สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บอยากอ่านส่วนที่ซ่อนไว้ ในนั้นจะลงช้ากว่าที่เว็บนี้หนึ่งตอนนะครับ
Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 34
ระหว่างที่ไอ้ยักษ์และพวกเสร็จจากการถ่ายทำคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อรับประกันว่าสาวใหญ่จะไม่ขัดขืนพวกเขาเสร็จสิ้นไปในยกแรก ที่ประตูห้องก็มีเสียงเคาะดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของหนึ่งในลูกน้องของไอ้ยักษ์ “พี่ยักษ์ ออกมาหน่อยผมมีเรื่องสำคัญจะรายงาน”
“อะไรวะ…” ไอ้ยักษ์โวยวายหงุดหงิดที่ถูกขัดจังงหวะ เดินไปหยิบกางเกงชั้นในมาใส่ก่อนจะเดินอาดๆ ไปที่ประตู
ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปหน้าโหดๆ ของไอ้ยักษ์ก็ต้องถอดสีเหมือนเนื้อที่ไม่มีเลือดไหลไปหล่อเลี้ยง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมาเต็มใบหน้า เมื่อเห็นลูกน้องที่มาเรียกมันก็ถูกปืนจ่ออยู่ที่ท้ายทอย ยังไม่ทันที่มันจะขยับตัวหลบหนีหรือปิดประตูเพื่อซื้อเวลาปากกระบอกปืนสั้นขนาดกระสุนเก้ามิลเมตรก็จี้เข้าที่ขมับแทบจะทันทีที่มันเปิดประตู
ชายสองคนสูงกำยำรูปร่างมีขนาดไล่เรี่ยกัน คนที่เอาปืนจี้หัวไอ้ยักษ์อยู่ดูมีอายุมากกว่าอีกคนเล็กน้อยเมื่อเทียบจากริ้วรอยบนใบนั้นก็คือหน้าพงษ์ศักดิ์ ส่วนคนที่จี้ลูกน้องไอ้ยักษ์หน้าตาหลาเหล่าสะอาดสะอ้านก็คือวิศวัท ลูกน้องคนสนิทของณัฐฐาทั้งสองคนดูสุขุมนิ่งสงบแม้แต่ปืนที่ถืออยู่อยู่ก็นิ่งเหมือนสต๊าฟไว้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่มือใหม่
“เข้าไป” เสียงเบาๆ ราบเรียบเย็นยะเยือกของเจ้าของพงษ์ศักดิ์พุ่งผ่านเข้าไปในหูของไอ้ยักษ์ ทำเอามันขนลุกเกลียวไปทั้งตัว เพราะดูจากความใจเย็นที่ผู้บุกรุกแสดงออกมา ถ้าไม่ใช่มืออาชีพก็คือคนที่ทำเรื่องพวกนี้บ่อยครั้งจนชินชา
“พี่ยักษ์ มีเรื่องอะ…” ทศพลหันไปทักไอ้ยักษ์ที่เงียบไป แต่ไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ต้องปล่อยให้เสียงขาดหายไป เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นใบหน้าของเขาก็มีอาการไม่ต่างไปจากไอ้ยักษ์เลยสักนิดเดียว รวมถึงไอ้สองคนที่กำลังเล่นกับหน้าอกคู่สวยที่หันไปมองตามเสียงทศพลก็ต้องหยุดการกระทำด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าหายใจ เพราะอยู่ในสภาพที่ไร้การป้องกันอย่างสิ้นเชิง
“พวกมึงไปกองรวมกันที่มุมห้อง” พงษ์ศักดิ์แค่นพูดออกคำสั่ง น้ำเสียงของมันแฝงไว้ด้วความขุ่นเคืองอย่างมาก สายตาที่มองขึ้นไปบนเตียงนั้นเต็มไปด้วยความแค้น ซึ่งไม่ต่างจากชายวิศวัทที่ยืนจ่อปืนอยู่นอกห้อง
พวกไอ้ยักษ์และทศพลรวมกับลูกมีรวมกันห้าชีวิต กว่าครึ่งมีสภาพเปลือยและเกือบเปลือย พวกมันถูกผลักถูกถีบให้ทยอยเดินไปกองรวมกันที่มุมห้องโดยที่สายตาไม่กล้าละจากกระบอกปืนแม้แต่ชั่วเวลากระพริบตา ก่อนที่จะถูกชายหน้าหล่อสั่งให้นั่งคุกเข่าเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง แล้วชี้ปืนเข้าใส่เป็นการคุมเชิง
พงษ์ศักดิ์เดินตรงไปที่เตียงใหญ่ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของสาวใหญ่ที่นอนแผ่อยู่อย่างรีบร้อนก่อนจะเปล่งเสียงถามเบาๆ “เป็นอะไรไหมครับนายหญิง ขอโทษที่พวกผมมาช้านะครับ”
“ทศ...ฉันบอกแล้วไงให้กลับไปตอนที่ยังมีโอกาส…” สาวใหญ่ขยับตัวยกแขนนึ้นให้ชายร่างกำยำพยุงเธอให้ไปนั่งที่ปลายเตียง สาวใหญ่นั่งลงจ้องหน้ารุ่นน้องอดีตชายชู้ก่อนจะไขว่ห้างอย่างยัวยวน แม้แต่คนที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาายก็ต้องกลืนน้ำลายด้วยความอยากอย่างช่วยไม่ได้
“พี่จ๋า ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมเถอะ ไอ้พวกนี้มันเป็นคนของเสี่ยวีรชัย พวกมันบังคับผม” ทศพลละล่ำละลักโบ้ยความผิดออกจกาตัวเองแบบหน้าไม่อาย
“ไอ้ทศมึง…” ไอ้ยักษ์พูดไม่จบดี พงษ์ศักดิ์ก็เดินจากเตียงเข้าไปหาแล้วเตะเข้าใส่ที่ท้องของไอ้ยักษ์เหมือนกับนักฟุตบอลกำลังยิงลูกโทษที่จุดโทษ ส่งผลให้ยักจุกเสียดจนเปล่งเสียงไม่ออกทันที
“นายหญิงยังไม่ได้พูดกับมึง” พงษ์ศักดิ์ย่อตัวลงมาพูดใส่หน้าไอ้ยักษ์ด้วยเสียงเหี้ยม และแววตาที่เหมือนอยากจะฉีกเนื้อมันออกเป็นชิ้นๆ
“คิดว่าฉันเป็นหมูที่จะยอมให้แกเชือดได้ง่ายๆ รึยังไง” ณัฐฐาพูดออกมาอย่างไว้ตัว เธอไม่ได้ไว้ใจทศพลมาตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนหน้าที่จะถูกพาที่นี่เธอได้แอบกดส่งข้อความฉุกเฉินและเปิดตัวส่งสัญญาณระบุตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือส่งถึงวิศวัทไปเรียบยร้อยแล้ว
“พี่จ๋าผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ” ทศพลก้มกราบร้องขอชีวิต
“ว่าแต่เลือกสถานที่ได้ดีนะ ถ้าทำเสียงดังหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง” ณัฐฐาเปรยกับลูกน้องคนสนิททั้งสองคน
“ครับ พวกผมจัดการรอบๆ เรียบร้อยแล้ว” วิศวัทตอบรับเรียบๆ
“ว่ายังไงทศจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไง” สาวใหญ่มองหน้าทศพลด้วยสายตาที่มีอำนาจจนน่ากลัว
“จะให้ผมทำอะไรก็ยอมครับ ขอแค่ไว้ชีวิตผมก็พอ” ทศพลยกมือไหว้ขอชีวิตปะหลกๆ ไม่สนใจสายตาคนในห้องจะมองเขาอย่างดูถูกยังไง
“งั้นมาทำความสะอาดให้สิ” ณัฐฐายกขาวาดขึ้นเปลี่ยนจากท่านั่งไขว่ห้างมาเป็นท่าธรรมดาแล้วค่อยแยกขาออกให้เห็นกลีบเนื้อที่เต็มไปด้วยน้ำสารพัดที่พวกมันทำเลอะไว้ก่อนหน้าโดยฉพาะน้ำของไอ้ลูกน้องสองคนที่เพิ่งจะชักว่าวใส่เนินเนื้อนูนของเธอเมื่อไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนที่วิศวัทและพงษ์ศักดิ์จะบุกเข้ามา
“ครับๆๆ” ทศพลตอบรัวลิ้น คลานสี่ขาเข้าหาหว่างขาของณัฐฐาอย่างว่าง่าย ความตั้งใจในทีแรกว่าจะเอาตัวรอดไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตามก็ได้หายไป เมื่อได้กลิ่นคาวจากน้ำกามของใครต่อใครทำเอาเขาฉุนกึกที่จมูก เขารู้สึกสะอิดสะเอียนกับสิ่งเหล่านั้น เพระถ้าเป็นแค่น้ำของสาวใหญ่คนสวยคนเดียวคงไม่เท่าไหร่
พงษ์ศักดิ์เห็นชายตรงหน้าไม่ทำตามคำสั่งก็เจ้านายก็เดินเข้าไปจิกหัวหนึ่งในลูกน้องของไอ้ยักษ์ที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุด แล้วลากมันออกมาให้นั่งคุกเข่าใกล้ๆ กับทศพลก่อนจะดึงผมให้มันแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน กำปั้นขวาที่ผ่านการฝึกฝนมาในช่วงวัยรุ่นและใช้มันจนช่ำชองในเส้นทางสายนักเลงถูกยัดเข้าใส่ใบหน้าชายเคราะห์ร้ายที่ต้องรับบทเป็นไก่ถูกเชือดให้ลิงอย่างทศพลดู ทุกหมัดที่พงษ์ศักดิ์ปล่อยใส่หน้าของมันเขาก็จ้องมองไปที่หน้าของทศพลไปด้วย จนพายุหมัดของเขาสงบลงใบหน้าของของลูกน้องไอ้ยักษ์ก็เต็มใบเลือด กำปั้นที่ทั้งหนักทั้งคมฉีกผิวบนใบหน้าให้เกิดเป็นรอยแผลปริแตก รวมทั้งส่วนที่เปราะบางอยู่แล้วอย่างปากและจมูกก็มีเลือดไหลออกมาเต็ม ใบหน้าของชายฉกรรจ์โชคร้ายเละเทะจนแถบจะดูไม่ได้ ก่อนที่พงษ์ศักดิ์จะผลักร่างที่ไม่ได้สติของมันให้ล้มลงไปนอนจูบพื้นแบบไม่ใยดี
ทศพลที่เห็นภาพน่าสยดสยอง ใบหน้าหล่อก็ซีดเหมือนเนื้อไก่ที่ถูกต้มจนสุก ไอ้ยักษ์กับพวกที่เหลือก็รู้สึกไม่ต่างกัน ไม่ต้องมีคำสั่งอะไรเพิ่มเติมทศพลพุ่งหน้าเข้าเลียทำความสะอาดครามน้ำกามให้ณัฐฐาเหมือนหมาที่กำลังเลียน้ำนมในจานอย่างหิวโหย โดยที่ไม่ทีท่าจะรังเกียจเหมือนในตอนแรก
“ไอ้คนตัวใหญ่ตรงนั้นนะ มานี่สิ” สาวใหญ่ถูกเลียอยู่ครู่หนึ่ง ก็ชี้นิ้วไปที่ไอ้ยักษ์สั่งการเสียงหวาน แต่คนที่ได้รับคำสั่งฟังแล้วถึงกับขนลุกซู่ไปทั่วร่าง ไม่รู้ว่าจะถูกทำอะไรบ้าง
“ไปสิ” วิศวัทมองหน้าไอ้ร่างยักษ์แล้วสะบัดบอกทิศทางให้มันคลานไป ทางทศพลพร้อมกับใช้สองมือกุมปืนชี้ไปที่มันไม่ให้เกิดการตุกติก
เช่นเดียวกันกับพงษ์ศักดื์ที่กำหมัดเปื้อนเลือดแน่น มองหน้ามันตาขวางเตรียมตัวจะเข้าไปช่วยให้มันตัดสินใจได้ง่ายขึ้นถ้ามันคิดจะขัดขืน
ไอ้ยักษ์เห็นสภาพลูกน้องของตัวเองรับหมัดของพงษ์ศักดิ์ไปก่อนหน้าก็ไม่กล้าหือ ด้วยความที่เสียเปรียบอยู่ทุกประตู อย่าว่าแต่ฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธร้ายคอยข่มขู่เลย ถ้าต้องลุกขึ้นมาชกกับชายตรงหน้าตัวต่อตัวอย่างยุติธรรม ก็แทบจะไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องคิดให้นานไอ้ยักษ์ก็ยอมทำตามที่สั่ง
“ทศใช้ปากให้หน่อยสิ” สาวใหญ่ออกคำสั่งอีก
ทศพลพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่ไม่เข้าใจคำสั่งเพราะตอนนี้เขาก็ยังทำหน้าที่ที่ว่านั้นอยู่แล้ว ณัฐฐาดันหน้าของทศพลให้หันไปหาไอ้ยักษ์แล้วชี้นิ้วออกไป พร้อมกับส่งยิ้มให้เขาอย่างเลือดเย็น ทศพลกลืนน้ำลายดังเอือกทันทีที่มองเห็นหน้าของสาวใหญ่ ก่อนจะเหลือบไปมองชายร่างกำยำที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสายตาที่พร้อมจะฆ่าแกงใครก็ได้ถ้าเจ้านายสั่งมา ทศพลจำใจคลานไปหาไอ้ยักษ์ที่ถูกวิศวัทสั่งให้ยืนขึ้นแล้วถอดกางเกงชั้นในออก
ทศพลจ้องมองท่อนเนื้อที่เหี่ยวสนิทเพราะความกลัวก่อนจะทำใจอยู่นิดหน่อย เขาที่ไม่อยากมีสภาพเหมือนลูกน้องเคราะห์ร้าย ก็กลั้นใจอ้าปากแล้วอมท่อนเนื้อของไอ้ยักษ์เข้าปากไป ในทีแรกเขาทำท่าเหมือนกับจะอ้วก เพราะขยะแขยงแต่เมื่อเทียมกับความตายที่ยมฑูตสองตนยืนจ้องจะหยิบยื่นให้ถ้าเขาขัดขืนแล้วละก็ เรื่องแค่นี้เขาทนได้
แม้จะไม่มีอารมณ์ร่วมและทั้งคู่ก็ไม่ได้เป็นคนประเภทที่ชอบไม้ป่าเดียวกัน ร่างกายก็ตอบสนองไปเองตามธรรมชาติ ทศพลใช้ปากอยู่ครู่ใหญ่ท่อนเนื้อก็แข็งขึ้นมาได้แม้จะเป็นปากของเพศเดียวกัน
“พร้อมแล้วก็จัดการซะสิ” สาวใหญ่สั่งการฝืนใจคนอย่างเลือดเย็น
“กูไม่ใช่…” ไอ้ยักษ์กัดฟันกรอดหุบปากแทบไม่ทันเมื่อถูกปากกระบอกปืนดันใส่ที่ท้ายทอย
“ทำ หรือจะตายตรงนี้” วิศวัทสั่งเสียงเข้ม
ไอ้ยักษ์จนใจต้องทำตามคำสั่งน่าอัปยศสร้างความเจ็บให้กับร่างกายและศักดิ์ศรีของชายทั้งคู่ เสียงเนื้อแข็งๆ กะทบกันและเสียงร้องระบายความเจ็บปวดของฝ่ายรับดังระงมไปทั่วห้องอยู่พักใหญ่ ณัฐฐาที่ยืนดูจนพอใจและสะใจก็เริ่มใส่เสื้อผ้าไปด้วย
“ฉันกลับก่อนนะ จัดการเรื่องให้เรียบร้อยด้วยละ” สาวใหญ่ไม่ดูต่อจนจบ พอแต่งตัวเสร็จก็เดินทางกลับทันที และปล่อยเรื่องที่เหลือให้คนสนิทดูแลต่อ
……….……….……….……….……….
พวกไอ้ยักษ์ถูกพาตัวขึ้นรถมาที่กระชังปลาปลาขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในเขื่อนใกล้กับสันเขื่อน แหล่งน้ำหลักที่ใช้ทำการเกษตรของอำเภอในเวลากลางดึก รอบบริเวณทั้งมืดทั้งเปลี่ยว จะมีแสงไฟก็แค่ที่อาคารเก็บของของกระชังปลา ส่วนกระชังปลาของเจ้าอื่นก็อยู่ห่างออกไปไกลลิบ เพราะหวาดกลัวพวกลูกน้องของกำนันที่ชอบเอาปืนมายิงเล่นเป็นครั้งคราวเวลาที่มาเฝ้าที่นี่
พงษ์ศักดิ์สั่งพวกลูกน้องให้นำตัวเหล่าชายฉกรรจ์ที่อาจหาญมาลูบคมนายหญิงของเขาที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้ ลงมาจากรถแล้วพาไปกองรวมกันที่แพหลัก ส่วนพวกที่เหลือวิศวัทจัดการพาตัวไปที่สวนมะม่วง เมื่อพกวมันมาถึงเขาก็จัดให้พวกมันนั่งคุกเข่าเรียงแถวหันหน้าเข้ากระชังเลี้ยงปลา ชายทั้งหมดหน้าซีดตัวสั่นเหมือนหนาวจัดทั้งที่อากาศร้อน แขนขาถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นโตแน่นหนาจนเหมือนเลือดจะเดินได้ไม่สะดวก
“สวัสดีครับลุง” พงษ์ศักดิ์ยกมือไหว้ชายกลางคนร่างท้วมหัวล้านสวมผ้ากันเปื้อนแบบกันน้ำยาวเลยหัวเข่า ที่กำลังเดินออกมาจากห้องเก็บของแพเพื่อมาดูเหตุการณ์ ด้วยท่าทางงกๆ เงินๆ
“โอ้โห วันนี้มากันเยอะเลย สงสัยต้องยุ่งทั้งคืน” ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างใจดีให้พงษ์ศักดิ์ ก่อนจะเดินมาดูกลุ่มชายเคราะห์ร้ายที่กำลังจะกลายเป็นอาหารปลาในคืนนี้
“ขอโทษครับ ที่รบกวนตอนดึกๆ” พงษ์ศักดิ์ยกมือไหว้นอบน้อม
“ไม่เป็นไรๆ นี่มันงานลุงอยู่แล้ว รีบหน่อยละกัน” ชายวัยกลางคนโบกมือไม่ถือสาแล้วเดินกลับเข้าเตรียมเครื่องมือต่อในห้อง
“ปัง!” กระสุนหนึ่งนัดนัดสำหรับชายเคราะห์ร้ายคนแรกที่อยู่ริมสุดของแถวถูกลั่นออกมาจากปืนของหนึ่งในลูกน้องของพงษ์ศักดิ์ จากนั้นร่างไร้วิญญาณร่างแรกก็ถูกลากเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยมีดขนาดต่างๆ สำหรับแล่และชำแหละเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังมีเครื่องจักรสำหรับบดเนื้อสัตว์ขนาดใหญ่อยู่ด้วย ซึ่งก็เป็นห้องเดียวกับที่ชายวัยกลางคนก็กำลังลับมีดอยู่ เสียงปืนดังขึ้นอีกสองนัด และร่างทั้งสองก็ถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับคนก่อนหน้า
“ปัง ปัง ปัง” เสียงปืนหลายนัดดังสนั่นเหมือนมีการจุดประทัดแก้บน แสงประกายไฟแลบออกมาท่ามกลางความมืดจากทางสันเขื่อน กลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายและไม่ทราบจำนวนทำสาดกระสุนราวกับห่าฝนเข้ามาที่แพ พงษ์ศักดิ์และลูกน้องต่างก็โผเข้าหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น ก่อนจะค่อยๆ ตั้งหลักจับกลุ่มกันแล้วยิงต่อสู้สวนออกไป ส่วนพวกไอ้ยักษ์ที่ขยับตัวได้ไม่ถนัดก็ทำได้แค่นอนราบไปพื้นมีบางคนโดนลูกหลงก็ลงนอนดิ้นอยู่ใกล้ๆ
“ไอ้ทศรีบแก้เชื่อกให้กูเร็ว” ไอ้ยักส่งเสียงร้อนให้ทศพลที่อยู่ข้างๆ หวังจะใช้จังหวะชุลมุนในการหลบหนี
“ทำ...ยังไง...ผมแก้...ไม่เป็น” ทศพลตอบกลับกลัวๆ เสียงปืนดังขึ้นกี่ครั้งเขาก็สะดุ้งตัวตกใจไปเท่านั้นครั้ง
“งั้นมึงหันหลังมาชนกับหลังกูเร็ว” ไอ้ยักษ์ร้องเร่งแข่งกับเวลา
ทั้งคู่กระเสือกกระสนอย่างยากลำบากจนในที่สุดก็สามารถหันหลังเข้ามาประกบกันจนได้ ไอ้ยักษ์ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งก็สามารถแก้เชือกที่ข้อมือของทศพลได้ ระหว่างนั้นเสียงกะสุนก็ยังคงดังต่อเนื่องจนฝ่ายคนของกำนันไม่มีเวลาได้ทันสังเกตุการหลบหนีของคนที่จับมา
“เอามึงมัวทำอะไรอยู่ รีบมาช่วยกูสิ” ไอ้ยักษ์เริ่มหัวเสียที่ทศพลทำอะไรชักช้าไม่ได้ดั่งใจ
“ส้นตีนเถอะคนระยำอย่างมึงเน่าตายอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว นี่สำหรับที่เอาเมียกูแล้วก็เอาตูดกู” ทศพลพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้น พอพูดจบก็ออกแรงยันร่างของไอ้ยักษ์ให้ตกลงไปในน้ำ
“ตูม” เสียงร่างใหญ่ตกลงน้ำเสียงดังสนั่น ไอ้ยักษ์ที่ถูกมัดแน่นหนาไม่สามารถว่ายน้ำได้ ร่างใหญ่ก็ค่อยๆ จมลึกลงไปใต้น้ำ ด้านทศพลรวบรวมความกล้าอาศัยที่พวกของพงษ์ศักดิ์ไม่ทันตั้งตัว ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีขึ้นฝั่งแล้ววิ่งไปทางสันเขื่อนในทิศทางตรงกันข้ามกับเสียงปืนจนหายเข้าไปในความมืดได้สำเร็จ
“ยิงสะกัดพวกมันไว้ก่อน แล้วรอสัญญาณถอยจากฉัน” กันธิชาที่ส่องกล้องทางไกลดูอยู่เมื่อเห็นทศพลหนีออกมาได้ก็ขับรถไปตามสันเขื่อนไปรับตัว
เสียงปืนดังขึ้นอยู่พักใหญ่ก็สงบลง รถหลายคันที่จอดอยู่บนสันเขื่อนได้ถอนกำลังออกไปหมดแล้ว ด้านพงษ์ศักดิ์เดินกลับมาสำรวจดูคนของตัวเองที่บางคนก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บางคนที่ไม่เป็นอะไรก็เข้าไปดูอาการเพื่อน จนเมื่อเดินมาถึงแพหลักก็มีลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน “มันหนีไปได้คนหนึ่งพี่”
“เอาไงต่อดีพี่” ลูกน้องอีกคนถาม
“พวกมึงไปช่วยลุงเขาจัดการต่อให้เสร็จ เดี๋ยวให้นายหญิงจัดการเรื่องตำรวจให้” พงษ์ศักดิ์ตอบเรียบๆ ก่อนจะยกโทรศัพท์รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับณัฐฐา
……….……….……….……….……….
ห้องพักผู้ป่วยในระดับพิเศษด้านในถูกตกแต่งไม่ต่างจากห้องพักหรูของโรงแรมระดับห้าดาว กลุ่มชายหน้าเหี้ยมห้าคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานก้มหน้าสลด สองมือประสานกุ่มเป้า ไม่กล้าที่จะสบตาคนที่นอนอยู่บนเตียง
“ไอ้สัตว์เอ้ย ตายห่าไปแล้วยังมาตามรังควานกูได้อีกนะ อูยยย” กำนันประเสริฐตะวาดลั่นไม่สนใจกฏของโรงพยาบาลที่ให้งดใช้เสียงเพื่อความสงบสำหรับการพักฟื้นร่างกาย ก่อนจะต้องเอามือมากุมที่ขมับเพราะรู้สึกหน้ามืดขึ้นมากระทันจากความดันที่พุ่งขึ้นสูงปรี๊ดในเวลาอันสั้น หลังจากได้รับรายงาน
“ใจเย็นๆ ก่อนพี่กำนัน เดี๋ยวอาการก็ทรุดหรอก” ณัฐฐาที่นั่งอยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคองดูอาการพร้อมกับบีบนวดเบาๆ ที่ต้นคอ
“มึงแน่ใจนะว่าไอ้พวกเหี้ยนั้นไม่ได้เมายาจนหลอน” กำนันที่คลายความมึนหัวไปได้หน่อยหันกลับไปถามมือขวาคนสนิท
“ถึงพวกมันจะหลอนยังไง ยากับเงินก็หายไปจริงๆ นะกำนัน” ไอ้รถถังพูดอธิบายเสียงสั่น มีอาการหวาดกลัวให้เห็นอยู่บ้าง เวลาแบบนี้เขาก็เป็นแค่ไม่กี่คนที่เข้าหน้ากำนันประเสริฐได้
“มึงให้พวกมันออกไปตามหายากลับมาให้ได้ ไม่งั้นมันมีปัญหาแน่” กำนันประเสริฐออกคำสั่งเสียงเข้ม ใบหน้าจริงจัง พร้อมกับคาดโทษไว้ด้วย
“ครับ...” พวกลูกน้องรับคำแล้วรีบหลบออกจากห้องก่อนที่ผู้อิทธิพลจะเปลี่ยนใจเป็นอื่นแล้วจะซวยกันหมด
“ไอ้รถถัง...มึงไปตามอาจารย์แทนกูหน่อย กูมีเรื่องจะให้แกช่วยหน่อย”
“ได้ครับกำนัน” ไอ้รถถังก้มหน้าหงุดๆ รีบไปจัดการสนองความต้องการของนายทันที
หลังจากพวกลูกน้องทยอยกันออกไปจากห้องพิเศษของโรงพยาบาลภายในห้องก็เหลือเพียงกำนันประเสริฐกับณัฐฐา บรยากาศในห้องค่อนข้างตึงเครียดด้วยอารมณ์ของผู้มีอิทธิพลยังคงครุกรุ่นอยู่จากเรื่องก่อนหน้า
“จ๋าเมื่อคืนคุณมัวไปทำอะไรอยู่ ทำปล่อยให้เกิดเรื่องวุ่นวายได้”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะมีคนมาปล้นยา หรือมีคนจะมาถล่มแพปลา พี่กำนันเองก็ยังไม่รู้เลยไม่ใช่เหรอ” สาวใหญ่มองอย่างไม่พอใจ
“แต่หลังจากเรื่องเกิดแล้วทำไมคุณไม่ไปดูแล”
“จะให้ฉันตามล้างตามเช็ดให้ทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะ ฉันก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ เช้าต้องทำบุญบ้าน สายก็ต้องไปตรวจงานแทน เย็นก็เข้ามาดูพี่ กลับไปก็ต้องตรวจบัญชีอีก” ณัฐฐาร่ายยาวบ่นเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างกลบเกลื่อนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“พี่ขอโทษ พี่คงจะอารมณ์ขึ้นมากไปหน่อย อย่าโกรธเลยนะ แล้วลูกปลาเป็นยังไงบ้าง” กำนันหุ่นหมีเสียงอ่อยเมื่อภรรยารักทำท่าจะงอนเขาจึงรีบง้อก่อนทันที
“เมื่อวานแวะเข้ามาเอาเสื้อผ้าตอนบ่าย ตอนนี้ไปอยู่ที่รีสอร์ตแล้ว พี่ไปทำอะไรให้ลูกโกรธกันแน่ ลูกถึงไม่ยอมอยู่บ้าน ไม่ยอมมาเยี่ยมด้วย”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
……….……….……….……….……….
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน