“สวัสดีครับท่าน”
รองสุพจน์ยกมือรับไหว้ก่อนจะบอกให้เทพนั่ง ตำรวจที่ตามเข้ามาได้เปิดเครื่องบันทึกเสียงพร้อมบันทึกภาพทันที ส่วนอีกคนกางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คขึ้นมาเพื่อจะพิมพ์คำให้การของเทพ รองสุพจน์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ถามเทพขึ้นมา
“รู้ใช่ไหมว่าผมคือใคร”
“ทราบครับท่านรอง”
“โอเค งั้น เราคงคุยกันง่ายขึ้น นายเทพคงรู้ดีว่าถูกจับมาด้วยเรื่องอะไรก่อนหน้านี้ พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต”
“ใช่ครับท่าน แต่ท่านครับ ผมเรียนกับท่านตามตรงตามครับ ผมยอมรับข้อหาทุกข้อหาโดยไม่แก้ตัวและขอสัญญาว่าผมจะพูดความจริงทุกประการ เรื่องไหนที่ผมบอกท่านได้ผมจะบอกหมดครับ ท่านจะได้ไม่เสียเวลาครับ”
ด้วยประโยคนี้ทำเอารองสุพจน์และตำรวจที่อยู่ในห้องต่างพากันประหลาดใจทันที ก่อนที่รองสุพจน์จะถาม เทพได้พูดต่อ
“ถ้าท่านสงสัยว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงยอมสารภาพอย่างง่ายดาย ผมบอกตรงๆครับ ผมพึ่งเป็นปู่ได้2 เดือน ผมอยากมีชีวิตอยู่จนเห็นหลานผมโตขึ้นครับ ผมหวังว่าหลังจากที่ผมออกจากคุกแล้วผมจะได้เจอหลานและกอดหลานครับ ไม่ใช่เห็นผ่านลูกกรงตลอดชีวิตหรือไม่ได้เจอกันอีกเลยครับ ผมหวังว่าผมจะได้มีโอกาสสอนหลานว่าอย่าทำตัวแบบผม อาชีพแบบนี้มันไม่ยั่งยืนจะตายจะถูกจับได้ทุกเมื่อ”
“ถ้ารู้ว่ามันไม่ดีแล้วทำไมไม่ไปทำอย่างอื่นละ”
“พูดนะมันง่ายครับท่าน ทำนะมันยากผมอยากจะถอนตัวมานานแล้ว แต่ถ้าถอนตัว ก็ไม่รู้จะทำอะไรความรู้ผมก็น้อย อายุก็มากขึ้น และอีกอย่างถ้าถอนตัวมา ผมต้องหนีตลอดชีวิตรวมถึงครอบครัวด้วย กำนันน้อมไม่ปล่อยผมไปแน่ๆ ผมเห็นมาหลายรายแล้วครับ”
เทพนั้นพูดความจริงออกมา เพราะตั้งแต่เมื่อวานตอนลอบขนยาเสพติดเข้ามา เทพรู้สึกแปลกๆว่าทำไมมันดูง่ายกว่าที่คิด การขนยาครั้งนนี้มันราบรื่นผิดปกติ จนมาถึงตอนเช้าเทพถึงรู้ว่าตนเองนั้นเข้าใจถูกแล้วทันทีที่ตำรวจบุกเข้ามา เทพจึงยอมให้จับแต่โดยดี เพราะรู้ว่าถ้าสู้หรือหลบหนีไม่ตายก็โทษหนัก เทพนั้นอยากจะถอนตัวมานานแล้วแต่รู้ว่าทำได้ยากหรือไม่ได้เลย ตนเป็นถึงระดับหัวหน้าที่รู้เรื่องภายในเป็นอย่างดี ถ้าถอนตัวกำนันน้อมไม่ปล่อยให้มีชีวิตต่อไปแน่ พอถูกจับเทพจึงยอมรับสารภาพแต่โดยดี เรื่องทุกเรื่องที่ทางรองสุพจน์หรือตำรวจคนอื่นถามเทพไม่มีปิดบังจนถึงเรื่องยาเสพติดล็อตล่าสุดและเรื่องการจับตัวฝนไปที่โกดัง ซึ่งเทพบอกตามตรงว่าตนเองนั้นไม่ได้เจอฝนรวมไปถึง เส้นทางและวิธีที่ใช้ขนยาเสพติดเข้าไทยครั้งล่าสุดเทพสารภาพจนหมดสิ้น แถมเรื่องของกำนันน้อมที่ยังไม่ข้ามมาฝั่งไทยเทพก็เป็นคนบอก
“งั้นแสดงว่าตัวกำนันยังไม่ข้ามมาฝั่งไทย”
“ใช่ครับท่าน กำนันบอกผมเมื่อคืนว่าจะเข้ามาตอนเช้าคงจะมาดูของและหลานที่โดนจับนะครับ”
“แล้วทำไมหลานชายกำนันถึงมีสภาพแบบนั้นนายเทพพอจะรู้ไหม”
“ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดครับ แต่รู้คร่าวๆว่าคนที่ดูแลผสมยานอนหลับอ่อนๆลงในอาหารตอนมื้อเย็นครับเพื่อจะให้หลานกำนันหลับสนิท จะได้ไม่โวยวายอาละวาดครับ เพราะกำนันสั่งว่าห้ามทำให้เกิดอันตรายใดๆกับตัวของหลานครับ”
รองสุพจน์พยักหน้า ก่อนที่เทพจะเล่าถึงเรื่องสำคัญที่ทางตำรวจไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งเรื่องเซฟเฮ้าท์ในฝั่งพม่า เรื่องเบอร์โทรศัพท์ของกำนันน้อม
“แสดงว่าตัวกำนันมีที่หลบอยู่หลายที่”
“ครับท่าน ผมยังรู้แค่หลังเดียว อีก 2หลังผมไม่รู้ กำนันบอกว่าเตรียมไว้เผื่อเกิดเรื่องทางนี้กำนันจะได้แอบอยู่ที่นั่น เพื่อจะได้ติดต่อทนายไว้หาทางสู้คดีครับ รวมถึงไว้คอยช่วยเหลือคนที่โดนจับ และคนไหนที่หนีได้กำนันสั่งให้ข้ามมาหาแกที่พม่าครับ กำนันเตรียมการหลบหนีไว้นานแล้วครับ แกมั่นใจว่าแกจะต้องรู้ตัวก่อนตำรวจบุกจับถ้าแกอยู่ฝั่งไทย และแกเตรียมจะไปหลบที่โกดังครับ ส่วนเซฟเฮ้าท์เอาไว้เจอพวกทนายแกวางแผนไว้แล้วว่าแกจะไปๆมาๆโกดังกับเซฟเฮ้าท์ แกก็กลัวว่าทางไทยจะกดดันให้ทางพม่าตามจับตัวแกถ้าแกหลบอยู่แต่ในเซฟเฮ้าท์ และโกดังก็อยู่ในเขตอิทธิพลของพวกว้าครับ”
“ทำไมนายเทพถึงคิดว่ากำนันจะไม่ไปหลบที่โรงงานของพวกว้า”
“อันนั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ เพราะถ้าไปหลบที่นั่นนอกจากเรื่องการเดินทางที่ต้องใช้เวลาเกือบวันถ้าจะมาที่เซฟเฮ้าท์ และที่นั่นพวกเรื่องความสะดวกไม่ค่อยดีเท่าที่โกดังครับ ที่โกดังกำนันทำห้องอย่างหรูและมีพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้คอยอำนวยความสะดวกครบครับ”
“เรื่องโทรศัพท์ละ”
รองสุพจน์ถามต่อ และตำรวจกำลังพิมพ์บันทึกถ้อยคำอย่างละเอียดนอกเหนือจากภาพและเสียงที่บันทึกไว้
“กำนันมีหลายเบอร์ครับ แกเตรียมไว้แล้ว ถ้าฉุกเฉินจริงๆ แกจะมีเบอร์ที่เปิดไว้ที่ฝั่งพม่าในการติดต่อมาทางนี้ครับ แกจะไม่ใช้เบอร์ที่เปิดในเมืองไทย เพราะกลัวถูกตรวจจับสัญญาณได้ครับ เบอร์นั้นพี่จิตเป็นคนไปเปิดเบอร์ให้แกครับ แต่ผมไม่รู้ว่าใช้ชื่อของใครในการไปซื้อซิม”
“แล้วนายเทพมีเบอร์ไหม”
“มีครับท่าน ถ้ายังไงพอรบกวนขอโทรศัพท์ผมด้วยครับ”
ไม่นานหลังจากคำขอ โทรศัพท์ของเทพที่อยู่ในซองพลาสติกที่ปิดผนึกถูกนำมาวางบนโต๊ะ และเทพร้องขอกระดาษกับปากกา นายตำรวจคนหนึ่งส่งให้ทันที เทพก้มลงไปจดบนกระดาษพร้อมยื่นให้รองสุพจน์
“นี่ครับท่าน รหัสล็อคโทรศัพท์ผม”
เทพทำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โทรศัพท์ในซองพลาสติกที่ถูกปิดเครื่องไว้ถูกเปิดเครื่องทันที พร้อมกับการกดรหัสปลอล็อคของตำรวจที่นั่งข้างๆรองสุพจน์ซึ่งมันถูกต้องนายตำรวจยื่นให้รองสุพจน์ดูทันที เทพจึงบอกต่อ
“เบอร์นั้นของกำนันผมเม็มไว้ในชื่อ VVIP2 ครับท่าน”
ทุกอย่างมันตรงตามที่เทพบอกพอกดเข้าไปดูจะเห็นได้ว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของประเทศพม่า รองสุพจน์บอกให้ตำรวจปิดเครื่องทันทีพร้อมนึกแผนการอะไรบางอย่างออกมาแต่ถามที่เทพต่อ
“นายเทพรู้ไหมว่ากำนัน เก็บเงินไว้ที่ไหนบ้าง”
“เรื่องนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับท่าน แต่รู้ว่ามีเงินฝากอยู่หลายบัญชี คนทำเรื่องพวกก็คือคุณจิ๋วที่เป็นเมียกำนันอีกคนครับ”
“แปลว่าเงินทั้งหมดคนชื่อจิ๋วเป็นคนดูแล”
“ใช่ครับท่าน ผมพอจะรู้ว่าเงินจากร้านหรือกิจการต่างๆที่กำนันเป็นเจ้าของทางคุณจิ๋วที่เป็นผู้จัดการบริษัทรับทำบัญชีจะเป็นคนทำให้ทั้งหมดครับ”
รองสุพจน์พยักหน้าแล้วหันไปคุยกับนายตำรวจที่นั่งข้างๆก่อนจะหันมาถามเทพต่อ
“นายเทพพอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโกดังได้ไหม”
เทพพยักหน้าก่อนจะเล่าโดยไม่ปิดปังซึ่งข้อมูลนั้นตรงกับรายงานที่ธงส่งมาให้ก่อนหน้านี้
“แล้วทหารที่พวกว้าส่งมาเฝ้าละ”
“ปกติ 2 คนครับ แต่ล่าสุดมีส่งมาเพิ่มอีก 2คน พร้อมปืนกลหนักครับเพราะเรื่องที่เปายุ่นถูกฆ่าครับ คนที่มาเฝ้าทางกำนันจะจ่ายพิเศษให้ด้วยครับ”
“นายเทพเคยไปที่โรงงานหรือเปล่า”
รองสุพจน์ถามอย่างต่อเนื่อง
“เคยหลายครั้งครับ”
“ลักษณะของโรงงานเป็นยังไงบ้าง”
ข้อมูลที่เทพเล่านั้นหลายอย่างใกล้เคียงกับที่ทางหน่วยซีลไปสำรวจมาแต่ที่สำคัญเทพเล่าจากที่ตนเองไปเห็นมาจากภายในซึ่งเป็นข้อมูลที่ล้ำค่ามากเพราะเทพบอกว่าภายในนอกจากเครื่องจักรที่ใช้ผลิตยาเสพติดไม่ว่าจะเป็นเฮโรอีนหรือยาบ้าแล้วอาณาบริเวณภายในของโรงงานนอกจากค่ายทหารแล้วยังมีโรงพยาบาลรวมถึงห้องผ่าตัดที่ทันสมัย คลังอาวุธขนาดใหญ่ รวมไปถึงเส้นทางและเรื่องด่านตรวจเทพเล่าความจริงทุกประการซึ่งมันตรงกับข้อมูลของธงและที่หน่วยซีลไปสำรวจมา พอเทพบอกถึงเรื่องถนนรองสุพจน์ได้ถามเพิ่มเติม
“ในเมื่อสภาพของถนนไม่ดี หน้าฝนเดินทางลำบากทำไมกำนันกับพวกว้าถึงไม่ทำให้ดี ในเมื่อไม่มีปัญหาเรื่องทุน หน้าฝนจะได้ไม่หยุดขน”
“เท่าที่ผมทราบนะครับ ที่ไม่ลาดยางหรือเทปูน เพื่อป้องกันการตรวจจับทางอากาศเพราะถ้าทำดีเกินไปมันจะสะดุดตาครับ และถนนเส้นนี้มีชาวบ้านใช้กันน้อยส่วนใหญ่จะเป็นพวกว้าตอนขนยามาให้นะครับ และพวกว้าก็ไม่ใช้เส้นทางนี้อยู่แล้ว พวกมันจะไปใช้เส้นทางด้านเหนือที่มาจากหมู่บ้านที่ห่างโรงงานออกไปประมาณ 5กิโลครับ จากหมู่บ้านไปมันจะมีเส้นทางที่เชื่อมไปเมืองใหญ่ในพม่าได้ เส้นทางนั้นสะดวกกว่าเยอะครับ พวกว้าเวลาขนอุปกรณ์หรือพวกสารเคมีก็ใช้เส้นทางด้านเหนือขนมาที่โรงงานครับ แต่อนาคตก็ไม่แน่เห็นกำนันเปรยๆไว้เหมือนกัน”
เป็นข้อมูลใหม่ที่ทางรองสุพจน์พึ่งรู้แต่ถามต่อไป
“แล้วถ้ากำนันไม่ไปเองพวกนายเทพจะไปโรงงานเองได้หรือเปล่า”
เทพส่ายหน้าแล้วถึงตอบ
“ไม่ได้ครับ ถ้าไม่ใช่กำนันแค่ด่านตรวจแรกมันก็ไม่ให้พวกผมผ่านแล้วต้องเป็นกำนันนำไปเท่านั้นครับ”
“เรื่องการจ่ายเงินละ”
“กำนันจะขนเงินสดไปจ่ายให้พวกว้าที่โกดังตอนของมาส่งครับ หรือไม่ก็จะเป็นพี่จิตหรือคุณจิ๋วที่เป็นเมียน้อยของกำนันจะเอามาจ่ายให้ครับ”
“จิ๋วอีกแล้วหรือ”
รองสุพจน์แกล้งทวนชื่อแบบสงสัยและทำทีเป็นเปิดแฟ้ม แต่เทพก็พูดต่อในทันที
“ครับท่าน”
รองสุพจน์ทำที่เป็นจดข้อมูลแล้วถามต่อไป
“แสดงว่าผู้หญิงที่ชื่อจิ๋วนี่กำนันไว้ใจมาก”
“ใช่ครับท่านกำนันไว้ใจมากให้เป็นคนคุมเวลาขนเงินเป็นสิบๆล้านก็ทำมาแล้ว”
“เรื่องวิธีการขนยาละนายเทพ กำนันจะขนยาเสพติดเข้ามาที่ประเทศไทยด้วยวิธีไหนบ้างนอกเหนือจากวิธีที่นายเทพพึ่งบอกผมมา”
รองสุพจน์ถามถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ทั้งๆที่พอจะมีข้อมูลอยู่แล้วและเป็นการถามเพื่อตรวจสอบว่าเทพโกหกในตอนแรกที่บอกหรือไม่ แต่เทพบอกไปตามตรงโดยไม่ปิดบังทั้งเรื่องของรถ การติดสินบนเจ้าหน้าที่ฝั่งพม่า หรือเส้นทางเดินเท้าก่อนที่รองสุพจน์จะถามถึงวิธีหลบหลีกจากเจ้าหน้าที่เวลาที่ขนยามาที่กรุงเทพ เทพอธิบายทันที่ก่อนจะบอกปิดท้าย
“จริงๆช่วงปีเศษๆที่ผ่านมา มีคนของคุณสาธิตที่ส่งมาช่วยงานกำนันครับ เห็นว่าส่งมาเพราะตำรวจที่กรุงเทพตามติด คนที่ส่งมาก็เคยเป็นตำรวจนะครับท่านลูกชายของท่านแม่ทัพธงชัยนะครับ ท่านพอจะรู้จักหรือเปล่าครับ”
“อ้อธงรบ ผมพอจะจำได้เขาถูกไล่ออกจากตำรวจเพราะพัวพันยาเสพติด”
“ครับท่าน ธงคนนี้เข้ามาช่วยงานเราได้เยอะครับ เขาหาข้อมูลเรื่องด่านตรวจ วิธีการหลบด่านข้อมูลสำคัญๆมาให้ทางกำนันครับ ทำให้ไม่ถูกจับ รวมถึงเรื่องในรีสอร์ทที่ธงแนะนำให้ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม”
“แล้วพอจะรู้ไหมว่าธงรบเอาข้อมูลมาไหน”
“เห็นบอกกำนันว่าเป็นพวกลูกน้องเก่าของธงเขานะครับ และทางกำนันกับคุณสาธิตก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะรู้ดีว่าถ้าเข้ายุ่งมากๆ ลูกน้องเก่าของธงจะไม่กล้าให้ข้อมูลเพราะเขาคุยกับธงคนเดียวครับ”
“นายเทพสนิทกับธงหรือเปล่าละ”
“ไม่นะครับ บุคลิกเขาพูดน้อย ไม่ยิ้ม ที่เขาสนิทด้วยก็เป็นปทุมลูกชายของพี่จิต คนที่ถูกยิงตายนะครับวันเผาศพปทุมเขาก็มาด้วยครับ แล้วกำนันก็ชอบเขามากครับ อยากให้มาทำงานด้วยเห็นเสนอเงินให้มากกว่าที่ได้จากคุณสาธิตแต่ธงปฏิเสธครับ แต่ตัวพี่จิตดูจะค่อนข้างระแวงครับ”
“เพราะอะไร”
“ก็เห็นพี่จิตบอกว่าเป็นถึงนายตำรวจแต่ทำไมถึงยอมมาทำงานแบบนี้และที่สำคัญก็เป็นลูกนายพล แกเลยไม่ค่อยไว้ใจครับ”
ภายใต้สีหน้าอันเรียบเฉย แต่รองสุพจน์นั้นพอใจอย่างมากในเรื่องนี้ แสดงว่าธงนั้นทำตัวไม่มีพิรุธจนคนพวกนี้วางใจ เรื่องที่เทพเล่าให้ฟังเกี่ยวกับจิตถือเป็นเรื่อปกติของพวกเสือร้าย แต่รองสุพจน์ไม่สนใจเพราะตอนนี้จิตหาชีวิตไม่แล้ว
“เอาละทีนี้ผมขอกลับมาที่เรื่องรีสอร์ท กำนันน้อมใช้รีสอร์ทเป็นที่พักยานานหรือยัง”
“ก็5-6 ปีที่ผ่านมานี่ละครับหลังจากที่สร้างโกดังเสร็จ กำนันแกก็ปิดรีสอร์ทเลย อ้างว่าปิดปรับปรุง เท่าที่ผมทราบก่อนหน้านี้ก็มีเอามาพักบ้างแต่จำนวนไม่มาก เพราะแกจะใช้เรื่องนักท่องเที่ยวที่มาพักเป็นเรื่องบังหน้า แต่พอยามันเยอะขึ้นแกก็ตัดสินใจปิดครับ คนนอกจะได้ไม่เข้ามายุ่มย่ามและห้องพักต่างๆก็ใช้เป็นห้องพักของพวกผม หรือไม่ก็พวกผู้หญิงที่จะถูกพาไปขายตัวนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นนอกจากพวกนี้แล้ววันนี้ที่ทางเราตรวจเจอมีอาวุธสงครามด้วย กำนันเอามาจากไหน”
“จริงๆเรื่องอาวุธนี้ผมไม่ค่อยจะได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวครับส่วนใหญ่จะเป็นพี่จิตกับกำนันที่จัดการ แต่รู้ว่าแกก็ซื้อจากพวกว้านี่ละครับ แล้วเอามาขายต่อ แต่บางทีแกได้มาจากทางลาว ทางเขมร แกก็เอามาขายให้พวกว้าเหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้น เฮโรอีนที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ที่เปายุ่นขนมาเองก็มาจากรีสอร์ทนี้ละสิ”
“ครับท่าน”
“แล้วนายเทพไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยถึงถูกจับ”
“กำนันสั่งให้พวกผมตามไปคอยดูแลจนขบวนเข้าเชียงใหม่ก็กลับได้ แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่าให้เข้าไปยุ่งยกเว้นขบวนจะไปเจอด่านของพวกปกครองท้องถิ่นที่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตั้งด่านตรงนั้นให้พวกผมเข้าไปเคลียร์เพราะคนพวกนี้ส่วนมากจะเกรงใจกำนันครับ”
“แต่ปทุมเข้ามายุ่งจนถูกยิง”
“ใช่ครับ กำนันหัวเสียมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
“อืมมมม แต่ผมว่ากำนันกล้ามากนะที่ขนยาต่อทันทีทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องและที่สำคัญจุดเกิดเหตุมันก็ไม่ห่างจากรีสอร์ทของกำนันเท่าไหร่นัก”
เทพถอนหายใจแรงๆแล้วยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดออกมา
“คือเรื่องนี้ผมก็เตือนแกแล้วแต่แกเลือกจะเสี่ยงครับ แกเชื่อว่าทางตำรวจคงจะนึกไม่ถึงว่าแกจะกล้าขนทั้งๆที่เรื่องเปายุ่นยังไม่ซา เพราะที่ผ่านๆมาผมเห็นแกกล้าที่จะเสี่ยงมาหลายครั้งแล้วครับและผลที่ได้คือแกได้เงินมหาศาลจากการกล้าเสี่ยงนี่ละครับ”
แล้วเทพเล่าถึงสาเหตุอื่นที่ทำให้กำนันกล้าขนยาเสพติด ชื่อของสาธิตโผล่มาเกี่ยวข้องอีกครั้งในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่รวมถึงเฮโรอีกล็อตใหญ่ที่จะส่งไปสหรัฐ พอเทพเล่าจบรองสุพจน์จึงถามต่อ
“มันมีเหตุผลอะไรที่มากกว่านี้หรือเปล่าที่กำนันถึงกล้า”
“แกบอกผมกับพี่จิตครับ ว่าแกจะเร่งขนในช่วงนี้ เพราะแกกลัวว่าปีหน้า ถ้ารองพิชญ์ได้เป็น ผบ.ตร.แกจะทำงานลำบากครับ แกกลัวรองพิชญ์อย่างมาก พี่จิตก็เหมือนกันบอกว่าเจอตำรวจมาไม่รู้กี่คนมีรองพิชญ์นี่ละครับที่แกกลัวที่สุด”
“แล้วตัวนายเทพเองละ ผมดูจากคำพูดและท่าทางเหมือนจะไม่อยากให้กำนันขนยาล็อตที่พึ่งถูกจับ”
“บอกตามตรงนะครับท่าน เพราะตั้งแต่วันนั้นวันที่เปายุ่นโดนฆ่า ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ ผมเห็นแล้วพวกที่มาในวันนั้นคือมืออาชีพจริงๆ ทั้งอุปกรณ์ ทั้งปืน ทั้งเครื่องแต่งกาย ผมดูออกครับท่านและผมมั่นใจว่าต้องการจับตายเปายุ่นสถานเดียวตอนนั้นผมกลัวโดนฆ่าปิดปากมากครับ เพราะทางเจ้าหน้าที่ทำได้อย่างสบายๆแต่ก็ไม่ทำแถมไม่สอบต่อทั้งๆที่ ลูกพี่ลูกน้องของปทุมโดนยิงตายคารถ และปทุมก็ถือปืนวิ่งเข้าหาจนโดนยิงตาย แต่พวกผมโดนแค่เรื่องพกปืนไม่มีใบอนุญาตกับเรื่องปืนเถื่อนเท่านั้น และต่อมาอีกไม่นานมีพวก ป.ป.ส. เข้ามาด้อมๆมองๆแถวๆรีสอร์ทจนไอ้เหน่งโดนจับไป และโดนปล่อยตัวอย่างง่าย เพราะผู้กำกับคนนี้ตั้งแต่ย้ายมา แกก็จ้องกำนันน้อมมาตลอดครับ ถ้ามีโอกาสแกไม่ปล่อยแต่ก็ปล่อยไอ้เหน่งง่ายๆแถมเป็นคนไกล่เกลี่ยเองอีกด้วย ผมก็รู้ว่ามันไม่ปกติแน่นอนผมคิดว่าเราถูกจับตามองอยู่ เรื่องนี้ทั้งกำนันและพี่จิตก็รู้ดีครับแกยังกำชับให้ช่วยกันดูรอบๆรีสอร์ท ให้คอยดูบนฟ้าว่ามีโดรนบินผ่านหรือเปล่า แต่สุดท้ายแกเลือกที่จะเสี่ยงและอีกอย่างตอนที่ขนยามาเมื่อวานผมรู้สึกว่ามันผ่านได้ง่ายผิดปกติ ทั้งเส้นทางที่ผมคุ้มกัน ทั้งที่ขนมาทางรถ ถึงดูเผินๆจะปกติ แต่ผมรู้สึกแปลกๆครับ จนเมื่อเช้าผมถึงรู้ว่าเพราะอะไรมันเป็นอีกเหตุผลที่ผมยอมให้จับทันที เพราะรู้ถ้าขัดขืนผมอาจตายได้ครับ”
รองสุพจน์พยักหน้าแล้วหันไปคุยกับตำรวจที่ทำหน้าที่บันทึกถ้อยคำอยู่2-3 คำ ก่อนจะหันมาบอกเทพ
“ข้อมูลที่ได้มามันสำคัญมากผมถือว่านายเทพให้ความร่วมมืออย่างดี ตอนนี้ผมขอคุยกับนายเทพเท่านี้ก่อนแต่มันต้องมีเรื่องที่เราต้องคุยกันอีกนะ ส่วนเรื่องขั้นตอนตามกฎหมายนะผมอยากจะบอกว่าขอเวลาผมก่อน นายเทพจะได้เจอกับทนายความแน่นอนถ้านายเพทต้องการในการต่อสู้คดี แต่ตอนนี้เราต้องควบคุมนายเทพแบบลับๆไว้ก่อน เพราะข้างนอกยังไม่เรียบร้อย กำนันไม่ถูกจับตัว และเมื่อเช้าก็มีคนหนีไปได้หลายคน ส่วนเรื่องที่เราจะกันตัวนายเทพไว้เป็นพยานหรือไม่นั้นผมไม่รับปากเพราะต้องคุยกับผู้ใหญ่ก่อน แต่บอกอีกครั้งนายเทพให้ข้อมูลที่สำคัญกับทางเรามาก วันนี้พอเท่านี้ก่อน”
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน