แวะทักทายไอ้คนเขียนแปปยินดีด้วยนี่คือเรื่องใหม่ และโปรดอย่าถามถึงเรื่องเก่า พอดีไม่ใช่คนชอบพูดเรื่องอดีต 555555 ไม่ใช่แหละ คือเขียนเรื่องนี่ไว้นานละ แต่ตั้งใจปล่อยหลังจาก Out of มันไหลไปพักนึงก่อน
บางคนอาจรำคาญไอ้ดนัยแสนทึ่ม บางคนอาจจะคิดถึงนักสาวสุดสวยกับไอ้ยักษ์หน้าเข้มของเธอ และผมเห็นมีหลายคนอยากรู้จักนายอินทรีกับหนูดาวแล้ว จากการยัดลงไปใน Out of ตอนที่แล้ว (รีบไปอ่านซะ แอบขายของตัวเองแปป)
เรื่องนี้จะไม่ต้องปูอะไรให้มากมาย เพราะเราเสียเวลาไปใน Out of กันจนคนดูเริ่มเอื่อมแล้ว เรื่องนี้จะเน้นหนักไปเรื่องบนเตียง กับชีวิตรักใคร่ๆของอีกหนึ่งเจ้าชู้ตัวพ่อคนนี้ (แน่ละว่ามีคิวบู๊แก้เบื่อด้วย)
ขอให้ทุกท่าน Enjoy
![Falling ::Falling::](//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/Smileys/emo/28.gif.pagespeed.ce.b-QlFo1ows.gif)
 
ลวง 1 คุณชายกับยัยดาว“สวัสดีค่ะ ตอนนี้ดิฉันรายงานสดจาก อาลีเฮีย รีสอทต์ ที่ตอนนี้กำลังมีเหตุการณ์ชิงตัวเจ้าสาวกลางงานแต่งค่ะ ราวกับนิยายน้ำเน่าเลยค่ะ แต่นี้คือเหตุการณ์ล่าสุด ตอนนี้ผ่านไปกว่าสองชั่วโมง แต่ทางกลุ่มผู้กระทำยังคงปักหลักภายในตัวอาคารที่จัดงาน และไม่ยอมเจรจากับทางเจ้าหน้าที่มาตรึงกำลังปิดล้อมค่ะ”
นักข่าวสาวสวยยืนอยู่หน้าเขตล่วงห้ามของเจ้าหน้าที่ พร้อมกับอาคารด้านหลังที่ถูกปิดสนิททั้งประตูหน้าต่างและเอาม่านลงเพื่อกันไม่ให้ใครเห็นด้านใน แต่ระหว่างนั้นนักข่าวสาวก็ได้รับรายงานแผ่นหนึ่งจากลูกน้องเมื่อเธอเห็นก็รีบรายงานข่าวสดๆที่พึ่งได้รับมาทันที
นักข่าว: “ตอนนี้แหล่งข่าวภายในรายงานมาว่ากลุ่มคนด้านในมีอาวุธสงครามในครอบครองด้วย และตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังวางแผนบุกเข้าไปด้านในค่ะ”
 
ในระหว่างที่เธอกำลังบรรยายเหตุการณ์อย่างเมามันส์ เสียงเข้มจากข้างๆกล้องก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงใหญ่กำยำสมชายชาตินักรบก็โผล่พรวดเข้ามาในกล้อง
เข้ม: “นี่ให้ลูกน้องอ่านไลน์เค้าอีกแล้วใช่มั้ย ย้ำนักย้ำหนาแล้วว่าอย่าเอาไปออกข่าวไงยัยแสบ!!!”
แต่แทนที่นักข่าวสาวจะตกใจที่ตำรวจหนุ่มรูปหล่อในชุดเกราะพร้อมรบพุ่งพรวดเข้ามา เธอกลับยืนไมค์ไปสัมภาษ์เขาราวกับเป็นเรื่องปกติ
เลนส์: “คุณตำรวจค่ะ ตอนนี้ทางตำรวจมีแผนยังไงกับเรื่องนี้ค่ะ แล้วคิดว่าสถานการณ์ด้านในจะคลี่คลายไปในทิศทางใดค่ะ?”
ตำรวจหนุ่มกุมขมับกับแม่นักข่าวสาวสุดสวย เวรของไอ้เข้มแท้ๆ ผู้หญิงมีเป็นล้านดันมาตกหลุมรักนักข่าว บอกอะไรแม่คุณ แม่คุณก็เอาไปออกข่าวหมด แล้วถ้าเขาไม่บอกอะไรแม่คุณก็งอนตุบป้อง แล้วตอนนี้เขาก็พึ่งถูกผู้การตักเตือนไป เขาเลยออกมาห้ามเธอ แต่นี่เธอยังจับเขาสัมภาษ์อีกเหรอ
เลนส์: “ห้ามหนีนะ ตอบดีๆด้วย ไม่งั้นละก็....รู้นะว่าตัวเองจะเจออะไร”
เธอแอบกระซิบเขาเบาๆ ตำรวจร่างใหญ่หน้าเข้มแอบกลืนน้ำลายก่อนจะตกเป็นแหล่งข่าวชั้นเยื่ยมให้เธอรีดข้อมูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“โธ่ลูกพี่กู หน้าหดเหลือสามนิ้ว”
ตำรวจหนุ่มรุ่นน้องนั่งขำน้ำตาไหลอยู่หน้าทีวีเครื่องเล็กที่ลูกพี่ตนกำลังถูกแฟนตัวเองจับรีดข้อมูลโดยไม่มีปัญหาขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงใดๆ แถมข้างๆพวกเขาก็ยังมีเจ้าหน้าที่ในชุดเกราะแบบเดียวกับคนที่ถูก(จับ) สัมภาษ์อีกหลายสิบชีวิตนั่งอยู่รอบๆ บ้างคนนั่งขำ บ้างคนเพียงอมยิ้ม แต่มีไม่กี่คนที่นั่งกุมขมับอยู
่
ผู้การถวิล: “นี่กูส่งมันออกไปทำไมวะเนี่ย”
ผู้การสุดเนี๊ยบมองจอข่าวแล้วเปร่ยกับตัวเองเบาๆ โดยที่ไม่ใครได้ยิน
หน่วยพวกเขาถูกเรียกมาปิดล้อมพื้นที่ทันทีเมื่อตำรวจท้องที่พบว่าอีกฝั่งมีอาวุธร้ายแรงในครอบครอง พวกเขามีหน้าที่ปิดล้อมไว้ จนกว่าจะเจรจาสำเร็จหรือมีเหตุอะไรเปลี่ยนแปลงก่อนที่หน่วยสวาทจะมาถึง
แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อประตูหน้าอาคารบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมไอ้โม่งถือปืนกลพิมนิยมรุ่นAk-47
เดินนำชายคนหนึ่งออกมาหน้าตาชายที่เดินตามมามีรอยผกช้ำหลายแหล่ง
พวกมันปล่อยให้ชายคนนั้นเดินไปหาตำรวจ ชายผู้โชคดีรีบวิ่งแจ้นไปหาตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด
แต่ตำรวจหนุ่มคนหนึ่งแพ่งมองพวกมันผ่านจอทีวีที่ต่างซูมไปยังเหตุการณ์ด้านหน้าอาคารคล้ายกำลังสังเกตุอะไรอยู่ ในเวลาที่ชายที่ถูกปล่อยวิ่งมาได้ครึ่งทางตำรวจหนุ่มก็ตาโตและรับคว้าปืนและกระชากเพื่อนที่นั่งข้างๆขึ้นมาด้วย
“ไอ้คุณชาย บอกผู้การรีบให้ข้างนอกส่องไอ้สามตัวด่วน!”
แม้จะแสนสงสัยแต่ด้วยความที่เชื่อใจกัน เจ้าของชื่อคุณชายก็สิ่งแบกหน้าหล่อราวดาราไปหาผู้บังคับบัญชาที่กำลังขมวดคิ้วเพราะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน
แต่ทว่ามันช้าเกินไป!
พวกมันยกปืนขึ้นยิงชายที่มันพึ่งปล่อยออกมา เสียงปืนกลในมือพ่นห่ากระสุนทะลวงชายคนนั่นจากด้านหลังหยาดโลหิตกระจายเป็นละอองสีแดงดูสยองฟุ้งไปทั่ว
พร้อมกับอีกสองคนที่ยกปืนในมือกราดกระสุนใส่ทุกอย่างที่พวกมันเห็น
เข้มรีบคว้าแฟนสาวและวิ่งไปชนทีมงานทำข่าวของเลนส์ให้ล้มลงเพื่อหลบกระสุนปืนที่อาจเป็นอันตราย หลายคนบริเวณรอบๆก็มีไทยมุงได้รับบาดเจ็บนอนโอดโอยกันเป็นจำนวนมาก
เข้มรีบกลิ้งพลิกตัวคว้าปืนพกออกมายิงสวนไปส่งๆหลายนัดเพื่อบีบให้มันหยุดยิง
พวกมันก็ฉลาดพอที่รีบหลบเข้าไปในอาคารก่อนที่ทางตำรวจจะเริ่มยิงสวนและไม่ลืมตะโกนขู่อีกรอบ
“พวกมึงหลีกไปให้หมด ไม่งั้นทุกคนในนี้ตายห่าแบบไอ้นี่แน่นอน ฮ่าๆ”
ประตูบานใหญ่ปิดลงอีกครั้ง แต่ก่อนประตูจะปิดสนิท หัวของไอ้คนที่พูดก็กระเด็นไปพร้อมรูกลางหน้าผากส่งวิญญาณไปนรก
วิทยุตำรวจ: “ยักษ์เล็กยืนยันสังหารหนึ่ง ย้ำมันร่วงไปหนึ่ง”
เจ้าของรหัสยักษ์เล็กที่รีบวิ่งออกมาเอาปืนมากางขาทรายบนตัวรถหุ้มเกราะและยิงเจาะกบาลจากระยะไกลอย่างทันท่วงทีเป็นคนวิทยุแจ้ง
วิทยุตำรวจ: “จากวังยักษ์ ยักษ์เล็กทำแต้มได้ดี เรียกทุกทีมเข้าสู่ปฎิบัติการได้ พวกเขาจะถึงใน 15 นาที ทุกคนประจำตำแหน่ง”
ทุกคนรีบคว้าปืนออกมาจากเต้นท์บางคนวิ่งไปตามจุดต่างๆ บางคนกระโดดขึ้นรถหุ้มเกราะและเคลื่อนรถเข้าไปใกล้ๆอาคารพร้อมกับผลปืนกลเบาที่เปิดฝาด้านบนหลังคาออกมาพร้อมยิง หลักการการช่วยเหลือตัวประกันโดยทั่วไปคือจะไม่มีการบุกถ้าตัวประกันยังไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อพวกมันกล้ายิงคนต่อหน้าพวกเขาก็เท่ากับพวกมันต้องเตรียมตัวรับการบุกและแน่นอนพวกเขาไม่ใจดีกับพวกมันแน่
เข้ม: “จากยักษ์ใหญ่ ขอจัดการปัญหาภายใน5นาที”
เสียงวิทยุตอบกลับมา
“วังยักษ์บอกให้แค่สามครับ”
เข้มไม่รอช้ารีบอุ้มแฟนสาววิ่งออกไปห่างแนวยิงเมื่อไกลพอเขาก็วางเธอลงและหอมแก้มหล่อนเบาๆ
เข้ม: “เย็นนี้อยากินต้มยำกลับไปทำรอเลยนะ”
เขาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะวิ่งหน้าตั้งกลับไปทิ้งนักข่าวสาวให้ยืนทำตัวไม่ถูกได้แค่ลูบรอยปากเขาบนแก้มแดงๆอย่างเอียงอาย
เลนส์: “ไอ้ยักษ์บ้า!! ถ้าวันนี้ไม่มานะค่อยดู”
“งานนี้วังจะควบคุมคนเดียว ทุกคนรับคำสั่งที่ผม ทีมรังนกบทเดิมเอาประตูหน้าไป ทีมยักษ์ษาระวังตูดให้พวกมัน ขนมหวานอยู่รอบนอกระวังหน้าต่างไว้ ส่งผีป่าเข้าไปรอได้เลย”
ผู้การถวิลพูดผ่านวิทยุแบบติดหูภายในเต้นท์ที่มีดาบแสงและฝ่ายเทคนิคจากทีมฝูงนกและขนมหวานนั่งเรียงกันด้านหน้าเป็นอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องโน็ตบุ๊คที่ต่อพวงกับอุปกรณ์อีกหลายชิ้น
“ท่านครับผู้การสวาทจะคุยกับท่านครับ”ตำรวจที่นั่งฝั่งขวาดาบแสงหันมาแจ้ง
ผู้การ: “เอาขึ้นจอเลย”
ผู้บังคับบัญชาทั้งสอนคนคุยกันไม่กี่คำผู้การก็ตบไหล่ดาบแสง
ผู้การ: “นับถอยหลังเลย ส่งสัญญาณไฟเขียวได้”
ดาบแสง: “จากวัง ไฟเขียวแล้ว นับถอยหลังได้ทุกคนขอให้โชคดีครับ”
ทีมฝูงนก
ทีมนี้คือทีมบุกตะลุย งานไหนต้องการปะทะแบบยิงกันบานเบอะต้องให้พวกเขา ในหน่วยเขาแต่ละทีมจะมีจุดเด่นของตัวเอง
อย่างทีมยักษาจะเน้นที่เป็นทีมอเนกประสงค์ หากเป็นหาข่าวหรือสะกดรอยจะเป็นทีมพนา การปะปนในฝูงชนจะเป็นงายหลักๆของทีมขนมหวาน
วิทยุตำรวจ: “ยักษ์เล็กเข้าจุดแล้ว บิ้กเบิร์ดเปิดเทศกาลได้เลย”
อินทรีมองหัวหน้าทีมที่ของตนกระชับปืนปืนกล ทราโว่รุ่นดัดแปลงพร้อมเลียปากอย่างตื่นเต้น
บิ้กเบิร์ดหรือบิ้กเป็นตำรวจไซต์ไททัน เป็นไอ้บ้ากล้ามที่แท้จริง ใหญ่จนยักษ์ใหญ่ของทีมยักษ์ต้องคิดหนักถ้าจะปะทะด้วย
วันนี้รับบทหัวหน้าชุดบุกของหน่วย
บิ้ก: “พวกเราออกล่าได้ จับคู่แบบเดิม อินทรีงานนี้ที่แคบเยอะฝากมึงด้วยละ”
นายอินทรี ที่เขากำลังพูดถึงอยู่ ก็คืออินทรีเพื่อนรักเพื่อนเลิฟไอ้ดนัยนี่ละ
หนุ่มหล่อตรวจกระสุนในรังเพลิงของปืนพกในมือทั้งสองเพื่อให้แน่ใจว่ามันพร้อมเด็ดทุกชีวิตที่คิดสู้ด้านใน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เลือกใช้ปืนกล เอากลับเลือกปืนพกมาอีกกระบอกแทน
บิ้ก: “ไอ้เข้ม ระเบิดควัน”
เข้ม: “จัดไป!!”
เข้มยกเครื่องยกลูกระเบิดควันใส่ที่ยิงใต้ลำกล้องปืนกลในมือจะส่งระเบิดควันใส่หน้าต่างชั้นต่างๆพร้อมอีกหลายคนที่โยนตามเข้าไปในตึกอีกหลายลูก ไม่นานตึกสามชั้นทรงสี่เหลื่ยมยาวก็จมลงในหมองควันหนาทึบรบกวนและยดบังสายตาด้านใน
พั่บๆๆๆๆ
เครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุกหน่วยสวาทจะบินเข้ามาอยู่เหนือตึกตามแผนและทิ้งเชือกโรยตัวลงมาที่ตึก
ในหว่างนั่นพี่บิ้กก็เปิดประตูด้วยลูกซองใต้ลำกล้องเจาะกลอนประตูหายวับ
ร่างทีมบุกเคลื่อนเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ
ฝั่งวายร้ายด้านในก็เสียเปรียบจากควันจึงถูกทีมลุยที่มีการใช้กล้องในอาคารชี้ตำแหน่งพวกมันให้เจ้าหน้าที่บุกทราบไล่เด็ดไปทีศพสองศพแน่นอนว่าเป็นฝีมือของฝ่ายเทคนิคในเต้นท์บัญชาการ
แต่ด้านบนอาคารที่ไม่มีใคร ตรงประตูออกด้านนอกก็ถูกเปิดออกพร้อมชายติดอาวุธที่โผล่ออกมากะชิงส่อยหน่วยสวาทที่กำลังโรยตัวลงมาอยู่
แต่มันก็ไม่ทันได้ยกปืนขึ้นเสียงกระสุนจากปืนซุ่มยิงของดนัยแผดส่งกระสุนกระชากวิญญาณมันเรียบร้อย ดนัยตอกหัวทุกคนที่โผล่ออกมาเพื่อเคลียร์พื้นที่ให้หน่วยสวาทลงมาอย่างปลอดภัย
หน่วยสวาท: “ลงมาครบแล้ว ขอบใจมากไอ้หนู”
และหน่วยสวาทก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปจากด้านบนของอาคาร ดนัยรีบเก็บขาตั้งปืนและเปลี่ยนตำแหน่งของตนทันที
ปังๆๆๆ
เสียงปืนชุดท้ายในชั้นหนึ่งดังขึ้นพร้อมเด็ดชีพพวกมันคนสุดท้ายลง อาคารที่ออกแบบให้ภายในคล้ายเรือนไทยสวยงามบัดนี้มีแต่รอยกระสุนและศพฝั่งโจรร้ายคนตายกันเกลื่อนพื้น
บิ้ก: “ทุกคนปลอดภัยนะ ตรวจกระสุนให้พร้อมเราจะแยกกันตรงนี้ ไอ้เข้มไปฝั่งขวา ทีมรังนกจะขึ้นจากตรงนี้ ไปเจอกันข้างบน”
เข้ม: “ได้พี่เจอกันด้านบน ทุกคนตามผมมา”
ผู้กองเข้มรีบพาลูกทีมวิ่งย้อนกลับไปอีกทาง
วิทยุ: “จากนกฮูก ชั้นสองมีห้องสำหรับทำสปา ทีมต้องผ่านห้องเล็กหลายสิบห้อง ระวังตัวด้วยเราไม่มีกล้องจะชี้ตำแหน่งให้แล้ว”
บิ้กหันมามองหน้าอินทรีเขารีบเคลื่อนตัวขึ้นมาเป็นนำขบวน ก่อนทีมของอินทรีจะเคลื่อนตัวขึ้นบรรไดอย่างช้าๆ
อินทรียกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดก็จะชี้เงาที่พื้น มันยืนดักเขาอยู่ที่หัวมุมด้านหน้านี่เอง
บิ้ก: “เอาเลยพ่อหนุ่ม รวดเดียวจบไปเลย”
เมื่อหัวหน้าทีมตบไหล่ให้สัญญาณ อินทรีถลันตัวออกไปและคว้าปืนของมันกระชากและแทงศอกสวนไปที่ใบหน้า ไอ้โจรร้ายพยายามดึงปืนกลับมาแต่เข่าของคุณชายอินทรีก็กระแทกเข้ายอดอกมันตูมใหญ่ และเขาก็หวดหมัดซ้ายขวาไปที่ใบหน้าก่อนจะยกตีนถีบมันเซถลาเข้าไปในทางเดินแคบๆที่มีแต่ห้องเล็กๆสำหรับการนวดแบบต่างๆ แต่วันนี้มันคือกับดักมรณะ
ปังๆ เปรี้งๆๆกระสุนพุ่งออกจากห้องเล็กๆจนร่างที่ถูกถีบพรุนไปทั้งตัว เพราะนึกว่าเงาร่างที่ผ่านประตูไม่ใช่พวกมันแต่เมื่อพวกมันยิงก็เท่ากับว่าเปิดเผยตำแหน่งออกมาแล้ว
อินทรี: “เจอตัวละ”
อินทรีที่รอคอยจังหวะแบบนี้มานาน ก็พุ่งตัวตามร่างที่พรุ่นไปทั้งตัวติดๆ ปืนพกในมือลั่นส่งกระสุนสวนกลับไปในห้อง ข้อดีของปืนพกคือมันคล่องตัวและยิงได้ง่ายกว่าในที่แคบๆ แต่แลกมาด้วยอำนาจการยิงที่ด้อยกว่าปืนกล
แต่สำหรับปืนพกในมืออินทรี มันก็คือมัจจุราชซ้ายขวา เขายกปืนคู่ในมือยิงซ้ายทีขวาทีก่อนจะหมุนตัวหลบมือมีดที่พุ่งออกมาจากห้องหมายเสียบเขาตอนเผลอและเขาแตะตัดขามันและยิงซ้ำใส่ร่างที่ล้มลงก่อนจะเดินสาดกระสุนต่อไปอีกห้อง
หลักสำคัญในการต่อสู้แบบนี้คือคุณต้องระวังทุกมุมทุกเหลี่ยมของห้อง แต่อินทรีสามารถแยกประสาทถึงขนาดยิงคนสองคนที่วิ่งไปมาคนละด้านพร้อมกัน คล้ายกับมีสองสมองในร่างเดียว
พวกอินทรีค่อยๆตรวจทีละห้อง โดยทำงานกันเป็นจังหวะไม่มีช่องว่างให้พวกมันได้ชกฉวยทุกหัวมุมจะมีคนช่วยระวังให้สมาชิกเสมอบวกกับความสามรถเฉพาะตัวของเขา
อินทรีโผล่เข้าไปในห้องสุดท้ายก่อนจะพบว่ามันใช้ตัวประกันเป็นกำบัง
อินทรี: “ขอระเบิดแสง!”
เขาตะโกนหลังกระโดดออกจากห้องและกลิ้งตัวหลบกระสุนที่ยิงไล่หลังมา
ไม่กี่วิต่อมาระเบิดทรงยาวก็ลอยละลิ้วเข้าไปในห้องและทันทีมันทำงานเสร็จอินทรีก็ไม่รอช้า
ปัง ปัง
เสียงปืนเก็บพวกมันสองคนที่ยืนขวางอยู่ด้านหน้าแต่ทว่าในห้องเหลืออีกสามซึ่งมันยืนอยู่คนละด้าน หากเป็นคนอื่นจะยิงเป้าที่คิดว่าง่ายที่สุดไล่ไปเป้าที่ยากหรืออาจจะตามด้านที่ตนถนัดแต่สำหรับอินทรีนั้น
เขาเก็บได้พร้อมกันทั้งคู่ มือขวาและมือซ้ายมือไปคนละฝากก่อนจะลั่นไก
ชายสองทรุดฮวบลงไปส่วนคนสุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของคนในทีมที่ตามเข้ามา
บิ้ก: “จากบิ๊กเบิร์ด เราถึงหน้าทางเข้าแล้วพร้อมเข้าไปชิงตัวประกัน”
เขายิ้มเมื่อทีมพวกตนมาถึงเป็นทีมแรก
ผลงานโดดเด่นจริงๆ
ส่วนทีมยักษ์ก็กำลังเจอกับปัญหา
เข้มต้องพาทีมของเขาอ้อมไปด้านหลังไปเข้าอีกทางเพื่อจะบุกพร้อมๆกัน แต่ดันมีมือปืนของพวกมันถือไรเฟิลซุ่มยิงรอเป่าพวกเขาอยู่ แถมยังมีพวกมันอีกครึ่งโหลค่อยยิงกดดันทำไมพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อได้
เข้ม: “ไอ้จืดดนัย เอ็งไปมุดหัวอยู่ไหนวะ”
เข้มตะโกนใส่วิทยุขณะยัดแม็กใหม่ก่อนจะตบลูกเลื่อนและออกไปยิงสวนพวกมันต่อ
ดนัย: “แปปนึงยังไม่ว่าง มือเต็มครับขออีกแปปนึง”
เข้ม: “ทำอะไรวะ ทางนี้โดนยิงกดอยู่มาเปิดทางให้หน่อย”
ดนัย: “แปปนึง…. กำลังจะเสร็จ อึบ! เสร็จละๆ พอดีอึดกว่าที่คิดครับ”
ดนัยทิ้งร่างที่เขาถึงรัดคอลง ก่อนจะใส่คุณแจมือไว้ คดีแบบนี้มันต้องเหลือจำเลยให้อัยการฟ้องบ้าง ดนัยปืนเข้ามาเก็บมือปืนในห้องของตึกข้างๆ เขาเลือกที่ปืนเข้าเพราะที่ประตูและบรรไดมันวางกับระเบิดดักไว้
และพอเขาจัดการมันแล้วก็นำปืนของตนมากางขาตั้งแทนที่มัน
ดนัย: “วิวสวยดี เลือกเก่งนะเรา”
เขาหันไปชมมือปืนที่นอนสลบอยู่ก่อนจะหันไปลั่นไกเจาะกระโหลคนด้านล่าง
พวกมันตกใจสับสนอยู่จนดนัยเป่าอีกคนร่วงลงไปจึงทราบว่าเพื่อนบนตึกเสร็จตำรวจไปแล้ว
แต่มันก็ฉลาดมันหันปืนมายิงสวนใส่ดนัยจนเขาต้องมุดหลบ ดนัยกลับนั่งตอบไลน์มายด์ท่ามกลางฝุ่นหินจากกระสุนที่กราดขึ้นมา
ปุ๊ง บรึมมม!
พวกมันต่างกระเด็นไปคนละทิศละทาง คนที่โดนเต็มก็โชคร้ายหน่อยพวกที่เหลือก็คงขึ้นอยู่กับบุญกรรม มันดันลืมตัวอันตรายอีกคนไปซะได้ เข้มบรรจุระเบิดลูกใหม่เข้าไปในปืนก่อนจะเดินผ่านเศษซากที่พึ่งยิงถล่มไปและเดินผ่านสระว่ายน้ำขึ้นไปบนตึก
เข้ม: “ทีมยักษ์พร้อมลุย”
ในที่สุดทีมยักษ์ก็เข้าประจำที่
“ถึงคนร้ายด้านใน วางอาวุธซะเราล้อมไว้หมดแล้ว ยอมแพ้ซะจะได้ไม่มีใครตายเพิ่ม”
ผู้การถวิลประกาศผ่านวิทยุบนรถขนาดมหญ่ด้วยบทอันเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจไทย แน่นอนว่าพวกมันก็ไม่การเปิดประตูยอมแพ้
“ถ้าพวกมึงเข้ามากูจะจุดระเบิด กูวางไว้แล้วลูกเบิ้มเลย ถ้าอยากตายห่ากันก็บุกเข้ามา”
พวกมันตะโกนออกมาอยากไม่กลัวเกรง
แต่ผู้การถวิลกลับยิ้มสมเพชพวกมันก่อนจะกดวิทยุ
ผู้การถวิล: “จากวัง จัดเจ็บๆให้พวกแมร่งเลย”
ราวกับเฝ้ารอเวลานี้มานาน ประตูทุกบานถูกเปิดพร้อมๆกัน พวกมันรีบยกปืนชี้ไปยังประตูที่พึ่งถูกพัง แต่กลับมีแค่ระเบิดเสียงที่ถูกโยนมาพร้อมๆกัน
แสงสว่างพร้อมเสียงแหลมๆเขาทำเอาพวกปั่นป่วนสับสนไม่เป็นกระบวน
“ยิงไปที่ประตูกราดไปเลย ไอ้แห้งฆ่าตัวประกันให้หมด”
ไอ้ตัวหัวหน้าเลือกที่จะยิงดักทุกประตูเอาไว้ อย่างน้อยก็น่าจะซื้อเวลาให้พวกมันหายมึนได้บ้าง ปืนทุกกระบอกแผดเสียงยิงใส่ทุกทางเข้า
แต่ว่าคนที่จะบุกไม่ใช่พวกเขา
เพล้งๆ
หน้าต่างทุกบานถูกหน่วยสวาทโรยตัวลงมาถีบกระจกหน้าต่างเข้ามาพร้อมๆกันพวกมันที่ได้ระวังทางหน้าต่างเลยแม้ซักนิดก็ต้องเจอกับกระสุนมัจจุราชแบบไม่ได้ตั้งตัว พวกมันหลายคนรีบันหลังกลับมาแต่พวกของผู้บิ้กก็ฉวยโอกาสเข้าบุกผสานกับหน่วยสวาททันที พวกมันเจอรุมรอบด้านโดนกระหน่ำทุกทิศทางจากที่เคยมั่นใจว่าไม่ใครทำอะไรได้ ตอนนี้ความหวังว่าจะรอดยังไม่มีให้เห็น
ไอ้ตัวหน้าหน้าที่โชคดีรอดรีบคว้าตัวเจ้าสาวเป็นเกราะมนุษย์ทันที
หัวหน้า: “อย่าๆ ไม่งั้นอีสวยนี้ตาย”
มันหลบหลังร่างในชุดเจ้าสาวที่ตอนนี้ขาดรุ่งริ่ง คงเชื่อได้ว่าพวกมันคงเล่นสนุกกับเธอหลายที ตำรวจทุกนายชี้ปืนไปทางมัน หาตำแหน่งยิง
เข้ม: “ดนัย ว่าไงวะ”
ดนัย: “ไกลไป ครึ่งๆเลยวะเฮีย”
เข้มสถบอย่างหงุดหงิดเมื่อไอ้จืดของเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้
ระหว่างที่ทุกคนกำลังเครียด
อินทรีก็มีไอเดียดีๆ
อินทรี: “ไอ้จืด มึงอยู่ทิศไหน”
ดนัย: “พ่อนกสมองใส มีอะไรดีๆละ ตอนนี้อยู่ทางเจ็ดนาฬิกา สูงกว่าเล็งผ่านช่องหน้าต่างบานซ้ายอันที่สอง”
อินทรี: “งั้นต้องให้มันขยับขวา ว่าไงพวกไหวมั้ย”
เสียงเพื่อนรักหายใจหนักๆอย่างเคร่งเครียด
ดนัย: “ไม่วะ ยากเกินไปเห็นแต่แขนหัวมันเห็นแค่ครึ่งเอง”
ผู้การถวิล: “ย้ายตำแหน่งได้มั้ย”
ผู้การถามแทรกเข้ามา
ดนัย: “เออ...ผมว่าเสียเวลามากไปและก็อาจจะได้มุมที่ไม่ต่างกันกับจุดนี้ ไอ้ผีป่าไม่ได้เหรอครับ”
ผู้การถวิล: “จัดการธุระไม่เสร็จ”
เข้มกับบิ้กมองหน้ากันอย่างหนักใจ
ชีวิตตัวประกันอยู่ในมือพวกเขา แต่สถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงเกินไป ถ้ายิงพลาดตัวประกันก็ตาย แต่ถ้าไม่ยิงไม่รู้ว่าไอ้บ้าที่ยืนใช้ผู้หญิงเป็นโล่ห์จะสติแตกยิงกบาลตัวประกันเมื่อไหร่
อินทรีลดปืนลงและเดินนำขึ้นมาอยู่หน้าสุด
บิ้ก: “ทำบ้าไรวะ ถอยออกมา”
แต่อินทรีไม่ตอบคำถามใดๆ เขาเพียงแต่เดินไปตรงหน้ามันและเอ่ยปากแดกดันมันเท่านั้น
อินทรี: “ผิดพลาด ใช่มั้ยละ”
โจรร้ายตวาดเสียงดังแต่ก็ยังคงหลบอยู่หลังเจ้าสาวที่หมดสภาพความสวยไปแล้วอย่างมิดชิด
โจร: “ใคร!! กูไม่ได้พลาด ไม่เคยพลาดด้วย!”
อินทรี: “แล้วสถานการณ์ตอนนี้ก็มีในแผนด้วยเหรอวะ แผนค่อนข้าวประหลาดวะ”
โจร: “หุบปาก! หุบปากเลย ไม่งั้นกูจะเป่าสมองนังนี่”
มันไม่พูดอย่างเดียวมันกดปืนลงไปที่ขมับแววตาจ้องอินทรีเขม็ง
อินทรีที่กำลังยุจนสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง จนถึงขนาดที่ผู้การต้องปรามทุกคนให้ใจเย็น ผู้การเขาเชื่อว่าอินทรีมันมีแผนแต่แม้จะไม่รู้เขาก็ยังเชื่อมือ
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องสำรองแผนการไว้ก่อน
“ยักษ์เล็ก อนุมัติให้ยิงทันทีที่พร้อม ส่วนคนอื่นให้ฟังและทำตามผู้กองพิชิตเท่านั้น พิชิตคุณติดสินใจเลย”
“ครับท่าน”
หัวหน้าหน่วยสวาทกดวิทยุก่อนจะเบือนสายตาชุ่มเหงือผ่านศูนย์ปืนไปยังตำแหน่งคนร้าย เหมือนๆกับทุกคน
แต่แทนที่อินทรีจะหยุดแต่เขากลัยหัวเราะลั่นก่อนจะท้าทายมันซะอีก
อินทรี: “เอาเลยๆ อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะกล้ารึเปล่า ถึงเธอตาย มึวก็ไม่รอดอยู่ดี สมองหัดใช้หน่อย”
มันหายใจหอบราวตื่นตระหนกสายตาลอกแลคไปมาราวกับกำลังคิด แต่เนื่องด้วยสติมันหาได้มีครบถ้วนดั่งคนปกติไม่ มันป่วยเป็นโรคจิต มันเป็นโรคจิตที่หลงตัวเองว่าเก่งกาจ บวกกับยาที่เสพเข้าไป
มันเหลือกตาขึ้นก่อนจะตะโกนลั่น
โจร: “กูไม่กลัวมึงแหกตาดูชัดๆนะ”
มันแนบปืนที่ขมับเธอ ในวินาทีที่ทุกคนกำลังจะลั่นไกหยุดไอ้โรคจิตตรงหน้า ในที่สุดดนัยก็ลงมือ
เสียงกระสุนแหวกอากาศพุ่งทะลุแขนที่ถือปืนจนขาดรุ่งริ่งแรงปะทะทำให้มันเซคว่ำคะมำไป ในที่สุดมันก็ขยับตัวจนดนัยได้มุมยิง
ดาบชัยที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบคว่ำตัวประกันออกไปทัน ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความควบคุม
“ปิดเกมได้สวยยักษ์เล็ก”
ผู้การเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“แต่รอบหน้าไม่เอาแผนบ้าๆนี่แล้ว ใครเล่นแผนนี่อีกผมสั่งพักงาน”
ทุกคนต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ไอ้โรคจิตก็ยังไม่ตาย มันคะกายไปหยิบสวิตออกจาก ข้อมือของแขนที่ขาด
โจร: “ตายยยยย ตายห่าให้หมด”
มันกดสวิตระเบิดเป่าทุกคนให้ตกตายไปกับมัน
แต่ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีเสียง ไม่มีระเบิด
มันกดย้ำๆจนปุ่มนั้นพังคามือ
“หาไอ้นี่อยู่รึเปล่า”
เสียงวัตถุระเบิดถูกโยนมาข้างหน้ามัน ชายร่างเล็กเดินมาถีบยอดหน้าผมจนสลบไป
“ผีป่าแจ้งศูนย์ ระเบิดเก็บกวาดครบแล้ว”
อินทรีเดินมากอดคอลากชายที่พึ่งมาเดินออกไปจากห้อง
อินทรี: “งานเงียบนี่ไว้ใจมึงได้จริงๆ”
สมิง: “ก็หวิดไปเหมือนกันครับ ผมเองก็ต้องแทงช้ำหลายคนเหมือนกัน กว่าจะล่าหมด”
เจ้าของนามผีป่ากล่าวยิ้มๆ เขาแอบเข้ามาได้ก่อนที่พวกเข้มจะบุกตะลุย เขามาเก็บกวาดระเบิดทุกลูก โชคนังดีที่ฝ่ายเทคนิคยังประเมินถูก ระเบิดทั้งหมดเป็นแบบประกอบง่ายๆ เขายังถอดชนวนเองได้ ไม่งั้นคงต้องรอหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD)
แต่กว่าจะตามล่าครบ พวกมันเล่นหิ้วเดินไปเดินมายังกะแบกของเล่น
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ออกมาดี งานในวันนี้ก็จบลงแค่นี้
ยกเว้นดนัย!!
อินทรีเดินออกจากตึกที่ยังคงเปิดไฟแม้จะดึกแน่นอนว่าผู้เคราะห์ร้ายก็คือจืดสหายรัก ที่ต้องสรุปทุกอย่างเป็นเอกสาร วางบนโต๊ะผู้การภายในเก้าโมงพรุ่งนี้
ร่างสูงสง่าขึ้นรถยุโรปราคาแพงและขับออกไป
เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้มีสิทธิจะเป็น ผบ.ตร คนต่อไปแถมตระกูลเขาก็เป็นตระกูลที่มีเส้นสายและอิทธิพลมาก ฐานะก็รำรวย
แต่ตำรวจไฮโซชีวิตดีดี๊แบบเขาก็ต้องมาแบบเหตุการณ์อะไรแบบนี้
“ออกไปห่างๆเลยนะ ไอ้คนหน้าม่อ”
ก่อนเขารู้สึกแสบแปล็บที่ใบหน้า ก่อนหน้าเขาจะสะบัดไปอีกทางท่ามกลางสายตารถในรถไฟฟ้าตอนช่วงเวลาเร่งรีบ แต่ทำไมตำรวจไฮโซรูปหล่อพ่อรวยแบบผมต้องมาโหนรถไฟฟ้าแบบชาวบ้านชาวช่องให้โดนตบแบบนี้เหรอ?
คือเรื่องมันเริ่มจากตรงนี้ครับ
“ครับจ่าพิชัย ผมเองนะรถผมชนวะจ่า พ่ออยู่บ้านปะวันนี้ผมจะยืมรถพ่อไปธุระก่อน ไม่อยู่เหรอ อีกคันน้าดาบสมชายเอากลับมาจากอู่ยัง รถยังไม่เสร็จอีก! ไหนบอกไปรับได้เลยไง เออๆแค่นี้แหละผมหาทางไปเองดีกว่า ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ”
ใครจะคิดว่าแค่จอดข้างทางลงไปเอาของแปปเดียว รถขนของจะยางแตกบินข้ามเลนมาชนรถเขาจนเละ นี้ขนาดรถยุโรปหรูยังเยินทั้งคัน เขาได้มองดูรถลากมาลากเศษซากรถตนออกไปโชคยังดีที่เขาไม่ได้นั่งอยู่ข้างในไม่งั้นเขาอาจจะไปนอนในศาลาวัดแบบคนขับรถขนของก็ได้
แต่โชคร้ายต่อไปคือเขาต้องรีบไป จะเรียกแท็กซี่ก็ไม่มีคันไหนว่าง ก็นี่เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ของมหานครแห่งความสุขของชาวไทย
“เอาวะ รถไฟฟ้าน่าจะเร็วสุดละ”
สุดท้ายขายาวๆก็วิ่งไปหาสถานีรถไฟฟ้าใกล้ๆ
แต่ไหนเลยคุณชายเกิดบนกองทองจะรู้ว่ารถไฟฟ้าเวลานี้มันนั้น
มันไม่ต่างอะไรกับปลากระป๋องเลย
หลังจากต้องรอรถขบวนแรกผ่านไป รถคันที่สองที่มาถึงก็พอมีที่ให้เขาบ้าง ทว่าคนก็แน่นมากอยู่ดี
แต่นั้นแหละต้องรีบไป นาทีนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้
และหลังจากยืนอัดกับคนในขบวนจนแทบได้เสียกันแล้วแม้รอบๆจะมีแต่ผู้ชายทั้งหมดก็ตาม ทว่าเขาโดนมือปริศนาลูบตูดรอบที่สามแล้ว จนเขาต้องเดินแหวกออกมาจนชนกับคนที่พึ่งเข้ามาในรถ
“ว๊ายย”
เสียงผู้หญิงร้องขึ้น เขารีบหันไปดูคนที่ชนกับตนทันที
เด็กสาวในชุดนักศึกษา นั่งลุกเข่าลงกลับกระดาษที่ตกเพราะการชนกับเขา เขารีบก้มลงช่วยเก็บอีกแรง
 
ทันทีที่เก็บเสร็จก็ลุกขึ้นส่งให้ และก็แอบสังเกตุเธอไปด้วย และพบว่าน้องคนนี้สวยใช่ได้เลยทีเดียว
ทั้งโครงสร้างรูปไข่กับเครื่องหน้าที่ถูกจัดวางให้ดูจิ้มลิ้มน่ารัก แต่ก็ออกหมวยแบบคนจีน เป็นสไตล์สาวขาวสวยหมวย ไม่อึ๋มเลย แต่ที่สะดุดตาคุณชายที่สุดก็คือ ดวงตาตี๋เล็กแต่ส่องสะกายสดใสออกมา แววตาเธอเรียกความสนใจเขาได้ไม่น้อย
แต่ทำไมเขารู้สึกคุ้นหน้าตาเธอแปลกๆ
เด็กสาว: “ขอกระดาษคืนด้วยค่ะ”
เธอรีบส่งตาดุๆมาให้เมื่อรู้ตัวว่าถูกมองตรงๆ เขาจึงรีบส่งให้ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษเธอ
“ขอโทษนะครับ พอดีไม่ทันเห็นเลยชนให้”
แม้จะพยักหน้ารับคำแต่เธอก็คงส่งสายตาเคืองๆมาให้
แต่พอสถานีต่อไปคนก็กลับมาแน่นรถอีกครั้ง พื่นยืนค่อยแคบลงๆจนเธอโดนดันเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง แน่ละเพลย์บอยแบบเขาก็ไม่พลาดที่โปรยยิ้มไปให้เธอ แต่เธอกลับมองนิ่งๆและส่ายหัวให้เขาซะงั้น
เขามั่นใจเลยว่าตัวเองโครตหล่อและดูดี เพราะเขาเองก็เกือบจะได้ถ่ายแบบอวดหุ่นก็ลงหนังสืหลายทีแต่ด้วยอาชีพเลยต้องปฎิเสธไป แต่เรื่องควงดาราขย่มนางแบบนี้เขาไม่เคยปฏิเสธ ใครจะโง่ไม่เอาละ แต่ละคนทั้งหลงทั้งรักเขา นี้ไม่นับกิ๊กหรือแบบเหงาๆโทรหากันอีกหลายสิบคน ทุกคนเจอเขายิ้มไม่อายก็ยิ้มกลับแต่นี่กลับส่ายหัวแบบระอาใจ
แถมไอ้ท่าทางกวนๆก็คุ้นตาแปลกๆอีกด้วย
“ขอโทษนะครับ เราเคยเจอกันที่ไหนรึเปล่าทำไมคุ้นหน้าน้องจังครับ”
ในที่สุดเขาก็แพ้ต่อความอยากรู้ เอ่ยปากถามเธอไป
เด็กสาว: “หน้าตาก็ดีแต่ทำไมมุขจีบสาวเก่าจังค่ะ แต่มารูทนี้จะจบแบบไหนดี เนื้อคู่ พรหมลิขิต หรือรักแรกพบละค่ะ”
แต่ฟ้าดินกลับแกล้งคนหล่อๆแบบเขา ขณะที่กำลังจะแก้ตัวอธิบายรถไฟฟ้าเจ้ากรรมดันเบรคแรงๆ จนหล่อนเซมาข้างหน้าและเขาก็ยื่นมารับแบบไม่ทันตั้งตัว กลายเป็นเอาโอบเอวเธอจนเอวแทบจะชนกับเขาแล้ว เธอหันมองเขาตาเขียวปั๊ด แต่ความซวยยังไม่สิ้นสุดเมื่อมือสยิวปริศนาที่มาลูบตูดเบาๆจนเขาต้องกระเด้งเอวหลบอย่างตกใจ แต่เขาดันมีคนอยู่ตรงหน้านี่สิ
สาวหมวยตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและแปรเป็นความโกรธ
นั้นละสาเหตุที่โดนตบ เห็นตัวเล็กๆตบทีหน้าชาเลย
พอตบเสร็จเจ้าหล่อนยังกระทืบขาเขาอีกทีเป็นการแถมก่อนจะก้าวฉับๆ หายตัวไปทันที
เขาทั้งเจ็บทั้งอาย แถมกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะลงสถานีนี้ ประตูก็ปิดไปซะแล้ว ทิ้งไว้เพียงความเจ็บและกลิ่นหอมอ่อนๆติดมือตัวเขาเอง
หลังจากเสียเวลานั่งรถย้อนกลับมาเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ร้านกาแฟแห่งหนึ่งหลังจากเปิดตรวจสอบจนแน่ใจว่าที่นี่คือสถานที่นัดหมายแน่ๆ เขาก็เดินเข้าไป แอร์เย็นๆ มีเพลงเบาๆ มีกลิ่นเมล็ดกาแฟหอมตามลมมา
ไม่น่าละ ที่นี้เลยเป็นร้านประจำของไอ้จืดนั้น ที่มันเคยบอกว่าชอบไปนั่งร้านกาแฟอ่านหนังสือเงียบๆก็คงจะจริง
ดนัย: “ไอ้คุณชายนก ทางนี้โว๊ย มึงจะยืนหล่อตรงนั้นอีกนานมั้ย”
อินทรีมองชายที่เป็นคนนัดตัวเขามาที่นี้ก่อนเดินไปหย่อนตัวลงบนเก้าอี้
อินทรี: “อะของที่มึงจะเอา เอายื่นห่อกระดาษไปให้มัน ดนัยรีบวางแก้วกาแฟและรับไปเปิดดูและจากนั้นก็ยิ้มอย่างยินดี
ดนัย: “น่ารักมากสหาย ไปสั่งไรกินก่อนดิ แล้วรถมึงไปไหนวะ”
อินทรี: “โดนชน กูจอดอยู่ดีๆแมร่งยังมาชนได้ กูเลยนั่งรถไฟฟ้าและค่อยเดินมา สายเลยเนี่ย”
ดนัย: “เออ สายนิดหน่อยเอง กูก็นั่งแช่ตูดที่นี่อีกนาน ว่าแต่เวลานี้คนไม่แน่นเหรอ”
อินทรี: “จะเหลือไร แถมยังโครตซวยอีก”
ดนัย: “เออ จะกลับมาฟังไปฉี่แปป รอนี่ละ อะเมนู สั่งได้หมดร้านนี้เขาคุณภาพ แต่กูไม่เลี้ยงนะเฮ้ย”
ดนัยลุกไปเข้าห้องน้ำ
อินทรี: “รอมึงเลี้ยงกูคงอดตาย เก็บเงินไปทำหน้าเถอะจืด เผื่อจะได้เมียสวยๆกับเขาสักคน”
ดนัย: “โธ่พ่อคนหล่อ พ่อมหาเทพบุตร ไม่ต้องหาเมียหรอกระดับกู แค่มึงแบ่งในสังกัดมาให้เพื่อนสักสามสี่คนกูก็หายเหงาแล้ว น้องมิ้นเหงาอีกเมื่อไหร่เรียกกูได้ รอบที่แล้วยังไม่ค่อยอิ่ม เพื่อนน้องเขากูก็โอเคนะ”
อินทรี: “โนๆ ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือวะ ไม่มีแบ่ง จะมาแบบวันนั้นคงยากวะ ไปไหนก็ไปได้แล้วไอ้จืด”
อินทรียกนิ้วชี้ส่ายไปมาก่อนจะไล่เพื่อนสนิทไปห้องน้ำ มันก็ชี้หน้าก็จะเดินหายไปหลังร้าน
อินทรีเลยตัดสินใจเดินไปสั่งกาแฟก่อนเพื่อไม่ให้เสียเวลาแต่ตอนเดินไปเคาท์เตอร์ก็พบร่างที่ถือถาดกาแฟกับขนมปังเดินมา
อินทรี: “เฮ้ย ไม่จริงน่า”
เขาอุทานขึ้น เพราะนี้ละคนที่ตบเขาบนรถไฟฟ้า
พอหล่อนเห็นเขาก็ชี้หน้าเขาอย่างตกใจ
อินทรี: “ใจเย็นๆนะ ฟังก่อน อธิบายได้!”
เด็กสาว: “ไอ้หื่นกามหน้าม่อ!”
เด็กสาว: “เอาเป้ามาถู… ถูขา! เนี่ยนะ จะมีอะไรอีกวะ!”
เขาว่าแล้วว่าเธอต้องไม่ฟัง แต่เขาก็ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนไม่งั้นเขาก็คงกลายเป็นโรคจิต
แต่เด็กสาวในชุดนักศึกษาตรงหน้าก็ดุกว่าที่เขาคิดหมัดขวายิงตรงมาใส่หน้าเขาแต่มีเหรอระดับเขาจะโดน แต่พอหมัดแรกพลาดเธอก็วางถาดที่ยกมาไว้บนชั้นวางแถวนั้นก่อนจะตั้งการด์ขึ้นและสืบเท้าเข้ามาพอได้ระยะได้ต่อยใส่เขาซ้ายขวาอย่างคล่องแคล่ว
อินทรี: “เห้ยๆ ใจเย็นก่อนขอพูดหน่อยเหอะ นี่เลิกไล่ชกแบบนี้ได้แล้ว ไม่เลิกใช่มั้ย ได้!!”
เขาโดนไล่ชกก็จริงแต่มือที่เคยตบโดนเขากลับไม่ได้ระคายผิวเขาอีกเป็นรอบที่สอง แต่สาวน้อยตรงหน้าก็ยังไม่เลิก จนเขาเริ่มโมโหบ้างแล้ว
เพียะ เพียะ อินทรียกมือเดียวขึ้นปัดหมัดของเธออย่างง่ายดายและสืบเท้าเข้าไปข้าจนเธอต้องฝ่ายรนถอยไป เธอตะลึงไปซักพักก่อนจะพยายามเร่งจังหวะบุกเพื่อดันให้เขาต้องหยุดชะงัก แต่มีเหรอจะคณามือคนแบบเขา
จนเธอถอยไปจนแทบจะจนมุม เธอเลยต้องงัดไม้เด็ดออกมาเธอกระโดดถอยออกมาก่อนจะก่อนจะกระทืบเท้าแรงส่งหมัดตรงเต็มแรงใส่เขา
อินทรี: “ก็ทำได้ดีเลยนะ สำหรับหมัดสุดท้าย แต่ทีนี้เราจะคุยกันได้รึยังคะ สาวน้อย”
อินทรีที่ยกมือรับสบายๆก็ยิ้มขึ้นแต่อีกฝั่งกลับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม อินทรียกแขนอีกข้างที่ยึดอีกหมัดที่แอบพุ่งตามหมัดแรกมา เป็นหมัดคู่ที่ใช่หมัดแรงลวงและส่งอีกหมัดตามมาติดๆที่ช่วงท้อง ก็ดีพอจะเอาชนะพวกง่อยๆ แต่ก็นั้นแหละมันทำไรเขาไม่ได้ ก็เกิดมาเก่งนี่เนอะ
พอเขาจับยึดแขนสองข้างได้สำเร็จเธอก็พยายามดึงมือออกมา พอรู้ว่าไม่สำเร็จแน่ก็ยกเท้ากระทืบตีนเขาแต่ก็นั้นแหละครับ ไม่ได้กินเขาหรอกเขายกขาหลบแถมสอดขาขัดสกัดทำให้เธอเซไปติดผนังเขาเองก็ดันมือเธอจนติดกำแพง ฉากข่มขืนในหนังชัดๆ
“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต ปล่อย! แกรอพี่ชั้นออกมาเถอะ แกโดนกระทืบแน่ ปล่อยสิวะไอ้บ้าเอ่ย”
ยิ่งเธอดิ้นเขาเองก็ยิ่งอยากแกล้งเธอ คุยดีๆไม่ชอบ ขอแกล้งซักหน่อยละกัน
เขาค่อยยื่นหน้าไปใกล้ๆก่อนจะหายใจแรงๆรดใบหน้าเธอ นั้นแหละได้เรื่องเลย
สาวน้อย: “แกจะทำอะไร?”
เอาเว้ย เสียงสั่นแสดงว่าได้ผล ความเก่งหดหายไปแล้ว ทีนี้ก็ขยี้ต่ออีกนิด
อินทรี: “ก็แค่จะคุย ดีๆ”
คำสุดท้ายเขาใช้เสียงแหบๆ ก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ไม้ จนเธอหลับตาปี๋
โธ่สิ้นฤทธิ์ซะแล้ว กำลังสนุกเลย อินทรีหัวเราะเบาๆในใจ แต่พอรู้สึกถึงจิตสังหารบางๆที่คุ้นเคยด้านหลังพร้อมกับเสียงที่เข้มขึ้นอย่างผิดปกติของเพื่อนตัวเองข้างหลัง
ดนัย: “เอ็งจะทำอะไรน้องสาวกูเหรอ….เพื่อน!”
ทั้งสองที่หันไปมองดนัยหันมามองหน้าคู่กรณีอีกฝ่ายก่อนจะร้องได้แค่คำว่า
“ห๊ะ!”
“เอานะ มันแค่เรื่องเข้าใจผิด แกก็ทำเกินไปไม่ฟังอะไรพี่เขาเลย”
ดนัยมองน้องสาวที่ทำหน้ามุ้ย นั่งเคี้ยวขนมปังตุ้ยๆไม่คุยกับใครสักคน
ครับ พอดนัยมาถึงเขาก็รีบปล่อยน้องสาวมันออกมา ไอ้ตัวพี่นี่เขารู้ฤทธิ์เดชมันดี ดีจนต้องเกรงใจกันเลยทีเดียว
นึกแล้วเชียวว่าทำไมคุ้นหน้าแปลกๆ ที่แท้น้องสาวเพื่อนเขาเอง โลกกลมแท้ๆ มันเคยบอกว่าน้องสาวหน้าตาคล้ายมัน แต่โครงหน้าจืดพอมาจัดวางใหม่เพิ่มนิดลดหน่อยก็เข้าท่าไม่เลว อย่างน้อยก็ดีกว่าพี่ทันเยอะ
เอาจริงดนัยมันก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ที่เรียกจืดเพราะมันดูจืดๆง่ายๆดี ก็คงคล้ายๆมันที่เรียกเขาว่านก เขาเคยนกซะที่ไหนละ ไม่เคยขาดดีกว่า
ดนัย: “ไม่รู้ละแกผิดกว่า อีกอย่างเขาเป็นเพื่อนเฮีย ดาวขอโทษพี่อินทรีเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
เผลอแปปเดียวสองพี่น้องก็เถียงกันจนได้บทสรุปแล้ว
ดาว: “อะไรอะ เข้าข้างเพื่อนไม่รักน้องเลย ใจร้ายโทรฟ้องป๊าแน่”
ดนัย: “เอาดิ ป๊าอยู่เมืองนอกกว่าจะกลับมา แกก็เละเป็นปุ๋ยละครับ ไปขอโทษพี่เขา”
หลังจากน้องสาวดนัยหรือดาวงอแงประท้วงพี่ชายตนซะยกใหญ่ เธอก็นั่งหน้าบึ้ง แต่พอดนัยมองมาดุๆ เธอก็ยกมือขึ้นไหว้แบบขอไปที
นั่นไงดนัยก็ไม่ปล่อยให้รอด
ดนัย: “ไม่ใช่แบบนี้ ไหว้ดีๆพูดด้วย”
เธอหันไปเจอตาดุๆก็จำใจไหว้เขา
ดาว: “ขอโทษค่ะพี่อินทรี”
เขาเองก็ยกมือรับไหว้เธอ แม้จะขัดใจกับเสียงที่ขัดหูก็ตามที แต่ก็ช่างเถอะไม่ต้องอะไรให้มากเรื่องกว่า คิดๆไปเขาเองก็แกล้งเธอไปไม่น้อย
แต่ท่าทางยัยเด็กตรงหน้าจะเจ็บแค้นเขาไม่น้อยเลย ไว้เขาจะหาโอกาสขอโทษเธอทีหลังละกัน
ดนัย: “แล้วนี่จะไปมหาลัยตอนไหน วันนี้เรียนกี่โมง?”
ดาว: “เรียนกี่โมงก็ได้ ไปอยู่กับเพื่อนเลย นู้นนั่งยิ้มแป้นอยู่นั้นไง ไม่เข้าข้างน้องก็ไม่ต้องมาชวนคุย”
ดนัย: “อ้าว มาแบบนี้อีกละ ก็แกเป็นคนผิดเองจะให้เข้าข้างได้ยังไง”
อินทรีมองพี่น้องเถียงกันไปเถียงกันมาพักใหญ่ๆ ก่อนแม่หนูตัวน้อยก็พาลยิกดนัยแรงๆทีนึงก่อนจะลุกคว้ากระเป๋าเดินออกไป แต่ก็ไม่ลืมส่งตาดุๆมาให้ นั้นไงคิดแค้นเขาจริงๆด้วย
ดนัยถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
ดนัย: “นิสัยแม่มาเต็มๆ รักแล้วต้องตามใจตลอด วันนี้กลับไปนอนบ้านดีกว่า จะได้จับเด็กมาเชือด นั่งยิ้มอะไรของมึงฟะ ไอ้คนไม่เคยมีน้องสาวไม่เข้าใจหรอก ไปๆ อยากลองของใหม่แล้ว”
อินทรี: “กูยังกินไม่เสร็จเลยนะ อ้าวเดินไม่รอเลย”
อินทรีทิ้งแบงค์พันไว้ก่อนเดินออกไปขึ้นรถดนัยและทั้งสองก็เคลื่อนรถออกไป โดยไม่รู้เลยว่าความซวยกำลังมาเยือน
หงุดหงิดโวยยย เด็กสาวที่นั่งเรียนบ่นในใจเป็นครั้งที่ล้านเห็นจะได้ ใบหน้าไอ้หน้าหล่อที่นั่งยิ้มขณะที่ตนโดนพี่ชายด่าลอยแว๊บไปแว๊บมา ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งแค้น คนอะไรหน้าตาดีเสียเปล่านิสัยกลับห่วยแท้สิ้นดี แถมพี่เธอยังเข้าข้างมันซะอีก แค้นใจๆๆๆ เธอตั้งใจว่าเจอเขาอีกรอบเมื่อไหร่เธอต่อยเขาให้ยับเลย
เธอนั่งเรียนแบบไม่มีสมาธิก่อนจะออกมานั่งหน้ามุ่ยที่โรงอาหาร ว่าแต่ทำไมวันนี้โรงอาหารตรงนี้ผู้ชายเยอะจังนะ
“เหยด น่ารักตามคำบอกเล่าจริงๆด้วย”
“นั่งหน้ามุ่ยยังสวยเลย ตอนยิ้มจะสวยขนาดไหน”
“พี่แกปีสามหน้าเหมือนปีหนึ่ง น่ารักสาส”
“โอยสวยจนใจละลายแล้วแม่คุณ ได้ซักครั้งจะขอเบิ้ลอีกหลายๆครั้งเลย”
นี่คือเสียงซุบซิบที่หนุ่มๆทั้งหลายที่เดินทางมาดักรอที่โรงอาหารแห่งนี้เพื่อมารอชมความงามของดาวและ….
“หน้าบูดเป็นแกงขึ้นราเลยนะแก”
เธอมองเพื่อนสาวสุดแซ่บที่เดินมานั่งลงข้างๆก่อนเธอจะหันไปกอดหุ่นตูมๆของเพื่อน
ดาว: “แก ชั้นโครตเซ็งเลยวันนี้ โดนแต๊ะอั้งไม่พอ โดนพี่ด่าซ้ำอีก ยัยฟ้าเพื่อนนอยส์แรงมากค่ะตอนนี้”
เพื่อนสาวสุดเซ็กซี่อกเป็นอก ตูดเป็นตูดในชุดรัดๆตามสมัยนี้ก็คือเพื่อนสนิทของเธอที่มหาลัย ฟ้าเป็นดาวคณะบัญชีที่เธอไปรู้จักตอนสมัยปี1 ส่วนตัวเธอแน่นอนว่าไม่มีดีกรีความงามใดๆ
ฟ้า: “บ้า! พี่แกไม่ควักปืนไปเป่าหัวไอ้นั่นได้ไง ตอนนี้มีคนแอบมองลอดกระดุมแกพี่ดนัยยังร่ำๆจะไปขย้ำคอเลย แล้วโดนอะไรมาเป็นไรมั้ย”
ดาว: “คนทำมันเป็นเพื่อนพี่ชั้นไงแก แถมชั้นต้องขอโทษไอ้บ้านั้นอีก งอนๆๆๆๆ ไอ้พี่บ้า”
 
ฟ้าเลิกคิ้วแบบสงสัยแต่ก็ไม่ใส่ใจอะไร เธอลุกขึ้นและดึงแขนเพื่อนสาวร่างเล็กขึ้นมา
ฟ้า: “ไปช็อปแก้เซ็งกัน พึ่งเห็นในเฟสว่าร้านตรงห้างมันลดราคา!!”
ดาวที่นั่งก็ตาโตรีบคว้ากระเป๋าเดินจูงมือกันออกไปทันที
แต่ว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเธอจริงๆ
“นักศึกษาที่จะไปฝึกงานที่สถานีโทรทัศน์ช่อง69 กรุณามาพบอาจารย์ที่ห้องด่วนค่ะ”
ดาวทำหน้าเบื่อโลกขึ้นมา จนฟ้าต้องดึงมากอดเบาๆ
ฟ้า: “อื้อออ โอ๋ๆ ไม่เอาค่ะเพื่อน ไปๆวันหลังค่อยนัดกันใหม่”
แต่ร่างงามที่กำลังกอดกันก็ช่างปลุกเร้าชายหนุ่มแถวนั้นๆซะนี้กะไร
“กูอยากกอดบ้าง จะกอดไม่ปล่อยเลยมึงเอ่ย”
“ขวาก็ได้ ซ้ายก็ดี น่าเอาชิบหาย”
“นมมันเบียดกันเป็นลูกเลย น้องดาวกูซ่อนของ กูไปว่าวละโวยยย”
กว่าสตรีงามทั้งสองจะเดินแยกกัน ห้องน้ำชายก็เต็มมันทุกห้องซะแล้ว แถมพื้นยังลื่น จนคนหัวทิ่มพื้นกันหลายราย
ปัง ปัง แกร็ก
ดนัยที่ยิงปืนจนหมดแม็กก็กระชากลูกเลื่อนเข้าเซฟก่อนจะเดินออกมา
อินทรี: “ใช้ดีตามที่โม้ไว้ใช่มั้ยละจืด”
ดนัยยกนิ้วโป้งให้ ที่เขาเอามาให้คือกล่องกระสุนของปืนซุ่มยิงรุ่นใหม่ที่เขาเคยซื้อเก็บไว้นานแล้ว แต่พอได้ยินว่าดนัยกำลังอยากได้กระสุนรุ่นนี้มาใช้กับปืน เขาเลยไปเอามาให้มันวันนี้ และท่าทางจะโดนใจมันสุดๆ
ดนัย: “มึงขายกล่องละเท่าไหร่วะ กูจะเอาเหมาะมือชิบหาย”
อินทรี: “ไม่ต้อง เอาไปเหอะกูไม่ใช้”
ดนัย: “ตัวนี้นำเข้ามา ให้ฟรีจริงดิ เอาจริงนะเฮ้ย”
อินทรีพยักหน้าหงึกๆ ดนัยก็รีบถอดมันออกมาเช็ดๆจนแน่ใจแล้วจึงเก็บใส่กล่องทันที
อินทรี: “หมดธุระแล้วกูกลับเลยนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
ดนัยที่กำลังเก็บปืนไรเฟิลของตัวเองพยักหน้าเบาๆ
อินทรีเดินออกไปรอที่ถนนไม่นานรถคันนึงก็มาจอดแล้วเขาก็ขึ้นไปนั่งและยิ้มให้คนขับแล้วรถก็ขับออกไป
หมู่แสง: “หมวดๆ หมวดอินทรีไปไหนครับ”
ดนัย: “กลับไปตะกี้ มีไรเหรอครับ?”
หมู่แสง: “งานช้างครับหมู่ ผู้การเรียกตัวมาพบครับ”
ดนัย: “เอองานช้างจริงด้วย มีไรวะ”
เป็นอันรู้กันทุกคนว่าถ้าผู้การเรียกพบนอกเวลา แสดงว่าความชิบหายมาเยือนแล้ว
หมู่แสง: “ไปดูกับตาเลยครับ ไปรับหน้าผู้การแทนผมด้วย ไม่เข้าไปแล้วสยอง”
ดนัยตบหัวตัวเองเบาๆก็จะเดินขึ้นไปบนตึกแทนเพื่อนตน
ส่วนไอ้คนที่ควรไปเจอความสยองก็กำลังนัวเนียอยู่กับสาวสวยหุ่นนางแบบ ซึ่งเป็นคนที่เอารถมารับเขากลับมาคอนโด
หญิงสาวยืนสูดปาก แอ่นร่างบดเยียดกับแผนอกชายหนุ่มเจ้าของห้องที่กำลังคว้านหาซิปเสื้อเกาะอกเธออยู่ เธอเองก็กำลังใช้มือแกะกระดุมกางเกงยีนส์เขา
อินทรี: “อูยยยย วันนี้รีบร้อนจังนะน้องหยก”
หยก: “ก็หยกคิดถึงพี่อินทรีไงค่ะ ไปยุโรปกับพ่อตั้งหลายเดือน”
อินทรีเชยคางเธอขึ้นมาบดปากแลกลิ้นกับสาวสวยก่อนจะเปลื้องยกทรงสีแดงออกไป เมื่อท่อนบนไม่มีอะไรปิดบังนายอินทรีก็ก้มลงมางับยอดอกสีน้ำตาลอ่อนจนเธอต้องกดหัวเขาแน่นด้วยความเสียว
หยก: “นั้นละค่ะ อูยยย อ๊าาาา สุดยอดเลย”
เธอกดหัวเขาแน่นสมกับที่อดยากมานาน สมกับที่เธอไปเที่ยวยุโรปกับเสี่ยแก่เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่
คงเดาไม่ยากว่าตาแกนั่นคงสนองอารมณ์เธอไม่ดีเท่าไหร่ พอกลับมาก็เลยรีบโทรหาเขาเพื่อ ต้องการดับเพลิงราคะในตัวของเธอเองถึงขนาดยอมออกมารับเขากลับคอนโด
ปกติผู้หญิงแบบเธอจะชอบเล่นตัวอยู่บ้านอยู่ห้องให้พวกเขาต้องไปหาเอง มาถึงก็เริ่มเองขนาดนี่ เดาว่าเธอคงจะเต็มที่แล้วแน่ๆ ส่วนเรื่องที่เขารู้ว่านางไม่ได้ไปกับพ่อ เขาจะบอกให้เสียบรรยายกาศทำไมละ
เขาค่อนข้างเฉยๆกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้เพราะยังมีหญิงในสต๊อกอีกหลายคนที่ทำแบบเดียวกัน แต่ในเมื่อมันวิน วิน ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ต้องไปคิดมากเลย
อินทรีดูดนมจนพอใจก็หันลงมาจัดการเสื้อผ้าส่วนที่เหลือจนหมดก่อนเธอจะจัดการนอนลงบนเตียงใหญ่กางขาออกให้เขาทำอะไรๆ ได้ตามสะดวกอินทรีก้มลงไปเลียร่องที่กำลังช้ำเยิ้ม
หยก: “อื้อออ อาาาา เสียวดีจังค่ะ จะถึงแล้ว ลิ้นดีจริงๆ ซื้ดดดดด”
เธอนำหน้าชิงเสร็จไปก่อนคาลิ้นที่กำลังว่ายวนในร่องแคบ น้ำสวาททะลักออกมาเปรอะเตียง
เขาเองก็ถอนปากออกมางัดท่อนเอ็น8นิ้วแถมฝังมุก6เม็ด ขนาดเท่ากล้วยหอมลูกโตๆโดออกชูหัวบานสีดำ
เขาไม่รอช้าจ่อดันเจ้าท่อนระเบิดลงในช่องแคบของเธอ
หยก: “โอยยย ใหญ่ถึงใจจริงๆ กดมาเลยค่ะหยกอยากโดนกระทุ้งท้องแตกแล้ว อ๊ายยยย”
เธอใช้ขาเรียวรัดเอวเขาแน่นพร้อมๆกับส่ายเอวร่อนรับการสอดใส่อย่างเต็มที่
ซึ่งทางชายหนุ่มของเราก็ไม่รอช้าจัดหนักๆให้เธอตามคำขอ เสียงกระแทกเอวนั่งตับๆ ท่อนจรวดของเขาวิ่งครูดเข้าออก ความเสียวพุ่งทะยานจนเธอกอดรัดเขาแน่น ปากก็ครวญครางกับความสุขที่กำลังได้รับจนแทบล้นกระลัก
ฝั่งชายหนุ่มเองก็ชื่นชมในความฟิตรัดของเธอแม้จะผ่านมาไม่น้อยแต่ก็ยังตอดรัดแน่นดี แม้จะไม่ดีเยื่ยมแต่ก็พอที่จะไม่เสียอารมณ์
เขาก้มลงดูดไซร้ทรวงอกที่กำลังเด้งขึ้นลงตามจังหวะกระแทกจนเธอเกร็งตัวบีบรัดท่อนเอ็นแน่นหนึบ ตอดตุบๆชิงขึ้นสวรรค์ไปก่อนอีกหนึ่งรอบ อินทรีเองก็คว่านบดเอวเบาๆรอจนเธอหายหอบ
พอนางแบบสาวพักจนหายเหนื่อยอินทรีก็พลิกเธอคว่ำลงยกสะโพกงอนๆขึ้นมาแล้วยึดสะโพกงอนๆไว้ก่อนเปิดฉากซอยเธอจากทางด้านหลัง
หยก: “ท่านี่อีกแล้ว ดูท่าจะชอบท่านี่มากนะค่ะ อูยยยยย ลึกดีจริงๆ ควยอินทรีมันครูดจนเสียวแทบทนไม่ไหว สุดยอดจริงๆ”
อินทรี: “ผมก็ทำท่านี่เฉพาะกับสาวสวยๆ เย็ดมันๆแบบหยกเท่านั้นแหละครับ เสียวดีใช่มั้ยละ ตอดรัดขนาดนี้”
หยกครางยาวๆแทนคำตอบ เธอแทบจะแตกอีกแล้วอยู่แล้ว ท่อนเอ็นของเขามันช่างวิเศษจริงๆ ความอึดอัดที่ไม่ได้รับการปลดเปลื้องมานานถูกเขาเติมเต็มจนล้นกระลัก
เขาสาวแบบเข้าสุดออกสุดราวลูกสูบอยู่อีกไม่นานทั้งคู่ก็พากันไปถึงฝั่งฝัน ทั้งสองทิ้งร่างชุ่มเหงื่อลงบนเตียงนุ่ม ก่อนอินทรีจะดึงท่อนระเบิดออกจากถ้ำที่บานช่ำ แล้วจัดการถอดถุงยางออกไปทิ้ง
เขาไม่เสี่ยงกับพวกผู้หญิงใจแตกแบบนี้หรอก ผู้หญิงประเภทนี้มันน่ากลัวเกินไปทั้งโรคทั้งการปล่อยให้ท้องเพื่อจะจับคนรวยๆแบบเขา
หยก: “โธ่ จะสวมทำไมละค่ะถุงยาง หยกอยากโดนแตกข้างในมากกว่า หรือว่าอินทรีรังเกียจหยกค่ะ”
อินทรี: “ใครจะไปคิดแบบนั้น แต่ผมกลัวกยกจะท้องแล้วเราก็จะอดทำแบบนี้กันไงครับ”
ทั้งที่รู้เจตนาที่แท้แต่ว่าเขาก็ยังแกล้งตอบตามน้ำไปเช่นเคย เขาไม่คิดจะมีครอบครัวอยู่แล้ว ยิ่งกับพวกหลงวัตถุใจแตกแบบนี้อีก ใครจะเอามาทำเมียจริงๆ
แต่เหตุผลหลักๆคือเขาเกลียดการผูกมัดมันเป็นบ่วง เป็นภาระ ชีวิตคงเฉาตายพอดีเขายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก อีกอย่างเขายังมองภาพตัวเองเป็นพ่อคนไม่ออก เมื่อมีลูกแล้วสอนมันไม่ได้ก็อย่าไปมีให้เป็นภาระสังคมเลยดีกว่า แต่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนดีหรอก
เขามองร่างงามที่นอนบนเตียงอย่างครุ่นคิดและจะตัดสินใจหยิบกล่องถุงยางออกมาเป็นสัญญานของศึกระลอกที่สองในคืนนี้
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน