แองเจล ตอนที่หนึ่ง
พิธีไหว้ครูอย่างเป็นทางการภายในหอประชุมอเนกประสงค์เสร็จสิ้นลงไปแล้ว นักเรียนนับพันคนเริ่มทยอยเดินออกมาเป็นอันรู้กันว่าในวันไหว้ครูจะไม่มีการเรียนการสอนตลอดทั้งวัน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะได้รับอนุญาตให้ออกไปเตร็ดเตร่ภายนอกรั้วโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนตามปกติ
กิจกรรมที่ปฏิบัติเป็นธรรมเนียมต่อๆกันมาหลังจากเสร็จสิ้นพิธีไหว้ครูคือพวกรุ่นพี่ที่เพิ่งจบการศึกษาไปจะกลับมาให้คำแนะแนวทางเกี่ยวกับการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย รุ่นพี่คนไหนที่ติดเข็มมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีชื่อเสียงก็จะได้รับความสนใจไต่ถามจากรุ่นน้องๆมากเป็นพิเศษ
ซึ่งแน่นนอนว่ากิจกรรมนี้ฉันคงไม่ต้องมีส่วนร่วมอะไรเพราะเข็มมหาวิทยาลัยเอกชนที่ติดอยู่บนหน้าอกเสมือนเครื่องหมายรับประกันคุณภาพ คล้ายตราแบ่งมาตรฐานสินค้าว่าฉันคือพวกที่ตกเกรดไม่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อในสถาบันการศึกษาของรัฐ พวกรุ่นน้องๆคงไม่เห็นประโยชน์จากการแนะแนวของฉันสักเท่าไหร่แต่บรรดาเพื่อนๆก็ยังไม่ยอมให้ฉันเดินชิลล์ๆเฉยๆ พวกนั้นลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าฉันคือตัวเลือกเหมาะสมที่สุดในการเอาดอกกุหลาบสีขาวไปมอบให้อาจารย์วิรัตน์เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาจิต
อาจารย์วิรัตน์เป็นรองผู้อำนวยการควบหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายปกครอง แกเป็นอาจารย์ปกครองประเภทสุดเฮี้ยบโหดหินครบสูตรสำเร็จความเครียด ทุกๆเช้าอาจารย์วิรัตน์จะมายืนแผ่รังสีอมหิตรอรับนักเรียนที่หน้าประตู ซึ่งแท้จริงแล้วฉันคิดว่าแกน่าจะมาคอยเล่นงานพวกที่แต่งผมแต่งตัวผิดระเบียบหรือพวกที่มาสาย มาตรการลงโทษจากเบาไปหาหนักมีตั้งแต่สก็อตจั๊มพ์ยึดพื้นวิ่งรอบสนามตัดคะแนนความประพฤติ หนักกว่านั้นก็พวกสูบบุหรี่เล่นการพนันโดดเรียนโทษสถานเดียวคือตีหน้าเสาธงและเชิญผู้ปกครอง หนักที่สุดที่ฉันเคยเห็นคือโทษพักการเรียนซึ่งตั้งไว้สำหรับสำหรับพวกสายบู๊ต่อยตีทะเลาะวิวาทโดยเฉพาะ
ปอยผมเล็กๆหรือกระโปรงสั้นเหนือเข่าไม่เคยหลุดรอดสายตาที่คอยหาเรื่องจับผิดตลอดเวลาของอาจารย์วิรัตน์ไปได้ แค่ไม่ห้อยบัตรประจำตัวนักเรียนก็ดูจะเป็นความผิดสาหัสสากันคอขาดบาดตาย เด็กนักเรียนคนไหนที่เดินทะเล่อทะล่าเล่นเกมส์ออนไลน์ไม่ดูตาม้าตาเรือเฉียดเข้าไปใกล้ต้องถือว่าวันนั้นคือวันซวยสุดขีด
“สวัสดีค่ะจารย์” ฉันยกมือไหว้ “ลุงภารโรงเค้าบอกว่าเห็นอาจารย์เดินมาทางนี้”
“อ๋อ.. สั้นสนีย์นี่เองนึกว่าใคร”
“แหม.. สั้นสนีย์อะไรคะ ทักทายแบบนี้คุกคามทางเพศนะจะบอกให้” ฉันรู้ว่าแกหมายถึงกระโปรงนักศึกษาสั้นจุ๊ดตัวที่ใส่อยู่
“อ้าว แล้วเธอตามหาครูมีธุระอะไร”
“ทำไมอาจารย์มายืนอยู่แถวนี้ล่ะคะ” ฉันมองไปรอบๆ บรรยากาศบริเวณริมรั้วหลังโรงเรียนรกครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่
“ครูรู้ว่าพวกที่หนีออกไปข้างนอกมันปีนรั้วจะกลับมากันทางนี้เลยมาดักรอ”
“งั้นหนูว่าอาจารย์แอบๆหน่อยดีมั้ยคะ ขืนยืนอยู่ตรงนี้พวกนั้นมันเห็นแต่ไกลรับรองอาจารย์วิ่งไล่พวกมันไม่ทันหรอก”
“ครูก็ไม่ได้คิดจะแอบนี่โล่งๆแมนๆกันไปเลย ส่วนเรื่องไล่ไม่ทันตอนเธอยังเรียนอยู่ครูก็ไล่ทันทุกทีนะ”
“งั้นไปยืนใต้หลังคาโรงยิมตรงนั้นเถอะค่ะ ยืนตรงนี้หนูร้อน” ฉันนึกสงสัยอยู่ว่าต้นไม้เยอะแยะอาจารย์วิรัตน์จะยืนตากแดดทำไม
ถ้าเอ่ยชื่อศันสนีย์ก็ต้องนึกถึงอาจารย์วิรัตน์ ในทำนองเดียวกันถ้านินทาอาจารย์วิรัตน์ก็จะต้องนึกถึงวีรกรรมของศันสนีย์ เราสองคนเรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอดไม่ว่าจะโดนขลิบผมสอยกระโปรงโดนตีหน้าเสาธงเชิญผู้ปกครองอะไรฉันผ่านมาหมดแล้วทั้งสิ้น นับหนึ่งเริ่มจากความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของอาจารย์ที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล พัฒนาเป็นความกร้าวร้าวท้าทายต่ออำนาจและกฏระเบียบที่พวกชนชั้นอุปโลกน์กันขึ้นมาเองทั้งสิ้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“แล้วคุณยายเธอเป็นไง สบายดีมั้ย” อาจารย์วิรัตน์ถาม
“ไม่ค่อยดีค่ะ แต่ก็ยังโอเค”
“วันนั้นครูเจอท่านที่วัด ท่านยังถามอยู่เลยว่าศันสนีย์ไปก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะ” อาจารย์หนุ่มใหญ่ยิ้มบางๆ
“แล้วนี่หนูไปก่อเรื่องอะไรมาอีกคะ”
“เปล่า ..ครูก็บอกยายเธอว่าศันสนีย์เค้าจบไปแล้ว ไปเรียนอยู่กรุงเทพแล้ว”
“ยายของหนูแกเริ่มหลงๆลืมๆแล้วค่ะ” ฉันยิ้มตอบ
“ไหนมีอะไรจะคุยก็คุยสิแล้วดอกไม้นั่นเอามาให้ครูรึเปล่า” อาจารย์วิรัตน์มองดอกกุหลาบขาวในมือ
“เอ่อ .. คือ”
“ทำไม.. หรือว่าไปก่อเรื่องอะไรมาจริงๆล่ะเนี่ย”
“เปล่าค่ะ .. เอ่อ ..”
“หนูอยากรู้ว่า.. อาจารย์เกลียดหนูรึเปล่าคะ” ฉันตัดสินใจถามไปตรงๆ
“เฮ่ย!! ถามบ้าๆ ไม่เกลียด ครูเป็นครูจะไปเกลียดนักเรียนได้ไง”
“หนูแต่งตัวผิดระเบียบทุกวัน โดนอาจารย์ทำโทษทุกวัน”
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกลียดนี่หว่า เฮ้ย.. คิดมากน่า” อาจารย์วิรัตน์ส่ายหน้าถอนหายใจยาว
“สรุปว่าอาจารย์ไม่ได้เกลียดหนู”
“เธอฝ่าฝืนกฏครูก็ลงโทษ แต่ไม่ได้เกลียด”
“อ๋อ.. โอเคขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่ดอกไม้นั่นน่ะตกลงจะให้ครูรึเปล่า ฮึ”
“งั้น.. หนูขอถามอีกข้อนึงค่ะ”
“ถามมาสิ”
“อาจารย์เซฟรูปหนูจากไอจีทำไมคะ” ฉันกลั้นใจถามหัวข้อที่อยากรู้ที่สุด
“เฮ้ย.. เปล่า อะไร เซฟรูปอะไร” อาจารย์แก้ตัวตะกุกตะกัก
“อย่าโกหกค่ะ แอพพลิเคชันพวกนี้มันเช็คได้ว่าใครมาส่องเราหรือแอบมาเซฟรูปเรา
“เอ่อ.. เฮ่ย เปล่า ยังไงดีวะเนี่ย คือ” อาจารย์เสยผมหงอกขอดกอดกันแน่นแบบคนใต้
“อาจารย์คิดถึงหนูเหรอคะถึงได้เข้าไปดูไอจีหนูทุกวัน”
“เปล่า ก็ไม่ได้ดูทุกวันซักหน่อย”
“แล้วรูปหนูใส่บิกินี่อาจารย์เซฟไปทำไมคะ” ฉันปล่อยหมัดกระแทกเข้ากลางลำตัวอาจารย์วิรัตน์จังๆ
“เอ่อ .. “
“หนูเป็นตัวแทนเพื่อนๆมามอบดอกไม้ค่ะจารย์ ขอบพระคุณที่ช่วยดูแลอบรมสั่งสอนพวกเรามาตลอด”
“เอ่อ .. ขอบใจ” อาจารย์รับดอกกุหลาบขาวพร้อมกับขยุ้มผ้าเนื้อนิ่มที่ฉันส่งให้ในมือพร้อมดอกไม้ "เรื่องรูปนั่นครูขอโทษนะ แต่ขอไม่อธิบายก็แล้วกัน"
“เดี๋ยวนะนี่มันอะไรเนี่ย ศันสนีย์!!” อาจารย์หนุ่มใหญ่มือสั่นเสียงสั่นคิ้วขมวดเป็นปม
“กางเกงในของหนูเองค่ะ เพิ่งถอดเมื่อกี๊”
“เฮ้ย!! แล้วจะให้ครูทำไมไม่เอา!! เธอจะบ้าเหรอ”
“อาจารย์ไม่ชอบกระโปรงตัวนี้ใช่มั้ยคะ มันคงจะสั้นเกินไป” ฉันก้าวเข้าระยะประชิด
“เปล่า เธอเรียนจบไปแล้วครูก็โอเค แค่ไม่อยากให้พวกรุ่นน้องเธอเอาอย่างแค่นั้นแหละ” อาจารย์วิรัตน์ถอยจนหลังชนกำแพงโรงยิม
“ทำไมล่ะคะ อ๋อ.. เพราะหนูเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีใช่มั้ยล่ะ”
“อาจารย์ตามไปหาหนูที่กรุงเทพนะ นะคะ” ฉันเผยความในใจ
“ศันสนีย์..”
“นะคะ อาจารย์ตามไปหาหนูนะ”
“จะให้ครูตามไปทำไม”
“หนูคิดถึงอาจารย์ค่ะ”
“เธอคิดถึงชั้นเนี่ยนะ ตลก” อาจารย์วิรัตน์เน้นน้ำเสียงประหลาดใจ
“ค่ะ หนูคิดถึงอาจารย์ คิดถึงมากคิดถึงตลอด”
“แต่เธอไปเรียนหนังสือนะ อย่าลืมหน้าที่ของตัวเองสิ”
“หนูรู้คะหนูถึงขอให้อาจารย์ไปหาที่กรุงเทพ ไม่งั้นหนูตายแน่ๆมันสับสนไปหมดไม่มีใจจะทำอะไรเลย”
“เดี๋ยวนะ นี่เธอกำลังคิดจะเล่นอะไรแผลงๆแกล้งครูอยู่รึเปล่าเนี่ย ถ้าเธอยังโกรธเคืองอะไรครูอยู่ละก็ครูถือโอกาสนี้ขอโทษเธอเลยก็แล้วกัน เราอโหสิกรรมไม่จองเวรกันเถอะนะ ครูขอโทษ” อาจารย์วิรัตน์ดันตัวฉันออก
“หนูอยากโดนทำโทษค่ะ อยากโดนตีอีก”
“ห่ะ.. อะไรนะ”
“หนูอยากโดนตีอยากโดนว่าโดนอบรม อยากมีใครที่สนใจห่วงใยหนูจริงๆสักคน”
“ครูว่าเธอเหงามากกว่านะไม่มีอะไรหรอก ครูเองก็เคยไปอยู่กรุงเทพยังอยู่ไม่ได้เลย ที่นั่นมันต่างคนต่างอยู่” อาจารย์วิรัตน์ยิ้ม “เดี๋ยววันนึงเธอก็จะได้พบกับคนที่เหมาะสมคู่ควรกันจริงๆ ใจเย็นๆสิศันสนีย์”
“ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ไม่เข้าใจ หนูอยากโดนตีจริงๆ อยากโดนตีแรงๆอยากโดนสั่งวิ่งรอบสนาม หนูบอกใครไม่ได้เลยและก็ไม่เข้าใจว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันแน่ ไม่กล้าปรึกษาใครรู้แค่คิดถึงแต่อาจารย์ค่ะ” น้ำตาพร่างพรูมาจากไหนนักก็ไม่รู้ ฉันได้แต่กอดอดีตอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดเฮี้ยบเอาไว้
“ดีใจมากเลยที่อาจารย์ไม่ได้เกลียดหนู ตีหนูอีกนะคะ ตีแรงๆ”
“โธ่.. ศันสนีย์”
………………..
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบพระคุณครับ