ผมกับไอ้เอกแยกย้ายกันกลับก่อนกลับเจ้าเอกย้ำกับผมอีกรอบ
“อย่าลืมตามที่ตกลงไว้นะครับคุณมีนไม่ขัดขวาง ไม่กีดกันผมนะครับคุณมีนปล่อยไหลไปตามเกมนะครับเดี๋ยวผมจัดการเอง”ไอ้เอกมันพูดอย่างมั่นใจ
“มั่นมากนะมึงเดี๋ยวกูจะรอดูมึงก็อย่าลืมสิ่งที่จะให้กูเหมือนกันแหละ”ไอ้เอกมันพยักหน้าแล้วเราก็แยกย้ายกัน
“วันนี้มีนกลับบ้านเร็วจัง”พอผมถึงบ้าน มิ้นก็โดดเข้ากอดผมต้อนรับกลับบ้าน
“ลูกค้าไม่ค่อยจู้จี้เท่าไหร่เลยกลับไวได้ ไม่ดีเหรอ?”ผมถามเมียกลับพอเธอได้ยินก็ยิ้มให้แล้วก็หอมแก้มผม
“ดีใจสิกลับไวไวอย่างงี้ทุกวันเลยนะ”
“แหม๋พอหลังสัมนามีวันหยุดยาวๆหน่อยก็ทำเป็นพูดนะปกติวันไหนทำงานที่รักกลับดึกกว่าเค้าอีก”ผมทำเป็นงอนกลับเมีย
เราสองคนคุยหยอกล้อกันไปกันมาทำให้ผมคลายความเครียดจากเรื่องไอ้เอกไปได้เยอะเลย
วันต่อมาผมเตรียมตัวไปทำงานแต่เช้าส่วนมิ้นเมียผมเธอยังคงหยุดอยู่วีคนี้เธอไม่รับงานเลยคงต้องการพักบ้างหลังจากสัมนามาทั้งอาทิตย์
“วันนี้กลับเร็วอีกนะ”มิ้นเธอมาอ้อนผมก่อนที่ผมจะไป“เดี๋ยวเย็นนี้ทำอะไรให้กินนะ”
ผมได้ยินแล้วก็รีบพยักหน้าเมียผมนานๆถึงจะเข้าครัวทำอาหารซักทีแต่ฝีมือเธอถือว่าระดับแนวหน้าเลยล่ะเย็นนี้ใครหน้าไหนลากผมไปต่อผมปฏิเสธหมดแน่นอน
“เดี๋ยวพอมีนกินข้าวแล้วค่อยให้เค้ากิน...”พอเธอพูดจบเมียผมก็เอามือมาขยำลูกมีนน้อยสองลูกพร้อมคลึงวนไปวนมาจนลูกมีนน้อยเกือบตื่นขึ้นมานะถ้าไม่ติดว่ามีประชุมแต่เช้านะ
เมียผมยังคงยั่วผม“หิวนะเนี่ย ไม่ได้กินกันมาตั้งอาทิตย์นึงแหนะเมื่อคืนมีนก็มัวแต่คุยเลยกันจนดึกเลยง่วงเลย”พร้อมส่งสายตาอ้อนผมจนผมจะทนไม่ไหวแล้วเนี่ย
“อย่าลืมกลับไวไวล่ะอย่าปล่อยให้เค้ารอนานล่ะ”เมียผมทิ้งท้ายแล้วไล่ให้ผมรีบไปทำงาน
ผมจำใจต้องออกมาทำงานพร้อมกระสุนเต็มเป้าจะว่าไปผมก็เหมือนกันนะไม่ได้เจอกันกับเมียตั้งหนึ่งอาทิตย์แถมตอนนั้นมีเรื่องให้คิดจนไม่ได้ปลดปล่อยให้ตัวเองมั้งเลยแล้ววันนี้ผมจะมีกระจิตกระใจทำงานไม๊เนี่ยตอนแรกกะจะไปปล่อยที่ทำงานหลังจากประชุมเสร็จแต่คิดไปคิดว่ารอค่อยจัดกับเมียไปเลยดีกว่าตอนเย็นนี้ถือว่าเป็นการเตรียมตัวก่อนมีบุตรฮ่าฮ่าฮ่า นี่ผมคิดอะไรของผมวะเนี่ยรีบไปทำงานดีกว่า
แต่กลายเป็นว่างานมันดันไม่เป็นไปตามแผนหลังประชุมเสร็จช่วงเช้าโทรศัพท์ผมก็ดังจนแทบสายไหม้บรรดาลูกค้าที่แคนเซิลนัดผมเมื่ออาทิตย์ก่อนดันเรียงหน้ากันมานัดวันนี้กันหมดกลายเป็นว่าหลังบ่ายโมงเป็นต้นไปผมมีนัดกับลูกค้าตั้ง 3คนที่ปวดหัวคือคนสุดท้ายดันเป็นการนัดคุยกันที่ร้านอาหารด้วยนั้นหมายความว่าแพลนที่มิ้นอุตสาห์ตั้งใจคงต้องพับเก็บไปก่อนผมเสียดายก็เสียดายแต่ก็จำใจยอมรับกับงานของตัวเองต้องกดโทรศัพท์ไปหาเมียสุดที่รักเพื่อบอกข่าวร้าย
“โห!!!จริงเหรอ”เมียผมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียผิดหวังยิ่งทำให้ผมเศร้าเข้าไปอีกผมรีบขอโทษเธออีกหลายรอบแต่ด้วยน่ารักของเมียผมและความเข้าอกเข้าใจ
“ไม่เป็นไรหรอกนะมีนไว้วันหลังก็ได้ยังดีที่มีนโทรมาบอกเค้าแต่เนิ่นๆเค้าเลยยังไม่ได้ออกไปซื้อของมาเตรียม”กลายเป็นเมียผมเองที่ปลอบผม
“แต่เย็นนี้กินข้าวแล้วคุยงานกับลูกค้าแล้วรีบกลับนะไม่เอาต่อ หรือติดลมจนดึกนะมีนไม่ได้กินข้าวฝีมือเค้าแต่เค้าไม่ยอมนะเค้าต้องได้กิน...(เมียผมลากเสียงยาวเว้นช่วงไปพักนึง)นะ...”เธอยังคงยั่วผมเล่นเพื่อคลายความเครียดให้ผมเพราะเมียผมก็เข้าใจว่ามันคืองาน
ผมรีบตอบตกลงสัญญากับมิ้นว่าจะรีบกลับไม่ปล่อยให้เธอต้องรอจนดึกแน่นอนแล้วผมก็วางสายไป
แต่ผมก็ลืมไปว่าลูกค้าที่ผมจะไปกินข้าวด้วยคือคุณโธมัส ชื่อฝรั่งแต่เป็นคนญี่ปุ่นผู้เป็นนักดื่มที่แท้ทรูซึ่งร้านที่เรานัดกันก็เป็นร้านอิซากายะแถมยังเป็นห้องส่วนตัวอีกแน่นอนว่าไม่มีทางที่คุณลูกค้าที่น่ารักท่านนี้จะไม่สั่งเครื่องดื่มมึนเมา
ลูกค้าสองท่านแรกผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไรผมดูนาฬิกาหกโมงครึ่งมิ้นก็เพิ่งโทรมาอีกรอบว่าอย่ากลับดึกนะเวลาที่นัดคุณโธมัสก็คือทุ่มนึงเอาวะ กินข้าว ดื่มนิดๆหน่อยไม่เกินสามทุ่มครึ่งออกถึงบ้านไม่เกินสี่ทุ่มจบปิ๊งจัดกับเมียแฮปปี้ผมแพลนเวลาได้อย่างดีดึกนิดๆไม่น่าเกลียดมิ้นเธอยังน่าจะให้อภัย
เมื่อผมวางแผนไว้อย่างดิบดีก็ถึงเวลาโชว์ผลงานสักทีเรื่องงานผมสามารถปิดการขายได้อย่างไม่มีปัญหาอยู่แล้วโดยใช้เวลาไปไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วก็ตามคาดคุณโธมัสถามผมว่าดื่มอะไรหน่อยไหมซึ่งคำว่าหน่อยนั้นถูกอินพุตดาต้าเข้าไปในหน่อยประมวลผลของคุณโธมัสว่าอินฟินิตี้นั้นแปลว่าคืนนี้แม่งนานแน่นอนผมดูนาฬิกายังไม่สองทุ่มจะให้ผมขอตัวตอนนี้ก็โครตน่าเกลียดเค้าซื้อของปุ๊ปแม่งชิ่งเลยก็ไม่ไหวสุดท้ายเลยตอบเค้าไปว่าได้หมดเลยครับ...
ผมนั่งดื่มคุยกับลูกค้าโดยที่เพ่งตั้งใจใช้สมาธิกับการผ่านไปของเวลา10 นาที20 นาที30 นาทีสองทุ่มครึ่งแล้วการที่เราใช้สมาธิตั้งใจกับเวลานี่มันก็ทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหมือนกันนะเพิ่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงเองผมคิดแต่การที่เราตั้งใจมากเกินไปมันก็เป็นข้อเสียเหมือนกันเพราะเราก็เสียสมาธิง่ายเช่นกันผมเผลอเพลินกับช่วงเวลาการดื่มจนลืมดูเวลาพอมาดูอีกทีชิปหายแล้วจะห้าทุ่มอยู่แล้วมิ้นเธอก็ไม่โทรมาตามเลยหรือว่างอนผมไปเรียบร้อยแล้ว
ผมรีบเปิดดูมือถือก็เห็นเธอแชทมาบอก
“เค้าเข้าใจนะว่ามีนต้องอยู่คุยกับลูกค้ายาว”
“ไม่ต้องห่วงนะเค้าไม่โกรธธดด”
“นอนนนก่อออนนนะะะ”
เอ๊ะทำไมมิ้นพิมพ์มาแปลกๆสงสัยง่วงเพราะผมโทรหาเธอก็ไม่รับสาย
ผมรีบขอตัวกลับกับลูกค้าแล้วใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับถึงบ้านผมรีบเข้าบ้านเดินขึ้นไปมิ้นที่ห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปอย่างเบาๆเพราะกลัวเมียตื่นห้องปิดไฟมืดแล้วเห็นมิ้นนอนขดตัวอยู่บนเตียงผมย่องเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำพื้นดูเปียกๆเหมือนมีคนเพิ่งใช้ไปไม่นานแต่ผมคงคิดมากไปเองแหละผมรีบอาบน้ำแล้วมาเข้านอนข้างๆมิ้นตอนผมขึ้นเตียงเมียผมขยับรู้สึกตัวหน่อยๆโดยเธอทักผมขึ้นมางัวเงียๆว่ากลับแล้วเหรอแล้วก็บอกกู๊ดไนท์ผมผมเลยเข้าไปนอนข้างๆกอดเมียบอกกู๊ดไนท์เบาๆจุ๊บที่ปากเธอแล้วผมก็ได้กลิ่นน้ำยาบ้วนปากเหมือนเพิ่งใช้กับรู้สึกว่าปากเมียผมมันอิ่มๆบวมๆตุ่ยๆไม่เหมือนทุกทีโดยตอนผมจุ๊บที่ปากเธอมิ้นสะดุ้งนิดๆเหมือนคนโดนของร้อนไม่รู้ว่าเพราะน้ำยาบ้วนปากที่ซื้อมาใหม่มันแรงไปรึเปล่า
วันต่อมาผมนึกได้ว่าทำไมเจ้าเอกมันเงียบๆไปหว่า...ผ่านมาวันสองวันละมันไม่ติดต่อผมมาเลยเลยลองโทรไปหามันดู ไม่รับสายผมอีกก่อนเข้าออฟฟิศเจ้าต้นเพื่อผมโทรมาหาผมพอดีหลังจากที่มันถามเรื่องธุระของมันเสร็จผมเลยถือโอกาสถามถึงญาติมันดู
“ไอ้เอกมันเป็นไงมั้งช่วงนี้มันดูเงียบๆกูก็ระวังตัวแจเลยตามที่มึงแนะนำ”ผมถามเจ้าต้น
“เออนั้นดิคงไม่มีไรแล้วมั้งตะกี้ก็เพิ่งออกมาจากบ้านมันเนี่ยแหละยังไม่ตื่นเลย สภาพเหมือนโดนดูดวิญญาณมาไม่รู้มันไปทำอะไรมาเลยดูป่วยอย่างนั้น”
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน