แฟนผมเป็นคนดี ตอนที่ 4

pekopon66

Full Member
203
2712

แฟนผมเป็นคนดี ตอนที่ 4

« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2018, 04:54:01 pm »

การเชื่อใจคนมันเป็นสิ่งที่ไม่ยาก แค่มั่นใจในฝ่ายตรงข้าม และไม่ต้องคิดมากอะไร แค่นี้คุณก็จะไม่เป็นทุกข์ในสิ่งที่คุณนั้นคิดไปเอง นี่คือคติของผม มันทำให้ความรักของผมกับสิคไม่มีปัญหา หลายคนคบๆกันแปปเดียวอาจจะทะเลาะและเลิกกัน แต่ถ้าคุณทำอย่างผม คุณก็อาจจะได้ความรักที่ยั่งยืนมาก็ได้ มีคนปรามาศว่าไม่นานผมกับสิคจะเลิกกัน แต่ผมจะพิสูจน์ให้พวกปากหอยปากปูรู้เองว่าสิคนี่ละ แม่ของลูกผม

ถ้าถามว่าผมอยากมีลูกชายหรือลูกสาว ผมคงตอบว่า อยากมีลูกสาว เพราะลูกของผมจะต้องสวย น่ารัก และนิสัยเหมือนแม่เขาอย่างแน่นอน เขาจะเป็นคนเรียบร้อยและรักเดียวใจเดียวแบบที่แม่เขาเป็น ถึงจะพูดเรื่องลูกแบบนี้แต่ผมก็ไม่คิดชิงสุขก่อนห่ามหรอกครับ ผมป้องกันทุกครั้งเวลาที่มีอะไรกับสิค เธอเองก็ย้ำเตือนผมเสมอว่าให้ใส่ถุง มีคนบอกว่าการมีเซ็กส์แบบสดๆมันมันส์กว่าเยอะ ผมเองก็อยากลองนะ แต่คงต้องเป็นหลังแต่งงาน

ก่อนจะพูดถึงเรื่องอนาคต ผมขอเล่าอดีตที่ค้างคาต่อก่อนละกัน เรื่องราวที่เกาะเสม็ด สิคและเพชรเล่นละครทำตัวเป็นแฟนกัน เล่นน้ำกระหนุงกระหนิง กอดรัดจับโยนกันเป็นธรรมชาติ จนผมนั่งเก้าอี้ไม่ติด มันเป็นสภาวะจำยอมที่ผมต้องผ่านมันไปให้ได้ ถ้าถามว่าหึงไหม มันก็มีบ้าง แต่การทำดีบางครั้งมันก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองสบาย บางครั้งเราจึงต้องสละความสุขส่วนตนเพื่อความสุขของคนอื่น

ครั้งนี้ผมต้องยอมเพื่อความสุขของเพชร ผมเชื่อว่าสิคเองก็คงไม่มีความสุขนัก ที่เธอยิ้มที่เธอหัวเราะ ที่เธอกอดคอหอมแก้มเพชรมันคงจะเป็นการแสดงที่เธอฝืนสุดกำลัง สิคหันมามองผมสองสามทีก่อนจะกระซิบเพชร ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคุยอะไรกัน เธออาจจะอยากขึ้นจากทะเลแล้วก็ได้ เพชรพูดอะไรกลับบางอย่างก่อนจะดึงเธอเดินในน้ำหายไปตรงดงหินสุดขอบหาด ผมลุกขึ้นจะเดินตามไปดูแต่ถูกคนรั้งแขนไว้

“ลื้อจะไปไหนของลื้อ” พ่อของเพชรนั่นเอง
“เอ่อ..คือ”
“ลื้อจะไปดูน้องสาวลื้อใช่มั้ย”
“ครับ” ผมยอมรับออกไปตรงๆ
“ลื้อจะหวงอะไรนักหนาเล่า ปล่อยให้มันสวีทกันบ้าง”
“แต่พ่อแม่อนุญาติให้สิคมาก็เพราะว่าผมสัญญาเอาไว้นะป๊า ว่าจะดูแลน้องให้ดีๆ”

ตอนนี้ผมเริ่มใช้สกิลการแสดงของผมบ้างละ แต่ใช่ว่าพ่อของเพชรจะยอมทันที เราต่อล้อต่อเถียงกันเกือบห้านาที กว่าแกจะยอม และพ่อของเพชรก็แสดงความเป็นพ่อ โดยจะไปกับผมด้วย หากเพชรทำมิดีมิร้ายกับสิค พ่อของเพชรสัญญาว่าจะจัดการให้ ผมรู้ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แต่พ่อพูดแบบนี้ก็สบายใจ

ผมกับพ่อของเพชรเดินไปตรงดงหินจำนวนมากตรงริมหาด แถวนั้นมีหินทับถมกันอยู่มากมาย บ้างนอนขวาง บ้างตั้งตรงสลับไปมาอย่างกะเขาวงกต ผมกับพ่อเดินหาอยู่สักพัก จนผมเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างอยู่หลังหินที่นอนขวางอยู่กับพื้น

เพชรนั่นเอง เขายืนหันข้างเปลือยบนอยู่ ส่วนด้านล่างมองไม่เห็นเพราะหินมันบังอยู่ มือข้างนึงของเพชรเท้าหินเอาไว้ อีกข้างจับอะไรอยู่ไม่รู้หลังหิน เพชรมีอาการยืนแอ่นๆ หน้าตาเหยเกแปลกๆ ผมเห็นดังนั้นจึงลองเรียกดู

“เฮ้ย เพชรทำอะไรอยู่วะ” เพชรตกใจหันมามองผม
“เอ่อ…อ่า..ฉี่อยู่ มีไรป่าว”
“เห็นไหม บอกแล้วว่าลูกพ่อไม่ทำมิดีมิร้ายน้องแกหรอก”
“ เพชรแล้วสิคอะ” ผมยังไม่เห็นสิคเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่รู้ อยู่แถวหลังโขดหินนู่นมั่ง….อูยย..ซี้ดดด กูขอมาฉี่น่ะ”
“อ่อเคร งั้นเดี๋ยวไปหาสิคก่อนนะ”
“แปปๆ กูยังไม่เสร็จ อีกนิดนึงๆ อูยย”
“มึงฉี่เสร็จไม่เสร็จเกี่ยวอะไรด้วยวะ” ผมงงกับที่เพชรพูดเหลือเกิน
“เอ่อหน่า เชื่อกู ขอเวลาแปปเดียว”

เพชรพูดจบ ก็เอามืออีกข้างที่เท้าหินยกลงไปหลังหินอีกข้างเหมือนจับอะไรซักอย่าง แล้วพี่แกก็ทำท่าน่ารังเกียจ ทำท่าเด้าเอวโชว์ผมกับพ่อตัวเองซะงั้น คนมันจะเล่นมุกนี่ไม่ดูเวล่ำเวลาเลย เพชรกระเด้าแรงๆอยู่หลายที หูของผมได้ยินเสียงบางอย่างแว่วแทรกเสียงคลื่นกระทบสายดัง

อ๊อก!!อ๊อกก!!อ๊อกก!!

“ซี้ดดดด เสร็จแล้วววว กลืนไปให้หมดเลยยย”
“กลืนอะไรของลื้อวะ” พ่อเพชรถามพลางยิ้มแปลกๆ
“ทรายไงพ่อ ให้ทรายมันกลืนน้ำผมให้หมด คนแถวนี้เดินมาเห็นรอยฉี่ผมมันจะดูไม่ดี”
“แล้วมันกลืนหมดยังละ”
“อีกนิดพ่อ ซี้ดดด อูยยย ดูดหมดละ”
“แล้วกูจะรอมึงทำเพื่อ?”

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมยืนดูเพื่อนฉี่ ไม่ค่อยน่าพิรมเท่าไหร่ เพชรทำท่าใส่กางเกงแล้วเดินออกมาในสภาพเปลือยครึ่งบน โชว์ให้เห็นกล้ามเป็นมัดๆ ซิคแพคเป็นลอนสวยครบหกลูก เห็นแล้วอดอิจฉาหุ่นมันไม่ได้ ผมนี่มีแพคเดียวพลุ้ยเลย หน้าอกของมันก็ใหญ่โต เป็นก้อนกล้ามเนื้อกลม แต่แล้วผมกลับเห็นรอยแดงๆเป็นจ้ำๆอยู่บนอกมันอยู่สามสี่รอย

“หน้าอกมึงไปโดนไรมาวะ แดงๆจ้ำๆ” ผมชี้ เพชรก้มลงมามองแล้วตกใจตาถลน มันจะโอเวอร์แอคติ้งไปถึงไหน ฝึกเล่นละครเวทีรึไงก็ไม่รู้ ถามเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้เอง
“เอ่อ..โดนหินขูดมั่งก็ว่าแสบๆ”
“รีบไปทำแผลเลยมึงเดี๋ยวติดเชื้อโรคมาจะแย่” ผมอดห่วงมันไม่ได้ ยังไงมันก็เพื่อนผม
“เดี่ยวอั้วพาไปเอง” พ่อของเพชรอาสา
“งั้นฝากสิคด้วยนะต้อม สิครออยู่แถวๆนั้นละ”

หลังจากคุยกันสักพัก เพชรกับพ่อของเขาก็แยกไป ผมเดินตามหาสิคตามซอกหิน ไม่นานผมก็เห็นสุดที่รักของผมนั่งเอาเท้าตีน้ำทะเลเล่นอยู่ราวกับเด็กน้อย

“อยู่นี่เอง สุดที่รักของต้อม” สิคหันมามองอย่างไม่ตกใจอะไรนัก แต่เธอก็ยิ้มหวาน
“อ้าวต้อม แล้วเพชรล่ะ”
“กลับไปกับพ่อเขาแล้ว สิค อะไรติดตรงปาก”

ผมเห็นน้ำสีขาวๆติดอยู่ตรงมุมปากเกือบจะถึงคาง ผมเอามือไปเช็ด สิคทำตาโตเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้

“สงสัยเป็นฟองน้ำทะเล”
“นั่นสินะ ว่าแต่ตอนนี้เหลือเราแค่สองคนละนะ”
“งั้นมาเล่นน้ำกันไหม” สิคชวนอย่างงี้ผมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
“แต่ต้อมขออะไรอย่างสิ”
“อะไรเหรอ?”
“ช่วยถอดเสื้อดำออกหน่อยได้ไหม ต้อมอยากเห็นสิคใส่ชุดว่ายน้ำ”
“คนทะลึ่ง…ได้สิ”

สิคยิ้มหวานก่อนจะถอดเสื้อยืดตัวโคล้งออก เป็นภาพที่เซ็กซี่ตราตรึงใจมาก วันนี้สิคสวมชุดทูพีช สีดำ ด้านบนเป็นบิกินี่แบบผูกคอ เว้าตรงกลางเผยให้เห็นเนินอกขนาดกำลังพอดีมือ ส่วนช่วงล่างก็เป็นบิกินี่ช่วงล่างตัวน้อยสีดำมีเชือกมัดด้านข้าง สมแล้วที่เธอสวมเสื้อยืดคลุมเอาไว้ ไม่งั้นผู้ชายคงหันมามองทั้งเกาะ

แต่พูดไปแล้วไอ้เพชรนี่มันก็ทายแม่นนะ ที่มันมั่วเรื่องชุดว่ายน้ำของสิคให้พ่อมันฟัง กลับตรงซะงั้น คราวหน้าผมลองไปขอหวยดูดีกว่า เผื่อมันจะบอกหวยได้ตรงเหมือนชุดว่ายน้ำสิคบ้าง ในขณะที่ผมมองหุ่นสิคเพลินๆ ตาผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง

“สิคตรงนั้นรอยอะไรอะ”

ผมเห็นรอยแดงๆเผยอออกมาจากใต้บิกินี่ตรงหน้าอก ผมถือวิสาสะเอามือไปแหวกบิกินี่ของสิคดู มันเป็นรอยคล้ายๆกับของเพชร แต่ใหญ่และสีเข้มกว่า รอยเริ่มจากใกล้ๆหัวนมแล้วลากยาวออกมา

“นี่สิคก็ไปโดนหินบาดมาเหมือนกันเหรอ”
“หินบาด..ใช่ๆ”
“งั้นไปทำแผลก่อนไหท เดี๋ยวติดเชื้อพอดี เมื่อกี้ก็เพิ่งส่งเพชรกลับไป”
“อ…อ่อ..เหรอ แต่สิคว่าสิคไม่เป็นอะไรหรอกมั่ง”
“เอาหน่า ลองไปให้พยาบาลในรีสอร์ทดูหน่อยนะ ไม่ต้องอาย”
“อือๆ”

สิคพยักหน้า ผมจึงจูงมือเธอเดินกลับ แต่เดินไม่ถึงสองก้าว สิคก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอลืมสวมเสื้อคลุม สิคจึงหันหลังไปจะหยิบเสื้อ แต่แล้วข้อเท้าของเธอกลับพลิกเพราะความลื่นของหิน สิคล้มหน้าคว่ำ ดีที่ผมคว้าตัวเอาไว้ได้ ตัวเธอถึงไม่กระแทกพื้น แต่สิคก็ต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้นเพราะเธอปวดข้อเท้า

“โอ้ยยย เจ็บ”
“เวรล่ะ ข้อเท้าพลิก ทำไงดีๆๆ” ผมลนลาน
“ช่วยอุ้มสิคไปหาพยาบาลหน่อย”
“ได้ๆ อู้ยย”

ในขณะที่ผมจะอุ้มเธอขึ้น ผมก็รู้สึกเจ็บแปล้บที่เข่า เมื่อลองถกขากางเกงขึ้นดูก็ต้องตกใจ เพราะเข่าผมมีแผลเลือดออก อาจจะเกิดจากตอนที่ผมคว้าตัวสิคเอาไว้แล้วเข่าผมดันลงถึงพื้นก่อน คราวนี้ยิ่งหนักกว่าเดิม เจ็บกันทั้งสองคนเลย ผมคิดไม่ออกเลยจะทำยังไงต่อดี

“นี่พวกหนูที่นั่งตรงนั้นน่ะ เป็นอะไรรึเปล่า”

เสียงที่ไม่คุ้นหูดังมาจากเนินหินที่เถิบออกไปไม่ไกล เขาเป็นผู้ชายผิวดำกร้านจนออกแดง ดูมีอายุแล้วแต่ท่าทางยังแข็งแรงอยู่ หุ่นไม่ใหญ่แต่ดูฟิตๆ ผมหยักศก แกเดินเข้ามาดูอาการของผมสองคน พร้อมเล่าว่าแกชื่อ โต๊ะ เป็นนักมวยโชว์ประจำเกาะนี้ละ ตอนกลางคืนก็ต่อยโชว์ฝรั่ง แล้วแกก็พักอยู่ที่บ้านพักคนงานเก่าตรงบนเนินหินนั่น แกว่าจะเดินไปหาเพื่อนที่รีสอร์ท ก็มาเจอพวกเราสองคนนี่ละ

“พวกเอ็งลุกเดินไหวไหม”
“ผมไหวครับ แต่แฟ..เอ้ย น้องสาวผมน่าจะเดินไม่ไหว”
“งั้นขี่หลังเดี๋ยวลุงพาไปส่ง” ผมหันมามองหน้าสิค
“เอาไงสิค”
“ไม่รู้จะเอาไงแล้วล่ะ รบกวนลุงหน่อยนะคะ”

ลุงโต๊ะนั่งยองหันหลังให้ สิคประคองตัวเองก่อนจะขึ้นไปเกาะหลังแก ลุงโต๊ะยกสิคขึ้นสบายๆ สีผิวของทั้งสองมันช่างตัดกันเหลือเกิน ผมแอบนั่งพินิจพิเคราะห์ ถ้าไม่มีลุงโต๊ะ มีหวังพวกผมต้องนั่งรอขอความช่วยเหลืออีกนาน แต่ถึงยังงั้นผมก็แอบหึงนิดๆ ที่หน้าอกของสิคแนบไปกับหลังลุงโต๊ะแบบนั้น

แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าสิคยังไม่ใส่เสื้อยืดคลุม ผมรีบคว้าเสื้อแล้วตามไปคลุมไหล่เอาไว้ ไม่นานพวกเราก็กลับมาถึงรีสอร์ท ลุงโต๊ะพาไปฝากกับพนักงานไว้ ไม่นานพวกเพชรก็ตามมาดูอาการสิค หลังจากปฐมพยาบาลสิคเสร็จ ก็ถึงตาผม ในตอนนั้นเองพ่อของเพชรก็พูดขึ้นมา

“เพชรพาแฟนเองไปพักผ่อนที่ห้องไป ส่วนต้อมเดี๋ยวให้พนักงานเขาจัดการ”

ผมไม่ทันได้พูดอะไร สิคก็ถูกเพชรเพื่อนตัวดีหิ้วปีกพากลับห้องพักไปเลย ส่วนอาการผมกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีแผลฉีกขาด ทางรีสอร์ทเลยพาผมขึ้นรถไปคลีนิคในเกาะ เสียทั้งตังเสียทั้งเวลา กว่าผมจะได้กลับมาฟ้าก็มืดแล้ว ผมคิดถึงสิคใจจะขาด รีบเดินกลับไปที่ห้อง แล้วผมก็พบว่าประตูห้องล็อค

นี่มันอะไรนักหนาเนี่ย หรือว่าสิคกับเพชรจะไม่ได้อยู่ในห้อง ผมลองเดินรอบๆบ้านพีกดู เนื่องจากเป็นบ้านพักชั้นเดียว สามารถเดินรอบตัวบ้านได้ แล้วผมก็พบกับพ่อของเพชรยืนมองอะไรตรงหน้าต่างอยู่ ตลอดทั้งหน้าต่างถูกม่านปิดสนิท มีเพียงตรงที่พ่อของเพชรยืนส่องอยู่เท่านั้นที่เป็นรอยแยกของม่าน มองเข้าไปในห้องได้

“พ่อครับ ทำอะไรอยู่เหรอ”
“ก็ดูว่าที่ลูกสะใภ้ดูแลลูกชายฉันน่ะสิ”
“หือ สิคดูแลยังไงเหรอครับ ผมขอดูมั่ง” ผมกำลังจะเดินเข้าไปส่องแต่พ่อของเพชรเอามือยันเอาไว้
“เอ็งไม่ต้องดูๆ ถ้าจะดู ดูผ่านม่านก็พอแล้ว”

ผมหันมองที่ม่านก็เริ่มเห็นเงาดำๆ อย่างกะละครเงา ผมมองไม่เห็นรายละเอียดเลยแม้แต่น้อย เท่าที่ผมเห็นคือ ผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นสิค นั่งชันตัวหันมาทางหน้าต่าง ท่อนบนของเธอตั้งตรงนิ่ง แต่ช่วงล่างดูเหมือนกำลังขยับโยกอยู่ เหมือนเธอกำลังโยกเอวบดอะไรซักอย่าง ผมเริ่มหัวร้อน

“พ่อ นี่มันไปกันใหญ่ละนะครับ”
“ไปกันยงกันใหญ่อะไร เอ็งไม่เห็นหรือไงว่าน้องของเอ็งกำลังนวดขาให้ลูกชายอั้วอยู่”
“ห้ะ นวดขา”

ผมกลับไปมองเงาอีกรอบนึงจะว่ามันเหมือนนวดขาก็เหมือน บางจังหวะสิคก็มีโยกตัวขึ้นโยกตัวลง สงสัยจะกดแรงลงฝ่ามือ เสียดายผมไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรเลย เพราะเสียงคลื่นทะเลมันดัง ผมกลับได้ยินเสียงนกในป่าหลังบ้านลอดเข้ามาในหูยังกะเสียงครางผู้หญิง

“อ้ะ อ้ะ อ้ะ” เสียงโทนเดียวกับสิคเลยล่ะ
“ลูกสะใภ้อั้วนี่…อื้อหือ..กลม..ชมพู..น่าจริงๆ”
“อะไรกลม อะไรชมพูครับพ่อ”
“ตามันน่ะสิกลท ผิวมันสิชมพู น่าส่งเข้าประกวดจริงๆ เอวดีแบบนี้น่าจะส่งไปเป็นนักเต้น”
“อ่อ”

ภาพเงาที่ผมเห็นคือสิคยังโยกขึ้นลงซักพัก ก่อนจะล้มหน้าคว่ำลงมา ไม่นานร่างเงาที่ใหญ่ซึ่งน่าจะเป็นเพชรก็คุกเข่าขึ้นมาบังเงาของสิค มันทำท่าจับอะไรบางอย่างแล้วเริ่มโยกเอว

“พ่อ แล้วนี่มันอะไรอะ ผมมองไม่เห็น”
“ไอ้เพชรมันนวดให้หนูสิคมันน่ะ เห็นหนูมันเมื่อยๆมั่ง เลยจับอีหนูมันนอนท่าหมา..เอ้ยคุกเข่าแล้วนวดเอวขวดขามัน”
“แล้วเมื่อไหร่จะนวดกันเสร็จเนี่ย” ผมชักหงุดหงิด
“ใกล้แล้วมั่ง นี่นวดกันมาจะชมนึงแล้ว อั้วยืนขาแข็งเลยเนี่ย”

ผมชักหัวร้อน เมื่อไหร่จะนวดกันเสร็จนะ ผมไม่ชอบเลยที่เพชรมาแตะเนื้อต้องตัวแฟนผมแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่การนวดก็เถอะ ผมยืนดูเงานั่นอยู่สักพัก เงาของเพชรก็เริ่มโยกตัวแรงขึ้น มันรวดเร็วจนเตียงผ้าปูกระเพื่อมเสียงขาเตียงดังผสมกับเสียงนกในป่าที่ร้องเสียงระงม
เอี้ยดๆๆๆ!!!
“โอ้ยๆๆๆๆ อ้ะๆๆๆๆ”

พ่อของเพชรก็ยืนตัวเกร็งเลย ผมแอบเห็นเป้าของพ่อเพชรบวมตุ่ย สงสัยแกจะปวดฉี่ แต่อย่าหาว่าผมปีนเกลียวเลยนะ แต่ไอ้นั้นของแกคงใหญ่ใช่ย่อย ไม่นานเพชรก็หยุดนวด มันค้างอยู่ท่านั้นก่อนจะทรุดตัวลงไปนอน ผมร้อนใจทนไม่ไหวรีบเดินไปที่หน้าประตูแล้วเคาะรัวๆ

สักพักประตูก็เปิดออกมา เพชรเดินออกมาในสภาพเปลือยครึ่งท่อนเหมือนกับตอนที่เล่นทะเล แต่เหงื่อแตกพลัก

“ต้อมกลับมาแล้วเหรอ อ้าว พ่อก็อยู่ด้วย”
“ต้อม แม่ลื้อตามให้ไปกินข้าว”
“อ่อ งั้นผมเปลี่ยนเสื้อแปป”
“ไม่ต้องหรอกๆ ไปทั้งอย่างงี้ล่ะรีบไป”

พ่อของเพชรลากเพชรไป ปล่อยให้ผมยืนงง ก่อนที่จะเดินเข้ามาในบ้าน ผมเห็นสิคนอนคลุมโปงอยู่ที่เตียงคู่ ตอนนี้เตียงยับยู่ยี่ซะเหลือเกิน ไม่รู้นวดกันท่าไหน

“สิคนอนอยู่เหรอ”
“ป…เปล่า เมื่อกี้เพชรช่วยนวดขาให้สิคน่ะ”

แสดงว่าสิ่งที่พ่อของเพชรพูดเป็นความจริง ไม่มีทางที่ทั้งสองจะนัดแนะกันได้ ผมกลับคิดแต่เรื่องอุบาทว์ชาติชั่ว ไม่สมกับเป็นตัวของผมเลย

“เดี๋ยวสิคขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ อั้นฉี่จะไม่ไหวอยู่แล้ว”

สิคพูดจบก็เปิดผ้าห่มออก ผมโล่งอกเพราะเธอยังสวมเสื้อยืดสีดำตัวโคล้งไว้แบบเดิม ผมคิดไปไกลถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ สิคเดินลงจากเตียง ผมแอบเห็นมีน้ำอะไรไม่รู้ไหลลากยาวลงมาจากหลังขาของเธอ นี่เธออั้นฉี่จนทนไม่ไหวแล้วละมั่งถึงได้ไหลเยิ้ทออกมาแบบนี้

ในที่สุดเรื่องราวแย่ๆก็จะจบลงซักที หลังจากนั้นผมกับสิคก็ตัวติดกันตลอด เพชรก็ไม่มีทีท่าเข้ามาเกาะแกะสิคซักเท่าไหร่ คืนนั้นผมนอนกอดเธออย่างสบายใจแล้วผลอยหลับไป

--------------------------

คืนนี้เป็นคืนที่อากาศอบอ้าวซะจนนอนไม่หลับ พลิกตัวอยู่หลายหนยังไงก็ไม่หลับเสียที จึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดไฟ แล้วส่องกระจกมองตัวเอง

“นี่สิค นับวันเธอนี่ช่างเอาใหญ่แล้วนะ”

สิคก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะว่าตัวเองไปเพื่ออะไร แล้วทุกคนล่ะคะ อยากรู้ไหมทำไมสิคถึงต้องว่าตัวเองแบบนี้

โปรดติดตามตอนต่อไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 05, 2018, 04:54:51 pm โดย pekopon66 »

บันทึกการเข้า

ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่ นวมินทร์-รามอินทรา