นอนละ ตัวอักษรเยอะนิดหน่อย จากตอนที่แล้ว รุกะเข้าไปนั่งใกล้เจ้าลิง
เราบอกแม๊ ! แม่ ! รุกะทำไรง่า แม่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรนะยังชงชาต่อไปเรื่อยๆแล้วบอกว่าก็คงนั่งพักนั่นแหละ นี่หมิวกลายเป็นคนขี้โวยวายตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยลูกหืม แม่เราก็ใจเย็นเกิ๊น เราก็เง้อออ นั่งใกล้กันเกินไปแล้วนะ เรารีบหยิบขนม หยิบอะไรได้ก็หยิบใส่ตะกร้าแล้วเดินออกไปก่อนเลย
หมิวไปก่อนนะคะแม่ แล้วเราก็เดินออกมาเลย พอมาถึงก็เห็นรุกะนางนั่งใกล้ๆโทนมาก มากกกก จนแทบจะสิงได้อยู่แล้วเนี่ย พอมาถึงนางก็ไม่ได้ขยับตัวอะไรเลยนะเหมือนว่าไม่ได้ตกใจที่เรามา นางมองเราแล้วยิ้มๆแล้วถามว่าคุณน้าไม่มาด้วยเหรอคะ นั่นไงถามจนเราจุกเลย
แต่โชคดีหน่อยที่พี่แจ๋วเดินมากับแม่ช่วยถือถ้วยชา กับ กาน้ำชามาด้วย มาถึงพี่แจ๋วก็วาง ๆ ๆ แล้วก็มองพร้อมบอกเอ้า ทำไมโทนมานอนตรงนี้ล่ะคะคุณท่าน แล้วพี่แจ๋วก็จะไปปลุกโทน แต่แม่ของเราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกแจ๋วให้นอนไปเถอะ พี่แจ๋วก็มองๆ ๆ แล้วก็เหมือนถามว่าจะดีเหรอคะ คุณท่านมีแขกแบบนี้แล้วโทนมานอนแบบนี้อีก
รุกะนางก็บอกว่าไม่เป็นอะไรให้เขานอนพักแบบนี้แหละ พี่แจ๋วก็ค่ะๆๆ แล้วก็ก้มหัวเดินไปทางโทนแล้วพูดว่าดูซิ๊เนี่ยไปซนอีท่าไหนมา ตาถึงเจ็บแบบนี้ แขนก็ต้องพยุงไว้ไปทำงานหรือไปรบคะน้องหมิวที่ปายน่ะ เนี่ยพี่แจ๋วแกงเราอีกแล้ว เราก็ทำหน้าบูดๆแล้วบอกไม่รู้ไม่รู้ไม่ชี้
พี่แจ๋วขยับๆๆ แขนให้โทนสองทีแล้วบอกงั้นแจ๋วขอตัวก่อนนะคะคุณท่านแล้วพี่แจ๋วก็เดินไป แม่เราก็บอกว่าเจ้าโทนเนี่ยน๊า ทำอะไรก็เกินตัวตลอด ห๊ะ ! แม่เรียกว่าอะไรนะ แม่เรียกว่าเจ้าโทน เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ แม่ คำว่าเจ้าน่ะ แม่จะใช้เรียกพี่แมนกับหมิวที่เป็นลูกไม่ใช่เหรอ แล้วไงถึงไปเรียกแบบนั้นล่ะ เง้ออ ลิง ลิงขโมยคาแลคเตอร์ไปอีกแล้ว แค่คำว่าลูกก็เยอะไปแล้วนะ เชอะแม่นะแม่
แล้วแม่เราก็บอกว่า หนูรุกะลองชิมชานี้ดูไหม แม่เราก็หยิบถ้วยแล้วรินเลยนะ แม่เราบอกว่าส่วนตัวแล้วแม่ชอบชาฝรั่งตัวนี้มากนะมันหอมแบบพิเศษมากๆ รุกะนางรับแบบงามเลยล่ะแล้วพอสูดกลิ่นเข้าไปนิดเดียวก็ถามว่า ใช่ชาคาโมมายลด์ไหมคะคุณน้า แม่เราบอกใช่จ้ะ เราหันมองหา! แค่ได้กลิ่นก็รู้เลยเหรอ
เราถามว่าแค่ดมกลิ่นก็รู้เลยเหรอคะ รุกะนางยิ้มๆแล้วยืนถ้วยชามาให้เราแล้วบอกว่า ลองสูดกลิ่นดูค่ะคุ้นๆมั้ย เรายื่นหน้าไปสูดควันร้อนๆจากถ้วย แล้วก็งืมคล้ายอะไรนะมันติดที่ริมฝีปากเนี่ย รุกะนางยิ้มแล้วบอกชาคาโมมายลด์จะมีกลิ่นคล้ายแอปเปิ้ลค่ะ ใช่ๆๆๆ แอปเปิ้ลเง้อติดที่ริมฝีปากพูดไม่ออก แม่เราก็บอกว่าเครียดๆมาได้ชาสักถ้วยก็ช่วยได้เยอะเลย
รุกะนางบอกว่าเหมือนกันเลยค่ะคุณน้าถ้าวันไหนเครียดได้ชาดีๆสักถ้วยจะเป็นอะไรที่ช่วยได้มากเลย ตอนนั้นแม่เราก็บอกนะว่าถ้าอยากได้ชาคาโมมายลด์เดี๋ยวให้เจ้าโทนพาไปซื้อก็ได้ เราก็หันมองถามว่าแม่แล้วโทนจะรู้เหรอว่าอยู่ตรงไหน แม่เราก็บอกนะว่าก็ชาถุงนี้เจ้าโทนซื้อมาให้แม่ เราตกใจเลยนะตอนนั้น รุกะก็ถามว่าเขาซื้อมาให้เหรอคะ
แม่เราก็บอกว่าจ้าหนูรุกะ คือตัวแม่เองก็ไม่ค่อยได้ออกไปเดินซุปเปอร์มาเก็ตเท่าไร จะไปก็ใกล้ๆบ้านไม่ได้ไปไกลมากนัก แต่เจ้าโทนก็ซื้อชาถุงนี้มาฝาก แม่เราพูดอีกว่า เจ้าโทนบอกเองว่าชาคาโมมายลด์น่าจะดีนะครับ ช่วยผ่อนคลายหลับสบายเลยล่ะ แล้วคือไรรู้ป่ะรู้กะนางยิ้มแบบ ยิ้มบ้ายิ้มบอ ยิ้มจนน่าหงุดหงิดทั้งๆที่นางก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
รุกะนางถามเราว่าทำไมโทนถึงมาทำงานที่นี่ได้ล่ะค่ะ เราก็พูดไปนะว่า หมิวเล่าให้ฟังแล้วนี่คะคุณรุกะ แต่รุกะนางส่ายหน้ายิ้มๆแล้วพูดว่า หมายถึงมาทำงานถึงในบ้านนี้ได้ เพราะปกติคุณพ่อจะบอกว่าคุณอากับคุณน้าจะไม่ค่อยให้พนักงานมาที่บ้าน เพราะไม่อยากให้เอาเรื่องงานเข้ามาที่บ้าน มันจะทำให้การพักผ่อนเสียบรรยากาศ
แม่เราจิบชาแล้วก็บอกว่า อาจจะเพราะโทนนั้นไม่ทำให้เสียบรรยากาศก็ได้ล่ะมั้ง แถมเวลาจะไปไหนมาไหนก็ไวเหมือนลม ไม่เคยอยู่ให้รู้สึกว่าอึดอัด แล้วตอนนั้นรุกะนางดูตั้งใจฟังนะ แม่เราบอกอีกว่าจริงๆแล้วโทนเข้ามาช่วยงานเจ้าแมนเรื่องเอกสาร แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่าสนิทกับทีมงานของเจ้าแมนเฉยๆเลย
แล้วรุกะนางก็ยิ้มๆแล้วก็พูดว่า นูระริเฮียง เราก็งงว่าอะไรคือนูระริเฮียง แม่เราก็หืมนูระริเฮียง อ้อจะว่าไปก็แทบจะเหมือนกันเลยนะ แล้วสองคนก็หัวเราะกันเบาๆแบบผู้ดีอังกฤษเลย เราเป็นเดียวที่ไม่รู้เหรอเนี่ย เราก็ถามว่าอะไรคือนูระริเฮียงคะแม่
แม่เรายิ้มๆแล้วก็จิบชาต่อไปนะ รุกะนางก็บอกว่า จริงๆแล้วนูระริเฮียง เป็นตำนานภูตผีของประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดของเธอ เราก็ถามว่าอ้าวแล้วเจ้าลิง เอ้ยไม่ๆ ๆ เราถามว่าแล้วโทนเหมือนยังไงอ่ะค่ะ รุกะนางบอกว่า ก็การชอบไปทางนั้นที ทางนู้นทีโดยที่คนอื่นไม่ทันรู้ตัวยังไงล่ะค่ะ จะว่าเหมือนคาไมทาจิก็ไม่ได้ เพราะคาไมทาจิชอบทำร้ายผู้คน แต่สำหรับคาคาชิซังที่เขากับคนอื่นได้ง่ายๆ
กลมกลืนไปซะเหมือนรู้จักกันมานานเหมาะแล้วล่ะค่ะที่จะบอกว่าเหมือนนูระริเฮียง แล้วกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ไปซ้ายทีขวาทีตลอด แล้วแม่เราก็หัวเราะออกมาเบาๆและบอกว่าใช่ๆๆๆ ตอนอยู่บ้านนะเผลอก็ไปตรงนั้น เผลอก็ไปตรงนี้แล้ว รุกะนางปิดปากหัวเราะแล้วพูดว่า อาจจะเพราะการก้าวขาที่แปลกๆก็ได้นะคะคุณน้า แม่เราก็บอกว่าแล้วหนูรุกะล่ะยังฝึกคิวโดกับไอคิโดอยู่ไหม เราหันมองห๊ะ! นอกจากโดๆอะไรนั่นยังมีไอคิโดอีกเหรอ คือไอคิโดเราพอจะรู้จักนะ
เพราะช่วงนั้นกำลังดังเลยในไทย รุกะนางบอกว่าตั้งแต่เรียนจบปี3 น่าจะหมายถึงม.6 นะ พอนางบอกว่าเรียนจบแล้วก็ไม่ได้ฝึกซ้อมจริงๆจังๆแล้วค่ะ มีออกกำลังกายเบาๆบ้างแค่นั้นเอง อ๋อแบบนี้ซินะ นางถึงมองออกว่าไอ้เจ้าลิงมโมนนั่นเป็นนักกีฬาเหมือนกันเชอะ
แล้วตอนนั้นคือเจ้าโทนก็ทำท่าเหมือนจะขยับ ๆ ๆ นะ แล้วเป็นไงรู้มะทุกคน รุกะนางรีบเขยิบไปนั่งฝั่งซ้ายของเจ้าโทนเฉยเลย เราก็งงว่าทำไปนั่งฝั่งนั้น แล้วนางก็ช่วยพยุงเจ้าโทนมานั่งนะ พอเจ้าโทนมานั่งก็ตกใจว่าทำไมเรากับแม่อยู่ตรงนี้ เจ้าโทนจะยกมือไหว้ แต่ก็ชะงักแล้วจับข้อศอกของตัวเอง
แม่เราบอก โทนๆๆๆ ไม่ต้องไหว้หรอกลูก ไม่ต้องขยับมาก เจ้าโทนก็ชะงักแต่ก็พยายามจะลุกนะ รุกะนางก็พยุงขึ้นมาเบาๆ ช้าๆ แล้วเจ้าโทนก็พูดขอบคุณครับพี่แจ๋ว เดี๋ยวๆเจ้าลิงเอ๋อคนข้างๆไม่ใช่พี่แจ๋วนะ แต่รุกะนางทำไงรู้มะ นางทำท่าจุ๊ปากเหมือนจะบอกว่าอย่าบอก ๆ ๆ ๆ
เราก็งงว่าทำไม แล้วตอนนั้นแม่เราก็พูดชิงตัดหน้าก่อนเลยนะ แม่เราถามว่าโทนเป็นไงมั่งลูก โอ๊ยย ลูกอีกแล้ว แม่ ! ลูกสาวคนสวยของแม่อยู่นี่นะไอ้เจ้าลิงทโมนมาแย่งแม่ไปอีกแล้ว โทนบอกไม่เป็นอะไรแล้วครับ แต่พอพูดได้นิดเดียวโทนก็สะดุ้งแล้วจับที่ข้อศอกและโปะมือไปที่บริเวณหัวฝั่งข้างซ้ายที่เจ็บ แม่เราบอกว่าเจ็บก็บอกว่าเจ็บซิ่ เป็นอะไรชอบเก็บไว้คนเดียวจริงๆเลยน้า แม่เราก็พูดว่าไหนบอกแม่มาตรงๆว่าไปทำอะไรมา
เจ้าโทนก็เงียบ แล้วรุกะนางก็เหมือนช่วยขยับ ๆ ๆ ที่คล้องแขนให้ โทนก็ขยับเหมือนจะสบายขึ้นแล้วบอกว่าขอบคุณครับพี่แจ๋ว แม่ก็บอกว่าเล่ามา โทนก็บอกไปว่า.. ผมแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้นเองครับ ฝรั่งคนนั้นทำท่าเหมือนจะทำร้ายเลขาของผู้บริหารญี่ปุ่นคนนั้นนี่ครับ
เรากับแม่มองหน้ากันแล้วมองไปที่รุกะที่นั่งติดกับโทนอยู่ เลขาเหรอ เราพูดขึ้นมา แล้วโทนก็บอกว่า... ก็เลขาไม่ใช่เหรอครับ ก็เห็นคอยพูดคอยแปลภาษาให้คุณหมิวตลอด เรามองหน้าแล้วถามว่าใครคุณเรียกให้มันดีๆหน่อย โทนก็มองหน้าแล้วบอกครับพี่หมิว แม่เราก็บอกว่านั่นน่ะไม่ใช่เลขานั่นเป็นลูกสาวนะ
โทนก็ครับ แล้วทำหน้ามึนๆเหมือนคนชินชากับเรื่องพวกนี้ โทนพูดแค่ครับแค่นั้นจริงๆเราก็ถามว่านี่ไอ้ลิงบ้า คือตอนนั้นเราเรียกว่าลิงบ้าจริงๆนะ เราถามว่าไอ้ลิงบ้านี่ช่วยทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครงั้นเลยเหรอ โทนก็บอกว่าจะใครก็ต้องช่วยทั้งนั้นแหละครับ จะให้ยืนมองผู้หญิงโดนผลักกระแทกกำแพงแบบนั้นเหรอ จะลูกจ้าง หรือ ลูกสาว ก็เป็นผู้หญิงอยู่ดีไม่ใช่เหรอ
ฟังแบบนี้ก็ไม่แปลกเนอะว่าเราจะชอบอีลิงนี่ เอ้ยไม่ใช่ๆ ๆ ไม่ได้ชอบ ไม่ๆ ๆๆ แค่รู้สึกว่าเท่แค่นั้นเอง โอ๊ยย ไม่ใช่ ๆๆ ๆ ไม่ใช่แล้ว แล้วคืออะไรรู้ป่ะรุกะนางที่นั่งข้างๆอ่ะคือยิ้ม ยิ้มไม่หุบเลย ยิ้มแบบรู้เลยว่าคงรู้สึกอะไรพิเศษๆกับอีลิงหงอกหน้ามึนแน่ๆ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน