ก่อนอื่นต้องเรียน ผู้อ่าน ที่เคยติดตามผลงานผมนะครับ
1. นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมเขียนงานผ่าน มือถือ ดังนั้น อาจไม่เนียนนัก
2.ปกติถ้าผมลงงาน ผมจะลงวันเว้นวันจนจบ แต่งานนี้ พิษ โควิด ผมอาจไม่ได้ลงเรื่องเร็วนัก แต่ก็จะลงให้จบแน่นอนครับ
ดอกไม้ รอยด่าง ความรัก..... ตอนที่ 1
.......................
ดอกอินทนิลสีม่วงสลับขาว มันก็สวยไปอีกแบบสาวน้อยวัย 11 เอื้อมมือหมายจะเด็ดดอกของมันแต่มันก็อยู่สูงเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมมือถึง ด้วยความซน ความไร้เดียวสา สาวน้อยตัดสินใจปีนต้นไม้ขึ้นไป ความจริงมันไม่สูงมากนัก หากเทียบกับขนาดร่างกายของผู้ใหญ่ แต่มันก็เกินเอื้อม สำหรับเด็ก ที่มีความสูงเพียง 135 เซ็นติเมตร เด็กสาวปีนขึ้นลำต้น แล้วป่ายไปยังกิ่งเล็กๆ อาการไม่ชำนาญนัก แล้วค่อยๆ เอื้อมมือน้อยไปยังโคนดอก ร่างเล็ก ก็จริง แต่กิ่งไม้ก็เล็กเช่นกัน ประสบการณ์ชีวิต เพียง 11 ปี กับการได้รับการฟูมฟักเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ทำให้ประสบการณ์ น้อยไปหน่อย กิ่งไม้นั้นปริ และทำท่าจะหัก ร่างเล็กก็จริง แต่กิ่งไม้ที่เธอเกาะอยู่ก็เล็กเกินกว่าที่จะรับน้ำหนักของเธอได้ แล้วเด็กสาวก็พลาด แรงดึงดูดของโลกพาร่างของเธอพร้อมกับดอกอินทนิน ฟาดลงที่พื้นดิน ด้วยความสูง เกือบ 2เมตร
“โอ้ย..!!!...” เสียงร้องด้วยความเจ็บผสมกับความตกใจ
ตาก้อน คนสวนวัย 53 ซึ่งรดน้ำต้นไม้อยู่ไกล้เคียงรีบวิ่งมาดูแล้วแกก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด
“คุณหนูตกต้นไม้หรือครับเจ็บมากไหม” ตาก้อนถามนายสาวตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บค่ะลุง…อูยย…มันปวดชาที่ขา” เด็กน้อยตอบน้ำตาคลอด้วยความเจ็บ
“ไปที่เรือนดีกว่าครับเดินไหวไหมครับคุณหนู..” ตาก้อนถาม สายตามอง เจ้านายตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง ขณะที่มือก็พยุงร่างของเด็กน้อยให้ลุกขึ้นยืน
“อูยย… เจ็บค่ะลุง..” เด็กน้อยกล่าว ตาก้อน มองซ้ายมองขวาเพื่อจะเรียกให้แม่บ้านผู้หญิงมาช่วยประคองแต่ก็ไม่มีใครสักคน ในตอนนี้ ทุกคนอยู่ที่เรือนใหญ่ของเจ้านาย
“เจ็บตรงไหนครับคุณหนู….”
“ข้อเท้าค่ะ…..อูยยย…มันปวดชา….” เด็กน้อยตอบ พรางใช้มือเรียวงาม จับที่ขาของตน
ตาก้อน นั่งลงมือ ยาบหนา จับคลำที่จ้อเท้าของเจ้านายตัวน้อย
“ไม่มีอะไรมากครับ….ข้อเท้าพลิกเท่านั้น….”
“แต่ดิวเจ็บ….”
“เดี๋ยวลุงนวดให้นะครับ…” ตาก้อนกล่าว พลางพยุงนายน้อย เดินกระเพลก ไปที่เรือนพักของตนที่อยู่ไม่ไกลนัก
คนรับใช้ในบ้านนี้มีทั้งหมด 5 คน 1 เป็นยามซึ่งมาทำงานเฉพาะตอนกลางคืนอีก 1 พนักงานขับรถ อีก 2 คนเป็นผู้หญิงซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่บ้านและตัวแก ตาก้อน หรือลุงก้อน ทำหน้าที่เป็นคนสวน
ชนชั้นเจ้านายของบ้านนี้เวลานี้ต่างก็ออกไปทำงาน เหลือเพียงน้องดิวเท่านั้นที่อยู่บ้านเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม
ตาก้อน พยุงร่างของเจ้านายตัวน้อย ให้นั่งลงที่แคร่ หน้าเรือนพักของตน เรือนพักที่อยู่ส่วนหลังห่างจากตึกใหญ่แวดล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่น พืชสมุนไพร และผักสวนครัวที่แกปลูกเป็นผักปลอดสารเคมี สำหรับประกอบอาหารให้เจ้านาย ชนิดแทบไม่ต้องซื้อผักกิน เรือนพักที่แกอยู่เพียงคนเดียว สวนนายช่วงวัย47พนักงานขับรถ นางแจ่ม วัย45 แม่บ้าน และ นังเอื้อย วัย 22 หน้าที่ทำความสะอาดและซักผ้า 3 คนพ่อแม่ลูก พักอยู่ที่ห้องพักคนงานในตึกใหญ่
จึงมีเพียงตาก้อนคนเดียวเท่านั้นที่พักอยู่เรือนพักคนงานโดยมีหน้าที่ดูแลสวนและทำความสะอาดบริเวณรอบนอกของตัวตึก
ตาก้อนประครองให้เจ้านายตัวน้อย นั่งลงที่แคร่ แกหายไปสักครู่ แล้วเดินกลับมา พร้อมกับใบไม้ 2-3 ชนิด แกจัดการนำใบไม้ทั้ง 3 มาขยี้รวมกันแล้วคั้นเอาน้ำ
“ใบอะไรคะ ลุงก้อน…” เด็กน้อยถาม
“อ้อ…อันนี้เสลดพังพอน อันนี้ใบพลับพลึง สองตัวนี้แก้อาการช้ำครับ ส่วนอันนี้ใบพิมเสน ทำให้มีกลิ่นหอมครับ….ผมจะนวดเบาๆ แต่ถ้าคุณหนูเจ็บก็บอกนะครับ…” ตาก้อน กล่าว พร้อมกับชโลมสมุนไพรลงที่ข้อเท้าของเด็กน้อย แล้วก็นวดคลึงที่ข้อเท้า เบาๆ แน่นอนละ แกนวดเป็น เพราะเคยเรียนมาก่อน เคยรับจ้างด้วยซ้ำ แต่รายได้มันน้อย และด้วยที่ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมใช้บริการของหมอนวดผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
“อืมมม..” เด็กน้อยปล่อยเสียงถอนหายใจเมื่อตาเฒ่านวดคลึงตามน่องขึ้นไปถึงหัวเข่า
“เจ็บหรือครับ….” ตาก้อนถาม
“เปล่าค่ะ…. เอ… กลิ่นสมุนไพรนี่หอมดีนะคะ..” น้องดิว กล่าว
“ครับ…เป็นกลิ่นพิมเสน ผมใช้กลบกลิ่นเหม็นเขียวของพลับพลึง…กลิ่นมันหอมชื่นใจดีนะครับ.” ตาก้อนมองหน้าเด็กน้อย พรางพรรยายสรรพคุณ ของสมุนไพร
สิ่งหนึ่งที่แกไม่ได้พูดคือกลิ่นของพิมเสน มันมีส่วนกระตุ้นกำหนัดด้วย
“ดีขึ้นใหมครับ…” ตาก้อนถาม
“ค่ะ….” เด็กน้อยพยักหน้าบอกความจริง
“ความจริง ใบพลับพลึงต้องเอาไปย่างไฟให้ร้อน แล้วค่อยเอามาประคบ…” แกพูดไปเรื่อย “ขนาดคนเป็นไข้หวัดใหญ่ มีอาการปวดกล้ามเนื้อ สมัยก่อนก็ใช้ใบพลับพลึงนี่ละครับย่างไฟประคบให้หายปวด ดีกว่าใช้ยาหมออีก…” เด็กน้อยฟังที่ตาก้อนพูดแบบ งงๆ …และแล้วจังหวะที่เด็กน้อยเผลอ….ตาก้อนก็กดลงทีเส้นเอ็นเส้นหนึ่งบนข้อเข่าของเธออย่างแรง
“โอ้ยยย….” เด็กน้อยร้องด้วยเสียงดังสุดขีดด้วยความเจ็บพยายามชักเท้าออกจากมือของตาเฒ่า
แต่ตาเฒ่าก็จับข้อเท้าไว้แน่น
“ผมกดเอ็นที่มันพลิกเข้าที่ครับ คุณหนู….” ตาเฒ่ากล่าวเด็กน้อยน้ำตาคลอด้วยความเจ็บ
“อูยยยย…ดิวเจ็บ…” เด็กน้อยพึมพำ ขณะที่ตาเฒ่าปล่อยขาของเธอ
“คุณหนูลองขยับขาสิครับว่าเจ็บไหมทีนี้”
เด็กน้อยลองขยับขาและลุกขึ้นยืน มันเป็นตามที่ตาก้อนพูด เธอไม่เจ็บ ข้อเท้าแล้ว จะเหลือก็แต่เพียงรอยนิ้วที่แกกดเส้นเอ็นเท่านั้น
“อืมม…หายแล้วจริงๆ …ขอบคุณค่ะลุง” เด็กน้อยกล่าว แล้วนั่งกลับคืนลงที่แคร่
“เดียวผมนวดขาให้อีกข้างนะครับ จะได้สมดุลย์กัน “ ตาเฒ่าว่าพลางจับที่เรียวขาของเจ้านายตัวน้อย
“รบกวนคุณลุงแย่เลย…” เด็กน้อยกล่าวด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับ …. ผมเต็มใจ..” ชายวัย 53 ว่าพลาง นวดคลึงที่เรียวขาของเด็กน้อย พลางเหลือบตามองเจ้านายตัวน้อย เจ้าของเรียวขางามคู่นั้น ผสานสายตากับเด็กน้อยที่มองการกระทำของแกอยู่ด้วยความพอใจ
นอกจากพี่เลี้ยง นอกจากคนรับใช้ในบ้าน นอกจากเงิน พ่อ แม่ ของเธอหาได้ใส่ใจดูแลเธอด้วยการกระทำเช่นนี้มาก่อน พ่อแม่ มีแต่งาน ๆ และงาน
ขณะที่ตาเฒ่า ก็คิดไปอีกทาง แกคิดถึงเรื่องราวในชีวิตของแกที่ผ่านมา อาการกระทำนี้ แกเคยทำให้กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เด็กผู้หญิง วัย 14 คนที่แกเรียกว่าลูก คนที่เรียกแกว่า พ่อ
…ที่คฤหาสน์ของคหบดีหลังนั้น หลังที่แกทำงานเป็นคนขับรถ
วันนั้นนายหญิงสั่งให้แกกลับมาเอาของที่บ้าน …. แต่แกกลับไม่พบใครสักคนบ้านเงียบสงบแกควรจะพบนายผู้ชาย ที่บอกว่าไม่สบายขอพักอยู่กับบ้าน ไม่ก็เมียของแกหรือลูกสาว แต่นี่กลับไม่มีใครสักคน …… ครั้งเมื่อแกเดินไปที่บ้านพักคนงาน…มันก็เงียบเงียบจนผิดปกติ รองเท้าของนายผู้ชายถอดรวมอยู่กับรองเท้าของเมียและลูกสาวของแก
…………………..ภาพของนายผู้ชาย ลูกสาว และเมียแกสามคน กำลังสมสู่กัน ..... ภาพอดีตที่ลำลึกขึ้นมา ก่อนที่แกจะทิ้งลูกเมียหนีออกมาสมัครเป็นคนรับใช้ของบ้านหลังนี้...............
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน