นึกย้อนกลับไปให้เจ็บใจตัวเองเล่นๆที่เลือกเดินทางในวันที่โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินลดราคาลงจนถูกอย่างน่าประหลาด คนฉลาดเค้าคงจะไม่เลือกวันเดินทางในช่วงที่สภาพอากาศเอาแน่เอานอนไม่ได้ แบบนี้สินะค่าตั๋วถึงได้ถูก
ห้องชุดสวีทพูลเกาะอยู่บนหน้าผาสนนราคาค่าที่พักคืนละสองแสนบาทกำลังกลายเป็นที่นั่งแถวหน้าชมพละกำลังแห่งความโกรธเกรี้ยวของพายุฤดูร้อนลูกนี้ได้ชัดเจนที่สุด ทั้งฝนทั้งลมที่กระหน่ำอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดกำลังลงบ้างเลยฟ้าแลบฟ้าผ่าสว่างวาบเห็นแผ่นผืนเมฆสีเทาลอยต่ำหนาขนานไปกับท้องทะเลสีดำฟองคลื่นสีขุ่นม้วนตัวไร้ทิศทางอย่างบ้าคลั่ง
ตรงกันข้ามกับบรรยากาศอบอุ่นในห้องอาหาร สเต็กเนื้อพรีเมี่ยม ซุปครีมข้าวโพดกับขนมปังกระเทียม สลัดผัก จัดวางพร้อมรับประทานบนโต้ะอาหารเรียบหรู ทาบทาเสริมความน่ากินด้วยแสงสีเหลืองส้มสว่างจากแชนเดอเลียคริสตัลชวารอฟสกี้
“นี่ครับ ของต่างๆที่คุณสาขอ..” ผู้จัดการรีสอร์ทยื่นถุงผ้าให้สา เขาเหลือบหันไปมองพนักงานที่ยกอาหารมาเป็นสัญญาณให้กลับไปก่อนได้
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ไม่อยู่ทานด้วยกันเหรอคะ” ยัยเก๋พูดเพราะแต่หน้าไม่ยิ้ม
“เชิญคุณเก๋กับคุณสาตามสบายดีกว่าครับเดี๋ยวผมลงไปทานกับพวกลูกน้องที่แคนทีน หวังว่าสเต็กเนื้อคงจะอร่อยกว่าทานมาม่านะ” ผู้จัดการยิ้มสงบ
“คือ..” เราเหลือบมองเด็กจีนสองคนพี่น้องที่กำลังตื่นตากับเครื่องเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่นโฟร์ที่ผู้จัดการแบกขึ้นมาฝาก “สา.. มีอะไรอยากจะสอบถามผู้จัดการนิดหน่อยอ่ะค่ะ”
“ครับ มีอะไรครับ เด็กๆคงไม่เข้าใจภาษาไทยหรอกมั้งคุณอลิสาถามผมได้เลย” เขายิ้มอบอุ่น
“เอ่อ.. ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เดี๋ยวสาค่อยโทรไปถามทีหลังก็ได้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก”
“งั้นเอางี้ครับ .. ผมเลิกงานสองทุ่มเคลียร์อะไรนิดหน่อยเดี๋ยวจะกลับขึ้นมาอีกที ไว้คุณสาค่อยถามก็แล้วกัน ว่าจะเอาพวกตะเกียงกับเทียนไขมาเผื่อไว้ด้วย ลมแรงขนาดนี้กลัวไฟฟ้าดับเหมือนกันครับ”
“อ๋อ.. ก็ดีค่ะ งั้น..เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันตอนเด็กๆเล่นเกมส์ก็ได้”
“เดินขึ้นเดินลงบ่อยๆฝนตกระวังหินลื่นนะคะ ใครบางคนแถวนี้เค้าเป็นห่วง” เราหยิกแรงๆที่แขนเพื่อนสาวจอบแสบจนมันสะดุ้งร้องโอ้ย
“คุณเก๋ดื่มไวน์มั้ยครับ ถ้าดื่มเดี๋ยวผมจะได้ติดมาด้วย” ผู้จัดการยิ้มถาม
“ของแบบนี้เค้าว่าตักบาตรอย่าถามพระค่ะ แล้วแต่ศรัทธาญาติโยม” ยัยเก๋ยิ้มกวน
“ครับ หึหึ.. โอเค งั้นเดี๋ยวผมขึ้นมาอีกทีนะขอไปเคลียร์งานให้ลูกน้องก่อน”
………………..
“ทำไมไม่ถามไปเลยล่ะ สา!! อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้” ยัยเก๋ขมวดคิ้วสสัย
“กำลังสองจิตสองใจอยู่เลยเนี่ย ..หรือจะเฉยๆไว้ดีกว่า”
“อะไรกัน!! ได้ไงอ่ะ!! คดีพลิกเฉย”
“เราว่าไม่ต้องอยากรู้ซักเรื่องก็ได้มั้ง ไหนๆข้างในกระเป๋ามันไม่ใช่ของผิดกฎหมายอะไรนี่ เค้าให้เราถือไปคืนที่กรุงเทพเราก็ทำแค่นั้น จบ”
“แล้วถ้าที่สนามบินเค้าขอเปิดดูล่ะ สากับเรามีหวังโดนตำรวจซิวแน่ๆ”
“เราก็เปิดไว้ให้แบตหมดไปสิ แบตหมดซะก็สิ้นเรื่อง”
“แต่ในกระเป๋ามันมีสายชาร์ตนะ แค่เสียบปลั๊กก็เปิดดูได้แล้วอ่ะ” ยัยเก๋โชว์ความฉลาดรอบคอบ
“หรือว่าเราจะแยกเมมโมรี่การ์ดีวะ ทิ้งกล้องไว้ในกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง” เราชักหลอนๆตาม
“ทริปนี้นี่เรากะจะมาเที่ยวพักผ่อนสวยๆกันไม่ใช่เหรอสา แต่กลับต้องมาดูแลเด็กนี่บอกตรงๆว่าเราไม่โอเคนะ” ยัยเก๋สีหน้าจริงจัง
“ก็จะให้ทำไงอ่ะ สงสารเด็กก็สงสารแถมยังรับปากเค้าไปแล้วด้วย นี่เค้าก็ดูแลเราดีนะเว่ยเก๋”
“ถ้างั้นก็ต้องหาเรื่องอื่นที่มันสนุกๆทำ แก้เซ็ง” ยัยเก๋ยักคิ้ว
“เรื่องสนุกอะไรอีกล่ะ ระวังจะไม่สนุกนะ”
“
ก็เรื่องกล้องวิดีโอในกระเป๋านั่นไง รับรองว่าสนุก”
“ถึงเราจะรู้ว่าใครเป็นคนถ่ายวิดีโอนั่นให้ครอบครัวเค้าแล้วจะได้ประโยชน์อะไรขี้นมา เราว่ามันก็รสนิยมส่วนตัวเค้าและก็ไม่ใช่เรื่องของเราด้วยซ้ำ” เราเตือนพยามสติเพื่อนสาว
“ก็แค่อยากเห็นสีหน้านายผู้จัดการนั่นตอนที่ได้รู้ว่ารีสอร์ทนี้อาจเข้าข่ายเอื้ออำนวยสถานที่เพื่อผลิตสื่อลามกอนาจารน่ะสิ” ยัยเก๋ยักคิ้วข้างเดียว
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า ถ้าเกิดพนักงานของรีสอร์ทเป็นตากล้องถ่ายวิดีโอกิจกรรมสยิวให้ครอบครัวนี้ ก็เท่ากับว่าเจ้าของสถานที่ยินยอมให้มีการผลิตสื่อลามก” ยัยเก๋หายใจแรง
“แล้วเก๋จะทำแบบนั้นทำไมล่ะ แค่เราเอาของไปคืนให้เค้าก็จบนะ” เราถาม
(ซ่อนนิดเดียว แค่อยากคุยกัน)
 
………………..
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน