ไม่น่าเชื่อนะครับ สำหรับซีรี่ย์ที่ผมแต่งขึ้นขำๆ กึ่ง Comedy กึ่งปวดตับ จิกกัดความรักอันบริสุทธิ์เกินไป จะมีคนคิดถึงและถามหากันพอสมควร หลังจากแต่ง 13 เกมสยิวเสร็จ และกำลังอยู่ในช่วงเขียนเรื่องใหม่ ผมจึงขออนุญาติเขียน แฟนผมเป็นคนดี ตอนที่ 7 มาเพื่อให้ทุกคนหายคิดถึง ยังไงก็ฝากคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจเผื่อจะมีตอนใหม่ๆออกมาด้วยนะ หากต้องการติดตามผลงานของผม หรืออยากพูดคุย ไปที่เพจเฟชบุ๊คได้ตามนี้นะครับ
------------------------------------------
การจะเป็นคู่ครองที่ดีต้องคิดถึงอนาคต มิวสิค แฟนคนสวยของผมเองก็น่ารัก ถึงอายุจะน้อยแต่ความคิดก้าวไกล เธออยากจะขับรถให้เป็น เผื่อไว้ใช้หากินในอนาคต หรือยามที่ผมและครอบครัวเจ็บป่วย เธอก็สามารถพาไปได้อย่างท่วงที ความคิดดีแบบนี้ ผมสนับสนุนเต็มที่ ผมส่งสิคไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งที่มีสนามซ้อม และจัดสอบเอง ถือว่าคุ้มค่าในราคาที่จ่ายไป
‘เต็ม’ คือชื่ออาจารย์สอนขับรถของสิค เขาเป็นชายวัยกลางคนผมบาง หน้าตาพอใช้แต่ตัวใหญ่ ผิวสีคล้ำ อาจารย์เต็มเป็นคนอัธยาศัยดี พูดคุยกับสิคถูกคอ ทุกครั้งที่สิคมาเรียน ผมก็มานั่งเฝ้าที่ข้างสนามฝึกซ้อมด้วย ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ แต่ดูท่าสิคสุดที่รักของผมจะไม่ค่อยเรียนรู้และเข้าใจด้านการขับรถเท่าไหร่ เพราเวลาเลิกเรียนเสร็จ เธอมักจะมาบ่นกับผมว่าทำที่อาจารย์สอนไม่ได้ ทั้งถอยเข้าซอง ขับถอยหลังตรงตามช่อง และจอดเทียบฟุตบาท
ผมพยายามให้กำลังใจ ผมเชื่อว่าสิครับฟัง และจำมันขึ้นใจ เพราะวันที่สี่ของการเรียน ทุกอย่างดูดีขึ้น
วันนั้นเป็นวันธรรมดาช่วงบ่ายเกือบเย็น คนมาเรียนน้อยมาก วันนี้สิคแต่งตัวสดใสน่ารักเหมือนทุกวันด้วยเดรสผ้าเกาะอกลายสก็อตสีชมพู กระโปรงเกือบถึงเข่า สิคบ่นกลัวว่าผมจะหวงเลยคลุมด้วยเสื้อกั๊กยีนส์อีกที ซึ่งผมดีใจมากที่เธอแคร์ความรู้สึก เริ่มต้นอาจารย์เต็มเป็นคนขับโชว์ก่อนอีกครั้ง แล้วให้สิคนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนผมก็นั่งข้างสนามซ้อมเสียบหูฟังเพลงเช่นเดิมเหมือนทุกวัน
อืดดด…อืดดด
จู่ๆโทรศัพท์ของผมก็ดัง เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เป็นเบอร์ของสิคที่โทรมา ผมเงยหน้ามองไปที่รถเก๋งญี่ปุ่นที่ใช้สอนจอดอยู่ตรงหน้าเห็นว่าสิคเอื้อมเอากระเป๋าและมือถือวางที่เบาะหลัง แสดงว่าเธอไม่ได้จงใจโทรมา แต่ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาแบบนี้แล้ว ผมกดรับดีกว่า เพราะผมจะได้ยินเสียงเธอเวลาที่เรียน
“มา เรามาเริ่มกันเหมือนเมื่อวานนะ” เสียงของอาจารย์เต็มดังขึ้นมา
“ค่ะ”
“ดูแล้วจำด้วยนะ จะได้ทำได้สอบผ่าน”
“ค่ะ สิคจะพยายามค่ะ”
“เริ่มแรกเข้าเกียร์หนึ่ง” หลังจากอาจารย์พูดจบก็ได้ยินเสียงกึกกักก่อนที่สิคจะร้องออกมาเบาๆ
“โอ้ย..”
“โทษที เข้าเกียร์แรงไปหน่อย เจ็บขารึเปล่า?”
“ม..ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไหนดูสิช้ำรึเปล่า?” ผมเห็นอาจารย์หันมามองขาของสิค สงสัยเขาจะเป็นห่วง
“ไม่ช้ำค่ะ อาจารย์ ค..คือ” สิคหันมามองทางผม อาจารย์เต็มก็หันมามองตาม
“อ๋อ..โทษที ลืมไป งั้นเราเริ่มที่ด่านแรกละกัน ถอยเข้าซอง”
อาจารย์เต็มขับรถไปไม่ไกลจากผม ก็ถึงด่านแรก เขาขับรถถอยเข้าซองพร้อมบอกวิธีสังเกตุให้สิคจำอย่างละเอียด ผมก็ทำได้แค่หวังว่าเธอจะเรียนรู้และทำให้สำเร็จ เมื่อจอดเข้าซองได้รถก็หยุดนิ่ง
“เมื่อกี้เจ็บมากรึเปล่า” อาจารย์เต็มถามอีกครั้ง
“สบายมากค่ะ…อะ….อาจารย์” เสียงสิคเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“มา เดี๋ยวอาจารย์ช่วย….ขาเราเล็กนะ ต้องฝึกบ่อยๆ ไม่งั้นไม่มีแรงเหยียบคลัชไม่ลงแน่” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอาจารย์เต็มจะช่วยเรื่องอะไร ผมเห็นแกเอียงข้างหันมาหาสิค น่าจะสอนเรื่องการเหยียบคลัช
“ขอบค..คุณค่ะ”
“ไม่ต้องเกร็งนะ อาจารย์นวดให้แปปนึง เส้นจะได้ไม่ยึด”
ผมเข้าใจล่ะ สงสัยมือของแกจะไปกระแทกขาแฟนของผมแรง เขาเลยนวดแก้ให้ อาจารย์เต็มนวดอยู่สักพัก สิคก็งึมงำพูดอะไรบางอย่างออกมา
“อืมม…อาจารย์…ม…ไม่..ตรงนั้น” เสียงสิคเบาลงมาก
“ตรงนี้ก็สำคัญในการขับรถนะ ถ้าเกร็งเราก็จะขับลำบาก ให้อาจารย์นวดคลึงให้นะ”
คลึง การนวดขามันต้องคลึงด้วยเหรอ ผมก็เพิ่งรู้วันนี้ละ หลังจากอาจารย์เต็มพูดจบ เสียงของสิคก็เงียบไป มีเพียงเสียงดังจากลำคอมาเป็นระยะ
“อา..จารย์ ไม่เอา ไม่สอ…อื้มมม”
“หน่านะ ไม่ต้องเกร็ง เดี๋ยวอาจารย์ช่วย”
ผมไม่รู้ว่าสิคกำลังจะพูดอะไร หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นมาในหูฟัง มันไม่ใช่เสียงพูดหรือเสียงหายใจ เสียงมันดัง
แจ้ะๆๆๆ
ผมนึกเป็นห่วงเลยเดินไปดูแบบห่างๆ ภาพที่ผมเห็นจากข้างรถคือ อาจารย์เต็มเอียงตัวมาทางมิวสิค ผมมองไม่เห็นมือของเขา แต่เห็นไหล่ที่กระตุกไปมาน่าจะออกแรงนวดอยู่ ส่วนสิคคนสวยนั่งพิงเบาะหลับตาเคลิ้ม ปากเผยอเล็กน้อย แฟนสาวของผมหายใจเข้าออกแรงแต่ช้า บางจังหวะก็แอบเม้มริมฝีปาก สงสัยอาจารย์เต็มจะนวดเก่งมาก เสียงแจ้ะในหูฟังก็ยังดังต่อเนื่อง ผมลองดึงหูฟังข้างนึงออกก็พบว่าฝนลงเม็ดนี่เองคือเสียงปริศนาในหูผม
“ซี้ดดดด อาจารย์” เสียงสิคทำเอาของผมแข็ง เธอคงถูกนวดเพลินจนลืมควบคุมตัว
“เจ็บเหรอ”
“ป..เปล่าค่ะ..ส..”
ผมไม่ได้ยินว่าสิคพูดว่าอะไร คำสุดท้ายเธอพูดเบามาก อ่านจากปากก็ไม่ได้ เพราะเธอหันหน้าไปพูดกับอาจารย์เต็ม ด้านอาจารย์ก็ยิ้มชอบใจ เหมือนจะออกแรงนวดหนักขึ้น สิคคนสวยของผมหลับตาเงยหน้าอ้าปากครางโชว์ฟันเขี้ยวสุดน่ารักอย่างลืมตัว ผมชักอยากจะเรียนวิชานวดกับแกแล้ว สิคคงจะดีใจมากแน่
แจ้ะๆๆๆ!!
“อ๊าา อ๊าาา อาจารย์ ซี้ดดด จารย์ ซี้ดดด สิค อื้มมม สิคไม่ไหวแล้วว”
จู่ๆสิคก็มีอาการกระตุก ผมไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน อาจารย์แกจับไปโดนเส้นอะไรรึเปล่า ผมเลยเดินเข้าไปดู ในตอนนั้นเองอาจารย์กับสิคก็หันมาเห็นผม ทั้งสองตกใจ อาจารย์เต็มรีบกลับไปนั่งตัวตรง ส่วนสิคก็ทำท่าเหมือนจัดระเบียบเสื้อผ้า เธอคงกลัวผมเข้าใจผิด ช่างเป็นคนที่แคร์แฟนอะไรเช่นนี้
“อ..อ้าว ต..ต้อม มีอะไรรึเปล่า” กระจกรถถูกเลื่อนลงมา สิคพูดจาติดๆขัดๆ เธอยังมีอาการกระตุกอยู่บ้างเล็กน้อย
“เปล่า เห็นรถไม่ขยับเลยเข้ามาดูว่าเป็นไรรึเปล่า” ผมอยากขอโทษสิคมากที่โกหก แต่ผมเป็นห่วงเธอกลัวจะเป็นอันตราย
“อ..อ๋อ ไม่มีอะไร สบายมาก” สิคยิ้มตาหยี๋ให้ผม เห็นแบบนี้ก็โล่งใจ
“เอ้อต้อม พอจะมีทิชชู่มั้ย?” อาจารย์เต็มชะโงกหัวมาถามผม
“มีครับ”
ผมหยิบออกจากกระเป๋ายื่นให้ อาจารย์เต็มรับไปเช็ดนิ้วมือแก สงสัยจะเป็นคนรักความสะอาด อาจารย์เต็มหันมายิ้มให้ผมก่อนจะสั่งให้สิคเลื่อนกระจกขึ้นแล้วรถขับออกไปที่ด่านถอยหลังตามช่อง ซึ่งไกลจากจุดที่ผมยืนพอสมควร
“งั้นมาเรียนกันต่อนะ เวลาถอยหลังเราก็คืนเกียร์กลับมาตรงกลาง ดันขวาสุดแล้วก็กดลง ไหนลองทำซิ”
“ค…ค่ะ”
“นั่นใช่เกียร์รถเหรอ?” อาจารย์เต็มพูดอะไรผมไม่ค่อยเข้าใจ
“ก็…อาจารย์อะ”
“ได้งั้นลองเกียร์นี้ก่อนก็ได้”
ส่วนตัวพ่อของผมสอนขับรถให้ตั้งแต่เด็ก เลยไม่รู้ว่ารถในโรงเรียนสอนขับขี่มันมีกี่เกียร์ อาจจะมีเกียร์ปลอมไว้กันอุบัติเหตุก็ได้ ผมหันไปมองที่รถจอดอยู่ไกลๆ เห็นอาจารย์เต็มโยกตัวเล็กน้อย แล้วทุกอย่างก็เงียบลงไปอีกครั้ง
“อืมม…จับแบบนั้นล่ะดีแล้ว ว่าแต่ใหญ่ไปมั้ย?”
“อ..อื้ม ใหญ่ค่ะ”
“กำไม่มิดไม่เป็นไร ประคองดีๆก็พอ อูยย เก่งใช่เล่นนะเรา เห็นเด็กๆงี้” ผมเพิ่งรู้ว่ามือของสิคเล็กมากจนจับเกียร์
“สิคไม่เด็กแล้วนะ” เสียงสิคเวลาออดอ้อน มันทำให้ผมใจสั่น แอบหึงแต่ก็ต้องทนเพราะรู้ว่าเป็นนิสัยของเธอ
“จริงเหรอ? โตไม่โตเขาไม่ได้วัดกันแค่จับเกียร์นะ มันต้องเก่งกว่า”
“ไม่เชื่อหรอ”
ผมเห็นสิคก้มลงไปแถวเกียร์รถแล้วก็หายไปเลย ผมว่าจะเดินไปดูว่าสิคเป็นอะไรรึเปล่า แต่ฝนบ้าก็ดันกระหน่ำตกลงมา ผมเเลยจำใจนั่งรออยู่ที่เดิมใส่หูฟังเอาไว้ ได้ยินอะไรจะได้วิ่งไปช่วยได้ทัน ตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงจากอาจารย์เต็มพูดอยู่คนเดียว
“อูยยยยย แบบนั้นล่ะ…ซี้ดดดด โคนก็ด้วยเหรอ สุดยอดดด”
“ควงแบบนั้นล่ะ อูยยย แรงๆๆ”
สิคลับสายตาผมไปเกือบห้านาที ได้ยินอาจารย์เต็มพูดจับใจความไม่ได้วนไปมา จนแกร้องว่าทนไม่ไหวแล้ว ผมถึงเห็นสิคลุกขึ้นมานั่งที่เดิม อาจารย์เต็มจัดแจงทำอะไรสักอย่างเหมือนแต่งตัวก่อนจะลงมาจากรถแล้วเดินตรงมาหาผม
“ต้อม ผมขอปรึกษาอะไรหน่อย”
“ค..ครับผม?”
“คือตอนนี้น้องมิวสิค เขายังขับรถไม่แข็งเลย แล้วใกล้จะหมดชั่วโมงสอนแล้วด้วย ผมว่าผมจะเร่งฝึกเขาหน่อย”
“ได้ครับจารย์”
“เราไม่ว่าไรใช่มั้ย ถ้าให้น้องมิวสิคนั่งตักผม ..คือผมจะสอนแบบลัดเลยน่ะ จะได้จบเร็วๆ”
“อ..อ๋อ ได้สิครับ”
ผมรู้สึกจุกในอกยังไงบอกไม่ถูก ผมไม่ชอบให้สิคใกล้ชิดคนอื่นเลย แต่ถ้าสิคยอม ผมก็คงต้องยอมด้วย อาจารย์เต็มเดินกลับไปที่รถ
“อาจารย์ไปหาต้อมทำไมเหรอคะ?”
“ไปขออนุญาติแฟนสิค ให้สิคมานั่งบนตักได้น่ะ”
“นั่งบนตัก?”
“ใช่ สิคจะได้ขับรถได้ไง”
อาจารย์เต็มทำท่าโยกตัวยกเอวอีกครั้ง เหมือนถอดอะไรออกจากตัว แต่เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าแกทำอะไรอนาจาร สิคคงวิ่งหนีออกมาแล้ว จู่ๆสิคก็ทำท่าคล้ายกับอาจารย์เต็ม ทำท่าเหมือนถอดกางเกงออก แต่สิคใส่กระโปรงเดรสมาหนิ มันจะมีอะไรให้ถอดได้ ผมเดาว่าน่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัยรุ่นใหม่
สิคลงมาจากรถเดินอ้อมมาที่ฝั่งคนขับ เธอหันมามองผม แล้วยิ้มหวานให้หนึ่งที รอยยิ้มของเธอทำให้ผมละลายทุกครั้งที่ได้เห็น สิคเปิดประตูรถแล้วถกกระโปรงตัวเองขึ้น สงสัยกลัวจะลุ่มล่าม แฟนสาวของผมค่อยๆขึ้นไปคร่อมตัวอาจารย์เต็ม
“ค่อยๆหย่อนลงมานะ”
“ค…ค่ะ อ๊าาา” เสียงสิคทำให้ไอ้จ้อนน้อยของผมแข็งโป๊ก
“อูยย แน่นจริงๆ” พื้นที่ในรถคงแคบแน่น
“โอ้ยย จารย์เจ็บบอะะ”
“อีกนิด อีกนิดดด ฟู่ววว แบบนั่นล่ะ เดี๋ยวสิคช่วยประคองพวงมาลัยแปปนึงนะ”
“ค..ค่ะ”
รถเก๋งค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปในสภาพติดๆดับๆ เป็นอย่างที่อาจารย์เต็มบอกว่าสิคขับรถไม่เก่งจริงๆ รถเก๋งขับวนรอบนอกสนามออกไปแล้วเลี้ยวไปจอดขนาบสะพาน ซึ่งมุมนี่ผมมองแทบไม่เห็นรถ
“ลับสายตาล่ะ เอาเลยจ่ะ มิวสิคจ๋า”
อาจารย์เต็มพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงประหลาดดังแทรกเข้ามา พร้อมกับเสียงของสิคที่ดังมาเป็นระยะ
ปั่บ!!!ปั่บบ!!!ปั่บบ!!!
“อ๊าา อึ๊…อึ๊…จารย์…สิค..ส…อ๊าาา”
“ถอดเสื้อคลุมออกหน่อย ซี้ดดด” สงสัยอาจารย์แกจะกลัวสิคร้อน
“สิคเจ็บ…สิคเจ็บบ….ซี้ดดด โอ้ยยย โอ้ยยย”
“เจ็บแล้วยังออกแรงงี้ แสดงว่าชอบใช่มั้ยจ้ะ อูยย”
ตู้ดดด ตู้ดดด ตู้ดดดด
จู่ๆสายโทรศัพท์ก็หลุด ผมสบถอยู่ในใจ สิคทำอะไรถึงเจ็บ ฝนเริ่มตกหนักอย่างกับพายุเข้า ผมจะเดินไปหาก็ไม่ได้เพราะไม่ได้พกร่มมา ผมรีบเดินหามุมเพื่อจะมองเห็นรถก็ยังดี และในที่สุดก็เจอมุมใต้หลังคา
สิ่งที่ผมเห็นคือรถที่โยกเยกไปมากลางสายฝน ผมมองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างใน ผมภาวนาแค่ว่าให้อาจารย์เต็มสอนสิคอย่างเต็มที่ แล้วเธอจะได้ขับรถเป็นเสียที
ทั้งสองฝึกฝนกันอยู่เกือบยี่สิบนาที แล้วรถคันนั้นก็วนกลับมาจอดอยู่ตรงหน้าผม ฝนที่ตกอย่างบ้าระห่ำก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้สิคคนสวยกลับไปนั่งฝั่งข้างคนขับแล้ว อาจารย์เต็มเดินลงมาในสภาพชุดยับยู่ยี่ สงสัยเพราะสิคนั่งทับเอา
“ฟู่ววว เล่นเอาซะเหนื่อยเลย” อาจารย์เต็มหัวเราะพร้อมตบไหล่ผม
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยสอนสิค”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมว่าจะพาสิคออกไปลองที่ถนนใหญ่ดูนะ”
“สิคขับได้เก่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“โอ้ย ขี่เก่ง…เอ้ย ขับเก่ง เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะ”
อาจารย์เต็มเดินเข้าตัวอาคารไปในสภาพโซเซ ส่วนสิคก็เดินออกมาจากรถในสภาพที่ไม่ต่างจากอาจารย์เต็ม ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ผมต้องรีบวิ่งเข้าไปประคอง ผมแอบเห็นเกาะอกอยู่ต่ำจนเกือบจะเห็นปทุมถัน สงสัยตอนลงเธอจะเผลอเหยียบชายกระโปรง ผมช่วยดึงขึ้นให้เพราะกลัวจะมีคนเห็น
“เป็นไงบ้าง เหนื่อยหรอ หายใจไม่เป็นจังหวะเลย”
“อ..อื้อ สิคเหนื่อยอะต้อม พากลับบ้านหน่อยนะ”
“อื้อ ได้สิ เห็นอาจารย์เต็มบอกพรุ่งนี้จะพาออกไปข้างนอกนะ”
“ข้างนอก?” ผมแอบเห็นสิคกัดริมฝีปากเบาๆ
“หมายถึงถนนใหญ่น่ะ”
“อ๋อ…”
“จะไหวไหมเนี่ยพรุ่งนี้”
“ไหวสิ แต่แอบตื่นเต้นนิดหน่อย”
สิคยิ้มหวาน ผมรู้ทันทีว่าพรุ่งนี้เธอสู้เต็มที่แน่นอน ส่วนผมก็จะคอยทำหน้าที่แฟนที่ดี คอยให้กำลังใจและสนับสนุนให้เธอ