ในช่วงสายๆของวันต่อมาแคนมองไปที่รองพิชญ์ ที่กำลังรับการรายงานจากบรรดาตำรวจที่ยืนตั้งแถวรอที่เชิงบันได จนรองพิชญ์ที่อยู่ในชุด ต.ช.ด.เดินขึ้นมาขึ้นบันไดโดยมีสารวัตรโจ้นายตำรวจติดตามเดินตามมาไม่ห่าง ตามด้วยสารวัตรต้นที่ถือกระเป๋าเอกสารและถุงผ้าเดินตามขึ้นมา แคนยกมือไหว้ทุกคน รองพิชญ์ได้เดินมาตบบ่าแคนเบาๆ ส่วนต้นนั้นยื่นถุงผ้าให้แคนทันที
“อะไรหรือครับพี่ต้น”
แคนถามด้วยความสงสัย แต่รองพิชญ์เป็นคนตอบ
“ข้าวหมูชุบแป้งทอดนะ คุณรัชนีเขาฝากมาให้”
“อ้าวหรือครับพ่อ ”
“ใช่เขาดูข่าวเมื่อวานนะ แล้วพอพ่อบอกว่าวันนี้จะขึ้นมาเชียงใหม่ แม่เขาเลยถามว่าแคนอยู่เชียงใหม่หรือเปล่าเพราะข่าวออกว่ามี ป.ป.ส.เข้าจับด้วย พ่อก็บอกว่าอยู่ด้วยเมื่อเช้าเขาก็ทำให้แล้วฝากมาให้”
“โอ้วขอบคุณครับพ่อ”
แคนตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มด้วยความดีใจ เพราะคุณแม่ของนพนั้นจำได้ดีตนเองชอบทานอะไรและมักจะทำให้ทานเวลาที่แคนไปที่บ้านนพ ส่วนต้นพูดต่อ
“แต่ตูนบอกว่าคิด 50 บาทเพราะมีไข่ดาวด้วย นี่ลดให้แล้วนะ ปกติ 80 “
ทั้งหมดต่างเดินไปคุยไป ทำเอาแคนนั้นหัวเราะออกมา
“แม่เภสัชนั่นยังไม่เลิกงกอีกหรือนี่”
“งกกว่าเดิมอีก บอกว่าหาเงินค่าน้ำมันรถอยู่และเขาก็ช่วยทอดไข่ดาวให้พอรู้ว่าแม่จะทำหมูชุบแป้งทอด เลยให้ทำเผื่อจะไปกินที่ทำงาน นพก็ขอด้วย เลยได้กินกันทั่วหน้า เขาบอกว่าไม่ได้ทอดให้ฟรีๆเขาหารายได้เสริมเป็นค่ำน้ำมันรถกับค่าอาหารหมา 5 ตัว ”
รองพิชญ์พูดเสริมต่อจากต้น
“ป้าของนพซื้อ อาวดี้คันใหม่มาให้กำลังเห่อ”
“อ้อครับ”
แคนตอบด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องประชุมที่รองสุพจน์รออยู่แล้ว การประชุมได้เริ่มขึ้นทันที ด้านหน้าของห้องประชุมมีแผ่นกระดานที่ถูกนำมาเรียงต่อกัน รองสุพจน์ได้เป็นคนพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนในห้องรับเอกสารแล้ว
“เอาละ เมื่อเช้าตอนที่พิชญ์กำลังเดินทางมา พี่ได้ไปสอบนายเทพเพิ่มขึ้นอีก และได้ข้อมูลจากคนที่เราจับได้ในรีสอร์ทตอนนี้ถูกขังอยู่ที่เชียงราย เป็น 1 ในทีมที่คุ้มกันการขนยาบ้าที่ถูกจับได้ล็อตล่าสุดได้สารภาพเมื่อคืน คือเรื่องของเฮโรอีนที่ถูกทำลายไปที่โกดังคือ เฮโรอีนชุดนี้ตามกำหนดมันจะเข้ามาถึงรีสอร์ทตอนค่ำๆของเมื่อวานโดยที่จิตจะเป็นคนคุมในการขน พอพี่ไปสอบถามเทพก็เป็นยืนยันเหมือนกัน และบอกเหมือนกันว่าข่าวที่พวกเราจับยาบ้าคงทำนายบุญส่งคงเก็บเฮโรอีนไว้ที่โกดังก่อน พวกนี้ยังไม่รู้ว่าโกดังถูกทำลายไปแล้วและจิตกับพรรคพวกตายไปแล้ว เฮโรอีนล็อตนี้อยู่ในรายงานแล้วคือจะขนไปที่สหรัฐทดแทนล็อตที่เปายุ่นขนมันตรงกับข้อมูลที่เรารู้ล่วงหน้า”
ระหว่างที่รองสุพจน์พูดแคนมองไปแผ่นกระดานที่วางเรียงต่อกัน มีทั้งภาพถ่ายของรีสอร์ทและของที่ถูกจับ ห้างร้านกิจการต่างๆของกำนันน้อมที่ถูกตรวจค้นรวมไปถึงบ้านหลังใหญ่ ภาพถ่ายจากดาวเทียมของโกดังที่เหลือแต่ซาก แผนผังเชื่อมโยงธุรกิจที่ถูกกฎหมายของกำนันน้อมที่ทุกอย่างจะมีเส้นมาบรรจบที่บริษัทรับทำบัญชี และรูปถ่ายของบรรดาคนของกำนันน้อม ด้านข้างรูปของกำนันนั้นมีเครื่องหมายคำถามอยู่หมายถึงยังหาตัวไม่เจอ รูปของจิตถูกกากบาทบนรูปหมายถึงตายแล้ว รูปของเทพคือเครื่องหมายถูกหมายถึงรับสารภาพ แต่รูปของฝนนั้นมีเครื่องหมายถูกและคำถามหมายถึงยังมีเรื่องที่ยังต้องถามเพิ่ม ส่วนรูปของจิ๋วมีเครื่องหมายคำถาม จนรองสุพจน์ได้พูดถึงจิ๋ว
“ข้อมูลที่ได้เพิ่มมาหลังจากที่ยึดเอกสารจากบริษัทรับทำบัญชีมามันมีข้อสงสัยหลายเรื่อง จากการที่สอบปากคำพนักงานส่วนหนึ่งจะไม่รู้อะไรรับทำบัญชีปกติจากกิจการอื่นๆของนายบุญส่งและบริษัทอื่นๆที่มาจ้างทำ แต่จะมีอีก3-4คนที่ให้การไม่เคลียร์แต่พอจะทำให้รู้ว่ารับทำบัญชีที่ฟอกเงินโดยรับคำสั่งจากวรรณา เรายังยึดบัญชีเงินฝากได้อีกจำนวนมากพร้อมทำการอายัดเรียบร้อย และกำลังตรวจสอบอยู่แต่จากข้อมูลที่ได้จากคุณปนัดดา เราคิดว่าน่าจะเป็นบัญชีที่ใช้จ่ายสำหรับเป็นการติดสินบน หรือจ่ายค่าจ้างสำหรับงานที่ผิดกฎหมายตรงนี้คงต้องให้ทางต้นสอบเพิ่ม ส่วนภรรยากำนันเราสอบแล้วเธอดูจะไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับธุรกิจของสามี ลูกสาวคนโตที่แต่งงานอยู่กรุงเทพเมื่อวานก็เข้าให้ปากคำแต่ดูแล้วไม่รู้อะไรเหมือนกับลูกชายที่เป็นดีไซเนอร์ ส่วนลูกสาวคนเล็กตอนนี้เรียนปริญญาโทอยู่ที่อังกฤษ ส่วนอาการของคุณวายุนั้นปลอดภัยแล้ว ทางจิตแพทย์ขอคุยก่อนว่าสภาพจิตพร้อมไหม เหมือนกับคุณปนัดดาที่ช่วงบ่ายวันนี้ผมจะเข้าไปคุยต่อเพราะเมื่อวานทางหมออนุญาตให้ใช้เวลาไม่มากนักเพราะกลัวผลกระทบทางจิตใจ และเมื่อคืนก่อนที่ท่าน ผบ.ตร.จะกลับท่านได้กำชับว่าต้องเค้นข้อมูลจากคุณวรรณามาให้ได้มากที่สุด”
หลังจากนั้นได้มีการบอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก่อนที่ต้นจะขอไปประชุมกับทีมงานเรื่องข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทรับทำบัญชี รองพิชญ์จึงถือโอกาสมาคุยกับแคนถึงปฏิบัติการในพม่า ซึ่งแคนเล่าให้ฟังอย่างละเอียดและเรื่องที่ตนเองเป็นคนยิงจิตแต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดว่าทำอะไรกับจิตก่อนที่จิตจะตาย ซึ่งรองพิชญ์นั้นก็ไม่ใส่ใจเพราะข้อมูลที่ได้ว่าจิตนั้นตายก็พอแล้ว
ส่วนจิ๋วนั้นหลังจากที่เธอรู้สึกตัว หลังจากตั้งสติเธอพอจะรู้ว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาลแต่ไม่รู้ว่าโรงพยาบาลที่ไหน ในไทยหรือพม่า แต่หลังจากที่มีหมอและพยาบาลมาตรวจทำให้เธอรู้ว่าอยู่ในประเทศไทย แต่เธอไม่ได้รับความกระจ่างใดๆ และหน้าห้องนั้นมีสารวัตรทหารมาเฝ้าอยู่ แต่เธอได้รับความสะดวกพอสมควรแต่หมอกับพยาบาลไม่ตอบคำถามเธอ แต่เธอพอจะเดาออกว่าเธออยู่โรงพยาบาลในค่ายทหารและเช้าวันนี้ หลังจากที่ทานอาหารเช้าเรียบร้อยได้มีตำรวจมาพาเธอออกจากห้องพักและพาขึ้นรถ เธอถูกตำรวจหญิงขนาบข้างจนมาถึงที่ค่าย ต.ช.ด. จิ๋วถูกพาเข้ามาอยู่ในห้องที่เตรียมไว้สำหรับการสอบสวน หลังจากที่รออยู่ไม่นานนักประตูห้องได้เปิดขึ้น เธอเห็น พล.ต.อ.พิชญ์ที่อยู่ในชุดต.ช.ด.และตำรวจที่อยู่ในชุดฟอร์มสีกากีอีก3-4 นายเข้ามาในห้อง ภายในห้องนั้นทุกอย่างเตรียมพร้อมอยู่ทั้งกล้องและเครื่องบันทึกเสียง ซึ่งระหว่างการสอบสวน รองสุพจน์และทีมงานพร้อมแคนจะอยู่ในอีกห้องและดูการสอบสวนผ่านวงจรปิด
จิ๋วยกมือไหว้รองพิชญ์ทันที และเธอรู้ดีว่าในอดีตนายตำรวจคนนี้เป็นคนวิสามัญผัวเก่าของเธอ แต่เธอไม่โกรธเพราะเข้าใจว่าชีวิตมือปืนต้องมีจุดจบแบบไหน ทันทีที่รองพิชญ์นั่งก่อนที่จะพูดอะไรจิ๋วเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
“ท่านคะดิฉันอยากรู้ว่า ดิฉันถูกควบคุมตัวในข้อหาอะไร ไม่อย่างนั้นดิฉันจะแจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวคะและตอนนี้ดิฉันต้องการทนายคะ”
รองพิชญ์ยิ้มก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“คุณวรรณา คุณถูกทางนั้นส่งตัวมาให้เราหลังจากที่บุกเข้าไปที่โกดังที่เก็บเฮโรอีน พอเรารู้ว่าเป็นคนไทยทางเราเลยขอตัวกลับมาทันที ส่วนข้อหานะหรือตอนนี้คุณมีข้อหาแรกคือเข้าและออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ทางฝั่งพม่าก็พร้อมที่จะเล่นงานในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองและครอบครองยาเสพติดครับ ส่วนข้อหาอื่นๆ สักครู่ทางผมจะแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องทนายเป็นสิทธิ์ของคุณครับ”
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันคงจะไม่ขอตอบคำถาม จนกว่าจะได้พบทนายคะ แต่ก่อนอื่นท่านคะดิฉันอยากทราบว่าคุณฝนที่อยู่กับดิฉันตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง”
รองพิชญ์ยิ้มก่อนจะตอบจิ๋ว
“เธอปลอดภัยครับ อยู่ในความดูแลของแพทย์”
“ขอบพระคุณท่านมากคะ”
จิ๋วตอบและนั่งนิ่ง ส่วนรองพิชญ์ได้ส่งหนังสือพิมพ์ที่ตำรวจส่งให้จิ๋ว3-4 ฉบับ
“ก่อนอื่นผมว่าคุณยังไม่รู้เรื่องอะไร เอาเป็นว่าคุณอ่านหนังสือพิมพ์พวกนี้ก่อน ส่วนเรื่องที่เหลือเราค่อยมาว่ากันครับ”
จิ๋วรับมาดูและพอเห็นพาดหัวดวงตาเธอเบิกกว้าง เป็นหนังสือพิมพ์ของวันนี้ซึ่งทุกฉบับพาดหัวคล้ายกันหมดคือเรื่องตำรวจบุกจับยาเสพติดล็อตใหญ่ในรีสอร์ทของอดีตกำนันบุญส่งพร้อมกับเข้าตรวจค้นธุรกิจที่กำนันเป็นเจ้าของทั้งหมดจากที่ตอนแรกจะเข้าจับลูกน้องของกำนันในคดีฆ่าคนตาย เธออ่านรายละเอียดของข่าวทันที เธอใช้เวลาร่วม 20 นาทีในการอ่านข่าว หน้า 1ของหนังสือต่างลงรูปกำนันน้อมทุกฉบับ จิ๋วเริ่มปั่นป่วนแต่เธอยังใจชื้นอยู่ว่ากำนันบอกกับเธอมาตลอดว่าถ้าถูกจับไม่ต้องกังวลเพราะจะมีทนายมือดีเข้ามาช่วย ตอนนี้กำนันคงหลบอยู่ฝั่งพม่าคอยให้การช่วยเหลือพวกที่โดนจับอยู่อย่างแน่นอน พอเธออ่านจบ รองพิชญ์ที่นั่งรออย่างเงียบๆได้บอกกับเธอพร้อมส่งรูปถ่ายขนาด8 X 10ให้เธออีก3 รูป
“เอาละตอนนี้คุณคงรู้ว่ากิจการของเจ้านายคุณถูกตำรวจจับและระงับไม่ให้ทำอะไร รวมถึงอายัดทุกอย่าง ส่วนตัวเจ้านายคุณคงหลบหนีเพื่อรอดูท่าทีอยู่ แต่ก่อนอื่นผมว่าตัวเจ้านายคุณคงคิดว่าคุณกับคุณปนัดดาได้เสียชีวิตแล้ว”
จิ๋วรับรูปถ่ายมาดู มันเป็นรูปถ่ายจากดาวเทียมรูปแรกเป็นรูปในตอนกลางคืนที่มีกลุ่มควันอยู่เหนืออาคารที่กำลังไฟไหม้ ส่วนอีกภาพตอนกลางวันทำให้เห็นภาพเศษซากอาคาร เหมือนกับภาพที่สาม เธอนั้นพอจะเดาออกว่ามันคืออะไร แต่แกล้งถามออกไป
“นี่คืออะไรคะท่าน”
“ภาพโกดังที่คุณถูกจับตัวมา ตอนนี้มันเหลือแต่ซาก ภาพแรกเป็นตอนกำลังไฟไหม้หลังจากที่คุณถูกพาตัวออกมาแล้ว ภาพที่สองเป็นภาพเมื่อวานส่วนภาพที่สามเป็นภาพของเช้าวันนี้ครับ ผมอยากจะบอกคุณว่ามีเพียงคุณกับคุณปนัดดาสองคนเท่านั้นที่มีชีวิตรอด ส่วนที่เหลือเราได้รับรายงานว่าไม่มีใครรอดรวมทั้งนายจิตที่เป็นคนสนิทของนายบุญส่ง ฉะนั้นผมอยากให้คุณเข้าใจเรื่องโกดังที่ถูกทำลายนายบุญส่งคงรู้แล้ว และตอนนี้เขาคงคิดว่าไม่มีใครรอด แต่ถ้าจู่ๆมีข่าวว่าคุณถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว เขาจะนึกยังไงคุณก็ลองเดาดูแล้วกันครับ ผมไม่ได้ขู่คุณนะ แต่ผมพูดตามความจริง ตัวคุณก็คงจะพอรู้ว่าในอดีตผมกับกำนันบุญส่งในตอนนั้นเป็นยัง ทำให้ผมพอจะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน ที่จู่ๆคนที่นึกว่าตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่แถมถูกตำรวจคุมตัวอยู่ ถ้าจะบอกว่าคุณหลบหนีมาได้ ระยะทางมันไม่ใช่ใกล้ๆต่อให้คุณเดินเท้ามาก็อย่างเร็วก็ 2วันถึงจะมาถึงชายแดนแล้วสภาพแบบนั้นคุณจะมาได้ยังไงถ้าไม่คนช่วย เจ้านายคุณจะคิดยังไง คุณคงเดาออกนะคุณวรรณา ผมพูดตามตรง”
รองพิชญ์พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ทำเอาจิ๋วฉุกคิดแต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ต้นที่รออยู่ได้ส่งแฟ้มกระดาษแฟ้มแรกที่นำติดเข้ามา4-5แฟ้มแล้วเปิดให้เธอดู
“เอาละคุณวรรณาเรื่องต่อไปนี้ คุณจะพูดหรือตอบคำถามให้กับผมหรือไม่มันเป็นสิทธิ์ของคุณครับแต่หลังจากที่ผมให้คุณดูเอกสารกองโตที่ผมนำเข้ามาแล้ว คุณจะขอติดต่อทนายทางเราให้สิทธิ์คุณตามกฎหมายครับ พร้อมกับข่าวว่าเราได้ควบคุมตัวคุณเป็นที่เรียบร้อย”
จิ๋วมองไปที่ที่ต้น แล้วเลื่อนสายตามที่ป้ายชื่อ เธอเห็นชื่อแต่สะดุดตาที่นามสกุลที่เป็นนามสกุลเดียวกับรองพิชญ์ นายตำรวจยศพันตำรวจโทที่หน้าตาหล่อเหลาคนนี้คงเป็นลูกชายของรองพิชญ์ เธอก้มหน้าดูเอกสาร ที่มีหลายส่วนที่ถูกไฮไลท์ด้วยปากกาเน้นข้อความหลากสี บางส่วนถูกวงด้วยปากกาสีแดง เธอนั่งฟังตลอดพร้อมความคิดจากที่เธอได้เห็นและฟังคำพูดของตำรวจคนนี้ตอนนี้คือเรื่องการเอกสารที่เสียภาษีและการโอนย้ายเงินเพื่อจะมาฟอกเงิน ทำให้เธอรู้ทันทีหลังจากที่ต้นพลิกไปหน้าที่ 3 ว่าเธอเจอกับนายตำรวจที่เชียวชาญเรื่องกฎหมายภาษีอากรพร้อมกับเรื่องการฟอกเงินที่ต้นยิงคำถามใส่เธอตลอด ว่าเอกสารหรือข้อมูลตรงนี้มันมีพิรุธตรงไหน หรือทำไมจู่ๆเงินจำนวนถึงโผล่เข้ามาและหายไปไหน
และเธอคิดไปถึงคำพูดของรองพิชญ์ ใช่รองพิชญ์คงพูดจริงถ้าจู่ๆมีข่าวว่าเธอถูกตำรวจควบคุมตัวเธออยู่ มันคงมีข้อสงสัยว่าเธอรอดมาได้ยังไง เธอคงถูกตั้งข้อสงสัยจากกำนันน้อมและมันก็คงไม่เป็นผลดีต่อชีวิตของเธอ ถึงเธอจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่กำนันสามารถสั่งฆ่าเธอได้ และอีกเรื่องตั้งแต่ที่เธอฟื้นขึ้นมาจนมาเห็นรูปโกดัง เรื่องของเปายุ่นที่ถูกวิสามัญนั้นโผล่มาในความคิด เพราะทั้งจิตและกำนันต่างพูดเหมือนกันว่าเป็นการกระทำของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และเรื่องที่เธอถูกจับมามันก็อาจจะเป็นหน่วยเดียวกัน ขนาดโกดังที่อยู่ในป่าลึกของพม่ายังถูกทำลายได้ ดีไม่ดีป่านนี้กำนันน้อมอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้ แล้วเธอจะทำยังไงต่อ ถึงกำนันจะมีบุญคุณกับเธอส่งเสียให้เธอเรียนจบและให้ทำงานในระดับผู้บริหาร ที่เธอมั่งมีทุกวันนี้เพราะบุญคุณของกำนัน ยิ่งเธอเป็นคนที่ไร้ญาติขาดมิตรด้วย และเธอก็คิดว่าเธอตอบแทนบุญคุณกำนันมาพอสมควรทั้งทำงานผิดกฎหมายให้ ยอมตกเป็นเมียพร้อมกับสนองตัณหาตามความต้องการของกำนันทุกรูปแบบมาตลอด ถึงตอนนี้เธอควรจะเอาตัวให้รอด เธอกำลังคิดว่าถึงจะติดคุกแต่เธอก็ต้องมั่นใจว่าชีวิตเธอจะปลอดภัย ถ้ากำนันตายไปแล้วมันก็คงไม่ต้องคิดมากแต่ถ้ากำนันยังอยู่นั่นคือเธอลำบากแน่ จากรายชื่อคนที่ถูกจับเธอไม่เห็นรายชื่อเทพ เธอคิดว่าเทพคงหนีไปได้ ส่วนเมียคนอื่นๆของกำนันไม่ว่าจะเป็นรุ้งหรือจีน่านั้นเธอเห็นชื่อถูกจับทั้งหมด เป็นจังหวะที่ต้นเริ่มจะเอาแฟ้มฉบับที่ 2 มาเปิดออก เธอจึงพูดว่า
“เอาละคะสารวัตร ไม่ต้องพูดต่อแล้ว ดิฉันยอมรับว่าสารวัตรเก่งจริงๆ ที่ผ่านมาดิฉันมั่นใจว่าดิฉันทำเรื่องนี้โดยที่ไม่มีใครที่จะตรวจสอบได้อย่างง่ายๆแต่ในที่สุดเหนือฟ้าก็ยังมีฟ้าคะ ข้อมูลที่สารวัตรให้ดู ถึงตอนนี้ดิฉันคงไม่กล้าหักล้าง ถ้าไปถึงศาลก็ต้องบอกว่ารับสารภาพโดยจำนนด้วยหลักฐาน ดิฉันไม่กล้าที่จะหาข้อมูลมาหักล้างคะ เพราะทำแบบนั้นมันเข้าตัวมากขึ้น ตลอดเวลาเกือบ 45 นาทีที่ผ่านสารวัตรเข้าประเด็นข้อสงสัยได้ตรงเป้ามีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ถึงตรงนี้ดิฉันยอมให้ข้อมูลแล้วคะ แต่ดิฉันก็ขอต่อสู้คดีในชั้นศาลคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวดิฉันเอง”
ต้นพยักหน้าแต่รองพิชญ์เป็นคนตอบ
“ผมเข้าใจที่คุณสื่อ คุณวรรณา ว่าคุณหมายถึงอะไร“
จิ๋วพยักหน้าก่อนจะตอบคำถามที่ทางต้นถามมาซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้เรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์อันมหาศาล เธอสารภาพหมดถึงวิธีการซักฟอกเงินที่มายักย้ายถ่ายโอนเข้าบัญชีโดยมีเธอกับคนในบริษัทอีก 3-4 คนจะเป็นคนทำ โดยจะแบ่งกลุ่มบัญชีเป็น 3 กลุ่ม คือ A B C กลุ่มบัญชี A เป็นบัญชีที่เปิดเผยที่มีทั้งบัญชีกระแสรายวัน ออมทรัพย์ หรือฝากประจำ จะมีการนำเงินที่ได้จากธุรกิจผิดกฎหมายเข้ามาส่วนหนึ่งเพื่อการฟอกเงิน และตบแต่งให้ดูว่ามีที่มาที่ไปอย่างถูกกฎหมาย เช่นธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหาร การขายสินค้าทางเกษตร หรือสินค้าที่นำเข้าจากจีน ที่ทางบริษัทรับทำบัญชีของจิ๋วเป็นคนทำบัญชีให้จะมีการแต่งตัวเลขนำเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายเข้ามาเพิ่มซึ่งธุรกิจอื่นๆที่ถูกกฎหมายของกำนันจะถูกทำแบบนี้ทั้งหมดเพื่อประกอบการยื่นเสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่วนบัญชี B คือบัญชีที่ใช้ในการติดสินบน หรือจ้างงานแบบที่ฝนได้รับ ถึงตอนนี้ต้นจึงได้ถามพร้อมยืนแฟ้มไปให้จิ๋วดู
“บัญชี B คือ บัญชีพวกนี้ใช่ไหมครับ นี่เป็นสำเนาหน้าบัญชีเงินฝากที่เรายึดได้มาเมื่อวาน”
จิ๋วรับมาดูอย่างคร่าวๆ ซึ่งเธอจำได้ดี จึงตอบไปที่สารวัตรต้น
“ใช่คะบัญชีพวกนี้ดิฉันคอยดูแลอยู่”
“แล้ววิธีการสั่งจ่ายละครับ ใครเป็นคนเก็บข้อมูลนี้”
“กำนันจะเป็นคนสั่งให้ดิฉันทำโอนเงินจ่ายเข้าบัญชีคะ ดิฉันก็จะทำตามเพียงแค่แจ้งว่าจะจ่ายผ่านบัญชีไหนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ากำนันจะจดบันทึกไว้ แต่ดิฉันไม่รู้ว่าบันทึกในคอมหรือในสมุด”
“ส่วนมากจะโอนจากบัญชีไหนครับ”
“เกือบทุกบัญชีใน 3กลุ่มคะ บางทีก็ฝากเป็นเงินสด ในบัญชี B จะมีอยู่ 2-3 บัญชีที่เป็นบัญชีหลักในการโอน”
“แต่คุณต้องมาตรวจสอบตลอดว่าเงินที่ให้ไปถูกนำออกมาใช้เท่าไหร่”
“ไม่ยุ่งยากคะ เพราะเรามีปรับสมุดทุกวันพร้อมการแจ้งเตือนผ่าน SMS ส่วนใหญ่พอได้ไปก็กดออกมาทั้งหมดคะ ดิฉันก็แจ้งระงับการใช้บัตรเดิมพร้อมทำบัตรใหม่และนำเงินเข้าไปเข้าฝากไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเลี้ยงบัญชีไว้”
“พอจะจำปริมาณมากสุดในการโอนได้ไหมครับ”
“อย่างมากไม่เกิน 5 แสนต่อบัญชีคะ เพื่อไม่ให้มีพิรุธ แต่คนที่ได้รับบางคนก็ได้รับบัตรเดบิตไป3-4 ใบคะ”
“แล้วทางกำนันเคยแจ้งให้คุณทราบบ้างหรือเปล่าครับว่าโอนไปให้ใครบ้าง”
“มีบอกบ้างคะ แต่ถ้าสารวัตรจะถามว่ามีการเก็บรายชื่อไว้หรือไม่ ตรงนี้กำนันจะเป็นคนทำคะ กำนันจะเป็นคนบันทึกข้อมูลว่าจ่ายให้ใครไปเท่าไหร่คะ ดิฉันมีหน้าที่โอนอย่างเดียวคะ”
“ในส่วนของบัญชี C ละครับ “
จิ๋วถอนหายใจยาวๆก่อนจะตอบ
“รายละเอียดตรงนี้ดิฉันไม่ทราบจริงๆคะ เพราะกำนันเป็นคนเก็บบัญชีไว้ทั้งหมด แต่ดูแล้วไม่น่าจะมีต่ำกว่า 50 บัญชีคะ วิธีการเปิดบัญชีก็เหมือนบัญชีในกลุ่ม B ที่จะใช้คนที่ใกล้ชิดไปเปิดหรือไม่ก็จ้างชาวบ้านทั่วๆไปเปิดบัญชีคะ กำนันจะเป็นคนจัดการกับบัญชีพวกนั้นเอง มีบางครั้งที่จะให้ดิฉันโอนเงินจากบัญชี กลุ่มA เข้าไปที่ กลุ่ม C นะคะ”
ข้อมูลใหม่ตรงนี้ทำเอาทุกคนรวมทั้งที่นั่งดูผ่านโทรทัศน์วงจรปิดต่างให้ความสนใจอย่างมาก แต่ต้นนั้นถามต่อทันที
“หมายถึงกลุ่มบัญชีเงินฝาก C นี่กำนันจะรู้อยู่คนเดียวถูกต้องไหมครับ”
“ใช่คะ เงินที่ฝากในกลุ่ม C จะมาจากธุรกิจมืดทั้งนั้น ประมาณ60-70% จากที่ได้มาแต่ละครั้งกำนันจะเอาไปฝากในกลุ่มนี้ จะมีเพียง 30-40 % ที่จะโอนเข้ากลุ่มบัญชี A เพื่อทำการฟอกเงินคะ บางครั้งกำนันอาจจะถอนจากกลุ่ม C มาที่กลุ่ม B คะ”
“เวลาโอนหรือฝากใครเป็นคนทำให้ครับ คุณหรือกำนัน”
“ดิฉันคะ จะกระจายเงินฝากไปตามเลขบัญชีทำกำนันให้มาแล้วส่งใบเปอินคืนให้กำนันคะ”
“พอจะประมาณการคร่าวๆได้ไหมครับว่ามีเงินฝากประมาณเท่าไหร่”
“จริงๆดิฉันไม่ทราบคะ แต่กำนันเคยเปรยๆไว้ว่าไม่กว่าพันล้าน กำนันเคยบอกว่าจะเตรียมไว้ใช้ส่วนหนึ่งมาเป็นทุนในการต่อสู้คดีคะ เพรากำนันคาดการณ์สักวันอาจถูกจับได้ รวมถึงพวกลูกน้องคะ กำนันบอกตลอดว่าเตรียมทนายมือดีพร้อมทุนไม่อั้นไว้แล้วถ้าถูกจับ และแอบบอกดิฉันว่าถ้าเห็นว่าสู้ไม่ไหวเงินก้อนนี้กำนันจะใช้ชีวิตอยู่ฝั่งนั้นแล้วเอามาเป็นทุนในการผลิตยาเสพติดส่งขายเองคะ”
แคนที่ฟังอยู่นั้นเม้มปากแน่น พร้อมกับเสียงอุทานอย่างลืมตัวของนายตำรวจคนหนึ่ง
“ฉิบหายแล้ว ไอ้เวรนี่มันฉลาดกว่าที่เราคิดมันเตรียมการไว้อย่างดี”
ใช่มันตรงกับที่แคนคิดกำนันน้อมนั้นวางแผนมาอย่างดี มีทางหนีทีไล่ แต่พยายามสงบใจฟังต้นสอบสวนต่อ ข้อมูลและหลักฐานที่ได้จากจิ๋วนั้นมันสำคัญอย่างมาก และจิ๋วได้พูดต่อ
“และถ้าใครหนีตำรวจไปได้ หรือถูกประกันตัวมาแล้วเห็นว่าจะต้องติดคุกแน่ก็ให้หนีไปอยู่กับกำนันที่ฝั่งพม่าคะ”
“แล้วจะให้อยู่ที่ไหนละครับ”
ต้นแกล้งถาม
“ตอนแรกคือเตรียมไว้คือที่โกดังคะ แต่ถ้าโกดังเป็นอย่างในภาพก็คงไปอยู่ที่โรงงานกับพวกว้าก่อนคะ แล้วที่ตรงชายแดนกำนันก็มีเซฟเฮ้าส์อยู่ 3ที่คะ”
“เอาตรงชายแดนก่อน เซฟเฮ้าท์ 3 ที่ คุณทราบหรือเปล่าครับว่าอยู่ตรงไหนบ้าง”
คำถามนี้ของสารวัตรต้น ทำให้รองสุพจน์ที่อยู่อีกห้องนั้นพยักหน้าทันทีเพราะเรื่องนี้ตรงกับที่เทพสารภาพว่ามี 3 ที่แต่เทพรู้จักอยู่ที่เดียว ส่วนจิ๋วนั้นตอบทันที
“รู้คะ 2 ที่เป็นบ้าน อีกที่ก็เป็นในบ่อนคาสิโนคะ บ่อนที่กำนันมีหุ้นอยู่ เพราะดูแล้วที่บ่อนจะปลอดภัยกว่าที่บ้าน เพราะที่พักจะอยู่ในส่วนของพวก วีไอพี มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ถ้ามีการบุกจับก็จะรู้ล่วงหน้าคะ เพราะกำนันก็จ่ายสินบนให้ตำรวจฝั่งนั้นไว้เยอะคะ แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยจริงๆก็ต้องอยู่ที่โรงงานคะ”
“คุณเคยไปที่โรงงานบ้างหรือเปล่าครับ”
“หนเดียวคะ จริงๆดิฉันไม่ค่อยอยากไปเพราะมันเดินทางลำบากคะ จากโกดังถ้าฝนไม่ตกถนนไม่เป็นโคลนก็ใช้เวลาเกือบครึ่งวันแล้วคะ”
หลังจากนั้นต้นได้ถามเรื่องโกดังและโรงงานซึ่งมันตรงกับที่เทพสารภาพจิ๋วยอมบอกว่าเธอไปที่โกดังหลายครั้งเพื่อไปจ่ายเงินให้พวกว้า พร้อมทั้งเส้นทางที่ใช้เดินทางลอบเข้าไปในพม่า ส่วนที่โรงงานเธอบอกอย่างคร่าวๆตามที่เธอเห็นแต่ก็ใกล้เคียงกับที่เทพบอกก่อนหน้า และต้นถามถึงวิธีการติดต่อสื่อสารซึ่งจิ๋วให้รายละเอียดตรงกับเทพเรื่องเบอร์โทรศัพท์ของกำนันและวิธีการติดต่อจากโกดังไปที่โรงงานหรือมาที่ฝั่งไทย จิ๋วนั้นให้รายละเอียดตรงกับที่รองสุพจน์ได้ข้อมูลเพิ่มจากเทพเมื่อตอนเช้าว่า บริเวณโรงงานนั้นสัญญาณโทรศัพท์ชัดมากเพราะหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากโรงงาน 5กิโลมีเสาสัญญาณโทรศัพท์ ซี่งครอบคลุมมาถึงตรงด่านตรวจที่ 3 ที่อยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 1กิโล แต่บริเวณด่านตรวจที่ 1 กับ 2 นั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ต้องใช้วิทยุในการสื่อสาร แต่พอมาถึงโกดัง ตรงนั้นจะมีสัญญาณสามารถที่จะติดต่อได้ทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งพม่า ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการติดต่อกำนันสามารถโทรมาสั่งงานที่ฝั่งไทยได้อย่างสบายๆ จนต้นวกมาเรื่องของฝน
“แล้วทำไมคุณปนัดดาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ”
จิ๋วถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะตอบ
“จริงๆแล้วถือเป็นความโชคร้ายของเธอคะ เธอเป็นแฟนกับหลานชายเมียกำนัน และกำนันพึ่งสั่งยาล็อตใหญ่จากพวกว้าพอดีแต่เป็นจังหวะที่คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพยาเสพติดที่ชื่อคำรณถูกยิงเพราะลูกหลงจากพวกวัยรุ่น ที่ทะเลาะกัน ถ้าใช้ลูกมือของคำรณอีก 2 คนก็ต้องใช้เวลาที่นานขึ้นในการตรวจสอบคะ กำนันต้องการปล่อยของให้เร็วที่สุด และพอรู้ว่าฝนนั้นเป็นนักเคมีและเคยทำหน้าที่ตรวจยาเสพติดมาด้วยกำนันวางแผนที่จะพาตัวเธอให้มาช่วยตรวจสอบคุณภาพยาคะ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนที่พาตัวเธอมาคุณอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือเปล่าครับ”
ครั้งนี้เป็นรองพิชญ์ที่เป็นคนถามจิ๋วนั้นตอบตามตรงว่าเธอมาเจอฝนตอนที่เปลี่ยนรถ พร้อมทั้งใส่ยานอนหลับในน้ำให้ฝนดื่มและวิธีการพาฝนไปที่โกดังจนฝนตื่นขึ้นมาเจอกับเธอและกำนัน พอถึงตอนี้สิ่งที่จิ๋วบอกมันตรงกับที่ฝนให้ข้อมูลไว้ทั้งการพูดหว่านล้อมและเงินจำนวน 4แสน ที่เป็นเงินสด 1 แสน และอยู่ในบัตรอีก 3 แสน
“เท่ากับว่าคุณปนัดดาได้เงิน 4 แสน แล้วท่าทีจากนั้นของเธอละครับ พวกคุณมีการขู่บังคับเธอหรือเปล่า”
“ไม่มีการขู่คะ เพราะดิฉันดูออกว่าเธอนั้นยังกลัวอยู่ แต่ตอนที่เธอรู้ว่ากำนันนั้นขอให้ทำอะไร ดูเธอจะตกใจมาก แต่เธอก็รับเงินไปคะ ส่วนเรื่องที่ตรวจสอบคุณภาพดิฉันอยู่ด้วยเกือบตลอด และเธอก็ทำงานได้เร็วกว่าคำรณซะอีก แต่ถามว่าเธอเต็มใจที่จะทำให้หรือไม่ ดิฉันตอบไม่ได้คะ เพราะท่าทีเธอดูปกติคะ แต่ถ้าเป็นดิฉันที่ตกอยู่ในสภาพแบบนั้นก็คงต้องยอมทำคะ จะเต็มใจหรือไม่ก็ตามที และอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเราบอกเพียงว่าเธออยู่กลางป่าลึกคะ”
“แสดงว่ากำนันให้เงินเธอ 4 แสน นะครับไม่ได้ให้เยอะไปกว่านี้”
“คะท่าน”
“คุณอยู่กับเธอตลอดเวลา”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้คะ เราให้อิสระเธอพอสมควรเธอเดินไปมาระหว่างห้องพักกับห้องแลปได้คะ ส่วนการขนยามาให้เธอตรวจสอบจะเป็นหน้าที่ของคนอื่นๆคะ แต่ท่านคะดิฉันเรียนตามตรงว่าดิฉันสงสารเธอ เธอคงจะอยู่ในสภาพจำใจยอมทำคะ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรไปมากกว่านี้คะ กรุณาด้วยเถอะคะ เธอถูกลักพาตัวมาให้ทำถึงกำนันจะจ่ายเงินให้เธอก็ตามที แต่ถ้าเป็นใครอยู่ในสภาพแบบนั้นก็คงต้องยอมคะ”
“แล้วกำนันวางแผนจะทำยังไงกับเธอต่อ”
“ก็จะปล่อยตัวคะ กำนันจะให้เธอกลับมาพร้อมดิฉันในอีกวันพร้อมกับพวกที่ขนเฮโรอีนคะ”
“ถ้าปล่อยตัว กำนันไม่กลัวหรือไงว่า คุณปนัดดาจะไม่มาแจ้งความกับตำรวจ”
“เธอก็ถามแบบนี้คะ แต่กำนันบอกเธอไปว่าถึงเธอจะแจ้งความก็ไม่มีใครเชื่อเพราะไม่หลักฐาน ถึงเธอจะเอาเงินสด 1 แสนที่ได้ไปให้ตำรวจก็ตรวจสอบที่มาไม่ได้ พร้อมพูดแกมขู่ไปว่าดีไม่ดีเธอจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยซะเอง ดูเธอก็จะเชื่อแบบนั้น”
“คือไม่คิดจะปิดปากแล้วจะทำยังไงกับแฟนของคุณปนัดดาที่เป็นหลานภรรยากำนัน”
จิ๋วสารภาพถึงแผนการที่กำนันวางแผนว่ามีคนที่ขัดผลประโยชน์กับกำนันมาจับพัดเพื่อการต่อรอง และกำนันเข้าไปเจรจาให้ กำนันจะเล่าเรื่องนี้ให้พัดฟังหลังจากที่ปล่อยตัวทั้ง 2 คน และกำนันมั่นใจว่าเรื่องจะไม่ถึงตำรวจส่วนที่เกี่ยวกับฝนนั้น ฝนคงปิดปากสนิทไม่กล้าที่จะบอกใคร พอถึงตรงนี้แคนที่นั่งฟังอยู่ได้ทำเครื่องหมายคำถามไว้บนเอกสารที่ถ้อยคำของฝน ตรงเรื่องเงินที่ต่างกัน 2 แสน ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นดูตรงกับฝนบอกไว้ก่อน หลังจากนั้นรองพิชญ์ได้สอบถามเธอเพิ่มอีกซึ่งจิ๋วให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งใช้เวลาร่วม 4 ช.ม. เธอเป็นคนบอกกับรองพิชญ์เองว่า
“ท่านคะ ตอนนี้ดิฉันขออยู่ในความคุ้มครองของตำรวจก่อนคะ ถ้าดิฉันพร้อมที่จะเจอทนายแล้วดิฉันจะเรียนท่านอีกที”
“ผมเข้าใจ ก็ตามที่คุณขอและเราบันทึกข้อความนี้ไว้แล้ว เอาละ วันนี้พอเท่านี้ก่อนคุณวรรณา ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมเรามาคุยกันอีก”
จิ๋วยกมือไหว้ รองพิชญ์กับสารวัตรต้นก่อนจะถูกตำรวจหญิงควบคุมเธอออกไป ซึ่งห้องคุมตัวนั้นจะอยู่คนละส่วนกับห้องที่คุมตัวเทพ ข้อมูลที่ได้มานั้นสำคัญมากโดยเฉพาะบัญชีเงินฝากกลุ่ม C ถึงตอนนี้ตำรวจจะอายัดบัญชีเงินฝากทั้งกลุ่ม A และ B ไปหมดแล้วรวมทั้งเงินสดที่ยึดได้ในบ้าน บริษัททำบัญชีรวมถึงในรีสอร์ท แต่มันเป็นเพียงเศษเงินของกำนันเท่านั้น จนช่วงค่ำในห้องประชุม หลังจากการถอดถ้อยคำให้การของจิ๋วและของเทพที่สอบเพิ่มเติม รวมถึงการที่ไปคุยกับฝนอีกครั้งรวมถึงพัดที่อาการเป็นปกติแล้ว ข้อมูลถูกสรุปออกมาเป็นข้อๆ ฝนกับพัดให้การตรงกันตอนถูกจับและไม่รู้ว่าถูกแยกตัวจนมารู้สึกตัว พัดบอกกับตำรวจว่าตนเองได้รับความสะดวกสบายพอสมควรไม่การขู่บังคับมีแต่คนมาบอกว่าถูกจับมาเพื่อต่อรองกับกำนัน ตอนเช้าจะถูกคุมตัวออกมาให้ไปทานอาหารอีกห้องหนึ่งโดยมีผ้าปิดตา เพื่อให้คนไปทำความสะอาดห้องพัก และจะถูกนำตัวกลับมา ภายในห้องจะมีอาหารการกินอย่างสมบูรณ์ มีทีวีให้ดู เพียงแต่ไม่รู้ว่าถูกขังอยู่ที่ไหน ส่วนกลางคืนพัดบอกว่าตนเองจะหลับสนิท ซึ่งพัดไม่รู้ว่าถูกวางยานอนหลับในอาหาร
พัดยอมรับรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนสั่งจับตนเองกับฝนเพื่ออะไร พัดไม่เคยรู้มาก่อนว่ากำนันน้อมนั้นเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด วันนี้ทางตำรวจให้ฝนกับพัดคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว และพาพัดไปพักที่เซฟเฮ้าท์แห่งหนึ่งก่อน ส่วนข้อมูลจากฝนที่รองสุพจน์ไปสอบถามเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องเงินสดอีก 2แสน ฝนบอกว่าตอนให้จิ๋วนั้นไม่ได้อยู่กำนันมาให้ที่ห้องแลปและเธอนำไปเก็บในห้องพัก ตอนนี้บนกระดานมีการสรุปออกมาเป็นข้อๆ เรื่องเงินนั้นเป็นว่าได้ข้อสรุปทางตำรวจเชื่อว่าจิ๋วไม่รู้ว่าฝนได้เพิ่มอีก 2 แสน ซึ่งตอนนี้ทางรองสุพจน์กำลังยืนพูดอยู่ที่หน้าห้อง
“ที่สำคัญเราอย่าลืมกันว่าข่าวที่เราออกไปตอนแรกคือการบุกเข้าจับกุมนายปรีดาหรือเหน่งในข้อหาฆ่าคนตาย และหลบซ่อนตัวอยู่ในรีสอร์ทส่วนที่เหลือมันคือผลพลอยได้และตามมาด้วยการขยายผลจับกุมธุรกิจต่างๆของนายบุญส่ง แต่สื่อเน้นเล่นข่าวการจับยาเสพคิดมากกว่าซึ่งมันคือผลที่เราต้องการ ส่วนตอนนี้ผมขอสรุปคร่าวๆในส่วนของคุณปนัดดากับคุณวายุ ทางเราขอให้เก็บตัวไว้ก่อน ข้อมูลที่ได้มากจากคุณปนัดดา และวรรณานั้นตรงกัน คือคุณปนัดดาถูกลักพาตัวไปที่ฝั่งนั้น เพื่อทำงานให้นายบุญส่ง ถึงเธอบอกว่าจะได้รับเงินเป็นค่าจ้างและไม่มีการถูกขู่บังคับใดๆ แต่เธอก็จำใจที่จะยอมทำเพื่อรักษาชีวิต และอีกอย่างคือมันอยู่นอกขอบเขตกฎหมายไทยถึงเธอจะร่วมมือจริงๆเราก็เอาผิดไม่ได้ และที่เธอบอกคือทางวรรณากับนายบุญส่งปฏิบัติต่อเธออย่างดี ผมคุยกับท่าน ผบ.แล้วท่านไม่ติดใจกับเรื่องนี้ ผมกับท่านผบ.เห็นตรงกันว่า เธอไม่มีความผิดใดๆ”
แคนนั้นได้เสริมขึ้นทันทีหลังจากรองสุพจน์พูดจบ
“เหมือนกับที่ทางกำนันอาจจะอยากให้คุณปนัดดาเป็นแบบ สต็อกโฮล์มซินโดรม(เป็นอาการของคนที่ตกเป็นเชลยหรือตัวประกันเกิดมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนที่เป็นคนร้ายหลังจากต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันระยะหนึ่งและอาจจะลงเอยด้วยการแสดงอาการปกป้องคนร้ายหรือยอมเป็นพวกเดียวกัน/ผู้เขียน) ผมเดานะมันอาจจะมาจาก 2ประเด็นคือ 1. เป็นแฟนกับหลานชายเลยไม่อยากทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้เพราะคิดว่าใช้เงินปิดปากได้กับคำขู่กลายๆว่าบอกตำรวจทางตำรวจก็ไม่เชื่อเพราะไม่มีหลักฐานอะไร 2.อาจจะหวังที่จะใช้งานต่อในอนาคตเพราะมีความสามารถในเรื่องเคมี แถมยังเคยทำงานร่วมกับตำรวจไอ้น้อมมันอาจจะหวังเรื่องข้อมูลที่รู้ หรือการใช้ทำงานให้มันต่อ เลยทำแบบนี้เพื่อให้คนที่ถูกจับตายใจแถมมีเงินมาล่อ ถึงจะเป็นช่วงเริ่มต้นก็ตาม แต่การที่ใช้คนของมันที่เป็นผู้หญิงมาคอยดูแล อาจทำให้คนที่ถูกจับคลายความกังวลแถมไม่การขู่บังคับ พูดจาดี คนที่ถูกจับก็ไขว้เขวได้ครับ”
ทุกคนต่างนั่งฟังคำอธิบายของแคนซึ่งรองสุพจน์พยักหน้าเห็นด้วย
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน