทรให้พ่อมาจัดการ”
“รู้แล้วน่าว่าพ่อเจนน่ะใหญ่ขนาดไหน แต่ต่อให้ใหญ่ล้นฟ้า ถ้าไอ้พวกบ้านั่นมันชักปืนขึ้นมายิงเจน แล้วพ่อเจนจะมาตามมาช่วยทันได้ยังไง ได้คิดบ้างหรือเปล่าเนี่ย อีกอย่างพวกมันก็ยังไม่ได้มากวนพวกเราอะไรเลย พวกมันแค่นินทาสนุกปากเฉย ๆ ถ้าพวกมันเข้ามาหาเรื่องก็ค่อยว่ากันอีกที”
ผมส่งเสียงตะคอกเสียงดังใส่เจนด้วยความหงุดหงิด ตอนนี้ผมเพิ่งเห็นเธอแสดงท่าทางชะงักลังเลเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา แต่ดูเหมือนเธอจะยังเบะปากดื้อแพ่งไม่อยากเชื่อผมเท่าไหร่
“ทำเป็นพูดไปเถอะ เราว่าถ้าพวกมันมาหาเรื่องจริง ๆ ไนท์ก็น่าจะกลัวหัวหดเหมือนแคนนั่นแหละ พวกผู้ชายใจปลาซิว เชอะ”
เจนแค่นเสียงพูดเหยียดหยามออกมา เธอเหมือนจะว่าผม แต่ผมกลับรู้สึกว่าเธอกำลังด่าไอ้แคนแฟนของเธอเองเสียมากกว่า เพราะแคนมันมีนิสัยหงอไม่กล้าสู้คนที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ยังไงก็เถอะเรื่องนี้ผมขี้เกียจยุ่ง ตอนนี้ผมแค่ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาก็พอ
“นี่พวกแก พวกแกนั่นแหละ ชั้นได้ยินนะว่าพวกแกพูดว่าอะไร มาขอโทษชั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ระหว่างที่ผมกำลังคิดถ่วงเวลาไม่ให้มีเรื่อง เจนก็ลืมตาโตส่งเสียงด่าออกมาจนผมสะดุ้ง ผมรีบหันไปมองว่าเธอด่าใคร จากนั้นผมก็ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความเครียด ผมเพิ่งพาเธอหลบปัญหาออกมา เจนก็ดันแกว่งเท้าไปหาเสี้ยนอีก
เจนกำลังด่าทอพวกนักเลงที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ พวกเราเมื่อครู่ ตอนนี้พวกมันสามคนเดินออกมาทำท่าเหมือนจะไปห้องน้ำหลังร้าน ดูจากท่าทางที่พวกมันหยุดชะงักหันมามองเจนด้วยความงุนงงแล้วเดาได้ว่าพวกมันไม่ได้คิดจะระรานอะไร แต่เป็นเจนเองเสียอีกที่ดันหาเรื่องเข้าตัว
นักเลงสามคนนั้นหันไปมองหน้ากันเองเหมือนงง ๆ อยู่พักใหญ่ จากนั้นพวกมันก็ตั้งสติได้และพากันมองเจนด้วยสายตาหื่นกาม พร้อมกับพูดจาลวนลามกลับ
“อ้าว น้องสาวคนสวยจะให้พวกพี่ขอโทษน้องเรื่องอะไรล่ะ ว่าแต่แวะมาจู๋จี๋กับแฟนเหรอจ๊ะ หรือว่าแฟนทำไม่ถึงใจเลยอยากให้พี่ ๆ สามคนช่วยกันรุมโทรมน้องด้วย”
ชายคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนจะเป็นหัวโจกเดินนำเข้ามาด้วยเจตนาไม่ค่อยดีนัก จากนั้นนักเลงอีกสองคนก็เดินล้อมกรอบเข้ามาเหมือนจะกันไม่ให้เจนหนีไปไหนได้ ผมย่นจมูกเพราะได้กลิ่นเหล้าหึ่งมาจากตัวพวกมัน พวกมันแต่ละคนแสดงอาการเมาแอ๋มองเจนด้วยสายตาหื่นกลัดมันเหมือนพร้อมจะจับเธอข่มขืนตรงนี้เสียเลย
“พวกแกคิดจะทำอะไร รีบขอโทษแล้วไสหัวไปไกล ๆ เลยนะ ไม่งั้นชั้นจะฟ้องพ่อให้พาพวกแกเข้าคุกให้หมด ไม่รู้หรือไงว่าชั้นลูกใคร”
เจนนิ่งชะงักไปครู่หนึ่งแล้วก็ส่งเสียงขู่ฟอด ๆ ออกมา แต่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังสั่นกลัวหน้าซีด เธอยื่นมือมาจับชายเสื้อของผมไว้เหมือนต้องการหาที่พึ่งพิง แต่นาทีนี้ผมก็กลัวเหมือนกัน และเจนเองก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผม แถมเธอยังเป็นฝ่ายหาเรื่องเองอีกต่างหาก ถ้าพูดตรง ๆ ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอยากช่วยเธอเลย
“โอ้โฮ น้องจะลูกใครพี่ไม่รู้หรอกนะ พี่รู้แต่ว่าพี่มีลูกปืน”
นักเลงหัวโจกส่งเสียงหัวเราะแล้วมันก็ควักเอาปืนกระบอกสีดำมะเมื่อมขึ้นมาเล็งใส่เจนจนเธอสะดุ้งเฮือก ผมเองก็สะดุ้งเหมือนกันเพราะกำลังกลัวว่าอีกฝ่ายจะมีอาวุธ แล้วมันก็มีจริง ๆ เสียด้วย แบบนี้ท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่
“พวก … พวกแกอย่าทำบ้า ๆ นะ พ่อชั้นเอาพวกแกตายแน่”
เจนพยายามทำเสียงแข็งแต่น้ำเสียงที่ออกมามันสั่นกลัวมากกว่ากล้าสู้ แถมเธอยังถอยกรูด ๆ จนหลังพิงกำแพง ส่วนผมเองก็ต้องยกมือทำท่ายอมแพ้แล้วเดินถอยไปจนพิงกำแพงเหมือนกัน เพราะโดนมันเล็งปืนใส่ ใครจะกล้าเสี่ยงกับพวกขี้เมาถือปืน
ตอนนี้ผมพยายามคิดหาทางรอดอย่างเต็มที่ ยังดีที่ตรงนี้แม้จะลับหูลับตาคนแต่ก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาพอสมควร ถ้ามีเสียงดังขึ้นมาก็จะมีคนเข้ามาช่วยได้ อีกอย่างพวกเรายังมีไอ้แคนกับไอ้โทนที่น่าจะตามมาช่วยได้บ้าง
ถ้าจำเป็นจวนตัวจริง ๆ ผมเชื่อว่าพวกมันมีเป้าหมายที่เจนและไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่ อย่างดีผมก็หนีไปเรียกตำรวจแล้วตามไปช่วย ส่วนระหว่างนั้นเจนจะโดนพวกมันลากไปทำอะไรบ้างก็คงต้องแล้วแต่บุญแต่กรรม เพราะเธอแส่หาเรื่องเอง
“ฮ่า ฮ่า พวกพี่ไม่ทำอะไรบ้า ๆ กับคนสวยหรอกน่า พวกพี่ก็แค่อยากดื่มกับน้องสักหน่อย ดื่มให้เกียรติพวกพี่หน่อยนะ เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งขวด ถ้าน้องดื่มหมดพวกพี่จะยอมขอโทษแล้วปล่อยน้องไป แต่ถ้าไม่ยอมดื่มล่ะก็ … หึ หึ ปืนในมือพี่มันจะลั่นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เอ็งไม่เกี่ยวนะไอ้น้องชาย ให้คนสวยดื่มคนเดียว”
หัวโจกนักเลงมองผมสลับกับเจน แล้วมันก็ยื่นขวดเหล้าพร้อมกับข้อเสนอให้เจน ขวดเหล้านั้นยังมีเหลืออยู่ประมาณหนึ่งในห้า ถ้าเป็นคอเหล้าก็อาจจะพอดื่มไหว แต่สำหรับเจนผมว่าถ้าดื่มหมดนั้นคงจะเมาแอ๋หลับคาขวดแน่ ๆ
เจนมองขวดเหล้าที่ยื่นให้แล้วหันมามองผม ผมมองเธอตอบด้วยสายตาอับจนปัญญา ตอนนี้ผมเริ่มอ่านแผนไอ้หัวโจกออกแล้ว มันเองก็คงรู้ว่าสถานที่ไม่เหมาะสมถ้ามีเสียงดังอาจจะมีคนมาขัดจังหวะ มันเลยวางแผนมอมเหล้าเจนเสียก่อน พอเธอเมาก็เรียบร้อยเสร็จพวกมันแน่ ๆ แต่ความจริงข้อนี้ผมไม่รู้จะบอกเจนยังไงดี
“ก็ได้ อย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน”
เจนตอบและยื่นมือไปรับขวดเหล้ามาเหมือนจะยอมรับคำท้าทาย ผมพนันได้เลยว่าเธอเดาแผนของพวกมันไม่ออกแน่ ๆ ไม่งั้นเธอคงไม่รับคำท้า ตอนนี้พอเห็นไอ้หัวโจกคนนั้นแสยะยิ้มหื่นกามผมก็ยิ่งแน่ใจว่าผมเดาถูก
คุณหนูอย่างเจนคงไม่เคยดื่มเหล้าราคาถูกแบบนั้น เธอเบะปากขมวดคิ้วมองขวดเหล้า เธอยืนทำใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะกลั้นหายใจยกขวดเหล้าขึ้นดื่มอึก ๆ เหมือนตั้งใจจะดื่มให้หมดในรวดเดียว พวกนักเลงสามคนตาลุกวาวมองนมของเจนที่เด้งขึ้นเด้งลงด้วยความหื่นกามเต็มที่ ส่วนผมตอนนี้กำลังพยายามมองหาทางหนีทีไล่อย่างเต็มที่
เจนดื่มไปได้พักหนึ่งก็ทำหน้าพะอืดพะอมพักยก ผมเห็นเพิ่งดื่มเข้าไปได้แค่หน่อยเดียว แค่นี้ก็ทำให้เธอหอบหายใจหน้าแดงก่ำเมาพอสมควรแล้ว เธอพยายามฝืนใจยืนมองพวกนักเลง แล้วก็สูดลมหายใจยกขวดเหล้าขึ้นดื่มเป็นรอบที่สอง คราวนี้เหล้าบางส่วนเอ่อออกมาจากริมฝีปากไหลลงไปตามลำคอจนเสื้อสีขาวเปียกชุ่ม พวกนักเลงยิ่งมองเธอกันตาวาวเพราะเสื้อมันแนบลู่กับเนื้อขาวเนียนจนเห็นรูปร่างของยกทรง
สาวสวยส่งเสียงสะอึกแล้วยืนส่ายโอนเอนไปมา ขวดเหล้าอันว่างเปล่าร่วงหล่นลงไปกระแทกพื้นแล้วกลิ้งหลุน ๆ ไปทางพวกนักเลง เหล้าหมดขวดไปแล้วจริง ๆ แต่เธอน่าจะกินไปไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วจะไหลหกออกมาเสียมากกว่า
“หมดแล้ว … หมดแล้ว …”
เจนส่งเสียงพึมพำตาปรือหน้าแดงก่ำ เธอส่งเสียงบอกพวกนักเลงด้วยน้ำเสียงเมาแอ๋ตาลอย ไอ้นักเลงหัวโจกเห็นท่าทางของเจนแล้วก็ส่งเสียงหัวเราะร่วน มันปรบมือทำทีเป็นชม แล้วก็ยื่นขวดเหล้าอีกขวดให้เจน ขวดนี้มีเหล้าอยู่แค่ก้นขวดน่าจะไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน
“เก่งนี่นาน้องสาวคนสวย แต่เมื่อกี้ดื่มหกไปตั้งเยอะ แบบนี้นับว่าขี้โกง ต้องปรับให้ดื่มอันนี้อีกขวด ดื่มเลยอีกนิดเดียว”
เจนรับขวดเหล้าไปแล้วยืนหอบหายใจพะอืดพะอม ผมแน่ใจว่าเธอไม่ไหวแล้ว หากดื่มมากกว่านี้คงต้องเมาหลับไปแน่ ๆ หลังจากนั้นต่อให้โดนพวกนี้พาไปทำอะไรเธอก็คงไม่มีทางสู้ไหว ผมว่าผมคงต้องหาทางเอาตัวรอดคนเดียวไปก่อน ส่วนเรื่องช่วยเจนคงต้องรอคราวหลัง
พอผมทำท่าเตรียมจะเผ่นหนี ไอ้หัวโจกก็เหมือนจะรู้ทันมันกระชากคอเสื้อผมดึงเข้าไปหา แล้วมันก็ก้มหน้ากระซิบบอกอะไรบางอย่างจนผมหน้าซีดตกใจกลัวสุดขีดขนลุกวูบ
“อ๊ะ อ๊ะ ไอ้หน้าหล่อ เอ็งอย่าคิดหนีไปไหนเชียวนะ เดี๋ยวพวกเราไปสนุกกันทั้งหมดนี่แหละ พี่เป็นเสือไบ คืนนี้นอกจากน้องสาวคนสวยจะโดนรุมโทรมแล้ว น้องสุดหล่อก็ต้องเสร็จพี่ด้วยเหมือนกัน หึ หึ”
ผมเบิกตากว้างอยากส่งเสียงกรีดร้องออกมาดัง ๆ ถ้าพวกมันคิดจะทำอะไรเจนก็เรื่องหนึ่ง เธอไม่ได้มีอะไรกับผม ผมก็แค่ช่วยเท่าที่พอจะช่วยได้ แต่ตอนนี้มันกลับแสดงท่าทีชอบไม้ป่าเดียวกันอยากล่วงล้ำอธิปไตยของผมด้วย ผมเลยกลัวจนถึงขีดสุด แล้วพอคนเรามันกลัวถึงขีดสุด มันก็จะมีพลังความบ้าออกมา ผมยอมโดนมันยิงสักร้อยนัดดีกว่าปล่อยให้มันทะลวงประตูหลัง
ผมรู้สึกบ้าจนไม่คิดสนอะไรแล้ว นาทีผมคิดแค่ว่าจะเอาตัวรอดยังไง ผมปัดปืนมันไปทางอื่นแล้วแทงเข่าใส่กลางหว่างขาของมันสุดแรงเกิดเท่าที่จะทำได้ เสียงทึบหนักเหมือนมีอะไรแตกหักดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องอุ้กของไอ้หัวโจกคนนั้น มันทรุดฮวบลงไปนอนกลิ้งกับพื้นในสภาพตัวงอนอนกุมเป้ากางเกงน้ำลายฟูมปาก
พวกนักเลงอีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังมองลูกพี่ของพวกมันด้วยสายตางุนงง ส่วนผมตอนนี้กำลังบ้าไม่สนอะไรอีกแล้ว ผมคว้ามือหยิบเอาแท่งเหล็กที่วางพาดกับกำแพงขึ้นมาแล้วฟาดใส่หนึ่งในสองนักเลงสุดแรงเกิด ท่อนเหล็กหวดกระแทกใส่หัวของมันจนได้ยินเสียงเหมือนกระดูกหักดังลั่น แล้วมันก็ทรุดฮวบลงไปนอนกองบนพื้นอีกคน
นักเลงคนที่สามเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว มันล้วงมือเข้าไปในเสื้อทำท่าเหมือนจะหยิบปืนหรืออะไรบางอย่างออกมาสู้กับผม ผมเลยหวดแท่งเหล็กใส่มันสุดแรงอีกรอบ คราวนี้มันยกแขนขึ้นมากันได้ทันเลยไม่โดนส่วนหัว ผมเห็นมันกันได้ก็จับแท่งเหล็กแล้วกระหน่ำหวดใส่รัว ๆ แบบไม่ยั้ง มันยกแขนกันได้ไม่กี่ครั้งก็โดนผมหวดใส่หัวจนฟุบลงไปนอนกับพื้น
ความโกรธความกลัวมันกลายเป็นความคลั่ง ผมเห็นพวกมันล้มลงไปนอนกับพื้นหมดแล้ว แต่ผมก็ยังใช้แท่งเหล็กระดมหวดใส่พวกมันรัว ๆ แบบไม่ยั้งต่อไปจนเหงื่อชุ่ม พวกมันดิ้นไปดิ้นมาจนนอนแน่นิ่งไป ผมเองก็หวดจนมือถลอกง่ามมือฉีกเป็นแผล ผมหยุดตีพวกมันตอนที่เหนื่อยจนหายใจไม่ทันนั่นแหละ
“… ไนท์ …”
ผมยืนหอบเหงื่อท่วมตัวอยู่พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงเรียกของเจนดังมาจากด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นคุณหนูคนสวยยืนตื่น ๆ มองผมด้วยแววตาแปลก ๆ มันดูหวานฉ่ำไม่เข้ากับสถานการณ์ยังไงก็ไม่รู้ ผมหันไปมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมามองนักเลงสามคนที่นอนแน่นิ่งบนพื้นด้วยความรู้สึกใจหายวาบ ผมกลัวว่าจะเผลอทำพวกมันตายคามือ
“ขอบใจนะ … ที่ยอมเสี่ยงช่วยเรา …”
เจนพูดเสียงอ้อแอ้บอกผม เธอดูจะกำลังเมาและไม่ได้เข้าใจสถานการณ์อะไรเลยสักนิด ผมเลยรู้สึกโกรธเดินเข้าไปจับไหล่สองข้างของเธอแล้วเขย่าพร้อมกับส่งเสียงตะคอกใส่
“ไม่ต้องพูดเลยเจน เธอนั่นแหละที่หาเรื่องใส่ตัว”
“… ขอโทษนะไนท์ เราผิดไปแล้ว เราจะไม่ทำอีก”
พอผมเสียงดังใส่เธอกลับมองผมตาวาววับเหมือนถูกอกถูกใจอะไรบางอย่าง ผมไม่เข้าใจว่าเธอคิดอะไร แต่เห็นหน้าสวยแบบฉบับลูกคุณหนูของเธอมองผมหวานฉ่ำอารมณ์ร้อนของผมก็เย็นลงไปกว่าครึ่ง
“ไนท์เหมือนพ่อเราเลยอ่ะ มีผู้ชายคนเดียวที่กล้าดุกล้าขัดใจเรา แล้วก็มีผู้ชายแค่คนเดียวที่กล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเรา … ทำไมไนท์กล้าเสี่ยงช่วยเราล่ะ เธอคิดอะไรกับเราหรือเปล่าไนท์ เรารู้นะว่าไนท์แอบมองเราบ่อย ๆ”
เจนมองผมตาหวานฉ่ำแล้วก็พูดพึมพำกับผมด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นมึนเมา แถมยังยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นมาลูบแก้มลูบคางของผมเหมือนผู้หญิงที่กำลังมีอารมณ์ความรัก ผมกระพริบตาปริบ ๆ มองเจนด้วยความงุนงง ดูเหมือนว่าเจนกำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปอย่างรุนแรง
เมื่อครู่ผมระเบิดความบ้าหวดใส่พวกนักเลงไม่ได้เพราะอยากเสี่ยงชีวิตปกป้องเธอ ผมก็แค่ทำเพราะไม่อยากเป็นชายเหนือชายไม่อยากโดนบุกทะลวงประตูหลัง ผมไม่ได้ทำเพราะเจน แต่เจนดูเหมือนจะเข้าใจว่าผมยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเธอเอาไว้ ตอนนี้เธอเลยแสดงท่าทางปลื้มผมขึ้นมา
“… เราแอบชอบเจนไง แต่เจนเป็นแฟนกับไอ้แคนมันแล้ว”
ผมไม่โง่พอที่จะบอกความจริงออกไป ผมเลยเล่นตามน้ำ มองสบตากับเจนแล้วพูดให้น่าฟัง ทั้งที่ความจริงผมก็แค่อยากฟันเจนเฉย ๆ ไม่ได้อยากคบเป็นแฟนอะไรกันขนาดนั้น
“ไนท์ …”
เจนมองผมด้วยดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับ สองมือที่ลูบแก้มของผมขยับเปลี่ยนเป็นโอบกอดรั้งผมเข้าไปหา ผมค่อย ๆ โน้มหน้าเข้าไปช้า ๆ จนได้กลิ่นเหล้าในลมหายใจของเจน เธอหลับตาพริ้มแล้วเผยอปากเปิดทางให้ผมประกบปากแล้วจูบใส่
ความจริงผมเองก็ไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงของเพื่อน แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธถ้าผู้หญิงของเพื่อนจะเปิดทางให้ขนาดนี้ และผมรู้ว่าที่เจนทำแบบนี้ก็เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังเมาและกำลังปลื้มผมอย่างแรง อารมณ์มันเลยพาให้เธอทำแบบนี้ ผมแน่ใจว่าถ้าปล่อยให้เธอหายเมากลับไปสภาพเดิม ผมคงไม่มีทางได้ทำอะไรกับเธอแบบนี้แน่ ๆ
ผมรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสหนึ่งในพันล้าน ถ้าไม่คว้าไว้ก็อด ผมเลยสวมกอดร่างบางของเจนเอาไว้แล้วประกบปากจูบแลกลิ้นด้วยความนุ่มนวล เจนหลับตาพริ้มส่งเสียงหอบหายใจจูบแลกลิ้นกับผมเป็นพัลวัน แน่ใจได้เลยว่าเธอน่าจะไม่ซิง ถ้าผมเป็นไอ้แคนแฟนเธอผมก็คงไม่ยอมปล่อยให้เธอซิงจนถึงวันนี้แน่ ๆ
“อือออออออ”
ผมจูบแลกลิ้นกับเจนทั้งที่ด้านข้างยังมีพวกนักเลงนอนสลบเหมือด แถมยังเป็นพื้นที่หลังห้องน้ำที่กลิ่นไม่ค่อยดีนัก แต่นาทีนี้ผมรู้ว่าถ้าปล่อยไปจะไม่มีอีก และตอนนี้เวลายังมีจำกัด ถ้าปล่อยนานไปอาจจะมีใครมาขัดจังหวะได้ ผมเลยต้องรีบปิดเกมไม่ปล่อยให้นานเกินไป
ระหว่างที่จูบแลกลิ้นกันผมก็จัดการปลดตะขอกางเกงปลดปล่อยดุ้นเอ็นอันเขื่องออกมา ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้ไม่มีถุงยาง แต่ถ้าจะให้หยุดไปหาถุงยางตอนนี้ผมคงอดฟันเจนแน่ ๆ ผมเลยกลั้นใจลุยต่อ ลูกคุณหนูแบบเจนน่าจะไม่ต้องห่วงเรื่องโรคติดต่อ ส่วนเรื่องท้องไส้อะไรค่อยว่ากันอีกที
“อื๊ออออ อืออออออ”
เจนส่งเสียงครางในลำคอ ตัวเธอกระตุกน้อย ๆ ตอนผมล้วงมือลงไปใช้นิ้วแยงสำรวจร่องสาว ผมสอดนิ้วแยง ๆ อยู่ครู่เดียวของเจนก็เปียกชื้นแฉะ ผมว่าเธอน่าจะโดนไอ้แคนเอาไปไม่กี่ครั้งเพราะสภาพยังฟิตแน่นตอดนิ้วไม่แพ้ของน้องหมวยสักเท่าไหร่นัก
ผมจูบปากพลางแหย่นิ้วจนของเจนเปียกชุ่มแล้วก็เตรียมลุยต่อ ผมจัดการถอดกางเกงของเธอแล้วจับขาขาวเรียวขึ้นมาพาดบนบั้นเอว เจนตัวกระตุกผวากอดผมแน่นตอนเริ่มกดส่วนปลายหัวบานร่ามุดแทรกใส่ร่องสาว เธอหอบหายใจแรงขึ้นและจูบแลกลิ้นกับผมหนักหน่วงขึ้น ไม่มีท่าทีว่าจะต่อต้านขัดขืนอะไรเลยสักนิด
“อื๊ออออออ … อื้มมมมมมม …”
ผมขยับโยกบั้นเอวไปมาอยู่เกือบหนึ่งนาทีส่วนปลายหัวก็มุดผลุบเข้าไปในร่องสาวของเจนได้สำเร็จ เธอถึงกับตัวเกร็งสั่นระริกจิกเล็บใส่กลางหลังของผมจนรู้สึกเจ็บแสบ แน่ใจได้เลยว่าเธอยังไม่เคยโดนขนาดยาวใหญ่แบบของผมมาก่อน
พอส่วนหัวมุดเข้าไปได้ที่เหลือก็ง่ายกว่าเดิม ผมจับขาอีกข้างของเจนขึ้นมาพาดบนบั้นเอวจะได้ถ่างอ้ากว้างกว่าเดิม เธอหอบหายใจฟืดฟาดตอนผมเดินหน้าบุกทะลวงเข้าไปในความฟิตแน่นทีละน้อย พอผมบุกเข้าไปจนชนกับผนังด้านในสุด เจนก็ผวากอดผมแรง ๆ ครั้งหนึ่ง
ผมยืนซึมซับความสุขจากแรงตอดรัดของเจนครู่หนึ่ง แล้วก็รอให้เธอปรับตัวรับขนาดของผมด้วยอีกทาง ระหว่างนี้ผมปล่อยจูบออกมาให้เธอหายใจหายคอด้วย สอดใส่กันมาขนาดนี้แล้วต่อให้เจนเปลี่ยนใจก็คงไม่ได้
“… อือออ … ไนท์ … ทำไมมันใหญ่จังเลย … มันจุก แล้วก็เสียวดีจัง … อือออออ”
เจนปรือตามองผมพูดเสียงหวานฉ่ำมีความสุข ผมมองเธอตอบแล้วขยับไปหอมแก้ม แล้วก้มหน้าจูบไซร้ซอกคอ เจนตัวสั่นขนลุกวูบผวากอดผมแน่น และตอนนี้ผมก็เริ่มตะปบมือลงไปขยำบีบขยี้แก้มก้น แล้วขยับบั้นเอวกระแทกซอยใส่เจนช้า ๆ
“ซี้ดดดสสส … ไนท์จ๋า … ดีจัง … อืออออ … ดีจัง … ทำไมมันเสียวขนาดนี้ … ซี้ดดดสสส … อื้อออออ”
คุณหนูคนสวยส่งเสียงครางไม่ได้ศัพท์ ท่าทางเหมือนเธอยังไม่เคยเสียวขนาดนี้มาก่อน เดาได้เลยว่าไอ้แคนแฟนเธอน่าจะเป็นพวกไก่อ่อนไร้ลีลา แบบนี้ผมแน่ใจว่าเจนจะต้องติดใจรสเสียว แล้วให้ผมฟันเธอในอนาคตอีกแน่นอน
“เจนสวยเหมือนนางฟ้าเลยครับ เอาก็มันสะใจ ของเจนฟิตเหมือนยังซิงอยู่เลยนะรู้หรือเปล่า อูยสสส”
ผมสูดปากครางพลางพูดชมเอาใจเธอไว้ก่อน ระหว่างนั้นผมก็ขยับมือจากสะโพกขึ้นมาถลกชายเสื้อแขนกุดขึ้นไปกองไว้เหนือเต้า แล้วผมก็ตะปบมือขยำนมเต้าขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กของเจนอย่างเมามันเพื่อช่วยเพิ่มความเสียวให้เธอด้วยอีกทาง นมของเจนแค่ขนาดมาตรฐานไม่ใหญ่สะใจเหมือนของน้องหมวย แต่ผิวของเจนทั้งขาวทั้งเนียนกว่ามากทีเดียว
“อืออออ อืออออออ ซี้ดดสสสสส อืออออ ไนท์จ๋า … ซี้ดดสสส … ตอนแคนทำไม่เห็นเสียวอะไรแบบนี้เลย … อือออ”
เจนร้องครางสะบัดหน้าไปมา ส่วนผมก็เร่งเครื่องกระแทกเอวซอยยิกแรงขึ้นพร้อมกับขยำนมเต้าของเจน เสียงปั้บปั้บดังสนั่นจนผมกลัวจะมีคนได้ยิน แต่นาทีนี้ผมไม่มีเวลามากนัก ผมต้องรีบตักตวงความเสียวให้เสร็จก่อนที่จะมีใครมาขัดจังหวะ
“ไนท์ … ไนท์ … ไนท์จ๋า … ไม่ไหวแล้ว … อึ๊ยยยย … อื๊อออออออออออออ”
โดนโหมเร่งเครื่องขนาดนี้เจนก็คงทนเสียวไม่ไหว เธอตัวกระตุกพราด ๆ ร้องเรียกชื่อผม ก่อนจะตัวเกร็งเสร็จสมอารมณ์หมายคาแรงกระเด้าของผมไปก่อนหนึ่งยก เธอกอดผมแรงมากจนผมต้องหยุดชะงักกระเด้าต่อไม่ได้ทั้งที่ใกล้เสร็จเหมือนกัน แต่ยังดีที่ของเธอตอดใส่แรงมาก ผมกดแช่ไว้สักพักก็เริ่มจะทนไม่ไหว น้ำแตกกระฉูดเสร็จตามเจนไปได้เหมือนกัน
พอเสร็จกันทั้งคู่ผมกับเจนก็เหมือนจะหัวโล่งขึ้นมานิดหน่อย เธอมองผมตาแป๋วตอนเรายืนกอดกัน ตอนนี้ของเธอตอดหนุบหนับใส่ผมไม่หยุด ผมเองก็ขยับเอววนไปมาเบา ๆ เป็นการหยั่งเชิงเผื่อว่าเจนจะให้ผมทำอีกรอบ
“… ทำไมมันยังแข็งอยู่อีกล่ะไนท์ … ของแคนทำแวบเดียวก็เสร็จแล้ว แถมพอเสร็จมันก็อ่อนปวกเปียกหมดแรง … ไนท์ยังทำไหวอีกเหรอ …”
“อือ ของเรามันแข็งแบบนี้แหละ ปกติทำได้วันละห้าถึงหกรอบอยู่นะ”
“เห็นเงียบ ๆ นิ่ง ๆ หื่นมากเลยนะนายน่ะ”
“หื่นแล้วชอบหรือเปล่าล่ะ เจนร้องครางเสียงหลงเลยนะ”
“… อื้อ ก็ชอบอยู่นะ … ตอนแคนทำเราไม่เสร็จเลยสักครั้ง … ไนท์เพิ่งทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ มันเสียวขนาดไหน”
เจนพูดเปิดเผยยอมรับจนผมแปลกใจ จริง ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าเจนเป็นพวกตรงไปตรงมายอมหักไม่ยอมงอ แต่ก็ไม่นึกว่าเธอจะเปิดเผยขนาดนี้
“หยุดเลยนะนายไนท์ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ทำตรงนี้เดี๋ยวก็มีใครมาเห็นเข้ากันพอดี”
เธอมองผมดุ ๆ แล้วก็ทำท่าผลักผมออกเพราะว่าผมเผลอซอยเอวใส่เธอด้วยความหื่นรอบสอง ผมชะงักแล้วยิ้มแห้ง ๆ แก้เก้อแอบเสียดายที่ไม่ได้ทำต่อ ผมไม่มั่นใจว่าหลังจากนี้เจนจะยอมให้ผมทำอีก ผมเลยว่าจะแอบเนียนทำต่ออีกสักรอบ แต่พอเธอดุใส่ผมก็เลยต้องถอนตัวออกมา ปล่อยให้เจนยืนขาสั่นใส่กางเกงในจัดเสื้อผ้าให้แลดูเรียบร้อย
“ดูทำหน้าเข้า … วันหลังไว้เจนไปหาไนท์ที่ห้องก็ได้ จะได้ทำอะไรได้สะดวกหน่อย ไปกันเถอะเดี๋ยวไอ้พวกนักเลงขี้ไก่พวกนี้ฟื้นขึ้นมา”
เจนเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร เธอมองผมที่ยืนควยโด่อยู่แล้วก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักสดใส ผมได้ยินเธอพูดแบบนี้ก็ยิ้มแฉ่งดีใจรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เราสองคนช่วยกันดูความเรียบร้อยให้กันรอบหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในผับ
“หายไปไหนกันมาตั้งครึ่งชั่วโมง โทรไปก็ไม่รับเลยทั้งคู่ ไอ้โทนมันไปเดินหาอยู่ข้างนอกโน่นแน่ะ”
พอเห็นหน้ากัน แคนก็รีบถามเจนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เจนทำหน้านิ่งไม่ได้ตอบอะไร เธอขยับไปนั่งทำหน้ามุ่ยแล้วหยิบน้ำเปล่ามาดื่มอึก ๆ ผมเห็นแล้วคิดว่าเธอน่าจะปล่อยให้ผมเป็นคนอธิบายโทน
“ไม่มีอะไรไอ้แคน แค่พาเจนไปสงบสติอารมณ์หลังร้าน ว่าแต่ไอ้โทนมันไปเดินหาที่ไหนถึงได้ไม่เห็น โทรบอกมันกลับกันได้แล้ว พรุ่งยังมีคอร์สเรียนอยู่อีก”
ผมตอบแคนด้วยเสียงเหมือนเบื่อหน่าย แคนมองผมแล้วคิดก่อนจะพยักหน้าทำท่าเหมือนจะขอบคุณ มันคงเข้าใจว่าผมเบื่อที่ต้องลากเจนไปดับอารมณ์โกรธ
“ไม่ต้องโทรจ้า โทนสุดหล่อมาแว้ว”
พอผมหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้ไม่ทันไร ไอ้เจ้าโทนไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน มันส่งเสียงโพล่งเหมือนอารมณ์ดี ผมรู้สึกเสียววูบแปลก ๆ ตอนที่มันมองผมกับเจนด้วยสีหน้ายิ้มแปลก ๆ เหมือนมันเห็นอะไรมา
“ไอ้โทนหายไปไหนมา เจนกับไนท์อยู่หลังร้านนี่เอง แกไปหาถึงไหน”
“เราก็เดินไปทั่วแหละ หาตั้งแต่หน้าร้านยันหลังร้าน ตั้งแต่หน้าห้องน้ำยันหลังห้องน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนี่นา”
โทนมันหันไปตอบแคนด้วยเสียงกวน ๆ ชวนหัวเราะ คำพูดของมันเหมือนไม่มีอะไร แต่ว่าผมกับเจนสะดุ้งร้อนตัวขึ้นมาพร้อมกัน เพราะว่ามันพูดคลุมไปถึงหลังห้องน้ำ ยิ่งมองมันทำหน้าทำตามีเลศนัยผมก็ยิ่งรู้สึกว่ามันคงจะเห็นอะไรเข้าแล้ว เพียงแต่ไม่ได้พูดบอกแคน
ผมกับเจนหันไปมองสบตากันแวบหนึ่ง เธอแค่ตกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากมาย ผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร แต่ผมคิดว่าโทนมันคงจะไม่พูดเรื่องนี้ ไม่งั้นมันก็คงพูดไปแล้วตั้งแต่แรก เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร มันอยากเก็บความลับไว้เรียกร้องอะไรจากผมกับเจนหรือเปล่า หรือว่าแค่ไม่อยากพูดออกมา
พวกเราสี่คนนั่งดื่มอีกครู่เดียวก็จ่ายเงินออกจากร้าน แคนทำหน้าที่คนขับโดยมีเจนแฟนสาวนั่งอยู่ด้านข้าง ส่วนผมกับโทนนั่งเบาะหลัง ระหว่างทางกลับโทนยังพูดจ้อเหมือนเดิม แต่เจนค่อนข้างนั่งเงียบไม่ได้พูดอะไรมาก ผมเห็นเธอนั่งกดโทรศัพท์มือถือเล่นตลอด ดูเหมือนเธอกำลังพิมพ์ข้อความส่งหาใครสักคน
ผมเอะใจรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่าน แล้วก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ มีข้อความจากเจนส่งมาหาผมนับสิบข้อความ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการบ่นใส่ผม เช่นบอกว่าเจ็บระบมตรงนั้น หรือบ่นใส่ว่าทำไมผมปล่อยแตกใน เธอบอกว่าถ้าท้องเธอจะให้ผมรับผิดชอบเป็นพ่อเด็ก แล้วกำชับปิดท้ายว่าจะหาโอกาสนัดเจอกับผมในวันหลัง
ผมนั่งยิ้มพิมพ์ข้อความตอบกลับ แล้วเอนหลังพิงกับเบาะนั่ง ถ้ารู้ว่าทำงานแล้วจะได้เสียวกับสาวสวยอย่างน้องหมวยกับเจน ผมคงจะรีบเรียนให้จบมหาวิทยาลัยไปตั้งนานแล้ว