PHANTOM | มฤตยูลวงร่าง ตอนที่ 6 'สู่ห้องแล็ปวิจัย'
สถานีโทรทัศน์แลงแคสเตอร์ อาณานิคมดวงจันทร์ ฝั่งซีกขวา
เลขาธิการสภาความมั่นคงโลกและดวงจันทร์ วิลเลียม แฮร์ลิส
ประกาศแผนการรักษาความปลอดภัยมาตรการสูงสุด
-- ในงานแถลงข่าวที่หน้าสถานีโทรทัศน์แลงแคสเตอร์เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงโลกและดวงจันทร์ วิลเลียม แฮร์ลิส พร้อมเหล่าผู้บัญชาการทหารสี่เหล่าทัพ รวมกองกำลังหน่วยรบพิเศษอวกาศทั้งคณะ ประกาศว่าอาณานิคมดวงจันทร์จะมีการใช้มาตรการกฎอัยการศึก โดยให้ทหารอวกาศเข้าคุ้มครองพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในตัวเมือง เนื่องจากกรณีที่ว่าในตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่ลง เชื้อไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วพร้อมกับหุ่นยนต์รบจำนวนกว่ามากก่อกบฎต่อรัฐบาลเและควบคุมบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน “มันจะล้ำเส้นกันเกินไปแล้วนะ!” นั่นคือหนึ่งในประโยคสำคัญของท่านเลขาธิการในวันให้สัมภาณษ์กับผู้สื่อข่าว และยังมีนโยบายให้หน่วยรีคอนเข้ามาทำงานเสริมกำลังอีกชั้นหนึ่งด้วย นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สยองในอาณานิคมลูน่า วัน มีเจ้าหน้าที่ทหารอวกาศสูญหายไปเป็นจำนวนมากขณะพยายามหยุดยั้งการบุกรุกของกองทัพหุ่นยนต์ วิลเลียมให้คำยืนยันแก่สื่อมวลชนและประชาชนที่มาร่วมฟังการแถลงข่าวว่า อาณานิคมดวงจันทร์จะกลับสู่สภาวะปกติ กลายเป็นเมืองที่สงบสุขที่ซึ่งทุกคนจะดำรงชีวิตได้ดังเดิม ส่วนการดำเนินการสืบสวนเบาะแสเรื่อง
‘เชื้อไวรัสต่างดาว’ ตามที่ได้เรียนแจ้งกันเข้ามาจากกองตำรวจปราบปราม พบว่าแพร่กระจายเกินยับยั้ง
“แม้จะไม่มีใครถูกทำร้ายมากมายจากกรณีไวรัสต่างดาวที่เล็ดลอดเข้ามาในตัวเมืองอาณานิคม ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะยับยั้งช่างใจแต่อย่างใดนะครับ” วิลเลียม แฮร์ลิสกล่าว
“ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับไวรัสต่างดาว เรารู้แค่ว่ามันมีลักษณะเชิงโครงสร้างคล้ายปรสิตเกาะก้านสมองและควบคุมระบบประสาททั้งหมด เราเชื่อว่าประชาชนที่รักควรจะเชื่อมั่นในความสามารถของกองกำลังหน่วยรีคอนของเราและรู้สึกอบอุ่นที่ตัวแทนประชาชนกำลังพยายามสุดความสามารถเพื่อรับประกันความปลอดภัยให้กับทุกท่านนะครับ!”
“ท่านครับ ท่านครับ!” นักข่าวคนอื่นพยายามทักท้วง แต่ดูเหมือนว่าจะถูกหน่วยทหารรักษาความปลอดภัยเข้าควบคุมความตึงเครียดของสถานการณ์ทันที เลขาธิการสภาความมั่นคงโลกยังชี้แจงสามมาตรการที่จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ชาวดาวโลกและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น
คือนอกจากจะใช้กฎอัยการศึกให้ทหารยึดพื้นที่เพื่อตั้งด่านโจมตีแล้ว ยังมีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วทั้งเมืองจนกว่าจะสิ้นสุด นายพลบาดัวร์จะจัดตั้งหน่วยงานซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่และตำรวจสืบสวนหลายนายเพื่อตามล่าตัว ‘นางพญา’ ซึ่งเจ้านางพญาเอเลี่ยนที่ว่านั่นพรากชีวิตนายทหารอวกาศหน่วยรีคอนไปแล้วกว่าสิบสองคนในวันเดียวกัน เบาะแสซึ่งเหลืออยู่ให้คิดคงมีแต่เพียงปริศนาจากคราบน้ำอสุจิในพื้นที่...
-- ผู้บัญชาการทหารกองกำลังหน่วยรบพิเศษรีคอนได้สั่งเปิดใช้งานป้อมกำแพงสูงเหนือระดับพื้น ป้องกันอีกสองชั้น หากใครก็ตามต้องการออกจากเมืองฝั่งซีกขวา ด้านมืดของดวงจันทร์ นี่คือไพ่ตายใบสุดท้าย ซึ่งตอนนี้ผู้บัญชาการทหารรีคอนได้ออกนโยบายออกมาใหม่แล้วว่าให้การทำปิดประตูลงเดี๋ยวนี้ ทั้งที่คนของพวกเขายังคงหลุดอยู่ในเมืองเพื่อป้องกันความรุนแรงของกองทัพหุ่นยนต์ โดยในท้ายที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจส่งหน่วยปฏิบัติการรบพิเศษออกไปรับหน้าแทน
“บริเวณนี้เป็นเขตกักกันเชื้อไวรัสเอเลี่ยน ขอให้ประชาชนชาวดวงจันทร์ทุกคนอยู่ในความสงบ” นายพลเกล็นพูด เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำ สวมชุดสูทสีดำสนิท เขามีสถานะเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการระดับสูงของสภาความมั่นคงโลกและดวงจันทร์ แถมยังเป็นผู้บัญชาการกองทหารราบอีกด้วย
“ปิดประตู” เขาบอกกับนายทหารข้างกาย น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาจนคล้ายกับการกระซิบ
“ว่าไงนะครับ? แต่ -- คนของเรายังติดอยู่ข้างในนั้น” เจ้าหน้าที่หน่วยทหารรีคอนทักท้วงด้วยความสับสน
“ผมได้รับคำสั่งจากเบื้องบน ปิดเดี๋ยวนี้!” คราวนี้น้ำเสียงของเขากระชากขึ้น แล้วไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น นายทหารคนหนึ่งโบกมือให้ผู้ใต้บังคัญบัญชาแบบพอขอไปที ชายคนนั้นรับคำสั่งกดปุ่มปิดกลไกการทำงานของประตูหลักที่แบ่งแยกระหว่างโลกของพวกเขากับชาวเมืองเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น...
…
ทางด้านโช เอมิลี่ แทน และ ดร. เฮมสลีย์หลังจากการถกเถียงอันเนิ่นนาน พวกเขาก็แยกย้ายกันแบ่งเป็นสองทีมอย่างง่ายๆ ทีมแดงประกอบด้วยโชกับเอมิลี่ ส่วนทีมฟ้า คือแทนและ ดร.เฮมสลีย์ ดูท่าว่าการบุกเข้าไปในตัวแล็ปทดลองของบริษัทเซอร์เจน คอร์ปอเรชั่นโดยปราศจากนายทหารนั้นอันตรายเกินไป อย่างน้อยก็ต้องมีใครสักคนที่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้เข้าไปช่วย ในส่วนของเอมิลี่ เธอรับผิดชอบในส่วนของการผลิตหัวเชื้อวัคซีนตั้งต้น เพราะฉะนั้นแทบไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ดูเหมือนการจับกลุ่มจะค่อนข้างลงตัวเสียด้วยซ้ำไป ทุกอย่างดูมืดสลัวไปหมด แสงไฟดับไป พวกเขาได้ยินเสียงโหวกโหวกจากทางด้านนอก ยินดีต้อนรับสู่แล็ปทดลองชั้นใต้ดิน พวกเขาพากันเดินลงมาจากลิฟท์แก้วใสและมุ่งหน้าไปที่ประตูทางเข้าออกหลังของแล็ปลับใต้ดิน มันเป็นเหมือนประตูกลขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดสำหรับผ่านเข้าออก ในมือของเอมิลี่คือกำไลข้อมือขนาดเล็กทำด้วยยางพลาสติกสำหรับสวมใส่ที่มืือขวาหรือข้างซ้ายก็ได้ บนกำไลนั้นมีแผ่นไมโครชิพเป็นสัญลักษณ์ตัววี (V) ซึ่งหมายถึงลำดับขั้นนักวิจัยอาวุโส เธอสวมใส่กำไลข้อมือ จากนั้นทาบแขนลงบนแท่นเหล็กอะไรสักอย่าง สูงประมาณครึ่งหนึ่งของร่างกายเธอ คอมพิวเตอร์ปรากฎสัญลักษณ์ตัววี (V) พร้อมคำเชิญชวนว่า
“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณเอมิลี่” จากนั้นประตูห้องแล็ปลับชั้นใต้ดินก็เปิดออก... ตอนนี้โชดูเหมือนจะรู้แล้วว่ากำไลข้อมือพลาสติกนั้นเปรียบเสมือนคีย์การ์ดลำดับยศสำหรับเดินทางเข้าออกภายในบริษัทเซอร์เจน คอร์ป เขาสังเกตว่าแทนเองก็สวมกำไลข้อมือชนิดเดียวกัน แต่ของเขาเป็นสัญลักษณ์ตัวเอ็กซ์ (X) โช ไม่ทราบว่านั่นหมายถึงอะไร เขาเดาว่าคงตำแหน่งสูงเอาเรื่อง
‘แล้วทำไมแทนถึงไม่สามารถใช้งานได้?’ เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน