แวะก่อนอ่าน!!! เห็นหลายคนถามว่าเรื่องนี้กับดอนป่าเรื่องเดียวกันไหม ต่อกันไหม หรือเป็นจุดเริ่มต้น ผมขอบอกว่าไม่เกี่ยวครับ เรื่องนี้เป็นการเขียนใหม่หรือง่ายๆก็เป็นอีกจักวารครับ ไม่มีอะไรเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าก่อนหน้าหรือหลัง แต่เป็นการเริ่ม1ใหม่ของตัวระครในเรื่องครับ
ส่วนไครที่ตามดอนป่าก็รอไปก่อนนะครับ ผมมีแผนว่าจะรีงานทั้งหมดของผม ทั้งดอนป่า รักร้าย นิทรา ขึ้นเขียนบนดินครับ และจะคัดสำนวนใหม่หมด ค่อยๆเดินเรื่อง
แต่ขอประเดิมเรื่องแรกบนดินกับ บ้านดอนป่าให้จบก่อน แล้วจะคิดอีกที่ว่าจะรีเรื่องไหนก่อน เพราะแต่ละเรื่อง ผมทำเละมาก
เมื่อวสันต์กล่าวออกมาอย่างจริงจัง และเลือกที่จะตามบลูไปเป็นหมออาสาตามชนบท จึงทำให้น้องสาวอีกสองคนตกใจร้อง...?
“ห๊ะ...พี่สันว่าไงนะ...จะตามยายบลูไปจริงๆหรอ..”น้ำและเนตรต่างถามด้วยความตกใจ
“ใช่จ้า...พี่คิดว่าที่บลูพูดมามันก็ดีนะ...การที่ได้มอบโอกาสให้คนอื่นๆต่อมันเป็นสิ่งที่ดี...”วสันต์ตอบ
“ห๊ะ...นี่...ตอนนี้เราก็มีชีวิตที่ดีแล้วนะ..ดีกว่าตอนเป็นเด็กกำพร้าสะอีก...แล้วจะเอาตัวเองไปรำบากทำไม...อืมม~ใช่”น้ำและเนตรกล่าว
“พี่ว่าเราสองคนต้องมองมุมใหม่นะ...มันไม่ใช่การพาตัวเองไปลำบาก..แต่มันคือการแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ”วสันต์กล่าว
“ฮู๊ววว~จะให้มองยังไงก็พาตัวเองไปลำบากอะ…ชนบทนะคะ…ยุคนี้ไฟฟ้ามีกันรึยังเหอะ…อื๊มม…จริง…ขนาดจังหวัดรอบนอกยังไม่ค่อยทั่วถึงเลย…ยังไงชนบทก็คงไม่มี…”น้ำและเนตรกล่าว
“แต่เราว่าถ้าตั่งใจมันไม่จำเป็นเลยนะ..เพราะที่เราคิด…การเสียสละเล็กน้อย…แต่ได้ทำให้ชีวิตคนอีกหลายชีวิตได้มีความรู้…ได้รู้เท่าทันโลกพายนอกมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยนะ”บลูกล่าวกับน้ำและเนตร
“แกบ้าไปแล้วแน่ๆยายบลู!...บ้านนอกอย่างนั้นจะมีไครคิดจะไปอย่างแกละ…มีแกคนเดียวและที่บ้า..”เนตรกล่าวกับบลู
“อ๊ะงั้นเราละเนตร…มีแผนการเดินชีวิตหลังจากนี้ยังไง….”วสันต์เอ่ยถามน้องสาวเมื่อเห็นว่าเนตรนั้นยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดของบลูน้องอีกคน
“อื๊มมม~ไม่รู้อะ…แต่เนตรว่าเนตรไม่พาตัวเองไปลำบากแบบยายบลูแน่!..”เนตรกล่าวตอบวสันต์พี่ชาย
“อ๊าาา…แล้วทำไมเนตรไม่ลองคิดดูละว่ามันไม่ใช่การพาตัวเองไปลำบาก…เนตรลองคิดว่าตัวเองเป็นผู้ให้ดูสิ…แค่ช่วงเวลาไม่นานแต่ได้ให้ความรู้กับคนอื่นๆที่อยู่ชนบทได้มีความรู้อ่านออกเขียนได้ มันเป็นการมอบชีวิตที่ดีให้พวกเขาอีกรูปแบบนึงเลยนะ”วสันต์พยายามอธิบายให้เนตรฟัง
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…แต่….อื๊มมม…ยังไงก็พาตัวเองไปลำบากอยู่ดี..”เนตรกล่าวตอบวสันต์พี่ชาย
“โอยยย~ยายเนตรเอย….หัวแข็งจริงๆ..”วสันต์กล่าวพร้อมทำท่าติดตลก
“เอ้า….ก็เนตรเป็นอย่างนี้มาตั่งนานแล้วนะพี่…”น้ำเอยพร้อมกับหัวเราะจนทุกคนหัวเราะตาม
“อ๊ะ…งั้นยังไม่ต้องตัดสินใจกันหรอก…ไว้เรียนจบเมื่อไหร่…น้ำกับเนตรค่อยคิดอีกทีก็ได้…พี่บลูพี่คิดว่าคงตัดสินใจไปแล้ว…งั้นพี่คนนี้ก็จะไปเป็นเพื่อนละกัน…”วสันต์กล่าวพร้อมยิ้ม
แม้ตอนนี้ทั้งสี่คนจะยังมีแนวคิดที่แตกแยกกัน แต่อย่างน้อยๆก็มีวสันต์กับบลูที่คิดเมือนกัน ทั้งสี่คนที่เป็นพี่น้องกันอยู่ร่วมบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้ากันมาตั่งแต่เด็กจนโตย่อมรู้ใจกัน วสันต์ย่อมรู้ดีว่าไม่นานทั้งเนตรและน้ำจะต้องเปลียนใจเปลียนแนวคิด!
เมื่อคุยกันพักใหญ่อาหารที่สั่งก็เริ่มถูกเสริฟขึ้นโต๊ะ ทั่งสี่คนก็นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย จนถึงเวลาเกือบสองทุ่ม ทั้งสี่ก็ต้องแยกกันกลับห้อง โดยบลกับเนตรแยกไปหอพักของตนเองที่อยู่อีกแห่ง ส่วนวสันต์และน้ำก็แยกไปอยู่อีกแห่ง
“เอาละ…แยกกันตรงนี้นะจ๊ะสองสาว…กลับกันดีๆนะ…ไว้ว่างๆ…มากินข้าวกันอีกนะ…”วสันต์กล่าวกับเนตรและบลู
“จ้าพี่ชาย…พายายน้ำกลับดีๆนะ…”เนตรกล่าวก่อนจะเดินแยกจากวสันต์และน้ำไปอีกทางพร้อมกับบลู
“เอาละน้ำ…กลับกันเถอะเรา…”วสันต์หันมาพูดกับน้ำเมื่อน้องสาวสองคนเดินแยกไป
ทั้งน้ำและวสันต์ก็พากันกลับมาที่หอพักโดยทั่งสองคนพากันเดิน ระหว่างนั้นท้องฟ้าที่มืดสนิทก็เริ่มมีแสงสว่างวูบวาบไปทั่วท้องฟ้า เป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจาตก ทั้งสองคนจึงรีบเดินให้ถึงหอก่อนที่ฝนมันจาตก แต่ทว่าฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาหลังจากที่น้ำและวสันต์รีบเดินได้ไม่นาน
"อ๊า....ตกแล้ว....รีบวิ่งเลยจ๊ะน้ำ...."วสันต์กล่าวกับน้ำเมื่อฝนเริ่มตกลงมา
เมื่อฝนเริ่มตกลงมาวสันต์ก็จับมือของน้ำและเริ่มวิ่งฝ่าสายฝนไปยังหอพักทันที แม้อีกไม่ไกลก็จะถึงแต่เม็ดฝนนับล้านๆที่ตกกระหน่ำลงมา ก็ทำให้ทั้งสองคนที่วิ่งฝ่ามาจนถึงหอพักต่างเปลียกฝนไปทั้งตัว
"อู๊ยยย...ฝนบ้า....หนาวไปทั้งตัวเลยค่ะพี่สันต์...."
น้ำกล่าวกับวสันต์
"อืมม...พี่ก็หนาว...สงสัยพายุเข้าถึงได้ตกลงมาเร็วขนาดนี้...อือ...ปะ...ขึ้นไปเปลียนชุดกันดีกว่า...เดียวไม่สบายเอา...น้ำยังต้องไปเรียนอีกพรุ้งนี้.."วสันกล่าวก่อนจะจับมือของน้ำและพาเดินขึ้นบันไดไป
ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ที่หอของมหาลัยแต่อยู่หอนอกหรืออพาร์ทเม้นท์ห่องเช่า น้ำและวสันต์เช่าห้องอยู่ติดกัน เมื่อวสันต์พาน้ำขึ้นมาถึงหน้าห้อง ทั้งสองคนก็แยกกันเข้าห้องของตนเอง
"อือ...รีบไปอาบน้ำสะนะ....เดียวจะไม่สบาย...แล้วอย่ามัวไปนั่งเล่นจนลืมอาบน้ำละ..."วสันต์กล่าวบอกน้ำน้องสาว
"ค่ะพี่สันต์....เปียกขนาดนี้....น้ำคงไม่มัวไปนั่งเล่นอยู่หรอกค่ะ...น้ำจะรีบไปอาบน้ำเลยค่ะ..."น้ำกล่าวตอบวสันต์
แล้วทั้งสองก็เข้าห้องของตนเอง วสันต์เข้ามาก็ถอดเสื้อผ้าไปอาบน้ำชำระล้างน้ำฝนที่เปียกไปทั้วตัว ด้วยความที่วสันต์นั้นเรียนหมอ ก็ย่อมเป็นผู้ชายที่รักสะอาดเวลาที่เค้าใช้อาบน้ำจึงนานไม่แพ้ผู้หญิง พอเวลาผ่านไปเกือบๆชั่วโมงวสันก็ออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับกลิ่นหอมจากสบู่ วสันต์เดินออกมาใส่กางเกงขาสั้นพร้อมเสื้อยืดธรรมดาแล้วเตรียมจะปิดไฟนอน แต่ก่อนหน้านั้นก็มีเสียงเคาะผนังกำแพงตรงหัวนอน....ตึก...ตึก...พร้อมกับเสียงมือถือ...nokia3310...ของวสันต์ที่มีสายโทรเข้ามา?
"ฮัล....
"ฝันดีค่ะพี่ชาย...."เสียงกล่าวของน้ำผ่านมือถือที่วสันต์พึ่งกดรับและยังพูดไม่ทันจะจบ
"จ๊ะ...ฝันดีนะคนดีของพี่...."วสันต์กล่าวตอบน้ำน้องสาว
การโทรมาบอกฝันดีไม่ใช่ครั้งแรกที่น้ำโทรมา แต่มันเป็นการทำทุกๆวันของเธอและวสันต์ ตั่งแต่ก่อนที่ยังไม่มีมือถือ โดยน้ำจะมาเคาะประตูบอกวสันต์ทุกวันแล้วกลับไปนอน และการโทรวันนี้จึงเป็นเรื่องปกติของทั้งสองคน
หลังจากบอกฝันดีน้ำก็วางสายไป วสันต์ก็วางมือถือลงและขึ้นเตียงเตรียมจะนอน วสันต์คิดทบทวนเรื่องราวที่คุยกันที่ร้านอาหารเมื่อตอนเย็นอยู่พักนึงก็ใกล้จะหลับ ฝนที่ตกลงมาก็ยังตกไม่หยุด ในขณะนั้นเอง หน้าห้องของวสันต์ก็มีเงาวูบวาบอยู่ตรงหน้าประตู พร้อมเสียงเคาะ...ก๊อก...ก๊อก...วสันต์จึงลุกไปเปิดประตู
"ไครครับ....อ๊า...อ่าว...น้ำ...ทำไมยังไม่นอน...หือ...มีอะไรจ๊ะ...."วสันต์กล่าวถามก่อนจะพบว่าคนที่มาเคาะคือน้ำ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน