ก่อนอ่าน ความจริงเรื่องนี้ผมเคยลงในเวปเพื่อนบ้า่นไปแล้ว แต่ได้นำมาปรับปรุงใหม่
และขอเอามาลงที่นี่ คงไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า COPY นะครับ แพราะเป็นเรื่องที่ผมเขียนเอง
บางท่านอาจเคยอ่านมาแล้ว ก็ข้ามเลยนะครับ
.........................................................
ผมไม่ซ่อนข้อความนะครับ แรงใจจากผู้อ่านก็มีค่าเสมอ (เหมือนนักเขียนท่านอื่นๆนั่นละ)ที่จะสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
.........................................................
น้องฝ้าย 1 (โยนหินถามทางว่าควรเขียนต่อหรือไม่)
กระแสของดารานักร้องเกาหลีเข้ามามีอิทธิพลไม่น้อยต่อสังคมไทย วัยรุ่นไทยโดยเฉพาะผู้หญิง หลายคนไปรอรับถึงสนามบินเมื่อรู้ข่าวว่านักร้องนักแสดงเกาหลีจะมาเมืองไทย จึงไม่แปลกทุกครั้งที่นักร้องเกาหลีมาเปิดการแสดง วัยรุ่นไทยจึงต้องพากันแย่งซื้อตั๋วเข้าดูอย่างล้นหลาม
ผู้ผู้ปกครองหลายคนพยายามห้ามปรามลูกหลานของตนไม่ให้ไปคลั่งไคล้กันมากนักเพราะกลัวเสียการเรียน แต่โลกโซเชียลทุกวันนี้มันแทบจะปิดกั้นอะไรไม่ได้เลย มือถือ+ หูฟัง+ ยูทูป+ เพลงเกาหลี ทำให้เด็กนอนตีหนึ่งตีสองมาแล้วไม่น้อย
ฝ้าย เด็กสาววัย14 ก็ไม่ต่างกับเด็กคนอื่น เธอเป็นหนึ่งในจำนวนเด็กหลายหมื่นหลายแสนคนที่คลั่งไคล้นักร้องเกาหลี ครอบครัวของฝ้ายเป็นครอบครัวของผู้ดีเก่ามีที่ดินหลายร้อยไร่ให้คนเช่าในเขตชานเมืองนอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางสูตรสมุนไพรส่งขายตามห้าสรรพสินค้าทั้งในและต่างประเทศ แต่พ่อแม่ของฝ้ายก็เป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ และยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี ด้วยความที่ฝ้ายเป็นลูกคนเดียวฝ้ายจึงถูกเลี้ยงดูด้วยความเข็มงวด นอกจากไปโรงเรียน กับติดตามพ่อแม่ไปโรงงาน แล้วฝ้ายแทบไม่มีโอกาสไปไหนได้เลย แต่ธรรมชาติของคนเรา ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
การที่น้องฝ้ายมาขออนุญาตไปดูคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีในคืนวันเสาร์ของอีก3วันที่จะถึงจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าฝ้ายจะอ้อนวอนพ่อแม่เพียงใด คำตอบคือ “ไม่”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
“ลุงดำ ป้าเจียม ดูแลบ้าน และที่สำคัญดูแลน้องฝ้ายให้ดีนะ อย่าให้แอบหนีเที่ยวอีกเด็ดขาด “ คุณวิทูรย์สั่งกับแม่บ้านและคนสวนก่อนที่จะเดินทางไปติดต่อเรื่องยาสมุนไพรที่จีน
“รับรองเด็ดขาดครับ ผมกับนังเจียมช่วยดูแลอย่างดี คุณผู้หญิงคุณผู้ชายสบายใจได้เลย” ลุงดำบอก
“เชอะ .. รับรองนั่นละ แล้วเป็นไงคราวก่อนมัวแต่นอนกลางวัน น้องฝ้ายแอบออกหลังบ้านไปยืนรับดาราเกาหลีที่สนามบินยังไม่รู้ตัวอีก ดีนะที่ฉันเห็นในกล้องวงจรปิดถึงได้คาดคั้นกับน้องฝ้ายจนรู้ความจริง”
คุณรตี แม่ของฝ้ายทำเสียงดุ
“แฮะๆ คราวนั้นมันเผลอจริงๆ ครับ แต่ครานี้รับรอง”
“เออๆ ช่วยกันดูแลให้ดีแล้วกัน ไม่งั้นฉันกลับมา ลุงป้า 2คนได้หางานใหม่ทำแน่”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
“ฉันบอกแกแล้วคราวก่อนว่าดูแลคุณหนูให้ดี “ ป้าเจียมบ่นกับลุงดำ “เฮ้อ!!!! คุณหนูฝ้ายนี่ก็เหลือเกิน เห็นเรียบร้อยๆ พอจะเกเร ก็เล่นเอาคนแก่อย่างพวกเราเดือดร้อนได้เหมือนกัน”
“แกเอ้ย...” ลุงดำบอก “ ฉันว่าคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายก็เข้มงวดเกินไป แค่คุณหนูจะไปเดินห้างไปดูคอนเสิร์ตบ้างก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร”
“หาเรื่องแล้วนะแก ไปๆ ไปทำงานหรือมึงอยากไปเก็บขยะขายอีก”
บ้านคุณวิทูรย์ เป็นบ้านเดียว 2ชั้น กับเรือนพักคนงาน1หลังอยู่ด้านท้าย ภายในที่ดิน1ไร่ ด้วยความที่คุณวิทูรย์กับคุณรตีเป็นคนรักความเงียบสงบ จึงไม่รับคนงานมาอยู่ด้วยมากนัก คงมีแต่ป้าเจียมแม่บ้านวัย45คนรับใช้เก่าแกตั้งแต่รุ่นพ่อของคุณวิทูรย์ ลุงดำวัย57 สามีป้าเจียมอดีตคนเก็บขยะขายที่พบรักกับป้าเจียมด้วยความบังเอิญเมื่อ5ปีก่อน จึงมีโอกาสได้เข้ามาอยู่กับป้าเจียมเปลี่ยนอาชีพจากคนเก็บขยะเป็นคนสวน ทั้งสองมีลูกด้วยกัน1คนคือน้องออย เป็นเด็กหญิงวัย 4ขวบ
ส่วนครอบครัวของคุณวิทูรย์ประกอบด้วยคุณวิทูรย์ คุณรตี น้องฝ้ายลูกลาวคนเดียว และน้องแยมเด็กหญิงวัย 12 หลานสาวคุณรตี ซึ่งคุณรตีให้มาอยู่ด้วยเพื่อเป็นเพื่อนกับน้องฝ้าย
.............................เรื่องราววุนวายของบ้านนี้กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ และน้องฝ้ายอยากไปดูคอนเสิร์ทของนักร้องเกาหลี............................