............หายไประยะหนึ่ง....ไม่ว่ากันนะครับ .....
วงเวียนชีวิต 12
จากที่ดิน ราคาต่อไร่หลักหมื่น ที่ตามั่น หรือลุงมั่น เก็บหอมรอมริบซื้อเพิ่ม จากมรดกที่มีอยู่ มันกลับกลายเป็นของมีค่า เมื่อ โครงการแปลงทรัพย์สินเป็นทุนมาถึง ที่ดินของลุงมั่นกลายเป็นโฉนด
“ซื้อไว้เถอะที่ดินนะ...เราจะรู้สึกว่ามันแพงก็เฉพาะวันที่เราซื้อเท่านั้นละ....” คำๆ นี้ใช้ได้เสมอ และเมื่อ ทางลาดยางอันเป็นเส้นทางลัดระหว่างอำเภอ ไปยังแหล่งท่องเที่ยวผ่าน ที่ดินของลุงมั่นจึงกลายเป็นสิ่งมีค่าทันที
ความที่เป็นคนท้องถิ่นที่มีพรรคพวกเพื่อนฝูงเก่า การเรียกหาคนมาช่วยงานด้วยค่าแรงขั้นต่ำ จึงไม่เป็นเรื่องยาก ประกอบกับการวามแผนธุรกิจของคุณอิง รีสอร์ท จำนวนเริ่มต้นเพียง 10 หลัง ที่เก็บค่าพัก เพียงคืนละ 500 จึงเต็ม จนล้นแทบทุกวัน แขกประเภทวัยรุ่น ที่จะมามั่วสุม หรือขี้เมาจะมาตั้งวงสุรา อย่าหวังว่าจะได้เข้าพัก เพราคุณอิงไม่มีนโยบายรับแขกประเภทนี้อยู่แล้ว รายรับอย่างน้อยแสนห้า บวกกับร้านกาแฟสดฝีมือคุณอิง ก็ปาเข้าไปสองแสนกว่าต่อเดือน และเมื่อหักค่าใช้จ่าย อันเป็นค่าแรง ค่าน้ำค่าไฟ ภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนที่เหลือก็นับว่าพากันอยู่ได้อย่างสบาย โครงการขยายรีสอร์ท จึงเตรียมที่จะดำเนินต่อไปในเวลาอีกไม่นาน
...........................................................ที่บ้านคุณวีรวิทย์ คุณหญิงประวีณา ยังคงเป็นเช่นเดิม ที่ต่างจากเดิมคือจำนวนสมาชิกลดลง ทรงวุฒิก็แยกตัวไปอยู่ที่อืน ลูกสะใภ้ 3 คนก็แยกออกไป แต่นั่นก็ไม่เหงานัก เพราะที่บริษัท ทุกคนก็ยังคงทำงานในหน้าที่เดิม ยังพบหน้าค่าตากันเช่นเคย
แต่อาหารมื้อเย็นวันนี้ คุณวีรวิทย์ ถึงกับเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อเพิ่งรู้ภายหลัง ว่า คุณอิงหลานสาวของตนหนีไปอยู่กับลุงมั่น ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเจน ว่าไปในฐานะอะไร ถึงคนในบ้านจะกล่าวว่าไปอยู่ในฐานะหุ้นส่วน แต่คุณวีรวิทย์ ก็มองว่ามันเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แล้วแทนที่คุณวีรวิทย์จะไปโวยวายกับสุชาดาคนแม่ แต่กลับมาลงที่คนในบ้านตอนนี้
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณ..... “ คุณหญิงประวีณากล่าวขึ้นอย่างเตือนสติ
“เย็นได้ไง....กับคนอื่นนะ ฉันไม่ว่า...นี่มั่นไอ้มั่น...ขี้ข้าเก่าของเรา มันกินบนเรือนขี้บนหลังคาชัด ๆ “ คุณวีรวิทย์ กล่าว ท่ามกลางบรรดา หลาน ๆ
“พี่อิง เค้าโตแล้วนะคะคุณปู่....อายุ 20 แล้ว...” ชฎาภรณ์ กล่าวเสียงอ้อมแอ้ม
“หุบปากเลย ฎา..จะเด็กจะโต มันก็ยังเป็นหลานของปู่...” คุณวีรวิทย์กล่าวด้วยความโมโห “โทรไปบอกมัน ว่าจะกลับมาดี ๆ หรือ จะให้ฉันไปลากคอมันกลับมา...” คุณวีรวิทย์กล่าวพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป
ทุกคนได้แต่หันมามองหน้ากันเลิกลัก
“เฮ้อ.....เวรกรรม....” คุณหญิงประวีณาถอนหายใจแล้วกล่าวคำ “สุดท้ายก็ไปกันหมด ก็ยังดีนะ ที่พวกหนูทั้ง 4 ยังอยู่กับย่า....”
“ก็.....คุณย่า มีหลานชายแล้วนี่คะ.... คนอื่นเค้าจะอยู่ทำไม “ น้องอิมกล่าวขึ้นบ้าง
“ยายอิม.... ที่ย่าต้องการหลานชายก็เพื่อสืบทอดนามสกุลของเรา มันไม่ได้หมายความว่าย่าจะไม่รักหลานสาวนะ....”
คุณหญิงประวีณา กล่าวด้วยความปราณี “ยังไงย่าก็ขอบใจเธอมากนะ อิม ที่หนูยังอยู่ที่นี่กับย่า...”
“ความจริง หนูก็อยากไปอยู่กับแม่นะคะ....แต่แม่ไม่ให้ไปด้วย แม่บอกว่าให้หนูอยู่รอรับมรดกของคุณปู่คุณย่า...” น้องอิม กล่าวแล้วหัวเราะ
“หนูขอไปคุยกับคุณปู่.....” ชลธิชากล่าวขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่นิ่งเงียบมาตลอด เด็กสาวเดินตามคุณวีรวิทย์ ออกไป ทุกคนได้แต่มองตาม ด้วยความรู้สึกกังวล เกรงว่าชลธิชาจะถูกด่าตะเพิด
กว่า 30 นาที ชลธิชาเดินเกาะแขนคุณปู่ของเธอกลับมา สีหน้าเด็กสาวยิ้มแย้ม ขณะที่คุณวีรวิทย์สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ฉันคิดดูแล้ว..... “ คุณวีรวิทย์กล่าวขึ้น หลังจาก ทรุดกายนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวเช่นเดิม ทุกสายตาต่างหันมามอง
“มันเป็นเรื่องเวรกรรม.....” คุณวีรวิทย์กล่าวต่อ “ตามใจแล้วกัน ต่อไป ใครจะทำอะไร ฉันจะไม่ห้ามอีกแล้ว.......” คุณวีรวิทย์กล่าวสรุป ทุกคนต่างหันมามองหน้ากันด้วยความงุนงง กลับท่าทีที่เปลี่ยนไปของคุณวีรวิทย์
แล้วทุกสายตาก็หันมาทางชลธิชา เด็กสาวแบะมือสองข้าง แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าตนไม่รู้ ไม่เกี่ยว
“ช่างเถอะค่ะ...คุณพี่.. .ที่ผ่านมาเราก็บังคับหัวใจลูกหลานมาพอสมควรแล้ว...” คุณหญิงกล่าวเชิงเห็นด้วย ทั้ง ๆ ที่สีหน้าไม่สู้จะดีนัก “ว่าแต่เธอ ยัยน้อย....ไปพูดอะไรกับคุณปู่ละ......” คุณหญิงประวีณาหันมาทางชลธิชา
“เปล่าค่ะ.....น้อยไม่ได้พูดอะไร....” ชลธิชากล่าวพลางหัวเราะ ขณะที่คุณวีรวิทย์ตาเขียวปัด
“จริงหรือคะ......” คุณหญิงประวีณาหันมาทางสามี
“อืมมมม.... เอาละ ดึกแล้ว พากันแยกย้ายเถอะ แม่ครัวเค้าจะได้มาเก็บสำรับ“ คุณวีรวิทย์กล่าวตัดบท ทุกคนต่างแยกย้าย ทั้งที่ยังมีเรื่องคาใจ
...................................................
...................................................
“บอกแม่มา....น้อย...หนูไปคุยอะไรกับคุณปู่....” คุณภัณฑิลาคาดคั้นชลธิชาลูกสาวคนเล็ก
“เปล่า.....” ชลธิชาส่ายหน้า ปฏิเสธ ยิ้ม ๆ
“กับมนุษย์เจ้าเลห์อย่างเธอแม่ไม่เชื่อ “ คุณภัณฑิลากล่าวอย่างขัดใจ
“ก็แค่หนู ไปคุยกับคุณปู่เรื่อยเปื่อย...” ชลธิชากล่าว
“หวังว่าหนู คงไม่มีแผนในหัวที่จะเขี่ยให้ทุกคนไปจากบ้านนี้ เพื่อที่จะเหลือเพียงหนูคนเดียวนะน้อย...” ภันฑิลากล่าวเหมือนจะอ่านใจลูกสาว
“แม่..... หนูไม่ร้ายขนาดนั้นนะ.....ทุกอย่างหนูทำไปเพื่อความสุขของทุกคน...” ชลธิชากล่าว
“รวมทั้ง......เรื่องที่หนูขู่แม่ เรื่องน้องเล็ก ว่าเป็นลูกตามั่น เพื่อพี่วัลย์ของด้วยใช่ไหม....” ภัณฑิลากล่าวเสียงราบเรียบ
“ค่ะ.......” ชลธิชารับ
ภัณฑิราไม่คาดคั้นอะไรจากชลธิชาอีก จริงละ ถ้าชลธิชาประสงค์รร้าย เธอคงไม่ช่วยคุณอิง แม้กระทั่ง ชฏาวัลย์ หรือใครอีกหลายคน คิดแล้วเธอก็อดห่วงลูกสาวคนเล็กไม่ได้ในความเจ้าเลห์เกินวัย ชลธิชา ทำแบบนี้ทำไม อะไรคือความต้องการของเธอ นี่กลับเป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ไม่เข้าใจ
.................................................
.................................................
คุณวีรวิทย์พยายามที่จะข่มตาหลับลงให้ได้ แต่ในหัวก็ยังครุ่นคิด ชลธิชา หลานสาวตัวแสบ รู้ถึงความสัมพันธ์ขอแก กับรัตน์ชินี ลูกสะใภ้คนที่ 3 ของแก ได้อย่างไร มิหนำซ้ำ ยังรู้ด้วยว่า น้องอิม ความจริง เป็นลูกสาวของแก ไม่ใช่ลูกของทรงวุฒิ ทั้ง ๆ ที่แกปกปิด และระวังมาตลอด
“คุณปู่คะ หนูขอร้อง ปล่อย ๆ พวกนั้นเค้าไปเถอะค่ะ....”
“น้อย....ปู่ว่านี่มันไม่ใช่เรืองของหนูนะ...”
“รวมทั้ง เรื่องน้ารัตน์ กับคุณปู่ และเรื่องน้องอิม ไม่ใช่ลูกของพ่อ....แต่ความจริงเป็นลูกของคุณปู่ใช่ไหมคะ...”
“....................”
“หนูรู้มานานแล้วค่ะ แต่คุณปู่สบายใจได้ ทั้งบ้านนี้ มีเพียงหนูเท่านั้นที่รู้”
“....................”
“แน่นอนหนูจะเก็บเป็นความลับ เพราะคุณย่าคงไม่สบายใจ ถ้ารู้เรื่องนี้”
“....................”
“แน่นอนค่ะ ที่คุณปู่ซื้อคอนโดให้น้ารัตน์ แล้วไม่ให้น้องอิมไปอยู่ด้วย เพราะอะไร ทำไมหนูจะไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าคุณย่ารู้ หรือใครต่อใครรู้ หนูเกรงว่าคุณปู่.........”
“...................”
กับอีกหลายประโยค ที่ชลธิชา หลานสาววัย 15 กล่าวออกมา และแกก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ แน่นอน ถึงตอนนี้ ถึงตอนนี้ที่แกสงสัยหนักก็คือ ชลธิชารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
..................................
..................................
ชลธิชานอนยิ้มอยู่คนเดียว นึกขอบคุณตามั่นของเธอ ที่ก่อนจะไป ตามั่นได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณปู่ของเธอกับรัตน์ชินี ให้เธอฟัง
ชลธิชาหยิบมือถือของเธอ กดที่การตั้งค่า----การรักษาความปลอดภัย----ความปลอดภัยส่วนตัว----แล้วกดรหัสผ่านเป็นตัวเลข 6 หลัก / เด็กสาวเลื่อนดูคลิปการส่มสู่ระหว่างตามั่นกับแม่ กับพี่ฎา น้องอิม พี่อิง แม้กระทั่งกับตัวเธอเอง...... แล้วไม่นานร่างเด็กสาวก็บิดเกร็ง......... แล้วหลับไปอย่างเป็นสุข
.......................................................
......................................................
เช้าวันศุกร .... สถานีรถไฟดอนเมือง ลุงมั่นกับคุณอิงก้าวลงรถไฟพร้อมกัน ถึงจะเป็นการเดินทางด้วยตู้นอนพิเศษ แต่คุณอิงก็ไม่วายบ่นอุบอิบ เพราะต้องใช้เวลาเดินทางมากเกินไป
“เห็นไหมละ....อิงบอกแล้ว ให้นั่งเครื่อง รถไฟ มันใช้เวลามากเกิน....” คุณอิงบ่น
“อืมมม..... แต่ผมว่ามันก็ดีนะ ยิ่งตอนตู้รถไฟมันส่ายไปส่ายมา.....” ลุงมั่นกล่าวยิ้ม ๆ คุณอิงนิ่งคิดสักครู่ก็ใช้มือทุบเอาที่ไหล่ลุงมั่น
“อีตาบ้า.....!!!...” คุณอิงว่า พลางคิดถึงตอนตี 2 ที่ผู้คนในขบวนรถไฟต่างนอนหลับ แล้วลุงมั่นบุกเข้าหาเธอ หญิงสาวถึงกับอายหน้าแดง แต่ก็ยอมรับว่าทั้งเสียว ทั้งตื่นเต้น
“วันหลังเราหาเวลา นั่งรถไฟอีกนะ...ตื่นเต้นดี...” ลุงมั่นกล่าวทำหน้าทะเล้นเหมือนวัยรุ่น
“ไม่เอา....... “หญิงสาวว่า พลางใช้มือเกาะที่แขนลุงมั่น ต่างพากันเดินออกไป เพื่อเรียกแท็กซี่
................/ “ลุงมั่น !!!.......”../ เสียงเด็กผู้หญิงดังมาจากด้านข้าง........ ลุงมั่นกับคุณอิงหันไปมองพร้อมกัน เป็น กัญธิชา หญิงสาววัย 29 อดีตภรรยาคนที่ 4 ของทรงวุฒิ กับน้องพิมพ์ ลูกสาววัย 12 ของเธอ
“น้า...กัญ....น้องพิมพ์....ไปไงมาไงคะ....” คุณอิงกล่าวทักขึ้นก่อน
“น้ามาส่ง คุณแม่ค่ะ พอดีท่านจะไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด...แล้วคุณอิง...เอ่อ พี่มั่น ไปไงมาไงคะ...ถึงได้นั่งรถไฟ...” กัญธิชาถามขึ้นบ้าง
“อ้อ....อิงจะกลับมาเอารถของอิงไปใช้ค่ะ...” คุณอิงตอบ..../ (คุณอิงหมายถึง BMW สีดำคันโปรดของเธอ)
“อ้อ...ค่ะ....เห็นว่าคุณอิงไปทำธุรกิจอยู่ทางอีสานกับอามั่น สบายดีนะคะ ...”
“ก็ดีค่ะ......แล้วน้ากัญเป็นไงคะ มีใครหรือยัง.........”
“ก็ดู ๆ อยู่ค่ะ แต่ยังไม่มั่นใจ...” กัญธิชาตอบ
“.........................” ในระหว่างที่คุณอิง กับ กัญธิชา พูดคุยกัน ลุงมั่นก็พูดคุยกับน้องพิมพ์
...............“คุณหนูพิมพ์ สบายดีนะครับ ...โห...ไม่เจอกัน แค่ 3-4 เดือน โตเป็นสาวแล้ว...”
...............“ก็ดีค่ะ... เสียอย่างเดียว อยู่กับแม่แค่ 2 คน มันเหงา ไม่สนุกเหมือนอยู่บ้านกับคุณปู่ คุณย่า กับพี่ๆ.....” น้องพิมพ์ตอบ
.............. “ก็แล้วทำไม ไม่กลับไปละครับ...” ลุงมั่นกล่าว
………….. “ก็อยากไปอยู่....”
...................................................
“น้องอิง ..ไปด้วยกันนะคะ...น้าจะไปส่ง....” กัญธิชาเอ่ยชวนคุณอิง
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ.....”.. คุณอิงรับคำ แล้วหันไปพยักหน้าให้ลุงมั่น
...................................................
กัญธิชา ขับรถออกจากสถานีรถไฟดอนเมืองโดยมีคุณอิงนั่งคู่อยู่ข้างหน้า และน้องพิมพ์นั่งเบาะหลังคู่กับลุงมั่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเหตุการณ์เช่นนี้ จะไม่เกิดแน่นอน เพราะทุกคนในบ้านล้วนไม่อยู่ไม่เคยอยู่ในสายตาของคุณอิง แต่หลังจากที่คุณอิงเสร็จลุงมั่น ทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน
“ไปส่งพี่มั่น โรงแรมแถวบ้านอิงนะคะ...” คุณอิงบอก
“อ้าว....ไม่ไปด้วยกันหรือคะ....” กัญธิชาถามด้วยความงุนงง
“พี่มั่นแกไม่กล้าไปค่ะ....555...แกยังตะขิดตะขวงใจอยู่....”
“เป็นงั้นไป....แล้วคุณอิงจะพักอยู่สักกี่วันคะ......”
“ก็จะอยู่สัก 2-3 วัน แต่อิงจะไปนอนที่บ้านกับคุณปู่ เลยให้พี่มั่นไปนอนรอที่โรงแรม เพาะคุณปู่คงไม่ยอมให้พี่มั่นเข้าบ้าน”
“เออ....งั้นให้อามั่นไปพักที่บ้านน้าก็ได้ พอคุณอิงจะกลับค่อยมารับแก”
“จะดีเหรอคะ....” คุณอิงว่า
“ก็ไม่เห็นจะเป็นไร เราคนกันเองทั้งนั้น.....” .............. “ไปพักที่บ้านพิมพ์นะคะ...” น้องพิมพ์ที่พังอยู่กล่าวขึ้นอีกคน
“อาจมีแขกเพิ่มด้วยนะคะ...เพราะพี่มั่นแกนัดเจอกับ น้องฎา น้องวัลย์ กับน้อยด้วย”
“โอ้ย....ไม่เป็นไร...น้าเข้าใจ.... “ กัญธิชาว่า
“ว่าไงคะ พี่มั่น..อิงว่าก็ดีนะคะ อิงจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ..”
“ก็แล้วแต่ครับ ที่ไหนก็ได้ ยกเว้นบ้านคุณอิง กับบ้านคุณวีรวิทย์ 555+ กลัวโดนตื๊บ...” ลุงมั่นกล่าวขำ ๆ
............................. กัญธิชา ส่งคุณอิง แล้วขับรถกลับบ้าน โดยมีน้องพิมพ์ เปลี่ยนมานั่งด้านหน้า ส่วนลุงมั่น โทรบอก ชลธิชาว่า ไม่ได้พักโรงแรมแล้ว แต่ไปพักที่บ้านคุณกัญธิชา............... กัญธิชาไม่แปลกใจเพราะรู้มาก่อนอยู่แล้วว่า ลุงมั่นสนิทคุ้นเคยกับครอบครัวภัณฑิลามานานแล้ว แต่ที่เธอไม่รู้คืออามั่นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กๆทั้ง3
ที่ผ่านมา ตามั่นก็คุณเคยกับ กัญธิชาดี ในช่วงที่ตามั่นเข้ามาอยู่บ้านคุณวีรวิทย์ กัญธิชายังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อยู่กับพ่อแม่ ที่ทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านคุณวีรวิทย์ กระทั่งพ่อของกัญธิชาเสีย และเธอโตเป็นสาว จึงถูกคุณหญิงประวีณาจับแต่งเป็นเมียคนที่ 4 ของลูกชายของเธอ เพื่อหวังที่จะได้หลานชาย
ดังนั้นทั้งกัญธิชา และน้องพิมพ์จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับตามั่น
……………………………………………………
……………….. ใครจะรู้ ที่คุณอิงยอมให้ตามั่นมาพักบ้านคุณกัญธิชา ก็เพื่อกันตามั่น ออกจากสามสาว ชฎาภรณ์ ชฎาวัลย์ และชลธิชา..................
............................................................
ช่วงสาย ๆ ที่บ้านกัญธิชา
“โอ้ย......อามั่นก็พูดไป มันไม่ง่ายนักหรอกค่ะ ที่จะหาผู้ชายดี ๆ ได้สักคน “ กัญธิชาตอบเมื่อตามั่นถามถึงการมีครอบครัวใหม่ของเธอ
“อีกอย่างนะคะ กัญก็อายุมากแล้ว แถมมีลูกติด .. “ กัญธิชากล่าว
“โอ้ย...!!! ใครว่าแก่ คุณกัญยังสวยพริ้งขนาดนี้ “ ตามั่นว่า กัญธิชายิ้มๆ
“ความจริงมีหนุ่ม ๆ มาจีบแม่นะคะ แต่ แม่มัวแต่เลือก....” น้องพิมพ์สอด
“โอย....พวกนั้น ...... มีแต่รุ่นน้องทั้งนั้น...คบเล่น ๆ นะพอได้ แต่จะจริงจัง คนไม่ไหว..” กัญธิชาว่า
“ว่าแต่อามั่นเถอะ .... ไปไงมาไง ถึงไปลงเอยกับคุณอิงจองหยิ่งนั่นได้ ทีแรกกัญได้ยินข่าว กัญยังไม่เชื่อเลย....”
“อืมมม....ไม่รู้สิครับ.....” ตามั่นว่าพลางยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
“แต่ก็ดีนะคะ.....แต่ก่อนนะพี่อิงโคตรดุ แต่ตอนนี้ใจดีขึ้นมาก ไม่รู้ไปโดนอะไรลุงมั่น นิสัยถึงเปลี่ยน....” น้องพิมพ์กล่าวแล้วหัวเราะ
“มะเหงก ทะเล้นใหญ่แล้วเรา เป็นเด็กเป็นเล็ก...” กัญธิชาว่าพลางยอมือจะเขกหัวแต่น้องพิมพ์หลบเสียก่อน
“หนูไม่เด็กสักหน่อย....” น้องพิมพ์กล่าวกระฟัดกระเฟียด พอดีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น
.............................................................
เป็น สามสาวพี่น้อง ชฎาภรณ์ ชฎาวัลย์ และชลธิชา พากันมาหาตามั่น สามสาวเมื่อพบกับลุงมั่น หรือตามั่นของพวกเธอก็แทบจะกระโดดเข้ากอดด้วยความคิดถึง เนื่องจากไม่พบกันมาหลายเดือน
“ทุกคนตามสบายนะคะ น้าจะเข้าบริษัท พอดีลางานแค่ครึ่งวัน “ กัญธิชากล่าวกับสามสาว
“ค่ะ น้ากัญ ไม่เป็นไร....” ชฎาวัลย์กล่าวตอบ
“พิมพ์ ไปกับแม่นะ....” กัญธิชาหันมาทางลูกสาว
“แม่คะ ขอพิมพ์อยู่กับพี่ ๆ ละกัน...” น้องพิมพ์ว่า
“อืมมมม.....งั้นก็ไม่เป็นไร...งั้นก็ดูแลจัดเตรียมห้องให้ตามั่นด้วยแล้วกันลูก.......” กัญธิชากล่าวอย่างหมดห่วง เมื่อน้องพิมพ์อยู่บ้านกับพี่ ๆ ของเธอ
“ค่ะแม่........” น้องพิมพ์ตอบ นี่จึงเป็นวันแรกของการปิดภาคเรียน ที่เธอได้อยู่บ้าน
กัญธิชาขับรถออกไปแล้ว ทั้งบ้านจึงเหลือสี่สาว พี่น้อง และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไป สลับถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ
.................................................................
“เดี๋ยวน้อย พาตามั่นไปจัดเตรียมห้องพักก่อนนะคะ....” ชลธิชากล่าวกับพี่สาวทั้งสอง มองสบตาทีละคนบอกความหมาย
“เอาสิ น้อย....เดี๋ยวพี่จะคุยอยู่ กับ น้องพิมพ์เอง....” ชฎาภรณ์ พี่คนโตกล่าวกับชฎาวัลย์เหมือนรู้ใจ
“แทนที่จะไปนอนโรงแรม.......” ชลธิชาบ่นอุบอิบ
“เออ....เป็นคุณอิงนะครับ เห็นดีเห็นงามให้ผมมาพักที่นี่....” ตามั่นกล่าว ขณะเปิดห้องนอนที่ คุณกัญเตรียมให้ เป็นห้องนอนสำหรับรับแขกซึ่งอยู่ชั้นล่าง น้องพิมพ์ ในฐานะเจ้าของบ้านเดินตามมา
“ความจริงห้องก็เรียบร้อยแล้วนะคะ “ น้องพิมพ์ว่า
“อืมมม.....เดียวขอพี่ดูอีกรอบ...” ชลธิชากล่าวกับน้องพิมพ์ น้องสาวต่างมารดากับเธอ พลางคิดในใจ
............/ คิดจะวางยา ให้ตามั่นมาพักที่นี่ คุณพี่อิง ฮึ ๆ เดี๋ยวเถอะ..../ แล้วหันไปทางน้องพิมพ์
“น้องพิมพ์ตามสบายนะคะ..ไปคุยกับพี่ฎา พี่วัลย์เถอะ... เดียวพี่จะช่วยตามั่นจัดห้องนี้เอง...” ชลธิชากล่าวกับน้องพิมพ์
“ค่ะ...พี่น้อย...” น้องพิมพ์กล่าว งงๆ ว่าจะจัดเตรียมอะไรอีก ก็กระเป๋า ตามั่นก็อยู่ในห้องนี้แล้ว
“ปิดประตูด้วยน้อง .... เดียวยุงเข้า...” ชลธิชาสั่งน้องพิมพ์
ชลธิชา จัดการ เอาเสื้อผ้าของตามั่นที่มีไม่กี่ชุดออกจาก กระเป๋า แล้วจัดเข้าตู้เสื้อผ้า ตามั่นยืนมองด้วยอาการยิ้ม ๆ แล้วเดินเข้าไปโอบกอดที่เอวของเด็กสาวจากด้านหลัง
“คิดถึงจัง.......” ตามั่นกระซิบ แล้วจูบลงที่ซอกคอ ชลธิชาออกอาการสั่นเล็กน้อยแต่ไม่มีอาการขัดขืน เด็กสาววางเสื้อของตามั่นในมือลง ค่อย ๆ หันตัวมาหาตามั่น ภายในอ้อมกอดหลวม ๆ เด็กสาวร่างเล็ก ใช้สองมือเรียวโอบกอดรอบคอชายสูงวัย .......”เช่นกันค่ะ....” ชลธิชากล่าว แล้วหลับตาพริ้ม...เมื่อริมฝีปากของเธอถูกประกบลงด้วยริมฝีปากหนาของตามั่น
................................
…………………………..
“ไปหาซื้ออะไรมากินกัน....” ชฎาวัลย์กล่าวกับชฎาภรณ์ และน้องพิมพ์
“อืมมมม....ไปสิ...” ชฎาภรณ์ พี่สาวคนโตกล่าว แต่ก็ยังรู้สึกขัดใจนิด ๆ ที่น้องสาวคนเล็กชิงตัดหน้าก่อน
“ปะ ไปกัน น้องพิมพ์......” ชฎาวัลย์ จับมือน้องพิมพ์ แล้วพาลุกขึ้นเดิน น้องพิมพ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แล้วพี่น้อย.....????....” น้องพิมพ์กล่าว
“ให้เค้าช่วยกันจัดของเถอะ.....” ชฎาภรณ์ กล่าวตัดบท เพราะคิดว่าน้องพิมก็แค่เด็ก ป.6 วัยก็แค่ 12 ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก
“อืมมมม....ไปก็ไป.....” น้องพิมพ์กล่าว........
....................................
....................................
กว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากสามสาว ชฎาภรณ์ ชฎาวัลย์ และน้องพิมพ์ออกไปข้างนอก เสียงแตรรถ ดังขึ้นที่หน้าบ้านดังขึ้นเหมือนจะให้สัญญาณ ร่างเปลือยของตามั่นที่คร่อมทับหลับตาอยู่บนร่างเปลือยของชลธิชา ขณะที่ท่อนเอ็นของแกยังคาอยู่ในรูหีของเด็กสาวขยับตัว ต่างค่อย ๆ ครายวงแขนออกจากกัน หนึ่งชั่วโมง กับ 2 น้ำ ที่ต่างคนต่างทบทวนความคิดถึงให้กัน จนเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยหอบ สร้างความอิ่มเอมให้คนทั้งคู่อย่างสุด ๆ ตามั่นถอนควยขออกจารูหีของชลธิชาอย่างแสนเสียดาย พลางก้มลงจูบปาก ดูดนมอีกครั้งเป็นการส่งท้าย แล้วต่างคนต่างช่วยกันสวมเสื้อผ้าให้กันและกันอย่างเร่งรีบ แล้วพากันเดินออกมาจากห้องนอน
“ช่วยกันจัดห้องจนผมยุ่งไปหมด.....” น้องพิมพ์กล่าวขึ้นลอย ๆ
“นั่นสิ.....555+” ชฎาภรกล่าวพลางหัวเราะ
“ก็เสื้อผ้าตามั่นนะสิ ใส่มาได้ไงในกระเป๋า ยับไปหมด ตั้งนาน กว่าจะจัดเสร็จ “ ชลธิชากล่าวหน้าตาเฉย แล้วหันไปยิ้มให้กับ พี่สาวทั้งสอง ส่วนน้องพิมพ์เม้มปากเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด
17.30 น. คุณกัญกลับมาแล้ว ตามั่นเดินมาส่งสามสาวที่รถ
“ขับรถคำมืด มันอันตราย พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ...” ตามั่นกล่าว
“เก้าโมงนะคะ ฎาจะมารับ....” ชฎาภรณ์กล่าวนัดหมาย ขณะสตาร์ทเครื่องรถ
“ครับผม.... “ ตามั่นกล่าว พลางยิ้มให้กับสามสาว
........................................................
........................................................
มื้อเย็นกัญธิชา น้องพิมพ์ และตามั่นร่วมทานข้าวด้วยอาหารง่าย ๆ แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันเข้านอน ตามั่นโทรคุยกับคุณอิงนานพอสมควร ก่อนที่จะหลับไปด้วยความเหนื่อย ทั้งจากการเดินทาง และการทบทวนความคิดถึงกับชลธิชาเมื่อช่วงบ่าย ตามั่นหลับยาวจบ 7 โมงเช้า ก็ยังไม่ตื่น
07.20 น.
“ตื่นได้แล้วลุงมั่น......จะนอนยาวไปไหน.....” เสียงใสของน้องพิมพ์ มาปลุกตามั่นที่ข้างเตียง
ตามั่นหลับไปตั้งแต่เมื่อคืนโดยไม่ล๊อคห้อง น้องพิมพ์ก็เลยวิสาสะเข้ามาปลุกเสียเลย ตามั่นลืมตาขึ้นมา ความจริงแกตื่น นานแล้ว แต่ยังนอนต่อเฉย ๆ เพราะแกนัดกับชฎาภรณ์ตอน 9 โมง ซึ่งยังมีเวลาอีกนาน
“ตื่นแต่เช้าจังน้องพิมพ์...... “ ตามั่นกล่าว
“เช้าที่ไหน นี่มันเกือบ8 โมงแล้ว.....” น้องพิมพ์กล่าวอย่างคุ้นเคย
“เอ้า......แล้วคุณแม่ละ....” ตามั่นเปลี่ยนเรื่องคุย
“แม่ไปทำงานแล้วค่ะ..... พิมพ์เห็นลุงมั่นนัดกับพี่ๆ ก็เลยอยู่รอเป็นเพื่อน....” น้องพิมพ์ว่า
“อืมมม....ก็ดี ....” คามั่นพึมพำพลางลุกขึ้นนั่งและดึงผ้าห่มออกจากตัว กรรมเวร ตามั่นลืมไปว่าตนนุ่มกางแกงขาสั้นบาง ๆ เพียงตัวเดียว การได้นอนหลับสนิททั้งคืน ชะโดตัวเขีองของแกจึงผงาดตั้งลำดังกางเกงนอนให้ตุงอยู่
“อะ...!!!....” น้องพิมพ์ทำท่าเหมือนตกใจ ไม่ต่างจากตามั่นรีบเอาผ้าห่มปิดกลับคืน
“อืมมมม.... วันนี้ลุงนัดกับคุณหนู วัลย์ หนูฎา ไปเที่ยว น้องพิมพ์ไปด้วยกันนะครับ...” ตามั่นกล่าวแก้เขิน
“อ้าว .... แล้วพี่น้อยละคะ....” น้องพิมพ์กล่าว ตาชำเรืองไปทางผ้าห่มที่ทับตักลุงมั่น
“อ้อ...!!!...คุณน้อย ก็ไปด้วยกันครับ...” ตามั่นกล่าทำท่าจะลุกไปห้องน้ำ
“อืมมมม.....ลุงมั่นคะ....”
“ครับ....” ตามั่นหันไปมองหน้าเด็กน้อย
“เมื่อวาน...ตอนหนูกับพี่ๆ ออกไปข้างนอก.. ลุงมั่นกับพี่น้อยทำอะไรกันคะ.....” น้องพิมพ์ถามเสียงใสแบบเด็ก ๆ แต่สายตาที่จ้องมองตามั่น มันกลับไม่ใช่สายตาของเด็ก ตามั่นถึงกับเย็นวาบที่สันหลัง
“ก็....ไม่มีอะไร.... ลุงก็แค่ อืมมมม...... ช่วยกันจัดเสื้อผ้าเข้าที่เท่านั้น......อืมมมม....” ตามั่นตอบ
“เหรอคะ...พอดีพิมพ์เห็นน้ำอะไรเป็นรอยด่าง ๆ กลางที่นอน......ก็เลยสงสัย.....ฮิฮิ...ไม่บอกก็ม่เป็นไร พิมพ์รอถามแม่ก็ได้...” น้องพิมพ์กล่าว ทำท่าจะเดินออกไป ตามั่นรีบคว้าข้อมือเด็กน้อย ดึงเข้ามาหาตัวทันที
“.......!!!!...” น้องพิมพ์อึกอักพูดอะไรไม่ออก
“น้องพิมพ์.........” ตามั่นเรียกชื่อเด็กน้อย เริ่มรู้สึกแล้วว่าน้องพิมพ์ต้องรู้แน่นอน
“อะไรกัน...ลุงมั่น...” เด็กน้อยทำหน้าตื่น
“น้องพิมพ์อย่าไปเล่าให้ใครฟังนะ....” ตามั่นกล่าว
“ งั้นลุงบอกมาตรง ๆ ว่าเมื่อวาน ลุงทำอะไรกับพี่น้อย...” น้องพิมพ์กล่าวอย่างเป็นต่อ
“เอ่อ.......ลุง...” คราวนี้เป็นเสือเฒ่าอึกอัก เพราะไม่รู้จะตอบคำถามเด็กน้อยอย่างไรดี
“...... ลุงมั่น...กับพี่น้อย...เอากันใช่ไหมคะ...” น้องพิมพ์เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง ตามั่นถึงกับอึ้ง
“ น้องพิมพ์ รู้เรื่องพวกนี้ได้ไง....” ตามั่นถาม มือยังจับที่แขนน้องพิมพ์
“ โอ้ย !!! ในเนท มีตั้งเยะ....แค่พิมกูเกิ้ลว่าเย็ด...มันก็มีให้ดูตรึม...” เด็กน้อยกล่าวหน้าเฉย
............/ ตายห่า....”......../ ตามั่นคิดในใจ
“น้องพิมพ์ อย่าไปเล่าให้ใครฟังนะครับ ลุงขอร้อง ไม่งั้นพี่น้อยของหนูเดือดร้อนแน่ ถ้ามีใครรู้...” ตามั่นกล่าว
“เฮ้อออ....” เด็กน้อยวัย 12 ถอนหายใจ แล้วค่อยบิดแขนออกจามือลุงมั่นมี่จับอยู่ ทำท่าส่ายหน้าแบบเจ้าเล่ห์ แล้วนั่งลงบนเตียง ข้าง ๆ ลุงมั่น
“หนูนี่นะ...มีโน๊ตบุ๊คอยู่เครื่องหนึ่ง แม่ซื้อให้ หมื่นกว่าบาท มันบางมันสวยก็จริง แต่ CPU มันแค่ i3 เล่นเกมส์ มันก็ช้ายิ่งกว่าเต่าป่วยเดิน ครั้นขอแม่ซื้อ i7 ตัว TOP ราคาแค่ ห้าหมื่นกว่า แม่ก็บอกว่าของเก่ายังใช้ได้ หนูละเบื้อ เบื่อ....” น้องพิมพ์ พูดเหมือนบ่นกับตัวเอง ตามั่นเริ่มเข้าใจน้องพิมพ์ทันที
“เอาไหมละ ลุงจะซื้อให้ “ ลุงมั่นกล่าว หันไปมองหน้าเด็กน้อย
“ฮือ...ก็ดีสิคะ.....” น้องพิมพ์เบิกตา ลุกขึ้นยืน แล้วกอดเข้าที่คอตามั่น ซึ่งนั่งอยู่ขอบเตียง พร้อมหอมที่แก้มตามั่น 1 ที แสดงอาการดีใจ ตามั่นเลยถือโอกาส โอบกอดน้องพิมพ์บ้าง
“แต่น้องพิมพ์ต้องสัญญานะครับว่า จะไม่เอาเรื่อลุงกับนี่น้อยไปเล่าให้ใครฟัง.....”
“จ้า....พิมพ์สัญญา จะลืมทุกเรื่องเลย....” น้องพิมพ์รับปาก
“ซื่นใจจัง คนเก่งของลุง มาขอกอดสักที “ ตามั่นกล่าว ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้แกก็กอดน้องพิมพ์อยู่แล้ว
“อึ๋ยยยย.....” น้องพิมพ์เอียงหน้าหลบ เมื่อตามั่นฉวยโอกาสจะจูบที่จมูกของเธอ แต่การเอียงหน้าหลบ ก็เท่ากับว่าเป็นการเอียงแก้มให้ ตามั่นจูบลงที่แก้มบางใสของเด็กน้อย
“ อะไร......???....” น้องพิมพ์ถามเสียงสั่น ตามั่นอดแปรกใจไม่ได้ ว่าทำไมน้องพิมพ์ไม่ดิ้นหรือขัดขืน จะว่าเด็กไม่รู้เรื่อง ก็ไม่น่าใช่ เพราะเท่าที่พูดคุย ดูเหมือนจะรู้เรื่องดี
“ลุงแค่หอมแก้มเฉย ๆ ไม่มีอะไร.....”
“จริงหรา......” น้องพิมพ์เบ้ปาก “แล้วทำไมตรงนี้ของลุง “.....น้องพิมพ์ บ่ายมือมาจับที่ท่อนเอ็นของตามั่นหน้าตาเฉย.....”ตรงนี้มันถึงแข็ง....แปลว่าลุงกำลังอ่านกินหนูใช่ไหมละ....” ข้องพิมพ์พูดหน้าตาเฉย เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ตามั่นอายแทบแทรกแผ่นดิน ที่เด็กน้อยรู้เหลี่ยม แต่ยังทำใจดีสู้
“แล้ว....ถ้าลุงอ่านกินน้องพิมพ์จริง ๆ ละ “ ตามั่นพูดหยั่งเชิง
“ม่ายยยย...ด้ายยยยย....” น้องพิมพ์กล่าวเสียงยานยาว พลางสายหน้าช้า ๆ แต่สายตากลับออกอาการท้าทายสุด ๆ มันช่างต่างจากเด็กวัยนี้ที่แกเคยรู้จักมาก่อน .........../ ถ้าเด็กมันไม่ยอม..../ ตามั่นเตือนสติตนเอง
“งั้นลุงขอแค่จุ๊บ สักทีก็พอ “
“อื้อ.....” น้องพิมพ์พยักหน้า ตามั่นแทนที่จะจุ๊บที่แก้ม กลับแนบริมฝีปากที่เรียวปากจิ้มลิ้มของเด็กน้อย เบา ๆ แล้วคลายวงแขนปล่อยให้น้องพิมพ์เป็นอิสระ
“อืมมมม.....ไม่เห็นจะเหมือนกับในนิยายเลย...” น้องพิมพ์ว่า
“ยังไงเหรอครับ....” ตามั่นถามงง ๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่น้องพิมพ์พูด
“ก็ ที่หนูเคยอ่านนิยาย เค้าเขียนว่าพอผู้ชายจูบผู้หญิง มันเสียวสะท้านไปทั้งตัว แต่นี่ตอนลุงมั่นจูบหนู ทำไมมันเฉย ๆ......” .........../ เคยอ่านในเน็ท...แล้วอยากลองนี่เอง...../>
“มันไม่ใช่แบบนั้น..... “ ตามั่นว่า “มานี่มา ลุงจะทำให้ดู.....” ตามั่นโอบกอดน้องพิมพ์อีกครั้ง คราวนี้แกไม่จุ๊บ แต่จูบเลย “ข้องพิมพ์กอดลุงด้วยสิ.....” ตามั่นสั่ง เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย มือตามั่นกอดและสอดเข้าไปในเสื่อยืดของน้องพิมพ์ ลูบไล้ตามเนื้อตัว จูบแผ่วเบา ที่ซอกคอคาง แล้วหันมาประกบปากสอดลิ้น เด็กน้อยออกอาการสะท้านเมื่อมือหยาบของตามั่น สัมผัสที่เนินอกขนาดขนมครกของเธอ ป้านนมเป็นปุ่มนูน แต่หัวนมยังบอดอยู่ กระนั้นความรู้สึกสัมผัส ก็ทำให้ตามั่นแทบคลั่ง เพราะไม่เคยเจอเด็กขนาดนี้มาก่อน เด็กสุดที่แกเคยได้ คือน้องอิม ซึ่งตอนนั้นน้องอิม อายุ 14 แต่ตอนนี้แกกำลังจะเอาเด็กอายุ 12
“อูยยยยย.....เสียว....ค่ะ...” น้องพิมพ์งึมงำ เมื่อตามั่นครอบปากลงที่เต้านมแล้วดูดดุน เบา ๆ เด็กน้อยร่างเล็ก วัย 12 ความสูงเพียง 138 ถูกตามั่นเล้าโลมด้ายลีลาขั้นเซียน มันไม่ยากนักที่แกจะค่อย ๆ ทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเด็กออก เพราะเด็กมีความต้องการอยากลองอยู่แล้ว บัดนี้รางเล็กขาวนวลของเด็กน้อย นอนเปลือยอยู่บนเตียง ถูกร่างหนาของตามั่น คร่อมทับบังจนมิด หากจะมองเห็นบ้างก็เพียงเรียวแขนที่กอดรอบคอตามั่นอยู่ปากจิ้มลิ้มของเด็กน้อยดูดดุนลิ้นของตามั่นที่สอดเข้ามาในปากน้อยของเธอ ท่อนเอ็นแข็งเป็นลำถูไถตามโคนขาของน้องพิมพ์
........” อูยยยยย....” เด็กน้อยครางเบา ๆ เมื่อ ซอกคอ....เนินนมเท่าขนมครก...ร่องอก... ทุกที่ที่ริมฝีปากตามั่นดูดดุนผ่าน เด็กน้อยเสียวสะท้านไปทั้งตัว เธอรู้ และเชื่อดั่งที่ได้ดูและได้อ่านมาแล้ว ว่ามันเสียวจริง ๆ เหลือที่สุดท้าย ที่เธออยากรู้ ว่ามันจะเสียวเท่านิ้ว หรือขวดโรลออน ที่เธอเคยจับมันยัดเข้าออกหรือไม่ ถ้าเป็นการกระทำของผู้ชายจริง ๆ
............../ ช่วย....ดูดหีให้หนูที......./ น้องพิมพ์ภาวนาในใจ เมื่อตามั่นขยับตัวต่ำลง แล้วฝังหน้าลงในง่ามขาของเด็กน้อย......
“อะ.....อูยยยยยย.........” เด็กน้อยถึงกับคราง สุดเสียง เมื่อใบหน้าของชายที่ผ่านหนาวมาแล้ว 58 ย่าง 59 ปีฝังลงที่ง่ามขอบองเธอ และครอบปากดุนลิ้น ดูดหีของเด็กน้อยวัย 12 ที่เพิ่งมีประจำเดือนมาไม่ถึงปี
สองขาเรียวของเด็กน้อย เกี่ยวรัดรอบคอตามั่น ขณะที่สองมือตามั่นเอื้อมขึ้นไปบีบเค้น เต้านมของเด็กน้อย.............
...............บี๊ป....บี๊ป ๆ............... เสียงแตรรถ ดังขึ้นที่หน้าบ้าน ตามั่นจำได้ดีว่า นั่นคือแตรรถของ ชฎาภรณ์
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน