สี่ทุ่มกว่าๆ กำลังอ่านเรื่องโน้นเรื่องนี้ในบอร์ดนักประพันธ์เพลินๆภรรยาผมใส่เสื้อยืดเก่าย้วยกับกางเกงนอนขายาวเดินลงมาจากชั้นบนไม่ให้สุ้มให้เสียงปิดหน้าจอเกือบไม่ทัน เธอเดินมาดึงกระดาษทิชชู่จากกล่อง(ที่ผมเอามาเตรียมไว้ข้างคอมพ์^^)ทำจมูกฟึดฟัดสั่งน้ำมูกพลางบ่นอุบเรื่องอาการภูมิแพ้กำเริบจนแทบหายใจไม่ออก ผมดึงเธอมากอดให้กำลังใจเพราะไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านั้น
“เนี่ยเหรอกล้องวิดีโอที่ส่งมาวันนี้” ภรรยาถาม
“ใช่..” เจ้ากล้องแฮนดี้แคมโฟร์เคใหม่แกะกล่องวางอยู่บนโต้ะ
“ของแบบนี้ซื้อออนไลน์จะไว้ใจได้เหรอ ลองถ่ายดูรึยัง”
“ยังไม่ได้ลอง ชาร์ตแบตอยู่จะเต็มแล้วมั้ง” ผมตอบ
“แล้วเค้ามีรับประกันรึเปล่าล่ะเผื่อมันใช้ไม่ได้”
ผมหยิบเจ้ากล้องแฮนดี้แคมขึ้นมาเปิดหน้าจอ เสียงสัญญาณดังปี๊ปฝาปิดหน้ากล้องเปิดอัตโนมัติพร้อมทำงาน “ไหนเปิดเสื้อดิ๊ ขอถ่ายนมหน่อย” ผมกดปุ่มบันทึกภาพรอ เธอบ่นว่าทุเรศแต่ก็ยอมเลิกเสื้อยืดเก่าย้วยของตัวเองขึ้นอย่างว่าง่าย อวดสองเต้าขาวกลมกลึงแกล้งส่ายสะโพกทะเล้นเล่นกล้องตัวใหม่สักพักก็โบกมือขอตัวขึ้นไปนอนเพราะง่วงจากฤทธ์ยาแก้แพ้ ปล่อยทิ้งให้เจ้าน้องชายของผมแข็งตัวค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น
เรื่องราวของเมียผมถ้านำมาเล่าสู่กันฟังจะว่าไปก็น่าสนใจมิใช่น้อย นึกย้อนถอยไปร่วมสิบกว่าปีในสมัยที่หนุ่มๆสาวๆยังแชทคุยกันด้วยเอ็มเอสเอ็น(โปรแกรมแชทสมัยพระเจ้าเหา)โน่นแหละ
………………..
เหมียว เป็นอดีตรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัยของสมเกียรติ ปัจจุบันสมเกียรติเป็นลูกน้องในแผนกที่ผมเป็นผู้จัดการ มันคงเห็นว่าผมยังไม่มีแฟนก็เลยออกปากจะแนะนำรุ่นพี่ที่มหาลัยให้รู้จักโฆษณาว่าเป็นคนนิสัยดีหน้าตาน่ารักอย่างโน้นอย่างนี้และเข้าใจว่ามันก็คงไปโฆษณากับทางฝั่งโน้นเอาไว้ในทำนองเดียวกัน เรานัดเจอกันในเย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ผมไปกับสมเกียรติส่วนเหมียวมากับเพื่อนที่ทำงาน
ครั้งแรกที่ผมได้พบกับรุ่นพี่มหาลัยของสมเกียรติตัวเป็นๆบอกตามตรงว่ารู้สึกปิ๊งในทันที เธอเป็นคนสวยรูปร่างดีผมยาวสลวยไม่ผอมไม่อ้วนกิริยามารายาทดีคำพูดคำจาโอภาปราศรัยทัศนคติใช้ได้มองโลกในแง่งามจริงอย่างที่พ่อสื่อเคยเกริ่นนำไว้ แต่ที่น่าแปลกก็คือสาวสวยเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและหน้าที่การงานจนป่านนี้แล้วทำไมยังโสด ได้รู้ในตอนหลังว่าเธอกำลังพยามเลิกกับแฟนเก่าให้เด็ดขาดด้วยการหาแฟนใหม่ และผมก็เดินเข้ามาในชีวิตผ่านการแนะนำของรุ่นน้องได้จังหวะพอดิบพอดี ผมเริ่มโทรหาเหมียวทุกวันในเวลาซ้ำๆเดิมๆคล้ายเป็นกิจวัตร ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็จะชวนกันไปเดินห้างกินข้าวเสาร์อาทิตย์ไหนเหมียวไม่ได้ขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเราก็จะนัดกันไปดูหนัง หรือไม่ก็ชวนเธอมาคุยกับพ่อแม่ผมที่บ้าน
เสาร์อาทิตย์หนึ่งเหมียวก็ออกปากชวนผมไปเที่ยวบ้านเธอที่ต่างจังหวัด ขับรถออกจากกรุงเทพประมาณสองร้อยกิโลนิดๆใช้เวลาเกือบๆสามชั่วโมง บ้านของเหมียวเป็นครอบครัวคนจีนค้าขายญาติญาติพี่น้องเปิดร้านอยู่ใกล้ๆกันเป็นครอบครัวใหญ่เอื้อเฟื้อเกื้อหนุนทางธุรกิจจนร่ำรวยฐานะมั่งคั่งเป็นอันดับต้นๆของอำเภอ มิน่าล่ะเหมียวถึงเรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้เพราะว่ามีผู้ใหญ่หลายคนช่วยกันดูแลขัดเกลาช่วงวัยรุ่นก่อนจะเอ็นท์ติดไปเรียนกรุงเทพ
....................
คืนวันเสาร์หนึ่งที่เหมียวไม่ได้กลับบ้านต่างจังหวัด เสียงโทรศัพท์โนเกียแปดสองห้าศูย์ของผมดังขึ้นตอนเกือบจะตีสอง ทั้งที่เราเพิ่งแยกกันตอนสี่ทุ่มแต่เหมียวออกปากชวนให้ผมกลับไปที่ห้องเธอในตอนนี้ ผมได้ยินแบบนั้นก็ฮึกเหิมกะว่าคืนนี้ท่าทางจะมีเฮแน่ถึงกับแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อถุงยางอนามัยติดตัวไปด้วย ประตูห้องชั้นสี่คอนโดย่านซอยรางน้ำเปิดออกหลังจากที่โทรเข้าไปบอกว่ายืนรออยู่ที่หน้าห้อง นับเป็นเวลาเกือบหกเดือนที่ผมไม่เคยกล้าเอ่ยปากขอเข้าในห้องเหมียวแม้แต่ครั้งเดียวและเธอก็ไม่เคยชวน
กลิ่นห้องของผู้หญิงมันหอมรัญจวนแบบนี้นี่เอง ผมนั่งลงบนเก้าอี้พยามทำตัวสบายๆไม่มีพิธีรีตองเกรงอกเกรงใจอะไรมาก เหมียวบ่นว่านอนไม่หลับเพราะอาการโรคภูมิแพ้กำเริบจนน้ำหูน้ำตาไหลคงเพราะเจอฝุ่นย่านสยามแสควร์ที่เราเพิ่งไปดูหนังกันมาเมื่อตอนหัวค่ำ เธอเล่าให้ฟังว่าเพิ่งวางสายคุยกับแม่เรื่องที่พาผมไปเจอ แม่ของเธอไม่ได้ติดใจอะไรถ้าลูกสาวชอบแม่ก็ชอบด้วยส่วนท่าทีของพ่อก็เฉยๆไม่ได้ยินดียินร้าย
เหมียวถามผมตรงๆว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอ ผมตอบเสียงดังฟังชัดว่าชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น และหลังจากที่ได้ศึกษานิสัยใจคอมาสักพักแล้วก็น่าจะไปด้วยกันได้ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของผมคือผมเป็นคนสูบบุหรี่แต่ก็พร้อมจะเลิกทันทีถ้าเราสองคนมีลูกคนแรก เจอลูกรักจริงหวังแต่งเข้าไปแบบไม่ทันตั้งตัวเล่นเอาเธอนิ่งอึ้งไปไม่เป็นเหมือนกัน
เหมียวเดินไปเปิดตู้เก็บของหยิบอัลบัมรูปเล่มใหญ่(สมัยนี้ไม่มีแล้ว)ยื่นให้ผม เธอขอให้ผมเปิดดูรูปในอัลบัมก่อนที่จะด่วนตัดสินใจ รูปของผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าในอากัปกิริยาสีหน้ายั่วยวนเซ็กซี่อย่างไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนคนเดียวกัน เสื้อเกาะอกเอวลอยกางเกงยีนส์เอวต่ำขาสั้นจุ๊ดเสื้อสายเดี่ยวเนื้อบางเห็นสองจุกแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหมียวตัวจริงนั่งคุกเข่าสีหน้าเคร่งเครียดรอผมเปิดดูทีละรูปจนครบทั้งอัลบัม
“แฟนเก่าเหมียวเป็นคนถ่าย” เธอบอกเสียงเบา
“แล้วเอามาให้พี่ดูทำไมอ่ะ”
“..ฟิล์มต้นฉบับของรูปพวกนี้อยู่ที่เค้าทั้งหมด”
“แล้วเค้าเคยขู่จะเอารูปพวกนี้มาแบล็คเมล์เรารึเปล่า” ผมถามพลางถอนหายใจ
“เคย..” เสียงเธอสะอื้นสั่นขาดห้วง “เค้าขู่ว่าถ้าเหมียวมีแฟนใหม่เมื่อไหร่เค้าจะส่งรูปพวกนี้ให้ดู”
อัลบัมรูปอีกสามเล่มใหญ่ๆถูกรื้อค้นออกจากตู้มาวางที่พื้น เหมียวหยิบผ้าขี้ริ้วเดินไปห้องน้ำจะเช็ดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามปกแม้จะเก็บรักษาไว้ในตู้อย่างดี พอเธอเดินกลับมาเห็นผมกำลังเปิดดูรูปจากอัลบัมเล่มเล็กสุดปกสีแดงก็ร้องกรี๊ดก้าวกระโดดพรวดรีบดึงออกจากมือผม
“เล่มนี้ดูไม่ได้ไม่ให้ดู!!” เหมียวเดินเอาอัลบัมเล่มเล็กไปเก็บในตู้
“แล้วมีรูปที่มันยิ่งกว่านี้อีกมั้ย” ผมถาม “แบบว่ากำลัง…”
“มี..” เธอพูดแทรกซบหน้าลงกับตูเก็บของเสียงสะอื้น
“พี่รู้ใช่มั้ยว่าเหมียวไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องดีงามอะไรนักหนา ไม่ใช่ผู้หญิงดีอย่างที่แม่เหมียวบอกพี่หรอกนะ” เหมียวไม่สบตาผม
กล่องถุงยางอนามัยนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าสะพาย เรานั่งดูรูปในอัลบัมโน่นนี่คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยจนเริ่มเห็นแสงสีทองทาบทาขอบฟ้า สรุปว่านอนจับมือคุยกันมีอยู่จริงๆจ้าาา 55
เหมียวเป็นคนชอบถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่ง กล้องดิจิตัลดีเอสแอลอาร์ตัวแรกในชีวิตพร้อมเลนส์ฟิกส์สี่สิบห้าเข้าประจำการแทนที่กล้องฟิล์มเก่า อันที่จริงสมัยเรียนมหาลัยผมก็เสพติดการถ่ายรูปอยู่พักใหญ่ทำงานพิเศษได้เงินมาก็ลงกับสารพัดเลนส์บ้าบอคอแตกพอเรียนจบแยกย้ายกับเพื่อนจึงไม่ได้ออกเดินทางไปเดินป่าถ่ายรูปที่ไหนอีก ถ่ายแต่ภาพวิวทิวทัศน์ต้นไม้ใบหญ้ามันก็แค่นั้นเคยนึกเบื่อๆเหมือนกัน
………………..
ปากทางเข้าเส้นทางเดินศึกษาคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังจัดเตรียมกระชับเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะถุงกันทาก เหมียวเห็นแล้วทำหน้าหวาดๆเพราะเธอรังเกียจกลัวหนอนเป็นที่สุด ส่วนผมกำลังนึกกังวลใจกับจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า อุตส่าห์ลางานมาเที่ยวในวันธรรมดานึกว่าจะคนน้อยกว่านี้
เราตัดสินใจให้นักเดินป่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้เดินนำหน้าไปก่อน เหมียวอยู่ในเสื้อกล้ามตัวโคร่งสวมทับสปอร์ตบราสีสดกางเกงกีฬาขาสั้นจุ๊ดอวดเรียวขาขาวสะพายเป้หลังใส่หมวกดูทะมัดทะแมง ผมตรวจกล้องภาพนิ่งกล้องวิดีโอแบตเตอรี่และเม็มโมรี่การ์ดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เริ่มจากชี้ให้เธอไปยืนที่ป้ายเพื่อบันทึกภาพสถานที่ไว้เป็นหลักฐาน
ระยะทางแค่ประมาณกิโลกว่าๆแต่เราเดินอ้อยอิ่งถ่ายรูปใช้เวลาเกือบชั่วโมง นักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มนั้นคงจะเดินๆหยุดดูโน่นนี่คล้ายกับเราอยู่ข้างหน้า จะว่าไปทางเดินศึกษาธรรมชาติเส้นนี้ผมเคยมาเดินกับเพื่อนไม่ต่ำกว่าสิบครั้งในสมัยที่ยังเรียนมหาลัย จำได้ว่าเลยต้นยางนาใหญ่ยักษ์จะมีลักษณะคล้ายซุ้มทางเดินสัตว์แยกทางซ้ายมือ มุดป่าทึบเดินสักสิบห้านาทีก็จะไปโผล่ที่เนินเขา ที่ตรงนั้นเหมือนได้พบโลกอีกใบหนึ่งที่แตกต่างจากสังคมเมืองอย่างสิ้นเชิง ในโอบล้อมของเนินเขาเตี้ยๆ โลกสีเขียวแห่งความเงียบสงบที่มีเพียงเสียงสายลมแทรกตัวไปตามกิ่งไม้ใบหญ้าแว่วเสียงกวางร้องอยู่ไกลๆ
“ตอนสมัยเรียนเวลาที่มาก็จะมาแอบค้างแรมกันตรงนี้แหละ” ผมอวดอ้างวีรกรรม
“อ้าว แล้วเค้าให้นอนได้เหรอ” เหมียวถามพลางมองกวาดไปรอบๆ
“ก็เพราะเค้าไม่ให้นอนน่ะสิถึงได้บอกว่าต้องแอบไง”
ผมชี้ให้เธอดูหอดูสัตว์เก่าหลายสิบปีแทรกตัวอยู่ตรงชายป่าถ้าไม่สังเกตุก็แทบจะมองไม่เห็น เหมียวสนใจอยากเดินขึ้นไปดูแต่ผมห้ามเอาไว้บอกว่ามันเก่าผุพังอาจถล่มลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ ชุดเจ้าหญิงที่ซื้อจากตลาดประตูน้ำถูกเอาออกมาจากเป้สะพายหลัง มงกุฎดอกไม้อยู่ในสภาพบิดเบี้ยวต้องเอามาดัดๆให้กลมดังเดิม ตั้งกล้องวิดีโอบนขาตั้งกดปุ่มรีคอร์ดบันทึกบรรยากาศเป็นภาพมุมกว้างปล่อยต่อเนื่องยาวๆ ผมรับผิดชอบภาพนิ่งเดินกดชัตเตอร์รัวๆในขณะที่เหมียวเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนอีกมือถือกล้องแอคชั่นแคมเซลฟี่ตัวเองเพื่อเอาไว้ตัดสลับเป็นช็อตโคลสอัพ
ชุดเจ้าหญิง(ประตูน้ำ)ซีทรูเนื้อผ้าบางใสกรุยกรายทะลุปรุโปร่งถึงข้อเท้า เธอวิ่งวนไปบนเนินหญ้ากระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนานทำเป็นซึ้งเดินดูดอกไม้ป่าโน่นนี่ เดินไปเดินมาชุดเจ้าหญิงขะมุกขะมอมก็ยิ่งค่อยๆหลุดต่ำลงไปเรื่อยจนลงไปกองที่พื้น เหมียวเหลือเพียงมงกุฎดอกไม้ปลอมกับร่างเปลือยเปล่าแบ็คกราวด์เป็นดอกหญ้าสะอาดบริสุทธิ์กับท้องฟ้าสีฟ้าใส ผมยื่นกล้องให้เธอดูว่าทริปนี้เราได้ภาพดีๆสวยๆเยอะเลย
“เดี๋ยวเหมียวจะถ่ายพี่ดิษฐ์บ้าง” เธอทำหน้าเจ้าเล่ห์ไม่ยอมคืนกล้องให้ผม “ค่อยๆถอดทีละชิ้นนะ ช้าๆ”
“ไม่เอา.. จะบ้าเหรอ” ผมส่ายหน้าหัวเราะ “อายว่ะ 55”
“อ๊าว ทีตัวเองล่ะทำมาอาย แล้วไม่คิดว่าเค้าจะอายบ้างเหรอ”
“มันไม่เหมือนกัน ของเหมียวมันน่าดูไงแต่ของพี่มันน่าเกลียด”
“งั้นถอดเฉพาะกางเกงก็ได้”
เหมียวส่งสายตาวิบวับผมได้แต่ยิ้ม เหลือบไปมองกล้องวิดีโอยังบันทึกต่อเนื่องเป็นปกติดีอยู่ เธอคุกเข่าลงปลดเข็มขัดและกระดุมรูดซิบกางเกงจัดการให้มันลงไปกองอยู่ที่พื้น เจ้าน้องชายพองตัวแข็งเป็นลำผงกหัวออดอ้อนขอไออุ่นเหมียวจับมันชักเข้าออกเบาๆก่อนจะเอาเข้าปากทั้งดุ้น เธอผงกหัวทั้งดูดทั้งเลียจนผมสุดจะกลั้นบอกเสียงสั่นว่าเขื่อนจะแตกแล้ว เหมียวหลับตายิ้มรอรับน้ำเมือกขุ่นข้นสีขาวกระฉูดฉีดใส่เต็มหน้าหูตาคอตมูกเยิ้มหยดย้อยลงเปรอะเปื้อนที่เนินอกขาว
ชุดเจ้าหญิงและมงกุฎดอกไม้ถูกเก็บลงเป้สะพายหลัง เหมียวเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถอดกองไว้บนพื้นหญ้าพบว่าสปอร์ตบราสีสดหายไป ผมมองกวาดไปรอบๆชี้บอกให้เธอแหงนดู ลิงกังเจ้าถิ่นสองตัวขโมยสปอร์ตบราของเหมียวเอาขึ้นไปแย่งกันดมบนยอดไม้โน่นแหนะ โรคจิตจริงๆไอ้ลิงเปรต นี่ดีนะที่มันไม่ขโมยกางเกงหรืออุปกรณ์กล้องของผม เมื่อพบว่าหมดปัญญาที่จะได้สปอร์ตบราคืนผมจึงสละเสื้อยืดของตัวเองให้เหมียวใส่เพราะเสื้อกล้ามตัวโคร่งที่ใส่ตอนเดินเข้ามามันเว้าลึกเกินในจะทน ขากลับระหว่างที่เรากำลังเดินออกมาผมชักภาพแบบไม่ยั้งจนเหมียวบ่นรำคาญเพราะยังเสียดายสปอร์ตบราตัวเก่ง สองจุกนูนเด่นเป็นสง่าทำเอาเจ้าหนูน้อยแข็งตัวเต็มเป้ากางเกงพร้อมสู้อีกยกนึกอยากรีบกลับไปให้ถึงโรงแรมที่พักเร็วๆ
ตอนที่เราเดินมาถึงทางเข้าทางออกใกล้ลานจอดรถนักท่องเที่ยวนิยมไพรชาวต่างประเทศที่กลับออกมาก่อนกำลังรอขึ้นรถมองเหมียวเป็นตาเดียว เหมียวเองก็ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านหรือเขินอายทุกข์ร้อนใดๆแถมยังเดินไกลไปโชว์ถึงอาคารสวัสดิการร้านค้าโน่นลูกเด็กเล็กแดงกระจองอแงนักเรียนมัธยมที่กำลังลงจากรถบัสทัศนศึกษานักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศประมาณด้วยสายตารวมๆน่าจะร่วมร้อย รู้ว่าเธอกำลังประชดเรื่องที่ผมชื่นชอบให้แต่งต้วโป๊
เคยเห็นแต่คนไทยมองฝรั่งโนบราเพิ่งเห็นนี่แหละว่าคนไทยโนบราฝรั่งก็ชอบมองเหมือนกัน ส่วนผมเดินถอดเสื้อโชว์พุงนมตั้งเต้ายังไม่เห็นมีใครอยากจะมอง
………………..
จนป่านนี้แฟนเก่าของเหมียวก็ยังไม่เคยส่งภาพอะไรมาให้ผมตามที่เคยข่มขู่แม้แต่ภาพเดียว เก็บเอาไว้ชักว่าวเถอะสัส.. ขืนมึงส่งเหี้ยไรมากูจะเอาตำรวจไปลากคอเข้าตาราง!! ไอ่ควาย!!
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน