พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้วครับกับตอนใหม่ มาติดตามกันต่อว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนะครับ ก็บอกก่อนเลยว่าถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกหมั่นไส้ลุงพล ก็ไม่แปลกใจหรอกครับ ผมตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ดูลุงแกลอยชาย ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับความวุ่นวายของคนอื่นเลย รอปี้อย่างเดียว 55555
เอาละ ช่วงนี้ไม่มีฉากเลิฟซีนนะ เน้นดราม่าเป็นหลัก บอกไว้ก่อนเลย เพราะมันเป็นการปูเรื่องราวให้ลุงพลไปหาครูเบสท์นั่นเอง มันต้องใช้เวลาสักหน่อยครับ กว่าที่ทุกอย่างจะสุกงอม รออีกนิดนะครับ รับรองว่าหอมหวานแน่นอน##########################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=238632.0“ที่นี่มันที่ไหนวะ?” ลุงพลลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้องพยาบาล “โอ้ยยย!!!! ปวดหัว!!! มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ??”
ลุงพลเหลือบมองซ้ายขวา ก็พบว่านี่เป็นห้องผู้ป่วยรวม ที่น่าแปลกใจก็คือนอกจากแกแล้วไม่มีใครเลย ตาเฒ่าหื่นเหลือบมอบแขนขวาก็พบว่ามีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ที่ข้อมือ
“จำได้ว่าไปเปลี่ยนหลอดไฟในห้องพักครู แล้วก็เหมือนตัวเองจะเป็นลมล้มมาจากบันไดช่าง…” ลุงพลพยายามทบทวนความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติ “ว่าแต่ใครพากูมาที่นี่วะ?”
“ไงคะ สบายดีไหม?” ทันใดนั้น หมอพลอยก็ปรากฏร่างขึ้นมาในชุดกาวน์สีขาว ตาเฒ่าหื่นถึงกับยิ้มแป้นด้วยความยินดี ที่ได้เห็นคุณหมอเมียรักมาเฝ้าไข้ถึงนี่
“หมอพลอย!!” ตาลุงยิ้มหน้าบาน “นี่หมอมาเยี่ยมผมเหรอครับ??”
หมอพลอยยิ้มอ่อนที่มุมปาก ก่อนเดินขยับเข้ามาใกล้ลุงพลที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง นัยน์ตาของหมอพลอยเหลือบมองลุงพลไล่ตั้งแต่หน้า หน้าอก สายตาของเจ้าหญิงน้ำแข็งเลื่อนต่ำลงจนถึงหน้าท้อง และต่ำลงไปอีก จนถึงอวัยวะสืบพันธุ์
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“หมอมองอะไรเหรอครับ?” ลุงพลยังยิ้มได้ ก็เลยแกล้งแหย่หมอสาวเล่นอย่างอารมณ์ดี แม้สังขารตัวเองไม่เอื้อ “แหมมม อยากสนุกใช่ไหมละครับ? เอาไว้ให้ผมหายก่อนนะ เดี๋ยวผมจะจัดหนักจัดเต็มให้คุณหมอบานไม่หุบเลย”
“หมออยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง…” สีหน้าของหมอพลอยเว้าวอน หญิงสาวเผยอปากก่อนเอื้อมมือถลกขอบเสื้อคนไข้สีฟ้าออก จนเผยให้เห็นแผงไรขนสีดอกเลาบนหน้าท้องเปลือยเปล่าของลุงพลที่กำลังนอนลุ้นใจเต้นรัวว่าหมอพลอยจะมาไม้ไหนกัน “ตั้งแต่ที่ลุงทำหมอใจแตก หมอก็ไม่เคยเป็นคนเดิมอีกเลย…”
“ผมว่าหมอเป็นแบบนี้ดีกว่าเยอะเลยครับ…อูยยยย” ลุงพลถึงกับร้องซี้ด เมื่อหมอพลอยล้วงมือเข้าไปภายในกางเกงคนไข้ มือของหมอพลอยสัมผัสกับหนอนชาเขียวที่ยังหดตัวของลุงพล แค่เพียงสัมผัสเบา ๆ เท่านั้น หนอนชาเขียวของลุงพลก็ผลาดกลายเป็นเดอะเกรทดราก้อนทันที
“หมอครับ จะทำตรงนี้ไม่ได้นะครับ เดี๋ยวใครมาเห็น” ลุงพลพยายามอ้อนวอน ทั้งที่ใจเต้นระรัวและลุ้นระทึกว่าหมอพลอยจะทำอะไรกับหนอนชาเขียว
 
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ฝันร้ายเหรอคะลุง?” ภัคจิราที่แวะมาเยี่ยมตาเฒ่าเอ่ยปากขึ้นมา ขณะกำลังวางของฝากไว้บนโต๊ะ โดยห้องที่ลุงพลพักเป็นห้องแยกเดี่ยว
“คุณครูเหรอครับ?” อดีตภารโรงถึงกับโล่งอกเพราะเมื่อรู้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่คือความฝัน “โอ้ยยย!!! มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับครู?”
“ตอนที่เปลี่ยนหลอดไฟในห้องพักครู อยู่ดี ๆ ลุงก็หมดสติหล่นลงมาจากบันใดช่าง เบสท์กับพี่เอ๋ก็เลยรีบส่งลุงมาที่หอพยาบาลน่ะคะ” ภัคจิราตอบ “เบสท์ก็ติดต่อกับญาติ ๆ ของลุงไปแล้ว ญาติของลุงบอกให้พาลุงมาพักที่ห้องเดี่ยวน่ะค่ะ”
“ครับ…ขอบคุณนะครับที่ช่วยเป็นธุระให้” ลุงพลรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของภัคจิรา ที่อุตส่าห์ช่วยติดต่อหาห้องพักให้ “ถ้าไม่ได้ครู ผมคงแย่…”
“ค่ะ…” ภัคจิรายิ้ม “เอ่อ…เบสท์ถามอาจารย์หมอแล้ว อาจารย์หมอบอกว่าอาจต้องใช้เวลาตรวจร่างกายลุงอย่างละเอียดสักหน่อยน่ะคะ จะได้รู้ว่าลุงป่วยเป็นโรคอะไร ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง คิดว่าไม่เกินวันสองวันลุงน่าจะออกมาจากโรงพยาบาลได้แล้วละค่ะ”
“ครับ…” อดีตภารโรงที่นอนพักมองครูเบสท์ตาหวานเยิ้ม “ครูช่วยชีวิตผมไว้ ผมเป็นหนี้ชีวิตครูเบสท์แล้วนะครับ ครูเบสท์สวย…สวยทั้งกายและใจเลยนะครับเนี่ย”
“ค่ะ…ลุงก็ชมเบสท์เกินไป เดี๋ยวเบสท์ก็ตัวลอยหรอก” ภัคจิรายังคงยิ้ม ก่อนเหลือบตามองลงบนพื้นแล้วเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมา “เอาเป็นว่าขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ ลุงก็พักผ่อนให้มาก ๆ แล้วก็…”
ภัคจิรามองหน้าลุงพลด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึกได้ แต่เป็นลุงพล ที่เอ่ยประโยคบางอย่างออกมา ตามสัญชาตญาณความเจ้าชู้ของแก
“ไว้ว่าง ๆ ก็มาเยี่ยมผมบ้างนะครับครู” ลุงพลยิ้ม
“เยี่ยมในฐานะอะไรเหรอคะ?” อาจารย์สาวตอบ “ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครมาเยี่ยมลุงหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวเบสท์จะไปบอกให้พี่พลอยมาเยี่ยมลุงเองนะ ลุงก็พักผ่อนทำใจให้สบายเถอะค่ะ แค่นี้นะคะ…”
“ครูครับ…อ่าว?”
แล้วภัคจิราก็เดินจากไป ทิ้งให้ลุงพลทำหน้างงด้วยความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมครูเบสท์ถึงพูดอะไรแบบนั้น
…………….
ภัคจิราเดินออกมาจากห้อง หญิงสาวถอนหายใจยาว ด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ในหัวข้อสนทนาระหว่างเธอและลุงพล ทำไมนะ ทำไมเธอรู้สึกว่าลุงพลกำลังพยายามจีบเธอ แล้วทำไมเธอต้องรู้สึกเนื้อตัวร้อนวูบวาบ สับสนจนบอกไม่ถูกเนี่ย
“ตาลุงคนนี้ชักยังไงแล้วแหะ…” ภัคจิราหันไปมองหน้าประตูห้องที่ลุงพลพักอยู่ พลางนึกถึงคำพูดของเหล่าบรรดานักศึกษาพยาบาลอย่างอรัญญาและเดือนดาราที่เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ “รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้แหะ คงต้องระวังตัวบ้างแล้วล่ะ”
“ครูเบสท์ค่ะ!!!” ทันใดนั้น นาถลดาในชุดนักศึกษาก็ปรากฏตัวขึ้น ทำเอาภัคจิราถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“นาถ!!! โอ้ยยย!!! นาถรู้ตัวไหมว่านาถทำให้ครูตกใจหมดเลย” ภัคจิราถึงกับเอามือแนบอกด้วยความตกใจ “แล้วนี่เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย?”
“ขอโทษค่ะ พอดีนาถมาเข้าอบรมเพื่อเตรียมตัวขึ้นวอร์ดเพื่อฝึกงานน่ะคะ” นาถลดายิ้ม “ครูเบสท์มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
“เอ่อ…ครูมาเยี่ยมลุงพลน่ะ” ภัคจิราตอบไปตามตรง “พอดีลุงพลประสบอุบัติเหตุล่นลงมาจากบันไดช่างตอนเปลี่ยนหลอดไฟในห้องพักครูน่ะจ๊ะ”
“เหรอคะ?” นาถลดาเอามือไขว้หลัง “แย่จัง…”
“แล้วเสร็จธุระหรือยังเราน่ะ?” อาจารย์สาวเอ่ยปากถามลูกศิษย์ตัวน้อย “มีเรียนต่อไหมจ๊ะ?”
“เสร็จแล้วค่ะ ก็ว่าจะกลับไปเรียนต่อ” นาถลดายิ้ม “ถ้ายังไง หนูขอตัวก่อนนะคะครู”
“จ๊ะ” ภัคจิรายิ้มให้นาถลดาที่พนมมือไหว้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้นาถลดากำลังคิดแผนการบางอย่างอยู่ ซึ่งบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับใครคนไหนแน่นอน
…………………..
ตัดมาทางฝั่งห้องพยาบาล ตอนนี้หมอพลอยกำลังเผชิญหน้ากับพี่บอยที่เดินเข้ามาเอะอะโวยวายภายในสถานที่ทำงานของเธอ
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยครับ?” ภูวนาทถามหมอพลอยด้วยความน้อยใจ “ไม่รักพี่ไม่ว่า แต่ทำกันถึงขนาดนี้ไม่คิดว่ามันมากไปเหรอครับ?”
“ทำอะไรกันคะพี่บอย?” หมอพลอยทำท่าไม่ยี่หระ “พลอยไม่เห็นรู้เรื่องอะไร?”
“ก็ข่าวที่เกิดขึ้นไงครับ” หนุ่มบอยตอบ “ถ้าไม่ใช่พลอย แล้วจะเป็นใคร หรือว่าพ่อของพลอย? นี่กะเอาให้ครอบครัวพี่ป่นปี้เลยใช่ไหมครับ!!”
“นี่พี่บอย!!! อย่าละลาบละล้วงคนในครอบครัวพลอยโดยเด็ดขาดนะคะ!!!” พลอยพรรณถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เจ้าหญิงน้ำแข็งถึงกับหลุดมาดเนี๊ยบชี้หน้าใส่อดีตคู่หมั้น “ระมัดระวังคำพูดของพี่หน่อยนะคะ พลอยขอเตือน!!!”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว พูดความจริงกันดีกว่าไหมครับ?” ภูวนาทเดินตรงเข้าไปหาหมอพลอย “อย่ามาโกหกกันเลย อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนโง่เลย พี่ขอละ!!”
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะคะ!!!” พลอยพรรณชี้หน้าต่อว่าภูวนาทตาเขม็ง “ถ้าไม่งั้นพลอยจะแจ้งความพี่ในข้อหาบุกรุก!!!”
“พี่บอย!!! พี่บอยทำบ้าอะไรคะเนี่ย!!!” ทันใดนั้น ลูกขวัญก็ปรากฏตัวเข้ามาภายในห้องพยาบาล สาวน้อยคอนแวนต์รีบเดินไปดึงแขนพี่ชายให้ออกห่างจากหมอพลอย “หยุดเลยนะคะพี่บอย!!! พี่กำลังทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายไปกันใหญ่แล้วนะ!!!”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว วุ่นวายอีกสักหน่อยจะเป็นไรไปละ…” ภูวนาทกัดฟันพูดขณะกำลังมองหน้าหมอพลอยด้วยความโกรธปนเสียใจ “พลอยทำให้พี่เสียใจมาก รู้ตัวไหมครับ?”
พลอยพรรณทำหน้าบึ้ง กอดอกเชิดใส่พี่บอย ขณะเดียวกันพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวนสามคนก็รีบเดินเข้ามาภายในห้องพยาบาล หลังจากได้รับแจ้งเหตุการณ์พี่เปิ้ลผู้ช่วยว่ามีผู้บุกรุก
“คุณ!!! นี่มันเรื่องอะไรกันครับ!!!” หัวหน้ายามเอ่ยปากเตือนภูวนาท “ผมได้รับแจ้งว่าคุณบุกรุกสถานที่ราชการนะ!!??”
“พี่บอย…” ลูกขวัญเริ่มน้ำตานอง เมื่อเห็นสายตาของพยาบาลและพนักงานรักษาความปลอดภัยมองเธอและพี่ชายเหมือนตัวประหลาด “กลับเถอะค่ะพี่…ฮืออออ…ผู้หญิงเค้าไม่รักพี่…พี่จะไปตื้ออีกทำไมคะ…ฮืออออ”
คำพูดของสาวน้อยคอนแวนต์อย่างลูกขวัญ ทำให้หนุ่มบอยถึงกับน้ำตาซึม ขณะเดียวกันพลอยพรรณเองก็รู้สึกสะเทือนใจ ไม่ใช่เพราะทำพี่บอยเสียใจ ผู้ชายแบบนี้คนอย่างพลอยพรรณไม่เคยให้ราคา แต่ที่เสียใจก็คือการทำให้ลูกขวัญที่ตัวเองเอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ต้องหลั่งน้ำตา
แต่พลอยพรรณก็ยังคงรักษามาดเจ้าหญิงน้ำแข็งเอาไว้เช่นเดิม หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าใส่พี่น้องทายาทนักการเมืองชื่อดังจากภาคใต้อย่างไม่ไร้เยื่อไย
“คุณครับ ผมต้องเชิญให้คุณออกไปนะครับ” หัวหน้ายามคนนั้นออกโรงเตือน “ถ้าไม่ยอมเดินออกมาดี ๆ อย่าหาว่าพวกผมไม่เตือนนะครับ”
“กลับ…ลูกขวัญ” ภูวนาทมองหน้าพลอยพรรณด้วยหัวใจที่แตกสลาย ก่อนโอบกอดน้องสาวของตัวเองเดินออกมา “ขวัญพูดถูก ในเมื่อผู้หญิงเค้าไม่มีใจ พี่ก็ไม่รู้จะตื้อไปให้ได้อะไร…หลีก!!!”
แล้วภูวนาทก็เดินโอบไหล่น้องสาวของตัวเองออกมา พนักงานรักษาความปลอดภัยสามคนต่างหลีกทางให้ ส่วนลูกขวัญ ก็หันมามองหน้าหมอพลอยที่ตัวเองให้ความเคารพทั้งน้ำตา
พลอยพรรณรู้สึกเสียใจไม่น้อยเหมือนกัน ที่ทำให้ลูกขวัญต้องเสียใจ แต่เธอไม่ได้รักภูวนาท ทำยังไงก็รักไม่ได้ ของแบบนี้มันบังคับใจไม่ได้จริง ๆ ก็ได้แต่หวังว่าระยะเวลาจะช่วยเยียวยาหัวใจสาวน้อยที่ชื่อภาสินีให้หลายในเร็ววัน
หลังจากที่สองพี่น้องทายาทนักการเมืองดังเดินจากไป พลอยพรรณก็เหมือนหน้ามืดจะเป็นลม จนพี่เปิ้ลต้องเข้าไปช่วยพยุง
“พี่เปิ้ลคะ…พลอย…โอยยยย” พลอยพรรณรู้สึกวิงเวียนศีรษะหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมเอา หลังจากต้องเผชิญหน้ากับการพิพาทครั้งใหญ่กับสองพี่น้องตระกูลถิ่นทวีพัฒนา
“ทำใจดี ๆ นะคะคุณหมอ!!” พี่เปิ้ลรีบช่วยพยุงร่างของพลอยพรรณเข้าไปนั่งพักในห้องรับแขก เพื่อหายาดมให้คุณหมอสาวทันที
…………….
หลังจากที่ขับรถออกมาจากวิทยาลัยพยาบาล ลูกขวัญที่นั่งหน้ารถก็หันไปโวยวายใส่พี่ชายอย่างหนัก
“พี่บอย!!! พี่เป็นบ้าอะไรของพี่ถึงมาหาพี่พลอยคะ!!!” ลูกขวัญต่อว่าพี่ชายชุดใหญ่ “เคยคิดไหมว่าถ้าหนูได้เรียนหมอที่นี่ แล้วขวัญจะเข้าหน้ากับหมอพลอยติดได้ยังไง!!?? หนูจะใช้ชีวิตยังไง ห๊า!!!!”
“พี่ขอโทษ…” ภูวนาทกำพวงมาลัยแน่นขณะกำลังรอสัญญาณไฟเขียว “พี่ไม่มีอะไรจะแก้ตัว”
“ทำไมต้องมาคิดได้ตอนที่ทุกอย่างมันเลวร้ายทุกทีด้วย!!” ภาสินีหันกลับไปมองกระจกหน้ารถ “เฮ้อ...แต่เรื่องนี้ หนูอยู่ฝั่งพี่ค่ะ”
“อะไรนะ?” ภูวนาทถึงกับร่นคิ้วด้วยความสงสัย “อยู่ฝั่งพี่? หมายถึงอะไร?”
“หนูได้คุยกับพี่พลอยก่อนหน้าที่พี่จะไปหาที่ห้องทำงานของแก แล้วก็ถามเรื่องนี้ไปแล้ว” ลูกขวัญเอ่ยปาก “แต่พี่พลอยไม่ยอมตอบอะไร แต่หนูสังหรณ์ใจลึก ๆ ว่าพี่พลอยรู้เรื่องทุกอย่าง พี่พลอยต้องเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่”
“พี่ก็คิดแบบนั้น” ภูวนาทเหยียบคันเร่งหลังจากเห็นสัญญาณไฟเขียว “ว่าแต่เราคิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ? ว่าหมอพลอยมีส่วนเกี่ยวข้องกันเรื่องนี้”
“หนูเคยดูดวงในยูทูป ดวงราศีของหนูบอกว่าจะประสบความสำเร็จเรื่องการเรียน แต่จะมีปัญหาผิดใจกับผู้ใหญ่” ลูกขวัญตอบไปตามตรง ทำเอาภูวนาทแอบยิ้มให้กับความใสซื่อของน้องสาว ถือว่าเป็นอารมณ์ขันเล็ก ๆ ที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้ได้บ้าง
“พี่ก็ว่าแบบนั้น ไม่ต้องพึงหมอดูหรอก แต่เรายังไม่มีหลักฐาน เอาเถอะ แต่ก็ไม่นานนักหรอก”
“หมายความว่ายังไงคะพี่บอย?” ภาสินีร่นคิ้วหันไปมองพี่ชาย
“พ่อส่งคนไปตามไอ้ตัวแสบที่ชื่อไอ้ลอยแล้ว” หนุ่มบอยตอบ “ไอ้นี่เคยเป็นลูกน้องเก่าพ่อของน้องพลอย แล้วมันจะมาขอทำงานกับคุณพ่อแล้วมันเกิดคิดไม่ซื่อ มันเลยแค้น คงคิดเอาคืนครอบครัวของพวกเรา”
“เฮ้อ!!! แย่จัง!!! ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อว่าอย่าให้มันรุนแรงไปนะคะพี่บอย…” ลูกขวัญสัมผัสได้ถึงความโกรธของพี่ชาย และเธอก็รับรู้ดีว่าพ่อของเธอเองคงโกรธยิ่งกว่า “ครอบครัวเราเจอเรื่องวุ่นวายมาเยอะแล้ว ยังไงบ้านเมืองก็มีขือมีแปนะคะพี่!!!”
ภูวนาทยิ้มที่มุมปาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะรู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องไปขยายความมากเกินไป โดยเฉพาะกับลูกขวัญที่ยังเด็กมาก เด็กเกินกว่าจะมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้
…………….
ตัดมาฝั่งไอ้ลอย ที่ยังอยู่ในกรุงเทพพักกับไอ้เจ๋งญาติผู้น้อง ชายหนุ่มเดินเข้าไปซื้อเบียร์และถั่วลิส่งมานั่งกินเล่นหน้าร้านสะดวกซื้อมานั่งกินที่ม้านั่งหินด้านหน้าแก้เซ็ง
ไอ้ลอยเห็นภาพข่าวการแฉของสองนักการเมืองดังแล้ว ก็เลยคิดว่าอีกวันสองวันมันอาจต้องหนีไปกบดาน ณ ที่ไหนสักแห่งภายในประเทศไทย เพราะมันรู้ดีว่าท่านวิทยาและนายหัวภูชิตไม่เอามันไว้แน่
“ไอ้เจ๋ง!!! มึงอยู่ไหน!! เสร็จงานยัง??” ไอ้ลอยโทรศัพท์เรียกหาไอ้เจ๋งที่กำลังขับแกรบสงของอยู่ “มานั่งกินเบียร์กับกูไหม??”
“ใกล้แล้วพี่!!! เดี๋ยวผมตามไป!!” ไอ้เจ๋งตอบกลับมา
“เออ!!! เร็ว ๆ นะมึง!!!” ไอ้ลอยตอบ ก่อนกดวางสาย แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากซองแล้วจุดสูบก่อนกระดกเบียร์เข้าไปอีก ระหว่างที่วางขวดเบียร์ ไอ้ลอยก็เหลือบไปเห็นรถตู้สีดำจอดข้างร้านสะดวกซื้อ แล้วจู่ ๆ ชายชุดดำสวมแว่นดำก็ปรากฏตัวออกมาจากรถสามสี่คน
“ไอ้ลอย!!! มึง!!!” กลุ่มชายชุดดำชี้หน้าไอ้ลอย ที่รีบลุกขึ้นหยิบขวดเบียร์เขวี้ยงใส่ชายฉกรรจ์ชุดดำพวกนั้นแล้ววิ่งหนี “มึงอย่าหนีนะ!!!!”
“เย็ดแม่ม!!!” ไอ้ลอยถึงกับสบถออกมาขณะกำลังใส่เกียร์หมาวิ่งหนีชายชุดดำกลุ่มนั้นแบบไม่คิดชีวิต มันไม่คิดมาก่อนเลยว่าท่านวิทยาหรืออาจเป็นนายหัวภูชิตจะส่งคนมาไล่ล่ามันเร็วถึงขนาดนี้
ไอ้ลอยวิ่งหน้าตั้งหนีเข้าซอยไม่คิดชีวิต ก่อนที่จะมีเสียงแตรดังจากด้านหลัง ตอนแรกไอ้ลอยก็ไม่ได้สนใจ จนเสียงแตรดังไล่อีกสองรอบ ไอ้ลอยถึงตัดสินใจหันไปว่าใครกันว่ามากดแตรไล่หลังมันแบบนี้
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“พี่ชาย!!! รีบขึ้นเบาะหลังมาเร็ว!!!” เหมือนโชคช่วย เมื่อไอ้นัน ทอมสาวที่ตัวเองช่วยไว้เมื่อวันก่อนขับรถมอเตอร์ไซค์ฟีโน่ชะลอความเร็วเพื่อช่วยไอ้ลอยหลบหนีออกมาจากการถูกไล่ล่า
“ขอบใจเว้ยไอ้น้อง!!!!” ไอ้ลอยเอ่ยปากขอบคุณก่อนหันไปมองกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังวิ่งไล่ตามอยู่ด้านหลัง ก่อนชูนิ้วกลางใส่ทิ้งท้ายเป็นการเยาะเย้ย “นี่สำหรับพวกมึง!!! ควย!!!ควย!!!ควย!!!ควย!!!”
แล้วไอ้นันก็พาไอ้ลอยซ้อนท้ายหนีไปได้สำเร็จ ก่อนที่ชายชุดดำกลุ่มนั้นจะหยุดวิ่ง ทุกคนต่างเหนื่อยหอบด้วยความอ่อนล้า
“อุตส่าห์แอบซุ่มเฝ้าดูมันมาหลายวัน ใครสะเออะไปช่วยมันไว้วะ!!!”
“กูไม่รู้!!!”
“แล้วเราจะบอกนายหัวยังไง? นายหัวเล่นเราแน่!!!”
“ซวย!!! กูบอกได้แค่ว่าซวย!!! กลับโว้ย!!!”
…แล้วเรื่องราวก็เฉลยว่าชายชุดดำกลุ่มนี้คือลูกน้องของนายหัวภูชิต ที่ถูกส่งมาเฝ้าสะกดรอยตามไอ้ลอยจนเจอพิกัดที่มันหลบซ่อนตัวอยู่ แต่อยู่ดี ๆ ก็มีทอมสาวขับฟีโน่มาช่วยไอ้ลอยเอาไว้ได้ทันซะงั้น…………….
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่พลอย ที่พี่อุตส่าห์ช่วยผมเอาไว้” เจ้าบิ๊กญาติผู้น้องโทรมาขอบคุณพี่สาวที่ช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดี จนทำให้สามารถประกันตัวออกมาได้
“ต้องขอบคุณพี่ผึ้งต่างหาก ที่วิ่งเต้นคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่จนช่วยเราออกมาได้ อ้อ!!! บอกไว้ก่อนนะรอบนี้รอบสุดท้ายแล้วนะบิ๊ก” พลอยพรรณที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับไอ้บิ๊กญาติผู้น้อง ที่ได้รับการประกันตัวออกมาเป็นรอบที่สอง “ถ้ามีรอบที่สาม พี่จะไม่ช่วยอะไรเราอีกแล้ว ปล่อยให้กินข้าวแดงในคุกนั่นแหละดี!!! เผื่อจะช่วยดัดสันดานเสียของเราได้บ้าง!!!”
“ครับพี่ ผมรับรองว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก” บุรินทร์ โจทย์เก่าลุงพลตอบ “ผมสำนึกผิดแล้วครับพี่ ผมจะไม่ทำให้พ่อกับแม่และพี่พลอยต้องเดือดร้อนอีกแล้ว”“พี่จะไม่บอกว่าพี่เชื่อเราหรอกนะ เพราะพี่เคยผิดหวังกับเรามาแล้วหนนึง” พลอยพรรณตอบ “ทบทวนตัวเองใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้มันยังไม่สายที่จะกลับตัว แล้วกลับไปตั้งใจเรียนซะ!!”
หลังจากกดวางสาย พลอยพรรณก็กุมขมับด้วยความเครียดสะสมตลอดทั้งวัน ตอนเช้านั่งสัมภาษณ์นักเรียนที่เข้ามาสมัครเรียนแพทย์ศาสตร์ ต่อด้วยการปะทะคารมณ์กับพี่บอยและลูกขวัญ
“เฮ้อ…ปวดหัวจริง ๆ ไมเกรนหรือเปล่าเนี่ย?” พลอยพรรณบ่นกับตัวเอง ก่อนที่พี่เปิ้ลจะเคาะประตูเรียก “เชิญค่ะ!!”
“หมอคะ มีนักศึกษาพยาบาลจะมาขอเข้าพบคุณหมอค่ะ” พี่เปิ้ลผู้ช่วยเอ่ยปาก
“ใครคะ?” พลอยพรรณร่นคิ้วด้วยความสงสัย
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“หนูเองค่ะ…” นาถลดาปรากฏตัวหน้าห้องทำงานของพลอยพรรณด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้ “หนูมีธุระอยากคุยกับหมอเป็นการส่วนตัวน่ะคะ”
…พลอยพรรณไม่รู้หรอกว่าธุระที่ว่าคือเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนว่ามันต้องสำคัญอย่างแน่นอน
โปรดติดตามตอนต่อไป... เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน