พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้วครับ มาเร็วดีไหมช่วงนี้ หลังจากที่หลาย ๆ คนได้ฟินน์กับหมอพลอยแล้ว ก็ถึงเวลากลับมาสู่การปูเรื่องราวต่อไปนะครับตอนนี้มีสามพาร์ท หลายตอนที่ผ่านมาผมคิดว่าเราใช้กระดาษทิชชู่เปลืองกันเกินไปแล้ว ก็เลยอยากเปลี่ยนโทนบ้าง (สามพาร์ทนี้ไม่มีฉากอัศจรรย์นะ ผมคิดว่าผมจัดหนักจัดเต็มไปเยอะแล้ว พักผ่อนมือบ้างลูกพี่ 55555
สำหรับตอนนี้เป็นตอนต่อจากตอนที่แล้ว (เกมรัก...เกมร้าย Pt5.5) นะครับ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลุงพลตื่น คุณจะได้เห็นตัวตนของหมอพลอยและลุงพลมากขึ้นเรื่อย ๆ หากจำกันได้ ผมเคยบอกในเนื้อเรื่องว่า "มีผู้หญิงไม่กี่คนในโลกที่สามารถสยบลุงพลได้ ก่อนหน้านั้นก็มียุภาและล่าสุดก็คือหมอพลอย"
....จริง ๆ ที่ใกล้เคียงก็มีใบเฟิร์น รักแรกของลุงพลในวิทยาลัยพยาบาล แต่เพราะความโลเลเลื่อนลอย เลยทำให้ลุงพลต้องถอยห่าง ส่วนโดนัทมีดีที่รักและหวังดีกับลุงพลจริง ๆ แต่ติดที่เป็นคนเจ้าอารมณ์และชอบใช้กำลัง ส่วนพิมมี่นี่ก็จัดว่าโอเค แต่เอาเข้าจริงคงสู้พวกตัวโหด ๆ แบบหมอพลอยไม่ได้ ส่วนน้องนาถ เหมาะเป็นนางสนมมากกว่ามเหสีเอกของลุงพลเค้า 5555+ ส่วนสาวอุ๊ยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีบทกับลุงพลแบบชัด ๆ เท่าใดนัก ก็อยากให้ติดตามกันต่อไป
ผมขอยกวลีของ นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ผู้ล่วงลับอย่าง สตีเฟน ฮอวค์กิ้งที่เคยกล่าวถึงผู้หญิงไว้ดังนี้ว่า
"Women. They are a complete mystery." (ผู้หญิง,พวกเธอคือสิ่งที่ลี้ลับที่สุดในโลก) นี่คือคำนิยามของนางเอกหลาย ๆ คนในเรื่องนี้ โดยเฉพาะหมอพลอย ในฐานะคนเขียน บอกตามตรง ผมเองก็ชักหลงรักเธอไม่น้อยกว่าพวกคุณเหมือนกัน ถ้าเธอมีตัวตนอยู่จริง ผมคิดว่าเธอคงเป็นนางในฝันของผู้ชายหลายคนกันเลยทีเดียว
อ้อ!!! ตอนนี้ก็มีบทของครูเบสท์และน้องทรายด้วยนะครับ ผมตั้งใจว่าจะใช้ไตรภาคนี้เล่าขยายเรื่องราวของนางเอกทั้งหมด 12 คน ทั้งภาคแรกและภาคสองครับ โดยเฉพาะในพาร์ทของครูเบสท์ นี่จะเป็นจุดฉนวนที่ทำให้หมอพลอยและครูเบสท์เริ่มผิดใจกันในอนาคตครับ ก็ไม่ใช่เรื่องอะไร เรื่องลุงพลนี่แหละ ผมเขียนเองชักอิจฉาแล้วนะ ตัดจบด้วยการฆ่าลุงทิ้งเลยดีไหมเนี่ย? 5555...............................................
ตัวอย่างบางส่วนของตอนนี้ลุงพลและหมอพลอยช่วยกันถอดผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และผ้าขนหนูเพื่อนำไปซัก ระหว่างที่รอผ้าแห้งหมอพลอยก็จัดแจงทำอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ให้ตาเฒ่าหื่นและตัวเองได้ทาน นั่นคือ ขนมปัง ไข่ดาว เบค่อน และสลัดผักแบบง่าย ๆ ลุงพลมีท่าทีอิดออดเล็กน้อย เพราะกินอาหารฝรั่งแบบหมอพลอยไม่เป็น
“นี่ลุง!!! กิน ๆ ไปเถอะ อุตส่าห์ทำให้ทานแล้ว” หมอพลอยทำเสียงดุ ขณะกำลังเสิรฟ์อาหารเช้าแบบง่าย ๆ ให้ลุงพล “ปกติหมอเองก็ทำกับข้าวไม่ค่อยเป็นหรอกนะ เพราะฉะนั้นกิน ๆ ไปเถอะ ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”
สุดท้ายลุงพลก็ต้องกิน เพราะความรักและความเกรงใจหมอสาวคนสวย นัยน์ตาของมันเหลือบมองหมอสาวในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงผ้ายีนส์ขาสั้นด้วยความหลงไหล แม้จะไม่ได้แต่งหน้าหรือแต่งตัว แต่หมอพลอยยังคงดูสวยและน่ารักสดใสไม่เปลี่ยน ให้อารมณ์เหมือนหญิงสาวธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่แพทย์สาวผู้สูงศักดิ์ที่ใครต่อใครต่างเคารพและยำเกรง
หมอพลอยเดินกลับไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบน้ำผลไม้และสลัดผักที่ทำแบบง่าย ๆ ออกมาจากตู้เย็น เธอใช้บั้นท้ายดันตูเย็นแล้วเดินหยิบสลัดผักในกล่องพลาสติกและน้ำผลไม้มาที่โต๊ะทานขาว เจ้าหญิงน้ำแข็งเทน้ำผลไม้ใส่แก้วสองใบที่เตรียมเอาไว้แล้วบนโต๊ะ ลุงพลยิ้มให้หมอพลอยขณะกำลังใช้ส้อมจิ้นเบค่อน หมอพลอยทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วเริ่มต้นทานสลัดผักที่เตรียมเอาไว้
“กินแค่นั้นอิ่มเหรอครับหมอ?” ลุงพลเอ่ยปากถาม “หรือว่าลดความอ้วน? ข้าวเช้านี่ต้องกินเยอะ ๆ นะครับหมอ”
“หมอเป็นคนกินน้อยค่ะ” เจ้าหญิงน้ำแข็งตอบ ขณะกำลังใช้ช้อนและส้อมตักผักที่ราดครีมสลัดขึ้นมาทาน “อีกอย่างหมอทำกับข้าวไม่ค่อยเป็นเท่าไร”
แน่นอนล่ะ ผู้หญิงสมัยใหม่อย่างพลอยพรรณนั้นทำกับข้าวไม่เก่งนัก เพราะชีวิตของเธอส่วนใหญ่ใช้ไปในส่วนของเรื่องงานเสียมากกว่า จะมีเพียงเมนูง่าย ๆ อย่างที่ทำให้ลุงพลทานหรือพวกสลัดเท่านั้นที่เธอพอจะทำเป็น
“ไว้คราวหน้า ถ้าลุงมาที่นี่อีก ลุงทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้หมอทานนะครับ” ลุงพลยิ้ม “ลุงกับข้าวเก่งนะ คิดว่าหมอน่าจะชอบ”
หมอพลอยเหลือบมองลุงพลหน้านิ่ง ในปากก็เคี้ยวสลัดแก้มตุ่ย นัยน์ตาของเธอดูเยือกเย็น แตกต่างจากตอนที่ได้ร่วมรักกับตาเฒ่าหื่นบนเตียง ทำเอาลุงพลไปไม่เป็น เลยต้องก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าฝีมือหมอสาวคนสวยต่อไป
“กินได้ไหมคะ?” หมอพลอยเอ่ยปากถาม “ฝีมือทำกับข้าวของหมออร่อยไหม?”
“ลุงกินอาหารฝรั่งไม่ค่อยเป็นหรอก แต่ก็อร่อยดีครับ” ลุงพลยิ้ม
#########################
ตัดมาที่ลุงพล หลังจากอาบน้ำแต่งตัวมันก็เดินไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอย ระหว่างทางก็ผ่านร้านขายข้าวแกงของป้าแต๋วที่กำลังวางถาดแกงในตู้กระจก พอเห็นหนุ่มใหญ่ที่ตนแอบรัก ป้าแต๋วเลยกวักมือเรียกพี่พลเสียงหวาน
“พี่พล!!!จะไปไหนคะเนี่ย!!” ป้าแก้วกวักมือเรียกลุงพลหยอย ๆ “กินข้าวเช้ายัง มากินข้าวก่อนเร็ว!!”
“พี่กินแล้วจ๊ะแต๋ว…” ลุงพลยิ้ม
“แล้วรถมอเตอร์ไซค์พี่ไปไหนเนี่ย?” ป้าแต๋วเอ่ยปากถาม “เดี๋ยวแต๋วให้นังทรายขับรถไปส่งให้เอาไหม?”
“เอ่อ…ไม่ดีหรอกมั้งแต๋ว” ลุงพลปฏิเสธไป เพราะความเกรงใจ เกรงใจจริง ๆ จากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่อยากรบกวนอะไรสองแม่ลูกคู่นี้นัก
“แม่!!! ขอตังค์ หนูจะไปเรียนแล้ว!!!” เสียงแปดหลอดของน้องทรายดึงขึ้นจากหลังบ้าน เป็นใครไม่ได้นอกจากน้องทราย ฉัตรพร ลูกสาวคนเดียวของป้าแต๋วเจ้าของร้านขายข้าวแกงในชุดนักเรียนอาชีวะ “อ่าว…ลุงพลหวัดดีค่ะ”
“จ๊ะ…ไหวพระเถอะทราย” ลุงพลพนมมือรับด้วยรอยยิ้ม พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันก่อน ที่มันไปช่วยน้องทรายจากทอมสาวที่ชื่อนันตรงเซเว่นหน้าปากซอย
“เออ ๆ ตั้งใจเรียนนะมึง” ป้าแต๋วควักเงินในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนขึ้นมา “เรียนเสร็จแล้วก็รีบกลับมาช่วยแม่ขายของนะ อย่าเถรไถลอีก”
“จ้า…แม่” น้องทรายพนมมือไหว้รับเงินจากแม่ ก่อนโผลเข้ากอดเพื่ออ้อนขอความรัก “ขอหนูกอดแม่ก่อนไปเรียนก่อนน๊า”
“เออ ๆ รีบไป!! อย่ามัวแต่อ้อนอยู่” ป้าแต๋วทำเสียงดุ “เออ…ทราย ช่วยแม่หน่อย พาลุงพลไปส่งที่ทำงานหน่อยได้ไหม?”
“อะไรนะแม่?” น้องทรายปล่อยมือจากแม่ ผลางหันไปมองลุงพลด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก “ให้ไปส่งลุงพลเหรอ?”
“เออซิวะ!!” ป้าแต๋วยืนยันหนักแน่น “นะคะพี่พล ให้ทรายมันไปส่งพี่ที่ทำงานนะ ยังไงทรายมันก็เหมือนลูกเหมือนหลานพี่เหมือนกัน”
“เกรงใจเด็กมัน ไม่เป็นไรหรอก” ลุงพลส่ายมือปฏิเสธอย่างสุภาพ สำหรับมันแล้ว มันเองก็มองน้องทรายเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง สมัยที่ยุภายังมีชีวิต ก็มักหาซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากน้องทรายที่ยังเป็นเด็กถูกแม่จับแก้ผ้ายืนร้องไห้อาบน้ำหน้าบ้าน ลุงพลก็นึกขำสองแม่ลูกและมักเอามานินทาลับหลังกับยุภาเมียรัก
#########################
ลุงพลเดินตรงไปที่โรงอาหาร สิ่งแรกที่มันเห็นคืออาจารย์สาวภัคจิรา ทันใดนั้นมันก็นึกถึงความฝันที่เกิดขึ้นในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมาทีว่าครูเบสท์เองก็เป็นหนึ่งในนางฟ้านางสวรรค์ที่ก่อกรรมร่วมกันมา เหนือสิ่งอื่นใด ภาพที่ครูเบสท์มาสารภาพรักกับมันในความฝันมันย้อนกลับมาแล่นในหัว ที่น่าแปลกใจก็คือ ครูเบสท์แต่งชุดเหมือนในความฝันของมันไม่มีผิด!!
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากพิสูจน์ว่าความฝันเป็นเรื่องจริง ไอ้เฒ่าพลคนหื่นเลยแกล้งทำเนียนเดินไปที่หน้าร้านของป้าแก้วขายเครื่องดื่ม ยืนสั่งโอเลี้ยงตามปกติ พอครูเบสท์เหลือบมาเห็นก็รีบพนมมือไหว้ลุงพลทันที
“อ่าว…ลุงพลสวัสดีค่ะ” ภัคจิราพนมมือไหว้ตาเฒ่าอย่างไม่ถือยศ
“สวัสดีครับหมอ…เอ้ย!!! ครูเบสท์” ลุงพลพนมมือไหว้ด้วยรอยยิ้ม ในใจก็สั่นสะท้านเพราะกำลังวาดฝันไปไกลว่าครูเบสท์จะสารภาพรักเหมือนที่ทำในความฝัน
….แต่ครูเบสท์หันกลับไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ่าวเห้ย!!?? ไหงงั้นวะ!!! นี่อย่าบอกนะว่ากูมโนไปเอง
“เอ่อ…ลุงพล” ครูเบสท์เรียกชื่อตาเฒ่า “ได้ข่าวว่าจะเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้เหรอคะ?”
“ครับ…” ลุงพลยิ้ม พลางคิดในใจว่าเอาละเว้ยมึง!! ใกล้ถึงไคลแมทซ์แล้ว สารภาพรักกับลุงมาซะดี ๆ ครูเบสท์จ๋า “อาทิตย์หน้านี่แหละครับ ตอนนี้ลุงกำลังจัดเตรียมของอยู่”
“ไว้เปิดร้านแล้วเบสท์มาอุดหนุนนะคะ” เบสท์ยิ้ม แล้วหันกลับไปอีกครั้ง และทุกอย่างก็กลับไปสู่ความสงบ
ลุงพลเหลือบหางตามองครูเบสท์ ในใจก็ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ว่าบอกรักลุงซิ หรืออย่างน้อยก็ช่วยมีปฏิกิริยาอะไรที่กำลังสื่อว่าครูเบสท์เองก็มีใจให้ลุงบ้างได้ไหมคนดี? แล้วถ้าเกิดมันเป็นจริงล่ะ มันจะอธิบายกับหมอพลอยยังไง?
ลิงค์อยู่ด้านล่างครับ 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน