พูดคุยก่อนอ่าน : หายไปสักพักใหญ่ ช่วงนี้ผมยุ่ง ๆ ครับ แต่ตอนนี้พอมีเวลาเลยเอาตอนใหม่มาฝาก แต่ก่อนอื่นขอฝากประชาสัมพันธ์ 'โฉมงามและตาเฉื่อย เล่ม 2' ที่วางจำหน่ายทาง MEB จากกะทู้นี้หน่อยนะครับ //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=239155.0กลับมาที่เกมรักฯ ตอนนี้มีตัวละครใหม่มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก เธอคือพยาบาลสาว 'นิว ฟารีดา กลิ่นโกสุม' เธอคนนี้เป็นสาวใต้คมเข้มสไตล์แขก เป็นสาวนุ้ยจากเมืองนครศรีธรรมราชนะครับ ซึ่งผมเคยพูดถึงเธอในเกมรักภาคที่แล้ว ในช่วงที่ลุงพลฝันเปียกถึงหมอพลอยและครูเบสท์แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=217645.msg1313966#msg1313966 (แนะนำตัวละครหญิงหน้าใหม่ที่คุณอาจได้เจอในภาคนี้)
สำหรับตอนนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายครั้งใหม่ โดยเฉพาะลุงพลที่จะต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ หลังจากหมอพลอยยื่นคำขาดว่าจะต้องลาออกจากวิทยาลัย นาถลดาที่กำลังได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อ และปิดท้ายด้วยไอ้บิ๊ก ตัวแสบจากเกมรักภาคแรกช่วงต้นเรื่อง ที่กลับมาอีกแล้ว และการกลับมาครั้งนี้ของไอ้บิ๊ก จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พิมมี่และแนนนี่...(ถ้าใครเคยอ่านสปอยด์มาแล้วก็น่าจะรู้นะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น) พิมมี่ที่หายไปนาน จะกลับมามีบทอีกครั้งแล้วนะครับ
ตอนหน้าจะเป็นตอนสำคัญ ที่ปูทางไปยังฉากสำคัญของเรื่องคือการเผด็จศึกครูเบสท์นะครับ ก็ลองติดตามกันดูนะครับ###################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=238784.0“โอ้ย…อีกแล้วเหรอ?” ลุงพลเดินไปตามเส้นทางภายในวิทยาลัยพยาบาลเพียงผู้เดียว ตาเฒ่าเหลือบมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นมีนักศึกษาพยาบาลหรือใครหน้าไหนสักคน “นี่กูฝันอีกแล้วเหรอ?”
ลุงพลเดินข้ามสะพานข้ามคูน้ำ ก่อนเดินไปนั่งพักตรงศาลาริมทาง ระหว่างที่นั่งอยู่ องค์ตุลาการสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้น
“สวัสดีท่านท้าว…” องค์ตุลาการสวรรค์ เทวดาผู้แสนลึกลับปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถุงผลไม้ในมือ “กินสัปปะรดหน่อยไหม? อร่อยนะ”
ลุงพลเหลือบมององค์ตุลาการสวรรค์ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีขาว สวมแว่นตากลม เทพผู้ลึกลับกำลังนั่งเอาไม้จิ้มสัปปะรดใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ท่านมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอ? ท่านท้าว?” ลุงพลเอ่ยปากถามท่านเทพ ที่กำลังเพลิดเพลินกับการกินผลไม้อย่างเอร็ดอร่อย
“กี่คนแล้ว?” องค์ตุลาการสวรรค์เอ่ยปากถามลุงพล
“หมายถึงอะไรครับ? กี่คน?” ลุงพลร่นคิ้วด้วยความสงสัย
“ท่านได้สมหวังกับลูกสาวข้ากี่คนแล้ว?” องค์ตุลาการสวรรค์ถามอีกครั้ง
“9 คนครับ” คนขายน้ำเต้าหู้ตอบ
“เยอะนะเนี่ย…มีเมียเยอะขนาดนี้ ถามจริง ๆ เถอะว่าจัดสรรเวลากับแบบไหนเนี่ย?” องค์ตุลาการสวรรค์ยิ้ม ก่อนใช้ไม้จิ้มผลสัปปะรดใส่ปากแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว “แต่การเดินทางของท่านยังไม่จบ ท่านท้าวชุมพลศักดา”
“นี่แสดงว่าผมต้อง…ต้องมีอะไรกับนางฟ้าให้ครบทั้ง 12 องค์เลยใช่ไหมครับ?” ตาเฒ่าหื่นถาม
“มันคือการชดใช้กรรมที่ท่านและลูกสาวข้ามีต่อกันเมื่ออดีตชาติ” องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ ก่อนลุกขึ้นเอาถุงพลาสติกไปทิ้งถังขยะเขียว “ท่านหนีโชคชะตานี้ไม่ได้หรอก ท่านท้าว…”
“แต่ท่านเคยบอกว่าผมสามารถหยุดกรรมได้ ผมหมายถึงว่าผมสามารถเลือกที่จะหยุดอยู่กับใครก็ได้ไม่ใช่เหรอครับ?”
“ใช่ แต่ข้าเกรงว่ามันยังไม่ถึงเวลา…” องค์ตุลาการสวรรค์ยิ้ม “โดยเฉพาะพลอยพรรณราย ชาติที่แล้วนางร้ายกับท่านมากเลยนะ ชาตินี้นางเลยต้องมาชดใช้กรรมที่นางก่อไว้คืนให้ท่าน ยังไงท่านก็อย่าโหดร้ายกับนางมากนะ”
“หมอพลอยเหรอครับ?” ลุงพลถาม
“ใช่แล้ว…” องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ “แล้วก็ ร่างกายของท่านเริ่มใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ท่านจำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายบ้าง การที่ท่านมีพลังวิเศษ มีเคล็ดลับในการฟื้นฟูร่างกาย แต่อย่าลืมว่ากายสังขารของท่านในโลกมนุษย์นั้นมีแต่จะสึกกร่อนขึ้นทุกวัน จงระวังให้จงหนัก ถ้าหากท่านใช้พลังมากเกินขอบเขตร่างกายของท่านละก็…”
“มันจะเกิดอะไรขึ้นกับผมเหรอครับ?” มนุษย์ลุงเอ่ยปากถามองค์ตุลาการสวรรค์ด้วยความอยากรู้
“ท่านก็จะตาย…และหากเป็นเช่นนั้น ท่านและเหล่าบรรดานางฟ้านางสรรค์ทั้ง 12 องค์ ก็จะต้องรอคอยในชาติภพต่อ ๆ ไป เพื่อชดใช้เวรกรรมที่มีต่อกันจนกว่าทุกอย่างจะจบจะสิ้น” องค์ตุลาการสวรรค์ตอบ “เพราะฉะนั้นระวังหน่อยนะท่านท้าว…”
แล้วองค์ตุลาการสวรรค์ก็ลุกขึ้นเดินจาไป โดยที่ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังค้างคาใจลุงพล ตาเฒ่าพยายามเรียกองค์ตุลาการสวรรค์ แต่ว่า…
“ท่านหนีกงล้อแห่งโชคชะตานี้ไม่ได้หรอกท่านท้าว…” องค์ตุลาการสวรรคทิ้งท้าย ก่อนที่ลุงพลจะลืมตาตื่นขึ้นมาจากความฝัน
“ฝันเหรอวะ…” ลุงพลลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนพักอยู่ภายในห้องพักคนไข้เดี่ยว “โอ้ยยยย….”
……………………….
“วันนี้ตอนเย็นลุงก็น่าจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้วละครับ” อาจารย์หมอที่เป็นเจ้าของไข้ของลุงพลเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “ลุงก็อายุมากแล้ว ยังไงก็อย่าหักโหมทำงานหนัก พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะครับ”
“ครับหมอ” ลุงพลยิ้ม ก่อนที่อาจารย์หมอและพยาบาลผู้ช่วยจะเดินจากไป หลังจากนั้นลุงพลก็นอนพัก จนกระทั่งพยาบาลเอาอาหารเช้ามาส่ง
“ข้าวเช้ามาส่งค่ะลุงพล” พยาบาลเคาะประตู เข็นรถอาหารมาส่งให้ลุงพลถึงห้อง พยาบาลคนนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นพยาบาลนิว ฟารีดา พยาบาลอาชีพสาวคมเข้มจากนครศรีธรรมราช ภาคใต้ของไทย
“มีอะไรให้ลุงกินบ้างจ๊ะพยาบาล?” ลุงพลเอ่ยปากทักทายอย่างอารมณ์ดี
“แกงจืดเต้าหู้หมู่สับวุ้นเส้น แล้วก็ผัดผักกาดหมูค่ะลุง” พยาบาลนิว สาวสวยสไตล์แขกยิ้มให้ลุงพลที่เป็นคนไข้ “กินเยอะ ๆ นะคะลุง เดี๋ยวหนูกลับมาเอาถาดไปล้างนะ”
แล้วพยาบาลนิวก็เข็นรถเข็นออกไปจากห้องพยาบาล โดยสายตาของลุงพลก็จับจ้องแผ่นหลังและบั้นท้ายของพยาบาลนิวคนนี้
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“แอบซ่อนรูปเหมือนกันนะเรา” ลุงพลยิ้มในใจ เมื่อเห็นทรวดทรงองค์เอวของพยาบาลนิวเด็กนครศรีธรรมราช สาวสวยสไตล์แขกประจำโรงพยาบาล
เมื่อพูดถึงพยาบาลนิว ฟารีดา เธอเป็นนักศึกษาพยาบาลของที่นี่ พอเรียนจบก็ได้รับการบรรจุเป็นพยาบาลอาชีพ ลุงพลสมัยที่เป็นนักการภารโรงเห็นพยาบาลนิวมาตั้งแต่ยังวัยรุ่นพึ่งจบม.ปลาย จนตอนนี้กลายเป็นพยาบาลสาวสวยขวัญใจวอร์ดคนไข้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ลุงพลกินข้าวเสร็จ แทนที่พยาบาลนิวคนเดิมจะมาเอาถาดข้าวไปเก็บ กลับกลายเป็นบุรุษพยาบาลแทน ทำเอาตาเฒ่าหื่นถึงกับผิดหวังไม่น้อย
พอกินข้าวเสร็จ ลุงพลทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่าง มันเริ่มจากการที่แกเอาน้ำเต้าหู้ไปส่งให้รองคณะพยาบาลศาสตร์ แล้วอาสาเอาหลอดไฟไปเปลี่ยน แล้วเกิดหมดสติพลัดตกมาจากบันไดช่าง จนถูกนำตัวมาส่งที่ศูนย์พยาบาล ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“หมอพลอย?” ลุงพลถึงกับยิ้มแป้นเมื่อเห็นหมอพลอยในชุดกาวน์สีขาวหยิบเอาของฝากมาให้ เจ้าหญิงน้ำแข็งทำหน้านิ่งไม่ได้ทักทายตอบโต้อะไร “หมอพลอยมาเยี่ยมผมเหรอครับ?”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
พลอยพรรณไม่ยอมพูดอะไร เธอเอาถุงของฝากที่ส่วนใหญ่เป็นผลไม้และเครื่องดื่มบำรุงร่างกายไปวางไว้บนชั้น ก่อนหันมามองลุงพลที่กำลังนอนพักอยู่
“ครูเบสท์รู้เรื่องของเราสองคนแล้วนะคะ…” พลอยพรรณเอ่ยปากหน้านิ่ง จนตาเฒ่าไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของเจ้าหญิงน้ำแข็งว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เหรอครับ…” ลุงพลตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่คำตอบนั้นดูเหมือนจะทำให้หมอพลอยเริ่มร่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“เหรอครับ? เหอะ!!!” พลอยพรรณร่นคิ้ว เอามือจับขอบเตียงที่ลุงพลนอน “นี่คือคำตอบที่คนอย่างลุงตอบได้เหรอคะ? ลุงรู้ตัวไหมว่าลุงทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันวุ่นวายไปไกลแล้วนะ!!!”
“ผมขอโทษครับหมอ…” ตาเฒ่าทำหน้าจ๋อย เมื่อเห็นหมอพลอยโกรธ
“เห๊อะ!! บ้าจริง ๆ เลย!!!” พลอยพรรณกอดอกเหลือบมองตาเฒ่าที่นอนพักด้วยความหมั่นไส้ “นี่ถ้าคนอื่นรู้ว่าลุงกับหมอเป็นอะไรกัน? หมอจะใช้ชีวิตแบบไหนยังไง? ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ แต่เอาเถอะมาถึงขึ้นนี้แล้ว ลุงพล หมอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”
“ถามอะไรเหรอครับ?” ลุงพลยิ้ม
“รักหมอจริงไหม?” พลอยพรรณยอมทิ้งอีโก้ทุกอย่างเพื่อถามคำถามนี้ เพื่อความมั่นใจว่าเธอตัดสินใจไม่ผิด ที่คิดจะจริงจังกับลุงพลที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
“รักซิครับ…” ลุงพลยิ้ม ก่อนเอื้อมมือที่ยังมีเข็มน้ำเกลือปักอยู่ไปจับมือของหมอพลอย “รักที่สุด หนึ่งเดียวในหัวใจ”
“เหอะ…ปากหวานไปเถอะลุง!!!” พลอยพรรณแสยะยิ้ม เจ้าหญิงน้ำแข็งไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ลุงพลพูดเท่าไรนัก “น้ำเน่าจริง ๆ แต่หมอพูดแล้วไง หมออยากเห็นการกระทำมากกว่าคำพูดค่ะ”
“แล้วน้องพลอยคนสวยจะให้พี่ทำยังไงละครับ?” ลุงพลยิ้ม หยอดคำหวานใส่หมอพลอยผู้หยิ่งทระนง เพื่อหวังให้สาวเจ้าใจอ่อนลงบ้าง
“ลาออกซะ…” หมอพลอยตอบ ด้วยท่าทางหยิ่งผยองไม่สนใจใยดีในคำหวานของตาเฒ่า “ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร เลิกขายน้ำเต้าหู้แล้วไปจากวิทยาลัยพยาบาลซะ เมื่อถึงตอนนั้น แล้วเราค่อยมาคุยกัน”
“แล้วถ้าผมลาออก ผมจะเอาเงินที่ไหนมากินมาใช้ละครับ?” ลุงพลถาม
“หมอมีเงินเก็บ หมอจะไปเปิดคลีนิกที่ต่างจังหวัด ลุงก็ไปอยู่กับหมอด้วยซิคะ ไปช่วยงานหมอที่คลีกนิก ไม่เห็นจะยาก” หมอพลอยเสนอแผนการทุกอย่างให้ลุงพล “ถ้าคิดจะจริงใจกับหมอ ลุงต้องแสดงออกให้หมอเห็นว่าลุงจะหยุดทุกอย่างไว้ที่หมอ หมอชัดเจนแล้วนะคะลุง เหลือแต่ลุงแล้วละ ที่จะคิดจริงจังกับหมอหรือเปล่า?”
พลอยพรรณผละมือออกมาแล้วเดินหันหลังกลับไปทำงาน แต่ก่อนที่เธอจะเปิดประตู เธอได้พูดอะไรบางอย่าง
“หมอให้โอกาสลุงแล้วนะ ลาออกจากที่นี่ซะ” พลอยพรรณเอ่ยปาก “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของลุงแล้วนะคะ ถ้าทำไม่ได้อย่างที่หมอขอ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก!!!”
แล้วพลอยพรรณก็เปิดประตูเดินจากไป ปล่อยให้ลุงพลนอนครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงผู้เดียว
“จะหยุดที่หมอพลอยเหรอ?” ลุงพลทบทวนคำพูดที่เกิดขึ้น และสิ่งที่องค์ตุลาการสวรรค์บอก “แต่องค์ตุลาการสวรรค์บอกว่านี่คือโชคชะตาที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ นี่องค์ตุลาการสวรรค์ต้องรู้อะไรดี ๆ แน่ ๆ เลย!!!”
…ลุงพลก็ได้แต่นอนหลับตาถอนหายใจยาว อยากเป็นคนดีให้นวลน้องทุกคนได้พอใจ แต่ก็เป็นได้แค่คนดีไม่ห่างเหิน ทำไปทำมานี่มันไม่ใช่สุขลาภแล้ว นี่มันทุกขลาภชัด ๆ มีเมียเยอะเป็นเหตุ เลยสังเกตได้ ทีนี้จะทำยังไง ผู้หญิงแบบหมอพลอยไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ซะด้วย?
……………………….
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน นาถลดาเดินมาเรียนในสภาพที่เซื่องซึมกว่าปกติ เพราะเมื่อคืนเธอโดนสามสาวสามเกลออย่างพี่อุ๊ ยัยหมวย และอีฟ ร่วมมือกันจับเธอแก้ผ้าถ่ายรูปประจานเพื่อเป็นการเอาคืน หลังจากที่นาถลดาทำเรื่องราวร้าย ๆ กับคนอื่นไว้มาก มากจนเกินให้อภัย
“ปล่อย!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!!!!” นาถลดานึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ถูกสามสาวพยาบาลอย่าง พี่อุ๊ ยัยหมวย และอีฟ ที่ช่วยกันจับเธอแก้ผ้าถ่ายรูปประจาน
“ยัยหมวย!!! ปิดปากไว้!!!” ยัยอุ๊ หทัยรัตน์ออกโรงสั่งให้รุ่นน้องปิดปากนาถลดาตัวแสบ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“หุบปากเดี๋ยวนี้!!!” เดือนดาราเอามือปิดปากนาถลดา “หุบปาก!!! อีฟ!!! มาช่วยกันหน่อยซิ!!!”
“ไม่เอา!!!! เราไม่กล้า!!!” อรัญญาที่ดูเปราะบางอ่อนไหวไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น ถึงแม้เธอจะรู้ว่านาถลดาร้ายแค่ไหน แต่จะให้เธอไปทำร้ายเพื่อนแบบนั้น เธอทำไม่ได้ นางงามมิตรภาพทำได้เพียงแค่ยืนถือสมาร์ทโฟนตัวสันไปแบบนั้น
“นึกถึงตอนที่ตัวเองโดนแกล้งบ้างซิอีฟ!!!” เดือนดาราเตือนสติเพื่อนรัก “ยัยนี้ทำร้ายเรากับอีฟไว้ยังไง อย่าลืมซิ!!”
“ไม่เอา!!! เราทำไม่ได้!!!!” อรัญญาได้แต่ยืนส่ายหน้าตัวสั่น พอโดนบีบคั้นมาก ๆ นางงามมิตรภาพก็น้ำตาคลอด้วยความกลัว “เรา…เราทำไม่ได้…ฮือออ…มันไม่ดี…มันบาป…ฮือออ”
“ยัยอีฟ!!! นี่ไม่ใช่เวลามาร้องไห้นะ!!!” เดือนดาราถึงกับถอนหายใจหนักมาก ในความอ่อนแอและเปราะบางของเพื่อนรัก “โอ้ยยย!!! พี่อุ๊!!!! พี่อุ๊!!!! ยัยนาถมันกัดมือหมวย!!!”
นาถลดาพยายามดิ้นรนสุดชีวิตขณะกำลังถูกหทัยรัตน์และเดือนดาราจับแก้ผ้า โดยยัยหมวยเป็นผู้โชคร้ายที่ถูกสาวนุ้ยจอมปั่นจากหาดใหญ่กัดเข้าที่อุ้งมือ จนยัยอุ๊รุ่นพี่ตัดสินใจจิกผมแล้วตบด้วยหลังมือฉาดใหญ่
“โอ้ย!!! พี่อุ๊!!!! นี่พี่อุ๊กล้าตบหน้าหนูเหรอ!!!” นาถลดาหันไปมองหทัยรัตน์ตาขวาง
“เงียบ!!!” หทัยรัตน์เข้าสู่โหมดบ้าเลือด คนงามจากโพธารามชี้หน้าสาวนุ้ยจอมปั่นอย่างเอาเรื่อง “บอกให้เงียบ!!!”
“ไม่!!! ช่วยด้วยค่า!!!!” มีเหรอที่นาถลดาจะยอมแพ้ เธอแหกปากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ คราวนี้หทัยรัตน์เริ่มหมดความอดทนเลยตบหน้าด้วยฝ่ามือพิฆาต “โอ้ย!!!! เจ็บ!!!”
“บอกให้หุบปากก็หุบปากไง!!! ยัยบ้า!!!” หทัยรัตน์ที่เก็บงำความโกรธแค้นมานานฝาดด้วยหน้ามือและหลังมือจนนาถลดาเลือดกลบปาก ยัยหมวยที่ล็อคแขนอยู่ก็แสยะยิ้มด้วยความสะใจ จะมีเพียงแค่อรัญญาเท่านั้นที่เมินหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความสงสาร
“ฮือ….” สุดท้ายนาถลดาก็หมดฤทธิ์ สาวนุ้ยจอมปั่นนอนหมดอาลัยตาอยากขณะกำลังถูกพี่อุ๊และยัยหมวยจับลอกคราบจนเหลือเพียงแค่ร่างกายเปลือยเปล่า
“อีฟ!!! ถ่ายรูป!!!” หทัยรัตน์หันไปสั่งอรัญญาที่รับผิดชอบเรื่องการถ่ายรูป “อีฟ!!! พี่บอกให้ถ่ายรูป!!!”
“อีฟทำไม่ได้…ฮืออออ” อรัญญายืนตัวสั่นด้วยความกลัว “อีฟทำไม่ได้จริง ๆ ค่ะพี่ ฮือ….”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“เฮ้อ!!! ยัยคนเปราะบางเอ้ย!!” เดือนดาราถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนลุกขึ้นไปหยิบสมาร์ทโฟนจากมือของอรัญญาที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เพื่อนำมาถ่ายภาพเปลือยเปล่าของนาถลดาเก็บเอาไว้แบล็คเมล์
“ทำกับคนอื่นไว้เยอะ เจอเข้ากับตัวเองแบบนี้เป็นไงบ้าง!!!!” หทัยรัตน์ยืนกอดอกมองเดือนดาราถ่ายภาพเปลือยของนาถลดาผู้โดนเอาคืนด้วยความสะใจ “นี่แหละที่เค้าเรียกว่ากรรมตามสนอง!!! สมน้ำหน้า!!!”
นาถลดาในสภาพเปลือยเปล่านอนหมดอาลัยตายอยาก ปล่อยให้ยัยหมวยถ่ายภาพได้ตามอำเภอใจ ส่วนสาวอีฟผู้เปราะบางรีบเดินหนีไปเก็บตัวเงียบตรงมุมห้อง
…ตัดมาที่ปัจจุบัน
“นาถ…มานี่หน่อยซิ!!!” ยัยหมวยและสาวอีฟที่เดินคู่กันมาเรียกสาวนุ้ยตัวแสบประจำวิทยาลัยพยาบาล นาถลดาหันไปมองตาขวางใส่สองสาว สาวนุ้ยกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ไม่อาจจะทำอะไรได้ เพราะภาพลับ ๆ ของเธออาจถูกนำไปปล่อยได้
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
นาถลดาจ้องมองสองสาวตาขวาง สาวอีฟหันไปมองยัยหมวยที่ยืนทำหน้าท้าทายสาวนุ้ยตัวแสบแบบไม่สะทกสะท้านเพื่อถามว่าจะเอายังไงต่อดี
“มองหน้า? มีปัญหาอะไรเหรอ?” ยัยหมวยเอ่ยปากท้าทายนาถลดา “เรียกแค่นี้ทำไมต้องดึงหน้าดึงตาด้วย?”
“มีอะไร…” นาถลดากัดฟันถามด้วยความโกรธ “หมวยกับอีฟมีอะไรถึงเรียกเราเหรอ?”
“มีซิ!!!” เดือนดารายื่นกระเป๋าหนังสือให้นาถลดาถือไปเก็บที่ห้องเรียน “ฝากเอากระเป๋าเราไปเก็บหน่อยซิ อีฟ เห็นว่าจะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ? ฝากกระเป๋าให้ยัยนาถไปเก็บที่ห้องเรียนซิ”
“เอ๋?” อรัญญาเหลือบมองนาถลดาด้วยความสงสารปนเกรงใจ “จะดีเหรอ? เดี๋ยวอีฟถือไปเองก็ได้”
“อีฟ!!! ไม่เป็นไรหรอก!!” ยัยหมวยแตะบ่าเพื่อนรักพร้อมขยิบตา “ยัยนาถมันเต็มใจ”
“เอ่อ…” อรัญญาดูกระอักกระอ่วนใจ ถึงเธอจะรู้ว่านาถลดาเป็นคนยังไง แต่ด้วยความเป็นคนดีของอรัญญาเอง สาวน้อยจากปราจีนบุรีคนนี้เลยเหมือนวางตัวไม่ถูก
“นาถ? เดี๋ยวนาถถือกระเป๋าพวกเราไปเก็บที่ห้องเรียนใช่ไหม?” ยัยหมวยตัวแสบหันไปยิ้มให้นาถลดาด้วยท่าทางยียวน “โอ้โห!! ใจดีจังเลย!!! อะไรนะ?? เดี๋ยวนาถจะเลี้ยงข้าวเย็นพวกเราสองคน!!! โห!!!! ใจดีจริง ๆ เลยนาถลดาเพื่อนเรา!!!”
สาวนุ้ยจากหาดใหญ่มองหน้ายัยหมวยตัวแสบด้วยความแค้น ก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่าพี่อุ๊ หทัยรัตน์คือตัวแสบประจำวิทยาลัยพยาบาลแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เมื่อยัยหมวย เดือนดารา เริ่มเผยโฉมหน้าความแสบสันต์และจัดจ้านให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว
“ทำไม? มองหน้าเราแบบนั้นมีปัญหาเหรอ?” ยัยหมวยกอดอกเดินเข้าไปหานาถลดาตัวแสบแบบไม่สะทกสะท้าน “นี่มันยังน้อยไปกับการที่แกทำกับพวกเรานะยัยนาถ บอกไว้ด้วย เพราะฉะนั้นก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมไปเถอะ!!!”
“หมวย…” อรัญญา นางงามมิตรภาพประจำวิทยาลัยพยาบาลได้แต่ส่ายหน้าในความร้ายกาจของเดือนดาราเพื่อนรัก ความจริงน้องอีฟก็เข้าใจว่าที่หมวยต้องร้าย เพราะยัยนาถ แต่ไม่คิดว่ายัยหมวยจะร้ายได้ขนาดนี้
“อีฟ!!! เอากระเป๋าส่งไปให้ยัยนาถซิ!!” ยัยหมวยหันไปบอกสาวอีฟที่ยังไม่ส่งกระเป๋าสะพายให้นาถลดาไปเก็บ “ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เร็วเข้า!!!”
“อือ!!!” สุดท้ายนางงามมิตรภาพก็จำใจต้องทำตามที่ยัยหมวยบอก ด้วยการฝากกระเป๋าให้นาถลดาถือไปเก็บที่ห้อง สองสาวคู่ซี้จากปราจีนบุรีและนนทบุรีเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ส่วนยัยนาถก็เดินถือกระเป๋าสามใบไปเก็บที่ห้อง
พอเดินเข้าไปในห้อง พวกเพื่อน ๆ นักศึกษาพยาบาลต่างหันมามองนาถลดา สาวนุ้ยร่างเล็กที่เดินถือกระเป๋ามาตั้งสามใบเหมือนตัวตลก จนบางคนอดขำไม่ได้
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!” นาถลดาได้แต่บ่นกับตัวเอง “ยัยพี่อุ๊ ยัยหมวย ยัยอีฟก็ด้วย!!! ทำอะไรกันไว้ ระวังตัวไว้ให้ดี!!!”
สาวนุ้ยจากหาดใหญ่อย่างนาถลดาไม่ใช่คนที่จะมายอมเป็นผู้ถูกกระทำ สักวันหนึ่งเธอจะต้องหาทางเอาคืนสามสาวตัวแสบแบบทบต้นทบดอกอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องยอมไปก่อน เพราะกลัวว่าภาพเปลือยของเธอจะถูกส่งต่อทางโลกโซเชียล
“เฮ้อ ถึงสักที!!!” ภัคจิราเดินหอบหนังสือเข้ามาภายในห้องเรียนทักทายนักศึกษาพยาบาลทุกคน “เอ่อ!!! ใครก็ได้ช่วยครูเอาชีตไปแจกเพื่อนหน่อยนะ”
แล้วเหล่านักศึกษาพยาบาลก็เริ่มทยอยกันเข้าห้องเรียน เช่นเดียวกับสองสาวอย่างอรัญญาและเดือนดารา ก่อนที่ภัคจิราจะเริ่มทำการสอนหนังสือในช่วงเช้า
……………………….
“See you Next Week Na Kaa Everyone!!!” ภัคจิราเอ่ยปากเลิกคลาสเรียนภาษาอังกฤษของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่หนึ่ง ก่อนเตรียมตัวไปสอนในคลาสภาษาอังกฤษในคลาสต่อไป
ครูเบสท์ได้ทำหน้าที่สอนหนังสือในช่วงเช้าไปตามปกติ จนถึงช่วงเที่ยงพักกินข้าว เธอก็ได้ลงมาหาซื้อข้าวเที่ยงกินที่โรงอาหารตามปกติ ภัคจิราสังเกตว่าร้านขายน้ำเต้าหู้ของลุงพลยังถูกปิด ก็เข้าใจได้ว่าลุงพลยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ไม่ใช่ว่าเธออยากอุดหนุนร้านน้ำเต้าหู้ของลุงพล เพราะเธอได้ให้คำสัญญากับหมอพลอยแล้วว่าเธอจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับลุงพลอีก
“เอามะกะโรนีไก่ผัดซอสค่ะป้า!!” ภัคจิราสั่งเมนูที่ร้านอาหารตามสั่ง
“สักครู่นะคะอาจารย์” ป้าเจ้าของร้านตอบ ก่อนหันกลับไปเตรียมตัวปรุงอาหารให้ครูเบสท์
ระหว่างที่ยืนรอ ครูเบสท์ก็เหลือบไปเห็นหมอพลอยที่พักเที่ยงพอดี พอสองสาวมองหน้ากัน ก็เหมือนต่างฝ่ายต่างเมินหน้าใส่กันโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของภัคจิราและพลอยพรรณคงยากที่จะประสานเสียแล้ว
พลอยพรรณแยกตัวไปสั่งเกาเหลาเนื้อเปื่อยมากินกับข้าว ต่างฝ่ายต่างแยกกันกินคนละมุมโต๊ะของโรงอาหาร พอกินเสร็จแล้วสองสาวก็เอาจานชามไปเก็บแล้วแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน พอกลับมาถึงห้องพักอาจารย์ พี่เอ๋ อังศุมาลิน รองหัวหน้าคณะพยาบาลศาสตร์ได้เรียกภัคจิราที่เป็นอาจารย์รุ่นน้องไปคุยเกี่ยวกับเรื่องการขอทุน
“เบสท์? เบสท์จ๊ะ? พี่มีธุระจะคุยกับเราหน่อย เรื่องขอทุนน่ะ” ครูพี่เอ๋โผลหน้าออกมาจากห้องทำงาน
“ค่ะพี่…” ภัคจิราตอบตกลง ก่อนเดินเข้าไปคุยกับพี่เอ๋ภายในห้องทำงาน สองสาวต่างวัยได้ทำการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการขอทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกาของภัคจิรา
“พวกผู้ใหญ่ตกลงกันแล้วนะ ว่าจะให้ทุนเบสท์ไปเรียนต่อ” ครูพี่เอ๋เอ่ยปากด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ดีใจด้วยนะเบสท์ เดี๋ยวอีกหน่อยพี่ต้องเรียกเราว่า ดร.เบสท์ แล้วซิ!!!”
 
โปรดติดตามตอนต่อไป... เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน