มาแล้ว! แฟนผมเป็นคนดี เล่ม 5 เพียง 59 บาท ครบรอบหนึ่งปีแล้วกับเรื่องราวความรักของวัยรุ่นชายหญิงสองคน ฝ่ายชายก็เป็นคนที่ดี(เสียเหลือเกิน) ฝ่ายหญิงก็สดใสเข้ากับใครก็ได้ เรื่องราววุ่นวาย ทะลึ่งตึงตัง หลบๆซ่อนๆจึงเกิดขึ้น โดยนิยายจะถ่ายทอดมุมมองของทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง สามารถเข้าไปอุดหนุนกันได้ตามลิ้งค์นี้
--------------------------------------------------------
เนื้อหาในตอนนี้มาจาก แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 4 หลังจากช่างเดช ชายมีอายุจัดการซ่อมแซมบริเวณที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ช่างแกก็เดินออกไปนั่งพักคุยซุบซิบกับหลานอยู่ตรงพื้นห้อง ปล่อยผมยืนอยู่สองต่อสองกับสิคในห้องน้ำที่อากาศอบอ้าวพิกล ราวกับเพิ่งผ่านสงครามอะไรมาสักอย่าง
มิวสิค แฟนสาวคนสวยของผมยืนตัวสั่นไม่เป็นจังหวะ หน้าของเธอแดงกล่ำ มือจับปมผ้าขนหนูผืนน้อยเอาไว้ไม่ให้หลุด ผมไม่กล้าพูดออกไปตามตรงว่าตอนนี้สิคดูเซ็กซี่มาก ทั้งสายตาและรูปร่าง เพราะกลัวว่าเธอจะมองผมเป็นคนไม่ดี
สายตาของสิคมองหน้าผมแบบแหยงๆ ก่อนจะเหลือบมองลงต่ำลงไปใต้สะดือของผม พอผมเหลือบมองตามก็ต้องรีบเอามือปิดทันที เพราะเป้าผมมันตุงนูนจนน่าเกลียด อุตส่าห์ไม่พูดแล้วแต่ร่างกายกลับแสดงออกมาเสียอย่างงั้น
“ไม่ต้องปิดหรอก สิครู้ว่าต้อมเองก็มีอารมณ์” สิคยิ้มกรุ้มกริ่มโชว์เขี้ยวกับลักยิ้มเสน่ห์ เธอดูเจ้าเล่ห์ผสมความซุกซนในเวลาเดียวกัน
“ต…ต้อมขอโทษ คือต้อมไม่ได้คิดอะไรต่ำตมระหว่างสิคกับช่างพวกนั้นเลยนะ” ผมพยายามพูดเสียงเบา กลัวทั้งสองคนที่นั่งรอข้างนอกจะได้ยิน
“สิคเข้าใจ ต้อมหวังดีและคอยเป็นกำลังใจมาเสมอ สิครู้สึกได้”
เธอเดินเข้ามาใกล้ผมระยะประชิด เพียงแค่สิคเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา มันก็เหมือนเวทมนต์ที่มอบความชุ่มชื่นให้กับจิตใจผม ร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าก็กลับมาสดใส สิคดึงมือที่กุมเป้าของผมออกมาจับไว้ทั้งสองข้าง แล้วเธอก็มองตา
“ต้อมไม่โกรธใช่ไหมที่สิคอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น?” เธอเอียงคอจ้องตา ท่าทางของสิคน่ารักเหลือเกิน ใจผมสั่นจนลิ้นแทบพันกัน
“ม..ไม่โกรธสิ ต้อมรู้ดีว่ามันเป็นหน้าที่”
“แต่ต้อมคงมีจินตนาการที่กว้างไกล ดูสิแข็งตัวเชียว” สิคแซวผมน่าหยิกแก้มนัก เจ้าจอมซนของผม
“ม..มันก็มีกันบ้าง ธรรมชาติเนอะ” ผมเกาหัวหลบสายตา แอบเขินนิดๆเวลาพูดเรื่องพวกนี้
“ถ้างั้นเรามาเล่นอะไรสนุกๆกันไหม?” สายตาซุกซนขี้เล่นของเธอมันช่างลึกลับและน่าหลงไหลเหลือเกิน ผมเคลิ้มตามโดยไม่คิดจะต้านทาน
“เล่นอะไรเหรอสิค?”
“เดี๋ยวสิคจะอยู่ใกล้ๆกับช่างโด่งให้ต้อมดู ต้อมจะได้จินตนาการอีกไง”
“ต…แต่ว่า” อันที่จริงผมเองก็แอบหึงหวงอยู่พอสมควร
“แล้วพอพวกช่างกลับไป สิคจะมอบของขวัญชุดใหญ่ให้กับต้อมเลยดีไหม?”
สิคจับมือผมแน่นก่อนจะยิ้มหวานใส่ ของขวัญชุดใหญ่ที่สิคพูดถึงคืออะไรผมไม่แน่ใจ แต่ผมตื่นเต้นรอจะรับมันไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมยืนตัวตรงแทบไม่ได้ แต่ต้องฝืนใจเดินไปเรียกช่างโด่งให้มาทำงานก่อน ไม่งั้นของขวัญคงไม่ถึงมือผมเป็นแน่
“ช่างโด่งครับ สิคบอกให้เข้ามาดูในห้องน้ำหน่อย” ผมเดินมายืนตรงประตูหน้าห้องน้ำแล้วเรียกช่างโด่งที่ร่างกายบึกบึน ผู้มีมัดกล้ามราวกับนักมวยปล้ำในอเมริกา
“ได้ครับ” ช่างโด่งลุกขึ้นถอดเสื้อและถอดกางเกงออกเหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ข้างใน ผมตกใจจนรีบยกมือห้าม
“ด..เดี๋ยวก่อนครับ จะถอดเสื้อผ้าทำไมกันครับ”
“ก็ห้องน้ำมันอบ อีกอย่างเดี๋ยวโดนน้ำเสื้อผ้ามันจะเปียก ผมไม่ได้เอาชุดสำรองมาด้วย”
“เชื่อฝีมือหลานผมมันเถอะ เรื่องพวกนี้มันชำนาญอยู่แล้ว” ช่างเดชได้ทีสนับสนุนหลาน
“ต..แต่ว่าผมเกรงใจสิคเขาน่ะครับ”
“ไม่เป็นไรต้อม สิคเข้าใจ มันเป็นงาน”
ผมสะดุ้งตกใจ ไม่รู้ว่าสิคเดินมายืนด้านหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาของเธอจับจ้องหุ่นช่างโด่งอย่างสนใจ ไม่ละสายตา แต่ตรงนี้ผมไม่หึงนะ เพราะช่วงนี้ฟนสาวที่น่ารักของผมเขาสนใจเรื่องการออกกำลังกายดูแลสุขภาพ รูปร่างเป็นสิ่งสำคัญต่ออาชีพที่ต้องขึ้นแสดงบนเวทีอย่างสิค
ช่างโด่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ โดยสิคพาเดินนำไปที่โถส้วม ส่วนผมก็ยืนมองห่างๆจากประตูห้องน้ำ ตรงมุมนี้ผมมองไม่เห็นตัวโถสักเท่าไหร่เพราะรูปแบบการจัดวางของห้องน้ำ ทำให้อ่างล้างหน้าบังมุมสายตาของผมพอดี
“ช่างโด่ง เวลาสิคนั่งทำธุระ รู้สึกว่าฝามันโยกไปมาแปลกๆน่ะค่ะ” สิคชี้ไปที่โถส้วมพลางอธิบายข้อสงสัยของเธอ
“ไหนผมลองดูซิ” ช่างโด่งลองลงไปนั่งดู เขาลองนั่งขย่มสองสามทีเช็คอาการ
“เป็นยังไงบ้างคะ?”
“ผมยังไม่มั่นใจแฮะ ยังรู้สึกปกติอยู่”
“เหรอคะ ถ้าสิคลองนั่งทับลงไปละ?”
ผมที่ยืนฟังอยู่ถึงกับหูผึ่ง สิคหันมามองผมด้วยสายตาเย้ายวน นี่เธอกำลังเล่นกับผมอยู่อย่างงั้นเหรอ หรือว่าเธอต้องการจะทดสอบฝาโถส้วมเฉยๆ ผมสับสนไปหมด ปกติก็เป็นคนคิดอะไรช้าอยู่แล้ว สิคหันหลังให้กับโถแล้วนั่งลงไปเหมือนกับการเข้าห้องน้ำปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็ตรงสิคนั่งลงไปบนตักช่างโด่ง
“เป็นยังไงบ้างคะ รู้สึกอะไรไหม?” สิคถามช่างโด่งที่ถูกนั่งทับอยู่
“ร..รู้สึกสิ เอ้ย ฝาโถก็แข็งแรงดีนะครับ” ช่างโด่งท่าทางเลิ่กลั่กมองผมที มองแผ่นหลังของสิคที ก่อนจะยิ้มเจื่อนให้กับผม
“แล้วถ้าสิคขยับตัว มันจะเป็นยังไงนะ”
สิคพูดพลางโยกเอวไปมาบนตักของช่างโด่ง ผมยืนมองเกาะขอบประตูแน่น หัวใจของผมเต้นแรงยิ่งกว่ารัวกลอง เลือดในร่างกายสูบฉีดจนสมองโล่งไปหมด ผมทั้งหึงทั้งหวงแต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้ ต้องแยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออก แต่ลีลาบดเอวของสิคดูเซ็กซี่เหลือเกิน
ตั้งแต่เรียนการเต้นมา เวลาสิคขยับตัวไม่ว่าส่วนไหนก็ดูดีมีเสน่ห์ แฟนสาวของผมบดเอวควงเป็นเลขแปดบนตักช่างโด่ง สิคหันมามองตาเหมือนกำลังอ่านใจผมอยู่ ปากของเธอเผยอเล็กน้อย เพื่อปล่อยลมหายใจออกมา ก่อนจะเลียริมฝีปากเบาๆ
“พอได้หรือยังคะ ช่างโด่ง?”
“แข็งโป๊กแล้วครับ ม..หมายถึงฝาโถส้วมนะ แต่ถ้าเอาให้ชัวร์ น้องสิคลองขย่มดูไหม?”
“ขย่ม? หมายความว่าไงครับ?” ผมตกใจจนเผลอพูดออกไป ทำเอาสิคหันมามองค้อน สายตาของเธอดุมาก
“คือผมอยากจะทดลองดูน่ะครับ ว่าถ้ามีการออกแรงกดทับแบบรุนแรงและต่อเนื่อง เจ้าฝานี่จะรับน้ำหนักได้ไหม เผื่อเอาไว้ก่อนน่ะครับ กันไว้ดีกว่าแก้นะ”
“อ..อ๋อครับ” ผมเองก็ไม่ได้เรียนด้านนี้มา ก็เลยไม่เข้าใจในสิ่งที่ช่างแกห่วงสักเท่าไหร่
“ต้อม ช่วยหลับตาสักแปปนึงได้ไหม?” จู่ๆสิคก็หันมาทำหน้าตาออดอ้อนขอผม
“หลับตา..?”
“ใช่ สิคมีอะไรจะให้”
เมื่อสิคขอ มีหรือที่ผมจะไม่ทำ ผมรีบเอามือปิดตาตัวเองทันที ทุกอย่างรอบตัวมืดสนิทลง แต่หูของผมยังคงทำงานได้ดี ผมได้ยินเสียงขยับตัวอยู่สองตำแหน่ง ที่แรกคือทางด้านหลัง น่าจะเป็นช่างเดชที่นั่งอยู่บนพื้น ส่วนอีกที่คือตรงโถส้วม ผมได้ยินเสียงเหมือนสิคกับช่างโด่งกำลังกระซิบอะไรบางอย่างอยู่
“เอาเข้าเลยนะ อูยยย ค่อยๆลง” ผมเดาว่าน่าจะเป็นเสียงของช่างโด่ง
“ซี้ดดด” ถึงเสียงจะแผ่วเบาแค่ไหน แต่ผมก็จำได้ดีว่าเป็นสิค
“ต้อมลืมตาได้หรือยังอ่า?”
“อ..อื้ม ลืมตาได้แล้ว”
เมื่อผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นสิคที่ยังคงนั่งบนตักของช่างโด่งเหมือนเดิม เธอยื่นมือข้างนึงขึ้นมาทำท่ามินิฮาร์ทบอกรักใส่ผม นิสัยขี้แกล้งของสิคยังไม่เคยเปลี่ยน ในเวลาแบบนี้เธอยังคงร่าเริงได้อีก แต่ที่เปลี่ยนคงเป็นรอยยิ้มของเธอ สิคทำหน้าเหมือนเจ็บอะไรบางอย่าง
“รักนะคะ” สิคพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“โธ่ อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ อายช่างโด่งเขา” ผมพยายามกลั้นยิ้มแต่ก็กลั้นไว้ไม่อยู่
“ต้อมยืนรอสักแปปนะ สิคขอเทสฝาโถส้วมกับช่างโด่งแปปนึง”
มือนึงของสิคเอื้อมลงไปจับขาของช่างโด่ง อีกมือจับปมผ้าขนหนูเอาไว้ไม่ให้หลุด ก่อนที่แฟนสาวคนดีของผมจะค่อยๆโยกตัวขึ้นลงช้าๆ ใบหน้าของสิคเริ่มเปลี่ยนไป จากยิ้มแย้มสดใสกลายเป็นเซ็กซี่ ผมได้ยินเสียงหอบหายใจออกมาจากปากแบบเจือจาง
“สิคเป็นไงบ้าง?” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
“อื้มม ก็ดีนะ มันแน่นดี อูยย” สิคนั่งลงไปทับก่อนจะบดเอวแล้วโยกต่อ ลีลาของเธอดูติดเรทเหลือเกิน สิคคงกำลังแกล้งผมอยู่
“ลองเพิ่มความแรงดูมั้ยจ้ะ น้องสิค” ช่างโด่งที่นั่งตัวเกร็งเป่าปากแนะนำ
“ด..ได้ค่ะ”
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน