สวัสดีครับ ตอนนี้คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่พวกเรา
ต้องช่วยเหลือกันแล้วล่ะครับ ผมหวังว่างานเขียนเล็กๆนี้
จะช่วยทำให้หลายๆท่านผ่อนคลายความเครียด ความกังวล
กับสิ่งที่มันกำลังเกิดขึ้นกับหลายๆคน ไม่มากก็น้อยนะครับ
ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย
แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน
รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด
และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ มันเป็นกำลังใจอย่างดี
อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้
ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ
เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา
★★★★★★★★★★★ปล.1 รุกะ เวอร์ชั่นไทย
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★ปล.2 ตอนนี้มีคำหยาบที่ไม่ค่อยเหมาะสมครับ
★★★★★★★★★★★ความเดิมตอนที่แล้ว
อยู่ดีๆผมก็เจอเจ๊จ๋า ที่คิดว่าตอนนี้ยังอยู่ที่ซิดนีย์
แล้วยังมีพี่เตยอีก ซึ่งตอนผมเองก็โดนทั้ง 3 คนเรียกให้เข้ามาในห้องครับ
แล้วก็ไม่รุ้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
★★★★★★★★★★★นายโทนไดอารี่ 59
โอย นี่มันเวรกรรมอะไรของผมน๊อแล้วสถานการณ์แบบนี้มันอิหยังกันวะ คือฟูกที่นอนของผมมันก็หนาไม่มากนะ แค่ 2 นิ้วหน่อยๆ แต่ทำไมรู้สึกว่า 3 คนนั้นอยู่สูงแปลกๆ คือไม่ใช่คิดว่าตัวเองต่ำต้อยนะ แต่ดูเหมือนว่าเถียงยังไงก็ไม่มีทางรอดแน่ๆเลย
เอาวะต้องสู้เท่านั้น ผมจะลุกขึ้นครับ แต่แค่ตั้งเข่าขึ้นเท่านั้นแหละ
[ พี่จ๋า ] : ใครบอกให้ลุกเจ้าโทน
ผมนี่สะดุ้งเลยครับ ผมกลับลงมานั่งเรียบร้อยเลย อ้อผมนั่งแบบที่นักกีฬายูโดนั่งกันนะในตอนนั้น ไม่ได้นั่งขัดตะหมาดแบบชิวๆ หรือนั่งพับเพียบพนมมือ คือด้วยความเคยตัวไงก็นั่งแบบนั้นมาตั้งกี่ปีอ่ะคิดดูดิ่ ผมถอนขาลงมานั่งอีกครั้ง
ผมก็ถามว่าเจ๊จ๋าทำไรเนี่ย เจ๊จ๋าก็บอกว่าไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี เดี๋ยวนี้นิสัยเสียขนาดนี้เลยเหรอหืม ผมก็ถามนะว่าผมทำอะไรเหรอครับ แล้วเจ๊จ๋าก็โอบไหล่พี่หมิวกับพี่เตยเลย คือพี่จ๋านั่งกลางนะ พี่หมิว พี่เตยนั่งข้างๆ พี่จ๋าบอกก็นี่ไงผลงานของเราน่ะหืม
อ่ะเฮือก อิหยัง มันคืออิหยัง ผมก็เหวอแดรกเลยตอนนั้นก็ยังตีเนียนถามไปนะว่าอะไรเหรอเจ๊จ๋า ปุ้ง !!! อยู่ดีๆพี่เตยก็กระแทกส้นเท้าลงพื้น แล้วเข้าใจไหมครับว่าบ้านผมมันเป็นบ้านไม้น่ะชั้นบน ก็เป็นแผ่นไม้กระดานเหมือนบ้านเก่าๆนั่นแหละ กระแทกแบบนั้นมันก็เสียงดัง
ผมสะดุ้งเลย เธอกระแทกแล้วก็ทำหน้าไม่พอใจ เจ๊จ๋าก็หันไปโอ๋ๆ ๆ ๆ ใจเย็นๆนะตัวเล็กให้ตัวโตพูดก่อน นั่นไง !!! นั่นแหละที่ผมกลัว พี่จ๋าเธอเป็นพวกสายขยี้ครับ พี่เตยก็หันไปพูดว่าจ๋า ตกลงว่าจ๋าเข้าข้างใครเนี่ย พี่จ๋าจ้องหน้าพี่เตยแล้วพูดว่า ชั้นเหรอชั้นอยู่ข้างตัวเองแค่นั้นแหละ
เอ้าอะไรวะนั่นน่ะ แล้วตอนนั้นผมคิดห่าคิดเหว อะไรอยู่ไม่รู้ผมจะชิ่งเว้ย จะกระดื๊บ กระดื๊บบ ออกนอกห้องแต่พี่หมิวก็พูดขึ้นมาว่า ออกไปก็ได้นะไม่ว่าอะไร แต่คิดว่าจะหนีได้กี่น้ำ กึ๋ย !!! อีกแล้ว โว๊ยยย อะไรเนี่ยหนีไม่ได้เลย ทั้งที่เมื่อก่อนก็หนีได้ไวกว่านี้แท้ๆ
ผมก็นั่งเหมือนเดิมโอยยอะไรเนี่ย ผมก็บอกว่าผมมีงานต้องไปทำนะ เจ๊จ๋าก็บอกอะไรงานอะไร งานสำคัญกว่าเจ๊ 3 คนเหรอ ผมบอกว่ามันก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอกแต่ผมเป็นเจ้าของบ้านไงถ้าไม่ไปต้อนรับมันก็ยังไงอยู่นะเจ๊จ๋า
แล้วพี่จ๋าก็ถามว่าแล้วเจ๊สามคนไม่ใช่แขกเหรอ แล้วจะไม่ดูแลเหรอ แน๊ะ !!! ยังไม่หยุดอีก แล้วเจ๊จ๋าก็เริ่มพูดเลยว่าไหนเราเคยคุยกันแล้วไงว่าจะไม่ทำให้เพื่อนเจ๊สองคนนี้ผิดใจกันน่ะ พี่จ๋าพูดมาแบบนี้ผมก็สะดุ้งอ่ะสิ่ แล้วไม่เท่านั้นนะ ทั้งสองคนก็หันไปมองหน้าพี่จ๋า
แล้วถามว่าไปพูดกันตอนไหน ยังไงจ๋า บอกมาพูดอะไรกัน แล้วเจ๊จ๋าคือชิลด์มากครับพี่จ๋าเอามืออุดหูสองข้าง สวยๆเชิดๆ แล้วยิ้มให้ผมอีก แล้วก็พูดว่าเจ้าโทนสองคนนี้เลิกบ่นเจ๊ยัง เจ๊จะได้เอามือออก ตอนนั้นพี่หมิวพี่เตยก็หยุดครับ ผมก็เลยพยักหน้าเป็นคำตอบแทน
พี่จ๋าก็เอามือออกแล้วเป่าที่นิ้วเบาๆครับ พี่จ๋าเขาพูดว่าก็ชั้นเคยคุยกับเจ้าโทนนานแล้วว่า ถ้าชั้นไปเรียนต่างประเทศแล้วให้ดูแลเพื่อนๆสุดที่ร๊ากสองคนให้ดีๆแล้วก็อย่าทำให้เสียใจ อย่าดื้อ อย่าซน แล้วนี่ดูซิ๊ก่อเรื่องอีกจนได้ แล้วตอนนั้นพี่เตยก็ได้ทีครับ เธอพูดขึ้นมาเลยว่า
มันเกินไปนะจ๋าที่มาทำแบบนี้น่ะเรารับไม่ได้หรอก พี่จ๋าก็หันไปถามว่าที่รับไม่ได้คืออะไรเหรอยัยเตย อ๋อที่แกมาก่อนหมิวแต่ว่าหมิวหิ้วไปกินก่อนอ่ะเหรอ อื้มแย่เลยสิ่เนี่ย เอ่อแย่ ผมนี่แหละแย่คือตอนนี้คำพูดของพี่จ๋าทุกคำเหมือนการชุดไฟแช็คอ่ะ
แชะ แชะ แชะ แชะ จุดแบบเล่นๆ ให้เกิดประกายไฟ แต่ก็ไม่รู้ว่าไอ้ประกายไฟนั่นมันจะทำให้ระเบิดอย่างพี่เตยติดพรึ่บ ตู้ม !!! ขึ้นมาเมื่อไร พี่จ๋าก็แชะ แชะ เฮ้ย ๆ ไม่ใช่ๆ พี่จ๋าก็ยังไงพูดไปเรื่อยครับ แต่พี่เขาพูดเข้าประเด็นนะไม่ใช่ว่าอ้อมไปอ้อมมา
แล้วก็วนมาหาผม ไหนพูดมาหน่อยซิ๊ว่าทำไมถึงผิดสัญญากับเจ๊ นี่เจ๊ไปเรียนแบบสบายใจเพราะเชื่อว่าน้องชายเจ๊รักษาสัญญาได้นะเนี่ย ผมก็บอกว่าผมทำเต็มที่แล้วนะเจ๊จ๋า แต่ต่างคนบางครั้งก็มีชีวิตในแบบตัวเองอ่ะ จะให้ผมไปตามจู้จี้จุกจิกพี่สองคนมันก็ใช่เรื่องนี่
พี่เตยก็ชอบฟังเพลงเฉยๆ ถ้าไม่เรียกก็ห้ามเข้าใกล้ ส่วนเจ๊หมิวก็เรียนต่อป.โท จะให้ผมตามไปอยู่สังคมแบบนั้นผมคงได้กระทืบเพื่อนพี่หมิวหมดแน่ๆ แต่ละคนปากหมาชิบเลย แล้วเจ๊จ๋าก็บอกหยุดๆ ๆ ๆ อย่าชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด เจ๊ถามว่าทำไมถึงทำให้เพื่อนเจ๊เสียใจ ไหนบอกมาหน่อย
ผมก็เงียบสิ่ ก็ไม่รู้ว่าจะตอบตรงไหน เพราะมันหลายประเด็นเหลือเกินตอนนี้ ... ตอนนั้นพี่หมิวก็พูดขึ้นมาว่า ไม่พูดล่ะ ผมก็มองหน้าพี่หมิวเลยคือก็แอบเคืองนิดนึงนะว่าทำไมต้องมากดดันผมด้วยล่ะ ก็ผมรู้ตัวแล้วว่าทำไม่ดีลงไป ผมไม่เคยขอให้เจ๊มาเห็นใจนะเอาจริงๆ
ผมดีใจที่เจ๊กับพี่เตยยังพูดดี ยังคุยกันดี ยังคบกันอยู่ แต่ผมรู้สึกว่าเจ๊จะสนุกกับการที่ผมเป็นแบบนี้จริงๆเลยแฮะ เจ๊จ๋าก็ถามว่าทำไมผมไม่พูด ไม่รู้สิ่ครับท่านผู้อ่านเหมือนผมกำลังโดนกดดัน กดดัน กดดัน กดดัน จนความเครียดที่มีมันเริ่มเยอะ เยอะ เยอะ เยอะ
พี่เตยก็พูดว่าเสียเวลามากเลยอ่ะจ๋ามาแค่นี้อ่ะนะ ร้อนก็ร้อน แอร์ไม่มีอีก และก็รู้ใช่มั้ยครับทุกคนว่าผมตอนนั้นยังเก็บอาการได้ไม่ดีเท่าไร จนสุดท้ายปั้ง !!! ผมต่อยเข้าพื้นบ้านเลย เสียงนี่ดังสนั่นไปทั่วพร้อมกับเสียงที่ผมได้ยินอยู่คนเดียว กรึ่กกก อ่าส์ไปแล้วสิ่นะกระดูกข้อมือ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลงมีแต่เสียงผม ที่หายใจฟื้ดฟ้าดเพราะพยายามเก็บอารมณ์อยู่ แต่มันก็ไม่ไหวแล้ว
ผมกัดฟันพูดพยายามกลั้นไม่ให้อารมณ์ระเบิดไปมากกว่านี้ ผมถามว่าสนุกกันมั้ยที่มาทำกันแบบนี้ พอใจมั้ยที่มากดดันผมกันแบบนี้ พี่เอางานมาให้ผมรับผิดชอบ เอาคนใหญ่คนโตมาบ้านผมโดยที่ไม่บอกผมซักคำ แล้วยังเอาผมขึ้นมานั่งให้โขกสับกันแบบนี้เหรอ พี่จ๋ายังบอกอยู่นะว่า แล้วมันเป็นความผิดใครล่ะหืม
ผมบอกโอเคมันเป็นความผิดผมเองแหละ ผมใช้กำลังปล้ำพี่หมิววันนั้นโอเคมั้ย แจ้งตำรวจจับผมเลย คราวนี้พี่จ๋าบอกเดี๋ยวมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว ทำไมใจร้อนแบบนี้ ผมบอกเอ้อ ผมก็เป็นแบบนี้แหละพวกพี่จะมารับรู้อะไรว่าผมต้องเจออะไรบ้าง วันๆผมต้องทำงานหนักแค่ไหน ผมต้องโดนด่าวันกี่รอบ วันหยุดผมไม่ได้หยุด ผมต้องมาทำอะไรแบบนี้
ผมไม่ได้คาบช้อนเงิน ช้อนทองเกิดมาแบบพวกพี่ที่มีทุกอย่างรอรับเอาไว้แล้ว บ้านผมไม่มีแอร์แล้วไงวะ ใครใช้ให้มากัน ต่อจากนี้ไปก็ไม่ต้องมาบ้านผม บ้านผมมันจนไม่เหมือนบ้านพวกพี่ที่ไม่รู้จักคำว่าร้อน ผมพอใจในบ้านผมตอนนี้ พี่หมิวก็พูดว่าพูดดีๆหน่อย มากไปมั้ย แล้วตอนนั้นไปแล้วสติผมไปแล่วววว ผมเดินไปหยิบเสื้อในตู้มันเป็นเสื้อที่พี่หมิวเคยซื้อให้ ผมบอกกับท่านผู้อ่านเลยว่า
ใส่ไปไม่กี่ครั้งแล้วไปซื้อไอ้ถุงที่กันฝุ่นอ่ะมาใส่ ผมบอกพี่หมิวนี่เสื้อผ้าที่พี่ซื้อให้ผม ผมขอคืนให้แล้วเงินผมจะคืนให้ทุกบาท ผมบอกพี่เตยว่าหมัดสัปดาห์หน้าผมจะย้ายออกจากหอพักแล้ว เงินค่าประกันผมไม่เอา อะไรที่เคยติดไว้ผมจะจ่ายให้หมด พี่จ๋าบอกโทนหยุด หยุดเดี๋ยวนี้ ผมก็ไม่หยุดหรอกครับตอนนั้น
พี่เตยก็พูดว่าแล้วจะมีที่ซุกหัวนอนเหรอ ผมบอกข้างถนนผมก็นอนได้ ถ้าไม่ต้องตื่นมาแล้วเจอพี่พูดใส่แบบนี้ทุกวัน ข้างถนนผมก็นอนได้ ผมนอนป้ายรถเมล์ยังเคยนอนมาแล้ว มันคงไม่ตายหรอก เอ้อผมผิด ผมผิดเองทั้งหมดจบมั้ย ถ้าไม่พอใจตามตำรวจมาจับผม หรือไปบอกพี่แมนให้มากระทืบผมเลยก็ได้ แล้วพี่เตยก็เหมือนจะโมโหนะพี่เตยขึ้นเสียงว่ารู้หรือเปล่าว่าตัวเองเป็นคนผิดทำไมขึ้นเสียง
ผมพูดนะว่า เออผมผิดพี่คิดว่าผมมีความสุขมากนักเหรอ คนที่ผมชอบคนที่ผมกล้าไปหากล้าเปิดหน้าตัวเอง เพราะมั่นใจว่าเขารับกับหน้าตาของผมได้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขามีแฟน พี่ว่าผมเต็มใจไปเจอพี่หมิวที่สยาม พี่คิดว่าผมมีความสุขเหรอที่พี่หมิวมองผมหัวจรดเท้า พี่พาผมมาอยู่สังคมที่เจอหน้ากันครั้งแรกก็มองยันปลายตีนพี่คิดว่าผมชอบมั้ย
พี่คิดว่าผมจะรับกับเรื่องพวกนี้ได้เหรอ ผมจะออกจากชีวิตพี่แต่พี่ก็ยังมาดึงผมกลับมาเจอกับอะไรอีก พี่รู้มั้ยว่า ผมต้องเหนื่อยแค่ไหนกับการที่ต้องพยายามโกหกเรื่องที่เราเคยเป็นอะไรกัน พี่เคยรู้มั้ยว่าผมกดดันแค่ไหนที่ต้องมาอยู่ข้างๆพี่หมิว ผมรู้สึกผิดกับพวกพี่สองคน ผมอยากออกมาห่างๆ
พี่คิดว่าผมมีความสุขกับสิ่งที่พี่ยัดเยียดให้ผมนักเหรอ ตอนนั้นคือผมลืมไปหมด ลืมความผูกพันลืมเรื่องทุกๆอย่างไปหมดเลย มาคิดย้อนหลังตอนนั้นผมก็หลุดไปเหมือนกันนะ ไม่รู้สิ่ครับผมอาจจะยังรับกับความกดดันไม่ได้ ยิ่งเป็นความกดดัน และคำพูด จากคนที่เราคิดว่าเป็นที่พึ่งทางใจได้
มันคงจะเหมือนรู้สึกว่า ความเชื่อใจพังทลายไปแล้ว อ่ะกลับมาต่อผมคิดนะ ทำไมผมต้องมาโดนทำเหมือนเป็นเรื่องตลกเลย ผมเครียดจะตายห่าอยู่แล้ว ผมพูดไปน้ำตาก็ไหลไปนะว่าพี่จ๋าที่เหมือนเป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่ก็ยังมาทำเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันตลกนัก เอ้อ !!! ผมผิด ผมแม่งผิดทุกอย่างแต่ทำไมต้องมาช่วยกันซ้ำเติมหัวเราะผมด้วย ถ้าจะนัดกันมาแล้วมาทำให้ผมเป็นตัวตลกแบบนี้
พี่น้องอะไรนี่ก็ไม่ต้องเป็นแล้ว พี่กลับไปอยู่ในสังคมของพวกพี่เหอะ ผมผิดเองที่ก้าวเข้าไปหาพวกพี่ แม่งเอ๊ย !!! ก็รู้นะว่ามันไม่ถูกที่ผมไปพูดแบบนั้นกับพวกพี่ๆเขา แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวจริงๆ ผมถีบประตูห้องโคร้มออกมา เอ่อแล้วก็จะพยายามกลั้นเสียงไว้ทำไมวะตอนแรก
ผมเดินออกมาจากบ้านเลย เดินไปหาที่สงบสติอารมณ์ตัวเองก่อน ตอนนั้นผมพึ่งเห็นว่าหนังที่สันหมัด มันเปิดถลอกจนเห็นเนื้อใน ผมคงต่อยลงพื้นไม้โดยที่ไม่ได้ยั้งเลยสิ่นะ ตอนนั้นมันยังชาๆอยู่แต่อีกเดี๋ยวมันก็คงเจ็บแล้วล่ะ ก็ดีจะได้ไม่ลืมว่าวันนี้ชีวิตแม่งบัดซบส้นตีนแค่ไหน
แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังเท่าไรหรอกครับชีวิต ผมอยากนั่งอยู่คนเดียวเฉยๆไม่ทำอะไร แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย ผมก็ต้องกลับไปที่ท่าน้ำเพื่อคอยบริหารพวกคุณเคย์ มันไม่ยุติธรรมเลยนะเอาตรงๆ พวกเขาได้หยุดพักผ่อนกัน ส่วนผมต้องมาคอยต้อนรับ และบริการ วัดหยุดเหมือนกัน แต่พอเป็นคนละฐานะมันกลับใช้ชีวิตต่างกันเลย และแล้วมันก็มาครับความเจ็บปวดที่มือ ผมคิดว่าอาจจะมือของผมน่าจะมีปัญหาแล้วล่ะ เพราะมันจับอะไรก็เจ็บครับ ยอมรับนะว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ยั้งคิด
แต่มันเหมือนความเชื่อใจโดนทำลายน่ะ พี่จ๋าที่ผมคิดว่าเข้าใจผมมากที่สุด มากกว่าพี่หมิวด้วยซ้ำกลับมาแหย่ผมไม่หยุดสักที เรื่องที่ทำวันนั้นมันกลับมาเล่นงานผมจนได้สิ่ครับท่านผู้อ่าน ผมยืนมือสั่นอยู่แบบนั้น สั่นเลยอ่ะ แล้วหนังเปิดก็แสบชิบเลย แม่งปวดตุ้บ ๆ ๆ ๆ ๆ ตามจังหวะหัวใจเต้นแล้วสูบฉีดเลือดอ่ะ จนผมทนไม่ไหวต้องเดินเลี่ยงมา รุกะเดินมาถามผมว่าผมเป็นอะไรไหมสีหน้าดูไม่ดีเลยผมก็ส่ายหน้าบอกไม่มีอะไรครับ รุกะไปนั่งพักเถอะ ว่าแต่ชอบบรรยากาศแบบนี้มั้ยครับ รุกะยิ้มแล้วบอกว่าชอบมากค่ะ
ซารุซังมีบ้านที่ดีมากเลยนะคะ ผมก็บอกว่าแต่ก็คงสู้บ้านของคุณรุกะไม่ได้หรอกครับ เธอมองหน้าผมนะแล้วถามว่า พูดอย่างกับว่าเคยเห็นบ้านของชั้นน่ะค่ะ ผมก็บอกว่าไม่บอกก็รู้ว่าต้องสวยและต้นไม่เยอะมากๆแน่ เพราะดูคุณรุกะไม่ถือกับพวกดินหรือขี้โคลนพวกนี้เลยนี่ครับ
รุกะก็เดินมาใกล้ๆผมนะตอนนั้น เธอก็ถามว่าก็ไม่เห็นมีอะไรน่ารังเกียจนี่คะ เอ้อแปลกนะมันเหมือนว่าพอได้รู้ว่าเราเคยเจอกันมาก่อนตอนที่ปาย พอรุกะเธอได้บอกผมว่าตอนนั้นผมไปช่วยเธอดูเหมือนว่า ตัวเธอจะดูแบบเรียกว่ายังไงดี ดูหวานขึ้นกว่าเดิม จากที่ปกติก็หวานอยู่แล้วน่ะครับ
ผมบอกคร๊าบกลับไปที่ศาลาก่อนมั้ยครับ เดี๋ยวคุณเคย์สงสัยว่าหายไปไหนนะ รุกะเธอยิ้มแล้วบอกอื้มค่ะ แล้วก็เดินกลับไปส่วนผมก็ไม่กลับเข้าบ้านนะผมไม่อยากเจอพี่ทั้ง 3 คนแล้ว แล้วตั้งแต่ระเบิดเมื่อกี้ผมไม่เรียกว่าเจ๊เลยนะ ผมเรียก “ พี่ “ นั่นหมายความว่าผม ลำบากใจที่จะวางตัวสนิทสนมกับพวกเธอแล้วล่ะ
พี่จ๋าบอกผมเปลี่ยนไป ใช่ครับตอนนี้มันไม่เหมือนมหาวิทยาลัยที่ผมจะเครียดเรื่องหาเงินกับเรื่องเรียน ในชีวิตมหาวิทยาลัยผมเครียดแค่เรื่อง 2 เรื่องนี้จริงๆ แต่ว่าตอนมันไม่ใช่ไง ตอนนี้ผมเครียดทั้งเรื่องทำงาน เรื่องหาเงิน แล้วสารพัดเรื่องที่มันเข้ามาเหมือนให้แก้ปัญหาไปเรื่อยๆไม่รู้จบ ปัญหาเรื่องการหาเงินตอนเรียนของผมมันเล็กๆไปเลย
ตอนนั้นโดนแกล้งโดนแซวมันก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก เพราะมันก็ไม่ได้มีอะไรมากจริงๆ แต่ตอนนี้มันโดนกดดันหลายทางมากๆ ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ ถึงจะรู้ตัวว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดเพราะผมที่ไม่ยับยั้งชั่งใจในคืนนั้น แต่มันก็อยากจะพูดอยากจะระบายอะไรออกมาบ้าง
สามสาวผมก็ไม่กล้าเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังเพราะกลัวว่าพอได้ฟังแล้ว ผมจะเป็นคนเลวในสายตาของพวกเธอ ที่เป็นคนเอาไม่เลือก คนที่นับถือกับเป็นพี่เป็นน้องผมก็ยังทำแบบนั้นลงไปได้ ผมนี่เห็นแก่ตัวว่ะที่ไม่อยากเสียพวกเธอไปทั้งๆที่ไม่แสดงความจริงใจอะไรออกไปเลย
ดูเหมือนว่าตอนนี้มื้อเช้าจะจบลงแล้วล่ะครับ ที่ริมคลองก็มีอุปกรณ์ชงช้า กาต้มน้ำราคาแพงไว้คอยบริการน้ำชาให้คุณเคย์แบบไม่มีอั้น ผมเองก็คงไม่มีหน้าที่อะไรแล้วล่ะ รุกะเองก็อยู่กับพวกเขาไม่ออกมา คงจะคุยกันหลายๆเรื่องล่ะน่ะ ถ้าทั้งหมดเป็นไปตามที่รุกะเล่ามาก็แสดงว่า
ทีมงานญี่ปุ่นที่ผมต้องไปรับรองตามงานที่พี่แมนให้มาเมื่อ 3 ปีก่อนก็เป็นคณะของรุกะงั้นสิ่นะ ผมกลับไปนั่งที่ใต้ต้นกล้วย ซึ่งเวลาที่มีลมและเหมือนฝนจะตกแบบนี้แหละต้นกล้วยจะน่านั่งมากๆ ลมพัดใบกล้วยตวัดไปตวัดมา คือผมจะบอกอะไรให้ คุณจะได้กลิ่นของใบตองที่ตลาดสดก็สู้ไม่ได้
พอผ่านไปสักพักผมก็เดินไปทางศาลาท่าน้ำแต่ก็เห็นพี่หมิวนั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว เธอคุยอะไรกับพ่อและคนในวงนั้นไม่รู้แล้วก็ไหว้ ไหว้ ไหว้ แล้วก็เดินออกมาเลย ก็คงจะไปสังสรรค์มั้งนะพี่จ๋ามาทั้งที่ ก็คงจะมีแต่พวกไฮโซที่ผมเข้าไม่ถึงนั่นแหละ ผมมันแค่สามัญชนเดินดินกินข้าวแกงครับ
ผมเดินเข้าไปอีกทางก็เจอพี่จ๋าเขายืนอยู่ก็คงจะรอพี่หมิวนั่นแหละ พอเธอเห็นก็เดินมาถามเป็นยังไงมั่งมือเป็นยังไงมั่ง ผมก็ตอบไปว่าก็สมควรแล้วครับที่เป็นแบบนี้ แล้วผมก็เดินผ่านไปพี่จ๋าก็บอกว่า เชื่อใจเจ๊มั้ย ผมก็ไม่ตอบนะผมให้คำตอบตอนนี้อะไรไม่ได้
ตลอดมาผมพูดได้เต็มปากว่าพี่จ๋านั้นเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก รองมาจากแม่ผมเลยนะแต่เมื่อกี้ความรักความเคารพของผมพี่จ๋าทำลายมันทิ้งไปแล้ว จนนั่งอยู่คนเดียวในสวนนั่นแหละจนมั่นใจว่าพี่หมิวพี่จ๋าพี่เตยกลับไปหมดแล้ว นี่เหรองานฉลองที่พี่หมิวบอก ฉลองด้วยการทำให้ผมสติแตกแบบนี้งั้นเหรอ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน